ยามดอกวสันต์ผลิบาน 434 ตัดขาด

Now you are reading ยามดอกวสันต์ผลิบาน Chapter 434 ตัดขาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เนื่องจาก​ท่าน​ลุง​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​เป็น​คน​เล่า​ให้​ห​ลี่​ซื่อ​ฟัง คาด​ว่า​คง​เป็น​เพราะ​เขา​อยากรู้​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​กับ​ซอย​จิ่ว​หรู​กัน​แน่​

พ่อค้า​มัก​คำนึงถึง​ผลกำไร​

โจว​เสาจิ่นอด​ที่จะ​ระแวดระวัง​ตัวอย่าง​ช่วยไม่ได้​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ก่อนหน้านี้​ข้า​เคย​ได้ยิน​ท่าน​น้า​ฉือ​พูดถึง​เหมือนกัน​ ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​ตระกูล​แล้ว​ไม่ดี​หรือ​เจ้าคะ​ อย่างไร​เสีย​ก็​แยก​จวน​กัน​มาตั้ง​นาน​แล้ว​ ก็​เพียง​อาศัย​อยู่​รวมกัน​ก็​เท่านั้น​ ตอนนี้​ท่าน​ลุง​และ​ท่าน​น้า​ทั้ง​สามคน​ล้วน​อยู่​จิงเฉิง ทั้ง​ยังมี​บุตรชาย​บุตรสาว​หรือ​แม้กระทั่ง​มีเหลน​กัน​แล้ว​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ท่าน​ลุง​ใหญ่​จิงทาง​ด้าน​โน้น​ ได้รับแต่งตั้ง​เป็น​เจ้ากรม​แล้ว​ ทว่า​ภายใน​จวน​กลับ​ไม่มีคน​คอย​ดูแล​เรื่อง​ภายใน​เรือน​เลย​แม้แต่​คนเดียว​ แต่​ถ้าหากว่า​ฮูหยิน​หยวน​มาอยู่​จิงเฉิง ก็​จำต้อง​ทิ้ง​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ไว้​ที่​จิน​ห​ลิง​อย่าง​โดดเดี่ยว​เพียงผู้เดียว​หรือไม่​ก็​ต้อง​ให้​พี่ชาย​สวี่​สอง​สามีภรรยา​อยู่​ดูแล​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ที่​บ้านเดิม​ แต่​พี่ชาย​สวี่​ก็​หวัง​จะได้รับ​การ​แต่งตั้ง​ยศ​ใน​การ​สอบ​ครั้ง​ถัดไป​ สอง​ปี​นี้​จึงเป็นเวลา​ที่​ต้อง​เร่งรัด​พอดี​ ข้า​คิด​ว่า​ พวก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​จะต้อง​ไตร่ตรอง​และ​พิจารณา​มาพอสมควร​แล้ว​ถึงได้​ตัดสินใจ​เช่นนี้​”

สีหน้า​ของ​ห​ลี่​ซื่อ​สงบ​ลง​เล็กน้อย​ พยักหน้า​หงึก​ๆ ไม่หยุด​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “เพียงแต่ว่า​จวน​หลัก​นั้น​มีสามบุตรชาย​สามจิ้น​ซื่อ​ หนึ่ง​ใน​นั้น​ยัง​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​ราชสำนัก​อีกด้วย​ ทว่า​จวน​รอง​นั้น​ไม่มีจิ้น​ซื่อ​สัก​คน​มาหลาย​รุ่น​แล้ว​ เมื่อ​เปรียบเทียบ​ทั้งสอง​ครอบครัว​แล้ว​ การ​แยก​ตระกูล​ไม่เป็นผลดี​ต่อ​จวน​รอง​มากกว่า​ และ​ทุกคน​ต่าง​ก็​ชอบ​เห็นใจ​คน​ที่​อ่อนแอ​กว่า​ ฉะนั้น​ถึงมีคำกล่าว​ที่ว่า​ทุก​บ้าน​ต่าง​มีคัมภีร์​ที่​อ่าน​ยาก​เป็น​ของ​ตัวเอง​ แม้แต่​ครอบครัว​ที่​ดี​อย่าง​จวน​หลัก​เช่นนี้​ก็​ไม่มีข้อยกเว้น​ พี่ชาย​ของ​ข้า​เพียง​เป็นกังวล​ว่า​หาก​จวน​หลัก​จัดการ​เรื่อง​นี้​ไม่ดี​อาจ​ถูก​ผู้อื่น​หยิบ​มาเป็นปัญหา​ไป​ฟ้องร้อง​ทางการ​ให้​มาตรวจสอบ​ได้​”

โจว​เสาจิ่น​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ต่อให้​มีคน​คิด​จะฟ้องร้อง​ ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่เกี่ยวกับ​พวกเรา​ ท่าน​ลุง​และ​ท่าน​น้า​ทั้งหลาย​ล้วน​เป็น​คน​มีวิสัยทัศน์​กว้างไกล​กัน​ทั้งนั้น​ พวกเรา​ยัง​คิดได้​ พวกเขา​ก็​ต้อง​คิดได้​อย่าง​แน่นอน​”

ห​ลี่​ซื่อ​คิด​ๆ ดู​แล้วก็​เห็น​เป็นจริง​ดังนั้น​ รู้สึก​กระดากอาย​ต่อ​ความ​วู่วาม​ของ​ตน​เล็กน้อย​อย่า​งอด​ไม่ได้​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “คุณหนู​รอง​ ยังคง​เป็น​เจ้ามีปัญญา​เห็น​แจ้ง!”

ที่ผ่านมา​ไม่เคย​มีคน​กล่าว​เช่นนี้​กับ​นาง​มาก่อน​!

โจว​เสาจิ่น​ขัดเขิน​

ห​ลี่​ซื่อ​คุย​กับ​โจว​เสาจิ่น​อีก​สอง​สามประโยค​แล้ว​ขอตัว​ลา​

โจว​เสาจิ่น​เดิน​ไป​ส่งนาง​ที่​ประตู​ แล้ว​กลับ​ไป​เอนตัว​อยู่​บน​ตั่ง​ตัว​ใหญ่​ข้าง​หน้าต่าง​ภายใน​ห้อง​ พลาง​ครุ่น​คิดถึง​เรื่อง​นี้​

ไม่รู้​ว่า​มีเรื่อง​ที่​นาง​พอ​จะช่วย​ได้​บ้าง​หรือไม่​

ยังมี​จวน​สี่อีก​ ก่อนหน้านี้​นาง​ให้​คน​นำ​จดหมาย​ไป​ส่งให้​ ท่าน​ลุง​ใหญ่​เหมี่ยน​เอาแต่​บอ​กว่า​ให้​นาง​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เรื่อง​นี้​ ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ก็​มีผู้ใหญ่​คอย​ออกหน้า​อยู่​ หลังจากนั้น​ก็​ไม่มีข่าวคราว​อะไร​มาอีก​เลย​ ไม่รู้​ว่า​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​

นาง​ไป​ห้อง​หนังสือ​ ฝน​หมึก​พร้อมกับ​ครุ่นคิด​ว่า​จะเขียนจดหมาย​ฉบับ​นี้​อย่างไร​ดี​

ทาง​ด้าน​ของ​ห​ลี่​ซื่อ​นั้น​เมื่อ​ออก​มาจาก​เรือน​หลัก​แล้วก็​มีสาวใช้​เด็ก​มาขวาง​เอาไว้​ กล่าวว่า​ “ฮูหยิน​ นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​ยัง​รอ​ท่าน​อยู่​ใน​ห้อง​รับรอง​แขก​ บอ​กว่า​มีเรื่องสำคัญ​จะหารือ​กับ​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​ก่อนหน้านี้​เฉิงฉือ​พัก​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ โจว​เสาจิ่น​จึงลอบ​บอกเป็นนัย​ให้​คนใน​บ้าน​รู้​ทั้ง​โดยตั้งใจ​และ​ไม่ตั้งใจ​ว่า​ วันใดวันหนึ่ง​เฉิงฉือ​อาจจะ​มาพัก​ที่​ห้อง​หนังสือ​อีก​ก็​เป็นได้​ ห​ลี่​ซื่อ​จึงจัด​แต่ง​ห้อง​รับรอง​แขก​ขึ้น​มาใหม่​อีก​ห้อง​หนึ่ง​ให้​พี่ชาย​ของ​นาง​ได้​พักผ่อน​

นาง​ได้ยิน​เช่นนั้น​แล้วจึง​ไป​ที่​ห้อง​รับรอง​แขก​

นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​กำลัง​ยืน​มอง​ภาพ​เสือ​ลง​หุบเขา​ที่​แขวน​อยู่​ใน​ห้อง​ภาพ​นั้น​อย่าง​ละเอียด​ด้วย​คิ้ว​ที่​ขมวด​เป็น​ปม​มุ่น​ เมื่อ​เห็น​น้องสาว​เข้ามา​ คิ้ว​ที่​ขมวด​มุ่น​นั้น​ยิ่ง​ย่น​เข้าหา​กัน​แน่น​ขึ้น​ เอ่ย​ถามขึ้น​ว่า​ “คุณหนู​รอง​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

ห​ลี่​ซื่อ​บอกเล่า​ถ้อยคำ​ของ​โจว​เสาจิ่น​ให้​นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​ฟัง

สีหน้า​ของ​นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​กลับ​มิได้​ดู​ดีขึ้น​ กล่าว​เสียง​เคร่ง​ว่า​ “เรื่อง​ที่​ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​ตระกูล​กัน​นั้น​ คน​ของ​ตระกูล​เฉิงต่าง​มีแผนการ​ของ​ตัวเอง​ ข้า​มิได้​เป็นห่วง​ข้อ​นี้​ ที่​ข้า​เป็นห่วง​คือ​การค้า​ของ​ข้า​…ไม่ว่า​เมื่อก่อน​ตระกูล​เฉิงจะแยก​จวน​กัน​หรือไม่​ แต่​เมื่อ​ออกมา​ข้างนอก​ล้วน​ถือว่า​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​ ต้า​กู​ไห​น่​ไน​เป็น​หลานสาว​ของ​จวน​สี่ ทว่า​คุณหนู​รอง​กลับ​มิใช่หลานสาว​แท้ๆ​ แต่​คน​ที่​มีความสัมพันธ์​ดี​กับ​เจ้ากลับเป็น​คุณหนู​รอง​ ทาง​ด้าน​ของ​ต้า​กู​ไห​น่​ไน​นั้น​ กลับ​ติดต่อ​ด้วย​ไม่ง่าย​เลย​…ไม่รู้​ว่า​ต่อไป​ตระกูล​เฉิงยัง​จะสนิทสนม​กับ​คุณหนู​รอง​เหมือน​ก่อนหน้านี้​อยู่​หรือไม่​”

ห​ลี่​ซื่อ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “พี่ใหญ่​ท่าน​กังวลใจ​จน​ฟุ้งซ่าน​ไป​แล้ว​จริงๆ​! แยก​ตระกูล​เป็นเรื่อง​ที่​ง่ายดาย​เพียงนั้น​เชียว​หรือ​ เรื่อง​ที่​ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​ตระกูล​กัน​นั้น​พวกเรา​เพิ่งจะ​รู้​ข่าว​กัน​ตอนนี้​ก็​จริง​ แต่​ไม่แน่​ว่า​ผู้อื่น​เขา​อาจจะ​มีเรื่อง​กัน​มาหลาย​ปี​แล้วก็​เป็นได้​ ท่าน​ดู​ที่​จวน​หลักปฏิบัติ​ต่อ​เสาจิ่น​ แม้แต่​บ้าน​ที่​ดี​ขนาด​นี้​พอ​บอ​กว่า​จะยก​ให้​ก็​ยก​ให้​จริงๆ​ ท่าน​ยัง​ไม่ได้​เห็น​ที่​ประตู​เฉาหยาง​ว่า​ดี​ต่อ​คุณหนู​รอง​อย่างไรบ้าง​ ไม่ว่า​จะมีของกินของใช้​ของเล่น​อะไร​ ก็​ต้อง​มีส่วนแบ่ง​ของ​ซอย​อวี๋เฉียน​ด้วย​หนึ่ง​ส่วน​ แม้แต่​พ่อบ้าน​ สาวใช้​ ป้า​รับใช้​ใน​บ้าน​ก็​มาจาก​บ้าน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​ทาง​ด้าน​โน้น​ บ้าน​หลัง​นี้​ก็​เหมือนกับ​เป็น​บ้าน​อีก​หลัง​หนึ่ง​ของ​ตระกูล​เฉิง”

นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​เอง​ก็​ร้อนใจ​จน​เลอะเลือน​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ทาง​ด้าน​สำนัก​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม​ได้ส่งใบ​รายการ​มาให้​พวกเรา​แล้ว​หนึ่ง​ใบ​ จะขน​สินค้า​ขึ้น​เรือ​ภายใน​สอง​วันนี้​แล้ว​ ข้า​ก็​เลย​กลัว​ว่า​หาก​มีอะไร​เปลี่ยนแปลง​แล้ว​ทาง​สำนัก​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม​จะไม่รับผิดชอบ​ เนื่องจาก​ข้า​และ​พวกเขา​เพิ่งจะ​เคย​ติดต่อ​ค้าขาย​กัน​ หาก​ไม่มีตระกูล​เฉิงช่วย​พูด​ให้​ การค้า​นี้​ของ​ข้า​คง​ไม่มั่นคง​เป็นแน่​แล้ว​!”

ห​ลี่​ซื่อ​ปลอบโยน​พี่ชาย​ว่า​ “ข้า​เอง​ก็​ทราบ​ดี​ ทำการค้า​กับ​หลวง​และ​ทำการค้า​ทั่วๆ ไป​นั้น​ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​ แต่​บาง​เรื่อง​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ดึงดัน​ การ​ได้​มีชีวิต​ที่​สงบสุข​และ​ปลอดภัย​นั้น​สำคัญ​ที่สุด​”

นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​พยักหน้า​

แต่​ห​ลี่​ซื่อ​คิดไม่ถึง​ว่า​เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​โจว​เสาจิ่น​จะได้รับ​จดหมาย​ของ​โจว​เจิ้น​ที่​เร่ง​ส่งมาจาก​เป่า​ติ้ง​กว่า​หกร้อย​ห​ลี่​ เนื้อ​ความใน​จดหมาย​ถามนาง​ถึงเรื่อง​การ​แยก​ตระกูล​ของ​ตระกูล​เฉิงด้วย​น้ำเสียง​เป็นกังวล​

โจว​เสาจิ่น​ถึงได้​สัมผัส​ได้​ถึงผลกระทบ​ของ​การ​แยก​ตระกูล​ของ​ตระกูล​เฉิงขึ้น​มาจริงๆ​

นาง​เลือก​บางส่วน​ที่​พูด​ได้​เล่า​ให้​บิดา​ฟัง

ไม่นาน​ เรื่อง​ของ​ตระกูล​เฉิงก็​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​เมืองหลวง​อย่าง​รวดเร็ว​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ใน​หมู่​ขุนนาง​จาก​เจียง​หนาน​

จึงมีแขก​มาเยี่ยมเยียน​ที่​ซอย​ซิ่งหลิน​ทุกวัน​

โจว​เสาจิ่น​ลอบ​รู้สึก​ดีใจ​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ โชคดี​ที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​และ​ฮูหยิน​รอง​เว่ย​ต่าง​ย้าย​ไป​อยู่​บ้าน​ทาง​ด้าน​ประตู​เฉาหยาง​กัน​หมด​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​คง​ถูก​ผู้อื่น​มาสืบ​ความ​เรื่อง​แยก​ตระกูล​ทุกวัน​ เกรง​ว่า​คง​ไม่มีเวลา​ได้​อยู่​อย่าง​สงบสุข​เป็นแน่​

เฉิงฉือ​มาหา​อย่าง​กะทันหัน​ และ​พัก​อยู่​ที่​ซอ​ยอ​วี๋เฉียน​

ห​ลี่​ซื่อ​ทราบ​ข่าว​แล้วก็​รีบ​ให้​คน​ไป​ซื้อ​ผลไม้​สด​ใหม่​มีราคาแพง​จำนวนมาก​จาก​ตลาด​มาให้การ​รับรอง​เฉิงฉือ​ ทั้ง​ยัง​กำชับ​ห​ลี่​มามาและ​คนอื่นๆ​ ว่า​ให้​ดูแล​เขา​ให้​ดี​ กล่าวว่า​ “เกรง​ว่า​เรื่อง​ที่​บ้าน​คง​ทำให้​จิตใจ​ว้าวุ่น​ไม่เป็นสุข​ จึงมาสงบสติอารมณ์​ที่นี่​ ให้​บ่าวไพร่​ที่​ดูแล​เรือน​ชั้นนอก​ระวัง​ปาก​ให้​ดี​ อย่า​ได้​พูด​เลื่อนเปื้อน​ไป​ทั่ว​”

หลาย​วันก่อน​นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​สืบ​ได้ความ​มาว่าการ​แยก​ตระกูล​ของ​ซอย​จิ่ว​หรู​ใน​ครั้งนี้​นั้น​ จวน​หลัก​รักษา​สุสาน​และ​ระเบียน​ประวัติ​ของ​ตระกูล​เอาไว้​ได้​ทว่า​กลับ​ต้อง​นำ​เงิน​ออกมา​จ่าย​เป็น​ค่าชดเชย​ให้​จวน​รอง​เป็น​จำนวนมาก​ ตอนนี้​จึงสูญทรัพย์สิน​และ​กำลังวังชา​ไป​ไม่น้อย​

ห​ลี่​ซื่อ​นึกถึง​ภาพ​ทิวทัศน์​อัน​วิจิตร​งดงาม​เมื่อ​ครั้ง​ไป​เป็น​แขก​ที่​ซอย​จิ่ว​หรู​เหล่านั้น​ขึ้น​มา พลาง​ถอนหายใจ​ยาว​ออกมา​ครั้งหนึ่ง​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​

สุดท้าย​ตระกูล​นี้​ก็​ต้อง​แบ่ง​แยกกัน​แล้ว​!

เกรง​ว่า​ต่อไป​คง​ยาก​ที่จะ​ได้​เห็น​ทิวทัศน์​อัน​งดงาม​ของ​ซอย​จิ่ว​หรู​อีกแล้ว​

เนื่องจาก​โจว​เสาจิ่น​เติบโต​อยู่​ที่​ตระกูล​เฉิง ทุกคน​ต่าง​ปฏิบัติ​ต่อ​นาง​เสมือน​เป็น​หญิงสาว​จาก​ตระกูล​เฉิง อีก​ทั้ง​พี่สาว​ยัง​แต่งงาน​ไป​เป็น​หลาน​สะใภ้คนโต​ของ​ตระกูล​ใหญ่​มีชื่อ​ของ​เจียง​หนาน​อย่าง​ตระกูล​เลี่ยว​ที่​เจิ้น​เจียง​ จึงเป็นธรรมดา​ที่จะ​รู้เรื่อง​มากกว่า​ห​ลี่​ซื่อ​และ​นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​ห​ลี่​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​

จะว่า​ไป​แล้ว​หยวน​ซื่อ​ก็​เป็น​คน​ที่​เก่งกาจ​มาก​ผู้​หนึ่ง​เช่นกัน​

ทันทีที่​ได้​รับคำ​ชี้แนะ​จาก​นาย​ท่าน​ใหญ่​ตระกูล​หยวน​และ​จาก​ผู้​ช่วยเหลือ​ข้าง​กาย​ นาง​ก็​เข้าใจ​เรื่องราว​ได้​ในทันที​

ก่อนหน้านี้​จวน​หลัก​และ​จวน​รอง​ก็​แยก​บ้าน​กัน​อยู่แล้ว​ แม้น​มิได้​ไป​ทำการ​แจ้งเรื่อง​กับ​ทางการ​ ทว่า​ก็ได้​ทำ​หนังสือสัญญา​กัน​แล้ว​ นอกจากนี้​เนื่องด้วย​เป็น​ตระกูล​ลำดับ​ต้น​ๆ ของ​จิน​ห​ลิง​ คน​ที่มา​เป็น​พยาน​ให้​ใน​วัน​ลงนาม​ใน​สัญญานั้น​จึงมีทั้ง​นาย​ท่าน​ใหญ่​จาก​ตระกูล​ภรรยา​ของ​หลาย​ๆ จวน​และ​มีท่าน​เจ้าเมือง​ผู้​ดำรงตำแหน่ง​เป็น​พ่อเมือง​ของ​จิน​ห​ลิง​ด้วย​ เพื่อ​ดำรง​ตาม​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ที่​ยึดถือ​กัน​โดยทั่วไป​แล้วจึง​มิได้​ระบุ​ใน​สัญญาว่า​จะต้อง​คืน​ระเบียน​ประวัติ​ของ​ตระกูล​ให้​ผู้ใด​เป็น​ผู้ครอบครอง​ แต่​ใน​ส่วน​ของ​สุสาน​ของ​ตระกูล​นั้น​ระบุ​เอาไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ให้​คืนให้​จวน​หลัก​เป็น​ผู้ครอบครอง​ จวน​รอง​ไม่ยอม​คืน​ระเบียน​ประวัติ​ของ​ตระกูล​ก็​ย่อม​ได้​ ตอนนี้​จวน​หลัก​ยัง​ไม่ได้​แยก​ออก​ไป​ หยวน​ซื่อ​ยัง​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​ตระกูล​เฉิงแห่ง​ซอย​จิ่ว​หรู​อยู่​ เป็น​คน​รับผิดชอบ​เตรียมการ​ทุกอย่าง​ที่​จำเป็นต้อง​ใช้ใน​วัน​กราบไหว้​บรรพชน​ของ​ตระกูล​ ซึ่งเทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะจ่าง​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​ต้อง​กราบไหว้​บรรพชน​ที่​ล่วงลับ​ไป​ก่อน​พอดี​ หยวน​ซื่อ​ให้​คน​เฝ้าหอ​บรรพชน​เอาไว้​ ตอนที่​จวน​รอง​เข้าไป​กราบไหว้​ใน​หอ​บรรพชน​นั้น​นอกจาก​จะโวยวาย​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​ ยัง​หา​คน​มาหารือ​เพื่อ​ขาย​สุสาน​ของ​ตระกูล​เฉิง แล้ว​ย้าย​หลุมศพ​ของ​จื้อกง​กับ​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​และ​คนอื่นๆ​ ไป​ที่​จิงเฉิงเสีย​

เฉิงซวี่​เดือดดาล​ทว่า​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​

เขา​คง​ไม่อาจ​ไป​ต่อ​สู้คดี​กับ​จวน​หลัก​ใน​ชั้น​ศาล​หรอก​กระมัง​ ยิ่งไปกว่านั้น​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ต่อ​สู้คดี​ใน​ชั้น​ศาล​ แม้แต่​พูด​ออก​ไป​ก็​ทำ​ไม่ได้​

หาก​เป็น​เช่นนั้น​ตระกูล​เฉิงก็​จะกลายเป็น​เรื่องขบขัน​ของ​เจียง​หนาน​ไป​แล้ว​!

ไม่ว่า​จะแพ้​คดี​หรือ​ชนะคดี​ ชื่อเสียง​ของ​ตระกูล​เฉิงแห่ง​ซอย​จิ่ว​หรู​ก็​ล้วน​จบสิ้น​อยู่ดี​

หาก​หนึ่ง​ครอบครัว​แม้แต่​ชื่อเสียง​ก็​ยัง​ไม่มี จะพูด​เรื่อง​มีที่​ยืน​ใน​สังคม​ได้​อย่างไร​!

นอกจากนี้​เฉิงสือ​ยัง​ต้อง​เรียนหนังสือ​เป็น​ขุนนาง​อีก​

หาก​จะกล่าวโทษ​ก็​ต้อง​กล่าวโทษ​ที่​ตอน​แยก​บ้าน​เขา​ไม่ได้คิด​ให้​ลึกซึ้ง​ถึงเพียงนี้​

บางที​ใน​จิตใต้สำนึก​ส่วนลึก​ของ​เขา​นั้น​ คง​คิด​ว่า​จวน​รอง​ไม่น่าจะ​ตกต่ำ​มาถึงขั้น​ที่​ต้อง​กดดัน​จวน​หลัก​ถึงจะผ่านพ้น​ช่วง​ที่​ยากลำบาก​ไป​ได้​เช่นนี้​

นี่​ก็​อาจจะ​เป็น​ดัง​ที่ว่า​แผนการ​ของ​มนุษย์​มิอาจ​สู้กำหนด​ของ​สวรรค์​ได้​!

เขา​ถือครอง​ระเบียน​ประวัติ​ของ​ตระกูล​ไว้​ก็​ไม่มีประโยชน์​

ถ้าหาก​จวน​หลัก​แยกตัว​ออก​ไป​สร้าง​ครอบครัว​ของ​ตัวเอง​ ตาม​หลัก​แล้ว​ต้อง​ไล่​นับ​ย้อน​จากรุ่น​พ่อ​ขึ้นไป​สามรุ่น​ จื้อกง​ก็​จะเป็น​รุ่น​เทียด​ของ​สาย​พวกเขา​พอดี​ ที่​ตอนนี้​เขา​ยัง​ใช้ประโยชน์​จากระเบียน​ประวัติ​ของ​ตระกูล​ได้​อยู่​ ก็​เพราะ​ชื่อเสียง​ของ​จื้อกง​

แต่​ครั้น​ปล่อย​ระเบียน​ประวัติ​ของ​ตระกูล​ไป​แล้ว​ ก็​จะเป็น​จวน​รอง​ของ​พวกเขา​ที่​ต้อง​แยก​ออกมา​ เช่นนั้น​พวกเขา​ก็​จะไม่มีความเกี่ยวข้อง​กับ​จื้อกง​อีก​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​แล้ว​

สุดท้าย​แล้วก็​เป็น​จวน​รอง​ที่​ไม่มีคนรุ่นหลัง​คอย​ค้ำจุน​ครอบครัว​

เฉิงซวี่​ไตร่ตรอง​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ สุดท้าย​จึงใช้ระเบียน​ประวัติ​ของ​ตระกูล​เป็น​ข้อต่อรอง​กับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ยศ​ขั้น​สี่เจิ้งให้​เฉิงสือ​ ซึ่งจวน​หลัก​รับปาก​แล้ว​ ขอ​เพียง​เฉิงสือ​สอบผ่าน​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ ก็​จะให้การ​สนับสนุน​เฉิงสือ​ให้ได้​ดำรงตำแหน่ง​ขุนนาง​ขั้น​สี่เจิ้งสัก​หนึ่ง​ตำแหน่ง​อย่าง​สุดความสามารถ​ ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​หลังจากนั้น​จะเป็น​อย่างไร​นั้น​ จวน​หลัก​ไม่มีความสามารถ​ไป​ค้ำจุน​เฉิงสือ​ต่อไป​ได้​แล้ว​ ตำแหน่ง​ขุนนาง​ที่สูง​กว่า​ขั้น​สี่เจิ้งนั้น​ ต่อให้​เฉิงจิงจะอยู่​ใน​ราชสำนัก​แล้วแต่​ก็​ไม่อาจ​รับประกัน​ได้​ว่า​ตน​จะกระทำ​ให้ได้​ อนาคต​จะเป็น​อย่างไร​นั้น​ ต้อง​ดู​วาสนา​ของ​เฉิงสือ​เอง​แล้ว​

เงิน​สามล้าน​เหลี่ยง​จึงลดลง​เหลือ​หนึ่ง​ล้าน​สอง​แสน​เหลี่ยง​

ส่วน​พรรค​เจ็ด​ดารา​ก็​เป็น​อะไร​ที่​มองไม่เห็น​แสงสว่าง​

จาก​ความเข้าใจ​ของ​เฉิงซวี่​ที่​มีต่อ​พรรค​เจ็ด​ดารา​นั้น​ ตั้งแต่​สมัยก่อน​รายได้​ส่วนใหญ่​ของ​พรรค​เจ็ด​ดารา​ล้วน​ส่งคืนให้​จวน​รอง​ ที่​จวน​หลัก​มีอำนาจ​ก็​เป็น​เหตุการณ์​ที่​เฉิงฉือ​ออกมา​รับ​ช่วงต่อ​ไม่กี่​ปี​มานี้​เท่านั้น​ เงิน​สิบสอง​ล้าน​เหลี่ยง​ก็​เป็น​จำนวน​ที่​จวน​หลัก​พอ​จะมีให้ได้​ หาก​มาก​ไป​กว่า​นี้​ จวน​หลัก​หา​มาให้​ไม่ได้​ มีแต่​จะเป็น​การบีบบังคับ​ให้​จวน​หลัก​จนตรอก​ ทุบ​หม้อ​ให้​แตก​แล้ว​หันมา​เป็นปฏิปักษ์​กับ​จวน​รอง​ และ​ไม่ให้เงิน​แม้แต่​แดง​เดียว​…

ผลลัพธ์​เช่นนี้​หยวน​ซื่อ​ย่อม​พึงพอใจ​มาก​อยู่แล้ว​เป็นธรรมดา​

เฉิงสือ​จะสอบผ่าน​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​จิ้น​ซื่อ​หรือไม่​นั้น​ยัง​ไม่แน่นอน​ ต่อให้​เขา​ได้​เป็น​ขุนนาง​และ​ไต่เต้า​จนได้​เป็น​ขุนนาง​ยศ​ขั้น​สี่เจิ้งแล้ว​ก็ตาม​ ขอ​เพียง​เฉิงสวี่​เดินตาม​แผนการ​ที่​นาง​วาง​เอาไว้​ อย่างไร​ก็​ย่อม​กด​ทับ​เฉิงสือจน​หายใจไม่ออก​ได้​ ใน​มือ​ของ​นาง​ยังมี​หลักฐาน​ที่​เฉิงสือ​ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​เฉิงสวี่​อยู่​ มีวิธี​ที่จะ​ทำให้​เขา​นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ขั้น​สี่เจิ้งไป​จน​เกษียณอายุ​ การ​กระโดด​ออกมา​คัดค้าน​ใน​ตอนนี้​ก็​ออกจะ​โง่เขลา​เกินไป​สักหน่อย​

ประการ​ต่อมา​คือ​เงิน​จำนวน​หนึ่ง​ล้าน​สอง​แสน​เหลี่ยง​นั้น​ล้วน​เป็น​เฉิงฉือ​ที่​นำ​ออกมา​จ่าย​ให้​ นาง​ไม่เสีย​อะไร​เลย​แม้แต่​แดง​เดียว​ นอกจากนี้​ด้วยเหตุที่​ตั้งใจ​ว่า​จะขาย​สินเดิม​ของ​ตน​เพื่อ​จ่าย​เป็น​ค่าชดเชย​นั้น​ยัง​ทำให้​นาง​ได้​ชื่อเสียง​อัน​ดีงาม​มาด้วย​…

นาง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​แยก​ตระกูล​นี้​ นาง​ต่างหาก​ที่​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​อย่าง​แท้จริง​

เฉิงฉือ​นอน​โอดครวญ​อยู่​บน​เตียง​ จับมือ​ของ​โจว​เสาจิ่น​ที่มา​ปลอบโยน​เขา​เอาไว้​ ให้​นาง​นวด​หน้าอก​ให้​เขา​ “นี่​ช่างเป็นเรื่อง​เพ้อฝัน​ที่​เจ็บปวด​ครั้งหนึ่ง​จริงๆ​ เงิน​จำนวน​หนึ่ง​ล้าน​สอง​แสน​เหลี่ยง…​ข้า​คิด​ๆ แล้วก็​ให้​รู้สึก​เจ็บปวด​ใจ! ถ้าหากว่า​เรือ​ของ​สิบ​สามห้าง​อับปาง​ลง​อีก​สัก​หนึ่ง​หรือ​สอง​ลำ​ล่ะ​ก็​ ข้า​ว่า​ข้า​รีบ​ขาย​บ้าน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​เสียแต่​เนิ่นๆ​ แล้ว​ย้าย​มาอยู่​ที่นี่​เสีย​ก็แล้วกัน​…โชคดี​ที่​คน​จิต​ใจดี​ย่อม​ได้รับ​สิ่งดี​ตอบแทน​ เดิมที​ข้า​คิด​จะมอบให้​เจ้าเป็น​ของ​ติดตัว​ คิดไม่ถึง​ว่า​เงิน​จำนวน​หนึ่ง​ล้าน​สอง​แสน​เหลี่ยง​นั่น​ หยวน​ซื่อ​นั่ง​พูด​จึงไม่รู้​ความยากลำบาก​ของ​ผู้อื่น​ พูดว่า​จะให้​ก็​ให้​เลย​…”

เริ่มแรก​โจว​เสาจิ่น​ยัง​รู้สึก​เป็น​กังวลใจ​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​ แต่​หลังจากที่​ได้ยิน​เฉิงฉือ​เอ่ยถึง​ ‘เงิน​จำนวน​หนึ่ง​ล้าน​สอง​แสน​เหลี่ยง’​ ติดๆ​ กัน​สอง​ครั้ง​แล้ว​ นาง​ก็​ค่อยๆ​ วางใจ​ลงมา​ได้​

ต่อ​ให้เงิน​จำนวน​หนึ่ง​ล้าน​สอง​แสน​เหลี่ยง​นี้​จะทำให้​จวน​หลัก​ไม่ร่ำรวย​เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​ แต่​คน​ที่​สวม​ชุด​เผา​จื่อ​ผ้าฝ้าย​เนื้อ​ละเอียด​ทว่า​คลุม​ทับ​ด้วย​ผ้าคลุม​ขน​หมาไม้​ตัว​หนึ่ง​อย่าง​ท่าน​น้า​ฉือ​ผู้​นี้​เคย​กังวลใจ​ด้วย​หรือ​

ที่​เขา​กล่าว​เช่นนี้​ ไม่รู้​ว่า​กำลัง​เสแสร้ง​แกล้งทำ​เพื่อ​วัตถุประสงค์​อะไร​อยู่​กัน​แน่​!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด