ยามดอกวสันต์ผลิบาน 416 ไปเยี่ยมเยียน

Now you are reading ยามดอกวสันต์ผลิบาน Chapter 416 ไปเยี่ยมเยียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โจว​เสาจิ่น​ฟังพี่สาว​กับ​ห​ลี่​ซื่อ​พูด​ชมเฉิงฉือ​ ก็​รู้สึก​ดีใจ​ระคน​เสียใจ​

หากว่า​พวก​นาง​รู้เรื่อง​ระหว่าง​นาง​กับ​เฉิงฉือ​ละ​ก็​ จะต้อง​สาปแช่ง​ก่น​ด่า​เฉิงฉือ​แน่นอน​ ไหน​เลย​จะยัง​เอ่ยปาก​ชมเขา​ได้​

แต่​ให้​นาง​ไปหา​เฉิงฉือ…​เช่นนั้น​จะต่าง​อะไร​กับ​การแอบ​นัดพบ​เล่า​… แต่ก่อน​ตอนที่​ทุกคน​แสร้ง​ทำเป็น​สับสน​มึนงง​นาง​ยัง​ปิด​หู​ขโมย​กระดิ่ง​ได้​ ตอนนี้​เรื่องราว​ถูก​เปิดเผย​ออกมา​แล้ว​ นาง​จะกล้า​ไป​พบ​เฉิงฉือ​ได้​อย่างไร​

โจว​เสาจิ่น​พลัน​เข้าใจ​ถ้อยคำ​ที่​เฉิงฉือ​กล่าวว่า​ แสร้ง​ทำเป็น​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​ ประโยค​นั้น​ขึ้น​มาใน​ทันใด​ว่า​เป็น​ข้ออ้าง​ข้อ​หนึ่ง​ที่​ใช้ได้​ดีมาก​ทีเดียว​

หาก​รู้​เช่นนี้​แต่แรก​ นาง​ก็​ควร​แสร้งทำ​เหมือน​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​

ท่าน​น้า​ฉือ​เป็น​คน​ที่​ละเอียดลออ​คน​หนึ่ง​ สถานที่​ที่​เขา​อยู่​มักจะ​มีชารส​ดี​ มีของกิน​เล่น​แสน​อร่อย​ หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​มีความ​นุ่มนิ่ม​พอดี​ ดอกไม้​ใน​แจกัน​กู​[1] ก็​เบ่งบาน​ได้​อย่าง​สวยงาม​ เมื่อ​เอน​อิง​หมอนอิง​ริม​หน้าต่าง​ ขณะ​พูดคุย​เรื่อยเปื่อย​กับ​ท่าน​น้า​ฉือ​ไป​ด้วย​ และ​เล่น​หมากล้อม​ที่​วางหมาก​ลง​แล้วแต่​ดึง​กลับ​ไป​ได้​ทุกเมื่อ​กับ​เฉิงฉือ​ไป​ด้วย​ ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่มีช่วงเวลา​ใด​ที่​ดีกว่า​นี้​เลย​

โจว​เสาจิ่น​จึงอด​ทอดถอนใจ​ไม่ได้​

ตอนนี้​มาเสียใจ​ทีหลัง​ก็​สาย​เกินไป​แล้ว​จริงๆ​!

นาง​นึกถึง​ภาพ​ขณะที่​เฉิงฉือ​โอบกอด​ตน​… ซ้ำยัง​จับมือ​ของ​นาง​ล้วง​เข้าไป​ใน​เสื้อผ้า​ของ​เขา​…

เจ้าคน​เหลวไหล​ผู้​นี้​!

โจว​เสาจิ่น​สบถ​เย็น​หลาย​คำ​ ดวง​หน้า​พลัน​แดงก่ำ​ขึ้น​มาใน​ทันใด​

เรือนร่าง​ใต้​อาภรณ์​ตัว​นั้น​ทั้ง​กำยำ​และ​ล่ำสัน​… แต่​ท่าน​น้า​ฉือ​กลับ​ดู​สูงเพรียว​และ​ผึ่งผาย​… ถ้าหาก​ครั้งหน้า​เขา​ยัง​กล้า​ทำ​เช่นนี้​กับ​ตน​ นาง​ก็​จะ…ผลัก​เขา​หรือไม่​ก็​หยิก​เขา​แรง​ๆ สัก​สอง​ที​ดี​หรือไม่​นะ​

โจว​เสาจิ่น​ตัดสินใจ​ไม่ได้​เล็กน้อย​

นาง​กอด​หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​แล้ว​กลิ้ง​ไปมา​บน​เตียง​

ชุน​หว่าน​ยก​ถาด​รอง​เข้ามา​พอดี​ เมื่อ​เห็น​แล้วก็​อด​เม้มปาก​กลั้น​ยิ้ม​ไม่ได้​ เอ่ย​ถามขึ้น​ว่า​ “คุณหนู​รอง​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​เจ้าคะ​”

ดวง​หน้า​ของ​โจว​เสาจิ่น​แดงเถือก​ยิ่งขึ้น​

กระแอม​ไอ​ครั้งหนึ่ง​เป็นการ​กลบเกลื่อน​ แล้ว​ลุกขึ้น​มาจัด​อาภรณ์​ให้​เรียบร้อย​พลาง​ถามว่า​ “เจ้ายก​อะไร​มาหรือ​”

“น้ำแกง​ถั่วเขียว​เจ้าค่ะ​” ชุน​หว่าน​วาง​ถ้วย​ค​ลือ​บ​สีขาวนวล​บน​โต๊ะ​ตัวเล็ก​ที่​หัว​เตียง​ กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ข้า​ให้​จี๋เสียง​วาง​ทิ้ง​ไว้​ให้​เย็น​ ท่าน​รีบ​ดื่ม​เถิด​ อากาศ​ร้อน​ขึ้น​เรื่อยๆ​ แล้ว​ แต่​ก็​ดีกว่า​จิน​ห​ลิง​อยู่ดี​ จิน​ห​ลิง​ร้อน​ตั้ง​แต่เช้า​ยัน​ค่ำ​ ทว่า​กลางคืน​ของ​จิงเฉิงกลับ​เย็นสบาย​ยิ่งนัก​เจ้าค่ะ​!”

“เช่นนั้น​หาก​ให้​เจ้ารั้ง​อยู่​ที่​จิงเฉิง เจ้ายินยอม​หรือไม่​” โจว​เสาจิ่น​ดื่ม​น้ำแกง​ถั่วเขียว​แล้ว​สนทนา​กับ​ชุน​หว่าน​

ชุน​หว่าน​ให้​สาวใช้​เด็ก​เข้ามา​เก็บ​ถาด​รอง​กับ​ถ้วย​ออก​ไป​ คลี่​ยิ้ม​พลาง​ตอบ​ว่า​ “ข้า​ไป​ที่ใด​ก็ได้​เจ้าค่ะ​ ขอ​เพียง​ติดตาม​คุณหนู​รอง​ไป​ก็​พอ​!”

โจว​เสาจิ่น​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

ตาม​ความคิด​ของ​นาง​ ผู้คน​ส่วนใหญ่​ไม่ยอม​จาก​บ้านเกิด​เท่าใด​นัก​

ชุน​หว่าน​อธิบาย​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ตั้งแต่​ข้า​อายุ​ห้า​ขวบ​ก็​ถูก​ส่งไป​ที่​ซอย​จิ่ว​หรู​แล้ว​ ผู้​ที่​ไปมาหาสู่​กัน​ล้วนแล้วแต่​เป็น​พี่สาว​น้องสาว​เหล่านี้​ หน้าตา​ของ​พ่อแม่​พี่น้อง​ล้วน​จำไม่ค่อย​ได้​แล้ว​ แม้ว่า​ใน​ใจยัง​คิด​คะนึง​หา​ แต่​ถ้าหาก​ให้​ข้า​กลับ​ไป​อยู่​กับ​พวกเขา​ ความจริง​แล้ว​รอบตัว​ล้วน​เป็น​คนแปลกหน้า​ทั้งนั้น​ ข้า​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะคุ้นเคย​กับ​ชีวิต​ที่นั่น​ได้​หรือไม่​เจ้าค่ะ​ ในทางกลับกัน​หาก​อยู่​ข้าง​กาย​คุณหนู​รอง​ พูดคุย​หัวเราะ​กัน​อย่างนี้​ เพียง​พริบตาเดียว​วัน​วันหนึ่ง​ก็​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ข้า​คุ้นชิน​กับ​ชีวิต​เช่นนี้​มากกว่า​เจ้าค่ะ​”

โจว​เสาจิ่น​เข้าใจ​นาง​ได้​เหมือนกัน​

เช่นเดียวกับ​นางใน​ชาติที่แล้ว​ ขอ​เพียง​ได้​อยู่​กับ​พี่สาว​ ถึงอยู่​ที่ใด​ก็​มีชีวิต​เหมือนกัน​ทั้งสิ้น​

เพียงแต่​นาง​คาดไม่ถึง​ว่า​ชุน​หว่าน​จะมีความผูกพัน​ลึกซึ้ง​ต่อ​นาง​ถึงเพียงนี้​

โจว​เสาจิ่น​จึงคิด​ว่า​ตน​ยิ่ง​มิอาจ​ทำลาย​ความไว้วางใจ​ที่​ชุน​หว่าน​มีให้​แก่​ตน​ได้​เลย​

ทว่า​แต่ไหนแต่ไร​นาง​ไม่มีสายตา​มอง​คน​สัก​เท่าใด​…

วันรุ่งขึ้น​ นาง​เรียก​ปี้​อวี้​เข้ามา​พูดคุย​ “อีก​ไม่กี่​ปี​ชุน​หว่าน​ก็​ต้อง​ออกเรือน​แล้ว​ หากว่า​ข้าง​กาย​เจ้ามีผู้​ที่​ทั้ง​หน้าตา​และ​อุปนิสัย​ล้วน​เหมาะ​สมกัน​ ก็​ช่วย​สอดส่อง​ดู​ให้​ชุน​หว่าน​ที”

ปี้​อวี้​ประหลาดใจ​

ปกติ​สาวใช้​ใหญ่​เช่นนี้​ล้วนแล้วแต่​จะแต่งงาน​กับ​บ่าว​ที่​ติดตาม​มาจาก​บ้านเดิม​ของ​ตนเอง​ เช่นนี้​จะได้​มีความสัมพันธ์​ที่​แน่นแฟ้น​ยิ่งขึ้น​ รุ่งเรือง​ก็​รุ่งเรือง​ด้วยกัน​ ล่มจม​ก็​ล่มจม​ด้วยกัน​ เพิ่มทวี​ความจงรักภักดี​

นาง​อยาก​จะย้ำ​เตือน​โจว​เสาจิ่น​สัก​สอง​ประโยค​ แต่​เปลี่ยนใจ​เมื่อ​นึกถึง​ถ้อยคำ​ที่​เจิน​จูกล่าว​กับ​นาง​ยาม​ที่​มาถึง นาง​อดเงียบงัน​ไป​ชั่วขณะ​ไม่ได้​ แล้ว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “เรื่อง​นี้​ข้า​ต้อง​กลับ​ไป​ถามนาย​ท่าน​สี่ก่อน​เจ้าค่ะ​ ข้า​ดูแล​เรือน​ชั้นใน​ สามีผู้​นั้น​ของ​ข้า​ก็​เป็น​เพียง​พ่อ​บ้านเล็ก​ๆ คน​หนึ่ง​ สายตา​ถือว่า​ยัง​จำกัด​นัก​ สาวใช้​ใหญ่​ข้าง​กาย​นาย​ท่าน​สี่หลาย​คน​เช่น​หมิง​เฮ่อ​ล้วน​แต่งงาน​ออกเรือน​อย่าง​ดี​ยิ่งยวด​ ไม่สู้ขอ​นาย​ท่าน​สี่ช่วย​ดู​ให้​ดีกว่า​นะ​เจ้าคะ​”

โจว​เสาจิ่น​รู้สึก​กระดากอาย​ เอ่ย​ถามว่า​ “เรื่อง​เช่นนี้​ไม่ต้อง​ไปหา​ท่าน​น้า​ฉือ​หรอก​กระมัง​” พูด​จบ​ก็​ตรึกตรอง​อี​กว่า​ถ้าหาก​เฉิงฉือ​ช่วย​ดู​ให้​สักหน่อย​ จะต้อง​คว้า​ผู้​ที่​ดีกว่า​ได้​แน่นอน​ จึงสำทับ​ว่า​ “อย่าง​น้อย​ก็​รอ​ให้​มีความคืบหน้า​ก่อน​ค่อย​พูด​กับ​ท่าน​น้า​ฉือ​เถอะ​”

นาง​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​ใน​ชาติก่อน​เพียงแค่​ตน​เลือก​สาวใช้​สำหรับ​ทำงาน​หยาบ​คน​หนึ่ง​ก็​ยัง​ต้อง​ให้​พี่สาว​ช่วย​ตัดสินใจ​เลย​

ทว่า​ใน​ชีวิต​นี้​กลับ​กล้า​ช่วย​ชุน​หว่าน​เลือก​สามีเสียแล้ว​

“เช่นนี้​ก็ดี​เจ้าค่ะ​!” ปี้​อวี้​ตอบ​ยิ้ม​ๆ “นี่​เป็น​เรื่องใหญ่​รีบร้อน​ไม่ได้​เจ้าค่ะ​”

โจว​เสาจิ่น​แย้ม​รอยยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​หงึก​ๆ

จากนั้น​ปี้​อวี้​ก็​เล่า​ถึงเรือน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​ของ​เฉิงฉือ​ให้​นาง​ฟังว่า​ “…ส่วน​ตะวันออก​บอ​กว่า​จะเก็บ​ไว้​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​อยู่​เจ้าค่ะ​ ปลูก​ต้น​การบูร​เอาไว้​หลาย​ต้น​ พวก​โถงรับรอง​ ห้อง​หนังสือ​ของ​ลาน​ชั้นนอก​ ห้องรับแขก​ และ​สวนดอกไม้​ล้วน​อยู่​ใน​บริเวณ​ส่วนกลาง​ ส่วน​ตะวัน​ตกเป็น​ที่พำนัก​ของ​นาย​ท่าน​สี่ ปลูก​ต้นไม้​ดอกไม้​ไว้​มากมาย​ ยังมี​สวนดอกไม้​เล็ก​ๆ สวน​หนึ่ง​ ได้​เชิญนายช่าง​มาสร้าง​เรือน​เพาะชำ​หลัง​หนึ่ง​ไว้​ด้วย​ นาย​ท่าน​สี่บอ​กว่า​ คุณหนู​รอง​รอบรู้​ด้าน​นี้​เป็น​อย่างยิ่ง​ ประเดี๋ยว​อีก​สัก​สอง​สามวัน​คง​ต้อง​เชิญคุณหนู​รอง​ไปดู​สักหน่อย​ ช่วย​ชี้แนะ​บ่าวไพร่​ที่​ดูแล​สวนดอกไม้​ว่า​ควร​ปลูก​ต้นไม้​ดอกไม้​อะไร​บ้าง​นะ​เจ้าคะ​”

โจว​เสาจิ่น​มิได้​เอื้อนเอ่ย​คำ​ใด​ ทว่า​นัยน์​ตากลับ​ฉายแวว​ฉงน​เล็กน้อย​

ปี้​อวี้​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “นี่​ท่าน​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​เจ้าคะ​” ใน​น้ำเสียง​แฝงความระมัดระวัง​หลาย​ส่วน​

โจว​เสาจิ่น​เงียบงัน​ไป​ชั่วขณะหนึ่ง​ แล้วจึง​กระซิบ​ถามว่า​ “ปี้​อวี้​ ที่​จิน​ห​ลิง​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ใช่หรือไม่​ ข้า​รู้สึก​ว่า​เจ้าปฏิบัติ​ต่อ​ข้า​ ดูเหมือน​สนิทสนม​น้อยกว่า​เมื่อก่อน​และ​พินอบพิเทา​มากขึ้น​…”

ปี้​อวี้​รู้สึก​ละอาย​

นาง​ก็​ได้ยิน​เจิน​จูเล่า​ให้​ฟังอีก​เช่นกัน​ สาเหตุ​ที่​พวก​นาง​สอง​สามีภรรยา​ถูก​เลือก​มาจิงเฉิงนั้น​ เนื่องจาก​นาง​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​โจว​เสาจิ่น​… เมื่อ​นาง​พบ​โจว​เสาจิ่น​อีกครั้ง​ จึงไม่ค่อย​แน่ใจ​ว่า​ควร​วางตัว​เช่นไร​ดี​

หาก​ประจบประแจง​ นาง​ปฏิบัติ​ต่อ​โจว​เสาจิ่น​ด้วย​ความจริงใจ​มาโดยตลอด​ คิด​ว่า​คงจะ​ทำลาย​ความรู้สึก​ของ​กันและกัน​เป็นแน่​

พอ​สามีของ​นาง​ถูก​โยกย้าย​มาจิงเฉิงก็ได้​เป็น​พ่อบ้าน​ชั้นสอง​ ไม่รู้​ว่า​มีบ่าว​ใน​ซอย​จิ่ว​หรู​มาก​เท่าใด​ที่​กระเสือกกระสน​ทั้ง​ชีวิต​ถึงได้​เป็น​เพียง​พ่อบ้าน​ชั้นสอง​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​ นาง​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​โจว​เสาจิ่น​อย่าง​แท้จริง​ จะแสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้​ นั่น​ก็​ไม่สำนึก​บุญคุณ​เกินไป​แล้ว​

ปี้​อวี้​จึงได้​แต่​เคารพ​นบนอบ​ต่อ​โจว​เสาจิ่น​

แต่​ตอนนี้​ดู​ที​แล้ว​ คุณหนู​รอง​ก็​ยังคง​เป็น​คุณหนู​รอง​ที่​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​น้ำใสใจจริง​คน​นั้น​เช่น​เดิม​ แต่​เป็น​ตนเอง​ต่างหาก​ที่​เปลี่ยนไป​

นี่​ก็​คือ​สิ่งที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กล่าว​เอาไว้​ว่า​ ไม่หวั่นไหว​ต่อ​ลาภ​ยศ​เงินทอง​ ไม่สยบ​ต่อ​อำนาจ​กำลัง​ รักษา​ตัวตน​ของ​ตนเอง​ดีกว่า​!

นาง​โขก​ศีรษะ​ให้​โจว​เสาจิ่น​สามครั้ง​อย่าง​นอบน้อม​ กล่าวว่า​ “คุณหนู​รอง​ พวก​ข้า​สอง​สามีภรรยา​ได้รับ​ตำแหน่ง​ที่​ดี​ขนาด​นี้​ได้​ ล้วนแล้วแต่​เป็น​อานิสงส์​จาก​คุณหนู​รอง​เจ้าค่ะ​…”

ปี้​อวี้​เล่า​เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​ให้​โจว​เสาจิ่น​ฟังทั้งหมด​

โจว​เสาจิ่น​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก​ รีบ​ดึง​ปี้​อวี้​ขึ้น​มา

ปี้​อวี้​คลี่​ยิ้ม​พลาง​กล่าวว่า​ “นาย​ท่าน​สี่ไม่มีบ่าว​หญิง​ที่​ออกเรือน​แล้ว​ดูแล​เหย้าเรือน​ คุณหนู​รอง​ว่าง​วัน​ไหน​ก็​ไป​เยี่ยมเยียน​เถิด​นะ​เจ้าคะ​ ข้า​จะต้อนรับ​ท่าน​เป็น​อย่าง​ดี​”

ท่าที​เฉกเช่น​แต่ก่อน​ยาม​อยู่​ที่​เรือน​หา​น​ปี้​ซาน​

โจว​เสาจิ่น​ดีใจ​ ตอบ​ว่า​ “แน่นอน​ๆ”

ทั้งสอง​คน​พูดคุย​เจื้อยแจ้ว​นาน​ครึ่ง​ค่อนวัน​ โจว​เสาจิ่น​ถึงได้​ทราบ​ว่า​ฮูหยิน​หยวน​ทะเลาะ​กับ​จวน​รอง​และ​จวน​สาม แต่​สุดท้าย​ปี้​อวี้​เป็น​คน​ที่​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ เรื่อง​บาง​เรื่อง​ของ​แต่ละ​จวน​ล้วน​เป็นความลับ​ภายใน​ตระกูล​ ไม่ว่า​จะเป็น​เพราะเหตุใด​ หรือ​ทะเลาะ​กัน​อย่างไร​ ปี้​อวี้​ไม่รู้​เลย​ทั้งสิ้น​

โจว​เสาจิ่น​เพียง​เป็นห่วง​จวน​สี่เท่านั้น​

ปี้​อวี้​กระซิบ​ว่า​ “เจิน​จูและ​คนอื่นๆ​ ให้​ข้า​ซื้อ​ของ​จุกจิก​ให้​พวก​นาง​ อีก​สอง​วัน​ข้า​จะฝาก​พ่อบ้าน​ใน​จวน​ส่งกลับ​ไป​จิน​ห​ลิง​ ท่าน​อยาก​จะฝาก​จดหมาย​กลับ​ไป​หรือไม่​เจ้าคะ​”

โจว​เสาจิ่น​นึกถึง​เรื่อง​เกี่ยวกับ​พรรค​เจ็ด​ดารา​เหล่านั้น​ที่​เฉิงฉือ​เล่า​ให้​ฟัง นึกถึง​ป่าไผ่​ผืน​นั้น​ใน​เรือน​หา​น​ปี้​ซาน​ ก็​ลอบ​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​บาง​เรื่อง​จวน​หลัก​ จวน​รอง​และ​จวน​สามต่าง​ปิดบัง​จวน​สี่กับ​จวน​ห้า​ นาง​มิอาจ​ทำลาย​แผน​ของ​จวน​หลัก​ได้​ แต่​ก็​มิอาจ​ปล่อย​ให้​จวน​สี่เป็น​หมาก​ของ​จวน​รอง​กับ​จวน​สามหรือ​ถูก​หยวน​ซื่อ​หลอก​ใช้ประโยชน์​ได้​เช่นกัน​

“เช่นนั้น​ก็​รบกวน​เจ้านำ​จดหมาย​กลับ​ไป​ให้​ข้า​ด้วย​” นาง​พูด​พึมพำ​ “เอา​ไป​ให้​ท่าน​ป้า​ใหญ่​เหมี่ยน​ก็แล้วกัน​”

นาง​เขียน​เล่าเรื่อง​ต่างๆ​ ที่​ทราบ​มาจาก​ปี้​อวี้​ให้​ฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​ ส่วน​จวน​สี่จะรับมือ​อย่างไร​ นั่น​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​จวน​สี่แล้ว​ นาง​พูด​อะไร​มาก​ไม่ได้​

ปี้​อวี้​ช่วย​ฝน​หมึก​ให้​โจว​เสาจิ่น​เหมือน​ดัง​เก่า​ ปรนนิบัติ​โจว​เสาจิ่น​เขียนจดหมาย​

ตก​กลางคืน​ โจว​เสาจิ่น​พลิกตัว​อย่างไร​ก็​นอนไม่หลับ​ นาง​อยาก​จะไปหา​ท่าน​น้า​ฉือ​เพื่อ​ถามไถ่เหลือเกิน​

ถามเขา​ว่า​ตน​ทำ​เช่นนี้​ถูกต้อง​หรือไม่​ และ​ถามว่า​เหตุ​เพราะว่า​ปี้​อวี้​ดี​กับ​นาง​ดังนั้น​จึงโยกย้าย​ปี้​อวี้​สอง​สามีภรรยา​มาจิงเฉิงใช่หรือไม่​

แต่​หลังจากนั้น​อีก​หลาย​วัน​นาง​ก็​หา​ข้ออ้าง​ไม่ได้​สักที​ ยัง​ดี​ที่​เรือน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​นำ​ความ​มาแจ้งว่า​ ทาง​ด้าน​โน้น​ต้องการ​ปลูก​ต้นไม้​โดยเร็ว​ ขอให้​โจว​เสาจิ่น​ไป​ช่วย​ดู​ ยัง​เชิญห​ลี่​ซื่อ​กับ​โจว​โย่วจิ่น​ไป​ด้วย​ บอ​กว่า​เรือน​ทางโน้น​ดึง​น้ำ​เข้ามา​ทำ​สระน้ำ​แห่ง​หนึ่ง​ หลาย​วันก่อน​จึงซ่อมแซม​ปรับปรุง​ศาลา​ริมน้ำ​ ขอ​เชิญห​ลี่​ซื่อ​พา​โจว​โย่วจิ่น​ไป​นั่งเล่น​

ห​ลี่​ซื่อ​ยินดี​ปรีดา​ยิ่งนัก​ จึงตอบ​ตกลง​ในทันที​

โจว​เสาจิ่น​ลอบ​หน้าแดง​อยู่​คนเดียว​

คิด​ว่า​เฉิงฉือคง​อยาก​เจอ​นาง​ ดังนั้น​จึงคิด​ข้ออ้าง​นี้​ขึ้น​มา

นาง​ยาก​จะสะกด​ความ​ลิงโลด​ใน​ใจได้​ ผัด​หน้า​ทำ​ผม​แล้ว​ เมื่อ​ถึงวันนั้น​ก็​พา​โจว​โย่วจิ่น​ไป​ที่​เรือน​ของ​เฉิงฉือ​ซึ่งตั้งอยู่​ที่​ประตู​เฉาหยาง​พร้อมกับ​ห​ลี่​ซื่อ​

กำแพง​สีขาว​มุงหลังคา​ด้วย​กระเบื้อง​สีขี้เถ้า​นั้น​ แผ่​กลิ่นอาย​สด​ใหม่​ไป​ทั่ว​

ปี้​อวี้​นำ​สาวใช้​ที่​มีหน้ามีตา​สี่ห้า​คน​มาต้อนรับ​โจว​เสาจิ่น​ด้านหน้า​ประตู​ชั้นใน​

นาง​ก้าว​มาทำความเคารพ​โจว​เสาจิ่น​กับ​ห​ลี่​ซื่อ​ แล้ว​แนะนำ​สาวใช้​เหล่านั้น​ให้​นาง​ กล่าวว่า​ “ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​บ่าวไพร่​ของ​ตระกูล​เฉิง เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ติดตาม​ข้า​เข้า​เรือน​มาด้วยกัน​เจ้าค่ะ​”

โจว​เสาจิ่น​พยักหน้า​หงึกหงัก​ แล้ว​เดิน​เข้า​เรือน​ชั้นใน​

บ้านเรือน​ทาง​ตอนเหนือ​กับ​ทาง​ตอน​ใต้​แตก​ต่างกัน​ คน​ที่​เพิ่ง​มาถึงจิงเฉิงจะรู้สึก​ว่า​บ้านเรือน​ทาง​ตอนเหนือ​นั้น​เรียบง่าย​และ​จืดชืด​ ไม่ว่า​จะใหญ่โต​เพียงใด​ ก็​เป็น​เรือน​สี่ประสาน​หลัง​หนึ่ง​ติดกับ​อีก​หลัง​หนึ่ง​เท่านั้น​ รู้สึก​ว่า​ขาด​ความน่าสนใจ​ไป​บ้าง​ แต่​สำหรับ​โจว​เสาจิ่น​กลับ​คิด​ว่า​เช่น​นี้แหละ​ดี​ยิ่ง​ ขอ​เพียง​แบ่งแยก​เหนือ​ใต้​ออก​ตก​อย่าง​ชัดเจน​ก็​รู้​ได้​แล้ว​ว่า​ส่วน​ใด​คือ​ลานบ้าน​หลัก​ ส่วน​ใด​คือ​เรือน​หลัก​

ปี้​อวี้​พา​พวก​นาง​ไป​ที่​ลานบ้าน​หลัก​ส่วน​ตะวันตก​โดยตรง​

ลานบ้าน​หลัก​เป็น​ลาน​กว้างใหญ่​ขนาด​ห้า​วง​ ไม่ว่า​จะเป็น​โถงทางเดิน​ ระเบียง​หน้า​เรือน​ หรือ​ห้อง​รับรอง​แขก​ล้วน​มีครบครัน​ ทว่า​ผู้​ที่​นำ​ความ​มาแจ้งพวก​นาง​ก็​บอก​เหมือนกัน​ว่า​ ลักษณะ​ที่​เด่นชัด​มาก​ของ​เรือน​คือ​สว่าง​และ​กว้างใหญ่​ ขาด​เพียง​ต้นไม้​ดอกไม้​เท่านั้น​ทำให้​ดู​ไร้​ชีวิตชีวา​

ปี้​อวี้​เชิญพวก​นาง​ไป​ดื่ม​น้ำชา​บน​เรือน​หลัก​

ห​ลี่​ซื่อ​ปฏิเสธ​อย่าง​สุภาพ​ว่า​ “ที่พำนัก​ของ​นาย​ท่าน​สี่ พวก​ข้า​จะเข้าออก​ตามอำเภอใจ​ได้​อย่างไร​”

ปี้​อวี้อด​วิพากษ์​ใน​ใจไม่ได้​

แม้แต่​ห​ลี่​ซื่อ​เอง​ก็​รู้​ว่า​ขึ้น​เรือน​ไป​อย่างนี้​ไม่เหมาะสม​เช่นกัน​ ทว่า​นาย​ท่าน​สี่กลับ​บอก​ให้​นาง​พา​คุณหนู​รอง​และ​คนอื่นๆ​ ไป​นั่ง​พักผ่อน​บน​เรือน​

นาง​จึงเชื่อฟัง​ห​ลี่​ซื่อ​ แล้ว​พา​ไป​นั่ง​ดื่ม​ชาที่​ห้อง​รับรอง​แขก​ข้างหลัง​เรือน​หลัก​

ห้อง​รับรอง​แขก​อยู่​ติดกับ​ลานบ้าน​ขนาดเล็ก​ ที่​มุมกำแพง​สีขาว​ขุ่น​มีหิน​คราม​จาก​ทะเลสาบ​ไท่​หู​ตั้ง​ซ้อน​ทับกัน​เป็น​ภูเขา​จำลอง​ ปลูก​ต้นกล้วย​สูงเท่า​กำแพง​ ต้น​ตั๊กแตน​เก่าแก่​ที่​กิ่งก้าน​คดงอ​มีลำต้น​หนา​เท่า​ถังน้ำ​ ยอดไม้​ปกคลุม​ห้อง​รับรอง​แขก​ขนาด​สอง​ห้อง​คั่น​ บดบัง​แสงแดด​และ​ให้​ร่มเงา​ร่มรื่น​ นอกจากนั้น​บานประตู​ใน​ห้อง​รับรอง​แขก​ยัง​ทาสี​ดำ​เอาไว้​ แต่​ติด​ม่าน​ผ้า​โปร่ง​สีแดง​อ่อน​ ดู​มีสีสัน​สวยงาม​ ละม้าย​คล้าย​มีดอกไม้​สีแดง​เบ่งบาน​บน​ต้นไม้​เขียวขจี​ ทำให้​ทั่ว​ทั้ง​ลานบ้าน​ดู​สดใส​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา

ห​ลี่​ซื่อ​อด​เอ่ยปาก​ชมไม่ได้​ว่า​ “งดงาม​มาก​จริงๆ​ โดยเฉพาะ​ต้นไม้​ต้น​นี้​ คิดได้​อย่างไร​ถึงปลูก​ต้นไม้​ไว้​เช่นนี้​”

ปี้​อวี้​รับ​ผลไม้​กับ​แตง​หวาน​บน​ถาด​รอง​จาก​สาวใช้​เด็ก​แล้ว​วาง​บน​โต๊ะ​ตัวเล็ก​ของ​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ใน​ห้อง​รับรอง​แขก​ พลาง​ตอบ​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ส่วน​ตะวันตก​นี้​เดิมที​เป็น​เรือน​ของ​ใต้เท้า​หลิว​จื่อจิ้ง​แห่ง​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ เขา​เคย​ดำรงตำแหน่ง​เป็น​ข้าหลวง​กรมศุลกากร​ที่​เฉวียน​โจว​และ​ข้าหลวง​ดูแล​การค้า​เกลือ​ที่​เหลี่ยง​ไหว​ ตระกูล​ร่ำรวย​มีทรัพย์สิน​ที่ดิน​มากมาย​ ใน​จิงเฉิงก็​ถือว่า​โดดเด่น​เป็น​อันดับ​ต้น​ๆ เช่นกัน​ แม้ว่า​เรือน​หลัง​นี้​เพิ่งจะ​ซ่อมแซม​ปรับปรุง​ใหม่​ แต่​ต้นไม้​ดอกไม้​ที่นี่​ล้วน​เป็น​ตระกูล​หลิว​ที่​ปลูก​เอาไว้​เจ้าค่ะ​”

……………………………………………………………………

[1] แจกัน​กู​ เป็น​แจกัน​เครื่องเคลือบ​ทรงกระบอก​ ปาก​แจกัน​คล้าย​แตร​ ตรงกลาง​ป่อง​นูน​เหมือน​ท้อง​ ฐาน​แคบ​กว่า​ปาก​เป็น​หาง​นก​เฟิ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด