ผูกรักท่านประธานพันล้าน 24 เตรียมตัวแต่งงาน

Now you are reading ผูกรักท่านประธานพันล้าน Chapter 24 เตรียมตัวแต่งงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เรื่องแผนงานวันครบรอบถามเธอแล้วหรือ?”

อวี้หนานเฉิงถามถึงเรื่องที่สั่งไปเมื่อเช้า

โจวฟังได้สติ พยักหน้าพูดว่า “ถามแล้วครับ ผู้จัดการเซิ่งจะรีบส่งให้เร็วที่สุด เธอไม่รู้เรื่องธรรมเนียมนี้ของบริษัทจริงๆ โชคดีที่เตือน แต่ว่าช่วงนี้เธอค่อนข้างยุ่ง เกรงว่าจะไม่มีเวลาไปเตรียม”

“อย่างเธอจะยุ่งอะไร?”

“เหมือนว่าจะเป็นเรื่องหาโรงเรียนอนุบาลให้ลูกสาว” โจวฟังมีความสามารถสิ่งที่ได้ผ่านตาก็จะไม่ลืม ตอนนี้เลยรายงานชื่อโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งที่เซิ่งอันหรานเตรียมจะไปยื่นออกมา

“คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการเซิ่งอายุยังน้อยแบบนี้ ลูกกลับจะเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว”

เดิมคิ้วที่คลายออกของอวี้หนานเฉิง ไม่รู้ทำไม ได้ยินคำนี้คิ้วก็ขมวดขึ้นมา สีหน้าขรึมลงเล็กน้อย

กำลังจะพูด อวี้จิ่งซีด้านหลังโจวฟัง ไม่รู้ทำไมก็วิ่งตึกๆ เข้ามา วางกระดานวาดรู้ในมือวางไว้ตรงหน้า

อวี้หนานเฉิง

“ผมจะไปโรงเรียนอนุบาล”

“จิ่งซี อย่าก่อเรื่อง” อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว “โรงเรียนอนุบาลวุ่นวายเกินไป ลูกอยู่บ้านมีครูสอนลูก”

อวี้จิ่งซีได้ยินก็โกรธทันที ดันเอกสารทั้งหมดด้านข้างทิ้ง เกิดเสียงอึกทึกของกระจายเต็มพื้น โจวฟังรีบนั่งลงเก็บด้วยความตกใจ

เขากลับจับกระดานวาดรูปเขียนบางอย่างอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นไปตรงหน้าอวี้หนานเฉิงอีกครั้ง

“เข้าโรงเรียนอนุบาลเดียวกับซิงซิงน้อย”

อวี้หนานเฉิงคิ้วขมวดแน่นกว่าเดิม “ไม่ได้”

อวี้จิ่งซีพูดไม่ได้ ไปโรงเรียนเด็กไม่รู้ความ ตามสภาพแล้วคงถูกรังแก โรคปิดกั้นตัวเองของลูกยังรักษาไม่หาย เขาไม่อยากให้เป็นที่สุดก็คือส่งลูกไปในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยแล้วเจอเรื่องไม่คาดฝัน

อวี้จิ่งซีกลับโวยวายขึ้นมา โจวฟังเพิ่งเก็บเอกสารขึ้นมากองไว้เรียบร้อย โดนปัดทิ้งทั้งหมดลงที่พื้นอีกครั้ง เขาเขียนบนกระดานรูปอีกครั้งอย่างโมโห

“ป่าป๊าไม่ให้ผมไป ผมจะบอกปู่เฉิง ป่าป๊าเป็นคนเลว ผมจะไปอยู่กับปู่เฉิง”

อวี้หนานเฉิงหมดคำพูด กุมขมับอย่างทำอะไรไม่ถูก

โจวฟังนั่งอยู่ที่พื้นกั้นยิ้ม ประธานเซิ่งถังกรุปผู้สง่า ถูกลูกชายทำให้ทำอะไรไม่ถูกทุกวัน หากไม่ได้เห็นกับตาใครจะเชื่อกัน?

ยืนกรานอยู่ครึ่งวัน อวี้หนานเฉิงจำยอมอย่างไม่เต็มใจ

“ป่าป๊าคิดก่อนสัก2วัน ลูกอย่าก่อเรื่องกับป่าป๊าโอเคไหม?”

อวี้จิ่งซีเหมือนไม่พอใจกับคำตอบนี้ แต่มีเสียงเปิดประตูขัดการต่อต้านของเขา

“หนานเฉิง” รูปร่างสูงเพรียวของเกาหย่าเหวินเดินเข้าประตูมา ยิ้มอยู่หน้าประตู “รบกวนคุณหรือเปล่า? ฉันเอามื้อเที่ยงของคุณกับจิ่งซีมาฝาก”

ชั่วพริบตาที่ได้ยินเสียงหวานนี้ อวี้จิ่งซีสะดุดไป จู่ๆ กอดกระดานวาดรูปวิ่งไปห้องรับรองข้างๆ อวี้หนานเฉิงถือว่าเขารับข้อเสนอ ไม่ได้สนใจ

“ไม่เป็นไร เข้ามาเถอะ” เขามองเกาหย่าเหวินแวบหนึ่ง

“ประธานอวี้ หากไม่มีเรื่องอะไรผมขอตัวก่อน”

โจวฟังเตรียมจะออกไป กลับถูกอวี้หนานเฉิงเรียกไว้

“โจวฟัง ช่วงนี้คุณหยุดงานที่ไม่เร่งทำไว้ก่อน  “งานแต่งงาน?” โจวฟังไม่เข้าใจ “ใครจะแต่งงานครับ?”

“ผม”อวี้หนานเฉิงสีหน้าเรียบเฉย เหมือนพูดเรื่องธรรมดาทั่วไป

เกาหย่าเหวินที่อยู่ด้านหลังโจวฟังก็อึ้งไปเหมือนกัน “หนานเฉิงคือคุณ…”

“คุณก็เตรียมตัว รอผมจัดการงานในมือเสร็จ ก็แต่งงานกัน”

ท่าทีของอวี้หนานเฉิงสุขุมเกินไป แต่เรื่องนี้ไม่ว่าจะสำหรับเกาหย่าเหวินที่เป็นว่าที่คู่หมั้นเขามา5ปี หรือว่า

โจวฟังที่เป็นผู้ช่วยคนสนิทเขาแล้ว เป็นข่าวที่ต้องอ้าปากค้าง

“หนานเฉิง คุณพูดจริงเหรอ?”

“คุณรู้สึกว่าผมเหมือนใช้คำพูดพวกนี้มาล้อเล่นเหรอ? แต่ผมก็ไม่บังคับใครเหมือนกัน ถ้าคุณไม่ยอมรับก็บอกมาตรงๆ”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอน” เกาหย่าเหวินดีใจมาก “จู่ๆ ก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์”

บนหน้าอวี้หนานเฉิงไม่ได้แสดงความดีใจเท่าไหร่ มีเพียงใบหน้านิ่งไร้ความรู้สึก

“คุณพูดถูก จิ่งซีต้องการแม่สักคน นอกจากคนใช้ในบ้าน ผู้หญิงที่คุ้นกับเขาที่สุดคือคุณ ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าคุณแล้ว”

ชั่วพริบตาที่พูดจบ

เสียงดัง”ก๊อกแก๊ก” ประตูรับรองห้องข้างๆ อวี้จิ่งซียืนอยู่ กระดานวาดรูปในมือทิ้งลงพื้น มองอวี้หนานเฉิงอย่างไม่อยากจะเชื้อ จู่ๆ ก็กระทืบเท้าหน้าแดงอยู่กับที่

“จิ่งซี ?” อวี้หนานเฉิงไม่เข้าใจ รีบเดินไปสำรวจ “ลูกเป็นอะไรไป ? โดนเท้าหรือเปล่า?”

อวี้จิ่งซีร้อนใจที่สุด คว้าชายเสื้ออวี้หนานเฉิง ส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ลูกเป็นอะไรไป ? ไม่สบายตรงไหน?”

อวี้หนานเฉิงจะแตะหน้าผากเขา กลับถูกเขาดันมือออก นั่งลงอย่างโมโหทันที

“จิ่งซี ……”

อวี้จิ่งซีไม่สามารถแสดงความไม่พอใจที่ตัวเองอยากบอก เมื่อกี้ตอนได้ยินอวี้หนานเฉิงจะแต่งงานกับ

เกาหย่าเหวิน ก็โมโหทันที รู้สึกเพียงอวี้หนานเฉิงโกหกตัวเอง ตอนนี้ไม่ว่าอวี้หนานเฉิงจะโอ๋ยังไง เขาก็เต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธ

เหมือนลิงตัวน้อยระเบิดความโกรธ หันหลังกลับเข้าไปในห้องรับรอง เอาของที่โยนได้ทิ้งทั้งหมด

ในห้องรับรองไม่นานก็เละเทะ

สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง อวี้หนานเฉิงยืนอยู่หน้าประตู เห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ยังปวดใจ

เขารู้จิ่งซีเพราะแค่ไม่สามารถแสดงคำพูดของตัวเองออกมาได้ ดังนั้นถึงได้ระบาย เขาอยากระบายเหมือนกัน แต่การระบายแบบนี้ ทำร้ายคนอื่นได้ง่ายๆ และทำร้ายตัวเองเหมือนกัน

เนิ่นนาน ภายในห้องรับรองไม่มีการเคลื่อนไหว

“จิ่งซีออกมาเถอะ”อวี้หนานเฉิงเคาะประตู

อวี้จิ่งซีล็อกประตูจากด้านใน ไม่ว่าอวี้หนานเฉิงจะเรียกยังไงก็ไม่ยอมเปิดประตู

แม้ว่าประตูห้องรับรองจะล็อกด้านในไม่ได้ แต่อวี้หนานเฉิงกังวลว่าตัวเองเปิดประตูเข้าไปอย่างนี้จะไปกระตุ้นเขา ก็เลยลังเลไม่กล้าเปิดประตู

“จิ่งซี …”

“หนานเฉิง ฉันไปดูให้”

เกาหย่าเหวินยืนอยู่ข้างเขา ในสายตาเต็มไปด้วยความกังวล “จิ่งซีกับฉันเข้ากันได้ ให้ฉันลองดู”

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว มองประตูใหญ่ห้องรับรอง สุดท้ายก็พยักหน้า

เกาหย่าเหวินสีหน้านิ่ง เปิดประตูออก

“จิ่งซีน้อย ป้าเหวินเอง ป้าเข้าไปนะ”

ในห้อง อวี้จิ่งซีขดตัวอยู่มุมหนึ่ง หลังจากได้ยินว่าเกาหย่าเหวินจะเข้ามา เหมือนโดนยาอย่างนั้น ตกใจจนไม่กล้าขยับ แม้แต่ตาก็แข็งทื่อไป

เสียงดัง”ปัง” เกาหย่าเหวินปิดประตูห้อง เดินผ่านตุ๊กตาของเล่นบนพื้น เข้าใกล้อวี้จิ่งซี รูปร่างสูงใหญ่คลุมลงมา

อวี้จิ่งซีนั่งลงกอดแขนตัวเอง ตัวสั่นๆ

“จิ่งซีน้อย”

เกาหย่าเหวินกดเสียงต่ำ “ไม่ต้องกลัว ป้าเหวินเอง”

ห้องค่อนข้างมืด มีแค่แสงไฟที่อ่อนๆ ที่กองอยู่ที่พื้น ในสายตาของเกาหย่าเหวินมีความอ่อนโยนแปลกๆ ดูกดขี่มากกว่า

“ป้าเคยบอกหนูว่าให้เป็นเด็กดีหน่อยไม่ใช่เหรอ? โยนของทิ้งได้เหรอ?”

อวี้จิ่งซีชิดด้านหลัง สายตาหวาดกลัวไม่มีที่พึ่ง ในหัวเขามีภาพมากมายออกมา เกี่ยวกับผู้หญิงเลวตรงหน้าทั้งนั้น

ผู้หญิงเลวแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าป่าป๊าจะให้มาเป็นหม่าม้าของเขา

“จิ่งซี หนูต้องจำคำพูดป้าไว้ให้แม่นดีไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผูกรักท่านประธานพันล้าน 24 เตรียมตัวแต่งงาน

Now you are reading ผูกรักท่านประธานพันล้าน Chapter 24 เตรียมตัวแต่งงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เรื่องแผนงานวันครบรอบถามเธอแล้วหรือ?”

อวี้หนานเฉิงถามถึงเรื่องที่สั่งไปเมื่อเช้า

โจวฟังได้สติ พยักหน้าพูดว่า “ถามแล้วครับ ผู้จัดการเซิ่งจะรีบส่งให้เร็วที่สุด เธอไม่รู้เรื่องธรรมเนียมนี้ของบริษัทจริงๆ โชคดีที่เตือน แต่ว่าช่วงนี้เธอค่อนข้างยุ่ง เกรงว่าจะไม่มีเวลาไปเตรียม”

“อย่างเธอจะยุ่งอะไร?”

“เหมือนว่าจะเป็นเรื่องหาโรงเรียนอนุบาลให้ลูกสาว” โจวฟังมีความสามารถสิ่งที่ได้ผ่านตาก็จะไม่ลืม ตอนนี้เลยรายงานชื่อโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งที่เซิ่งอันหรานเตรียมจะไปยื่นออกมา

“คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการเซิ่งอายุยังน้อยแบบนี้ ลูกกลับจะเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว”

เดิมคิ้วที่คลายออกของอวี้หนานเฉิง ไม่รู้ทำไม ได้ยินคำนี้คิ้วก็ขมวดขึ้นมา สีหน้าขรึมลงเล็กน้อย

กำลังจะพูด อวี้จิ่งซีด้านหลังโจวฟัง ไม่รู้ทำไมก็วิ่งตึกๆ เข้ามา วางกระดานวาดรู้ในมือวางไว้ตรงหน้า

อวี้หนานเฉิง

“ผมจะไปโรงเรียนอนุบาล”

“จิ่งซี อย่าก่อเรื่อง” อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว “โรงเรียนอนุบาลวุ่นวายเกินไป ลูกอยู่บ้านมีครูสอนลูก”

อวี้จิ่งซีได้ยินก็โกรธทันที ดันเอกสารทั้งหมดด้านข้างทิ้ง เกิดเสียงอึกทึกของกระจายเต็มพื้น โจวฟังรีบนั่งลงเก็บด้วยความตกใจ

เขากลับจับกระดานวาดรูปเขียนบางอย่างอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นไปตรงหน้าอวี้หนานเฉิงอีกครั้ง

“เข้าโรงเรียนอนุบาลเดียวกับซิงซิงน้อย”

อวี้หนานเฉิงคิ้วขมวดแน่นกว่าเดิม “ไม่ได้”

อวี้จิ่งซีพูดไม่ได้ ไปโรงเรียนเด็กไม่รู้ความ ตามสภาพแล้วคงถูกรังแก โรคปิดกั้นตัวเองของลูกยังรักษาไม่หาย เขาไม่อยากให้เป็นที่สุดก็คือส่งลูกไปในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยแล้วเจอเรื่องไม่คาดฝัน

อวี้จิ่งซีกลับโวยวายขึ้นมา โจวฟังเพิ่งเก็บเอกสารขึ้นมากองไว้เรียบร้อย โดนปัดทิ้งทั้งหมดลงที่พื้นอีกครั้ง เขาเขียนบนกระดานรูปอีกครั้งอย่างโมโห

“ป่าป๊าไม่ให้ผมไป ผมจะบอกปู่เฉิง ป่าป๊าเป็นคนเลว ผมจะไปอยู่กับปู่เฉิง”

อวี้หนานเฉิงหมดคำพูด กุมขมับอย่างทำอะไรไม่ถูก

โจวฟังนั่งอยู่ที่พื้นกั้นยิ้ม ประธานเซิ่งถังกรุปผู้สง่า ถูกลูกชายทำให้ทำอะไรไม่ถูกทุกวัน หากไม่ได้เห็นกับตาใครจะเชื่อกัน?

ยืนกรานอยู่ครึ่งวัน อวี้หนานเฉิงจำยอมอย่างไม่เต็มใจ

“ป่าป๊าคิดก่อนสัก2วัน ลูกอย่าก่อเรื่องกับป่าป๊าโอเคไหม?”

อวี้จิ่งซีเหมือนไม่พอใจกับคำตอบนี้ แต่มีเสียงเปิดประตูขัดการต่อต้านของเขา

“หนานเฉิง” รูปร่างสูงเพรียวของเกาหย่าเหวินเดินเข้าประตูมา ยิ้มอยู่หน้าประตู “รบกวนคุณหรือเปล่า? ฉันเอามื้อเที่ยงของคุณกับจิ่งซีมาฝาก”

ชั่วพริบตาที่ได้ยินเสียงหวานนี้ อวี้จิ่งซีสะดุดไป จู่ๆ กอดกระดานวาดรูปวิ่งไปห้องรับรองข้างๆ อวี้หนานเฉิงถือว่าเขารับข้อเสนอ ไม่ได้สนใจ

“ไม่เป็นไร เข้ามาเถอะ” เขามองเกาหย่าเหวินแวบหนึ่ง

“ประธานอวี้ หากไม่มีเรื่องอะไรผมขอตัวก่อน”

โจวฟังเตรียมจะออกไป กลับถูกอวี้หนานเฉิงเรียกไว้

“โจวฟัง ช่วงนี้คุณหยุดงานที่ไม่เร่งทำไว้ก่อน  “งานแต่งงาน?” โจวฟังไม่เข้าใจ “ใครจะแต่งงานครับ?”

“ผม”อวี้หนานเฉิงสีหน้าเรียบเฉย เหมือนพูดเรื่องธรรมดาทั่วไป

เกาหย่าเหวินที่อยู่ด้านหลังโจวฟังก็อึ้งไปเหมือนกัน “หนานเฉิงคือคุณ…”

“คุณก็เตรียมตัว รอผมจัดการงานในมือเสร็จ ก็แต่งงานกัน”

ท่าทีของอวี้หนานเฉิงสุขุมเกินไป แต่เรื่องนี้ไม่ว่าจะสำหรับเกาหย่าเหวินที่เป็นว่าที่คู่หมั้นเขามา5ปี หรือว่า

โจวฟังที่เป็นผู้ช่วยคนสนิทเขาแล้ว เป็นข่าวที่ต้องอ้าปากค้าง

“หนานเฉิง คุณพูดจริงเหรอ?”

“คุณรู้สึกว่าผมเหมือนใช้คำพูดพวกนี้มาล้อเล่นเหรอ? แต่ผมก็ไม่บังคับใครเหมือนกัน ถ้าคุณไม่ยอมรับก็บอกมาตรงๆ”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอน” เกาหย่าเหวินดีใจมาก “จู่ๆ ก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์”

บนหน้าอวี้หนานเฉิงไม่ได้แสดงความดีใจเท่าไหร่ มีเพียงใบหน้านิ่งไร้ความรู้สึก

“คุณพูดถูก จิ่งซีต้องการแม่สักคน นอกจากคนใช้ในบ้าน ผู้หญิงที่คุ้นกับเขาที่สุดคือคุณ ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าคุณแล้ว”

ชั่วพริบตาที่พูดจบ

เสียงดัง”ก๊อกแก๊ก” ประตูรับรองห้องข้างๆ อวี้จิ่งซียืนอยู่ กระดานวาดรูปในมือทิ้งลงพื้น มองอวี้หนานเฉิงอย่างไม่อยากจะเชื้อ จู่ๆ ก็กระทืบเท้าหน้าแดงอยู่กับที่

“จิ่งซี ?” อวี้หนานเฉิงไม่เข้าใจ รีบเดินไปสำรวจ “ลูกเป็นอะไรไป ? โดนเท้าหรือเปล่า?”

อวี้จิ่งซีร้อนใจที่สุด คว้าชายเสื้ออวี้หนานเฉิง ส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ลูกเป็นอะไรไป ? ไม่สบายตรงไหน?”

อวี้หนานเฉิงจะแตะหน้าผากเขา กลับถูกเขาดันมือออก นั่งลงอย่างโมโหทันที

“จิ่งซี ……”

อวี้จิ่งซีไม่สามารถแสดงความไม่พอใจที่ตัวเองอยากบอก เมื่อกี้ตอนได้ยินอวี้หนานเฉิงจะแต่งงานกับ

เกาหย่าเหวิน ก็โมโหทันที รู้สึกเพียงอวี้หนานเฉิงโกหกตัวเอง ตอนนี้ไม่ว่าอวี้หนานเฉิงจะโอ๋ยังไง เขาก็เต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธ

เหมือนลิงตัวน้อยระเบิดความโกรธ หันหลังกลับเข้าไปในห้องรับรอง เอาของที่โยนได้ทิ้งทั้งหมด

ในห้องรับรองไม่นานก็เละเทะ

สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง อวี้หนานเฉิงยืนอยู่หน้าประตู เห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ยังปวดใจ

เขารู้จิ่งซีเพราะแค่ไม่สามารถแสดงคำพูดของตัวเองออกมาได้ ดังนั้นถึงได้ระบาย เขาอยากระบายเหมือนกัน แต่การระบายแบบนี้ ทำร้ายคนอื่นได้ง่ายๆ และทำร้ายตัวเองเหมือนกัน

เนิ่นนาน ภายในห้องรับรองไม่มีการเคลื่อนไหว

“จิ่งซีออกมาเถอะ”อวี้หนานเฉิงเคาะประตู

อวี้จิ่งซีล็อกประตูจากด้านใน ไม่ว่าอวี้หนานเฉิงจะเรียกยังไงก็ไม่ยอมเปิดประตู

แม้ว่าประตูห้องรับรองจะล็อกด้านในไม่ได้ แต่อวี้หนานเฉิงกังวลว่าตัวเองเปิดประตูเข้าไปอย่างนี้จะไปกระตุ้นเขา ก็เลยลังเลไม่กล้าเปิดประตู

“จิ่งซี …”

“หนานเฉิง ฉันไปดูให้”

เกาหย่าเหวินยืนอยู่ข้างเขา ในสายตาเต็มไปด้วยความกังวล “จิ่งซีกับฉันเข้ากันได้ ให้ฉันลองดู”

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว มองประตูใหญ่ห้องรับรอง สุดท้ายก็พยักหน้า

เกาหย่าเหวินสีหน้านิ่ง เปิดประตูออก

“จิ่งซีน้อย ป้าเหวินเอง ป้าเข้าไปนะ”

ในห้อง อวี้จิ่งซีขดตัวอยู่มุมหนึ่ง หลังจากได้ยินว่าเกาหย่าเหวินจะเข้ามา เหมือนโดนยาอย่างนั้น ตกใจจนไม่กล้าขยับ แม้แต่ตาก็แข็งทื่อไป

เสียงดัง”ปัง” เกาหย่าเหวินปิดประตูห้อง เดินผ่านตุ๊กตาของเล่นบนพื้น เข้าใกล้อวี้จิ่งซี รูปร่างสูงใหญ่คลุมลงมา

อวี้จิ่งซีนั่งลงกอดแขนตัวเอง ตัวสั่นๆ

“จิ่งซีน้อย”

เกาหย่าเหวินกดเสียงต่ำ “ไม่ต้องกลัว ป้าเหวินเอง”

ห้องค่อนข้างมืด มีแค่แสงไฟที่อ่อนๆ ที่กองอยู่ที่พื้น ในสายตาของเกาหย่าเหวินมีความอ่อนโยนแปลกๆ ดูกดขี่มากกว่า

“ป้าเคยบอกหนูว่าให้เป็นเด็กดีหน่อยไม่ใช่เหรอ? โยนของทิ้งได้เหรอ?”

อวี้จิ่งซีชิดด้านหลัง สายตาหวาดกลัวไม่มีที่พึ่ง ในหัวเขามีภาพมากมายออกมา เกี่ยวกับผู้หญิงเลวตรงหน้าทั้งนั้น

ผู้หญิงเลวแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าป่าป๊าจะให้มาเป็นหม่าม้าของเขา

“จิ่งซี หนูต้องจำคำพูดป้าไว้ให้แม่นดีไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+