ราชาโลกเบื้องหลัง 24

Now you are reading ราชาโลกเบื้องหลัง Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘หน่วยกล้าตาย’ ทหารหน่วยพิเศษสังกัดตระกูลเกรโมรี่โดยเฉพาะ มีการคัดเลือกและฝึกฝนคนอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ คุณสมบัติหลักที่หน่วยนี้ต้องการมีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น ใช้เวทระเบิดตัวเองได้กับไม่กลัวตาย

มันฟังดูสุดโต่งก็จริง แต่จุดประสงค์ของหน่วยนี้ก็คือการฆ่าตัวตายไปพร้อมกับศัตรูอยู่แล้ว…

 

‘ น—หน่วยกล้าตายไม่สามารถพาตัวคุณหนูกลับมาได้ค่ะนายหญิง… ’

 

ณ ภายในห้องที่ดูทรุดโทรมคลับคล้ายคลับคลากับห้องใต้ดิน เมดสาวที่มีเข็มกลัดรูปจอกเหล้าตรงหน้าอกกำลังก้มหน้ารายงานสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความยำเกรง

เด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงเก่าๆตรงหน้านั้นให้ความรู้สึกสูงส่งจนเธอไม่แม้แต่จะกล้ามองหน้าตรงๆ 

 

‘ ….เด็กคนนั่นเป็นคนลงมือใช่ไหม? ’

‘ ม—ไม่ใช่ค่ะนายหญิง จากรายงานระบุว่าขณะนั้นคุณชายนั่งอ่านหนังสือเฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ’

‘ ไม่ได้ทำอะไรเลยเหรอ? ’

‘ ค—ค่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลย ’

‘ แล้วใครเป็นคนลงมือ? ’

‘ [กรงเล็บของไคม์]ค่ะ ’

‘ หืม เด็กที่ชื่อจัสมินเองสินะ… ’

 

เมดสาวกำลังเหงื่อแตกพลั่ก แสดงสีหน้าประมาณว่า ‘อยากกลับบ้านแล้วค่า~’ ยังไงยังงั้น 

เธอพึ่งจะได้เข้ามาทำงานที่ตระกูลเกรโมรี่วันนี้เป็นวันแรก แต่แล้วจู่ๆเธอก็ถูกเลื่อนขั้นให้มาเป็นเมดส่วนตัวของหัวหน้าตระกูลเกรโมรี่ทันทีเพียงเพราะเธอเผลอจามใส่หัวหน้าเมดจนหัวชุ่ม

ทีแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมการเลื่อนขั้นมันถึงเป็นบทลงโทษ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจมันอย่างถ่องแท้เลยล่ะ…

 

( ปวดคอแล้ว~ ถ้าขอออกไปทายาหม่องก่อนเดี๋ยวกลับมาฉันจะถูกไล่ออกไหมเนี่ย…ช่วยหนูด้วย หม่าม้า! )

 

แน่นอนว่าเหตุผลที่เธอก้มหน้าตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้าหัวหน้าตระกูลเกรโมรี่ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความรู้สึกสูงส่งนั้น แต่อีกเหตุผลนึงก็เพราะ กฎของตระกูลที่ห้ามใครก็ตามมองหน้าของเด็กผู้หญิงคนนี้ตรงๆ ไม่เว้นแม้แต่พวกแขกที่มาเยียมเยือน…

 

‘ เฮ้อ~ ’

 

เด็กผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจออกมาอย่างไร้เหตุผล นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เมดสาวได้ยินเสียงถอนหายของเธอ จึงอดไม่ที่จะแสดงสีหน้าแปลกใจ 

 

‘ เธอไปบอกพวกอาวุโสทุกคนซะว่าให้ยกลิกแผนการทั้งหมด และสั่งให้อาวุโสที่ส่งหน่วยกล้าตายออกไปโดยพลการมารับบทลงโทษด้วย ถ้าเกิดใครมีคำถามก็ให้มันมาพูดต่อหน้าฉันเอง ’

‘ อ—เอ๊ะ เอ่อ…คือ… ’

‘ หือ ขอโทษที เธอเป็นเด็กใหม่สินะ ถ้างั้นเอาคำสั่งของฉันไปบอกหัวหน้าเมดให้จัดการต่อซะ แค่นี้คงทำได้ใช่ไหม? ’

‘ ค—ค่ะ! ทำได้ค่ะ! ’

 

เมื่อได้รับคำสั่งแล้ว เมดสาวก็รีบเดินออกจากห้องนี้ไปทันที หลังจากปิดประตู เธอก็พยายามจะเงยหน้าขึ้น แต่มันก็ทำให้เกิดเสียง ‘ก๊อก’ จากคอเธอ

ทันใดนั้นเสียงโอดครวญของเมดสาวก็ได้ดังสะท้อนกับทางขึ้นบรรไดแคบๆ จนมาถึงห้องที่เด็กผู้หญิงก่อนหน้านี้อยู่

 

( อ๊ะ นั่นน่าจะเจ็บน่าดูเลย )

 

เด็กผู้หญิงได้คิดไปพลางพร้อมกับถอนหายใจไปพลาง หลังจากนั้นเธอก็ทิ้งตัวนอนลงไปบนเตียงเก่าๆและหยิบสมุดวาดรูปออกมาชูขึ้นมอง

ถ้าสังเกตที่ไหล่ของเด็กผู้หญิงคนนี้ดีๆจะเห็นรอยสักรูปจอกเหล้าสีดำอยู่

 

~★★★~

 

“ โอ้โห้ ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วที่นี่ก็ยังหรูหราหมาเห่าเหมือนเดิมเลย ”

“ ใช่ม้าาาา หรูจนแค่มองยังรู้สึกแสบตาเลยล่ะ ถ้าเอาแป้งไปเปาะแล้วขัดถูสักหน่อยก็อาจจะเห็นเลขเด็ดก็ได้นะ ไปลองด้วยกันไหมเมฆ? ”

“ แหะๆ …ไม่ดีกว่าครับ ผมรู้สึกเกรงใจ ”

 

หลังจากที่พวกเราทั้งคู่ฝ่าอุปสรรคและกาลเวลาอย่างยาวนานหลายชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายจนได้!

 

“ ฮะฮ่าๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า~ คนกันเอง~ ”

“ ….ไม่ใช่อย่างงั้นครับ ที่ผมเกรงใจน่ะคือพี่ยามกล้ามโต5คนตรงนั้นต่างหากล่ะ ถ้าพวกเราทำกำแพงของโรงแรมนี้เปื้อนเมื่อไร ผมว่าพวกเราอ่วมแน่ ”

 

ฉันยกนิ้วชี้ไปทางยามที่กำลังเดินลาดตะเวนกันอยู่เป็นกลุ่ม แต่ละคนในนั้นล้วนแต่มีร่างกายเหมือนนักกีฬายกน้ำหนักกันทั้งนั้น 

พี่ภพถึงกับหน้าเสีย เขาพยายามควบคุมน้ำเสียงและตรึงรอยยิ้มขณะหันมาพูดกับฉัน

 

“ อ—เอ่อ งั้นพวกเราช่างเรื่องนั้นกันดีกว่า รีบเข้าไปในโรงแรมกันเถอะ พี่ทรายเค้าน่าจะติดต่อจองห้องเตรียมเอาไว้เรียบร้อยเเล้ว ”

“ ครับ ”

 

เบื้องหน้าของพวกเราทั้งคู่ตอนนี้คือโรงแรมที่มักมีพวกมหาเศรษฐีมาพักใช้งานบ่อยๆ โรงแรมมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับอาคารข้างเคียง มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกของโรงแรมอย่างสวยงาม ส่วนพวกยามก็ดูขยันขันแข็งทำงานดี

[โรงเเรมอิกดราซิล] คือโรงเเรมที่มีสาขามากมายอยู่หลายประเทศ มีการบริการชั้นเลิศเเละการรักษาความปลอดภัยชั้นเยี่ยม มันถูกบริหารโดยหนึ่งในบรรดา«ร่างทรง»ที่ได้ทำข้อตกลงกับ«ร่างทรง»คนอื่นในประเทศนั้นๆเพื่อขยายสาขา…

 

“ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปเอากุญแจห้องก่อนนะ นายไปนั่งรอตรงนั้นได้เลย ”

“ อา ครับ ”

 

ฉันเดินไปนั่งบนโซฟาใกล้ๆก่อนจะมองไปตรงตำแหน่งเคาน์เตอร์ ฉันเห็นพี่ภพกำลังยืนเถียงอะไรสักอย่างกับพนักงานอยู่นานสองนาน ก่อนที่ต่อมาพี่ภพจะไหว้ขอโทษอีกฝ่ายอย่างรนราน 

และหลังจากรับกุญแจมาแล้ว พี่ภพก็รีบเดินตรงมาหาฉันด้วยใบหน้าที่ร้อนผาวไปด้วยความอาย สายตาของเขาเหมือนอยากจะตะโกนดังๆว่า ‘ช่วยฆ่าฉันที! ใครก็ได้!’

 

“ ได้มาแล้วล่ะ ชั้น7 ห้อง704…/// ”

“ มีอะไรรึเปล่าครับ เห็นยืนเถียงกับพนักงานเมื่อกี้? ”

 

พริบตาที่ฉันเอ่ยถาม พี่ภพก็เริ่มหลั่งน้ำตาออกมาทันที

ถึงพี่ภพจะดูเป็นคนแปลกๆ แต่เค้าเองก็มีศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายเหมือนกัน แม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนบัญญัติเอาไว้ว่าผู้ชายไม่ควรร้องไห้ออกมาง่ายๆ แต่ถ้าขนาดพี่ภพยังถึงกับต้องร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร เรื่องนี้มันน่าจะรุนแรงมากกว่าที่คิดแน่…

 

“ ….พอดีฉันบอกเลขห้องที่จองไว้เป็น604 แต่พนักงานกลับบอกว่าห้องนั้นยังไม่มีคนจอง ฉันมั่นใจมากว่าพี่ทรายจองห้อง604ไว้ให้แล้ว เพราะข้อความถูกส่งมาว่า604น่ะ แต่พอเริ่มฉันเถียงกับพนักงานไปยกใหญ่แล้ว ข้อความก็ถูกส่งมาอีกครั้งว่า ’ห้อง704ต่างหาก โทษที พอดีลืม’ น่ะ… ”

“ ….เข้าใจแล้วครับ ผมเข้าใจแล้ว เรื่องแบบนี้มันเกิดกับใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ ขอโทษที่ต้องให้มาเล่าให้ฟังนะครับ ”

“ อืม ไม่เป็นไร ”

 

หลังจากที่เห็นแววตาไร้สีของพี่ภพแล้ว พวกเราทั้งคู่ก็เดินเข้าลิฟต์ไปกันโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก ถ้ายิ่งพูดก็มีแต่จะทำให้เรื่องแย่กว่าเดิม อาจจะมีแต่เวลาเท่านั้นที่จะช่วยรักษาบาดแผลนี้ของพี่ภพได้

 

กริ๊งๆ~กุ๊กๆ~กริ๊งๆ~

 

และก่อนที่พี่ภพจะได้กดปุ่มชั้น7 ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรเข้าดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงของพี่ภพ ชื่อที่ถูกตั้งเอาไว้เป็นอะไรที่เรียบง่ายมาก ต่อให้คนนอกอย่างฉันแค่ได้เห็นก็เข้าใจสถานะอีกฝ่ายได้ทันที

 

( ‘ที่รัก❤️จุ๊บๆ’ นี่คือแฟนของพี่ภพเองสินะ…อืมๆ เป็นชื่อที่เข้าใจง่ายดี ถ้าเป็นพ่อละก็อาจจะตั้งชื่อเบอร์แม่เอาไว้แบบนี้ด้วยเหมือนกัน )

 

พี่ภพก้มมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือสลับกับมองหน้าฉันอย่างเป็นกังวล

ต่อให้ไม่ได้ใช้ปากพูดแต่ฉันก็เข้าใจอีกฝ่ายแล้ว…

 

“ เอ่อ…เมฆ… ”

“ ครับ ผมเข้าใจครับ ไปทำหน้าที่ของลูกผู้ชายเถอะครับ… ”

“ ขอบคุณมากนะเมฆ พอดีมีงานด่วนเข้ามาน่ะ เดี๋ยวฉันรีบกลับมานะ———ฮัลโหลที่รักจ๋า~ ต้าวอ้วนคนนี้เองนะ~❤️ ”

 

พี่ภพรีบวิ่งออกไปจากลิฟต์แล้วเปลี่ยนเสียงที่ใช้ทันที แน่นอนว่าฉันเข้าใจ บนโลกนี้จะมีคนแบบคุณพ่ออีกสักคนก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร ก็แค่พวกที่ติดอยู่ในเขาวงกตแห่งรัก

ฉันเดินตามออกมาจากลิฟต์พร้อมกับถอนหายใจ นี่ไม่ใช่เพราะอยากรู้อยากเห็นเรื่องของพี่ภพ แต่ว่ากุญแจห้องยังอยู่ที่พี่ภพต่างหาก 

เล่นเอากุญแจห้องออกไปด้วยแบบนั้นแล้วฉันจะเข้าห้องยังไงล่ะ ถ้าจะไปยืนอยู่เฉยๆอยู่หน้าห้องคงถูกยามเรียกตัวแน่ ที่ทำได้ตอนนี้ก็มีแต่รอพี่ภพคุยธุระเสร็จ

จู่ๆภาพของคุณแม่ที่อวยพรให้ฉันก่อนเดินทางก็ผุดเข้ามาในหัว…

 

( ทำไมถึงอวยพรให้แค่ตอนที่เดินทางเท่านั้นล่ะแม่ ช่วยอวยพรให้นอกจากนั้นอีกด้วยสิครับ~ )

 

ฉันเดินไปนั่งที่ล็อบบี้ก่อนหน้านี้พลางมองต้นไม้ที่ถูกปลูกไว้กลางโถงล็อบบี้

 

~★★★~

 

“ …… ”

 

หลังจากมานั่งที่ล็อบบี้ ฉันก็นั่งมองแต่ต้นไม้มาเกือบชั่วโมงแล้ว พี่ภพก็ยังไม่กลับมาสักที

ฉันได้วันหยุดมาหนึ่งอาทิตย์ก็จริง แต่ฉันก็ไม่ได้อยากเอาแต่ละวันที่แสนมีค่ามาปล่อยทิ้งเล่นหรอกนะ มันค่อนข้างน่าโมโหมากเลยล่ะที่รู้ว่ากำลังจะเสียมันไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ…

 

“ เอ่อ…คุณลูกค้าครับ ติดปัญหาอะไรรึเปล่าครับ? ”

“ ครับ?? ”

 

จู่ๆก็มีชายชราวัยประมาณ70 สวมเครื่องแบบพนักงานเดินเข้ามาถามฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย ตรงหน้าอกของเขามีป้ายเขียนว่า ‘หัวหน้า’ อยู่ด้วยตัวอักษรสีทองอร่าม

และนอกจากชายชราแล้ว ข้างหลังของเขาก็มีวัยรุ่นชายอีกคนอยู่ด้วย วัยรุ่นชายคนนั้นยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงขณะเคี้ยวหมากฝรั่ง แสดงสีหน้าอวดดีราวกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง

ฉันก็อาจจะเชื่ออย่างงั้นถ้าวัยรุ่นชายคนนี้ไม่ได้กำลังสวมเครื่องแบบพนักงานเหมือนกันกับชายชรา และป้ายบนหน้าอกของเขาถูกเขียนว่า ‘เด็กฝึกงาน’

 

“ …… ”

“ หือ? ”

 

ชายชราที่เห็นฉันนิ่งเงียบเอาแต่มองด้านหลัง เขาก็ได้หันหน้าไปมองดูตาม ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ถึงหลับเบิกกว้างเมื่อเห็นท่าทางของวัยรุ่นชาย แขนของชายชราถูกยกสะบัดขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

ผั๊วะ!

 

ฝ่ามือของชายชราตบเข้าหลังศีรษะของวัยรุ่นชายแบบไม่ให้ได้ทันตั้งตัว วัยรุ่นชายถึงกับโก่งคอไปด้านหน้าพร้อมกับความรู้สึกแสบซี๊ดสะท้านวิญญาณ

 

“ ล—ลุงตบหัวผมทำไมเนี่ย?! ”

“ ไอ้เด็กเปรตเอ้ย! ฉันบอกไปเเล้วไงว่าให้เรียกฉันว่าหัวหน้าตอนทำงานน่ะ เเละก็เคยย้ำไปเเล้วด้วยว่าต้องสุภาพเรียบร้อยตอนอยู่ต่อหน้าลูกค้าสิ! ”

“ ผมพึ่งจะเริ่มมาฝึกงานวันนี้เองนะลุง…!? ”

“ เเต่ฉันก็พึ่งจะสอนเเกไปไม่ใช่รึไงหะ!! อุตส่าห์พามากะจะสาธิตวิธีบริการลูกค้าซะหน่อย แต่แกกลับมายืนเก็กเนี่ยนะ! เอามือออกจากกระเป๋ากางเกงเดี๋ยวนี้! ”

“ อะไรกันเล่าลุง!? ‘

 

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยืนเถียงกันต่อหน้าฉันไปเกือบครึ่งชั่วโมงจนชายชราหมดความอดทน ใช้หมัดซัดเข้าหน้าของวัยรุ่นชายจนสลบไป 

 

“ ขอประทานโทษที่ทางเราให้เห็นกริยาไม่เหมาะสมนะครับคุณลูกค้า คราวหน้าผมจะสั่งสอนลูกน้องให้ดีกว่านี้นะครับ ขอประทานโทษจริงๆนะครับ———มานี่เลย! เเกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ! รู้อย่างนี้ฉันไม่น่ารับคำขอของพ่อเเกแต่แรกเลย!! ”

 

ชายชราก้มตัวขอโทษฉันหลายต่อหลายครั้ง และหลังจากนั้นก็ลากร่างของวัยรุ่นชายกลับไป

 

( ….ห๊ะ? บ้าอะไรฟะเนี่ย?? )

 

ฉันถึงกับต้องกุมขมับ พอมานึกดูดีๆแล้ว ตั้งแต่ออกจากบ้านมาเนี่ย ฉันยังไม่ได้เจอเรื่องอะไรดีๆเลยสักอย่าง มีแต่ปัญหาประหลาดๆแห่เข้ามาแบบไม่หยุดให้พักหายใจเลย

ถ้าแอบหนีกลับบ้านตอนนี้จะเป็นอะไรไหมนะ…

 

“ อ้า โทษทีนะเมฆ ดันปล่อยให้รอซะนานเลย แต่นายเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมถึงได้ดูเครียดแบบนั้นล่ะ? ”

 

พี่ภพเดินกลับเข้ามาในโรงแรม และเมื่อเห็นฉันกำลังนั่งรออยู่ก็กล่าวขอโทษอย่างรู้ผิด ฉันโบกมือเพื่อสื่อว่าไม่เป็นไร แต่ในใจตอนนี้อยากร้องไห้เต็มแก่แล้ว 

 

“ แค่รู้สึกเมารถนิดหน่อยน่ะครับ พี่ภพเองก็เถอะ หน้าตาดูเครียดจังนะครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า? ”

 

เมื่อฉันเอ่ยถามออกไป พี่ภพก็แสดงสีหน้ากังวล 

 

“ เอ่อคือ…พอดีตอนนี้มีธุระด่วนมากๆเข้ามากระทันหันและฉันต้องไปที่นั่นน่ะสิ ในเมื่อฉันทำสิ่งที่ได้รับหมอบหมายเสร็จแล้ว งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ อีกสักพักพี่เค้าก็คงจะส่งคนมารับนายเองแหละ ”

“ อ๋อ งั้นก่อนที่พี่จะไป ช่วยส่งกุญเเจห้องมาให้ผมด้วยนะครับ ผมไม่อยากกลายเป็นหมาหน้าโรงแรม ”

“ อ—เอ๊ะ?! นี่ฉันยังไม่ได้ให้นายอีกงั้นเรอะ? ”

“ ถ้าผมได้แล้วจะมานั่งรอตรงนี้ทำหอกอะไรล่ะครับ ”

“ ฮะๆ นั่นสินะ ”

 

พี่ภพรีบเอามือล้วงกระเป๋าทันทีเพื่อสำรวจหากุญแจ สีหน้าฉันเริ่มน่าซีดลงเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปหลายนาทีแล้วก็ยังหาไม่เจอ แต่เมื่อฉันเริ่มมองดูดีๆก็เห็นว่ามีกุญแจห้อง704ตกอยู่ด้านหลังไม่ห่างจากพี่ภพมากนัก และเมื่อพี่ภพกลับไปเเล้ว ฉันก็ยังไม่ได้ขึ้นห้องไปเลยทันที แต่กลับเลือกเดินออกมาจากโรงแรมแทน

ณ เวลานี้ พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินเเล้ว ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มละมุน นอกจากนั้น ‘ตลาดกลางคืน’ ก็เปิดเเล้วเช่นกัน…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาโลกเบื้องหลัง 24

Now you are reading ราชาโลกเบื้องหลัง Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘หน่วยกล้าตาย’ ทหารหน่วยพิเศษสังกัดตระกูลเกรโมรี่โดยเฉพาะ มีการคัดเลือกและฝึกฝนคนอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ คุณสมบัติหลักที่หน่วยนี้ต้องการมีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น ใช้เวทระเบิดตัวเองได้กับไม่กลัวตาย

มันฟังดูสุดโต่งก็จริง แต่จุดประสงค์ของหน่วยนี้ก็คือการฆ่าตัวตายไปพร้อมกับศัตรูอยู่แล้ว…

 

‘ น—หน่วยกล้าตายไม่สามารถพาตัวคุณหนูกลับมาได้ค่ะนายหญิง… ’

 

ณ ภายในห้องที่ดูทรุดโทรมคลับคล้ายคลับคลากับห้องใต้ดิน เมดสาวที่มีเข็มกลัดรูปจอกเหล้าตรงหน้าอกกำลังก้มหน้ารายงานสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความยำเกรง

เด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงเก่าๆตรงหน้านั้นให้ความรู้สึกสูงส่งจนเธอไม่แม้แต่จะกล้ามองหน้าตรงๆ 

 

‘ ….เด็กคนนั่นเป็นคนลงมือใช่ไหม? ’

‘ ม—ไม่ใช่ค่ะนายหญิง จากรายงานระบุว่าขณะนั้นคุณชายนั่งอ่านหนังสือเฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ’

‘ ไม่ได้ทำอะไรเลยเหรอ? ’

‘ ค—ค่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลย ’

‘ แล้วใครเป็นคนลงมือ? ’

‘ [กรงเล็บของไคม์]ค่ะ ’

‘ หืม เด็กที่ชื่อจัสมินเองสินะ… ’

 

เมดสาวกำลังเหงื่อแตกพลั่ก แสดงสีหน้าประมาณว่า ‘อยากกลับบ้านแล้วค่า~’ ยังไงยังงั้น 

เธอพึ่งจะได้เข้ามาทำงานที่ตระกูลเกรโมรี่วันนี้เป็นวันแรก แต่แล้วจู่ๆเธอก็ถูกเลื่อนขั้นให้มาเป็นเมดส่วนตัวของหัวหน้าตระกูลเกรโมรี่ทันทีเพียงเพราะเธอเผลอจามใส่หัวหน้าเมดจนหัวชุ่ม

ทีแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมการเลื่อนขั้นมันถึงเป็นบทลงโทษ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจมันอย่างถ่องแท้เลยล่ะ…

 

( ปวดคอแล้ว~ ถ้าขอออกไปทายาหม่องก่อนเดี๋ยวกลับมาฉันจะถูกไล่ออกไหมเนี่ย…ช่วยหนูด้วย หม่าม้า! )

 

แน่นอนว่าเหตุผลที่เธอก้มหน้าตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้าหัวหน้าตระกูลเกรโมรี่ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความรู้สึกสูงส่งนั้น แต่อีกเหตุผลนึงก็เพราะ กฎของตระกูลที่ห้ามใครก็ตามมองหน้าของเด็กผู้หญิงคนนี้ตรงๆ ไม่เว้นแม้แต่พวกแขกที่มาเยียมเยือน…

 

‘ เฮ้อ~ ’

 

เด็กผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจออกมาอย่างไร้เหตุผล นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เมดสาวได้ยินเสียงถอนหายของเธอ จึงอดไม่ที่จะแสดงสีหน้าแปลกใจ 

 

‘ เธอไปบอกพวกอาวุโสทุกคนซะว่าให้ยกลิกแผนการทั้งหมด และสั่งให้อาวุโสที่ส่งหน่วยกล้าตายออกไปโดยพลการมารับบทลงโทษด้วย ถ้าเกิดใครมีคำถามก็ให้มันมาพูดต่อหน้าฉันเอง ’

‘ อ—เอ๊ะ เอ่อ…คือ… ’

‘ หือ ขอโทษที เธอเป็นเด็กใหม่สินะ ถ้างั้นเอาคำสั่งของฉันไปบอกหัวหน้าเมดให้จัดการต่อซะ แค่นี้คงทำได้ใช่ไหม? ’

‘ ค—ค่ะ! ทำได้ค่ะ! ’

 

เมื่อได้รับคำสั่งแล้ว เมดสาวก็รีบเดินออกจากห้องนี้ไปทันที หลังจากปิดประตู เธอก็พยายามจะเงยหน้าขึ้น แต่มันก็ทำให้เกิดเสียง ‘ก๊อก’ จากคอเธอ

ทันใดนั้นเสียงโอดครวญของเมดสาวก็ได้ดังสะท้อนกับทางขึ้นบรรไดแคบๆ จนมาถึงห้องที่เด็กผู้หญิงก่อนหน้านี้อยู่

 

( อ๊ะ นั่นน่าจะเจ็บน่าดูเลย )

 

เด็กผู้หญิงได้คิดไปพลางพร้อมกับถอนหายใจไปพลาง หลังจากนั้นเธอก็ทิ้งตัวนอนลงไปบนเตียงเก่าๆและหยิบสมุดวาดรูปออกมาชูขึ้นมอง

ถ้าสังเกตที่ไหล่ของเด็กผู้หญิงคนนี้ดีๆจะเห็นรอยสักรูปจอกเหล้าสีดำอยู่

 

~★★★~

 

“ โอ้โห้ ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วที่นี่ก็ยังหรูหราหมาเห่าเหมือนเดิมเลย ”

“ ใช่ม้าาาา หรูจนแค่มองยังรู้สึกแสบตาเลยล่ะ ถ้าเอาแป้งไปเปาะแล้วขัดถูสักหน่อยก็อาจจะเห็นเลขเด็ดก็ได้นะ ไปลองด้วยกันไหมเมฆ? ”

“ แหะๆ …ไม่ดีกว่าครับ ผมรู้สึกเกรงใจ ”

 

หลังจากที่พวกเราทั้งคู่ฝ่าอุปสรรคและกาลเวลาอย่างยาวนานหลายชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายจนได้!

 

“ ฮะฮ่าๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า~ คนกันเอง~ ”

“ ….ไม่ใช่อย่างงั้นครับ ที่ผมเกรงใจน่ะคือพี่ยามกล้ามโต5คนตรงนั้นต่างหากล่ะ ถ้าพวกเราทำกำแพงของโรงแรมนี้เปื้อนเมื่อไร ผมว่าพวกเราอ่วมแน่ ”

 

ฉันยกนิ้วชี้ไปทางยามที่กำลังเดินลาดตะเวนกันอยู่เป็นกลุ่ม แต่ละคนในนั้นล้วนแต่มีร่างกายเหมือนนักกีฬายกน้ำหนักกันทั้งนั้น 

พี่ภพถึงกับหน้าเสีย เขาพยายามควบคุมน้ำเสียงและตรึงรอยยิ้มขณะหันมาพูดกับฉัน

 

“ อ—เอ่อ งั้นพวกเราช่างเรื่องนั้นกันดีกว่า รีบเข้าไปในโรงแรมกันเถอะ พี่ทรายเค้าน่าจะติดต่อจองห้องเตรียมเอาไว้เรียบร้อยเเล้ว ”

“ ครับ ”

 

เบื้องหน้าของพวกเราทั้งคู่ตอนนี้คือโรงแรมที่มักมีพวกมหาเศรษฐีมาพักใช้งานบ่อยๆ โรงแรมมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับอาคารข้างเคียง มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกของโรงแรมอย่างสวยงาม ส่วนพวกยามก็ดูขยันขันแข็งทำงานดี

[โรงเเรมอิกดราซิล] คือโรงเเรมที่มีสาขามากมายอยู่หลายประเทศ มีการบริการชั้นเลิศเเละการรักษาความปลอดภัยชั้นเยี่ยม มันถูกบริหารโดยหนึ่งในบรรดา«ร่างทรง»ที่ได้ทำข้อตกลงกับ«ร่างทรง»คนอื่นในประเทศนั้นๆเพื่อขยายสาขา…

 

“ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปเอากุญแจห้องก่อนนะ นายไปนั่งรอตรงนั้นได้เลย ”

“ อา ครับ ”

 

ฉันเดินไปนั่งบนโซฟาใกล้ๆก่อนจะมองไปตรงตำแหน่งเคาน์เตอร์ ฉันเห็นพี่ภพกำลังยืนเถียงอะไรสักอย่างกับพนักงานอยู่นานสองนาน ก่อนที่ต่อมาพี่ภพจะไหว้ขอโทษอีกฝ่ายอย่างรนราน 

และหลังจากรับกุญแจมาแล้ว พี่ภพก็รีบเดินตรงมาหาฉันด้วยใบหน้าที่ร้อนผาวไปด้วยความอาย สายตาของเขาเหมือนอยากจะตะโกนดังๆว่า ‘ช่วยฆ่าฉันที! ใครก็ได้!’

 

“ ได้มาแล้วล่ะ ชั้น7 ห้อง704…/// ”

“ มีอะไรรึเปล่าครับ เห็นยืนเถียงกับพนักงานเมื่อกี้? ”

 

พริบตาที่ฉันเอ่ยถาม พี่ภพก็เริ่มหลั่งน้ำตาออกมาทันที

ถึงพี่ภพจะดูเป็นคนแปลกๆ แต่เค้าเองก็มีศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายเหมือนกัน แม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนบัญญัติเอาไว้ว่าผู้ชายไม่ควรร้องไห้ออกมาง่ายๆ แต่ถ้าขนาดพี่ภพยังถึงกับต้องร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร เรื่องนี้มันน่าจะรุนแรงมากกว่าที่คิดแน่…

 

“ ….พอดีฉันบอกเลขห้องที่จองไว้เป็น604 แต่พนักงานกลับบอกว่าห้องนั้นยังไม่มีคนจอง ฉันมั่นใจมากว่าพี่ทรายจองห้อง604ไว้ให้แล้ว เพราะข้อความถูกส่งมาว่า604น่ะ แต่พอเริ่มฉันเถียงกับพนักงานไปยกใหญ่แล้ว ข้อความก็ถูกส่งมาอีกครั้งว่า ’ห้อง704ต่างหาก โทษที พอดีลืม’ น่ะ… ”

“ ….เข้าใจแล้วครับ ผมเข้าใจแล้ว เรื่องแบบนี้มันเกิดกับใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ ขอโทษที่ต้องให้มาเล่าให้ฟังนะครับ ”

“ อืม ไม่เป็นไร ”

 

หลังจากที่เห็นแววตาไร้สีของพี่ภพแล้ว พวกเราทั้งคู่ก็เดินเข้าลิฟต์ไปกันโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก ถ้ายิ่งพูดก็มีแต่จะทำให้เรื่องแย่กว่าเดิม อาจจะมีแต่เวลาเท่านั้นที่จะช่วยรักษาบาดแผลนี้ของพี่ภพได้

 

กริ๊งๆ~กุ๊กๆ~กริ๊งๆ~

 

และก่อนที่พี่ภพจะได้กดปุ่มชั้น7 ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรเข้าดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงของพี่ภพ ชื่อที่ถูกตั้งเอาไว้เป็นอะไรที่เรียบง่ายมาก ต่อให้คนนอกอย่างฉันแค่ได้เห็นก็เข้าใจสถานะอีกฝ่ายได้ทันที

 

( ‘ที่รัก❤️จุ๊บๆ’ นี่คือแฟนของพี่ภพเองสินะ…อืมๆ เป็นชื่อที่เข้าใจง่ายดี ถ้าเป็นพ่อละก็อาจจะตั้งชื่อเบอร์แม่เอาไว้แบบนี้ด้วยเหมือนกัน )

 

พี่ภพก้มมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือสลับกับมองหน้าฉันอย่างเป็นกังวล

ต่อให้ไม่ได้ใช้ปากพูดแต่ฉันก็เข้าใจอีกฝ่ายแล้ว…

 

“ เอ่อ…เมฆ… ”

“ ครับ ผมเข้าใจครับ ไปทำหน้าที่ของลูกผู้ชายเถอะครับ… ”

“ ขอบคุณมากนะเมฆ พอดีมีงานด่วนเข้ามาน่ะ เดี๋ยวฉันรีบกลับมานะ———ฮัลโหลที่รักจ๋า~ ต้าวอ้วนคนนี้เองนะ~❤️ ”

 

พี่ภพรีบวิ่งออกไปจากลิฟต์แล้วเปลี่ยนเสียงที่ใช้ทันที แน่นอนว่าฉันเข้าใจ บนโลกนี้จะมีคนแบบคุณพ่ออีกสักคนก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร ก็แค่พวกที่ติดอยู่ในเขาวงกตแห่งรัก

ฉันเดินตามออกมาจากลิฟต์พร้อมกับถอนหายใจ นี่ไม่ใช่เพราะอยากรู้อยากเห็นเรื่องของพี่ภพ แต่ว่ากุญแจห้องยังอยู่ที่พี่ภพต่างหาก 

เล่นเอากุญแจห้องออกไปด้วยแบบนั้นแล้วฉันจะเข้าห้องยังไงล่ะ ถ้าจะไปยืนอยู่เฉยๆอยู่หน้าห้องคงถูกยามเรียกตัวแน่ ที่ทำได้ตอนนี้ก็มีแต่รอพี่ภพคุยธุระเสร็จ

จู่ๆภาพของคุณแม่ที่อวยพรให้ฉันก่อนเดินทางก็ผุดเข้ามาในหัว…

 

( ทำไมถึงอวยพรให้แค่ตอนที่เดินทางเท่านั้นล่ะแม่ ช่วยอวยพรให้นอกจากนั้นอีกด้วยสิครับ~ )

 

ฉันเดินไปนั่งที่ล็อบบี้ก่อนหน้านี้พลางมองต้นไม้ที่ถูกปลูกไว้กลางโถงล็อบบี้

 

~★★★~

 

“ …… ”

 

หลังจากมานั่งที่ล็อบบี้ ฉันก็นั่งมองแต่ต้นไม้มาเกือบชั่วโมงแล้ว พี่ภพก็ยังไม่กลับมาสักที

ฉันได้วันหยุดมาหนึ่งอาทิตย์ก็จริง แต่ฉันก็ไม่ได้อยากเอาแต่ละวันที่แสนมีค่ามาปล่อยทิ้งเล่นหรอกนะ มันค่อนข้างน่าโมโหมากเลยล่ะที่รู้ว่ากำลังจะเสียมันไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ…

 

“ เอ่อ…คุณลูกค้าครับ ติดปัญหาอะไรรึเปล่าครับ? ”

“ ครับ?? ”

 

จู่ๆก็มีชายชราวัยประมาณ70 สวมเครื่องแบบพนักงานเดินเข้ามาถามฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย ตรงหน้าอกของเขามีป้ายเขียนว่า ‘หัวหน้า’ อยู่ด้วยตัวอักษรสีทองอร่าม

และนอกจากชายชราแล้ว ข้างหลังของเขาก็มีวัยรุ่นชายอีกคนอยู่ด้วย วัยรุ่นชายคนนั้นยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงขณะเคี้ยวหมากฝรั่ง แสดงสีหน้าอวดดีราวกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง

ฉันก็อาจจะเชื่ออย่างงั้นถ้าวัยรุ่นชายคนนี้ไม่ได้กำลังสวมเครื่องแบบพนักงานเหมือนกันกับชายชรา และป้ายบนหน้าอกของเขาถูกเขียนว่า ‘เด็กฝึกงาน’

 

“ …… ”

“ หือ? ”

 

ชายชราที่เห็นฉันนิ่งเงียบเอาแต่มองด้านหลัง เขาก็ได้หันหน้าไปมองดูตาม ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ถึงหลับเบิกกว้างเมื่อเห็นท่าทางของวัยรุ่นชาย แขนของชายชราถูกยกสะบัดขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

ผั๊วะ!

 

ฝ่ามือของชายชราตบเข้าหลังศีรษะของวัยรุ่นชายแบบไม่ให้ได้ทันตั้งตัว วัยรุ่นชายถึงกับโก่งคอไปด้านหน้าพร้อมกับความรู้สึกแสบซี๊ดสะท้านวิญญาณ

 

“ ล—ลุงตบหัวผมทำไมเนี่ย?! ”

“ ไอ้เด็กเปรตเอ้ย! ฉันบอกไปเเล้วไงว่าให้เรียกฉันว่าหัวหน้าตอนทำงานน่ะ เเละก็เคยย้ำไปเเล้วด้วยว่าต้องสุภาพเรียบร้อยตอนอยู่ต่อหน้าลูกค้าสิ! ”

“ ผมพึ่งจะเริ่มมาฝึกงานวันนี้เองนะลุง…!? ”

“ เเต่ฉันก็พึ่งจะสอนเเกไปไม่ใช่รึไงหะ!! อุตส่าห์พามากะจะสาธิตวิธีบริการลูกค้าซะหน่อย แต่แกกลับมายืนเก็กเนี่ยนะ! เอามือออกจากกระเป๋ากางเกงเดี๋ยวนี้! ”

“ อะไรกันเล่าลุง!? ‘

 

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยืนเถียงกันต่อหน้าฉันไปเกือบครึ่งชั่วโมงจนชายชราหมดความอดทน ใช้หมัดซัดเข้าหน้าของวัยรุ่นชายจนสลบไป 

 

“ ขอประทานโทษที่ทางเราให้เห็นกริยาไม่เหมาะสมนะครับคุณลูกค้า คราวหน้าผมจะสั่งสอนลูกน้องให้ดีกว่านี้นะครับ ขอประทานโทษจริงๆนะครับ———มานี่เลย! เเกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ! รู้อย่างนี้ฉันไม่น่ารับคำขอของพ่อเเกแต่แรกเลย!! ”

 

ชายชราก้มตัวขอโทษฉันหลายต่อหลายครั้ง และหลังจากนั้นก็ลากร่างของวัยรุ่นชายกลับไป

 

( ….ห๊ะ? บ้าอะไรฟะเนี่ย?? )

 

ฉันถึงกับต้องกุมขมับ พอมานึกดูดีๆแล้ว ตั้งแต่ออกจากบ้านมาเนี่ย ฉันยังไม่ได้เจอเรื่องอะไรดีๆเลยสักอย่าง มีแต่ปัญหาประหลาดๆแห่เข้ามาแบบไม่หยุดให้พักหายใจเลย

ถ้าแอบหนีกลับบ้านตอนนี้จะเป็นอะไรไหมนะ…

 

“ อ้า โทษทีนะเมฆ ดันปล่อยให้รอซะนานเลย แต่นายเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมถึงได้ดูเครียดแบบนั้นล่ะ? ”

 

พี่ภพเดินกลับเข้ามาในโรงแรม และเมื่อเห็นฉันกำลังนั่งรออยู่ก็กล่าวขอโทษอย่างรู้ผิด ฉันโบกมือเพื่อสื่อว่าไม่เป็นไร แต่ในใจตอนนี้อยากร้องไห้เต็มแก่แล้ว 

 

“ แค่รู้สึกเมารถนิดหน่อยน่ะครับ พี่ภพเองก็เถอะ หน้าตาดูเครียดจังนะครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า? ”

 

เมื่อฉันเอ่ยถามออกไป พี่ภพก็แสดงสีหน้ากังวล 

 

“ เอ่อคือ…พอดีตอนนี้มีธุระด่วนมากๆเข้ามากระทันหันและฉันต้องไปที่นั่นน่ะสิ ในเมื่อฉันทำสิ่งที่ได้รับหมอบหมายเสร็จแล้ว งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ อีกสักพักพี่เค้าก็คงจะส่งคนมารับนายเองแหละ ”

“ อ๋อ งั้นก่อนที่พี่จะไป ช่วยส่งกุญเเจห้องมาให้ผมด้วยนะครับ ผมไม่อยากกลายเป็นหมาหน้าโรงแรม ”

“ อ—เอ๊ะ?! นี่ฉันยังไม่ได้ให้นายอีกงั้นเรอะ? ”

“ ถ้าผมได้แล้วจะมานั่งรอตรงนี้ทำหอกอะไรล่ะครับ ”

“ ฮะๆ นั่นสินะ ”

 

พี่ภพรีบเอามือล้วงกระเป๋าทันทีเพื่อสำรวจหากุญแจ สีหน้าฉันเริ่มน่าซีดลงเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปหลายนาทีแล้วก็ยังหาไม่เจอ แต่เมื่อฉันเริ่มมองดูดีๆก็เห็นว่ามีกุญแจห้อง704ตกอยู่ด้านหลังไม่ห่างจากพี่ภพมากนัก และเมื่อพี่ภพกลับไปเเล้ว ฉันก็ยังไม่ได้ขึ้นห้องไปเลยทันที แต่กลับเลือกเดินออกมาจากโรงแรมแทน

ณ เวลานี้ พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินเเล้ว ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มละมุน นอกจากนั้น ‘ตลาดกลางคืน’ ก็เปิดเเล้วเช่นกัน…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+