ผู้รักษาสุดแกร่ง 83 ผมก็ไม่มีลูกแบบคุณหรอก

Now you are reading ผู้รักษาสุดแกร่ง Chapter 83 ผมก็ไม่มีลูกแบบคุณหรอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หวังจื่อตกตะลึงทันที

ทำไมถึงนัดกับคนอื่นแล้วล่ะ?

นัดกับคนอื่นแล้ว แต่ทำไมถึงยังมาที่ร้านอาหารฟิวชั่นแห่งนี้อีกล่ะ?

"อาซุนครับ คุณกำลังล้อเล่นใช่ไหมครับ?"

ซุนเจี้ยนหมินขมวดคิ้ว "ฉันล้อเล่นอะไร ฉันมีนัดสำคัญ วันนี้ฉันทานข้าวกับนายไม่ได้แล้ว วันหลังเราค่อยนัดกับพ่อนายด้วยแล้วกัน"

หลังจากพูดจบ ซุนเจี้ยนหมินก็เดินผ่านเขาไป และเดินขึ้นไปชั้นบน

ทันใดนั้นหวังจื่อก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี เขาก็รีบเดินตามไปอย่างกังวล

ซุนเจี้ยนหมินขึ้นไปที่ชั้นบนสุด เมื่อเห็นที่นั่งที่ฉินจุนนั่งอยู่เขาก็รีบเดินไปทันที

"คุณฉิน"

ความสัมพันธ์ศิษย์พี่ศิษย์น้องไม่ควรเปิดเผยต่อหน้าคนอื่น

ฉินจุนไม่ได้ยืนขึ้น เพียงแค่หลบทางให้ซุนเจี้ยนหมินนั่ง

"นั่งสิ"

ซูเหวินฉีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ซุนเจี้ยนหมินคนนี้ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวหรือท่าทางก็ไม่ใช่คนธรรมดาเลย หรือว่าเขาคือผู้บริหารซุน?

แต่เมื่อดูจากท่าทีธรรมดาของฉินจุนแล้ว เธอก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลย หากผู้บริหารซุนมาแล้วจริง ๆ อย่างน้อยก็ต้องลุกขึ้นต้อนรับไหม?

"นี่คือเพื่อนของผม ซูเหวินฉี"

ซุนเจี้ยนหมินผงะไปครู่หนึ่ง เขาต้องรู้จักซูเหวินฉีอยู่แล้ว แต่เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นแฟนของศิษย์พี่?

"สวัสดีครับ ผมซุนเจี้ยนหมิน"

ซูเหวินฉีช็อคไปแล้ว ผู้บริหารซุนจริง ๆ งั้นเหรอ?

เธอรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และจับมืออย่างสุภาพ

ขณะที่ทั้งสองจับมือกันอยู่นั้น หวังจื่อที่ตามขึ้นมาเมื่อเห็นซุนเจี้ยนหมินนั่งอยู่ที่โต๊ะของฉินจุน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที

"อาซุน ที่คุณบอกว่ามีนัดสำคัญก็คือนัดกับพวกเขาเหรอ?"

ซุนเจี้ยนหมินขมวดคิ้ว สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย

"เด็กคนนี้นี่ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าวันอื่นค่อยไปทานข้าวกัน วันนี้ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณฉินและน้องเขา นายก็ตามสบายแล้วกัน"

ใบหน้าของหวังจื่อบูดเบี้ยว

คุณฉิน? น้อง?

หวังจื่อที่เรียกว่าเขาว่าอาอยู่ปาว ๆ แต่ฉินจุนกลับได้เป็นพี่น้องกับซุนเจี้ยนหมิน? แถมยังยอมรับว่าซูเหวินฉีเป็นน้องอีกงั้นเหรอ?

ชาติหน้าเถอะ!

ฉินจุนเป็นแค่คุณชายของตระกูลที่ที่ตกต่ำเท่านั้น ตอนนี้ก็เป็นแค่หมอ ไม่มีใครตะโกนด่าในตงไห่ก็ดีแล้ว ทำไมเขายังไปสนิทกับผู้บริหารซุนอีก?

แม้ว่าซูเหวินฉีจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าที่ฉินจุนบอกว่าเขาจัดการให้เธอได้ทานอาหารกับผู้บริหารซุน เขาทำได้จริง ๆ

เขาหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยันและพูดว่า

"ฉันจำได้ว่าเมื่อกี้มีคนพูดว่าถ้าคุณเชิญผู้บริหารซุนมาทานอาหารได้ จะยอมเรียกฉันว่าพ่อน่ะ ไม่ทราบว่านี่จริงไหม?"

ใบหน้าของหวังจื่อซีดเผือด เขากำกำปั้นแน่น ใบหน้าบูดบึ้ง

และฉินจุนก็พูดขึ้น "ช่างเถอะ ฉันก็ไม่มีลูกแบบคุณหรอก"

หวังจื่อ : ……..

การเชิญผู้บริหารซุนมาทานอาหาร ตรงนี้มีคนเยอะมาก ซึ่งรบกวนนิดหน่อย ซูเหวินฉีจึงเรียกพนักงานเสิร์ฟมา

"จัดห้องส่วนตัวให้หน่อยค่ะ"

ตอนแรกที่เลือกตำแหน่งริมหน้าต่างเพื่อทานอาหารค่ำกับฉินจุนก็เพื่อที่จะได้มีสีสันมากขึ้น แต่เมื่อผู้บริหารซุนมาแล้วก็ไปที่ห้องส่วนตัวเงียบ ๆ หน่อย

พนักงานเสิร์ฟรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย "พี่ซูครับ ห้องส่วนตัวเต็มแล้วครับ"

เมื่อหวังจื่อได้ยินดังนี้ เขาก็มีความสุขในทันที

"ห้องส่วนตัวเหรอ? ฉันจองไว้แล้ว ผู้บริหารซุนผมจองห้องส่วนตัวไว้ข้าง ๆ คุณไปกับผมสิ!"

ซุนเจี้ยนหมินผงะไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า

"ถ้าอย่างนั้น ก็เอาห้องส่วนตัวของคุณมาให้เราใช้เถอะ ยังไงวันนี้ฉันก็ไม่มีเวลาทานข้าวกับนายแล้ว"

คำพูดของซุนเจี้ยนหมิน ทำให้หวังจื่อพูดไม่ออกทันที ห้องส่วนตัวก็ถูกจองไว้แล้ว และก็สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะแล้ว นี่ก็ยังแพ้ไอ้ฉินจุนนี่อีกเหรอ?

"อาซุน งั้นให้ผมอยู่กับคุณไหม?"

"ไม่สะดวก"

วังจื่อ : …….

เมื่อเห็นทั้งสามคนเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้ว ใบหน้าของหวังจื่อก็บูดเบี้ยวมาก

ไอ้บ้าเอ๊ยแกกล้ามาแย่งผู้หญิงไปจากฉัน รนหาที่ตาย!

เดิมทีเขาไม่ก็อยากจะสนใจ 'ตัวประกอบ' แบบนี้หรอก คิดว่าจะพึ่งพาความสามารถและหน้าตาของตัวเอง สักวันก็จะคงได้ซูเหวินฉีมาครอง?

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าถ้าถ้าไม่จัดการจุนฉินก็คงจะมีปัญหาแล้วล่ะ

ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ ไอ้ฉิน แกอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน!

………

ในห้องส่วนตัว ทั้งสามคนทานอาหารในบรรยากาศสบายๆ

เมื่อเห็นความสัมพันธ์ระหว่างซูเหวินฉีและฉินจุนแล้ว ซุนเจี้ยนหมินก็ตอบรับคอนเสิร์ตของซูเหวินฉีทันที

เดิมทีก็มีดาราดังจำนวนมากมาให้เลือก เลือกใครมันก็เป็นเพราะโชคล้วน ๆ

ในเมื่อซูเหวินฉีเป็นเพื่อนของศิษย์พี่ ซุนเจี้ยนหมินก็ยินดีที่จะตกลงทันที และคอนเสิร์ตของซูเหวินฉีจะต้องขายดีแน่ ๆ จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตงไห่ได้แน่นอน

ในที่สุดเรื่องคอนเสิร์ตก็ตกลงกันได้แล้ว และซูเหวินฉีดีใจและประหลาดใจมาก ทานอาหารเสร็จก็เดินไปส่งผู้บริหารซุน จากนั้นทั้งสองก็ขึ้นรถ

"เฮ้ ตกลงนายเป็นใครกันแน่เนี่ย ทำไมนายถึงรู้จักกับผู้บริหารซุนล่ะ?"

"เอ่อ ผมเป็นญาติกับเขาน่ะ" คำอธิบายนี้ถือว่าสมเหตุสมผล ศิษย์พี่ศิษย์น้องก็ถือว่าเป็นญาติกันแหละเนอะ

"อ้อมิน่าล่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอบคุณคุณมากเลย! ยังไม่ดึกเลยเราขึ้นไปรับลมบนภูเขากันเถอะ!"

ขณะที่พูดซูเหวินฉีจึงสตาร์ทรถและขับออกไป

เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นนกฮูกกลางคืน ตกกลางคืนถึงออกมาหากิน ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว เธอกลับบอกว่ายังไม่ดึก

แต่ยังไงก็ํออกมาแล้ว ฉินจุนจึงต้องติดสอยห้อยตามเธอไป

ซูเหวินฉีไม่ติดหรูเลย ขับแค่โฟร์คสวาเกนเท่านั้น เธอขับไปไกลมาก มาจนถึงเขาชิงเหมยติดเขตชายแดนตงไห่

เขาชิงเหมยแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในตงไห่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาดีมาก และยังมีสัตว์ดุร้ายด้วย

นักลงทุนจำนวนมากพยายามแย่งชิงโครงการนี้ แต่ก็ไม่มีผล ถ้าโครงการนี้เสร็จสิ้น ในมณฑลฮั่นตงก็จะมีจุดชมวิว 5A แห่งใหม่เพิ่มขึ้นมา

ดูเหมือนซูเหวินฉีจะคุ้นเคยกับถนนเส้นนี้มาก แม้ว่าถนนจะขรุขระ แต่เธอก็ขับได้ค่อนข้างนิ่มเลย มีถนนที่คดเคี้ยวตลอดทาง และดูเหมือนว่าเธอกำลังขับรถขึ้นไปบนยอดเขา

ฉินจุนนั่งอยู่เบาะข้างคนขับมองดูทิวทัศน์อันไกลโพ้น ทำให้รู้สึกสบายใจมาก

ทันใดนั้นฉินจุนมองไปที่กระจกมองหลังและพูดว่า

"รถคันข้างหลังขับตามเรามานานแล้ว"

"จริงเหรอ? เราควรทำยังไงดี!"

แม้ว่าซูเหวินฉีจะมีทักษะในการขับรถไม่เลวเลย แต่ในสถานการณ์มีคนขับรถตามเช่นนี้เธอก็ยังรู้สึกประหม่ามาก

ถนนคดเคี้ยวนี้ได้รับการซ่อมแซมอย่างดี และรถสามคันก็สามารถขับเรียงกันได้

"คุณขับช้าลงหน่อย และปล่อยให้เขาแซงไป"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูเหวินฉีก็ชะลอทันที และแอบข้างทาง

แต่ทันใดนั้น รถที่อยู่ข้างหลังก็ชะลอตัวลงโดยไม่มีเจตนาจะแซงเลย

แต่ทันใดนั้นรถคันข้างหลังก็ชะลอความเร็วเหมือนกัน ไม่ได้แซงไปเหมือนที่คิด

ซูเหวินฉีก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย เพราะถ้าขึ้นไปไกลกว่านี้ก็คือยอดเขาแล้ว และทางก็จะแคบลง เหลือแค่สองเลนส์สวน หากเกิดเหตุการณ์อันตรายอะไร ต้องตายแน่ ๆ!

"ตอนนี้เราควรทำอย่างไร!"

ฉินจุนพูด "ไม่เป็นไร คุณขับชิดในต่อไปนี่แหละ"

"หือ? หรือคุณจะขับ?"

"ฉันขับไม่เป็น"

ซูเหวินฉีขมวดคิ้ว พูดไม่ออกเล็กน้อย เธอที่เป็นผู้หญิงขับรถคนเดียวเช่นนี้ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ได้หรอกนะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด