ราชาโลกเบื้องหลัง 7: อาวุธโบราณมาซาโกะ(1)

Now you are reading ราชาโลกเบื้องหลัง Chapter 7: อาวุธโบราณมาซาโกะ(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่แก้วเดินหายเข้าไปในห้องครัว จู่ๆฉันก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆมาจากทางที่ฟ้ายื่นอยู่

ฟ้าได้เดินมานั่งบนเก้าอี้ตัวข้างๆฉันโดยที่ไม่ได้พูดอะไร มันเป็นความอึดอัดที่ยากจะบรรยายเนื่องจากเธอเอาแต่นั่งจ้องหน้าฉันอย่างเดียวเลย

 

“ ม—มีอะไรรึเปล่าฟ้า? ”

“ เปล่าค่ะ แค่พอดีหนูยังไม่ได้รับคำขอบคุณจากพี่เลยก็เท่านั้นเองค่ะ ทั้งๆที่หนูยอมเสียสละเพื่อช่วยพี่ไว้แท้ๆเชียว… ”

 

ฟ้าทำแก้มป่องก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่น เป็นการกระทำที่ชวนให้รุ้สึกเอ็นดู…แต่ไหงทำไมเธอถึงงอนใส่ฉันล่ะเนี่ย?

 

“ ขอบคุณ? ทำไมล่ะ? ”

 

จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้มีปัญหากับการที่ต้องพูดขอบคุณหรอก แต่พออยู่ๆก็ถูกบอกมาให้ต้องขอบคุณแบบนี้มันก็ฟังดูพิลึกยังไงชอบกล

และเมื่อฟ้ายังเห็นว่าฉันไม่เข้าใจสิ่งที่พูดไปก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดยิ่งกว่าตอนโดนยัยแก้วเตะเสยหน้าเมื่อเช้านี้ซะอีก เธอทำตัวเหมือนพวกรุ่นพี่พนักงานบริษัทที่ต้องสอนงานให้กับรุ่นน้องมาใหม่อย่างนั้นแหละ

เด็กสมัยนี่จะโตกันเร็วกันเกินไปไหมเนี่ย ชักทำเอารู้สึกเป็นห่วงอนาคตซะแล้วสิ จะไม่เป็นไรแน่เหรอ…

 

“ เพราะพี่เลยทำให้ตอนนี้หนูเหลือสิทธิ์หยุดพักแค่ครั้งสุดท้ายแล้ว และถ้าหนูใช้สิทธิ์ครั้งสุดท้ายนี้ไปก็คงได้แพ้แน่ หนูไม่ได้อยากจะแพ้สักหน่อยนะ ”

 

เอ๋? ทำไมถึงเหลือแค่ครั้งเดียวล่ะ…ถ้าหักจากที่ใช้เมื่อก่อนหน้านี้ไปก็น่าจะเหลือสองครั้งหนิ? 

 

“ ตอนที่พี่สลบอยู่หนูน่ะทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าปล่อยพี่ไว้เฉยๆคงได้ตายแน่ พี่แก้วก็ไม่ยอมเข้ามาช่วยเพราะยังอยู่ในเกมอีก หนูเลยเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสละสิทธิ์หยุดพักเกมเพื่อช่วยพี่ไว้ไง ”

“ อ๋อ? ”

“ เข้าใจไหมคะพี่ เพราะพี่หนูเลยเหลือแค่สิทธิ์ครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ไหนคำขอบคุณล่ะคะ? หนูไม่เห็นจะได้ยินจากพี่เลย พี่จำไม่ได้เหรอคะว่าพี่เป็นคนสอนให้หนูพูดขอบคุณเวลาได้รับความช่วยเหลือน่ะ ”

“ อา… ”

 

ถึงจะเข้าใจนิดหน่อยแล้วก็เถอะ แต่ฉันต้องไปขอบคุณยัยแก้วที่มาตบหน้ากันด้วยไหมเนี่ย? ช่างมันดีกว่า…

 

“ ขอบคุณมากนะฟ้า ถ้าไม่มีฟ้าพี่อาจจะต้องจากโลกนี้ไปแล้วก็ได้ พี่รู้สึกซาบซึ้งจากใจจริงเลยล่ะ… ”

“ อื้มๆ หนูพอใจแล้วค่ะตอ— ”

“ —และเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจนี้ น้องสามารถเข้ากอดพี่ได้ตามต้องการเลยนะ ร่างกายนี้พี่ยกให้ฟ้าเลย 

“ ไม่เอาค่ะ…เฮ้อ~พี่คะ พวกเรายังอยู่ในเกมอยู่เลยนะคะ ถ้าพี่ยังเล่นนอกบทบาทแบบนี้เดี๋ยวก็แพ้เอาหรอก บทลงโทษครั้งนี้หนูเอาจริงนะคะ ”

“ จ้าๆ ”

 

ฟ้าที่สัมผัสได้ว่าฉันไม่ได้จริงจัง เธอจึงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง…

เกมของพวกเราได้ดำเนินต่อไปหลังกินข้าวเที่ยงกันเสร็จและในตอนนี้เกมก็หาตัวผู้แพ้ได้เรียบร้อยแล้ว

เกมของพวกเราไม่มีกรรมการที่จะมาตัดสินหาผู้แพ้ เพราะฉะนั้นพวกเราจึงต้องตัดสินกันเองด้วยการโหวต แน่นอนว่าอาจมีใครบางคนเลือกโหวตคนอื่นให้เป็นผู้แพ้ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองต่างหากที่สมควรเป็นผู้แพ้

แต่เกมนี้มันคือเกมที่ถูกสร้างมาจากพวกเราและเพื่อพวกเรา ความเชื่อใจเองก็เป็นส่วนสำคัญในเกมนี้เหมือนกัน ฟ้าเคยบอกเอาไว้อย่างงี้ตอนมาชวนเล่นด้วยกันครั้งแรก…และผู้ที่แพ้ในคราวนี้ก็คือฉันเองแหละ

 

“ พี่คะ แพ้อีกแล้วนะ สามครั้งติดต่อกันเลยด้วย ”

“ อ๋า~ แค่ทนน้ำร้อนหกใส่นิดหน่อยก็ทนไม่ได้ กระจอกจังเลยน๊าพ่อคนชอบลักหลับ~ ”

“ ใครมันจะไปทนได้ฟะเห้ย!? ”

“ ชอบลักหลับ? ”

 

ปกติก็ตัดสินหาผู้แพ้กันด้วยการโหวตนั่นแหละ แต่คราวนี้มันต่างออกไปนิดหน่อย ฉันไม่ได้แพ้จากการถูกโหวต แต่ฉันแพ้เพราะใช้สิทธิ์หยุดพักจนหมดทั้ง3ครั้งต่างหาก…ตามกฎแล้วผู้ที่ใช้สิทธิ์หยุดพักหมดทั้ง3ครั้งจะถูกปรับแพ้ทันที

และคนที่บังคับให้ฉันต้องใช้สิทธิ์จนหมดก็คือยัยแก้วตัวดีนี่เองแหละ คุณเธอเล่นมาก่อกวนฉันตลอดทั้งเกมเลย ไม่ว่าจะแกล้งทำเป็นของหกใส่ สกัดขา ปาของ หรือโยนสถานการณ์เสี่ยงตายมาให้ 

อาจจะเพราะเรื่องเมื่อเช้าก็ได้ถึงทำให้เธอแค้นฝังหุ่นฉันได้มากขนาดนี้

 

“ แล้วจะเอาไงกับบทลงโทษดีคะ? ”

“ อันนั้นพี่คิดไว้แล้วล่ะฟ้า…แบบที่หนึ่งที่คิดไว้คือจับมัดด้วยเชือกแล้วใช้แส้ฟาดหลังจนกว่าจะร้องขอชีวิต…หรือแบบที่สองคือจับแก้ผ้าแล้วสั่งให้วิ่งรอบหมู่บ้านดีล่ะ ”

“ เฮ้ยๆ!? จะอันไหนฉันก็ไม่เห็นด้วยเฟ้ย! นี่เธอเป็นยักษ์เป็นมารรึไงกันเนี่ย?! ไม่คิดจะให้ฉันเหลือศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์คนนึงเลยเรอะ! ”

“ อืม…แบบแรกน่าจะดีกว่าไหมนะ ยังไงก็มีแค่พวกเราที่ได้เห็นด้วยสิ แล้วฟ้าคิดว่าไงมั่ง…แบบไหนดีกว่า? ”

 

คุณเธอไม่ฟังกันเลยนี่หว่า…

 

“ หนูสนใจอันหลังนิดหน่อยค่ะ จับแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้านฟังดูน่าตื่นเต้นดีนะคะ ”

“ เอ๋? ฟ้าก็เอากับเค้าด้วยเหรอ?! ”

“ ล้อเล่นค่ะ~ เอาเป็นแค่พี่ลองใส่ชุดนักเรียนของพี่แก้วให้ดูก็พอแล้วค่ะ ”

“ ….นี่ก็ล้อเล่นใช่ไหม? ”

“ ของจริงค่ะ…. ”

 

ฟ้าส่งรอยยิ้มของเทพธิดาผู้บริสุทธิ์มา ไม่มีท่าทีว่าที่พูดนั้นคือคำโกหกเลย…

ถึงตัวฉันจะผอมแห้งเหมือนศพ แต่ยังไงมันก็ยังใหญ่เกินกว่าจะใส่ชุดนักเรียนของผู้หญิงได้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะงั้นไม่มีทางเลยที่ฉันจะใส่…..

 

“ พรุด! ฮะฮ่าๆๆๆ ช—ชุดนั้นดูเข้ากับนายดีนี่หน่า! ฮะฮ่าๆๆๆ! ”

 

แก้วในตอนนี้นั้นนอนลงไปขำอยู่กับพื้นแล้ว แข้งขาของเธออ่อนแรงตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นฉัน อีกไม่นานเธอคงจะใกล้ขาดอากาศหายใจเพราะขำมากเกินไปแน่

 

“ อย่าหัวเราะขนาดนั้นสิฟะ!? ฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ! ”

 

แก้วน่ะมีหุ่นที่ดีมาก แถมยังตัวเล็กน่ารักกว่าฉันอีกด้วย เพราะงั้นกระดุมเสื้อถึงได้หลุดไปหลายเม็ดเลยหลังได้ลองใส่ กระโปงเองก็รัดเอวฉันสุดๆเหมือนกัน ถุงเท้าก็ใส่ได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนเนกไทก็กลายเป็นเชือกรัดคอฉันไปซะแล้ว สภาพน่าทุเรศในตอนนี้ไม่อยากให้ใครเห็นเลย…

 

“ พ—พี่ดูเข้ากับชุดนักเรียนหญิงจริงๆนะค—พรุด! ”

 

อา ขนาดฟ้าเองก็ยังหลุดหัวเราะออกมาเลย ทำไมคนอื่นถึงได้มีความสุขในขณะที่อีกคนรู้สึกอับอายกันนะ มนุษย์เรานี่มันช่างลึกซึ้งซะจริงๆเลย…..

 

“ นี่ก็เย็นแล้ว งั้นหนูกลับบ้านก่อนนะคะพี่แก้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูมาปลุกไปโรงเรียนนะ ”

“ จ้า~ ”

“ นี่เธอไม่อายบ้างเลยรึไงที่ต้องให้ฟ้ามาปลุกไปโรงเรียนทุกวันเนี่ยคุณนักเรียนตัวอย่าง? ”

“ หนวกหูหน่า…!? นายเองก็ได้ฟ้าปลุกบ่อยๆนี่! ”

 

พวกเราเล่นกันจนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ถ้าตอนนี้ยังไม่กลับบ้านอีก‘คุณแม่’ที่รออยู่อาจเป็นห่วงเอาได้

แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านแล้ว สัญชาตญาณของฉันมันร้องเตือนด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรีบสั่งให้ฟ้ายืนอยู่เงียบๆก่อนที่จะแง้มประตูส่องดูในบ้าน

แต่ไม่ทันไรฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่าง…

 

—นี่พี่พลหยุดลีลาได้แล้ว! พี่จะเอาเท่าไร!? เงินติดตัวอยู่ตอนนี้ก็มีให้พี่ได้แค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง 

—แหมๆ~รู้ใจพี่ซะจริงเชียวนะน้องรัก แต่พี่ไม่ได้มาที่นี่แค่เหตุผลเดียวหรอกนะ ยังมีคนที่พี่อยากเจออยู่ด้วยน่ะสิ…

—ถ้าเรื่องนั้นพี่มาลงที่ผมได้เลย! แต่ได้โปรดจบเรื่องนี้สักทีเถอะ! 

 

ภายในบ้านมีเสียงของคุณพ่อกับเสียงของผู้ชายอีกคนกำลังทะเลาะกันอยู่ ถึงจะฟังดูทะเลาะกันแต่เสียงส่งมาถึงนั้นมันไม่ได้ดังมากนัก ถ้าหากไม่ตั้งใจฟังดีๆก็แทบจะไม่ได้ยินอะไรเลยด้วยซ้ำ

 

“ ทำไมถึงไม่เข้าไปในบ้านล่ะพี่คะ? ”

“ …นี่ฟ้า พี่รู้จักสถานที่ลับเเห่งหนึ่งใกล้ๆนี้ น้องอยากไปไหม? ”

“ สถานที่ลับ? หนูไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่ามีที่แบบนั้นด้วย แต่หนูอยากไปค่ะ! ”

 

แววตาของฟ้าพลันเปล่งประกายทันทีที่ได้ยินเรื่องโกหกของฉัน ถ้าเกิดอยู่ในสถานการณ์ปกติฉันคงจะเข้าไปกอดน้องสาวสุดน่ารักคนนี้ไปแล้ว

ถึงจะรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ต้องโกหกฟ้า แต่เพื่อไม่ให้เธอต้องเจอกับไอแก่เศษสวะนั่นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ยังไงมันก็ของถนัดของฉันอยู่แล้ว…

 

“ สถานที่ลับ~สถานที่ลับ~สถานที่ลับ~ ”

 

เมื่อ2ปีก่อน

ในขณะที่ฉันหลับอยู่ในห้อง จู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาจากชั้นล่าง

เสียงนั้นมันดังจนฉันนอนไม่หลับเลยลุกขึ้นจากเตียงนอน ฉันกะว่าจะลงไปดูสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่พอฉันลงไป ฉันก็เห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังยืนคุยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยท่าทางมึนเมา ตอนนั้นฉันยังงัวเงียอยู่จึงได้ยินสิ่งที่คุยไม่ค่อยชัด

 

‘ ลูก?! ’

 

พอฉันลงมาถึง ชายวัยกลางคนก็ตรงปลีกเข้ามาหาตัวฉันทันที…ไม่สิ ใช้คำว่า‘จับตัว’จะดีกว่า เพราะในตอนนี้ฉันกลายเป็นตัวประกันไปซะแล้ว

 

‘ อย่ามายืดเยื้อนะพายุ! พี่ก็ไม่ได้อยากทำร้ายหลานเหมือนกัน เพราะงั้นใช้สันติวิธีแล้วส่งเงินมาดีกว่านะ ช่วงนี้กระเป๋าตังค์มันโล่งโจ้งน่ะสิ ’

‘ แล้วงานที่ผมหาให้พี่ล่ะ พี่ไม่ได้ไปทำงั้นเหรอ? ’

‘ เสียเวลาชีวิตกันพอดีสิถ้าไปทำงาน ’

 

กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งซะจนสติฉันเริ่มฟื้นคืน ดวงตามองเห็นเต็มที่ อาการงัวเงียก็จางหายไปแล้ว

ใบหน้าของคุณพ่อที่กำลังรนรานและใบหน้าของคุณแม่ที่เป็นกังวล ภาพเบื้องหน้านี้พอจะทำให้คาดเดาเหตุการณ์ได้คร่าวๆแล้ว

ฉันลองพยายามดิ้นดู แต่ถึงยังไงฉันก็ยังเป็นแค่เด็กที่อ่อนแอไม่สามารถสู้แรงผู้ใหญ่ได้ มีวิธีเดียวที่จะหลุดจากตรงนี้ไปได้ ถึงจะไม่ตายแต่ก็น่าจะบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน…

 

‘ พี่พล! นั่นหลานของพี่เลยนะ อย่าเอาเข้ามาเกี่ยวด้วยเลย! ’

 

ในขณะที่คุณพ่อพยายามเจรจาด้วยสันติ 

 

ผั๊วะ!

 

ฉันโค้งศีรษะมาข้างหน้าก่อนจะใช้จังหวะที่ชายวัยกลางคนเผลอ สะบัดศีรษะให้หลังหัวฟาดเข้าที่ดั้งจมูกชายวัยกลางคนเข้าจังๆ ถึงตัวของฉันจะยังไม่หลุดแต่ฉันไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ฉันยกขาขึ้นมาข้างหน้าก่อนจะสะบัดไปด้านหลังสุดแรงฟาดเข้าระหว่างขาของชายวัยกลางคนแบบจุกๆ

ชายวัยกลางคนปล่อยตัวฉันลงพร้อมคุกเข่าลงไปนอนกุมเป้าอยู่กับพื้น เขากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฤทธิ์มึนเมาของเหล้าไม่ได้ช่วยให้มันรู้สึกเจ็บปวดน้อยลงเลย มันคือความเจ็บปวดที่บ่งบอกถึงว่าครั้งนึงเคยมีไอ้น้องชายห้อยอยู่ระหว่างขา

ฉันไม่รีรอรีบยกขาข้างนึงขึ้นกระทืบตรงไปที่ขมับของชายวัยกลางคนจนมันหมดสติไปทันที

 

( แค่นี้คงไม่ทำให้ตายหรอกมั้ง…? )

 

สีหน้าของคุณพ่อคุณแม่ล้วนยังคงอยู่ในภวังค์ของความตกใจ ฉันรีบเดินไปหาทั้งสองก่อนจะบอกให้คุณพ่อเข้าไปล็อกตัวชายวัยกลางคนแล้วโทรแจ้งตำรวจ

คุณพ่อที่พึ่งได้สติกลับมาก็รีบทำตามทันที ส่วนคุณแม่ที่ได้สติช้ากว่าก็รีบเข้ามาสวมกอดฉันพร้อมกับปล่อยโฮออกมาชุดใหญ่ ภายหลังฉันก็รู้มาว่าชายวัยกลางคนคนนั้นจริงๆแล้วเป็นคุณลุงของฉันเองแหละ….

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาโลกเบื้องหลัง 7: อาวุธโบราณมาซาโกะ(1)

Now you are reading ราชาโลกเบื้องหลัง Chapter 7: อาวุธโบราณมาซาโกะ(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่แก้วเดินหายเข้าไปในห้องครัว จู่ๆฉันก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆมาจากทางที่ฟ้ายื่นอยู่

ฟ้าได้เดินมานั่งบนเก้าอี้ตัวข้างๆฉันโดยที่ไม่ได้พูดอะไร มันเป็นความอึดอัดที่ยากจะบรรยายเนื่องจากเธอเอาแต่นั่งจ้องหน้าฉันอย่างเดียวเลย

 

“ ม—มีอะไรรึเปล่าฟ้า? ”

“ เปล่าค่ะ แค่พอดีหนูยังไม่ได้รับคำขอบคุณจากพี่เลยก็เท่านั้นเองค่ะ ทั้งๆที่หนูยอมเสียสละเพื่อช่วยพี่ไว้แท้ๆเชียว… ”

 

ฟ้าทำแก้มป่องก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่น เป็นการกระทำที่ชวนให้รุ้สึกเอ็นดู…แต่ไหงทำไมเธอถึงงอนใส่ฉันล่ะเนี่ย?

 

“ ขอบคุณ? ทำไมล่ะ? ”

 

จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้มีปัญหากับการที่ต้องพูดขอบคุณหรอก แต่พออยู่ๆก็ถูกบอกมาให้ต้องขอบคุณแบบนี้มันก็ฟังดูพิลึกยังไงชอบกล

และเมื่อฟ้ายังเห็นว่าฉันไม่เข้าใจสิ่งที่พูดไปก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดยิ่งกว่าตอนโดนยัยแก้วเตะเสยหน้าเมื่อเช้านี้ซะอีก เธอทำตัวเหมือนพวกรุ่นพี่พนักงานบริษัทที่ต้องสอนงานให้กับรุ่นน้องมาใหม่อย่างนั้นแหละ

เด็กสมัยนี่จะโตกันเร็วกันเกินไปไหมเนี่ย ชักทำเอารู้สึกเป็นห่วงอนาคตซะแล้วสิ จะไม่เป็นไรแน่เหรอ…

 

“ เพราะพี่เลยทำให้ตอนนี้หนูเหลือสิทธิ์หยุดพักแค่ครั้งสุดท้ายแล้ว และถ้าหนูใช้สิทธิ์ครั้งสุดท้ายนี้ไปก็คงได้แพ้แน่ หนูไม่ได้อยากจะแพ้สักหน่อยนะ ”

 

เอ๋? ทำไมถึงเหลือแค่ครั้งเดียวล่ะ…ถ้าหักจากที่ใช้เมื่อก่อนหน้านี้ไปก็น่าจะเหลือสองครั้งหนิ? 

 

“ ตอนที่พี่สลบอยู่หนูน่ะทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าปล่อยพี่ไว้เฉยๆคงได้ตายแน่ พี่แก้วก็ไม่ยอมเข้ามาช่วยเพราะยังอยู่ในเกมอีก หนูเลยเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสละสิทธิ์หยุดพักเกมเพื่อช่วยพี่ไว้ไง ”

“ อ๋อ? ”

“ เข้าใจไหมคะพี่ เพราะพี่หนูเลยเหลือแค่สิทธิ์ครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ไหนคำขอบคุณล่ะคะ? หนูไม่เห็นจะได้ยินจากพี่เลย พี่จำไม่ได้เหรอคะว่าพี่เป็นคนสอนให้หนูพูดขอบคุณเวลาได้รับความช่วยเหลือน่ะ ”

“ อา… ”

 

ถึงจะเข้าใจนิดหน่อยแล้วก็เถอะ แต่ฉันต้องไปขอบคุณยัยแก้วที่มาตบหน้ากันด้วยไหมเนี่ย? ช่างมันดีกว่า…

 

“ ขอบคุณมากนะฟ้า ถ้าไม่มีฟ้าพี่อาจจะต้องจากโลกนี้ไปแล้วก็ได้ พี่รู้สึกซาบซึ้งจากใจจริงเลยล่ะ… ”

“ อื้มๆ หนูพอใจแล้วค่ะตอ— ”

“ —และเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจนี้ น้องสามารถเข้ากอดพี่ได้ตามต้องการเลยนะ ร่างกายนี้พี่ยกให้ฟ้าเลย 

“ ไม่เอาค่ะ…เฮ้อ~พี่คะ พวกเรายังอยู่ในเกมอยู่เลยนะคะ ถ้าพี่ยังเล่นนอกบทบาทแบบนี้เดี๋ยวก็แพ้เอาหรอก บทลงโทษครั้งนี้หนูเอาจริงนะคะ ”

“ จ้าๆ ”

 

ฟ้าที่สัมผัสได้ว่าฉันไม่ได้จริงจัง เธอจึงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง…

เกมของพวกเราได้ดำเนินต่อไปหลังกินข้าวเที่ยงกันเสร็จและในตอนนี้เกมก็หาตัวผู้แพ้ได้เรียบร้อยแล้ว

เกมของพวกเราไม่มีกรรมการที่จะมาตัดสินหาผู้แพ้ เพราะฉะนั้นพวกเราจึงต้องตัดสินกันเองด้วยการโหวต แน่นอนว่าอาจมีใครบางคนเลือกโหวตคนอื่นให้เป็นผู้แพ้ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองต่างหากที่สมควรเป็นผู้แพ้

แต่เกมนี้มันคือเกมที่ถูกสร้างมาจากพวกเราและเพื่อพวกเรา ความเชื่อใจเองก็เป็นส่วนสำคัญในเกมนี้เหมือนกัน ฟ้าเคยบอกเอาไว้อย่างงี้ตอนมาชวนเล่นด้วยกันครั้งแรก…และผู้ที่แพ้ในคราวนี้ก็คือฉันเองแหละ

 

“ พี่คะ แพ้อีกแล้วนะ สามครั้งติดต่อกันเลยด้วย ”

“ อ๋า~ แค่ทนน้ำร้อนหกใส่นิดหน่อยก็ทนไม่ได้ กระจอกจังเลยน๊าพ่อคนชอบลักหลับ~ ”

“ ใครมันจะไปทนได้ฟะเห้ย!? ”

“ ชอบลักหลับ? ”

 

ปกติก็ตัดสินหาผู้แพ้กันด้วยการโหวตนั่นแหละ แต่คราวนี้มันต่างออกไปนิดหน่อย ฉันไม่ได้แพ้จากการถูกโหวต แต่ฉันแพ้เพราะใช้สิทธิ์หยุดพักจนหมดทั้ง3ครั้งต่างหาก…ตามกฎแล้วผู้ที่ใช้สิทธิ์หยุดพักหมดทั้ง3ครั้งจะถูกปรับแพ้ทันที

และคนที่บังคับให้ฉันต้องใช้สิทธิ์จนหมดก็คือยัยแก้วตัวดีนี่เองแหละ คุณเธอเล่นมาก่อกวนฉันตลอดทั้งเกมเลย ไม่ว่าจะแกล้งทำเป็นของหกใส่ สกัดขา ปาของ หรือโยนสถานการณ์เสี่ยงตายมาให้ 

อาจจะเพราะเรื่องเมื่อเช้าก็ได้ถึงทำให้เธอแค้นฝังหุ่นฉันได้มากขนาดนี้

 

“ แล้วจะเอาไงกับบทลงโทษดีคะ? ”

“ อันนั้นพี่คิดไว้แล้วล่ะฟ้า…แบบที่หนึ่งที่คิดไว้คือจับมัดด้วยเชือกแล้วใช้แส้ฟาดหลังจนกว่าจะร้องขอชีวิต…หรือแบบที่สองคือจับแก้ผ้าแล้วสั่งให้วิ่งรอบหมู่บ้านดีล่ะ ”

“ เฮ้ยๆ!? จะอันไหนฉันก็ไม่เห็นด้วยเฟ้ย! นี่เธอเป็นยักษ์เป็นมารรึไงกันเนี่ย?! ไม่คิดจะให้ฉันเหลือศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์คนนึงเลยเรอะ! ”

“ อืม…แบบแรกน่าจะดีกว่าไหมนะ ยังไงก็มีแค่พวกเราที่ได้เห็นด้วยสิ แล้วฟ้าคิดว่าไงมั่ง…แบบไหนดีกว่า? ”

 

คุณเธอไม่ฟังกันเลยนี่หว่า…

 

“ หนูสนใจอันหลังนิดหน่อยค่ะ จับแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้านฟังดูน่าตื่นเต้นดีนะคะ ”

“ เอ๋? ฟ้าก็เอากับเค้าด้วยเหรอ?! ”

“ ล้อเล่นค่ะ~ เอาเป็นแค่พี่ลองใส่ชุดนักเรียนของพี่แก้วให้ดูก็พอแล้วค่ะ ”

“ ….นี่ก็ล้อเล่นใช่ไหม? ”

“ ของจริงค่ะ…. ”

 

ฟ้าส่งรอยยิ้มของเทพธิดาผู้บริสุทธิ์มา ไม่มีท่าทีว่าที่พูดนั้นคือคำโกหกเลย…

ถึงตัวฉันจะผอมแห้งเหมือนศพ แต่ยังไงมันก็ยังใหญ่เกินกว่าจะใส่ชุดนักเรียนของผู้หญิงได้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะงั้นไม่มีทางเลยที่ฉันจะใส่…..

 

“ พรุด! ฮะฮ่าๆๆๆ ช—ชุดนั้นดูเข้ากับนายดีนี่หน่า! ฮะฮ่าๆๆๆ! ”

 

แก้วในตอนนี้นั้นนอนลงไปขำอยู่กับพื้นแล้ว แข้งขาของเธออ่อนแรงตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นฉัน อีกไม่นานเธอคงจะใกล้ขาดอากาศหายใจเพราะขำมากเกินไปแน่

 

“ อย่าหัวเราะขนาดนั้นสิฟะ!? ฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ! ”

 

แก้วน่ะมีหุ่นที่ดีมาก แถมยังตัวเล็กน่ารักกว่าฉันอีกด้วย เพราะงั้นกระดุมเสื้อถึงได้หลุดไปหลายเม็ดเลยหลังได้ลองใส่ กระโปงเองก็รัดเอวฉันสุดๆเหมือนกัน ถุงเท้าก็ใส่ได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนเนกไทก็กลายเป็นเชือกรัดคอฉันไปซะแล้ว สภาพน่าทุเรศในตอนนี้ไม่อยากให้ใครเห็นเลย…

 

“ พ—พี่ดูเข้ากับชุดนักเรียนหญิงจริงๆนะค—พรุด! ”

 

อา ขนาดฟ้าเองก็ยังหลุดหัวเราะออกมาเลย ทำไมคนอื่นถึงได้มีความสุขในขณะที่อีกคนรู้สึกอับอายกันนะ มนุษย์เรานี่มันช่างลึกซึ้งซะจริงๆเลย…..

 

“ นี่ก็เย็นแล้ว งั้นหนูกลับบ้านก่อนนะคะพี่แก้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูมาปลุกไปโรงเรียนนะ ”

“ จ้า~ ”

“ นี่เธอไม่อายบ้างเลยรึไงที่ต้องให้ฟ้ามาปลุกไปโรงเรียนทุกวันเนี่ยคุณนักเรียนตัวอย่าง? ”

“ หนวกหูหน่า…!? นายเองก็ได้ฟ้าปลุกบ่อยๆนี่! ”

 

พวกเราเล่นกันจนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ถ้าตอนนี้ยังไม่กลับบ้านอีก‘คุณแม่’ที่รออยู่อาจเป็นห่วงเอาได้

แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านแล้ว สัญชาตญาณของฉันมันร้องเตือนด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรีบสั่งให้ฟ้ายืนอยู่เงียบๆก่อนที่จะแง้มประตูส่องดูในบ้าน

แต่ไม่ทันไรฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่าง…

 

—นี่พี่พลหยุดลีลาได้แล้ว! พี่จะเอาเท่าไร!? เงินติดตัวอยู่ตอนนี้ก็มีให้พี่ได้แค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง 

—แหมๆ~รู้ใจพี่ซะจริงเชียวนะน้องรัก แต่พี่ไม่ได้มาที่นี่แค่เหตุผลเดียวหรอกนะ ยังมีคนที่พี่อยากเจออยู่ด้วยน่ะสิ…

—ถ้าเรื่องนั้นพี่มาลงที่ผมได้เลย! แต่ได้โปรดจบเรื่องนี้สักทีเถอะ! 

 

ภายในบ้านมีเสียงของคุณพ่อกับเสียงของผู้ชายอีกคนกำลังทะเลาะกันอยู่ ถึงจะฟังดูทะเลาะกันแต่เสียงส่งมาถึงนั้นมันไม่ได้ดังมากนัก ถ้าหากไม่ตั้งใจฟังดีๆก็แทบจะไม่ได้ยินอะไรเลยด้วยซ้ำ

 

“ ทำไมถึงไม่เข้าไปในบ้านล่ะพี่คะ? ”

“ …นี่ฟ้า พี่รู้จักสถานที่ลับเเห่งหนึ่งใกล้ๆนี้ น้องอยากไปไหม? ”

“ สถานที่ลับ? หนูไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่ามีที่แบบนั้นด้วย แต่หนูอยากไปค่ะ! ”

 

แววตาของฟ้าพลันเปล่งประกายทันทีที่ได้ยินเรื่องโกหกของฉัน ถ้าเกิดอยู่ในสถานการณ์ปกติฉันคงจะเข้าไปกอดน้องสาวสุดน่ารักคนนี้ไปแล้ว

ถึงจะรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ต้องโกหกฟ้า แต่เพื่อไม่ให้เธอต้องเจอกับไอแก่เศษสวะนั่นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ยังไงมันก็ของถนัดของฉันอยู่แล้ว…

 

“ สถานที่ลับ~สถานที่ลับ~สถานที่ลับ~ ”

 

เมื่อ2ปีก่อน

ในขณะที่ฉันหลับอยู่ในห้อง จู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาจากชั้นล่าง

เสียงนั้นมันดังจนฉันนอนไม่หลับเลยลุกขึ้นจากเตียงนอน ฉันกะว่าจะลงไปดูสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่พอฉันลงไป ฉันก็เห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังยืนคุยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยท่าทางมึนเมา ตอนนั้นฉันยังงัวเงียอยู่จึงได้ยินสิ่งที่คุยไม่ค่อยชัด

 

‘ ลูก?! ’

 

พอฉันลงมาถึง ชายวัยกลางคนก็ตรงปลีกเข้ามาหาตัวฉันทันที…ไม่สิ ใช้คำว่า‘จับตัว’จะดีกว่า เพราะในตอนนี้ฉันกลายเป็นตัวประกันไปซะแล้ว

 

‘ อย่ามายืดเยื้อนะพายุ! พี่ก็ไม่ได้อยากทำร้ายหลานเหมือนกัน เพราะงั้นใช้สันติวิธีแล้วส่งเงินมาดีกว่านะ ช่วงนี้กระเป๋าตังค์มันโล่งโจ้งน่ะสิ ’

‘ แล้วงานที่ผมหาให้พี่ล่ะ พี่ไม่ได้ไปทำงั้นเหรอ? ’

‘ เสียเวลาชีวิตกันพอดีสิถ้าไปทำงาน ’

 

กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งซะจนสติฉันเริ่มฟื้นคืน ดวงตามองเห็นเต็มที่ อาการงัวเงียก็จางหายไปแล้ว

ใบหน้าของคุณพ่อที่กำลังรนรานและใบหน้าของคุณแม่ที่เป็นกังวล ภาพเบื้องหน้านี้พอจะทำให้คาดเดาเหตุการณ์ได้คร่าวๆแล้ว

ฉันลองพยายามดิ้นดู แต่ถึงยังไงฉันก็ยังเป็นแค่เด็กที่อ่อนแอไม่สามารถสู้แรงผู้ใหญ่ได้ มีวิธีเดียวที่จะหลุดจากตรงนี้ไปได้ ถึงจะไม่ตายแต่ก็น่าจะบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน…

 

‘ พี่พล! นั่นหลานของพี่เลยนะ อย่าเอาเข้ามาเกี่ยวด้วยเลย! ’

 

ในขณะที่คุณพ่อพยายามเจรจาด้วยสันติ 

 

ผั๊วะ!

 

ฉันโค้งศีรษะมาข้างหน้าก่อนจะใช้จังหวะที่ชายวัยกลางคนเผลอ สะบัดศีรษะให้หลังหัวฟาดเข้าที่ดั้งจมูกชายวัยกลางคนเข้าจังๆ ถึงตัวของฉันจะยังไม่หลุดแต่ฉันไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ฉันยกขาขึ้นมาข้างหน้าก่อนจะสะบัดไปด้านหลังสุดแรงฟาดเข้าระหว่างขาของชายวัยกลางคนแบบจุกๆ

ชายวัยกลางคนปล่อยตัวฉันลงพร้อมคุกเข่าลงไปนอนกุมเป้าอยู่กับพื้น เขากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฤทธิ์มึนเมาของเหล้าไม่ได้ช่วยให้มันรู้สึกเจ็บปวดน้อยลงเลย มันคือความเจ็บปวดที่บ่งบอกถึงว่าครั้งนึงเคยมีไอ้น้องชายห้อยอยู่ระหว่างขา

ฉันไม่รีรอรีบยกขาข้างนึงขึ้นกระทืบตรงไปที่ขมับของชายวัยกลางคนจนมันหมดสติไปทันที

 

( แค่นี้คงไม่ทำให้ตายหรอกมั้ง…? )

 

สีหน้าของคุณพ่อคุณแม่ล้วนยังคงอยู่ในภวังค์ของความตกใจ ฉันรีบเดินไปหาทั้งสองก่อนจะบอกให้คุณพ่อเข้าไปล็อกตัวชายวัยกลางคนแล้วโทรแจ้งตำรวจ

คุณพ่อที่พึ่งได้สติกลับมาก็รีบทำตามทันที ส่วนคุณแม่ที่ได้สติช้ากว่าก็รีบเข้ามาสวมกอดฉันพร้อมกับปล่อยโฮออกมาชุดใหญ่ ภายหลังฉันก็รู้มาว่าชายวัยกลางคนคนนั้นจริงๆแล้วเป็นคุณลุงของฉันเองแหละ….

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+