ผูกรักท่านประธานพันล้าน 34 คนที่ต้องถูกลงโทษคือเธอ

Now you are reading ผูกรักท่านประธานพันล้าน Chapter 34 คนที่ต้องถูกลงโทษคือเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซิ่งอันหรานยืนอยู่บนบันไดเลื่อนพร้อมกับหันหน้ากลับมายิ้มเยาะเย้ย

“ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งมาก ไม่เหมือนกับคุณหนูใหญ่แห่งบ้านตระกูลเซิ่ง ที่วันๆ เอาแต่นั่งๆ นอนๆ คิดแต่เรื่องที่จะฮุบเอาทรัพย์สินสมบัติของตระกูลมา

เซิ่งอันเหยากำมือทั้งสองข้าง ด้วยความรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก

เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เธอลงทุนลงแรงกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอย่างมาก เพื่อทำให้เซิ่งอันหรานเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้คุณพ่อเกลียดชังเธอ เซิ่งอันเหยาต้องการที่จะทำให้น้องสาวต่างมารดาคนนี้หายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ เพื่อที่เธอจะได้มีคุณสมบัติเป็นทายาทของตระกูลเซิ่งและฮุบสมบัติของตระกูลเซิ่งไว้เพียงคนเดียว แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเธอก็คือเซิ่งอันหรานดันหนีไปได้ และไม่คิดว่าเซิ่งอันหรานจะหนีเอาชีวิตรอดมาได้ถึงหกปี

6 ปีที่เซิ่งอันหรานไม่อยู่ ตัวเธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่จู่ๆ เซิ่งอันหรานก็ดันโผล่กลับมา มันเป็นได้อย่างไร?

——

ตอนเย็นหลังจากเลิกงานกลับบ้าน เซิ่งอันหรานเข้าครัวทำอาหารให้กับเสี่ยวซิงซิงทาน ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอรีบเช็ดมือเธอกับผ้ากันเปื้อนและหยิบโทรศัพท์ออกมา

ทันทีที่เซิ่งอันหรานเห็นหาจอโทรศัพท์โชว์เบอร์ของสายเรียกเข้า เธอก็ชะงักไปในชั่วขณะ

เป็นสายโทรเข้าจากคุณพ่อ

“คุณพ่อ”

“ได้ยินว่าลูกกลับมาแล้ว?”

เสียงทุ้มต่ำของฝ่ายผู้เป็นพ่อดังเข้ามาจากอีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ อาจจะเป็นเพราะทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และเหมือนว่าน้ำเสียงของท่านจะดูเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย

“ค่ะ คุณพ่อ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา พร้อมกับมือที่จับกับโทรค่อยๆ ลดต่ำลง

ไม่จำเป็นต้องคิดเลยว่า เซิ่งอันเหยากลับไปแล้วพูดอะไร เพราะไม่ว่าเธอจะ พูดอะไรล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ไม่ดีทั้งนั้น

“ไหนๆ ก็กลับมาแล้ว อย่างนั้นก็ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเราเถอะ จะไปอยู่ข้างนอกตลอดได้ยังไงกัน”

เมื่อเซิ่งอันหรานได้ยินเช่นนั้นแล้ว เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ หนูอยู่ข้างนอกมีความสุขดี”

“อันหราน พ่อรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องแม่ของลูก ทำให้ลูกไม่ค่อยพอใจในตัวพ่อ แต่ว่าบ้านยังไงซะก็เป็นบ้าน ลูกเป็นผู้หญิงไปอยู่ข้างนอกคนเดียวพ่อไม่ค่อยวางใจ เอาเป็นว่าลูก…”

“คุณพ่อคะ” เซิ่งอันหรานพูดแทรกขึ้นเพื่อขัดจังหวะ “หนูใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกหนูมีความสุขดีค่ะ หนู… หนูมีงานทำ และตอนนี้หนูก็อาศัยอยู่ในอพาร์เมนท์ที่อยู่ใกล้กับบริษัท ขอโทษนะคะ แต่ตอนนี้หนูกำลังยุ่งอยู่ ต้องวางสายแล้ว ไว้ถ้าหนูมีเวลาว่างหนูจะโทรกลับไปนะคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณพ่อตระกูลเซิ่งก็ไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก เขาได้พูดกำสับเธอเพียงแค่สองประโยค จากนั้นสายโทรศัพท์ก็ตัดไป

เซิ่งอันหรานเป็นคนหัวแข็งและขี้งอน นิสัยขี้งอนของเธอในเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่มีไม่แพ้เซิ่งอันเหยาเลยแม้แต่น้อย บวกกับตอนที่เธอเกิดมาแล้วไม่มีแม่ เธอค่อนข้างโชคร้าย ญาติผู้ใหญ่ในตระกูลเซิ่งต่างก็พากันไม่ชอบเธอ เพราะพวกเขาคิดว่าเธอชอบสันโดษและเอาแต่ใจ

หลังจากที่เซิ่งอันหรานวางสายโทรศัพท์ เธอก็ยืนอยู่ในครัวเป็นเวลาพักใหญ่ๆ

“หม่าม้า” น้ำเสียงที่อ่อนโยนดังมาจากด้านหน้าประตู มันสามารถดึงสติของเซิ่งอันหรานกลับคืนมาได้

เมื่อเห็นลูกสาวตัวน้อย เธอจึงยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า “ว่ายังไง? หิวแล้วใช่ไหม? อาหารใกล้จะเสร็จแล้วจ้ะ”

เซิ่งเสี่ยวซิงเดินเข้าไปและชี้ไปที่โทรศัพท์มือถือ “ใช่คุณตาหรือเปล่าคะ?”

“ใช่จ๊ะ” เซิ่งอันหรานพยักหน้า เธอก้มหน้าลงมองลูกสาวตัวน้อยพร้อมกับลูบไปที่ศีรษะของเธอ จากนั้นก็เอ่ยปากถามเสี่ยวซิงซิงขึ้นด้วยความลังเลว่า

เซิ่งเสี่ยวซิงเป็นเด็กดีและเชื่อฟังมากๆ เธอกะพริบตาจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “หม่าม้าล่ะ?ถ้าหม่าม้าอยากจะกลับไปหนูก็จะไปกับหม่าม้าด้วย หม่าม้าอยู่ที่ไหน ซิงซิงก็จะอยู่ที่นั่นด้วย เพราะยังไงซะซิงซิงก็ขาดหม่าม้าไม่ได้ เสี่ยวซิงซิงเป็นแก้วตาดวงใจของหม่าม้า ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเซิ่งอันหรานก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันที เธอรีบโน้มตัวเข้าไปสวมกอดลูกสาวอันเป็นที่รักของเธอไว้ในอ้อมแขน

“ใช่จ้ะ เสี่ยวซิงซิงเป็นแก้วตาดวงใจของหม่าม้า ไม่ว่าจะเมื่อไหนก็ไม่มีวันเปลี่ยนไป”

ย้อนกลับไปในตอนนั้นที่เธอพาลูกไปต่างประเทศด้วย เหตุผลประการแรก เพื่อหลีกเลี่ยงชายที่ซื้อลูกของเธอไป และประการที่สอง คือเธอยังไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องนี้กับครอบครัวว่ายังไง ถ้าหากว่าเธอพาลูกกลับบ้านไปตอนนี้ล่ะก็

จนกระทั่งถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านไปกว่าห้าปีแล้ว เรื่องของเสี่ยวซิงซิงจะเปิดไว้เป็นความลับตลอดไปไม่ได้

ตอนนี้เธอไม่อยากจะเผชิญกับปัญหา เพราะมีบางคนต้องการสร้างปัญหาให้กับตัวเธอ ว่าไปแล้วเมื่องจินหลิงจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่มาก จะว่าเล็กก็ไม่เล็กไปเลยซะทีเดียว เป็นการยากที่จะรับประกันว่าเซิ่งอันเหยาจะไม่สืบรู้เรื่องนี้ก่อน ดังนั้นเธอจะต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าถึงจะถูก

เวลาตกตอนดึก——

“หนานเฉิง วันนี้คุณดื่มเยอะเกินไปแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณเอง”

ที่ทางเข้าออกของประตูโรงแรม เกาหย่าเหวินกำลังพยุงอวี้หนานเฉิงด้วยท่าทางที่ทุลักทุเล หางตาของเธอเหลือบไปเห็นรถตู้ที่ไม่จอดอยู่ในระยะที่ไม่ไกลมาก

กล้องถ่ายภาพความคมชัดสูงบันทึกภาพทุกการเคลื่อนไหวตั้งแต่ตอนที่เกาหย่าเหวินพยุงอวี้หนานเฉิงออกมาจากโรงแรม เธอพยุงอวี้หนานเฉิงอย่างแนบชิด เกาหย่าเหวินที่อยู่ในชุดราตรีและหน้าอกคู่นั้นกำลังถูกแขนของอวี้หนานเฉิงเบียดทับอยู่ แขนของเขาเบียดทับหน้าออกของเธอจนเห็นได้ชัดว่าหน้าอกเสียทรง

อวี้หนานเฉิงเริ่มได้สติขึ้นมาเล็กน้อย เขารับรู้ได้ถึงสัมผัสของอะไรบางอย่าง อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว เล็กน้อย ก่อนที่จะสะบัดแขนออก

“ไม่ต้องมาพยุงผม ผมเดินเองได้”

“หนานเฉิง ”

เกาหย่าเหวินรีบจับชายกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งไล่ตามอวี้หนานเฉิงไป “ดึกขนาดนี้แล้วฉันไม่ค่อยวางใจที่จะให้คุณกลับไปเอง ให้ฉันไปส่งคุณก่อน จากนั้นฉันก็จะกลับ”

ในรถตู้ที่อยู่ไกลออกไป มีเสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัวๆ รูปภาพของเกาหย่าเหวินที่กำลังวิ่งไล่ตามอวี้หนานเฉิงขึ้นไปบนรถถูกถ่ายไว้อย่างต่อเนื่อง

อวี้ย่วนวิลล่า เป็นสถานที่ที่อวี้หนานเฉิงมักจะอาศัยอยู่

ไวน์ที่ดื่มในวันนี้มีฤทธิ์แรงกว่าเมื่อก่อนมาก ทันทีที่ลงจากรถ แทบจะทำให้เขาเข่าอ่อนและยืนทรงตัวไม่อยู่ เกาหย่าเหวินเรียกคนใช้ในบ้านมาช่วยพยุงอวี้หนานเฉิงไปส่งจนถึงในห้องนอน

“ครั้งนี้คุณชายดื่มมากไปหน่อย คุณเกา รบกวนคุณแล้ว”

แม่บ้านรีบบอกขอบคุณ

“ไม่เป็นไร เพราะไม่ว่ายังไงฉันกับหนานเฉิงก็จะต้องเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ถ้าฉันไม่ดูแลเขา แล้วใครจะเป็นคนดูแลเขาล่ะ” เกาหย่าเหวินนั่งลงตรงด้านข้างของเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ ยื่นมืออันเรียวยาวสัมผัสไปที่ของไหล่ของอวี้หนานเฉิง พร้อมกับเหลือบมองคนรับใช้ “ที่นี่ไม่มีธุระอะไรของเธอแล้ว เดี๋ยวฉันจะเป็นคนดูแลเขาเอง”

“หา?” คนรับใช้ชะงัก “คุณเกา แล้วคุณจะไม่กลับเหรอคะ?”

“ไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ?” สีหน้าของเกาหย่าเหวินเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย “ในไม่ช้านี้ ที่นี่ก็จะเป็นบ้านของฉัน แล้วเธอจะให้ฉันกลับไปที่ไหน?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนรับใช้ก็รู้ตัวว่าตัวเองสื่อความหมายผิด เธอรีบส่ายหน้าและรีบอธิบายว่า “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น อย่างนั้นคุณเกาก็ดูแลคุณชายเถอะค่ะ ถ้ามีอะไรก็เรียกฉันได้ งั้นฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ”

เกาหย่าเหวินถอนหายใจด้วยท่าทางที่หยิ่งยโสราวกับว่าตนเองเป็นนายหญิงของที่นี่ยังไงยังงั้น

เมื่อเห็นว่าคนรับใช้เดินออกไปและปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว แสงในห้องก็มืดลงเล็กน้อย เกาหย่าเหวินแสยะยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจ เธอก็ค่อยๆ วางมือลงบนหน้าอกของอวี้หนานเฉิง

“หนานเฉิง…”

อวี้หนานเฉิงเมามาก เขารู้สึกรำคาญจึงพยายามดึงเนกไทที่อยู่รอบคอ พร้อมกับเพ้อด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า

“ร้อนจัง”

“ร้อนเหรอ” เกาหย่าเหวินเอนตัวลงไปกระซิบที่ข้างหู “ฉันจะช่วยถอดเสื้อให้นะ”

เกาหย่าเหวินพูดขึ้นพลางยื่นมือออกไปปลดกระดุมที่คอเสื้อของอวี้หนานเฉิงออก

หลังจากที่ปลดกระดุมเสื้อทั้งหมดออก ก็เผยให้เห็นหน้าอกอันบึกบึนและสีผิวที่ขาวราวกับข้าวสาลี ดวงตาของเกาหย่าเหวินร้อนเร่าขึ้นเรื่อยๆ เธอถอดรองเท้า และพลิกตัวขึ้นไปนั่งบนเอวของอวี้หนานเฉิง มือทั้งสองข้างค่อยๆ ลูบไล้บนเรือนร่างของเขาอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นเอง เสียงลูกบิดของประตูห้องก็ดังขึ้น ในห้องที่มืดมองเห็นได้ไม่ค่อยชัดเจน ปรากฏแสงสว่างจากทางด้านนอกสาดส่องทะลุเข้ามา เผยให้เห็นเงาของคนร่างเล็กๆ สะท้อนอยู่บนพื้นของห้องนอน

ใช่ นั่นคืออวี้จิ่งซี

หลังจากที่เกาหย่าเหวินมองเห็นหน้าคนที่เข้ามาอย่างชัดเจน เธอจึงพยายามระงับความโกรธ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำกว่า

“ใครให้เธอเข้ามา ออกไป”

โดยปกติแล้ว เมื่ออวี้จิ่งซีเห็นเกาหย่าเหวิน เขาจะต้องรีบหนีไป แต่เมื่อลองคิดดูในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินจากคนใช้ในบ้าน แม้ว่าจะกลัว แต่เขาก็พยายามยืนหยัดและกัดฟันอยู่ที่หน้าประตูไม่ขยับ

ใบหน้าของเกาหย่าเหวินแสดงให้เป็นถึงความโกรธ เธอทำได้เพียงแค่ต้องหยุดทำในสิ่งที่เธอคิด จากนั้นก็พลิกตัวลุกขึ้นจากเตียง เกาหย่าเหวินขับไล่อวี้จิ่งซีให้ออกไปจากห้อง หลังจากมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าไม่มีใครเห็น เธอจึงยื่นมือออกไปบีบแก้มของเด็กน้อยและพูดเตือนเขาว่า

“เสี่ยวจิ่งซี ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกกับเธอไปแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องของฉัน มิฉะนั้น คนที่จะต้องโดนลงโทษก็คือเธอ”

เมื่ออวี้จิ่งซีถูกบีบแก้มอย่างเจ็บปวด เขาก็พยายามดิ้นรน

เกาหย่าเหวินกลัวว่าเขาจะส่งเสียงร้องเรียกคนอื่น ดังนั้นเธอจึงออกแรงผลักเขาอย่างแรง

“เงียบเดี๋ยวนี้”

ก่อนที่คำพูดประโยคนี้จะจบลง อวี้จิ่งซีที่ถูกเธอผลักก็ล้มลง เป็นเพราะพื้นที่ลื่น ทำให้ก็เด็กน้อยล้มลงและไถลเซตรงไปที่บันได

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผูกรักท่านประธานพันล้าน 34 คนที่ต้องถูกลงโทษคือเธอ

Now you are reading ผูกรักท่านประธานพันล้าน Chapter 34 คนที่ต้องถูกลงโทษคือเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซิ่งอันหรานยืนอยู่บนบันไดเลื่อนพร้อมกับหันหน้ากลับมายิ้มเยาะเย้ย

“ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งมาก ไม่เหมือนกับคุณหนูใหญ่แห่งบ้านตระกูลเซิ่ง ที่วันๆ เอาแต่นั่งๆ นอนๆ คิดแต่เรื่องที่จะฮุบเอาทรัพย์สินสมบัติของตระกูลมา

เซิ่งอันเหยากำมือทั้งสองข้าง ด้วยความรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก

เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เธอลงทุนลงแรงกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอย่างมาก เพื่อทำให้เซิ่งอันหรานเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้คุณพ่อเกลียดชังเธอ เซิ่งอันเหยาต้องการที่จะทำให้น้องสาวต่างมารดาคนนี้หายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ เพื่อที่เธอจะได้มีคุณสมบัติเป็นทายาทของตระกูลเซิ่งและฮุบสมบัติของตระกูลเซิ่งไว้เพียงคนเดียว แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเธอก็คือเซิ่งอันหรานดันหนีไปได้ และไม่คิดว่าเซิ่งอันหรานจะหนีเอาชีวิตรอดมาได้ถึงหกปี

6 ปีที่เซิ่งอันหรานไม่อยู่ ตัวเธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่จู่ๆ เซิ่งอันหรานก็ดันโผล่กลับมา มันเป็นได้อย่างไร?

——

ตอนเย็นหลังจากเลิกงานกลับบ้าน เซิ่งอันหรานเข้าครัวทำอาหารให้กับเสี่ยวซิงซิงทาน ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอรีบเช็ดมือเธอกับผ้ากันเปื้อนและหยิบโทรศัพท์ออกมา

ทันทีที่เซิ่งอันหรานเห็นหาจอโทรศัพท์โชว์เบอร์ของสายเรียกเข้า เธอก็ชะงักไปในชั่วขณะ

เป็นสายโทรเข้าจากคุณพ่อ

“คุณพ่อ”

“ได้ยินว่าลูกกลับมาแล้ว?”

เสียงทุ้มต่ำของฝ่ายผู้เป็นพ่อดังเข้ามาจากอีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ อาจจะเป็นเพราะทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และเหมือนว่าน้ำเสียงของท่านจะดูเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย

“ค่ะ คุณพ่อ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา พร้อมกับมือที่จับกับโทรค่อยๆ ลดต่ำลง

ไม่จำเป็นต้องคิดเลยว่า เซิ่งอันเหยากลับไปแล้วพูดอะไร เพราะไม่ว่าเธอจะ พูดอะไรล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ไม่ดีทั้งนั้น

“ไหนๆ ก็กลับมาแล้ว อย่างนั้นก็ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเราเถอะ จะไปอยู่ข้างนอกตลอดได้ยังไงกัน”

เมื่อเซิ่งอันหรานได้ยินเช่นนั้นแล้ว เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ หนูอยู่ข้างนอกมีความสุขดี”

“อันหราน พ่อรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องแม่ของลูก ทำให้ลูกไม่ค่อยพอใจในตัวพ่อ แต่ว่าบ้านยังไงซะก็เป็นบ้าน ลูกเป็นผู้หญิงไปอยู่ข้างนอกคนเดียวพ่อไม่ค่อยวางใจ เอาเป็นว่าลูก…”

“คุณพ่อคะ” เซิ่งอันหรานพูดแทรกขึ้นเพื่อขัดจังหวะ “หนูใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกหนูมีความสุขดีค่ะ หนู… หนูมีงานทำ และตอนนี้หนูก็อาศัยอยู่ในอพาร์เมนท์ที่อยู่ใกล้กับบริษัท ขอโทษนะคะ แต่ตอนนี้หนูกำลังยุ่งอยู่ ต้องวางสายแล้ว ไว้ถ้าหนูมีเวลาว่างหนูจะโทรกลับไปนะคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณพ่อตระกูลเซิ่งก็ไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก เขาได้พูดกำสับเธอเพียงแค่สองประโยค จากนั้นสายโทรศัพท์ก็ตัดไป

เซิ่งอันหรานเป็นคนหัวแข็งและขี้งอน นิสัยขี้งอนของเธอในเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่มีไม่แพ้เซิ่งอันเหยาเลยแม้แต่น้อย บวกกับตอนที่เธอเกิดมาแล้วไม่มีแม่ เธอค่อนข้างโชคร้าย ญาติผู้ใหญ่ในตระกูลเซิ่งต่างก็พากันไม่ชอบเธอ เพราะพวกเขาคิดว่าเธอชอบสันโดษและเอาแต่ใจ

หลังจากที่เซิ่งอันหรานวางสายโทรศัพท์ เธอก็ยืนอยู่ในครัวเป็นเวลาพักใหญ่ๆ

“หม่าม้า” น้ำเสียงที่อ่อนโยนดังมาจากด้านหน้าประตู มันสามารถดึงสติของเซิ่งอันหรานกลับคืนมาได้

เมื่อเห็นลูกสาวตัวน้อย เธอจึงยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า “ว่ายังไง? หิวแล้วใช่ไหม? อาหารใกล้จะเสร็จแล้วจ้ะ”

เซิ่งเสี่ยวซิงเดินเข้าไปและชี้ไปที่โทรศัพท์มือถือ “ใช่คุณตาหรือเปล่าคะ?”

“ใช่จ๊ะ” เซิ่งอันหรานพยักหน้า เธอก้มหน้าลงมองลูกสาวตัวน้อยพร้อมกับลูบไปที่ศีรษะของเธอ จากนั้นก็เอ่ยปากถามเสี่ยวซิงซิงขึ้นด้วยความลังเลว่า

เซิ่งเสี่ยวซิงเป็นเด็กดีและเชื่อฟังมากๆ เธอกะพริบตาจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “หม่าม้าล่ะ?ถ้าหม่าม้าอยากจะกลับไปหนูก็จะไปกับหม่าม้าด้วย หม่าม้าอยู่ที่ไหน ซิงซิงก็จะอยู่ที่นั่นด้วย เพราะยังไงซะซิงซิงก็ขาดหม่าม้าไม่ได้ เสี่ยวซิงซิงเป็นแก้วตาดวงใจของหม่าม้า ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเซิ่งอันหรานก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันที เธอรีบโน้มตัวเข้าไปสวมกอดลูกสาวอันเป็นที่รักของเธอไว้ในอ้อมแขน

“ใช่จ้ะ เสี่ยวซิงซิงเป็นแก้วตาดวงใจของหม่าม้า ไม่ว่าจะเมื่อไหนก็ไม่มีวันเปลี่ยนไป”

ย้อนกลับไปในตอนนั้นที่เธอพาลูกไปต่างประเทศด้วย เหตุผลประการแรก เพื่อหลีกเลี่ยงชายที่ซื้อลูกของเธอไป และประการที่สอง คือเธอยังไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องนี้กับครอบครัวว่ายังไง ถ้าหากว่าเธอพาลูกกลับบ้านไปตอนนี้ล่ะก็

จนกระทั่งถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านไปกว่าห้าปีแล้ว เรื่องของเสี่ยวซิงซิงจะเปิดไว้เป็นความลับตลอดไปไม่ได้

ตอนนี้เธอไม่อยากจะเผชิญกับปัญหา เพราะมีบางคนต้องการสร้างปัญหาให้กับตัวเธอ ว่าไปแล้วเมื่องจินหลิงจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่มาก จะว่าเล็กก็ไม่เล็กไปเลยซะทีเดียว เป็นการยากที่จะรับประกันว่าเซิ่งอันเหยาจะไม่สืบรู้เรื่องนี้ก่อน ดังนั้นเธอจะต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าถึงจะถูก

เวลาตกตอนดึก——

“หนานเฉิง วันนี้คุณดื่มเยอะเกินไปแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณเอง”

ที่ทางเข้าออกของประตูโรงแรม เกาหย่าเหวินกำลังพยุงอวี้หนานเฉิงด้วยท่าทางที่ทุลักทุเล หางตาของเธอเหลือบไปเห็นรถตู้ที่ไม่จอดอยู่ในระยะที่ไม่ไกลมาก

กล้องถ่ายภาพความคมชัดสูงบันทึกภาพทุกการเคลื่อนไหวตั้งแต่ตอนที่เกาหย่าเหวินพยุงอวี้หนานเฉิงออกมาจากโรงแรม เธอพยุงอวี้หนานเฉิงอย่างแนบชิด เกาหย่าเหวินที่อยู่ในชุดราตรีและหน้าอกคู่นั้นกำลังถูกแขนของอวี้หนานเฉิงเบียดทับอยู่ แขนของเขาเบียดทับหน้าออกของเธอจนเห็นได้ชัดว่าหน้าอกเสียทรง

อวี้หนานเฉิงเริ่มได้สติขึ้นมาเล็กน้อย เขารับรู้ได้ถึงสัมผัสของอะไรบางอย่าง อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว เล็กน้อย ก่อนที่จะสะบัดแขนออก

“ไม่ต้องมาพยุงผม ผมเดินเองได้”

“หนานเฉิง ”

เกาหย่าเหวินรีบจับชายกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งไล่ตามอวี้หนานเฉิงไป “ดึกขนาดนี้แล้วฉันไม่ค่อยวางใจที่จะให้คุณกลับไปเอง ให้ฉันไปส่งคุณก่อน จากนั้นฉันก็จะกลับ”

ในรถตู้ที่อยู่ไกลออกไป มีเสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัวๆ รูปภาพของเกาหย่าเหวินที่กำลังวิ่งไล่ตามอวี้หนานเฉิงขึ้นไปบนรถถูกถ่ายไว้อย่างต่อเนื่อง

อวี้ย่วนวิลล่า เป็นสถานที่ที่อวี้หนานเฉิงมักจะอาศัยอยู่

ไวน์ที่ดื่มในวันนี้มีฤทธิ์แรงกว่าเมื่อก่อนมาก ทันทีที่ลงจากรถ แทบจะทำให้เขาเข่าอ่อนและยืนทรงตัวไม่อยู่ เกาหย่าเหวินเรียกคนใช้ในบ้านมาช่วยพยุงอวี้หนานเฉิงไปส่งจนถึงในห้องนอน

“ครั้งนี้คุณชายดื่มมากไปหน่อย คุณเกา รบกวนคุณแล้ว”

แม่บ้านรีบบอกขอบคุณ

“ไม่เป็นไร เพราะไม่ว่ายังไงฉันกับหนานเฉิงก็จะต้องเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ถ้าฉันไม่ดูแลเขา แล้วใครจะเป็นคนดูแลเขาล่ะ” เกาหย่าเหวินนั่งลงตรงด้านข้างของเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ ยื่นมืออันเรียวยาวสัมผัสไปที่ของไหล่ของอวี้หนานเฉิง พร้อมกับเหลือบมองคนรับใช้ “ที่นี่ไม่มีธุระอะไรของเธอแล้ว เดี๋ยวฉันจะเป็นคนดูแลเขาเอง”

“หา?” คนรับใช้ชะงัก “คุณเกา แล้วคุณจะไม่กลับเหรอคะ?”

“ไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ?” สีหน้าของเกาหย่าเหวินเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย “ในไม่ช้านี้ ที่นี่ก็จะเป็นบ้านของฉัน แล้วเธอจะให้ฉันกลับไปที่ไหน?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนรับใช้ก็รู้ตัวว่าตัวเองสื่อความหมายผิด เธอรีบส่ายหน้าและรีบอธิบายว่า “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น อย่างนั้นคุณเกาก็ดูแลคุณชายเถอะค่ะ ถ้ามีอะไรก็เรียกฉันได้ งั้นฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ”

เกาหย่าเหวินถอนหายใจด้วยท่าทางที่หยิ่งยโสราวกับว่าตนเองเป็นนายหญิงของที่นี่ยังไงยังงั้น

เมื่อเห็นว่าคนรับใช้เดินออกไปและปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว แสงในห้องก็มืดลงเล็กน้อย เกาหย่าเหวินแสยะยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจ เธอก็ค่อยๆ วางมือลงบนหน้าอกของอวี้หนานเฉิง

“หนานเฉิง…”

อวี้หนานเฉิงเมามาก เขารู้สึกรำคาญจึงพยายามดึงเนกไทที่อยู่รอบคอ พร้อมกับเพ้อด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า

“ร้อนจัง”

“ร้อนเหรอ” เกาหย่าเหวินเอนตัวลงไปกระซิบที่ข้างหู “ฉันจะช่วยถอดเสื้อให้นะ”

เกาหย่าเหวินพูดขึ้นพลางยื่นมือออกไปปลดกระดุมที่คอเสื้อของอวี้หนานเฉิงออก

หลังจากที่ปลดกระดุมเสื้อทั้งหมดออก ก็เผยให้เห็นหน้าอกอันบึกบึนและสีผิวที่ขาวราวกับข้าวสาลี ดวงตาของเกาหย่าเหวินร้อนเร่าขึ้นเรื่อยๆ เธอถอดรองเท้า และพลิกตัวขึ้นไปนั่งบนเอวของอวี้หนานเฉิง มือทั้งสองข้างค่อยๆ ลูบไล้บนเรือนร่างของเขาอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นเอง เสียงลูกบิดของประตูห้องก็ดังขึ้น ในห้องที่มืดมองเห็นได้ไม่ค่อยชัดเจน ปรากฏแสงสว่างจากทางด้านนอกสาดส่องทะลุเข้ามา เผยให้เห็นเงาของคนร่างเล็กๆ สะท้อนอยู่บนพื้นของห้องนอน

ใช่ นั่นคืออวี้จิ่งซี

หลังจากที่เกาหย่าเหวินมองเห็นหน้าคนที่เข้ามาอย่างชัดเจน เธอจึงพยายามระงับความโกรธ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำกว่า

“ใครให้เธอเข้ามา ออกไป”

โดยปกติแล้ว เมื่ออวี้จิ่งซีเห็นเกาหย่าเหวิน เขาจะต้องรีบหนีไป แต่เมื่อลองคิดดูในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินจากคนใช้ในบ้าน แม้ว่าจะกลัว แต่เขาก็พยายามยืนหยัดและกัดฟันอยู่ที่หน้าประตูไม่ขยับ

ใบหน้าของเกาหย่าเหวินแสดงให้เป็นถึงความโกรธ เธอทำได้เพียงแค่ต้องหยุดทำในสิ่งที่เธอคิด จากนั้นก็พลิกตัวลุกขึ้นจากเตียง เกาหย่าเหวินขับไล่อวี้จิ่งซีให้ออกไปจากห้อง หลังจากมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าไม่มีใครเห็น เธอจึงยื่นมือออกไปบีบแก้มของเด็กน้อยและพูดเตือนเขาว่า

“เสี่ยวจิ่งซี ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกกับเธอไปแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องของฉัน มิฉะนั้น คนที่จะต้องโดนลงโทษก็คือเธอ”

เมื่ออวี้จิ่งซีถูกบีบแก้มอย่างเจ็บปวด เขาก็พยายามดิ้นรน

เกาหย่าเหวินกลัวว่าเขาจะส่งเสียงร้องเรียกคนอื่น ดังนั้นเธอจึงออกแรงผลักเขาอย่างแรง

“เงียบเดี๋ยวนี้”

ก่อนที่คำพูดประโยคนี้จะจบลง อวี้จิ่งซีที่ถูกเธอผลักก็ล้มลง เป็นเพราะพื้นที่ลื่น ทำให้ก็เด็กน้อยล้มลงและไถลเซตรงไปที่บันได

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+