ผูกรักท่านประธานพันล้าน 28 เหมาะเป็นคนหน้าตาดีและร่ำรวย

Now you are reading ผูกรักท่านประธานพันล้าน Chapter 28 เหมาะเป็นคนหน้าตาดีและร่ำรวย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำพูดนี้กลับทำให้เกาหย่าเหวินได้สติ

เป็นอย่างนั้นจริง อวี้หนานเฉิงเป็นคนที่ไม่ฟังใคร คำพูดของชายชรา เขาเหมือนน้อมรับฟัง ส่วนตัวเขาจะทำยังไงเป็นเรื่องของเขาเอง ดังนั้นเรื่องงานแต่งนี้เธอแค่ทำให้อวี้หนานเฉิงไม่เปลี่ยนใจก็พอ

คืนนั้นอวี้หนานเฉิง พ่อลูกพักที่บ้านเก่า

เดินนึกว่าชายชรามีอะไรจะพูด ผลคือจู่ๆ รับสายโทรศัพท์ โบกมือไล่ให้คนใช้เก็บกวาดห้อง แล้วล็อกห้องหนังสือจากด้านใน

“ช่วงนี้คุณปู่ยุ่งมากเหรอ?” อวี้หนานเฉิงมองพ่อบ้านด้วยความสงสัย

พ่อบ้านสีหน้าสุขุม พูดอย่างไม่รีบร้อน

“ช่วงนี้คุณผู้ชายติดต่อกับเพื่อนค่อนข้างเยอะ เพราะอะไรผมก็ไม่แน่ใจ คุณชายน้อยไปพักก่อนเถอะ รอคุณผู้ชายคุยโทรศัพท์เสร็จ”

ผลคือคุยโทรศัพท์จนถึงเที่ยงคืน อวี้หนานเฉิงอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทั้งเล่มให้อวี้จิ่งซี สุดท้ายอวี้จิ่งซีหลับไป เขาก็ห้าวไม่หยุด ดูเวลาตอนนี้ก็5ทุ่มแล้ว ก็ไม่ได้รออีกนอนหลับไป

เซิ่งอันหรานเที่ยงคืนตื่นมาดื่มน้ำ ยืนอยู่ห้องรับแขกก็เห็นห้องเซิ่งเสี่ยวซิงยังเปิดไฟอยู่ ขมวดคิ้วทันทีเดินเข้าไป

ในห้องมีเสียงพูดของซิงซิงน้อย

“คุณปู่ไม่ได้บอกหนูยังมีคนคนนี้อยู่ นี่ยุ่งยากจริงๆ หากคุณปู่บอกหนู หนูไม่ให้หม่าม้าหนูไปแล้ว ยุ่งยากมาก”

เซิ่งอันหรานบิดประตู พูดถามคิ้วขมวด

“ซิงซิงน้อย กลางดึกไม่ยอมนอน ทำอะไรอยู่?”

เซิ่งเสี่ยวซิงรีบวางสายทันที หันหลังอย่างตกใจ ตาคู่หนึ่งหมุนติ้วๆ

“เปล่านะ หนูคุยโทรศัพท์กับแม่บุญธรรม”

เซิ่งอันหรานได้ยินตาเป็นประกาย “จริงเหรอ? หม่าม้ามีเรื่องจะคุยกับเธอพอดี เอาโทรศัพท์มาให้หม่าม้า

ให้หม่าม้าพูดสองประโยค ”

“ไม่มี”เซิ่งเสี่ยวซิงเอามือถือซ้อนไว้ด้านหลัง “วางสายไปแล้ว แม่บุญธรรมบอกจะนอนแล้ว”

“หา ?”

เซิ่งอันหรานผิดหวังเล็กน้อย และไม่ได้สงสัยอะไรอีก

“ช่างเถอะ ลูกรีบเข้านอน นี่มันกี่โมงแล้ว เด็กต้องนอนให้เร็ว”

“รู้แล้วค่ะ”เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้า คิ้วกลับชนกัน ท่าทีกังวล “หม่าม้า เมื่อกี้หนูได้รับข่าวร้ายมา หม่าม้าอยากฟังไหม? ”

เซิ่งอันหรานหน้าตึง

“แม่บุญธรรมหนูลงมือกับลูกค้าอีกเหรอ?”

ถานซูจิ้งแม้ว่าชื่อจะมีความหมายว่าสุภาพเรียบร้อย แต่คนกลับไม่เรียบร้อยสักนิด โมโหร้าย บวกกับฝีมือดี เจอลูกค้าที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็ลงมือเป็นเรื่องธรรมดา

ตอนนี้เธอรู้สึกเครียดเล็กน้อย

“ไม่ใช่” เซิ่งเสี่ยวซิงรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่เรื่องของแม่บุญธรรม เป็นเรื่องของหม่าม้า”

“หม่าม้า?”

เซิ่งอันหรานชี้ไปที่จมูกตัวเอง

“อือ” เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้า ถอนหายใจด้วยใบหน้าเศร้าๆ “หม่าม้า หนูรู้สึกว่างานแต่งครั้งที่ 2 สองหมดหวังแล้ว”

“งานแต่งครั้งที่ 2” เซิ่งอันหรานมึนงง

“หนูได้ยินมาว่าลุงอวี้เจ้านายของพวกหม่าม้าจะแต่งงานแล้ว ”

เซิ่งอันหรานได้ยินก็นิ่งไป

ช่วงนี้เรื่องอวี้หนานเฉิงจะแต่งกับเกาหย่าเหวินทุกคนในบริษัทต่างก็รู้ พูดกันเป็นรูปเป็นร่าง บวกกับได้ยินเกาหย่าเหวินเข้าออกแผนกผู้บริหารบ่อยๆ ไม่กลัวคนซุบซิบนินทา อวี้หนานเฉิงก็ไม่ได้ออกมาชี้แจง ดังนั้นทุกคนต่างถือว่าเป็นเรื่องจริง

แต่เรื่องอวี้หนานเฉิงจะแต่งงานเกี่ยวอะไรกับตัวเอง?

“หนูพูดไร้สาระอะไร?”

“ลุงอวี้หน้าตาหล่อแถมมีเงิน เหมาะเป็นคนหน้าตาดีและร่ำรวย หากหม่าม้าแต่งกับเขาละก็ หนูก็จะได้สุขสบายไปด้วย ตอนนี้เป็นไง ใครใช้หม่าม้าไม่คว้าไว้ให้ดี เขาจะแต่งงานแล้ว ”

ตอนนี้เซิ่งอันหรานถึงเข้าใจขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่าเด็กนี้ยังไม่ปล่อยวางเรื่องหาสามีให้เธอ

ตอนนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จิ้มหน้าผากเธอแล้วพูดว่า

“ในสมองน้อยๆ ของหนู วันๆ เอาแต่คิดอะไรอยู่? เขาแต่งงานไม่แต่งงานเกี่ยวอะไรกับหม่าม้า? เขาเป็นหัวหน้าของหม่าม้า หนูไม่ต้องคิดเรื่องหม่าม้า ไปนอนได้แล้ว”

เซิ่งเสี่ยวซิงปีนขึ้นเตียงนอนเงียบๆ ในใจแอบเศร้าโอกาสดีๆ หายหมด เซิ่งอันหรานกลับส่ายหน้าใบหน้าไม่มีทางเลือก ดับไฟปิดประตู

หลังจากวันนั้น เซิ่งอันหรานเตรียมของทั้งหมดที่เซิ่งเสี่ยวซิงต้องใช้ในการเรียนอย่างต่อเนื่อง ตั้งใจเลือกวันจันทร์ตอนเช้าไปส่งเธอที่โรงเรียน

โรงเรียนในประเทศต่างกับโรงเรียนในต่างประเทศ เธอยังกังวลนิดหน่อยว่าเซิ่งเสี่ยวซิงจะไม่ชินกับสภาพแวดล้อม

ที่‘บังเอิญ’คือ อวี้หนานเฉิงก็เลือกมาส่งอวี้จิ่งซีเข้าเรียนวันนี้เหมือนกัน

“จิ่งซีน้อยอยู่บ้านมีครูสอนไม่ดีเหรอ? จู่ๆ ทำไมคิดอยากส่งเขามาโรงเรียน?”

ในรถ เกาหย่าเหวินเหมือนถามไปงั้นๆ หนึ่งประโยค

หลังจากที่อวี้หนานเฉิงพูดเรื่องแต่งงานกับเธอ เธอก็ยิ่งใส่ใจ ขยันไปบ้านอวี้หนานเฉิงและเซิ่งถังกรุปสองแห่ง โดยเฉพาะได้ยินว่าวันนี้อวี้จิ่งซีไปเรียน ตั้งใจไปถึงบ้านตอนเช้าๆ เพื่อไปพร้อมกับเขา ท่าทีเหมือนใส่ใจ

“คนเยอะหน่อย มีส่วนช่วยให้เขาฟื้นฟู” อวี้หนานเฉิงหน้านิ่ง

เรื่องมาโรงเรียนหากไม่ใช่อวี้จิ่งซีเป็นคนขอจะมาเอง อันที่จริงเขาไม่คิดจะให้ลูกมา ในโรงเรียนคนเยอะ ที่ที่มีคนเยอะเรื่องก็เยอะ ถึงเวลาไม่แน่ว่าเขาจะดูแลไม่ทั่วถึง

“ถ้าจิ่งซีชอบละก็ วันหลังให้น้องชายน้องสาวสองสามคนให้เขา ก็มีเพื่อนแล้วไม่ใช่เหรอ”

คำพูดนี้ออกมา อวี้จิ่งซีหน้าซีดไป กอดกระดานวาดรูปของตัวเองสะดุ้งอยู่บนเก้าอี้นิรภัย

ผู้หญิงเลวคลอดลูกออกมา ต้องเลวเหมือนกันแน่ๆ

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วขึ้นเหมือนกัน “ตอนนี้ยังไม่มีความคิดนี้ มีแค่จิ่งซีคนเดียวก็พอแล้ว”

คำนี้ทำให้สีหน้าเกาหย่าเหวินซีดขาวแล้วเขียว

หมายความว่าไง? นี่คือหลังจากแต่งงานก็ไม่คิดมีลูกกับเหรองั้นเหรอ?

บรรยากาศเงียบลงเล็กน้อย ดีตรงที่โรงเรียนอยู่ไม่ไกล เดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้ว

คนขับเปิดประตู อวี้หนานเฉิงจูงมืออวี้จิ่งซีไปทางหน้าประตูโรงเรียน

ยังเดินไม่ถึงสองก้าว จู่ๆ อวี้จิ่งซีก็สะบัดมือเขาวิ่งไปทางร่างหนึ่ง

เซิ่งอันหรานกำลังคุยกับผู้ช่วยนั่วหย่าที่มาต้อนรับเธอกับเซิ่งเสี่ยวซิง จู่ๆ โดนจับขาแน่น ก้มหน้าก็เห็นใบหน้าหล่อของอวี้จิ่งซีกำลังกอดขาเธออยู่ ใบหน้าน้อยใจเม้มปากให้เธอ

“จิ่งซี”เซิ่งอันหรานรีบนั่งลง “หนูก็เรียนที่นี่เหมือนกันเหรอ? ทำไมถึงทำหน้าบึ้ง? ยังไม่ตื่นเหรอ?”

อวี้จิ่งซีส่ายหน้าอย่างน้อยใจ

เซิ่งเสี่ยวซิงข้างๆ เห็นอวี้จิ่งซีก็ดีใจ จับมือเขาแล้วพูดอย่างไม่รู้ตัว

“ที่แท้พี่ก็เรียนนี่เหมือนกัน งั้นก็ดีเลย หนูมีเพื่อนแล้ว วันหลังหนูดูแลพี่เอง!”

อวี้หนานเฉิงและเกาหย่าเหวินเดินเข้ามา เห็นอวี้จิ่งซีและเซิ่งอันหรานแม่ลูกสนิทกันมากๆ เกาหย่าเหวินจ้องหน้าด้านข้างของเซิ่งอันหราน ดูอยู่นานเอาแต่รู้สึกคุ้นหน้ามากๆ

“คุณเกา”เซิ่งอันหรานเห็นเกาหย่าเหวิน รีบยืนตัวตรง “สวัสดีค่ะ”

“คุณรู้จักฉัน?”เกาหย่าเหวินขมวดคิ้ว

“เกาหย่าเหวินราชินีหนังใครไม่รู้จัก”เซิ่งอันหรานยิ้ม “ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้คุณเข้าพักที่โรงแรมเซิ่งถัง ฉันเป็นคนดูแล”

“คุณเป็นพนักงานเซิ่งถัง?” เกาหย่าเหวินอึ้งไป จู่ๆ นึกอะไรได้ ถามต่อ

“คุณนามสกุลเซิ่งใช่ไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผูกรักท่านประธานพันล้าน 28 เหมาะเป็นคนหน้าตาดีและร่ำรวย

Now you are reading ผูกรักท่านประธานพันล้าน Chapter 28 เหมาะเป็นคนหน้าตาดีและร่ำรวย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำพูดนี้กลับทำให้เกาหย่าเหวินได้สติ

เป็นอย่างนั้นจริง อวี้หนานเฉิงเป็นคนที่ไม่ฟังใคร คำพูดของชายชรา เขาเหมือนน้อมรับฟัง ส่วนตัวเขาจะทำยังไงเป็นเรื่องของเขาเอง ดังนั้นเรื่องงานแต่งนี้เธอแค่ทำให้อวี้หนานเฉิงไม่เปลี่ยนใจก็พอ

คืนนั้นอวี้หนานเฉิง พ่อลูกพักที่บ้านเก่า

เดินนึกว่าชายชรามีอะไรจะพูด ผลคือจู่ๆ รับสายโทรศัพท์ โบกมือไล่ให้คนใช้เก็บกวาดห้อง แล้วล็อกห้องหนังสือจากด้านใน

“ช่วงนี้คุณปู่ยุ่งมากเหรอ?” อวี้หนานเฉิงมองพ่อบ้านด้วยความสงสัย

พ่อบ้านสีหน้าสุขุม พูดอย่างไม่รีบร้อน

“ช่วงนี้คุณผู้ชายติดต่อกับเพื่อนค่อนข้างเยอะ เพราะอะไรผมก็ไม่แน่ใจ คุณชายน้อยไปพักก่อนเถอะ รอคุณผู้ชายคุยโทรศัพท์เสร็จ”

ผลคือคุยโทรศัพท์จนถึงเที่ยงคืน อวี้หนานเฉิงอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทั้งเล่มให้อวี้จิ่งซี สุดท้ายอวี้จิ่งซีหลับไป เขาก็ห้าวไม่หยุด ดูเวลาตอนนี้ก็5ทุ่มแล้ว ก็ไม่ได้รออีกนอนหลับไป

เซิ่งอันหรานเที่ยงคืนตื่นมาดื่มน้ำ ยืนอยู่ห้องรับแขกก็เห็นห้องเซิ่งเสี่ยวซิงยังเปิดไฟอยู่ ขมวดคิ้วทันทีเดินเข้าไป

ในห้องมีเสียงพูดของซิงซิงน้อย

“คุณปู่ไม่ได้บอกหนูยังมีคนคนนี้อยู่ นี่ยุ่งยากจริงๆ หากคุณปู่บอกหนู หนูไม่ให้หม่าม้าหนูไปแล้ว ยุ่งยากมาก”

เซิ่งอันหรานบิดประตู พูดถามคิ้วขมวด

“ซิงซิงน้อย กลางดึกไม่ยอมนอน ทำอะไรอยู่?”

เซิ่งเสี่ยวซิงรีบวางสายทันที หันหลังอย่างตกใจ ตาคู่หนึ่งหมุนติ้วๆ

“เปล่านะ หนูคุยโทรศัพท์กับแม่บุญธรรม”

เซิ่งอันหรานได้ยินตาเป็นประกาย “จริงเหรอ? หม่าม้ามีเรื่องจะคุยกับเธอพอดี เอาโทรศัพท์มาให้หม่าม้า

ให้หม่าม้าพูดสองประโยค ”

“ไม่มี”เซิ่งเสี่ยวซิงเอามือถือซ้อนไว้ด้านหลัง “วางสายไปแล้ว แม่บุญธรรมบอกจะนอนแล้ว”

“หา ?”

เซิ่งอันหรานผิดหวังเล็กน้อย และไม่ได้สงสัยอะไรอีก

“ช่างเถอะ ลูกรีบเข้านอน นี่มันกี่โมงแล้ว เด็กต้องนอนให้เร็ว”

“รู้แล้วค่ะ”เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้า คิ้วกลับชนกัน ท่าทีกังวล “หม่าม้า เมื่อกี้หนูได้รับข่าวร้ายมา หม่าม้าอยากฟังไหม? ”

เซิ่งอันหรานหน้าตึง

“แม่บุญธรรมหนูลงมือกับลูกค้าอีกเหรอ?”

ถานซูจิ้งแม้ว่าชื่อจะมีความหมายว่าสุภาพเรียบร้อย แต่คนกลับไม่เรียบร้อยสักนิด โมโหร้าย บวกกับฝีมือดี เจอลูกค้าที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็ลงมือเป็นเรื่องธรรมดา

ตอนนี้เธอรู้สึกเครียดเล็กน้อย

“ไม่ใช่” เซิ่งเสี่ยวซิงรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่เรื่องของแม่บุญธรรม เป็นเรื่องของหม่าม้า”

“หม่าม้า?”

เซิ่งอันหรานชี้ไปที่จมูกตัวเอง

“อือ” เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้า ถอนหายใจด้วยใบหน้าเศร้าๆ “หม่าม้า หนูรู้สึกว่างานแต่งครั้งที่ 2 สองหมดหวังแล้ว”

“งานแต่งครั้งที่ 2” เซิ่งอันหรานมึนงง

“หนูได้ยินมาว่าลุงอวี้เจ้านายของพวกหม่าม้าจะแต่งงานแล้ว ”

เซิ่งอันหรานได้ยินก็นิ่งไป

ช่วงนี้เรื่องอวี้หนานเฉิงจะแต่งกับเกาหย่าเหวินทุกคนในบริษัทต่างก็รู้ พูดกันเป็นรูปเป็นร่าง บวกกับได้ยินเกาหย่าเหวินเข้าออกแผนกผู้บริหารบ่อยๆ ไม่กลัวคนซุบซิบนินทา อวี้หนานเฉิงก็ไม่ได้ออกมาชี้แจง ดังนั้นทุกคนต่างถือว่าเป็นเรื่องจริง

แต่เรื่องอวี้หนานเฉิงจะแต่งงานเกี่ยวอะไรกับตัวเอง?

“หนูพูดไร้สาระอะไร?”

“ลุงอวี้หน้าตาหล่อแถมมีเงิน เหมาะเป็นคนหน้าตาดีและร่ำรวย หากหม่าม้าแต่งกับเขาละก็ หนูก็จะได้สุขสบายไปด้วย ตอนนี้เป็นไง ใครใช้หม่าม้าไม่คว้าไว้ให้ดี เขาจะแต่งงานแล้ว ”

ตอนนี้เซิ่งอันหรานถึงเข้าใจขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่าเด็กนี้ยังไม่ปล่อยวางเรื่องหาสามีให้เธอ

ตอนนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จิ้มหน้าผากเธอแล้วพูดว่า

“ในสมองน้อยๆ ของหนู วันๆ เอาแต่คิดอะไรอยู่? เขาแต่งงานไม่แต่งงานเกี่ยวอะไรกับหม่าม้า? เขาเป็นหัวหน้าของหม่าม้า หนูไม่ต้องคิดเรื่องหม่าม้า ไปนอนได้แล้ว”

เซิ่งเสี่ยวซิงปีนขึ้นเตียงนอนเงียบๆ ในใจแอบเศร้าโอกาสดีๆ หายหมด เซิ่งอันหรานกลับส่ายหน้าใบหน้าไม่มีทางเลือก ดับไฟปิดประตู

หลังจากวันนั้น เซิ่งอันหรานเตรียมของทั้งหมดที่เซิ่งเสี่ยวซิงต้องใช้ในการเรียนอย่างต่อเนื่อง ตั้งใจเลือกวันจันทร์ตอนเช้าไปส่งเธอที่โรงเรียน

โรงเรียนในประเทศต่างกับโรงเรียนในต่างประเทศ เธอยังกังวลนิดหน่อยว่าเซิ่งเสี่ยวซิงจะไม่ชินกับสภาพแวดล้อม

ที่‘บังเอิญ’คือ อวี้หนานเฉิงก็เลือกมาส่งอวี้จิ่งซีเข้าเรียนวันนี้เหมือนกัน

“จิ่งซีน้อยอยู่บ้านมีครูสอนไม่ดีเหรอ? จู่ๆ ทำไมคิดอยากส่งเขามาโรงเรียน?”

ในรถ เกาหย่าเหวินเหมือนถามไปงั้นๆ หนึ่งประโยค

หลังจากที่อวี้หนานเฉิงพูดเรื่องแต่งงานกับเธอ เธอก็ยิ่งใส่ใจ ขยันไปบ้านอวี้หนานเฉิงและเซิ่งถังกรุปสองแห่ง โดยเฉพาะได้ยินว่าวันนี้อวี้จิ่งซีไปเรียน ตั้งใจไปถึงบ้านตอนเช้าๆ เพื่อไปพร้อมกับเขา ท่าทีเหมือนใส่ใจ

“คนเยอะหน่อย มีส่วนช่วยให้เขาฟื้นฟู” อวี้หนานเฉิงหน้านิ่ง

เรื่องมาโรงเรียนหากไม่ใช่อวี้จิ่งซีเป็นคนขอจะมาเอง อันที่จริงเขาไม่คิดจะให้ลูกมา ในโรงเรียนคนเยอะ ที่ที่มีคนเยอะเรื่องก็เยอะ ถึงเวลาไม่แน่ว่าเขาจะดูแลไม่ทั่วถึง

“ถ้าจิ่งซีชอบละก็ วันหลังให้น้องชายน้องสาวสองสามคนให้เขา ก็มีเพื่อนแล้วไม่ใช่เหรอ”

คำพูดนี้ออกมา อวี้จิ่งซีหน้าซีดไป กอดกระดานวาดรูปของตัวเองสะดุ้งอยู่บนเก้าอี้นิรภัย

ผู้หญิงเลวคลอดลูกออกมา ต้องเลวเหมือนกันแน่ๆ

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วขึ้นเหมือนกัน “ตอนนี้ยังไม่มีความคิดนี้ มีแค่จิ่งซีคนเดียวก็พอแล้ว”

คำนี้ทำให้สีหน้าเกาหย่าเหวินซีดขาวแล้วเขียว

หมายความว่าไง? นี่คือหลังจากแต่งงานก็ไม่คิดมีลูกกับเหรองั้นเหรอ?

บรรยากาศเงียบลงเล็กน้อย ดีตรงที่โรงเรียนอยู่ไม่ไกล เดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้ว

คนขับเปิดประตู อวี้หนานเฉิงจูงมืออวี้จิ่งซีไปทางหน้าประตูโรงเรียน

ยังเดินไม่ถึงสองก้าว จู่ๆ อวี้จิ่งซีก็สะบัดมือเขาวิ่งไปทางร่างหนึ่ง

เซิ่งอันหรานกำลังคุยกับผู้ช่วยนั่วหย่าที่มาต้อนรับเธอกับเซิ่งเสี่ยวซิง จู่ๆ โดนจับขาแน่น ก้มหน้าก็เห็นใบหน้าหล่อของอวี้จิ่งซีกำลังกอดขาเธออยู่ ใบหน้าน้อยใจเม้มปากให้เธอ

“จิ่งซี”เซิ่งอันหรานรีบนั่งลง “หนูก็เรียนที่นี่เหมือนกันเหรอ? ทำไมถึงทำหน้าบึ้ง? ยังไม่ตื่นเหรอ?”

อวี้จิ่งซีส่ายหน้าอย่างน้อยใจ

เซิ่งเสี่ยวซิงข้างๆ เห็นอวี้จิ่งซีก็ดีใจ จับมือเขาแล้วพูดอย่างไม่รู้ตัว

“ที่แท้พี่ก็เรียนนี่เหมือนกัน งั้นก็ดีเลย หนูมีเพื่อนแล้ว วันหลังหนูดูแลพี่เอง!”

อวี้หนานเฉิงและเกาหย่าเหวินเดินเข้ามา เห็นอวี้จิ่งซีและเซิ่งอันหรานแม่ลูกสนิทกันมากๆ เกาหย่าเหวินจ้องหน้าด้านข้างของเซิ่งอันหราน ดูอยู่นานเอาแต่รู้สึกคุ้นหน้ามากๆ

“คุณเกา”เซิ่งอันหรานเห็นเกาหย่าเหวิน รีบยืนตัวตรง “สวัสดีค่ะ”

“คุณรู้จักฉัน?”เกาหย่าเหวินขมวดคิ้ว

“เกาหย่าเหวินราชินีหนังใครไม่รู้จัก”เซิ่งอันหรานยิ้ม “ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้คุณเข้าพักที่โรงแรมเซิ่งถัง ฉันเป็นคนดูแล”

“คุณเป็นพนักงานเซิ่งถัง?” เกาหย่าเหวินอึ้งไป จู่ๆ นึกอะไรได้ ถามต่อ

“คุณนามสกุลเซิ่งใช่ไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+