ยามดอกวสันต์ผลิบาน 425 ขุมสมบัติ

Now you are reading ยามดอกวสันต์ผลิบาน Chapter 425 ขุมสมบัติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลาย​วัน​ต่อมา​ โจว​เสาจิ่น​วิ่ง​ไป​ฝึก​การ​เข้า​ม้วน​ภาพ​กับ​เฉิงฉือ​ที่​เรือน​ประตู​เฉาหยาง​ทุกวัน​

ไม่เหมือนกับ​ความ​ซุกซน​ไร้เดียงสา​จาก​แต่ก่อน​ยาม​ที่​ไม่รู้​ความรู้สึก​ของ​กันและกัน​ และ​ไม่เหมือนกับ​ความ​เก้อเขิน​กระดากอาย​ยาม​ที่​ใจตรงกัน​ นาง​วางตัว​ต่อหน้า​เขา​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​ยิ่งนัก​ ทั้ง​หยอกเย้า​ล้อเล่น​เป็น​ และ​มอง​ด้วย​สายตา​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความรัก​หวาน​ละมุน​ ตัวนาง​เอง​ก็​เปลี่ยนเป็น​ร่าเริง​สดใส​และ​งามสง่ายิ่งขึ้น​ ละม้าย​คล้าย​ดอก​ตูม​ที่​แย้ม​กลีบ​แสน​งามออกมา​น้อย​ๆ มีสีสัน​สวยงาม​ละลานตา​และ​ท่วงท่า​งดงาม​หยาดเยิ้ม​

เฉิงฉือ​ลอบ​รู้สึก​ยินดี​อย่าง​ยาก​จะระงับ​

โชคดี​ที่​ตน​พบ​เสาจิ่น​เร็ว​ หาไม่​แล้ว​อีก​ไม่กี่​ปี​ เกรง​ว่า​เขา​อยาก​จะเก็บ​นาง​ไว้​ใต้​ปีก​ตนเอง​ ก็​คงจะ​ต้อง​เผชิญ​ความยากลำบาก​ยิ่งกว่า​นี้​เป็นแน่​

เฉิงฉือ​ย่อม​ไม่รู้​ว่า​โจว​เสาจิ่น​ที่​ไม่ได้​พานพบ​เขา​ใน​ชาติก่อน​นั้น​ได้​ปล่อย​ให้​ตนเอง​เหี่ยวเฉา​ไป​ตั้งแต่​ยัง​สาว​แล้ว​

เขา​ราวกับ​กำลัง​ปกป้อง​ดอกไม้​บอบบาง​ดอก​หนึ่ง​ก็​ไม่ปาน​ ปกป้อง​โจว​เสาจิ่น​อย่าง​ระมัดระวัง​ ใน​ใจเต็มไปด้วย​ความอ่อนหวาน​ปาน​น้ำผึ้ง​

ทว่า​โจว​เสาจิ่น​กลับ​ค่อยๆ​ สนใจ​การ​เข้า​ม้วน​ภาพ​ขึ้น​มาจริงๆ​

ถ้าหาก​บอ​กว่า​ก่อนหน้านี้​ชอบ​การ​เข้า​ม้วน​ภาพ​เพราะ​ได้​ใช้เวลา​อยู่​กับ​เฉิงฉือ​ ตอนนี้​ก็​รู้สึก​สนใจ​ขึ้น​มาจริงๆ​

ภาพวาด​ขนาดใหญ่​ต้อง​ใช้วิธี​เข้า​ม้วน​ภาพ​เป็น​แนวตั้ง​ ภาพวาด​ขนาดเล็ก​ต้อง​ใช้วิธี​เจาะช่อง​เพื่อ​ติด​ภาพ​ ภาพ​ที่​มีคำนำ​หรือ​คำ​ส่งท้าย​ต้อง​ติด​ขอบ​ ส่วน​ภาพ​ที่​ไม่มีคำนำ​หรือ​คำ​ส่งท้าย​ต้อง​ตัด​ขอบ​ ไม่ว่า​จะเป็น​แกน​ไม้กฤษณา​ ไม้จันทน์แดง​ หรือ​ไม้สน​ ผ้าไหม​ทอ​ลาย​ลูกเต๋า​ ผ้าไหม​ทอ​ลาย​โหล​ว​เก๋​อ​ หรือ​ผ้าแพร​ทอ​ลาย​จื่อ​ถัว​ฮวา​[1] ที่​กลัด​ภาพ​ม้วน​งาช้าง นอ​แรด​ หรือ​เขา​โค​… ภาพ​ม้วน​ล้วน​มีราย​ละเอียดยิบ​ย่อย​ การ​เข้า​ม้วน​ภาพ​ล้วน​ต้อง​ใช้ความ​ละเอียดลออ​ ที่​กลัด​ภาพ​ม้วน​ล้วน​ต้อง​พิถีพิถัน​ แม้แต่​กล่อง​ไม้ที่​ใช้เก็บ​ภาพ​ม้วน​นั้น​ยัง​แบ่ง​เป็น​กล่อง​ไม้สน​ และ​กล่อง​ไม้ซัว…​ ก็​เหมือนกับ​ที่​นาง​เย็บ​ปัก​อาภรณ์​ ต้อง​จับคู่​ผ้า​แต่ละ​แบบ​ เลือกสรร​วัตถุดิบ​แต่ละ​ชนิด​ให้​เข้ากัน​ โจว​เสาจิ่นรา​ว​กับ​ตกลง​ใน​กล้อง​สลับ​ลาย​ก็​ไม่ปาน​ รู้สึก​เพลิดเพลิน​เหลือแสน​

นาง​ยัง​นำ​กระดุม​เขา​โค​เจ็ด​แปด​เม็ด​มาให้​ห​ลี่​ซื่อ​ด้วย​ กล่าวว่า​ “…เป็น​กระดุม​ที่​ท่าน​น้า​ฉือ​ขัดเงา​ด้วย​ตนเอง​ยาม​ว่าง​ บอ​กว่า​เหลือ​มาจาก​ตอนที่​ขัดเงา​ที่​กลัด​ภาพ​ม้วน​เจ้าค่ะ​” ตอนนี้​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​ได้​พบ​เฉิงฉือ​แล้ว​ เพียง​นาง​นึกถึง​เขา​ก็​จะรู้สึก​อบอุ่น​หัวใจ​ นาง​อดเอ่ย​ชมไม่ได้​ว่า​ “ข้า​ก็​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​น้า​ฉือ​ทำ​ของ​พวก​นี้​เป็น​ด้วย​เจ้าค่ะ​ นอกจากนี้​ข้า​จำได้​ว่า​ตอนที่​ท่าน​น้า​ฉือ​อยู่​ที่​เรือน​เสี่ยว​ซาน​ฉงกุ้ย​ยัง​ทำ​พิณ​ด้วย​ตนเอง​…” นึกถึง​ตรงนี้​ นาง​ฉุก​คิดได้​ว่า​ตน​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ถามเฉิงฉือ​ว่า​พิณ​นั้น​เป็น​อย่างไร​แล้ว​ นาง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ อย่าง​ขวยเขิน​ว่า​ “ที่​ท่าน​น้า​ฉือ​อยู่​มีของดี​มากมาย​เลย​เจ้าค่ะ​ ช่วงนี้​เขา​กำลัง​แกะสลัก​ตราประทับ​ บอ​กว่า​ตั้งใจ​ให้​ท่าน​นำ​ไป​เป่า​ติ้ง​มอบให้​บิดา​ตอนที่​กลับ​ไป​ ตราประทับ​ทำ​จาก​หิน​เลือดนก​ชั้นดี​ก้อน​หนึ่ง​ที่​เขา​ได้รับ​มานาน​แล้ว​ ปลา​ห​ลี่​อวี๋บน​ปลาย​ด้าม​ก็​แกะสลัก​โดย​ท่าน​น้า​ฉือ​เอง​ ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​เขา​ที่​ลงมือทำ​เอง​ ไม่ได้​หยิบ​ยืมมือ​คนอื่น​เลย​สักนิด​เจ้าค่ะ​”

วันนั้น​ตอนที่​ท่าน​น้า​ฉือ​อธิบาย​ให้​นาง​รู้จัก​ที่​กลัด​ภาพ​ม้วน​ที่​ทำ​จาก​วัสดุ​ชนิด​ต่างๆ​ ว่า​เป็น​อย่างไร​ก็​พูด​ถึงว่า​ภาพ​ม้วน​บาง​ภาพ​ยัง​ใช้แกน​ฝังอัญมณี​ล้ำค่า​เลย​ด้วยซ้ำ​ จากนั้น​หัวข้อ​สนทนา​ก็​เปลี่ยนไป​เป็นเรื่อง​หิน​ต่างๆ​ หลังจาก​ทราบ​ว่า​บิดา​เคย​แกะสลัก​ตราประทับ​หิน​เลือดนก​ที่​สลัก​คำ​ว่า​ ‘ความหวัง​และ​ความงดงาม​’ ชิ้น​หนึ่ง​ด้วย​ตนเอง​ให้​นาง​ ท่าน​น้า​ฉือ​จึงตัดสินใจ​แกะสลัก​ตราประทับ​คำ​ว่า​ ‘ผู้​ประเสริฐ​ย่อม​ดุจดั่ง​น้ำ​’ ชิ้น​หนึ่ง​ให้​บิดา​ด้วย​ตนเอง​

ปลา​ห​ลี่​อวี๋​นั้น​มีนิทาน​เรื่อง​ปลา​ห​ลี่​อวี๋​กระโดด​ข้าม​ประตู​มังกร​อยู่​ด้วย​ ถือ​เป็นการ​อวยพร​ให้​บิดา​การงาน​ราบรื่น​และ​เจริญก้าวหน้า​ นอกจากนี้​คำ​ว่า​ ‘ผู้​ประเสริฐ​ย่อม​ดุจดั่ง​น้ำ​’ คำ​นี้​มีที่​มาจาก​คัมภีร์​เต๋า​เต๋อ​จิงซึ่งหมาย​รวมถึง​หลักปฏิบัติ​ใน​การฝึกฝน​ตน​และ​การกระทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ และ​ยัง​แฝงความ​นัยว่า​เป็น​ขุนนาง​แล้ว​อย่า​ได้​ลืม​รากฐาน​ของ​ตนเอง​อยู่​เล็กน้อย​อีกด้วย​

ห​ลี่​ซื่อ​รู้หนังสือ​ไม่มาก​นัก​ จึงไม่รู้​ความนัย​ของ​คำ​ว่า​ ‘ผู้​ประเสริฐ​ย่อม​ดุจดั่ง​น้ำ​’ แต่​รู้​ความหมาย​ของ​ ‘ปลา​ห​ลี่​อวี๋​กระโดด​ข้าม​ประตู​มังกร​’ ยิ่งกว่านั้น​การ​มอบ​ตราประทับ​ให้​แก่​กัน​ใน​หมู่​ขุนนาง​แม้ว่า​นับ​เป็นเรื่อง​ปกติ​ แต่​ปลาย​ด้าม​นั้น​จะไม่แกะสลัก​อะไร​ไว้​เลย​ คง​สภาพเดิม​เอาไว้​ หรือไม่​ก็​เชิญช่างแกะสลัก​มาแกะสลัก​ก่อน​ การแกะสลัก​ทั้งหมด​ด้วย​ตนเอง​เช่น​เฉิงฉือ​ที่​แม้แต่​งานฝีมือ​ก็​ทำเป็น​ ไม่ค่อย​มีให้​เห็น​นัก​ แสดงให้เห็น​ว่า​ฝีมือ​การแกะสลัก​ของ​เขา​นั้น​ยอดเยี่ยม​ยิ่งยวด​ เมื่อ​บวก​กับ​เวลา​ที่​ห​ลี่​ซื่อ​มาจิงเฉิง เฉิงฉือ​ได้​ดูแลเอาใจใส่​นางใน​ทุกๆ​ ด้าน​ ความประทับใจ​ที่​นาง​มีต่อ​เฉิงฉือ​ก็ดี​ยิ่งนัก​ จึงประจบประแจง​เฉิงฉือ​โดยไม่รู้ตัว​ไป​บ้าง​ ยิ่งกว่านั้น​เรื่อง​นี้​ก็​สมควร​แก่​การ​ยกย่อง​ชื่นชม​ นาง​อดเดาะ​ลิ้น​อย่าง​ประหลาดใจ​ไม่ได้​ว่า​ “เช่นนั้น​ก็ดี​ยิ่ง​! เจ้าอย่า​ลืม​ขอบ​คุณนาย​ท่าน​สี่ฉือ​แทน​นาย​ท่าน​ด้วย​ล่ะ​” ทั้ง​ทอดถอนใจ​อย่าง​อดไม่ได้​ว่า​ “มิน่า​นาย​ท่าน​สี่ฉือ​ถึงสอบ​ได้​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ตั้งแต่​อายุ​ยัง​น้อย​ ช่างมีความสามารถ​จริงๆ​! ไม่ว่า​อะไร​ก็​ทำได้​ทั้งนั้น​!”

การ​สอบ​จิ้น​ซื่อ​กับ​การแกะสลัก​นั้น​ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน​โดยตรง​แต่อย่างใด​

ทว่า​ทั้งสอง​คน​ที่​สนทนา​กัน​อยู่​นี้​ล้วน​พูดถึง​เฉิงฉือ​ จึงมิได้​รู้สึก​ว่า​ถ้อยคำ​ของ​ตน​ไม่เหมาะสม​แม้แต่น้อย​

โจว​เสาจิ่น​หลุด​หัวเราะ​ พลาง​กล่าว​ “ที่​ท่าน​น้า​ฉือ​อยู่​นั้น​มีของ​ที่​น่าสนใจ​มากมาย​เลย​เจ้าค่ะ​! มีชามใส่น้ำ​รู​ปลูก​ท้อ​มงคล​แกะสลัก​จาก​หยก​เก่า​ชิ้น​หนึ่ง​ เป็น​ลูก​ท้อ​ลูก​ใหญ่​ลูก​หนึ่ง​ ลูก​เล็ก​ลูก​หนึ่ง​ เมื่อ​เท​น้ำ​เข้า​ใน​ลูก​ท้อ​ลูก​ใหญ่​ น้ำ​จะหยด​ติ๋ง​ๆ เข้าไป​ใน​ลูก​ท้อ​ลูก​เล็ก​ เมื่อ​หยด​จน​หมด​ จะใช้เวลา​หนึ่ง​เค่อจง​พอดี​ ท่าน​น้า​ฉือ​บอ​กว่า​ นี่​เป็น​ชามใส่น้ำ​ที่​เขา​ใช้สมัย​เป็น​เด็ก​ เวลา​หนึ่ง​เค่อจง​คัด​อักษร​ตัว​ใหญ่​หนึ่ง​จบ​ เมื่อ​น้ำ​หยด​หมด​แล้ว​ ก็​คัด​อักษร​เสร็จ​พอดี​ ถ้าหาก​เท​น้ำลง​ใน​ลูก​ท้อ​ลูก​เล็ก​ น้ำ​ก็​จะหยด​เข้าไป​ใน​ลูก​ท้อ​ลูก​ใหญ่​ เพียงแต่​น้ำ​จะหยด​เป็นเวลา​สามเค่อจง​ ครั้น​น้ำ​หยด​จน​หมด​ ก็​คัด​อักษร​ตัวเล็ก​เสร็จ​หนึ่ง​หน้า​… ยังมี​ที่​ทับ​กระดาษ​แท่ง​หนึ่ง​ ไม่รู้​ว่า​ทำ​มาจาก​วัสดุ​อะไร​ ทั้ง​แท่ง​ดูเหมือน​ดำ​สนิท​ ทว่า​ใน​วันที่​ฟ้าครึ้ม​ก็​จะเปลี่ยนเป็น​สีเขียว​อม​ดำ​ ข้างใน​ยัง​เห็น​ลาย​ดอกไม้​รางๆ​ คล้าย​ก้อน​เมฆที่​ม้วน​ตลบ​ ท่าน​น้า​ฉือ​บอ​กว่า​ นั่น​เป็น​ของ​ของ​บรรพบุรุษ​ นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​เป็น​คน​มอบให้​เขา​ เขา​ใช้มาโดยตลอด​ เขา​ยัง​บอก​ข้า​ว่า​ ถ้าที่​ทับ​กระดาษ​แท่ง​นี้​โดน​น้ำ​ ทั้ง​อ่าง​น้ำ​ราวกับ​ถูก​น้ำหมึก​หยด​ลง​ไป​ ข้า​จึงลองดู​ ปรากฏ​ว่า​เมื่อ​วาง​ที่​ทับ​กระดาษ​นั้น​ใน​อ่าง​น้ำ​แล้ว​น้ำ​ก็​เปลี่ยนเป็น​สีดำ​ทั้งหมด​ แต่​พอ​หยิบ​ออกมา​น้ำ​ใสยังคง​เป็นน้ำ​ใส และ​ที่​ทับ​กระดาษ​ยังคง​เป็นที่​ทับ​กระดาษ​อยู่​เช่น​เดิม​…”

“มีเรื่อง​เช่นนี้​ด้วย​หรือ​” ห​ลี่​ซื่อ​เอ่ย​อย่าง​อัศจรรย์​ใจ อด​ทอดถอนใจ​ไม่ได้​ว่า​ “นาย​ท่าน​สี่สมเป็น​บุตรหลาน​จาก​ตระกูล​เก่าแก่​ใหญ่โต​ ต่อให้​ผู้อื่น​พยายาม​ไขว่คว้า​มาทั้ง​ชีวิต​ก็​มิอาจ​ไขว่คว้า​ได้​สัก​สิ่งหนึ่ง​ ทว่า​เขา​กลับ​หยิบ​สิ่งนั้น​ออกมา​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​”

โจว​เสาจิ่น​พยักหน้า​ ท่าทาง​เสมือน​หลุด​เข้าไป​ใน​ขุมสมบัติ​มาอย่างไร​อย่างนั้น​

สิ้นปี​นี้​นาง​ก็​จะเข้า​พิธี​ปัก​ปิ่น​แล้ว​ ห​ลี่​ซื่อ​เห็น​ว่า​นาง​ราวกับ​เป็น​อัญมณี​ที่​นำ​ออก​มาจาก​กล่อง​ขึ้น​มาใน​ทันใด​ ไม่ต้อง​พูด​ถึงว่า​ยิ่ง​โต​ขึ้น​ก็​ยิ่ง​งดงาม​เฉิดฉัน​ ยังมี​บุคลิก​ที่​สง่าผ่าเผย​ละม้าย​บุปผา​ต้อง​ต้น​หลิว​ก็​ไม่ปาน​ ใน​ใจลอบ​รู้สึก​เป็นกังวล​เล็กน้อย​อย่าง​อธิบาย​ไม่ได้​ อยาก​จะเตือน​โจว​เสาจิ่น​ว่า​วันหลัง​ไป​เรือน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​ให้​น้อยลง​ดี​หรือไม่​ ทว่า​พอ​เห็น​ดวง​หน้า​น้อย​ๆ ที่​เปล่งปลั่ง​ของ​นาง​และ​ท่าทาง​เบิกบาน​เป็น​ล้นพ้น​ ก็​รู้สึก​ว่า​ตน​คิดมาก​ไป​เอง​… ระหว่าง​ที่​ลังเล​อยู่​นั้น​ โจว​เสาจิ่น​ก็​หยิบ​ป้าย​เครื่องราง​ไม้ท้อ​กว้าง​สอง​นิ้ว​แผ่น​หนึ่ง​ยื่น​ให้​นาง​แล้ว​ พลาง​กล่าวว่า​ “นี่​เป็น​ป้าย​เครื่องราง​ที่​ได้​มาจาก​ท่าน​น้า​ฉือ​ ขอให้​แคล้วคลาด​ปลอดภัย​ เอา​ให้​โย่วจิ่นพก​ไว้​เถอะ​นะ​เจ้าคะ​! ชิงเฟิงบอ​กว่า​ใน​ปี​นั้น​ที่​ท่าน​น้า​ฉือ​ไป​เขา​อู่​ไถได้​เชิญท่าน​อาจารย์​มาทำพิธี​เบิก​เนตร​ ปกป้อง​คุ้มครอง​โย่วจิ่น​ให้​ปลอดภัย​ราบรื่น​เจ้าค่ะ​!”

ห​ลี่​ซื่อ​เห็น​บน​ป้าย​นั้น​แกะสลัก​แจกัน​ล้ำค่า​ใบ​หนึ่ง​ ใน​แจกัน​ล้ำค่า​มีกิ่ง​หลิว​กิ่ง​หนึ่ง​ปัก​อยู่​ และ​มีน้ำค้าง​หยด​หนึ่ง​ห้อย​อยู่​ที่​ปลาย​กิ่ง​หลิว​ คล้าย​จะหยด​แหล่​มิหยด​แหล่​ แกะสลัก​ได้​สมจริง​ยิ่งนัก​ ทำให้​คน​เห็น​แล้ว​กลัว​ว่า​น้ำค้าง​หยด​นั้น​จะหยด​ลงมา​ ต้อง​ใช้มือรอง​เอาไว้​ให้ได้​ เห็น​แล้ว​มิใช่ของธรรมดา​ทั่วไป​

“จะรับ​ไว้​ได้​อย่างไร​กัน​!” นาง​รีบ​ผลัก​คืนให้​โจว​เสาจิ่น​

โจว​เสาจิ่น​เม้มปาก​กลั้น​ยิ้ม​ กล่าวว่า​ “ท่าน​น้า​ฉือ​ก็​ทราบ​เจ้าค่ะ​ เขา​ยัง​บอ​กว่า​ข้า​เลือก​ได้ดี​ โย่วจิ่น​อายุ​ยัง​น้อย​ ถ้าสวม​เครื่องเงิน​เครื่องทอง​ก็​จะเป็นที่​สะดุดตา​เกินไป​ หาก​เดิน​อยู่​ข้างนอก​ก็​ถูก​พวก​โจร​จับจ้อง​ ไม่สู้พก​ป้าย​คลาดแคล้ว​ปลอดภัย​ไม้ท้อ​นี้​จะดีกว่า​ คน​ทั่วไป​อาจ​ไม่รู้​ที่มา​ที่​ไป​ แต่​คน​ที่​รู้ดี​ชั่ว​ หาก​คิด​จะเมินเฉย​นาง​ก็​ต้อง​ชั่งน้ำหนัก​ให้​ดี​…”

ถ้อยคำ​นี้​พูด​ได้​ตรง​ใจห​ลี่​ซื่อ​จริงๆ​

เนื่องจาก​นาง​มาจาก​ครอบครัว​พ่อค้า​ แต่งงาน​กับ​โจว​เจิ้น​ผู้​มีชาติกำเนิด​เป็น​ปัญญาชน​อย่างไร​ก็​รู้สึก​ขาดความมั่นใจ​อยู่​บ้าง​ แต่​ไร​มากลัว​จะถูก​พวก​ฮูหยิน​ของ​สหาย​ร่วมงาน​หรือ​สหาย​ร่วม​สำนัก​เหล่านั้น​ของ​โจว​เจิ้น​ดูถูกดูแคลน​เป็น​ที่สุด​ แม้มีสินเดิม​มากมาย​ใน​มือ​ก็​มิกล้า​ใช้ตามอำเภอใจ​ ตอนนี้​มีป้าย​คลาดแคล้ว​ปลอดภัย​ป้าย​นี้​ เมื่อ​บุตรสาว​เดิน​ไป​ที่ใด​ก็​ยืด​หลัง​ตรง​อย่าง​ผึ่งผาย​ได้​แล้ว​

ห​ลี่​ซื่อ​มิได้​ปฏิเสธ​อีก​ รับ​ป้าย​คลาดแคล้ว​ปลอดภัย​ แล้​วอด​กล่าว​ไม่ได้​ว่า​ “นาย​ท่าน​สี่ฉือ​เป็น​คน​ที่​ดีเลิศ​ถึงเพียงนี้​ ไม่รู้​ว่า​บุตรสาว​ตระกูล​ใด​จะมีวาสนา​แต่งงาน​กับ​เขา​!”

โจว​เสาจิ่น​จำต้อง​กลั้น​ไว้​ถึงจะไม่หลุด​หัวเราะ​ออกมา​

แต่ก่อน​ห​ลี่​ซื่อ​ก็​เคย​กล่าว​เช่นนี้​เหมือนกัน​ อย่างไรก็ตาม​ตอนนั้น​พูดว่า​ นาย​ท่าน​สี่ฉือ​เป็น​คน​ที่​ดีเลิศ​ถึงเพียงนี้​ เหตุใด​ถึงมิได้​แต่ง​งาน.​..

พอ​นึกถึง​เรื่อง​นี้​ แก้ม​ของ​โจว​เสาจิ่น​ก็​ขึ้น​สีชมพู​ระเรื่อ​

ท่าน​น้า​ฉือ…​สวมกอด​นาง​จาก​ข้างหลัง​ จุมพิต​คอ​ของ​นาง​พลาง​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง​… กล่าวว่า​ ข้า​อยาก​จะประจบประแจง​เอาใจ​พ่อแม่​ภรรยา​และ​พี่สาว​น้องสาว​ภรรยา​ดี​ๆ จะได้​อุ้ม​หญิง​งามกลับ​ไป​โดยเร็ว​… นาง​รู้สึก​อ่อนระทวย​ จน​แทบจะ​ล้มพับ​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​…

ช่างน่าเกลียด​เสีย​จริงๆ​!

ประเดี๋ยว​ก็​จริงจัง​ประเดี๋ยว​ก็​เหลวไหล​ ไหน​เลย​จะยังมี​ท่าที​สุขุม​เยือกเย็น​เหมือน​แต่ก่อน​บ้าง​ โชคดี​ที่​ทุกคน​ยังคง​พูด​ชมเขา​ว่า​ดี​!

นาง​บ่น​อุบอิบ​อย่าง​ไร้​สุ้มเสียง​ ทว่า​ใน​ใจราวกับ​มีน้ำผึ้ง​ไหล​เยิ้ม​ออกมา​ก็​ไม่ปาน​ หวาน​ชุ่มฉ่ำ แม้แต่​ดวง​หน้า​ก็​เปลี่ยนเป็น​อ่อนโยน​ประหนึ่ง​มีน้ำ​เอ่อ​ท้น​ออกมา​

ห​ลี่​ซื่อ​เห็น​แล้ว​ตกใจ​

ถึงแม้ว่า​นาง​เป็น​อิสตรี​ที่​ออกเรือน​แล้ว​ แต่​ไม่เคย​บังเกิด​ความรู้สึก​เช่นนี้​มาก่อน​ แม้ใน​ใจลอบ​รู้สึก​ประหลาดใจ​ระคน​ว้าวุ่น​ใจ แต่​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​จัดการ​อย่างไร​ดี​

ขณะที่​ลังเล​อยู่​นั้น​ นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ก็​ขอ​พบ​

นาง​ได้​แต่​ปล่อย​ให้​โจว​เสาจิ่น​กลับ​ห้อง​ แล้วไป​พบ​นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ที่​ห้องรับแขก​

นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ถูมือ​เดิน​ไปมา​ใน​ห้องรับแขก​ เก็บ​สีหน้า​เบิกบานใจ​ไว้​ไม่อยู่​

เมื่อ​เห็น​น้องสาว​เดิน​เข้ามา​ ก็​รีบ​ก้าว​เข้า​ไปหา​ พลาง​กล่าวว่า​ “ข้า​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​ท่าน​พ่อ​แล้ว​ เล่าเรื่อง​ที่​นาย​ท่าน​สี่ตระกูล​เฉิงแนะนำ​ข้า​ ท่าน​พ่อ​คิด​ว่า​ใน​พิธี​ครบ​ร้อย​วัน​ของ​กวน​เก​อ​บุตรชาย​ต้า​กู​ไห​น่​ไน​ให้​เพิ่ม​ของขวัญ​มากขึ้น​เป็น​เท่าตัว​… ข้า​มิได้​เสียดาย​เงินทอง​เหล่านี้​ กลัว​แต่ว่า​ประสงค์ดี​จะกลับ​กลายเป็น​ร้าย​ เกินหน้าเกินตา​ของขวัญ​ที่​บรรดา​นาย​ท่าน​ตระกูล​เฉิงมอบให้​ ดังนั้น​จึงตั้ง​ใจมาถามเจ้าสักหน่อย​ว่า​เรื่อง​นี้​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​”

ห​ลี่​ซื่อ​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​เหมือนกัน​

นาง​เอา​ป้าย​คลาดแคล้ว​ปลอดภัย​ไม้ท้อ​ที่​โจว​เสาจิ่น​มอบให้​นาง​ให้​พี่ชาย​ดู​ พร้อมกับ​เล่า​เรื่องราว​ให้​พี่ชาย​ฟัง

นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ยก​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ พลาง​กล่าวว่า​ “ข้า​จะไปหา​ของ​เช่นนี้​ได้​จาก​ที่ใด​กัน​”

ห​ลี่​ซื่อ​จึงกล่าวว่า​ “เช่นนั้น​ก็​มอบ​ของขวัญ​พิธี​ครบ​ร้อย​วัน​ตาม​ใบ​รายการ​ก่อนหน้านี้​แล้วกัน​ วัน​เวลา​ต่อจากนี้​ยังอีก​ยาว​ไกล​ ใน​เมื่อ​ท่าน​พี่ใหญ่​มีใจตอบแทน​ตระกูล​เฉิง ย่อม​มีโอกาส​อีก​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”

นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ครุ่นคิด​แล้วก็​ตอบรับ​อย่าง​เริงร่า​ หยิบ​ป้าย​แคล้วคลาด​ปลอดภัย​ป้าย​นั้น​ขึ้น​มาพิเคราะห์​ดู​ครู่หนึ่ง​ แล้ว​เอ่ย​ชมยกใหญ่​ จากนั้น​ก็​เอ่ยถึง​แผนการ​ในอนาคต​ขึ้น​ว่า​ “…ควรจะ​ซื้อ​เรือน​สัก​หลัง​หนึ่ง​ทาง​นี้​ไว้​ด้วย​ วันหลัง​เจ้ามาอยู่​ที่​จิงเฉิงเป็นเวลา​สั้น​ๆ หรือ​พวก​หลานชาย​ของ​เจ้ามาเล่าเรียน​ที่​จิงเฉิงก็​จะได้​มีผู้ดูแล​”

พวก​หลานชาย​ใน​ตระกูล​ล้วน​ถูก​บิดา​ไล่​ให้​ไป​เรียนหนังสือ​ ห​ลี่​ซื่อ​ก็​ทราบ​ดี​เช่นกัน​ แต่​หลาน​ๆ พวก​นั้น​จะได้รับ​ความอนุเคราะห์​จาก​ตระกูล​โจว​หรือ​ตระกูล​เฉิงนั้น​ นาง​ก็​ไม่แน่ใจ​เท่าใด​นัก​

อย่างไรก็ตาม​ซื้อ​เรือน​สัก​หลัง​ทาง​นี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ อย่างไร​ก็​ไม่ขาดทุน​

นาง​ตอบ​ไป​อย่าง​คลุมเครือ​ เมื่อ​ถึงวัน​จัด​พิธี​ครบ​ร้อย​วัน​ของ​กวน​เก​อ​ ก็​แต่งหน้า​แต่ง​ตัวอย่าง​งดงาม​ แล้ว​พา​โจว​เสาจิ่น​ โจว​โย่วจิ่น​และ​นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ไป​ที่​ซอ​ยอ​วี๋​ซู่ด้วยกัน​

ไม่ว่า​จะเป็น​ตระกูล​เลี่ยว​แห่ง​เจิ้น​เจียง​ ตระกูล​ฟางแห่ง​ซูเฉิง หรือ​ตระกูล​เฉิงแห่ง​ซอย​จิ่ว​หรู​… เมื่อ​นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ยืน​อยู่​ท่ามกลาง​บรรดา​ญาติ​ที่​เกี่ยวดอง​เหล่านี้​ก็​กลายเป็น​คน​ที่​ไม่อยู่​ใน​สายตา​ ยัง​ดี​ที่​มีเฉิงฉือ​ทักทาย​เขา​ สายตา​ที่​ทุกคน​มองดู​เขา​จึงมีความลึกซึ้ง​แตก​ต่างกัน​ออก​ไป​

นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​รู้สึก​หดหู่​และ​ซาบซึ้งใจ​เฉิงฉือ​ยิ่งขึ้น​

ทว่า​เฉิงฉือ​กลับ​ถูก​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​รอง​ของ​ตระกูล​เลี่ยว​ใน​จิงเฉิงดึง​ตัว​ไป​ข้าง​หนึ่ง​ กระซิบ​ว่า​ “ได้ยิน​มาว่า​ซอย​จิ่ว​หรู​อยาก​จะแยก​ตระกูล​ เป็น​เรื่องจริง​หรือไม่​”

เรื่อง​นี้​แม้น​อยาก​จะปกปิด​เอาไว้​ก็​ปกปิด​ไม่อยู่​ ทว่า​เฉิงฉือ​ยังคง​กล่าวว่า​ “เรื่อง​นี้​ต้อง​ถามพี่ใหญ่​ของ​ข้า​ ข้า​ไม่ค่อย​ได้​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​พวก​นี้​นัก​ขอรับ​”

นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​รอง​ตระกูล​เลี่ยว​รีบ​แสดง​จุดยืน​ของ​ตน​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ “ข้า​คิด​ว่า​แยก​ตระกูล​กัน​ก็​มิได้​ไม่ดี​ เพียงแต่​อย่า​ทะเลาะ​กัน​ใหญ่โต​อะไร​จน​เป็นที่​น่าขบขัน​ก็แล้วกัน​ หาก​มีเรื่อง​อะไร​ที่​ต้องการ​ให้​ข้า​ช่วย​ เจ้าก็​บอก​ข้า​แล้วกัน​”

เฉิงฉือ​ตอบรับ​ยิ้ม​ๆ แต่​มิได้​เก็บ​ถ้อยคำ​ของ​เขา​มาใส่ใจเลย​สักนิด​

ตระกูล​เลี่ยว​ไม่มีคุณสมบัติ​พอที่จะ​มาพูด​เรื่อง​พวก​นี้​ได้​

………………………………………………………………….

[1] ผ้าไหม​ทอ​ลาย​ลูกเต๋า​ ผ้าไหม​ทอ​ลาย​โหล​ว​เก๋​อ​ และ​ผ้าแพร​ทอ​ลาย​จื่อ​ถัว​ฮวา​ เป็น​ผ้าไหม​ทอ​ลาย​โบราณ​ซึ่งนิยม​ใช้ใน​การ​เข้า​ม้วน​ภาพ​ใน​ยุค​ราชวงศ์​ซ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด