ผู้รักษาสุดแกร่ง 508 วางอำนาจ

Now you are reading ผู้รักษาสุดแกร่ง Chapter 508 วางอำนาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มีคนหลายคนเขาว่ากันว่า บางคนอยู่เพื่อใช้ชีวิต แต่บางคนอยู่เพื่อมีชีวิต”

“พี่รองแต่ก่อนพี่เป็นถึงคุณหนูเศรษฐีเชียวนะ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะตกอับ แต่ก็ไม่น่าจะขัดสนถึงขนาดนี่มั้ง”

เกาฟางอ้าปากพูดก็เปรียบเทียบถังหมิ่นกับชีวิตเมื่อก่อน ถังหมิ่นแต่ก่อนนั้นสูงส่ง เป็นถึงคุณหนูรองแห่งตระกูลถัง มีทั้งเงินและอิทธิพล ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

แต่ว่าตอนนี้กลับกลายเป็นแค่คนธรรมดา ขนาดตระกูลถังยังไม่ยอมรับเธอเลย ครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกต้องมาใช้ชีวิตกันอยู่ในบ้านเล็กเท่ารูหนูแบบนี้ ใช้ชีวิตธรรมดาอย่างสุด ๆ

ถังหมิ่นกลอกตาอีกครั้ง เอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่

“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสิ เทียบกับน้องสามไม่ติดหรอก พวกเราใช้ชีวิตกันอย่างคนธรรมดา ๆ ก็พอใจแล้ว เดี๋ยวแนะนำก่อนนะ นี่เป็นหลานชายของฉัน ฉินจุน”

ฉินจุนเอ่ยทักทายป้าสามอย่างสุภาพ นี่ถือเป็นการควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้วถือว่าได้รับการสั่งสอนจากที่บ้าน

เกาฟางชะงัก “นี่มันคุณชายฉินนั่นน่ะเหรอ?พวกเธอยังติดต่อกันอยู่อีกเหรอ พี่สองพี่นี่สุดยอดจริง ๆ เลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลฉินล่ะก็……เห้อช่างเถอะ”

คนอย่างเกาฟางไม่เข้าใจเรื่องครอบครัวหรอก ในสายตาของเธอ มีเพียงคนที่มีประโยชน์ต่อเธอเท่านั้นถึงจะนับเป็นญาติ

อย่างฉินจุนอย่างนี้ ทำให้เธอต้องโดนไล่ออกจากตระกูลถัง ถ้าเปลี่ยนเป็นเกาฟางเจอแบบเธอ ก็คงตัดขาดกับฉินจุนไปนานแล้ว

ที่ด้านหลังของเกาฟางยังมีอีกสองคนตามมาด้วย เป็นชายคนหญิงคน ต่างก็ยังเป็นวัยรุ่นกันทั้งคู่ เขามาในบ้านตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เกาฟางจึงเอ่ยแนะนำ

“นี่คือถิงถิง เป็นลูกสะใภ้ของฉันเอง ถิงถิง ถ้านับตามญาติแล้วหนูต้องเรียกเขาว่าป้าสอง”

ถิงถิงเพียงแค่เหลือบมองถังหมิ่นนิ่ง ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “สวัสดีค่ะ”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างขมวดคิ้วมุ่น ยัยถิงถิงคนนี้นี่ไม่มีมารยาทเลย ขนาดแนะนำแล้วว่าเธอมีฐานะเป็นป้าสอง เธอกลับเอ่ยแค่สวัสดี

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่กลับทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอไม่ให้ความเคารพ

เกาฟางยิ้มบาง ๆ “พวกเธออย่าตำหนิเลย พอดีที่บ้านของลูกสะใภ้ฉันมีกฎค่อนข้างเข้มงวด ถ้าไม่ได้เป็นญาติกันโดยตรง ก็ห้ามนับคนอื่นว่าเป็นญาติกัน”

หลินเยวี่ยเหยาชะงักเธอไม่เข้าใจ

“ทำไมกันคะ?”

เกาฟางยิ้มแล้วเอ่ย “ก็ลูกสะใภ้ของฉันมาจากตระกูลเศรษฐี ถ้าหากมีคนมาพูดซี้ซั้วว่าเป็นญาติกัน ใช้ชื่อของเธอไปทำเรื่องอะไรไม่ดี มันก็จะส่งผลกระทบต่อตระกูลของเธอ”

หลินเยวี่ยเหยากลอกตามองบน เธอล่ะเอือมระอาหมดคำจะพูดจริง ๆ อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องถามคำถามนี้ แต่เพื่อเปิดโอกาสให้เกาฟางได้โอ้อวดเสียหน่อย

ตระกูลเศรษฐีที่ไหนกัน ต้องเว่อร์ขนาดนี้เชียวเหรอ?

ต่อให้เป็นสี่ตระกูลใหญ่แบบในอดีตก็ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย?

เกาฟางรู้สึกว่าสถานการณ์มันเริ่มอึดอัด เธอจึงเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม

“พวกพี่กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ?เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาฉันได้ยินเสียงพวกพี่คุยกันครึกครื้นเชียว?”

ถังหมิ่นเอ่ย “กำลังคุยกันเรื่องแต่งงานของหลานชายฉันน่ะ หลานชายฉันจะไปสู่ขอแล้ว”

เกาฟางได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

“อ๋อ?จะแต่งงานแล้ว?ฐานะทางบ้านผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”

ลูกชายของเกาฟางได้แต่งงานกับหญิงสาวตระกูลเศรษฐี เพราะฉะนั้นเธอจึงรู้สึกสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ

เธอรู้สึกว่าถ้าหากคนอื่นไปแต่งงานกับหญิงสาวครอบครัวธรรมดา ๆ ถือว่าไร้ความสามารถ

ถังหมิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง “ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน กำลังคุยกันเรื่องนี้พอดี เสี่ยวจุน รีบบอกมาเลยนะแฟนคนนี้ของหลานที่บ้านเขาทำอะไร?”

ฉินจุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่อยากพูดออกไป

เพราะถึงอย่างไรหลิ่วชิงชิงก็เป็นคนมีชื่อเสียง ถ้าหากเกาฟางเอาไปพูดมั่วซั่วออกไป อาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อคนอื่นได้ง่าย

“ก็ครอบครัวธรรมดานี่ล่ะครับ ผมเองก็ไม่ค่อยรู้มาก”

ที่ฉินจุนพูดก็ไม่ได้ถือว่าโกหก บ้านของหลิ่วชิงชิงทำอาชีพอะไรเขาก็ไม่รู้จริง ๆ

แต่ว่าหลิ่วชิงชิงสามารถกลายเป็นนักธุรกิจสาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยได้ ก็คงจะได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวไม่น้อย

ไม่มีนักธุรกิจรุ่นใหม่เจ้าของธุรกิจชั้นนำคนไหนที่จะสร้างธุรกิจขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่า มีแต่ในนิยายไร้สาระเท่านั้นที่คนอายุยี่สิบกว่าจะสามารถสร้างธุรกิจมีทรัพย์สมบัติหลายร้อยล้าน

อย่างวัยอย่างหลิ่วชิงชิงแบบนี้ ตอนเริ่มแรกจะต้องให้ครอบครัวช่วยเหลือแน่นอน

ฐานะของครอบครัวของหลิ่วชิงชิงคงจะไม่แย่ แต่ก็อาจจะแค่มีฐานะปานกลางไม่แย่ น่าจะยังห่างไกลจากตระกูลเศรษฐีมากอยู่

แต่พอหลิ่วชิงชิงก้าวหน้า คนในครอบครัวก็สุขสบายไปด้วย ตอนนี้ตระกูลหลิ่วก็ถือว่าเป็นตระกูลเศรษฐีไปด้วย

ใบหน้าของเกาฟางของเผยรอยยิ้มอย่างนึกสนุก “ครอบครัวธรรมดา ๆ ไม่ได้หรอกนะ สมัยนี้หาคู่ ถึงแม้ว่าเขาบอกว่าให้หาคู่ที่ฐานะเท่าเทียมกัน แต่ว่าเป็นผู้ชายน่ะนะก็ควรหาคนที่เขามีฐานะครอบครัวดีกว่า จะได้ไม่ต้องลำบากหลายปี”

“เธอดูลูกชายของฉันสิ ได้ถิงถิงมาเป็นคู่ชีวิต ครอบครัวของเราก็กลายเป็นครอบครัวเศรษฐีไปเลย แต่ก่อนก็อยู่บ้านธรรมดา ๆ แบบนี้แหละ แต่ตอนนี้ได้อยู่คฤหาสน์แล้ว จริงไหมจ๊ะ?”

ถิงถิงยิ้มบาง ๆ เธอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางวางมาด ว่าตัวเองเป็นคุณหนูมาจากตระกูลเศรษฐี ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก

สายตาที่เธอมองพวกฉินจุน มันเหมือนกับมังกรที่มองเหล่าฝูงมด ทั้งดูถูกและสมเพช

“ก็ไม่ได้หมายความว่าตระกูลเศรษฐีจะดีไปหมดหรอกนะ ตระกูลเศรษฐีก็มีเรื่องให้ต้องกลุ้มใจ อีกอย่างก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะมีความสามารถหาแฟนเป็นคุณหนูจากตระกูลเศรษฐีได้ คุณแม่คะ คุณแม่อย่าเอาความคาดหวังของคุณแม่ไปคาดหวังคนอื่นเลยค่ะ”

เกาฟางหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ลูกสะใภ้คนนี้นี่ทำให้เธอได้หน้าจริง ๆ

“ฮ่าฮ่า ถิงถิงพูดถูกจ้ะ เสี่ยวจุนเอ้ย ป้าก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอ เดี๋ยวป้าจะช่วยสแกนแฟนที่เธอหามาให้ เรื่องพวกนี้น่ะป้าสามอย่างฉันน่ะถนัดเลยแหละ แต่ว่าถ้าหากว่าฐานะไม่ดี ต่อให้หน้าตาสวยก็ไม่โอเคนะ เข้าใจไหม?”

เสี่ยวจุนขมวดคิ้ว ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอเป็นใครกัน?

ถ้าไม่ใช่เพราะป้ารองแนะนำให้รู้จัก เขาก็ไม่รู้จักคนคนนี้ด้วยซ้ำ

คนอย่างเธอ มีสิทธิ์อะไรมาเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของฉินจุน?

แต่ว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดี ยัยผู้หญิงคนนี้คิดว่าตัวเองเจ๋งมาก ยัยถิงถิงคนนี้ฉินจุนรู้สึกคุ้นหน้า น่าจะเคยเจอที่ไหนมาก่อน ถือว่าเป็นคุณหนูมีฐานะ แต่ไม่ถือว่าเป็นตระกูลเศรษฐี

เกาฟางเอาแต่โอ้อวด ทำให้คนอื่นเอือมระอามาก ๆ

ฉินจุนเอ่ย “ที่ป้าพูดมาผมก็เข้าใจครับ ผมคิดว่าบ้านของแฟนผมก็น่าจะฐานะไม่เลวนะ”

เกาฟางรู้สึกว่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เธออยากจะเปรียบเทียบถังหมิ่นมาก

“ดีนี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ วันไปสู่ขอฉันจะไปด้วย ฉันอยากจะช่วยพวกเธอสแกนหลานสะใภ้!”

ถังหมิ่นขมวดคิ้ว “น้องสามเธอจะไปเหรอ?ไม่ค่อยดีมั้ง เธอไม่ได้รู้จักใครเขาเสียหน่อย……”

เกาฟางเอ่ย “ไม่ดีตรงไหน ฉันเองก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเสี่ยวจุนไหมล่ะ อีกอย่างฉันได้ยินมาว่าตระกูลฉิน……ตระกูลฉินไม่มีใครแล้วไม่ใช่หรือไง ครอบครัวของพวกเราไปด้วย จะได้ดูใหญ่โต นายคิดว่างั้นไหม?”

พอเห็นสีหน้านึกสนกของเกาฟาง ฉินจุนก็เพียงแค่ยิ้มบาง ๆ

“ในเมื่อป้าอยากไปก็ไปด้วยกันก็ได้ครับ”

ไปด้วยก็ไม่มีปัญหาหรอก ขอแค่อย่างเดียวอย่าช็อกจนตกใจตายล่ะ

……

คืนนั้นเกาฟางและคนอื่นๆ ไปเช่าโรงแรมที่ชั้นล่างนอน จริง ๆ แล้วบ้านของป้ารองก็มีพื้นที่เพียงพอ เพราะบ้านของป้ารองก็เป็นแบบสามห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก กว้างกว่าขนาดมาตรฐานด้วยซ้ำ

แต่หลัวถิงถิงบอกว่า พื้นที่มันแคบเกินไป เหยียดขาไม่ได้ ต้องนอนที่กว้าง ๆ ถึงจะโอเค

ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนเธอก็วางมาดคุณนายจากตระกูลเศรษฐี สุดท้ายก็เลยหาเปิดโรงแรมนอนถึงจะพอใจ

คืนนั้นฉินจุนติดต่อไปหาหลิ่วชิงชิง หลิ่วชิงชิงก็เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว

“พรุ่งนี้ฉันจะส่งคนไปรับพวกคุณ เขาเป็นหุ้นส่วนเล็กๆ ของบริษัทเรา แซ่หลัวค่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผู้รักษาสุดแกร่ง 508 วางอำนาจ

Now you are reading ผู้รักษาสุดแกร่ง Chapter 508 วางอำนาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มีคนหลายคนเขาว่ากันว่า บางคนอยู่เพื่อใช้ชีวิต แต่บางคนอยู่เพื่อมีชีวิต”

“พี่รองแต่ก่อนพี่เป็นถึงคุณหนูเศรษฐีเชียวนะ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะตกอับ แต่ก็ไม่น่าจะขัดสนถึงขนาดนี่มั้ง”

เกาฟางอ้าปากพูดก็เปรียบเทียบถังหมิ่นกับชีวิตเมื่อก่อน ถังหมิ่นแต่ก่อนนั้นสูงส่ง เป็นถึงคุณหนูรองแห่งตระกูลถัง มีทั้งเงินและอิทธิพล ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

แต่ว่าตอนนี้กลับกลายเป็นแค่คนธรรมดา ขนาดตระกูลถังยังไม่ยอมรับเธอเลย ครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกต้องมาใช้ชีวิตกันอยู่ในบ้านเล็กเท่ารูหนูแบบนี้ ใช้ชีวิตธรรมดาอย่างสุด ๆ

ถังหมิ่นกลอกตาอีกครั้ง เอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่

“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสิ เทียบกับน้องสามไม่ติดหรอก พวกเราใช้ชีวิตกันอย่างคนธรรมดา ๆ ก็พอใจแล้ว เดี๋ยวแนะนำก่อนนะ นี่เป็นหลานชายของฉัน ฉินจุน”

ฉินจุนเอ่ยทักทายป้าสามอย่างสุภาพ นี่ถือเป็นการควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้วถือว่าได้รับการสั่งสอนจากที่บ้าน

เกาฟางชะงัก “นี่มันคุณชายฉินนั่นน่ะเหรอ?พวกเธอยังติดต่อกันอยู่อีกเหรอ พี่สองพี่นี่สุดยอดจริง ๆ เลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลฉินล่ะก็……เห้อช่างเถอะ”

คนอย่างเกาฟางไม่เข้าใจเรื่องครอบครัวหรอก ในสายตาของเธอ มีเพียงคนที่มีประโยชน์ต่อเธอเท่านั้นถึงจะนับเป็นญาติ

อย่างฉินจุนอย่างนี้ ทำให้เธอต้องโดนไล่ออกจากตระกูลถัง ถ้าเปลี่ยนเป็นเกาฟางเจอแบบเธอ ก็คงตัดขาดกับฉินจุนไปนานแล้ว

ที่ด้านหลังของเกาฟางยังมีอีกสองคนตามมาด้วย เป็นชายคนหญิงคน ต่างก็ยังเป็นวัยรุ่นกันทั้งคู่ เขามาในบ้านตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เกาฟางจึงเอ่ยแนะนำ

“นี่คือถิงถิง เป็นลูกสะใภ้ของฉันเอง ถิงถิง ถ้านับตามญาติแล้วหนูต้องเรียกเขาว่าป้าสอง”

ถิงถิงเพียงแค่เหลือบมองถังหมิ่นนิ่ง ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “สวัสดีค่ะ”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างขมวดคิ้วมุ่น ยัยถิงถิงคนนี้นี่ไม่มีมารยาทเลย ขนาดแนะนำแล้วว่าเธอมีฐานะเป็นป้าสอง เธอกลับเอ่ยแค่สวัสดี

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่กลับทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอไม่ให้ความเคารพ

เกาฟางยิ้มบาง ๆ “พวกเธออย่าตำหนิเลย พอดีที่บ้านของลูกสะใภ้ฉันมีกฎค่อนข้างเข้มงวด ถ้าไม่ได้เป็นญาติกันโดยตรง ก็ห้ามนับคนอื่นว่าเป็นญาติกัน”

หลินเยวี่ยเหยาชะงักเธอไม่เข้าใจ

“ทำไมกันคะ?”

เกาฟางยิ้มแล้วเอ่ย “ก็ลูกสะใภ้ของฉันมาจากตระกูลเศรษฐี ถ้าหากมีคนมาพูดซี้ซั้วว่าเป็นญาติกัน ใช้ชื่อของเธอไปทำเรื่องอะไรไม่ดี มันก็จะส่งผลกระทบต่อตระกูลของเธอ”

หลินเยวี่ยเหยากลอกตามองบน เธอล่ะเอือมระอาหมดคำจะพูดจริง ๆ อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องถามคำถามนี้ แต่เพื่อเปิดโอกาสให้เกาฟางได้โอ้อวดเสียหน่อย

ตระกูลเศรษฐีที่ไหนกัน ต้องเว่อร์ขนาดนี้เชียวเหรอ?

ต่อให้เป็นสี่ตระกูลใหญ่แบบในอดีตก็ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย?

เกาฟางรู้สึกว่าสถานการณ์มันเริ่มอึดอัด เธอจึงเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม

“พวกพี่กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ?เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาฉันได้ยินเสียงพวกพี่คุยกันครึกครื้นเชียว?”

ถังหมิ่นเอ่ย “กำลังคุยกันเรื่องแต่งงานของหลานชายฉันน่ะ หลานชายฉันจะไปสู่ขอแล้ว”

เกาฟางได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

“อ๋อ?จะแต่งงานแล้ว?ฐานะทางบ้านผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”

ลูกชายของเกาฟางได้แต่งงานกับหญิงสาวตระกูลเศรษฐี เพราะฉะนั้นเธอจึงรู้สึกสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ

เธอรู้สึกว่าถ้าหากคนอื่นไปแต่งงานกับหญิงสาวครอบครัวธรรมดา ๆ ถือว่าไร้ความสามารถ

ถังหมิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง “ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน กำลังคุยกันเรื่องนี้พอดี เสี่ยวจุน รีบบอกมาเลยนะแฟนคนนี้ของหลานที่บ้านเขาทำอะไร?”

ฉินจุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่อยากพูดออกไป

เพราะถึงอย่างไรหลิ่วชิงชิงก็เป็นคนมีชื่อเสียง ถ้าหากเกาฟางเอาไปพูดมั่วซั่วออกไป อาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อคนอื่นได้ง่าย

“ก็ครอบครัวธรรมดานี่ล่ะครับ ผมเองก็ไม่ค่อยรู้มาก”

ที่ฉินจุนพูดก็ไม่ได้ถือว่าโกหก บ้านของหลิ่วชิงชิงทำอาชีพอะไรเขาก็ไม่รู้จริง ๆ

แต่ว่าหลิ่วชิงชิงสามารถกลายเป็นนักธุรกิจสาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยได้ ก็คงจะได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวไม่น้อย

ไม่มีนักธุรกิจรุ่นใหม่เจ้าของธุรกิจชั้นนำคนไหนที่จะสร้างธุรกิจขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่า มีแต่ในนิยายไร้สาระเท่านั้นที่คนอายุยี่สิบกว่าจะสามารถสร้างธุรกิจมีทรัพย์สมบัติหลายร้อยล้าน

อย่างวัยอย่างหลิ่วชิงชิงแบบนี้ ตอนเริ่มแรกจะต้องให้ครอบครัวช่วยเหลือแน่นอน

ฐานะของครอบครัวของหลิ่วชิงชิงคงจะไม่แย่ แต่ก็อาจจะแค่มีฐานะปานกลางไม่แย่ น่าจะยังห่างไกลจากตระกูลเศรษฐีมากอยู่

แต่พอหลิ่วชิงชิงก้าวหน้า คนในครอบครัวก็สุขสบายไปด้วย ตอนนี้ตระกูลหลิ่วก็ถือว่าเป็นตระกูลเศรษฐีไปด้วย

ใบหน้าของเกาฟางของเผยรอยยิ้มอย่างนึกสนุก “ครอบครัวธรรมดา ๆ ไม่ได้หรอกนะ สมัยนี้หาคู่ ถึงแม้ว่าเขาบอกว่าให้หาคู่ที่ฐานะเท่าเทียมกัน แต่ว่าเป็นผู้ชายน่ะนะก็ควรหาคนที่เขามีฐานะครอบครัวดีกว่า จะได้ไม่ต้องลำบากหลายปี”

“เธอดูลูกชายของฉันสิ ได้ถิงถิงมาเป็นคู่ชีวิต ครอบครัวของเราก็กลายเป็นครอบครัวเศรษฐีไปเลย แต่ก่อนก็อยู่บ้านธรรมดา ๆ แบบนี้แหละ แต่ตอนนี้ได้อยู่คฤหาสน์แล้ว จริงไหมจ๊ะ?”

ถิงถิงยิ้มบาง ๆ เธอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางวางมาด ว่าตัวเองเป็นคุณหนูมาจากตระกูลเศรษฐี ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก

สายตาที่เธอมองพวกฉินจุน มันเหมือนกับมังกรที่มองเหล่าฝูงมด ทั้งดูถูกและสมเพช

“ก็ไม่ได้หมายความว่าตระกูลเศรษฐีจะดีไปหมดหรอกนะ ตระกูลเศรษฐีก็มีเรื่องให้ต้องกลุ้มใจ อีกอย่างก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะมีความสามารถหาแฟนเป็นคุณหนูจากตระกูลเศรษฐีได้ คุณแม่คะ คุณแม่อย่าเอาความคาดหวังของคุณแม่ไปคาดหวังคนอื่นเลยค่ะ”

เกาฟางหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ลูกสะใภ้คนนี้นี่ทำให้เธอได้หน้าจริง ๆ

“ฮ่าฮ่า ถิงถิงพูดถูกจ้ะ เสี่ยวจุนเอ้ย ป้าก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอ เดี๋ยวป้าจะช่วยสแกนแฟนที่เธอหามาให้ เรื่องพวกนี้น่ะป้าสามอย่างฉันน่ะถนัดเลยแหละ แต่ว่าถ้าหากว่าฐานะไม่ดี ต่อให้หน้าตาสวยก็ไม่โอเคนะ เข้าใจไหม?”

เสี่ยวจุนขมวดคิ้ว ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอเป็นใครกัน?

ถ้าไม่ใช่เพราะป้ารองแนะนำให้รู้จัก เขาก็ไม่รู้จักคนคนนี้ด้วยซ้ำ

คนอย่างเธอ มีสิทธิ์อะไรมาเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของฉินจุน?

แต่ว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดี ยัยผู้หญิงคนนี้คิดว่าตัวเองเจ๋งมาก ยัยถิงถิงคนนี้ฉินจุนรู้สึกคุ้นหน้า น่าจะเคยเจอที่ไหนมาก่อน ถือว่าเป็นคุณหนูมีฐานะ แต่ไม่ถือว่าเป็นตระกูลเศรษฐี

เกาฟางเอาแต่โอ้อวด ทำให้คนอื่นเอือมระอามาก ๆ

ฉินจุนเอ่ย “ที่ป้าพูดมาผมก็เข้าใจครับ ผมคิดว่าบ้านของแฟนผมก็น่าจะฐานะไม่เลวนะ”

เกาฟางรู้สึกว่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เธออยากจะเปรียบเทียบถังหมิ่นมาก

“ดีนี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ วันไปสู่ขอฉันจะไปด้วย ฉันอยากจะช่วยพวกเธอสแกนหลานสะใภ้!”

ถังหมิ่นขมวดคิ้ว “น้องสามเธอจะไปเหรอ?ไม่ค่อยดีมั้ง เธอไม่ได้รู้จักใครเขาเสียหน่อย……”

เกาฟางเอ่ย “ไม่ดีตรงไหน ฉันเองก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเสี่ยวจุนไหมล่ะ อีกอย่างฉันได้ยินมาว่าตระกูลฉิน……ตระกูลฉินไม่มีใครแล้วไม่ใช่หรือไง ครอบครัวของพวกเราไปด้วย จะได้ดูใหญ่โต นายคิดว่างั้นไหม?”

พอเห็นสีหน้านึกสนกของเกาฟาง ฉินจุนก็เพียงแค่ยิ้มบาง ๆ

“ในเมื่อป้าอยากไปก็ไปด้วยกันก็ได้ครับ”

ไปด้วยก็ไม่มีปัญหาหรอก ขอแค่อย่างเดียวอย่าช็อกจนตกใจตายล่ะ

……

คืนนั้นเกาฟางและคนอื่นๆ ไปเช่าโรงแรมที่ชั้นล่างนอน จริง ๆ แล้วบ้านของป้ารองก็มีพื้นที่เพียงพอ เพราะบ้านของป้ารองก็เป็นแบบสามห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก กว้างกว่าขนาดมาตรฐานด้วยซ้ำ

แต่หลัวถิงถิงบอกว่า พื้นที่มันแคบเกินไป เหยียดขาไม่ได้ ต้องนอนที่กว้าง ๆ ถึงจะโอเค

ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนเธอก็วางมาดคุณนายจากตระกูลเศรษฐี สุดท้ายก็เลยหาเปิดโรงแรมนอนถึงจะพอใจ

คืนนั้นฉินจุนติดต่อไปหาหลิ่วชิงชิง หลิ่วชิงชิงก็เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว

“พรุ่งนี้ฉันจะส่งคนไปรับพวกคุณ เขาเป็นหุ้นส่วนเล็กๆ ของบริษัทเรา แซ่หลัวค่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+