[นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1)

Now you are reading [นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ Chapter 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เฮ่อฉางตี้ลุกยืนขึ้นและเปิดประตูทันที เมื่อก้าวออกจากเรือนก็เห็นชายวัยกลางคนในชุดพ่อค้ายืนอยู่กลางที่โล่งแจ้ง บนหลังมีถุงใบใหญ่

        เมื่อเฮ่อฉางตี้รับของจากเขาแล้ว ชายผู้นั้นก็คารวะก่อนจากไป

        ไหลเยว่เห็นผู้เป็นนายดูคล้ายเหม่อลอยไปและไม่ยอมเปิดถุงเสียที เขาจึงช่วยเตือน “คุณชายขอรับ รีบเปิดดูข้างในกันเถอะขอรับ!”

        เฮ่อฉางตี้เดินกลับเข้าเรือนและวางถุงลงบนโต๊ะ เขาคลายเชือกที่มัดปากถุงอย่างระมัดระวังแล้วเปิดออก 

        ในถุงมีของอยู่เต็มปรี่ ด้านบนสุดทำจากผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ชุดเหล่านี้มิใช่เป็นชุดคลุมยาวดังที่ขุนนางเมืองหลวงนิยมใส่กัน ทว่ากลับสั้นและทำจากผ้าธรรมดา ชุดตัวนอกมีเพียงชุดเดียวเป็นชุดที่แบ่งออกเป็นสองชิ้น ส่วนชุดตัวในมีมากกว่าชุดตัวนอกหลายตัว ทั้งยังมีถุงเท้าที่ทำจากของคุณภาพสูง นอกจากนั้นยังมีรองเท้าหุ้มส้นหนังกวางคู่หนึ่ง เหมาะสมยิ่งกับอากาศเช่นนี้ เพราะหนังกวางทั้งแข็งแรง ทั้งกันน้ำ

        ดวงตาเฮ่อซานหลางเปล่งประกายยามมองของเหล่านั้น

        ไหลเยว่มองผู้เป็นนายที่กำลังดูเสื้อผ้าด้วยความดีใจ เขาเอ่ยชื่นชม “นายหญิงสามรอบคอบนัก ของที่ส่งมาล้วนแต่เป็นของที่คุณชายต้องการที่สุดในยามนี้ทั้งสิ้น”

        ในโลกปัจจุบัน ฉู่เหลียนเป็นนักเดินทางแบกเป้เพียงใบเดียวท่องเที่ยวไปทั่วโลก ย่อมต้องรู้ว่าเวลาเดินทางเข้าป่า สิ่งใดสำคัญที่สุด แม้ในตอนแรกจะสั่งให้กุ้ยหมัวมัวและฉีเยี่ยนจัดของให้ แต่นางก็ยังตรวจสอบของเหล่านั้นอีกครั้งและเอาของไม่จำเป็น เช่น ชุดคลุมยาว พัด หยกเครื่องรางออก แล้วเปลี่ยนเป็นถุงเท้า ชุดชั้นใน ถุงมือ และอื่น ๆ แทน

        นายบ่าวคู่นี้ลอบจากมาด้วยความเร่งร้อน จึงไม่ได้นำสิ่งของติดตัวมามากนัก รองเท้าที่เฮ่อฉางตี้สวมใส่อยู่ ยามนี้ก็เริ่มมีรอยขาดหลายแห่งแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนคู่ใหม่พอดี

        ทั้งยังมีจดหมายเบียดอยู่กับเสื้อผ้าด้านใน เฮ่อฉางตี้ดึงกระดาษบอบบางออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อไหลเยว่เห็นซองจดหมายที่ใหญ่เป็นพิเศษด้านใน เขาก็อุทานเสียงดัง “นายหญิงสามเขียนจดหมายมาหนาเหลือเกิน!” กล่าวจบ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างคนโง่งมให้แก่ผู้เป็นนาย

        เฮ่อซานหลางมองไหลเยว่ด้วยหางตาและไม่ได้เปิดซองจดหมายของฉู่เหลียนต่อหน้าบ่าว ทว่ากลับวางไว้อีกด้านหนึ่งอย่างระมัดระวัง

        ภายในถุงยังมีกล่องเล็ก ๆ อยู่อีก

        เฮ่อฉางตี้ดึงกล่องขึ้นมาเปิด ภายในมีน้ำเต้าไหเล็ก ๆ อยู่หลายใบ และถุงผ้าอีกหลายถุง เขาเห็นว่าแปลกนัก จึงดึงเอาน้ำเต้าขึ้นมาเปิดออก ทันใดนั้น กลิ่นสดชื่นก็ลอยฟุ้งไปในอากาศ

        จมูกไหลเยว่เฉียบคมยิ่ง ยามปกติเขาก็ร่ำสุรามากมายกับคุณชายอยู่แล้ว ยามนี้อยู่ในที่กันดารมิได้แตะสุราสักจิบ ทันทีที่ได้กลิ่นสุรา ดวงตาก็เปล่งประกาย

        “คุณชาย นี่…นี่คือสุรา”

        ดวงตาเฮ่อซานหลางทอแสงวาบ เขารีบปิดฝาน้ำเต้าทันที และวางไว้ด้านที่ไหลเยว่เอื้อมไม่ถึง คล้ายกับปกป้องลูกไก่ตัวน้อยจากหมาป่าดุร้าย…

        จากนั้น เฮ่อซานหลางจงใจทำท่าทีใจเย็นยามเปิดถุงผ้าที่ดูงดงามที่สุด เมื่อถุงสีฟ้าถูกเปิดออก กลิ่นหอมน่าอร่อยผสมเครื่องเทศก็ลอยฟุ้งอีกครั้ง

        เฮ่อซานหลางมองถุงใบนั้นจนเหม่อลอยไปชั่วครู่

        ไหลเยว่แทบจะตายเพราะความสงสัย เขาขยับกายเข้าใกล้คุณชายของตน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง “คุณชาย ในถุงนั้นเป็นอะไรหรือขอรับ ใช่อาหารหรือไม่ขอรับ?”

        เฮ่อฉางตี้ถูกกระชากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยถ้อยคำของไหลเยว่ มุมปากของเขากระตุก ก่อนจะมองไปที่ถุงเหล่านั้น และเลือกใบที่เล็กที่สุดออกมาใบหนึ่ง สีหน้าฉายชัดถึงความไม่เต็มใจ ทว่าก็โยนส่งไปให้ไหลเยว่ ก่อนจะเก็บรวบทั้งหมดที่เหลือพร้อมของฝากกลับเข้าห้องของตนไป

        ไหลเยว่เป็นคนไม่เรื่องมาก เมื่อได้รับถุงผ้ามา เขาก็ไม่รั้งรอรีบเปิดดูทันที เขาเดินไปยังประตูและใช้แสงสลัวยามเย็นเพื่อมองของข้างใน ก่อนจะสูดดมเข้าไปเต็มปอด เมื่อแน่ใจว่าเป็นถุงใส่เนื้อตากแห้ง เขาก็ดีใจเหลือประมาณ! รีบหยิบของในถุงขึ้นมากัดคำหนึ่งทันที และเคี้ยวด้วยความเร็วสูงสุด รสชาติดีเสียจนน้ำตาแทบไหล

        เฮ่อฉางตี้ที่ใช้เนื้อแห้งเพียงถุงหนึ่งก็สามารถขับไล่ไหลเยว่จอมตะกละไปได้แล้ว ความสงบสุขจึงกลับมาเยือนเขาอีกครา

        เขาวางถุงของว่างอย่างระมัดระวังข้างหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ ดึงเอาจดหมายออกมา

        เขาอ่านจดหมายจากเฮ่อเหล่าไท่จวินและพี่ใหญ่เฮ่อฉางฉีก่อน จากนั้นตามด้วยจดหมายของจิ่งอันป๋อฮูหยิน และจากจิ่นอ๋องเพื่อนรักของตน

        เห็นว่าทั้งครอบครัวต่างพากันยกย่องชื่นชมฉู่เหลียน คราแรก เฮ่อฉางตี้มิได้เหยียดหยัน เขากลับกำจดหมายแน่น ลดสายตาลง เม้มปาก คล้ายหลุดลอยไปในห้วงความคิด

        เหม่อลอยไปได้ครู่ใหญ่ เฮ่อฉางตี้ก็วางจดหมายจากครอบครัวลงทางหนึ่ง และเปิดอ่านจดหมายจากจิ่นอ๋อง

        ทว่า ทันทีที่เขาอ่านจดหมายจำนวนสองหน้าจากจิ่นอ๋อง ความรู้สึกผิดและความสับสนที่มีอยู่ก่อนหน้าก็จางหายไปในอากาศโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ร่องรอย!

        ฉู่เหลียน! สตรีแพศยานั่น! นางกล้าดีอย่างไร!

        เช่นนั้นก็เป็นความจริง… เคลื่อนย้ายขุนเขา แม่น้ำย่อมง่ายกว่าเปลี่ยนสันดานคน!

        เขาใจอ่อนเกินไป คิดว่านางจะเป็นคนใหม่เพียงเพราะมีบางสิ่งที่ต่างจากชาติก่อนเล็กน้อย แต่ใครจะคาดว่า…ฮึ่ม! เสือร้ายย่อมไม่เปลี่ยนจุดล่า!

        เซียวป๋อเจี้ยน ฉู่เหลียน…วันหนึ่ง…เขาจะให้คนคู่นี้ได้ชดใช้!

        ยามที่เฮ่อซานหลางฟื้นจากความเกลียดชังที่ครอบงำ จดหมายจากจิ่นอ๋องในมือก็ถูกขยำแน่นจนกลายเป็นลูกกลม ๆ  ดวงตาของเขามืดครึ้ม รังสีรอบกายกลับเปลี่ยนเป็นเย็นชา

        เฮ่อซานหลางมองต่ำลงไปยังซองหนังใส่จดหมายใบใหญ่บนโต๊ะ ยามนี้สายตากลับกลายเป็นเยาะหยันแทนที่ความอบอุ่นใจ

        เสียงแค่นหัวเราะเย็นชาเล็ดลอดจากริมฝีปาก

        เฮ่อซานหลางฉีกกระชากซองจดหมายจนขาดจากกันด้วยนิ้วเรียวยาว แม้ใบหน้ายังคงเย็นชา ทว่าปลายนิ้วกลับสั่นสะท้านสะท้อนถึงความรู้สึกในใจที่แท้จริง

        ใจเขายามนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แม้มือยังคงเคลื่อนไหวเปิดซองจดหมายอยู่ก็ตาม เขาดึงเอากระดาษปึกหนาออกมาแม้ใจจะไม่อยากทำ

        ชาติที่แล้ว สตรีสารเลวผู้นั้นไม่เคยเขียนจดหมายถึงเขาแม้แต่ตัวอักษรเดียว เขาจึงไม่เคยเห็นลายมือของนาง ด้วยเหตุนี้จึงอาจเดาได้ว่าเขา ผู้เป็นสามีที่ถูกต้องของนางกลับไม่เคยมีที่อยู่ในใจนางเลยแม้แต่น้อย

        เมื่อเปิดจดหมายออกและเห็นภาพวาดง่าย ๆ บนหน้าแรก เฮ่อซานหลางนิ่งงันไป

        ดวงตายาวรีคู่นั้นหรี่ลงด้วยความหงุดหงิด เขาพลิกกระดาษดูอีกหลายหน้าเร็ว ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นภาพวาด! ทุกหน้าเลย! ไม่มีตัวอักษรเขียนมาแม้แต่ตัวเดียว!

        แม้จะเป็นภาพวาดง่าย ๆ ทว่าฉากเหตุการณ์อันมีชีวิตชีวากลับถ่ายทอดออกมาได้เพียงตวัดพู่กันไม่กี่ที ทว่าแม้ภาพเหล่านี้จะดูไร้เดียงสาเพียงใด เฮ่อซานหลางก็ไม่อาจข่มกลั้นความเกรี้ยวกราดที่พลุ่งพล่านในอกลงได้

        เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะจนกระดาษพลิกหน้าไปหลายหน้า

        เฮ่อซานหลางรู้สึกคล้ายว่าจดหมายที่เขาส่งไปยั่วยุฉู่เหลียนจะไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย ความโมโหก่อตัวขึ้นในอก เขาลุกขึ้นเดินรอบห้อง พยายามข่มกลั้นความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจ

        ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดเฮ่อซานหลางก็ใจเย็นลงมากทีเดียว

        เขากลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง เมื่อสายตาเห็นภาพวาดปึกใหญ่ เฮ่อซานหลางก็แค่นเสียงเย้ยหยัน

        ไม่ได้เจอกันหลายเดือน สตรีแพศยาผู้นี้แสดงได้ดีขึ้นทุกที ภาพวาดปึกหนึ่งกลับทำให้ทั้งครอบครัวพากันชื่นชมนาง คนที่บ้านคงคิดว่านางเขียนจดหมายหลายพันตัวอักษร ลึกล้ำไม่สิ้นสุดดังมหาสมุทร หรือเขียนราวกับอยากจะส่งร่างของตนตามมาอยู่ที่นี่ด้วยกระมัง หากเขามิได้เปิดมันออกดูด้วยตาตัวเอง บางทีเขาคงถูกสตรีร้ายกาจผู้นี้หลอกลวงด้วยเช่นกัน

         

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1)

Now you are reading [นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ Chapter 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เฮ่อฉางตี้ลุกยืนขึ้นและเปิดประตูทันที เมื่อก้าวออกจากเรือนก็เห็นชายวัยกลางคนในชุดพ่อค้ายืนอยู่กลางที่โล่งแจ้ง บนหลังมีถุงใบใหญ่

        เมื่อเฮ่อฉางตี้รับของจากเขาแล้ว ชายผู้นั้นก็คารวะก่อนจากไป

        ไหลเยว่เห็นผู้เป็นนายดูคล้ายเหม่อลอยไปและไม่ยอมเปิดถุงเสียที เขาจึงช่วยเตือน “คุณชายขอรับ รีบเปิดดูข้างในกันเถอะขอรับ!”

        เฮ่อฉางตี้เดินกลับเข้าเรือนและวางถุงลงบนโต๊ะ เขาคลายเชือกที่มัดปากถุงอย่างระมัดระวังแล้วเปิดออก 

        ในถุงมีของอยู่เต็มปรี่ ด้านบนสุดทำจากผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ชุดเหล่านี้มิใช่เป็นชุดคลุมยาวดังที่ขุนนางเมืองหลวงนิยมใส่กัน ทว่ากลับสั้นและทำจากผ้าธรรมดา ชุดตัวนอกมีเพียงชุดเดียวเป็นชุดที่แบ่งออกเป็นสองชิ้น ส่วนชุดตัวในมีมากกว่าชุดตัวนอกหลายตัว ทั้งยังมีถุงเท้าที่ทำจากของคุณภาพสูง นอกจากนั้นยังมีรองเท้าหุ้มส้นหนังกวางคู่หนึ่ง เหมาะสมยิ่งกับอากาศเช่นนี้ เพราะหนังกวางทั้งแข็งแรง ทั้งกันน้ำ

        ดวงตาเฮ่อซานหลางเปล่งประกายยามมองของเหล่านั้น

        ไหลเยว่มองผู้เป็นนายที่กำลังดูเสื้อผ้าด้วยความดีใจ เขาเอ่ยชื่นชม “นายหญิงสามรอบคอบนัก ของที่ส่งมาล้วนแต่เป็นของที่คุณชายต้องการที่สุดในยามนี้ทั้งสิ้น”

        ในโลกปัจจุบัน ฉู่เหลียนเป็นนักเดินทางแบกเป้เพียงใบเดียวท่องเที่ยวไปทั่วโลก ย่อมต้องรู้ว่าเวลาเดินทางเข้าป่า สิ่งใดสำคัญที่สุด แม้ในตอนแรกจะสั่งให้กุ้ยหมัวมัวและฉีเยี่ยนจัดของให้ แต่นางก็ยังตรวจสอบของเหล่านั้นอีกครั้งและเอาของไม่จำเป็น เช่น ชุดคลุมยาว พัด หยกเครื่องรางออก แล้วเปลี่ยนเป็นถุงเท้า ชุดชั้นใน ถุงมือ และอื่น ๆ แทน

        นายบ่าวคู่นี้ลอบจากมาด้วยความเร่งร้อน จึงไม่ได้นำสิ่งของติดตัวมามากนัก รองเท้าที่เฮ่อฉางตี้สวมใส่อยู่ ยามนี้ก็เริ่มมีรอยขาดหลายแห่งแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนคู่ใหม่พอดี

        ทั้งยังมีจดหมายเบียดอยู่กับเสื้อผ้าด้านใน เฮ่อฉางตี้ดึงกระดาษบอบบางออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อไหลเยว่เห็นซองจดหมายที่ใหญ่เป็นพิเศษด้านใน เขาก็อุทานเสียงดัง “นายหญิงสามเขียนจดหมายมาหนาเหลือเกิน!” กล่าวจบ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างคนโง่งมให้แก่ผู้เป็นนาย

        เฮ่อซานหลางมองไหลเยว่ด้วยหางตาและไม่ได้เปิดซองจดหมายของฉู่เหลียนต่อหน้าบ่าว ทว่ากลับวางไว้อีกด้านหนึ่งอย่างระมัดระวัง

        ภายในถุงยังมีกล่องเล็ก ๆ อยู่อีก

        เฮ่อฉางตี้ดึงกล่องขึ้นมาเปิด ภายในมีน้ำเต้าไหเล็ก ๆ อยู่หลายใบ และถุงผ้าอีกหลายถุง เขาเห็นว่าแปลกนัก จึงดึงเอาน้ำเต้าขึ้นมาเปิดออก ทันใดนั้น กลิ่นสดชื่นก็ลอยฟุ้งไปในอากาศ

        จมูกไหลเยว่เฉียบคมยิ่ง ยามปกติเขาก็ร่ำสุรามากมายกับคุณชายอยู่แล้ว ยามนี้อยู่ในที่กันดารมิได้แตะสุราสักจิบ ทันทีที่ได้กลิ่นสุรา ดวงตาก็เปล่งประกาย

        “คุณชาย นี่…นี่คือสุรา”

        ดวงตาเฮ่อซานหลางทอแสงวาบ เขารีบปิดฝาน้ำเต้าทันที และวางไว้ด้านที่ไหลเยว่เอื้อมไม่ถึง คล้ายกับปกป้องลูกไก่ตัวน้อยจากหมาป่าดุร้าย…

        จากนั้น เฮ่อซานหลางจงใจทำท่าทีใจเย็นยามเปิดถุงผ้าที่ดูงดงามที่สุด เมื่อถุงสีฟ้าถูกเปิดออก กลิ่นหอมน่าอร่อยผสมเครื่องเทศก็ลอยฟุ้งอีกครั้ง

        เฮ่อซานหลางมองถุงใบนั้นจนเหม่อลอยไปชั่วครู่

        ไหลเยว่แทบจะตายเพราะความสงสัย เขาขยับกายเข้าใกล้คุณชายของตน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง “คุณชาย ในถุงนั้นเป็นอะไรหรือขอรับ ใช่อาหารหรือไม่ขอรับ?”

        เฮ่อฉางตี้ถูกกระชากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยถ้อยคำของไหลเยว่ มุมปากของเขากระตุก ก่อนจะมองไปที่ถุงเหล่านั้น และเลือกใบที่เล็กที่สุดออกมาใบหนึ่ง สีหน้าฉายชัดถึงความไม่เต็มใจ ทว่าก็โยนส่งไปให้ไหลเยว่ ก่อนจะเก็บรวบทั้งหมดที่เหลือพร้อมของฝากกลับเข้าห้องของตนไป

        ไหลเยว่เป็นคนไม่เรื่องมาก เมื่อได้รับถุงผ้ามา เขาก็ไม่รั้งรอรีบเปิดดูทันที เขาเดินไปยังประตูและใช้แสงสลัวยามเย็นเพื่อมองของข้างใน ก่อนจะสูดดมเข้าไปเต็มปอด เมื่อแน่ใจว่าเป็นถุงใส่เนื้อตากแห้ง เขาก็ดีใจเหลือประมาณ! รีบหยิบของในถุงขึ้นมากัดคำหนึ่งทันที และเคี้ยวด้วยความเร็วสูงสุด รสชาติดีเสียจนน้ำตาแทบไหล

        เฮ่อฉางตี้ที่ใช้เนื้อแห้งเพียงถุงหนึ่งก็สามารถขับไล่ไหลเยว่จอมตะกละไปได้แล้ว ความสงบสุขจึงกลับมาเยือนเขาอีกครา

        เขาวางถุงของว่างอย่างระมัดระวังข้างหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ ดึงเอาจดหมายออกมา

        เขาอ่านจดหมายจากเฮ่อเหล่าไท่จวินและพี่ใหญ่เฮ่อฉางฉีก่อน จากนั้นตามด้วยจดหมายของจิ่งอันป๋อฮูหยิน และจากจิ่นอ๋องเพื่อนรักของตน

        เห็นว่าทั้งครอบครัวต่างพากันยกย่องชื่นชมฉู่เหลียน คราแรก เฮ่อฉางตี้มิได้เหยียดหยัน เขากลับกำจดหมายแน่น ลดสายตาลง เม้มปาก คล้ายหลุดลอยไปในห้วงความคิด

        เหม่อลอยไปได้ครู่ใหญ่ เฮ่อฉางตี้ก็วางจดหมายจากครอบครัวลงทางหนึ่ง และเปิดอ่านจดหมายจากจิ่นอ๋อง

        ทว่า ทันทีที่เขาอ่านจดหมายจำนวนสองหน้าจากจิ่นอ๋อง ความรู้สึกผิดและความสับสนที่มีอยู่ก่อนหน้าก็จางหายไปในอากาศโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ร่องรอย!

        ฉู่เหลียน! สตรีแพศยานั่น! นางกล้าดีอย่างไร!

        เช่นนั้นก็เป็นความจริง… เคลื่อนย้ายขุนเขา แม่น้ำย่อมง่ายกว่าเปลี่ยนสันดานคน!

        เขาใจอ่อนเกินไป คิดว่านางจะเป็นคนใหม่เพียงเพราะมีบางสิ่งที่ต่างจากชาติก่อนเล็กน้อย แต่ใครจะคาดว่า…ฮึ่ม! เสือร้ายย่อมไม่เปลี่ยนจุดล่า!

        เซียวป๋อเจี้ยน ฉู่เหลียน…วันหนึ่ง…เขาจะให้คนคู่นี้ได้ชดใช้!

        ยามที่เฮ่อซานหลางฟื้นจากความเกลียดชังที่ครอบงำ จดหมายจากจิ่นอ๋องในมือก็ถูกขยำแน่นจนกลายเป็นลูกกลม ๆ  ดวงตาของเขามืดครึ้ม รังสีรอบกายกลับเปลี่ยนเป็นเย็นชา

        เฮ่อซานหลางมองต่ำลงไปยังซองหนังใส่จดหมายใบใหญ่บนโต๊ะ ยามนี้สายตากลับกลายเป็นเยาะหยันแทนที่ความอบอุ่นใจ

        เสียงแค่นหัวเราะเย็นชาเล็ดลอดจากริมฝีปาก

        เฮ่อซานหลางฉีกกระชากซองจดหมายจนขาดจากกันด้วยนิ้วเรียวยาว แม้ใบหน้ายังคงเย็นชา ทว่าปลายนิ้วกลับสั่นสะท้านสะท้อนถึงความรู้สึกในใจที่แท้จริง

        ใจเขายามนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แม้มือยังคงเคลื่อนไหวเปิดซองจดหมายอยู่ก็ตาม เขาดึงเอากระดาษปึกหนาออกมาแม้ใจจะไม่อยากทำ

        ชาติที่แล้ว สตรีสารเลวผู้นั้นไม่เคยเขียนจดหมายถึงเขาแม้แต่ตัวอักษรเดียว เขาจึงไม่เคยเห็นลายมือของนาง ด้วยเหตุนี้จึงอาจเดาได้ว่าเขา ผู้เป็นสามีที่ถูกต้องของนางกลับไม่เคยมีที่อยู่ในใจนางเลยแม้แต่น้อย

        เมื่อเปิดจดหมายออกและเห็นภาพวาดง่าย ๆ บนหน้าแรก เฮ่อซานหลางนิ่งงันไป

        ดวงตายาวรีคู่นั้นหรี่ลงด้วยความหงุดหงิด เขาพลิกกระดาษดูอีกหลายหน้าเร็ว ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นภาพวาด! ทุกหน้าเลย! ไม่มีตัวอักษรเขียนมาแม้แต่ตัวเดียว!

        แม้จะเป็นภาพวาดง่าย ๆ ทว่าฉากเหตุการณ์อันมีชีวิตชีวากลับถ่ายทอดออกมาได้เพียงตวัดพู่กันไม่กี่ที ทว่าแม้ภาพเหล่านี้จะดูไร้เดียงสาเพียงใด เฮ่อซานหลางก็ไม่อาจข่มกลั้นความเกรี้ยวกราดที่พลุ่งพล่านในอกลงได้

        เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะจนกระดาษพลิกหน้าไปหลายหน้า

        เฮ่อซานหลางรู้สึกคล้ายว่าจดหมายที่เขาส่งไปยั่วยุฉู่เหลียนจะไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย ความโมโหก่อตัวขึ้นในอก เขาลุกขึ้นเดินรอบห้อง พยายามข่มกลั้นความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจ

        ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดเฮ่อซานหลางก็ใจเย็นลงมากทีเดียว

        เขากลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง เมื่อสายตาเห็นภาพวาดปึกใหญ่ เฮ่อซานหลางก็แค่นเสียงเย้ยหยัน

        ไม่ได้เจอกันหลายเดือน สตรีแพศยาผู้นี้แสดงได้ดีขึ้นทุกที ภาพวาดปึกหนึ่งกลับทำให้ทั้งครอบครัวพากันชื่นชมนาง คนที่บ้านคงคิดว่านางเขียนจดหมายหลายพันตัวอักษร ลึกล้ำไม่สิ้นสุดดังมหาสมุทร หรือเขียนราวกับอยากจะส่งร่างของตนตามมาอยู่ที่นี่ด้วยกระมัง หากเขามิได้เปิดมันออกดูด้วยตาตัวเอง บางทีเขาคงถูกสตรีร้ายกาจผู้นี้หลอกลวงด้วยเช่นกัน

         

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1)

Now you are reading [นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ Chapter 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เฮ่อฉางตี้ลุกยืนขึ้นและเปิดประตูทันที เมื่อก้าวออกจากเรือนก็เห็นชายวัยกลางคนในชุดพ่อค้ายืนอยู่กลางที่โล่งแจ้ง บนหลังมีถุงใบใหญ่

        เมื่อเฮ่อฉางตี้รับของจากเขาแล้ว ชายผู้นั้นก็คารวะก่อนจากไป

        ไหลเยว่เห็นผู้เป็นนายดูคล้ายเหม่อลอยไปและไม่ยอมเปิดถุงเสียที เขาจึงช่วยเตือน “คุณชายขอรับ รีบเปิดดูข้างในกันเถอะขอรับ!”

        เฮ่อฉางตี้เดินกลับเข้าเรือนและวางถุงลงบนโต๊ะ เขาคลายเชือกที่มัดปากถุงอย่างระมัดระวังแล้วเปิดออก 

        ในถุงมีของอยู่เต็มปรี่ ด้านบนสุดทำจากผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ชุดเหล่านี้มิใช่เป็นชุดคลุมยาวดังที่ขุนนางเมืองหลวงนิยมใส่กัน ทว่ากลับสั้นและทำจากผ้าธรรมดา ชุดตัวนอกมีเพียงชุดเดียวเป็นชุดที่แบ่งออกเป็นสองชิ้น ส่วนชุดตัวในมีมากกว่าชุดตัวนอกหลายตัว ทั้งยังมีถุงเท้าที่ทำจากของคุณภาพสูง นอกจากนั้นยังมีรองเท้าหุ้มส้นหนังกวางคู่หนึ่ง เหมาะสมยิ่งกับอากาศเช่นนี้ เพราะหนังกวางทั้งแข็งแรง ทั้งกันน้ำ

        ดวงตาเฮ่อซานหลางเปล่งประกายยามมองของเหล่านั้น

        ไหลเยว่มองผู้เป็นนายที่กำลังดูเสื้อผ้าด้วยความดีใจ เขาเอ่ยชื่นชม “นายหญิงสามรอบคอบนัก ของที่ส่งมาล้วนแต่เป็นของที่คุณชายต้องการที่สุดในยามนี้ทั้งสิ้น”

        ในโลกปัจจุบัน ฉู่เหลียนเป็นนักเดินทางแบกเป้เพียงใบเดียวท่องเที่ยวไปทั่วโลก ย่อมต้องรู้ว่าเวลาเดินทางเข้าป่า สิ่งใดสำคัญที่สุด แม้ในตอนแรกจะสั่งให้กุ้ยหมัวมัวและฉีเยี่ยนจัดของให้ แต่นางก็ยังตรวจสอบของเหล่านั้นอีกครั้งและเอาของไม่จำเป็น เช่น ชุดคลุมยาว พัด หยกเครื่องรางออก แล้วเปลี่ยนเป็นถุงเท้า ชุดชั้นใน ถุงมือ และอื่น ๆ แทน

        นายบ่าวคู่นี้ลอบจากมาด้วยความเร่งร้อน จึงไม่ได้นำสิ่งของติดตัวมามากนัก รองเท้าที่เฮ่อฉางตี้สวมใส่อยู่ ยามนี้ก็เริ่มมีรอยขาดหลายแห่งแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนคู่ใหม่พอดี

        ทั้งยังมีจดหมายเบียดอยู่กับเสื้อผ้าด้านใน เฮ่อฉางตี้ดึงกระดาษบอบบางออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อไหลเยว่เห็นซองจดหมายที่ใหญ่เป็นพิเศษด้านใน เขาก็อุทานเสียงดัง “นายหญิงสามเขียนจดหมายมาหนาเหลือเกิน!” กล่าวจบ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างคนโง่งมให้แก่ผู้เป็นนาย

        เฮ่อซานหลางมองไหลเยว่ด้วยหางตาและไม่ได้เปิดซองจดหมายของฉู่เหลียนต่อหน้าบ่าว ทว่ากลับวางไว้อีกด้านหนึ่งอย่างระมัดระวัง

        ภายในถุงยังมีกล่องเล็ก ๆ อยู่อีก

        เฮ่อฉางตี้ดึงกล่องขึ้นมาเปิด ภายในมีน้ำเต้าไหเล็ก ๆ อยู่หลายใบ และถุงผ้าอีกหลายถุง เขาเห็นว่าแปลกนัก จึงดึงเอาน้ำเต้าขึ้นมาเปิดออก ทันใดนั้น กลิ่นสดชื่นก็ลอยฟุ้งไปในอากาศ

        จมูกไหลเยว่เฉียบคมยิ่ง ยามปกติเขาก็ร่ำสุรามากมายกับคุณชายอยู่แล้ว ยามนี้อยู่ในที่กันดารมิได้แตะสุราสักจิบ ทันทีที่ได้กลิ่นสุรา ดวงตาก็เปล่งประกาย

        “คุณชาย นี่…นี่คือสุรา”

        ดวงตาเฮ่อซานหลางทอแสงวาบ เขารีบปิดฝาน้ำเต้าทันที และวางไว้ด้านที่ไหลเยว่เอื้อมไม่ถึง คล้ายกับปกป้องลูกไก่ตัวน้อยจากหมาป่าดุร้าย…

        จากนั้น เฮ่อซานหลางจงใจทำท่าทีใจเย็นยามเปิดถุงผ้าที่ดูงดงามที่สุด เมื่อถุงสีฟ้าถูกเปิดออก กลิ่นหอมน่าอร่อยผสมเครื่องเทศก็ลอยฟุ้งอีกครั้ง

        เฮ่อซานหลางมองถุงใบนั้นจนเหม่อลอยไปชั่วครู่

        ไหลเยว่แทบจะตายเพราะความสงสัย เขาขยับกายเข้าใกล้คุณชายของตน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง “คุณชาย ในถุงนั้นเป็นอะไรหรือขอรับ ใช่อาหารหรือไม่ขอรับ?”

        เฮ่อฉางตี้ถูกกระชากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยถ้อยคำของไหลเยว่ มุมปากของเขากระตุก ก่อนจะมองไปที่ถุงเหล่านั้น และเลือกใบที่เล็กที่สุดออกมาใบหนึ่ง สีหน้าฉายชัดถึงความไม่เต็มใจ ทว่าก็โยนส่งไปให้ไหลเยว่ ก่อนจะเก็บรวบทั้งหมดที่เหลือพร้อมของฝากกลับเข้าห้องของตนไป

        ไหลเยว่เป็นคนไม่เรื่องมาก เมื่อได้รับถุงผ้ามา เขาก็ไม่รั้งรอรีบเปิดดูทันที เขาเดินไปยังประตูและใช้แสงสลัวยามเย็นเพื่อมองของข้างใน ก่อนจะสูดดมเข้าไปเต็มปอด เมื่อแน่ใจว่าเป็นถุงใส่เนื้อตากแห้ง เขาก็ดีใจเหลือประมาณ! รีบหยิบของในถุงขึ้นมากัดคำหนึ่งทันที และเคี้ยวด้วยความเร็วสูงสุด รสชาติดีเสียจนน้ำตาแทบไหล

        เฮ่อฉางตี้ที่ใช้เนื้อแห้งเพียงถุงหนึ่งก็สามารถขับไล่ไหลเยว่จอมตะกละไปได้แล้ว ความสงบสุขจึงกลับมาเยือนเขาอีกครา

        เขาวางถุงของว่างอย่างระมัดระวังข้างหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ ดึงเอาจดหมายออกมา

        เขาอ่านจดหมายจากเฮ่อเหล่าไท่จวินและพี่ใหญ่เฮ่อฉางฉีก่อน จากนั้นตามด้วยจดหมายของจิ่งอันป๋อฮูหยิน และจากจิ่นอ๋องเพื่อนรักของตน

        เห็นว่าทั้งครอบครัวต่างพากันยกย่องชื่นชมฉู่เหลียน คราแรก เฮ่อฉางตี้มิได้เหยียดหยัน เขากลับกำจดหมายแน่น ลดสายตาลง เม้มปาก คล้ายหลุดลอยไปในห้วงความคิด

        เหม่อลอยไปได้ครู่ใหญ่ เฮ่อฉางตี้ก็วางจดหมายจากครอบครัวลงทางหนึ่ง และเปิดอ่านจดหมายจากจิ่นอ๋อง

        ทว่า ทันทีที่เขาอ่านจดหมายจำนวนสองหน้าจากจิ่นอ๋อง ความรู้สึกผิดและความสับสนที่มีอยู่ก่อนหน้าก็จางหายไปในอากาศโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ร่องรอย!

        ฉู่เหลียน! สตรีแพศยานั่น! นางกล้าดีอย่างไร!

        เช่นนั้นก็เป็นความจริง… เคลื่อนย้ายขุนเขา แม่น้ำย่อมง่ายกว่าเปลี่ยนสันดานคน!

        เขาใจอ่อนเกินไป คิดว่านางจะเป็นคนใหม่เพียงเพราะมีบางสิ่งที่ต่างจากชาติก่อนเล็กน้อย แต่ใครจะคาดว่า…ฮึ่ม! เสือร้ายย่อมไม่เปลี่ยนจุดล่า!

        เซียวป๋อเจี้ยน ฉู่เหลียน…วันหนึ่ง…เขาจะให้คนคู่นี้ได้ชดใช้!

        ยามที่เฮ่อซานหลางฟื้นจากความเกลียดชังที่ครอบงำ จดหมายจากจิ่นอ๋องในมือก็ถูกขยำแน่นจนกลายเป็นลูกกลม ๆ  ดวงตาของเขามืดครึ้ม รังสีรอบกายกลับเปลี่ยนเป็นเย็นชา

        เฮ่อซานหลางมองต่ำลงไปยังซองหนังใส่จดหมายใบใหญ่บนโต๊ะ ยามนี้สายตากลับกลายเป็นเยาะหยันแทนที่ความอบอุ่นใจ

        เสียงแค่นหัวเราะเย็นชาเล็ดลอดจากริมฝีปาก

        เฮ่อซานหลางฉีกกระชากซองจดหมายจนขาดจากกันด้วยนิ้วเรียวยาว แม้ใบหน้ายังคงเย็นชา ทว่าปลายนิ้วกลับสั่นสะท้านสะท้อนถึงความรู้สึกในใจที่แท้จริง

        ใจเขายามนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แม้มือยังคงเคลื่อนไหวเปิดซองจดหมายอยู่ก็ตาม เขาดึงเอากระดาษปึกหนาออกมาแม้ใจจะไม่อยากทำ

        ชาติที่แล้ว สตรีสารเลวผู้นั้นไม่เคยเขียนจดหมายถึงเขาแม้แต่ตัวอักษรเดียว เขาจึงไม่เคยเห็นลายมือของนาง ด้วยเหตุนี้จึงอาจเดาได้ว่าเขา ผู้เป็นสามีที่ถูกต้องของนางกลับไม่เคยมีที่อยู่ในใจนางเลยแม้แต่น้อย

        เมื่อเปิดจดหมายออกและเห็นภาพวาดง่าย ๆ บนหน้าแรก เฮ่อซานหลางนิ่งงันไป

        ดวงตายาวรีคู่นั้นหรี่ลงด้วยความหงุดหงิด เขาพลิกกระดาษดูอีกหลายหน้าเร็ว ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นภาพวาด! ทุกหน้าเลย! ไม่มีตัวอักษรเขียนมาแม้แต่ตัวเดียว!

        แม้จะเป็นภาพวาดง่าย ๆ ทว่าฉากเหตุการณ์อันมีชีวิตชีวากลับถ่ายทอดออกมาได้เพียงตวัดพู่กันไม่กี่ที ทว่าแม้ภาพเหล่านี้จะดูไร้เดียงสาเพียงใด เฮ่อซานหลางก็ไม่อาจข่มกลั้นความเกรี้ยวกราดที่พลุ่งพล่านในอกลงได้

        เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะจนกระดาษพลิกหน้าไปหลายหน้า

        เฮ่อซานหลางรู้สึกคล้ายว่าจดหมายที่เขาส่งไปยั่วยุฉู่เหลียนจะไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย ความโมโหก่อตัวขึ้นในอก เขาลุกขึ้นเดินรอบห้อง พยายามข่มกลั้นความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจ

        ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดเฮ่อซานหลางก็ใจเย็นลงมากทีเดียว

        เขากลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง เมื่อสายตาเห็นภาพวาดปึกใหญ่ เฮ่อซานหลางก็แค่นเสียงเย้ยหยัน

        ไม่ได้เจอกันหลายเดือน สตรีแพศยาผู้นี้แสดงได้ดีขึ้นทุกที ภาพวาดปึกหนึ่งกลับทำให้ทั้งครอบครัวพากันชื่นชมนาง คนที่บ้านคงคิดว่านางเขียนจดหมายหลายพันตัวอักษร ลึกล้ำไม่สิ้นสุดดังมหาสมุทร หรือเขียนราวกับอยากจะส่งร่างของตนตามมาอยู่ที่นี่ด้วยกระมัง หากเขามิได้เปิดมันออกดูด้วยตาตัวเอง บางทีเขาคงถูกสตรีร้ายกาจผู้นี้หลอกลวงด้วยเช่นกัน

         

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1)

Now you are reading [นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ Chapter 72 อ่านจดหมายจากบ้าน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เฮ่อฉางตี้ลุกยืนขึ้นและเปิดประตูทันที เมื่อก้าวออกจากเรือนก็เห็นชายวัยกลางคนในชุดพ่อค้ายืนอยู่กลางที่โล่งแจ้ง บนหลังมีถุงใบใหญ่

        เมื่อเฮ่อฉางตี้รับของจากเขาแล้ว ชายผู้นั้นก็คารวะก่อนจากไป

        ไหลเยว่เห็นผู้เป็นนายดูคล้ายเหม่อลอยไปและไม่ยอมเปิดถุงเสียที เขาจึงช่วยเตือน “คุณชายขอรับ รีบเปิดดูข้างในกันเถอะขอรับ!”

        เฮ่อฉางตี้เดินกลับเข้าเรือนและวางถุงลงบนโต๊ะ เขาคลายเชือกที่มัดปากถุงอย่างระมัดระวังแล้วเปิดออก 

        ในถุงมีของอยู่เต็มปรี่ ด้านบนสุดทำจากผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ชุดเหล่านี้มิใช่เป็นชุดคลุมยาวดังที่ขุนนางเมืองหลวงนิยมใส่กัน ทว่ากลับสั้นและทำจากผ้าธรรมดา ชุดตัวนอกมีเพียงชุดเดียวเป็นชุดที่แบ่งออกเป็นสองชิ้น ส่วนชุดตัวในมีมากกว่าชุดตัวนอกหลายตัว ทั้งยังมีถุงเท้าที่ทำจากของคุณภาพสูง นอกจากนั้นยังมีรองเท้าหุ้มส้นหนังกวางคู่หนึ่ง เหมาะสมยิ่งกับอากาศเช่นนี้ เพราะหนังกวางทั้งแข็งแรง ทั้งกันน้ำ

        ดวงตาเฮ่อซานหลางเปล่งประกายยามมองของเหล่านั้น

        ไหลเยว่มองผู้เป็นนายที่กำลังดูเสื้อผ้าด้วยความดีใจ เขาเอ่ยชื่นชม “นายหญิงสามรอบคอบนัก ของที่ส่งมาล้วนแต่เป็นของที่คุณชายต้องการที่สุดในยามนี้ทั้งสิ้น”

        ในโลกปัจจุบัน ฉู่เหลียนเป็นนักเดินทางแบกเป้เพียงใบเดียวท่องเที่ยวไปทั่วโลก ย่อมต้องรู้ว่าเวลาเดินทางเข้าป่า สิ่งใดสำคัญที่สุด แม้ในตอนแรกจะสั่งให้กุ้ยหมัวมัวและฉีเยี่ยนจัดของให้ แต่นางก็ยังตรวจสอบของเหล่านั้นอีกครั้งและเอาของไม่จำเป็น เช่น ชุดคลุมยาว พัด หยกเครื่องรางออก แล้วเปลี่ยนเป็นถุงเท้า ชุดชั้นใน ถุงมือ และอื่น ๆ แทน

        นายบ่าวคู่นี้ลอบจากมาด้วยความเร่งร้อน จึงไม่ได้นำสิ่งของติดตัวมามากนัก รองเท้าที่เฮ่อฉางตี้สวมใส่อยู่ ยามนี้ก็เริ่มมีรอยขาดหลายแห่งแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนคู่ใหม่พอดี

        ทั้งยังมีจดหมายเบียดอยู่กับเสื้อผ้าด้านใน เฮ่อฉางตี้ดึงกระดาษบอบบางออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อไหลเยว่เห็นซองจดหมายที่ใหญ่เป็นพิเศษด้านใน เขาก็อุทานเสียงดัง “นายหญิงสามเขียนจดหมายมาหนาเหลือเกิน!” กล่าวจบ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างคนโง่งมให้แก่ผู้เป็นนาย

        เฮ่อซานหลางมองไหลเยว่ด้วยหางตาและไม่ได้เปิดซองจดหมายของฉู่เหลียนต่อหน้าบ่าว ทว่ากลับวางไว้อีกด้านหนึ่งอย่างระมัดระวัง

        ภายในถุงยังมีกล่องเล็ก ๆ อยู่อีก

        เฮ่อฉางตี้ดึงกล่องขึ้นมาเปิด ภายในมีน้ำเต้าไหเล็ก ๆ อยู่หลายใบ และถุงผ้าอีกหลายถุง เขาเห็นว่าแปลกนัก จึงดึงเอาน้ำเต้าขึ้นมาเปิดออก ทันใดนั้น กลิ่นสดชื่นก็ลอยฟุ้งไปในอากาศ

        จมูกไหลเยว่เฉียบคมยิ่ง ยามปกติเขาก็ร่ำสุรามากมายกับคุณชายอยู่แล้ว ยามนี้อยู่ในที่กันดารมิได้แตะสุราสักจิบ ทันทีที่ได้กลิ่นสุรา ดวงตาก็เปล่งประกาย

        “คุณชาย นี่…นี่คือสุรา”

        ดวงตาเฮ่อซานหลางทอแสงวาบ เขารีบปิดฝาน้ำเต้าทันที และวางไว้ด้านที่ไหลเยว่เอื้อมไม่ถึง คล้ายกับปกป้องลูกไก่ตัวน้อยจากหมาป่าดุร้าย…

        จากนั้น เฮ่อซานหลางจงใจทำท่าทีใจเย็นยามเปิดถุงผ้าที่ดูงดงามที่สุด เมื่อถุงสีฟ้าถูกเปิดออก กลิ่นหอมน่าอร่อยผสมเครื่องเทศก็ลอยฟุ้งอีกครั้ง

        เฮ่อซานหลางมองถุงใบนั้นจนเหม่อลอยไปชั่วครู่

        ไหลเยว่แทบจะตายเพราะความสงสัย เขาขยับกายเข้าใกล้คุณชายของตน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง “คุณชาย ในถุงนั้นเป็นอะไรหรือขอรับ ใช่อาหารหรือไม่ขอรับ?”

        เฮ่อฉางตี้ถูกกระชากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยถ้อยคำของไหลเยว่ มุมปากของเขากระตุก ก่อนจะมองไปที่ถุงเหล่านั้น และเลือกใบที่เล็กที่สุดออกมาใบหนึ่ง สีหน้าฉายชัดถึงความไม่เต็มใจ ทว่าก็โยนส่งไปให้ไหลเยว่ ก่อนจะเก็บรวบทั้งหมดที่เหลือพร้อมของฝากกลับเข้าห้องของตนไป

        ไหลเยว่เป็นคนไม่เรื่องมาก เมื่อได้รับถุงผ้ามา เขาก็ไม่รั้งรอรีบเปิดดูทันที เขาเดินไปยังประตูและใช้แสงสลัวยามเย็นเพื่อมองของข้างใน ก่อนจะสูดดมเข้าไปเต็มปอด เมื่อแน่ใจว่าเป็นถุงใส่เนื้อตากแห้ง เขาก็ดีใจเหลือประมาณ! รีบหยิบของในถุงขึ้นมากัดคำหนึ่งทันที และเคี้ยวด้วยความเร็วสูงสุด รสชาติดีเสียจนน้ำตาแทบไหล

        เฮ่อฉางตี้ที่ใช้เนื้อแห้งเพียงถุงหนึ่งก็สามารถขับไล่ไหลเยว่จอมตะกละไปได้แล้ว ความสงบสุขจึงกลับมาเยือนเขาอีกครา

        เขาวางถุงของว่างอย่างระมัดระวังข้างหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ ดึงเอาจดหมายออกมา

        เขาอ่านจดหมายจากเฮ่อเหล่าไท่จวินและพี่ใหญ่เฮ่อฉางฉีก่อน จากนั้นตามด้วยจดหมายของจิ่งอันป๋อฮูหยิน และจากจิ่นอ๋องเพื่อนรักของตน

        เห็นว่าทั้งครอบครัวต่างพากันยกย่องชื่นชมฉู่เหลียน คราแรก เฮ่อฉางตี้มิได้เหยียดหยัน เขากลับกำจดหมายแน่น ลดสายตาลง เม้มปาก คล้ายหลุดลอยไปในห้วงความคิด

        เหม่อลอยไปได้ครู่ใหญ่ เฮ่อฉางตี้ก็วางจดหมายจากครอบครัวลงทางหนึ่ง และเปิดอ่านจดหมายจากจิ่นอ๋อง

        ทว่า ทันทีที่เขาอ่านจดหมายจำนวนสองหน้าจากจิ่นอ๋อง ความรู้สึกผิดและความสับสนที่มีอยู่ก่อนหน้าก็จางหายไปในอากาศโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ร่องรอย!

        ฉู่เหลียน! สตรีแพศยานั่น! นางกล้าดีอย่างไร!

        เช่นนั้นก็เป็นความจริง… เคลื่อนย้ายขุนเขา แม่น้ำย่อมง่ายกว่าเปลี่ยนสันดานคน!

        เขาใจอ่อนเกินไป คิดว่านางจะเป็นคนใหม่เพียงเพราะมีบางสิ่งที่ต่างจากชาติก่อนเล็กน้อย แต่ใครจะคาดว่า…ฮึ่ม! เสือร้ายย่อมไม่เปลี่ยนจุดล่า!

        เซียวป๋อเจี้ยน ฉู่เหลียน…วันหนึ่ง…เขาจะให้คนคู่นี้ได้ชดใช้!

        ยามที่เฮ่อซานหลางฟื้นจากความเกลียดชังที่ครอบงำ จดหมายจากจิ่นอ๋องในมือก็ถูกขยำแน่นจนกลายเป็นลูกกลม ๆ  ดวงตาของเขามืดครึ้ม รังสีรอบกายกลับเปลี่ยนเป็นเย็นชา

        เฮ่อซานหลางมองต่ำลงไปยังซองหนังใส่จดหมายใบใหญ่บนโต๊ะ ยามนี้สายตากลับกลายเป็นเยาะหยันแทนที่ความอบอุ่นใจ

        เสียงแค่นหัวเราะเย็นชาเล็ดลอดจากริมฝีปาก

        เฮ่อซานหลางฉีกกระชากซองจดหมายจนขาดจากกันด้วยนิ้วเรียวยาว แม้ใบหน้ายังคงเย็นชา ทว่าปลายนิ้วกลับสั่นสะท้านสะท้อนถึงความรู้สึกในใจที่แท้จริง

        ใจเขายามนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แม้มือยังคงเคลื่อนไหวเปิดซองจดหมายอยู่ก็ตาม เขาดึงเอากระดาษปึกหนาออกมาแม้ใจจะไม่อยากทำ

        ชาติที่แล้ว สตรีสารเลวผู้นั้นไม่เคยเขียนจดหมายถึงเขาแม้แต่ตัวอักษรเดียว เขาจึงไม่เคยเห็นลายมือของนาง ด้วยเหตุนี้จึงอาจเดาได้ว่าเขา ผู้เป็นสามีที่ถูกต้องของนางกลับไม่เคยมีที่อยู่ในใจนางเลยแม้แต่น้อย

        เมื่อเปิดจดหมายออกและเห็นภาพวาดง่าย ๆ บนหน้าแรก เฮ่อซานหลางนิ่งงันไป

        ดวงตายาวรีคู่นั้นหรี่ลงด้วยความหงุดหงิด เขาพลิกกระดาษดูอีกหลายหน้าเร็ว ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นภาพวาด! ทุกหน้าเลย! ไม่มีตัวอักษรเขียนมาแม้แต่ตัวเดียว!

        แม้จะเป็นภาพวาดง่าย ๆ ทว่าฉากเหตุการณ์อันมีชีวิตชีวากลับถ่ายทอดออกมาได้เพียงตวัดพู่กันไม่กี่ที ทว่าแม้ภาพเหล่านี้จะดูไร้เดียงสาเพียงใด เฮ่อซานหลางก็ไม่อาจข่มกลั้นความเกรี้ยวกราดที่พลุ่งพล่านในอกลงได้

        เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะจนกระดาษพลิกหน้าไปหลายหน้า

        เฮ่อซานหลางรู้สึกคล้ายว่าจดหมายที่เขาส่งไปยั่วยุฉู่เหลียนจะไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย ความโมโหก่อตัวขึ้นในอก เขาลุกขึ้นเดินรอบห้อง พยายามข่มกลั้นความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจ

        ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดเฮ่อซานหลางก็ใจเย็นลงมากทีเดียว

        เขากลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง เมื่อสายตาเห็นภาพวาดปึกใหญ่ เฮ่อซานหลางก็แค่นเสียงเย้ยหยัน

        ไม่ได้เจอกันหลายเดือน สตรีแพศยาผู้นี้แสดงได้ดีขึ้นทุกที ภาพวาดปึกหนึ่งกลับทำให้ทั้งครอบครัวพากันชื่นชมนาง คนที่บ้านคงคิดว่านางเขียนจดหมายหลายพันตัวอักษร ลึกล้ำไม่สิ้นสุดดังมหาสมุทร หรือเขียนราวกับอยากจะส่งร่างของตนตามมาอยู่ที่นี่ด้วยกระมัง หากเขามิได้เปิดมันออกดูด้วยตาตัวเอง บางทีเขาคงถูกสตรีร้ายกาจผู้นี้หลอกลวงด้วยเช่นกัน

         

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+