ลำนำบุปผาพิษ 2709 ทอดทิ้ง 4 / บทที่ 2710 ครอบครัวสามคน

Now you are reading ลำนำบุปผาพิษ Chapter 2709 ทอดทิ้ง 4 / บทที่ 2710 ครอบครัวสามคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ ​2709​ ​ทอดทิ้ง​ ​4

นาง​ออก​ไป​ไม่ได้​แล้ว​!

ส่วน​ท้อง​ก็​เจ็บปวด​เกิน​กว่า​จะ​บรรยาย​เป็น​คำพูด​ได้​ ​ราวกับ​พร้อม​จะ​ระเบิด​ออกมา​ได้​ทุกเมื่อ

ร่าง​ของ​นาง​ชุ่ม​เหงื่อ​ไป​หมด​แล้ว​ ​พลัน​ตัดสินใจ​ ​ยื่นมือ​ไป​หมาย​จะ​ตะปบ​ท้อง​ของ​ตน​!

นิ้วมือ​ของ​นาง​แหลมคม​ยิ่งกว่า​มีด​ที่​คมกริบ​ ​ด้วย​การ​ตะปบ​นี้​จะ​แหวก​หน้าท้อง​ ​ควัก​สิ่งแปลกปลอม​ที่อยู่​ด้านใน​ออกมา​ได้​!

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​คือ​ท้อง​ของ​นาง​เอง​ ​ไอ​มาร​เจ็ด​สี​นั้น​จึง​ไม่​อาจ​สกัด​ขวาง​มือ​ของ​นาง​ได้​ ​ยาม​ที่​มือ​ข้าง​นั้น​กำลังจะ​สัมผัส​กับ​หน้าท้อง​ที่​นูน​เด่น​ของ​นาง​ ​ลำแสง​สีเขียว​สาย​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​เข้ามา

อู​อู๋​เหยี​ยน​คราง​เฮือก​ ​นิ้วมือ​ถูก​แสงสี​เขียว​พุ่งชน​ ​หัก​ไป​ทันที

ความเจ็บปวด​จาก​การถู​กหัก​นิ้ว​กัด​กิน​เข้าไป​ถึง​หัวใจ​ไขกระดูก

นาง​ตะลึง​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ดวงตา​ที่​วาว​โรจน์​ดั่ง​เพลิง​มอง​ไป​ทาง​ตัวการ​ที่​ยิง​แสงสี​เขียว​ออกมา​ ​มอง​เขา​อย่าง​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​“​ท่าน​…​ท่าน​คิด​จะ​สังหาร​ข้า​หรือ​?​!​”

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​มอง​นิ้ว​ที่​บิดเบี้ยว​ของ​นาง​ ​รวมถึง​สภาพ​ที่​ราวกับ​ถูก​งม​ขึ้น​มาจาก​น้ำ​ ​ม่านตา​หดตัว​นิดๆ​ ​เอ่ย​อย่าง​เฉยเมย​ ​“​อู๋​เหยี​ยน​ ​จำเป็นต้อง​สละ​เจ้า​แล้ว​ ​อย่า​ได้​ดิ้นรน​โดย​เปล่าประโยชน์​เลย​ ​ยอมรับ​ความจริง​นี้​อย่างว่า​ง่าย​เสียเถิด​!​”

อู​อู๋​เยี​่​ยน​ตกตะลึง​…

การ​โจมตี​นี้​สำหรับ​นาง​แล้ว​เป็นการ​คร่าชีวิต​อย่างเห็นได้ชัด

นาง​ภักดี​ต่อ​เขา​เยี่ยง​สุนัข​ตัว​หนึ่ง​ ​ตอนนี้​เขา​กลับ​สลัด​นาง​ทิ้ง​เหมือน​รองเท้า​เก่าๆ​…

“​สุดท้าย​ท่าน​ก็​ไม่ต้องการ​ข้า​แล้ว​…​”​ ​แววตา​นาง​แข็งทื่อ​ ​น้ำเสียง​เลื่อนลอย​ ​“​ท่าน​…​ท่าน​บอกว่า​จะ​พา​ข้า​ไป​ด้วย​ตลอด​ ​ไม่​ทอดทิ้ง​…​”

แววตา​นาง​ช่าง​สิ้นหวัง​เหลือเกิน​ ​สิ้นหวัง​จน​คล้าย​ว่า​จะ​ทำให้​อุณหภูมิ​ภายใน​ห้อง​โดยสาร​ลด​ต่ำ​ลง​หลาย​องศา

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​สูด​หายใจ​นิดๆ​ ​“​อา​เหยี​ยน​ ​นี่​ไม่ใช่​การทอดทิ้ง​ ​นี่​คือ​ทางเลือก​สุดท้าย​ ​เมื่อกี้​หากว่า​เจ้า​ดื่ม​สุรา​จอก​นั้น​จน​หมด​ใน​คราว​เดียว​ ​จะ​ทำให้​เจ้า​ไป​สบาย​เร็ว​ขึ้น​หน่อย​ ​ไม้​ต้อง​รับ​ความ​ทรมาน​มากมาย​ปานนี้​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ทำ​มัน​หก​…​”

“​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​สังหาร​ข้า​ตอนนี้​เลย​สิ​!​”​ ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ตะโกน​ ​คล้าย​จะ​ทั้ง​หัวเราะ​ทั้ง​ร้องไห้

ตอนนี้​นาง​เจ็บปวด​เหลือเกิน​!​ ​ในเมื่อ​จะ​ช้า​หรือ​เร็ว​ก็​ต้องตา​ยอยู​่​ดี​ ​เช่นนั้น​มิสู​้​ให้​นาง​หาทาง​หลุดพ้น​ไป​แต่​เนิ่นๆ​…

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ละสายตา​ไป​ ​“​อา​เหยี​ยน​ ​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​เจ้า​จำเป็นต้อง​แบกรับ​”

ก่อนที่​สิ่ง​ที่อยู่​ใน​ท้องนาง​จะ​ถือกำเนิด​ออกมา​ ​นาง​ไม่​อาจ​ตาย​ได้

สุรา​จอก​นั้น​ที่​เขา​กลั่น​ออกมา​หากว่า​นาง​ดื่ม​เข้าไป​ทั้งหมด​ ​ไอ​มาร​ใน​สุรา​จะ​ทำให้​สิ่ง​นั้น​ก่อ​ร่าง​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​ก็​จะ​แหวก​ท้อง​ออกมา

แต่​เนื่องจาก​ไม่ได้​ดื่ม​จน​หมด​ ​การเจริญเติบโต​ของ​สิ่ง​นั้น​จึง​เชื่องช้า​ไป​หน่อย​ ​ไม่​อาจ​ก่อ​ร่าง​ได้​ ​ย่อม​ต้อง​พยายาม​ดิ้นรน​กระเสือกกระสน​อยู่​ด้านใน​เป็นธรรมดา​…

เดิมที​นิ้วมือ​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​จับ​ชาย​ชุด​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เอาไว้​แน่น​ ​บัดนี้​กลับ​ค่อยๆ​ ​คลาย​ออก​ทีละ​นิ้ว​ ​“​ท่าน​อำมหิต​นัก​…​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​แม้แต่​ทาง​สบาย​ก็​จะ​ไม่​มอบให้​ข้า​…​”

ความสิ้นหวัง​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​สิ้นหวัง​เข้มข้น​นัก​ ​ความชิงชัง​ก็​รุนแรง​เหลือเกิน​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ไม่​สบตา​กับ​นาง​อีก​ ​เบือนหน้า​ไป​เสีย​ ​ไม่​มอง​นาง​ต่อ​ ​“​เจ้า​ทน​ไว้​อีก​สักพัก​เถอะ​ ​อีก​สักพัก​ก็​สบาย​แล้ว​”

อู​อู๋​เหยี​ยน​ยิ้ม​อย่าง​น่าเวทนา​แวบ​หนึ่ง​ ​ไม่​เอ่ย​วาจา​อีก

อันที่จริง​แล้ว​ ​ใน​ช่วงหลัง​นาง​ไม่​ส่งเสียง​อีก​เลย​สัก​แอะ​ ​เพียง​เกลือกกลิ้ง​อยู่​บน​พื้น​ด้วย​ความเจ็บปวด​ยิ่งนัก​อย่างไร​้​สุ้มเสียง​…

สภาพ​ของ​นาง​ทำให้​กู้​ซีจิ​่​วท​นม​อง​ไม่ไหว​ ​นาง​อยาก​ลงมือ​มอบ​ทาง​หลุดพ้น​ให้​อู​อู๋​เหยี​ยน​ยิ่งนัก​ ​จนปัญญา​ที่​เขตแดน​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แข็งแกร่ง​เกินไป​ ​นาง​ทำลาย​ไม่ได้​ชั่วขณะ

เวลา​ไหลผ่าน​ไป​อย่าง​เชื่องช้า​ยิ่ง​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​ไป​จาก​ร่าง​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ ​ควบคุม​ยาน​รบ​ลำ​นี้​ให้​เดินหน้า​ต่อไป

แต่​ไม่รู้​ว่ายา​นร​บลำ​นี้​เกิด​ความขัดข้อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​ราวกับ​ถูก​บางสิ่ง​ยื้อยุด​ไว้​ ​ได้​แต่​หมุน​วน​อยู่​ที่​เดิม​ ​ไม่​เดินหน้า​ต่อไป

เขา​หงุดหงิด​ฉุนเฉียว​ ​มือ​ไม้​ไม่​นิ่ง​ ​ทำให้​คันโยก​ตัว​หนึ่ง​บน​แท่น​ควบคุม​โดน​ดึง​จน​หักออก​มา

“​สมควร​ตาย​!​”​ ​เขา​สบถ​ครา​หนึ่ง​ ​หันกลับ​ไป​มอง​อู​อู๋​เหยี​ยน​แวบ​หนึ่ง

อู​อู๋​เหยี​ยน​เหยียด​ท้อง​อัน​ใหญ่โต​อยู่​ตรงนั้น​ ​มือ​เท้า​เริ่ม​กระตุก​ ​ไอ​มาร​หน้า​ทารก​บน​ท้อง​ของ​นาง​เริ่ม​เคลื่อน​เข้าหา​ใบหน้า​ของ​นาง​อย่าง​ช้าๆ​ ​ค่อยๆ​ ​เผย​เขี้ยว​ยาว​โง้ง​ออกมา​…

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถอนหายใจ​นิดๆ​ ​อย่าง​โล่งอก

เขา​รู้ดี​ว่า​ ​หาก​ใบหน้า​ทารก​นี้​เข้า​ประชิด​ดวง​หน้า​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​อย่างแท้จริง​แล้ว​ ​จะ​ดูด​เอา​ดวงวิญญาณ​ของ​นาง​ออกมา​จาก​ปากของ​นาง​ ​จากนั้น​ก็​กลืน​กิน​ ​เช่นนั้น​ความ​ทรมาน​นี้​ของ​นาง​ก็​นับว่า​สิ้นสุดลง​แล้ว

ส่วน​กู่​ลูก​ตัว​นี้​ก็​จะ​ก่อ​ร่าง​ขึ้น​อย่างแท้จริง​ ​แหวก​ท้อง​ออกมา​ ​กลายเป็น​ผู้ช่วย​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​เขา​ ​ทำ​ภารกิจ​ของ​มัน​ให้​ลุล่วง​ ​ช่วย​เขา​ทำการ​ใหญ่​ให้​สำเร็จ​สมบูรณ์​…

เสียง​ ​‘​ตูม​!​’​ ​ดังสนั่น​ขึ้น​ ​ผนัง​ยาน​ที่​แข็งกล้า​ดุจ​โคตรเพชร​พลัน​แตก​เป็น​รู​ใหญ่​!

เงา​ร่าง​สีม่วง​สาย​หนึ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ภายใน​ห้อง​โดยสาร​ทันที​ ​แขน​เสื้อ​โบก​ตวัด​ ​แสงสี​รุ้ง​พุ่ง​ออกมา​ปาน​สะพาน​สายรุ้ง​ ​ซัด​เข้าใส่​อู​อู๋​เหยี​ยน​ทันที​!

คน​ผู้​นี้​ปรากฏ​ขึ้น​รวดเร็ว​เกินไป​ ​พอ​ปรากฏตัว​ขึ้น​ก็​โจมตี​ปาน​สายฟ้า​แลบ​!

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​กำลังใจ​ลอย​ไป​หน่อย​ ​ตอบสนอง​ไม่ทัน​ชั่วขณะ​ ​ยาม​ที่​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ของ​เขา​กลับมา​คิด​จะเข้า​ขัดขวาง​ ​ก็​กอบกู้​อะไร​ไม่ได้​แล้ว

แสงรุ้ง​ที่​ทรงพลัง​สาย​นั้น​ครอบคลุม​ทั้ง​ร่าง​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ไว้​…

มีเสียง​กรีดร้อง​โหยหวน​ของ​ทารก​แว่ว​ออกมา​จาก​แสงรุ้ง​ครึ่ง​เสียง​ ​ทำเอา​หู​คน​ชา​หนึบ

แต่​ก็​เพียง​ครึ่ง​เสียง​เท่านั้น​ ​แสงรุ้ง​พลัน​หมุน​วน​ ​สลาย​เสียงแหลม​สูง​นั้น​ไป​ย่าง​สิ้นเชิง

เมื่อ​โดม​แสงสี​รุ้ง​เลือนหาย​ไป​ ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ที่อยู่​บน​พื้น​ก็​หาย​ไป​แล้ว​ ​กู่​ลูก​ตัว​นั้น​ย่อม​หาย​ไป​ด้วย​เช่นกัน​…

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ล้มเหลว​ใน​ขั้นสุดท้าย​ ​สีหน้า​ซีดเผือด​อย่าง​ไม่​อาจ​ควบคุม​ได้​ ​เขา​พุ่ง​กระโจน​เข้าหา​กู้​ซีจิ​่ว​ใน​ทันใด​!

ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​คิด​จะ​จับ​เธอ​มา​ใช้​เป็น​โล่​กำบัง

แต่​การ​โผ​ครั้งนี้​ของ​เขา​กลับ​ได้​เพียง​ความว่างเปล่า​เท่านั้น​ ​เนื่องจาก​กู้​ซีจิ​่ว​เคลื่อนย้าย​ไป​แล้ว

ทิศทาง​การ​เคลื่อนย้าย​ของ​เธอ​ไม่​เอนเอียง​เลย​ ​เป็น​ข้าง​กาย​ของ​คน​ชุด​ม่วง​ผู้​นั้น​พอดิบพอดี​ ​แทบจะ​โผ​เข้าใส่​อ้อมแขน​ของ​คน​ชุด​ม่วง​ผู้​นั้นแล​้ว​ ​“ฝู​อี​!​”

กลิ่นหอม​อัน​คุ้นเคย​อวล​อยู่​ที่​ปลายจมูก​ ​กู้​ซีจิ​่ว​แทบ​หลั่ง​น้ำตา​แล้ว

คน​ชุด​ม่วง​ผู้​นั้น​ย่อม​เป็น​ตี้ฝู​อี​ ​แขน​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​โอบ​นาง​ไว้​ ​อีก​ข้าง​ซัด​ฝ่ามือ​เข้าใส่​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​“​เจ้า​ไป​ตาย​ได้​แล้ว​!​”

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​2710​ ​ครอบครัว​สาม​คน

แสงรุ้ง​ซัด​โถม​ดั่ง​คลื่น​สมุทร​ ​วูบ​ไหว​ปาน​กระแสไฟฟ้า​ ​ครอบคลุม​ทั้ง​ร่าง​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ไว้​!

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​หัวเราะ​เสียง​ยาว​อยู่​ท่ามกลาง​แสงรุ้ง​ ​คลื่น​แสง​ที่​มีสี​น้ำเงิน​เจิดจ้า​สาย​หนึ่ง​พวยพุ่ง​ขึ้น​มาจาก​แสงรุ้ง​ ​เกิด​เสียงดัง​ฟุ่บ​พุ่ง​เข้าไป​ใน​โพรง​ที่เกิด​ขึ้น​จาก​การ​ทำลาย​ยาน​ ​หาย​ลับ​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​…

และ​ทันทีที่​เขา​จากไป​ ​ยาน​รบ​ที่​พัง​เสียหาย​ลำ​นี้​ก็​ราวกับ​เรือก​ระ​ดาษ​ลำ​น้อย​ที่​ประสบ​พายุ​มรสุม​ ​หลุด​กระจาย​เป็น​ชิ้นๆ​ ​กลายเป็น​เศษ​ซาก​อยู่​ใน​อวกาศ

ไม่น่าเชื่อ​ว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​จะ​หลบหนี​ได้​เร็ว​ขนาด​นี้​!

เดิมที​กู้​ซีจิ​่​วนึ​กว่า​ ​พอตี​้ฝู​อี​มาถึง​ ​จะ​ต้อง​เปิดศึก​กับ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​สัก​ยก​แน่นอน​ ​ต่อสู้​กัน​จน​ฟ้า​ดิน​สิ้น​สีสัน​ ​ตะวัน​จันทรา​ไร้​แสง

กลับ​คาดไม่ถึง​เลย​ว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​จะ​หนี​ไป​อย่างว่องไว​เช่นนี้​!​ ​ถึงขั้น​ที่​ไม่ได้​เผชิญหน้า​กับ​ตี้ฝู​อี​อย่างแท้จริง​ ​ก็​หนีหาย​ไป​อย่างรวดเร็ว​ประหนึ่ง​ทาน​้ำ​มัน​ไว้​ที่​เท้า​แล้ว​…

ด้วย​วรยุทธ์​อัน​เลิศล้ำ​นี้​ ​ต่อให้​เป็นหนึ่ง​สู้​สอง​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ทำไม​่​ได้​กระมัง​?

แล้ว​ทำไม​ถึง​หนี​เร็ว​เหมือน​จะ​รีบ​ไป​เกิด​ใหม่​แบบนี้​?​!

ขณะที่​เธอ​ตกตะลึง​อยู่​ ​ก็​ร่วง​ออกมา​นอก​ยาน​พร้อมกับ​ตี้ฝู​อี​แล้ว

ยาน​รบ​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ลำ​นั้น​พังทลาย​ลง​อย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​ ​ราวกับ​มี​การ​ปล่อย​ดอกไม้ไฟ​ชุด​ใหญ่​ขึ้น​ไม่​ไกล​จาก​ข้าง​กาย​เธอ​ ​ลอย​กระจาย​อยู่​ท่ามกลาง​ห้วง​อวกาศ​สีน้ำเงิน​เข้ม​ ​เป็นความ​งดงาม​พร่างพราว​ประการหนึ่ง

ตี้ฝู​อี​โอบ​เธอ​ไว้​ ​ส่วน​เธอ​ก็​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​เขา​ไว้​ตาม​สัญชาตญาณ

โชคดี​ที่​ตอนนี้​พลัง​ยุทธ์​ของ​ทั้งสอง​ล้วน​เป็น​ซ่าง​เสิน​แล้ว​ ​ไม่ต้อง​สูด​หายใจ​ ​อยู่​ท่ามกลาง​อวกาศ​ที่​เยือกแข็ง​เช่นนี้​ก็​ไม่เป็นไร

“​พวกเรา​จะ​ตาม​ไป​ไหม​?​”​ ​กู้​ซีจิ​่ว​ถาม​อย่าง​ร้อนใจ

“​ไม่จำเป็น​”​ ​ตี้ฝู​อีส​่าย​หัว​นิดๆ​ ​“​ตาม​ไม่ทัน​หรอก​”

ใน​ระยะเวลา​เพียง​ชั่วครู่​นี้​ ​ร่องรอย​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ได้​สาบสูญ​ไป​แล้ว

กู้​ซีจิ​่ว​มองดู​รอบข้าง​ ​เห็น​เพียง​ห้วง​อวกาศ​สีน้ำเงิน​มืดมน​ ​มองไม่เห็น​เงา​ร่าง​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​สักนิด​แล้ว​จริงๆ​ ​หนี​ได้​รวดเร็ว​ยิ่งกว่า​ยาน​รบ​เสียอีก​!

ประหลาด​ ​ในเมื่อ​เขา​ใช้​วิธี​นี้​หลบหนี​ได้​ ​แล้ว​ทำไม​ก่อนหน้านี้​ถึง​ขับ​ยาน​รบ​อยู่​ตลอด​?

เธอ​เอ่ย​ข้อสงสัย​นี้​ออกมา

“​เพื่อ​กู่​ตัว​ลูก​ ​ร่าง​โคลน​นิ่ง​นาง​นั้น​พลัง​ยุทธ์​อ่อน​ด้อย​ ​ไม่​สามารถ​อยู่รอด​ใน​อวกาศ​ได้​ ​มี​แต่​ต้อง​ใช้​ยาน​รบ​พาก​ลับ​ไป​”​ ​ตี้ฝู​อี​ตอบ​ ​แล้ว​เล่าเรื่อง​กู่​แม่​ลูก​ให้​เธอ​ฟัง​อย่าง​พอสังเขป

กู้​ซีจิ​่ว​หลั่ง​เหงื่อ​เย็นเฉียบ​ทั่ว​ร่าง​ ​เพิ่ง​รู้​ว่า​สังขาร​ที่​อู​อู๋​เหยี​ยน​ครอบครอง​คือ​ร่าง​โคลน​นิ่ง​ ​ใน​ท้อง​ของ​นาง​คือ​กู่​ตัว​ลูก​ที่​เพียงพอ​จะ​เป็น​ภัยพิบัติ​ล้าง​โลกา​ได้​ ​มิน่าล่ะ​ถึง​ได้​แปลกประหลาด​ขนาด​นั้น​…

โชคดี​ที่​ตี้ฝู​อี​ตามมา​ถึง​ทันเวลา​ ​มิเช่นนั้น​เกรง​ว่า​กู่​ลูก​ตัว​นั้น​คง​ถือกำเนิด​ขึ้น​มา​แล้ว​!

สงสาร​ก็​แต่​อู​อู๋​เหยี​ยน​…

จู่ๆ​ ​เธอ​ก็​ขยุ้ม​แขน​เสื้อ​ของ​ตี้ฝู​อี​ ​“​เมื่อครู่นี้​ฝ่ามือ​ของ​ท่าน​ได้​ซัด​ให้​ดวงวิญญาณ​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​แตกสลาย​ไป​ด้วย​หรือเปล่า​?​”

ตี้ฝู​อี​มอง​มือ​น้อย​ๆ​ ​ของ​นาง​ที่​ขยุ้ม​แขน​เสื้อ​ตน​อยู่​ ​ส่ายหน้า​นิดๆ​ ​“​สิ่ง​ที่​ข้า​อยาก​ทำลาย​คือ​กู่​ลูก​ ​จึง​ไม่ได้​ใช้​กระบวน​ท่า​สลาย​ดวงวิญญาณ​ ​ใน​ร่าง​โคลน​นิ่ง​นั้น​คือ​อู​อู๋​เหยี​ยน​หรือ​?​”​ ​เขา​ย่อม​จดจำ​สตรี​นาง​นั้น​ได้​อยู่

กู้​ซีจิ​่ว​พยักหน้า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​เป็น​นาง​”​ ​เล่า​ไป​พลาง​ ​ร่าย​อาคม​รวบรวม​ดวงวิญญาณ​ไป​ด้วย​พลาง

แววตา​ตี้ฝู​อี​วูบ​ไหว​เล็กน้อย​ ​ยืน​กอดอก​มอง​นาง​ร่าย​อาคม​อยู่​ตรงนั้น​เสีย​เลย

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เธอ​ชัก​มือ​กลับ​ ​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ดวงวิญญาณ​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​หาย​ไป​แล้ว​!​ ​หรือว่า​พอ​อยู่​ใน​อวกาศ​เช่นนี้​ดวงวิญญาณ​จะ​หนีหาย​ไป​ได้​เร็ว​ขึ้น​?​ ​หรือว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถือโอกาส​พา​ไป​ด้วย​อีก​?​”

ตี้ฝู​อีก​็​ลอง​ร่าย​อาคม​รวม​วิญญาณ​ดู​เช่นกัน​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​เขา​ก็​เก็บ​มือ​ ​“​ไม่ต้อง​หา​แล้ว​ ​ดวงวิญญาณ​ของ​นาง​น่าจะ​ถูก​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​อัน​ใด​นั่น​พา​ไป​ด้วย​แล้ว​”

กู้​ซีจิ​่ว​เดือดดาล​ ​“​ไอ้​สารเลว​คน​นั้น​!​ ​ทรมาน​ผู้อื่น​จน​กลายเป็น​เช่นนั้น​แล้วยัง​ไม่ยอม​ปล่อยไป​อีก​!​”

ตี้ฝู​อี​รั้ง​นาง​เข้าสู่​อ้อมแขน​ ​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​“​เขา​เรียกว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​หรือ​?​ ​มี​ฐานะ​ใด​?​”

“​เขา​คือ​…​”

กู้​ซีจิ​่​วกำ​ลัง​จะ​เล่า​ความเป็นมา​ของ​อีก​ฝ่าย​ออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลำนำบุปผาพิษ 2709 ทอดทิ้ง 4 / บทที่ 2710 ครอบครัวสามคน

Now you are reading ลำนำบุปผาพิษ Chapter 2709 ทอดทิ้ง 4 / บทที่ 2710 ครอบครัวสามคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ ​2709​ ​ทอดทิ้ง​ ​4

นาง​ออก​ไป​ไม่ได้​แล้ว​!

ส่วน​ท้อง​ก็​เจ็บปวด​เกิน​กว่า​จะ​บรรยาย​เป็น​คำพูด​ได้​ ​ราวกับ​พร้อม​จะ​ระเบิด​ออกมา​ได้​ทุกเมื่อ

ร่าง​ของ​นาง​ชุ่ม​เหงื่อ​ไป​หมด​แล้ว​ ​พลัน​ตัดสินใจ​ ​ยื่นมือ​ไป​หมาย​จะ​ตะปบ​ท้อง​ของ​ตน​!

นิ้วมือ​ของ​นาง​แหลมคม​ยิ่งกว่า​มีด​ที่​คมกริบ​ ​ด้วย​การ​ตะปบ​นี้​จะ​แหวก​หน้าท้อง​ ​ควัก​สิ่งแปลกปลอม​ที่อยู่​ด้านใน​ออกมา​ได้​!

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​คือ​ท้อง​ของ​นาง​เอง​ ​ไอ​มาร​เจ็ด​สี​นั้น​จึง​ไม่​อาจ​สกัด​ขวาง​มือ​ของ​นาง​ได้​ ​ยาม​ที่​มือ​ข้าง​นั้น​กำลังจะ​สัมผัส​กับ​หน้าท้อง​ที่​นูน​เด่น​ของ​นาง​ ​ลำแสง​สีเขียว​สาย​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​เข้ามา

อู​อู๋​เหยี​ยน​คราง​เฮือก​ ​นิ้วมือ​ถูก​แสงสี​เขียว​พุ่งชน​ ​หัก​ไป​ทันที

ความเจ็บปวด​จาก​การถู​กหัก​นิ้ว​กัด​กิน​เข้าไป​ถึง​หัวใจ​ไขกระดูก

นาง​ตะลึง​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ดวงตา​ที่​วาว​โรจน์​ดั่ง​เพลิง​มอง​ไป​ทาง​ตัวการ​ที่​ยิง​แสงสี​เขียว​ออกมา​ ​มอง​เขา​อย่าง​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​“​ท่าน​…​ท่าน​คิด​จะ​สังหาร​ข้า​หรือ​?​!​”

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​มอง​นิ้ว​ที่​บิดเบี้ยว​ของ​นาง​ ​รวมถึง​สภาพ​ที่​ราวกับ​ถูก​งม​ขึ้น​มาจาก​น้ำ​ ​ม่านตา​หดตัว​นิดๆ​ ​เอ่ย​อย่าง​เฉยเมย​ ​“​อู๋​เหยี​ยน​ ​จำเป็นต้อง​สละ​เจ้า​แล้ว​ ​อย่า​ได้​ดิ้นรน​โดย​เปล่าประโยชน์​เลย​ ​ยอมรับ​ความจริง​นี้​อย่างว่า​ง่าย​เสียเถิด​!​”

อู​อู๋​เยี​่​ยน​ตกตะลึง​…

การ​โจมตี​นี้​สำหรับ​นาง​แล้ว​เป็นการ​คร่าชีวิต​อย่างเห็นได้ชัด

นาง​ภักดี​ต่อ​เขา​เยี่ยง​สุนัข​ตัว​หนึ่ง​ ​ตอนนี้​เขา​กลับ​สลัด​นาง​ทิ้ง​เหมือน​รองเท้า​เก่าๆ​…

“​สุดท้าย​ท่าน​ก็​ไม่ต้องการ​ข้า​แล้ว​…​”​ ​แววตา​นาง​แข็งทื่อ​ ​น้ำเสียง​เลื่อนลอย​ ​“​ท่าน​…​ท่าน​บอกว่า​จะ​พา​ข้า​ไป​ด้วย​ตลอด​ ​ไม่​ทอดทิ้ง​…​”

แววตา​นาง​ช่าง​สิ้นหวัง​เหลือเกิน​ ​สิ้นหวัง​จน​คล้าย​ว่า​จะ​ทำให้​อุณหภูมิ​ภายใน​ห้อง​โดยสาร​ลด​ต่ำ​ลง​หลาย​องศา

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​สูด​หายใจ​นิดๆ​ ​“​อา​เหยี​ยน​ ​นี่​ไม่ใช่​การทอดทิ้ง​ ​นี่​คือ​ทางเลือก​สุดท้าย​ ​เมื่อกี้​หากว่า​เจ้า​ดื่ม​สุรา​จอก​นั้น​จน​หมด​ใน​คราว​เดียว​ ​จะ​ทำให้​เจ้า​ไป​สบาย​เร็ว​ขึ้น​หน่อย​ ​ไม้​ต้อง​รับ​ความ​ทรมาน​มากมาย​ปานนี้​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ทำ​มัน​หก​…​”

“​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​สังหาร​ข้า​ตอนนี้​เลย​สิ​!​”​ ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ตะโกน​ ​คล้าย​จะ​ทั้ง​หัวเราะ​ทั้ง​ร้องไห้

ตอนนี้​นาง​เจ็บปวด​เหลือเกิน​!​ ​ในเมื่อ​จะ​ช้า​หรือ​เร็ว​ก็​ต้องตา​ยอยู​่​ดี​ ​เช่นนั้น​มิสู​้​ให้​นาง​หาทาง​หลุดพ้น​ไป​แต่​เนิ่นๆ​…

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ละสายตา​ไป​ ​“​อา​เหยี​ยน​ ​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​เจ้า​จำเป็นต้อง​แบกรับ​”

ก่อนที่​สิ่ง​ที่อยู่​ใน​ท้องนาง​จะ​ถือกำเนิด​ออกมา​ ​นาง​ไม่​อาจ​ตาย​ได้

สุรา​จอก​นั้น​ที่​เขา​กลั่น​ออกมา​หากว่า​นาง​ดื่ม​เข้าไป​ทั้งหมด​ ​ไอ​มาร​ใน​สุรา​จะ​ทำให้​สิ่ง​นั้น​ก่อ​ร่าง​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​ก็​จะ​แหวก​ท้อง​ออกมา

แต่​เนื่องจาก​ไม่ได้​ดื่ม​จน​หมด​ ​การเจริญเติบโต​ของ​สิ่ง​นั้น​จึง​เชื่องช้า​ไป​หน่อย​ ​ไม่​อาจ​ก่อ​ร่าง​ได้​ ​ย่อม​ต้อง​พยายาม​ดิ้นรน​กระเสือกกระสน​อยู่​ด้านใน​เป็นธรรมดา​…

เดิมที​นิ้วมือ​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​จับ​ชาย​ชุด​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เอาไว้​แน่น​ ​บัดนี้​กลับ​ค่อยๆ​ ​คลาย​ออก​ทีละ​นิ้ว​ ​“​ท่าน​อำมหิต​นัก​…​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​แม้แต่​ทาง​สบาย​ก็​จะ​ไม่​มอบให้​ข้า​…​”

ความสิ้นหวัง​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​สิ้นหวัง​เข้มข้น​นัก​ ​ความชิงชัง​ก็​รุนแรง​เหลือเกิน​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ไม่​สบตา​กับ​นาง​อีก​ ​เบือนหน้า​ไป​เสีย​ ​ไม่​มอง​นาง​ต่อ​ ​“​เจ้า​ทน​ไว้​อีก​สักพัก​เถอะ​ ​อีก​สักพัก​ก็​สบาย​แล้ว​”

อู​อู๋​เหยี​ยน​ยิ้ม​อย่าง​น่าเวทนา​แวบ​หนึ่ง​ ​ไม่​เอ่ย​วาจา​อีก

อันที่จริง​แล้ว​ ​ใน​ช่วงหลัง​นาง​ไม่​ส่งเสียง​อีก​เลย​สัก​แอะ​ ​เพียง​เกลือกกลิ้ง​อยู่​บน​พื้น​ด้วย​ความเจ็บปวด​ยิ่งนัก​อย่างไร​้​สุ้มเสียง​…

สภาพ​ของ​นาง​ทำให้​กู้​ซีจิ​่​วท​นม​อง​ไม่ไหว​ ​นาง​อยาก​ลงมือ​มอบ​ทาง​หลุดพ้น​ให้​อู​อู๋​เหยี​ยน​ยิ่งนัก​ ​จนปัญญา​ที่​เขตแดน​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แข็งแกร่ง​เกินไป​ ​นาง​ทำลาย​ไม่ได้​ชั่วขณะ

เวลา​ไหลผ่าน​ไป​อย่าง​เชื่องช้า​ยิ่ง​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​ไป​จาก​ร่าง​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ ​ควบคุม​ยาน​รบ​ลำ​นี้​ให้​เดินหน้า​ต่อไป

แต่​ไม่รู้​ว่ายา​นร​บลำ​นี้​เกิด​ความขัดข้อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​ราวกับ​ถูก​บางสิ่ง​ยื้อยุด​ไว้​ ​ได้​แต่​หมุน​วน​อยู่​ที่​เดิม​ ​ไม่​เดินหน้า​ต่อไป

เขา​หงุดหงิด​ฉุนเฉียว​ ​มือ​ไม้​ไม่​นิ่ง​ ​ทำให้​คันโยก​ตัว​หนึ่ง​บน​แท่น​ควบคุม​โดน​ดึง​จน​หักออก​มา

“​สมควร​ตาย​!​”​ ​เขา​สบถ​ครา​หนึ่ง​ ​หันกลับ​ไป​มอง​อู​อู๋​เหยี​ยน​แวบ​หนึ่ง

อู​อู๋​เหยี​ยน​เหยียด​ท้อง​อัน​ใหญ่โต​อยู่​ตรงนั้น​ ​มือ​เท้า​เริ่ม​กระตุก​ ​ไอ​มาร​หน้า​ทารก​บน​ท้อง​ของ​นาง​เริ่ม​เคลื่อน​เข้าหา​ใบหน้า​ของ​นาง​อย่าง​ช้าๆ​ ​ค่อยๆ​ ​เผย​เขี้ยว​ยาว​โง้ง​ออกมา​…

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถอนหายใจ​นิดๆ​ ​อย่าง​โล่งอก

เขา​รู้ดี​ว่า​ ​หาก​ใบหน้า​ทารก​นี้​เข้า​ประชิด​ดวง​หน้า​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​อย่างแท้จริง​แล้ว​ ​จะ​ดูด​เอา​ดวงวิญญาณ​ของ​นาง​ออกมา​จาก​ปากของ​นาง​ ​จากนั้น​ก็​กลืน​กิน​ ​เช่นนั้น​ความ​ทรมาน​นี้​ของ​นาง​ก็​นับว่า​สิ้นสุดลง​แล้ว

ส่วน​กู่​ลูก​ตัว​นี้​ก็​จะ​ก่อ​ร่าง​ขึ้น​อย่างแท้จริง​ ​แหวก​ท้อง​ออกมา​ ​กลายเป็น​ผู้ช่วย​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​เขา​ ​ทำ​ภารกิจ​ของ​มัน​ให้​ลุล่วง​ ​ช่วย​เขา​ทำการ​ใหญ่​ให้​สำเร็จ​สมบูรณ์​…

เสียง​ ​‘​ตูม​!​’​ ​ดังสนั่น​ขึ้น​ ​ผนัง​ยาน​ที่​แข็งกล้า​ดุจ​โคตรเพชร​พลัน​แตก​เป็น​รู​ใหญ่​!

เงา​ร่าง​สีม่วง​สาย​หนึ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ภายใน​ห้อง​โดยสาร​ทันที​ ​แขน​เสื้อ​โบก​ตวัด​ ​แสงสี​รุ้ง​พุ่ง​ออกมา​ปาน​สะพาน​สายรุ้ง​ ​ซัด​เข้าใส่​อู​อู๋​เหยี​ยน​ทันที​!

คน​ผู้​นี้​ปรากฏ​ขึ้น​รวดเร็ว​เกินไป​ ​พอ​ปรากฏตัว​ขึ้น​ก็​โจมตี​ปาน​สายฟ้า​แลบ​!

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​กำลังใจ​ลอย​ไป​หน่อย​ ​ตอบสนอง​ไม่ทัน​ชั่วขณะ​ ​ยาม​ที่​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ของ​เขา​กลับมา​คิด​จะเข้า​ขัดขวาง​ ​ก็​กอบกู้​อะไร​ไม่ได้​แล้ว

แสงรุ้ง​ที่​ทรงพลัง​สาย​นั้น​ครอบคลุม​ทั้ง​ร่าง​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ไว้​…

มีเสียง​กรีดร้อง​โหยหวน​ของ​ทารก​แว่ว​ออกมา​จาก​แสงรุ้ง​ครึ่ง​เสียง​ ​ทำเอา​หู​คน​ชา​หนึบ

แต่​ก็​เพียง​ครึ่ง​เสียง​เท่านั้น​ ​แสงรุ้ง​พลัน​หมุน​วน​ ​สลาย​เสียงแหลม​สูง​นั้น​ไป​ย่าง​สิ้นเชิง

เมื่อ​โดม​แสงสี​รุ้ง​เลือนหาย​ไป​ ​อู​อู๋​เหยี​ยน​ที่อยู่​บน​พื้น​ก็​หาย​ไป​แล้ว​ ​กู่​ลูก​ตัว​นั้น​ย่อม​หาย​ไป​ด้วย​เช่นกัน​…

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ล้มเหลว​ใน​ขั้นสุดท้าย​ ​สีหน้า​ซีดเผือด​อย่าง​ไม่​อาจ​ควบคุม​ได้​ ​เขา​พุ่ง​กระโจน​เข้าหา​กู้​ซีจิ​่ว​ใน​ทันใด​!

ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​คิด​จะ​จับ​เธอ​มา​ใช้​เป็น​โล่​กำบัง

แต่​การ​โผ​ครั้งนี้​ของ​เขา​กลับ​ได้​เพียง​ความว่างเปล่า​เท่านั้น​ ​เนื่องจาก​กู้​ซีจิ​่ว​เคลื่อนย้าย​ไป​แล้ว

ทิศทาง​การ​เคลื่อนย้าย​ของ​เธอ​ไม่​เอนเอียง​เลย​ ​เป็น​ข้าง​กาย​ของ​คน​ชุด​ม่วง​ผู้​นั้น​พอดิบพอดี​ ​แทบจะ​โผ​เข้าใส่​อ้อมแขน​ของ​คน​ชุด​ม่วง​ผู้​นั้นแล​้ว​ ​“ฝู​อี​!​”

กลิ่นหอม​อัน​คุ้นเคย​อวล​อยู่​ที่​ปลายจมูก​ ​กู้​ซีจิ​่ว​แทบ​หลั่ง​น้ำตา​แล้ว

คน​ชุด​ม่วง​ผู้​นั้น​ย่อม​เป็น​ตี้ฝู​อี​ ​แขน​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​โอบ​นาง​ไว้​ ​อีก​ข้าง​ซัด​ฝ่ามือ​เข้าใส่​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​“​เจ้า​ไป​ตาย​ได้​แล้ว​!​”

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​2710​ ​ครอบครัว​สาม​คน

แสงรุ้ง​ซัด​โถม​ดั่ง​คลื่น​สมุทร​ ​วูบ​ไหว​ปาน​กระแสไฟฟ้า​ ​ครอบคลุม​ทั้ง​ร่าง​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ไว้​!

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​หัวเราะ​เสียง​ยาว​อยู่​ท่ามกลาง​แสงรุ้ง​ ​คลื่น​แสง​ที่​มีสี​น้ำเงิน​เจิดจ้า​สาย​หนึ่ง​พวยพุ่ง​ขึ้น​มาจาก​แสงรุ้ง​ ​เกิด​เสียงดัง​ฟุ่บ​พุ่ง​เข้าไป​ใน​โพรง​ที่เกิด​ขึ้น​จาก​การ​ทำลาย​ยาน​ ​หาย​ลับ​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​…

และ​ทันทีที่​เขา​จากไป​ ​ยาน​รบ​ที่​พัง​เสียหาย​ลำ​นี้​ก็​ราวกับ​เรือก​ระ​ดาษ​ลำ​น้อย​ที่​ประสบ​พายุ​มรสุม​ ​หลุด​กระจาย​เป็น​ชิ้นๆ​ ​กลายเป็น​เศษ​ซาก​อยู่​ใน​อวกาศ

ไม่น่าเชื่อ​ว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​จะ​หลบหนี​ได้​เร็ว​ขนาด​นี้​!

เดิมที​กู้​ซีจิ​่​วนึ​กว่า​ ​พอตี​้ฝู​อี​มาถึง​ ​จะ​ต้อง​เปิดศึก​กับ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​สัก​ยก​แน่นอน​ ​ต่อสู้​กัน​จน​ฟ้า​ดิน​สิ้น​สีสัน​ ​ตะวัน​จันทรา​ไร้​แสง

กลับ​คาดไม่ถึง​เลย​ว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​จะ​หนี​ไป​อย่างว่องไว​เช่นนี้​!​ ​ถึงขั้น​ที่​ไม่ได้​เผชิญหน้า​กับ​ตี้ฝู​อี​อย่างแท้จริง​ ​ก็​หนีหาย​ไป​อย่างรวดเร็ว​ประหนึ่ง​ทาน​้ำ​มัน​ไว้​ที่​เท้า​แล้ว​…

ด้วย​วรยุทธ์​อัน​เลิศล้ำ​นี้​ ​ต่อให้​เป็นหนึ่ง​สู้​สอง​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ทำไม​่​ได้​กระมัง​?

แล้ว​ทำไม​ถึง​หนี​เร็ว​เหมือน​จะ​รีบ​ไป​เกิด​ใหม่​แบบนี้​?​!

ขณะที่​เธอ​ตกตะลึง​อยู่​ ​ก็​ร่วง​ออกมา​นอก​ยาน​พร้อมกับ​ตี้ฝู​อี​แล้ว

ยาน​รบ​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ลำ​นั้น​พังทลาย​ลง​อย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​ ​ราวกับ​มี​การ​ปล่อย​ดอกไม้ไฟ​ชุด​ใหญ่​ขึ้น​ไม่​ไกล​จาก​ข้าง​กาย​เธอ​ ​ลอย​กระจาย​อยู่​ท่ามกลาง​ห้วง​อวกาศ​สีน้ำเงิน​เข้ม​ ​เป็นความ​งดงาม​พร่างพราว​ประการหนึ่ง

ตี้ฝู​อี​โอบ​เธอ​ไว้​ ​ส่วน​เธอ​ก็​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​เขา​ไว้​ตาม​สัญชาตญาณ

โชคดี​ที่​ตอนนี้​พลัง​ยุทธ์​ของ​ทั้งสอง​ล้วน​เป็น​ซ่าง​เสิน​แล้ว​ ​ไม่ต้อง​สูด​หายใจ​ ​อยู่​ท่ามกลาง​อวกาศ​ที่​เยือกแข็ง​เช่นนี้​ก็​ไม่เป็นไร

“​พวกเรา​จะ​ตาม​ไป​ไหม​?​”​ ​กู้​ซีจิ​่ว​ถาม​อย่าง​ร้อนใจ

“​ไม่จำเป็น​”​ ​ตี้ฝู​อีส​่าย​หัว​นิดๆ​ ​“​ตาม​ไม่ทัน​หรอก​”

ใน​ระยะเวลา​เพียง​ชั่วครู่​นี้​ ​ร่องรอย​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ได้​สาบสูญ​ไป​แล้ว

กู้​ซีจิ​่ว​มองดู​รอบข้าง​ ​เห็น​เพียง​ห้วง​อวกาศ​สีน้ำเงิน​มืดมน​ ​มองไม่เห็น​เงา​ร่าง​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​สักนิด​แล้ว​จริงๆ​ ​หนี​ได้​รวดเร็ว​ยิ่งกว่า​ยาน​รบ​เสียอีก​!

ประหลาด​ ​ในเมื่อ​เขา​ใช้​วิธี​นี้​หลบหนี​ได้​ ​แล้ว​ทำไม​ก่อนหน้านี้​ถึง​ขับ​ยาน​รบ​อยู่​ตลอด​?

เธอ​เอ่ย​ข้อสงสัย​นี้​ออกมา

“​เพื่อ​กู่​ตัว​ลูก​ ​ร่าง​โคลน​นิ่ง​นาง​นั้น​พลัง​ยุทธ์​อ่อน​ด้อย​ ​ไม่​สามารถ​อยู่รอด​ใน​อวกาศ​ได้​ ​มี​แต่​ต้อง​ใช้​ยาน​รบ​พาก​ลับ​ไป​”​ ​ตี้ฝู​อี​ตอบ​ ​แล้ว​เล่าเรื่อง​กู่​แม่​ลูก​ให้​เธอ​ฟัง​อย่าง​พอสังเขป

กู้​ซีจิ​่ว​หลั่ง​เหงื่อ​เย็นเฉียบ​ทั่ว​ร่าง​ ​เพิ่ง​รู้​ว่า​สังขาร​ที่​อู​อู๋​เหยี​ยน​ครอบครอง​คือ​ร่าง​โคลน​นิ่ง​ ​ใน​ท้อง​ของ​นาง​คือ​กู่​ตัว​ลูก​ที่​เพียงพอ​จะ​เป็น​ภัยพิบัติ​ล้าง​โลกา​ได้​ ​มิน่าล่ะ​ถึง​ได้​แปลกประหลาด​ขนาด​นั้น​…

โชคดี​ที่​ตี้ฝู​อี​ตามมา​ถึง​ทันเวลา​ ​มิเช่นนั้น​เกรง​ว่า​กู่​ลูก​ตัว​นั้น​คง​ถือกำเนิด​ขึ้น​มา​แล้ว​!

สงสาร​ก็​แต่​อู​อู๋​เหยี​ยน​…

จู่ๆ​ ​เธอ​ก็​ขยุ้ม​แขน​เสื้อ​ของ​ตี้ฝู​อี​ ​“​เมื่อครู่นี้​ฝ่ามือ​ของ​ท่าน​ได้​ซัด​ให้​ดวงวิญญาณ​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​แตกสลาย​ไป​ด้วย​หรือเปล่า​?​”

ตี้ฝู​อี​มอง​มือ​น้อย​ๆ​ ​ของ​นาง​ที่​ขยุ้ม​แขน​เสื้อ​ตน​อยู่​ ​ส่ายหน้า​นิดๆ​ ​“​สิ่ง​ที่​ข้า​อยาก​ทำลาย​คือ​กู่​ลูก​ ​จึง​ไม่ได้​ใช้​กระบวน​ท่า​สลาย​ดวงวิญญาณ​ ​ใน​ร่าง​โคลน​นิ่ง​นั้น​คือ​อู​อู๋​เหยี​ยน​หรือ​?​”​ ​เขา​ย่อม​จดจำ​สตรี​นาง​นั้น​ได้​อยู่

กู้​ซีจิ​่ว​พยักหน้า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​เป็น​นาง​”​ ​เล่า​ไป​พลาง​ ​ร่าย​อาคม​รวบรวม​ดวงวิญญาณ​ไป​ด้วย​พลาง

แววตา​ตี้ฝู​อี​วูบ​ไหว​เล็กน้อย​ ​ยืน​กอดอก​มอง​นาง​ร่าย​อาคม​อยู่​ตรงนั้น​เสีย​เลย

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เธอ​ชัก​มือ​กลับ​ ​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ดวงวิญญาณ​ของ​อู​อู๋​เหยี​ยน​หาย​ไป​แล้ว​!​ ​หรือว่า​พอ​อยู่​ใน​อวกาศ​เช่นนี้​ดวงวิญญาณ​จะ​หนีหาย​ไป​ได้​เร็ว​ขึ้น​?​ ​หรือว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถือโอกาส​พา​ไป​ด้วย​อีก​?​”

ตี้ฝู​อีก​็​ลอง​ร่าย​อาคม​รวม​วิญญาณ​ดู​เช่นกัน​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​เขา​ก็​เก็บ​มือ​ ​“​ไม่ต้อง​หา​แล้ว​ ​ดวงวิญญาณ​ของ​นาง​น่าจะ​ถูก​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​อัน​ใด​นั่น​พา​ไป​ด้วย​แล้ว​”

กู้​ซีจิ​่ว​เดือดดาล​ ​“​ไอ้​สารเลว​คน​นั้น​!​ ​ทรมาน​ผู้อื่น​จน​กลายเป็น​เช่นนั้น​แล้วยัง​ไม่ยอม​ปล่อยไป​อีก​!​”

ตี้ฝู​อี​รั้ง​นาง​เข้าสู่​อ้อมแขน​ ​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​“​เขา​เรียกว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​หรือ​?​ ​มี​ฐานะ​ใด​?​”

“​เขา​คือ​…​”

กู้​ซีจิ​่​วกำ​ลัง​จะ​เล่า​ความเป็นมา​ของ​อีก​ฝ่าย​ออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+