ลำนำบุปผาพิษ 2812 เท็จกลับจริง จริงกลับเท็จ 4 / บทที่ 2813 เปิดโปง

Now you are reading ลำนำบุปผาพิษ Chapter 2812 เท็จกลับจริง จริงกลับเท็จ 4 / บทที่ 2813 เปิดโปง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ ​2812​ ​เท็จ​กลับ​จริง​ ​จริง​กลับ​เท็จ​ ​4

เขา​เอ่ย​เสียงเย็น​ ​“​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ตัว​ปลอม​อย่าง​เจ้า​จะ​พอ​มีฝีมือ​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​เปลี่ยนแปลง​ความจริง​ที่ว่า​เจ้า​เป็นตัว​ปลอม​ไป​ไม่ได้​ ​ใครก็ได้​ ​มา​จับ​นาง​ซะ​!​ ​เปิ่น​หวาง​จะ​ไต่สวน​ดู​ให้​ดี​ๆ​!​”

เขา​พลัน​โบกมือ​ครา​หนึ่ง​ ​การ​โบกมือ​นี้​คือ​สัญญาณ​ลับ​ ​ให้​กองทหาร​ที่​ดัก​ซุ่ม​อยู่​เหล่านั้น​ลงมือ​ได้​เลย​…

เขา​เกรง​ว่า​ตน​จะ​ถูก​ลูกหลง​บาดเจ็บ​ไป​ด้วย​ ​ดังนั้น​ทันทีที่​ถอยร่น​ออกมา​ก็ได้​กาง​เขตแดน​ให้​ตัวเอง​ทาง​ด้าน​นี้​แล้ว

ผล​คือ​…

หมื่น​ศร​น้าว​ยิง​ที่​เขา​เฝ้ารอ​คอย​ไม่​ปรากฏ​ขึ้น​ ​ถึงขั้น​ที่​สัก​ดอก​เดียว​ก็​ไม่มี​พุ่ง​ออกมา​เลย

กองทหาร​ที่​ซุ่ม​อยู่ในเส้นทาง​ลับ​ก็​ไม่​โผล่​ออกมา​เลย​ ​ใน​อากาศ​เกิด​ความ​เงียบงัน​อัน​น่าประหลาด​อย่างหนึ่ง​ขึ้น

กู้​ซีจิ​่ว​ถอย​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แล้ว​ ​ถึงแม้​เธอ​จะ​สร้าง​กำบัง​คุ้มกัน​ไว้​รอบกาย​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แล้ว​ ​แต่​ก็​ยาก​จะ​รับประกัน​ได้​ว่า​ในสังกัด​ของ​ราชัน​ปีศาจ​จะ​ไม่มี​คนที​่​สามารถ​ทำลาย​กำบัง​แล้ว​จับตัว​คน​ไป​ได้​ ​หากว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถูกจับ​ไป​ ​เธอ​คง​ต้อง​เป็นรอง​จริงๆ​ ​แล้ว

อันที่จริง​กู้​ซีจิ​่​วก​็​ค่อนข้าง​ฉงน​อยู่​เช่นกัน​ ​เมื่อ​เธอ​เห็น​ราชัน​ปีศาจ​โบกมือ​ก็​ทราบ​แล้ว​ว่า​เขา​สั่งการ​กองทหาร​ให้​ออกโรง​ ​เธอ​นึก​ไป​ว่า​ถึงแม้​กองทหาร​ที่​ดัก​ซุ่ม​เหล่านั้น​จะ​ถูก​เธอ​ขู่ขวัญ​ไป​ไม่น้อย​แล้ว​ ​แต่​ถึงอย่างไร​กองทหาร​ก็​มีมาก​มาย​ ​เธอ​ไม่​สามารถ​ทำให้​พวกเขา​สยบ​จำนน​ได้​ทั้งหมด​ ​และ​ใน​บรรดา​นั้น​ก็​มี​ผู้​ที่​ภักดี​ต่อ​ราชัน​ปีศาจ​อยู่​ ​หากว่า​ได้รับ​คำสั่ง​จะ​ต้อง​ลงมือ​แน่

หน​นี้​อย่างน้อย​ก็​น่าจะ​มีลูก​ศร​ยิง​ออกมา​สัก​พัน​ดอก​ ​มี​คน​สอง​สาม​ร้อย​คน​พุ่ง​ออกมา

กลับ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​ไม่มี​เลย​สัก​คน

กองทหาร​ที่​ดัก​ซุ่ม​เหล่านั้น​พบพาน​อุบัติเหตุ​อัน​ใด​ไป​แล้ว​หรือ​?

ไม่ทราบ​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​เงา​ร่าง​ของ​ตี้ฝู​อี​พลัน​แวบ​เข้ามา​ใน​สมอง​ของ​เธอ​ ​ความคิด​หนึ่ง​ผุด​ขึ้น​มา​ ​‘​หรือ​เขา​จะ​ลอบ​ลงมือ​แล้ว​…​’

แต่​วรยุทธ์​ของ​เขา​ก็​มี​ขีดจำกัด​นะ​ ​ภายใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​แค่นี้​จะ​สามารถ​สยบ​คน​มากมาย​ถึง​เพียงนี้​อย่างเงียบเชียบ​ได้​อย่างไร​?

ราชัน​ปีศาจ​ก็​ค่อนข้าง​งุนงง​เช่นกัน​ ​ตะโกน​อย่าง​โกรธ​เกรี้ยว​อีกครั้ง​ ​“​ใครก็ได้​!​”

มี​เพียง​องครักษ์​ข้าง​กาย​เขา​ที่​ตอบรับ​ ​ใน​เส้นทาง​ลับ​ยังคง​ไม่มี​ความเคลื่อนไหว​เช่น​เดิม

ความรู้สึก​ไม่​ค่อย​ดี​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​ของ​ราชัน​ปีศาจ​ ​ขณะที่​เขา​กำลังจะ​ส่ง​คน​ไปดู​ใน​เส้นทาง​ลับ​ ​พลัน​ได้ยิน​เสียง​เพชฌฆาต​ร้อง​อุทาน​ออกมา

ราชา​ปีศาจ​กำลัง​หงุดหงิด​อยู่​ ​“​ร้อง​บ้า​อะ​…​”

ทันใดนั้น​เขา​พลัน​แข็ง​ค้าง​ไป​ปาน​ถูก​สายฟ้า​ฟาด​!​ ​ดวงตา​มอง​ตรง​ไป​ที่​เสา​ลงทัณฑ์​ ​ที่​ถูก​ล่าม​ไว้​บน​เสา​คือ​มังกร​เจียว​ตัว​หนึ่ง​ที่​ถูก​แล่​เฉือน​จน​แทบ​เหลือ​เพียง​โครงกระดูก​แล้ว​…

บน​ศีรษะ​ของ​มังกร​เจียว​ตัว​นี้​มี​หงอน​สีแดง​สด​อยู่

ต่อให้​หงอน​นี้​ถูก​เผา​เป็น​เถ้าถ่าน​ราชัน​ปีศาจ​ก็​จำได้​อยู่ดี

เยา​ถิง​ถิง​!

นี่​คือ​ร่าง​เดิม​ของ​เยา​ถิง​ถิง​น้องสาว​ของ​เขา​!

ราชัน​ปีศาจ​เป็น​เผ่าพันธุ์​เจียว​ ​และ​หลังจาก​เผ่า​เจียว​บำเพ็ญ​จน​กลายร่าง​เป็น​มนุษย์​ได้​แล้ว​ ​นอกจาก​ความประสงค์​ของ​ตน​แล้ว​ ​มี​เพียง​ความตาย​เท่านั้น​ถึง​จะ​ทำให้​ร่าง​เดิม​ปรากฏ​ขึ้น​ได้

ใน​สมอง​ของ​ราชัน​ปีศาจ​เกิด​เสียงดัง​ตูมตาม​ ​ว่างเปล่า​ขาวโพลน​ ​แทบจะ​โผ​เข้าไป​แล้ว​ ​“​ถิง​ถิง​!​”

แต่​องค์​หญิง​ผู้​นี้​สิ้นลม​ไป​แล้ว​ ​ย่อม​ไม่​ตอบรับ​เขา​แล้ว

เพชฌฆาต​คน​นั้น​คุกเข่า​ลง​ด้าน​ข้าง​สั่น​ระริก​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ไม่เกี่ยว​กับ​กระหม่อม​นะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​กระหม่อม​…​กระหม่อม​ก็​ไม่ทราบ​เช่นกัน​ว่านา​งคื​อองค​์​หญิง​…​”

“​สารเลว​!​”​ ​นัยน์ตา​ราชัน​ปีศาจ​แดงฉาน​ ​ซัด​ฝ่ามือ​ใส่

อัคคี​โชติช่วง​พุ่ง​ออกมา​จาก​ฝ่ามือ​เขา​ ​ครอบคลุม​เพชฌฆาต​ไม่​กี่​คน​นั้น​เอาไว้​พร้อมกัน​ ​พริบตาเดียว​ก็​เผา​จน​กลายเป็น​ลูกไฟ​ไม่​กี่​กอง​แล้ว​ ​รับเคราะห์​จาก​เพลิง​พิโรธ​ของ​ราชัน​ปีศาจ

“​ใคร​เป็น​คน​ทำ​?​ ​นี่​เป็นฝี​มือ​ของ​ผู้ใด​?​!​”​ ​ราชัน​ปีศาจ​คำราม​ ​สั่นสะเทือน​ทั้ง​แท่น​จน​เกิด​เสียงดัง​กึก​กึก

เขา​สัมผัส​ซาก​มังกร​เจียว​ร่าง​นั้น​อย่างรวดเร็ว​ ​สังเกตเห็น​ว่า​บน​ร่าง​มัน​มี​ผนึก​สาย​หนึ่ง​อยู่​ ​ผนึก​นี้​ได้​ยับยั้ง​ไม่​ให้​เยา​ถิง​ถิ​งก​ลับ​สู่​ร่าง​เดิม​ได้​ใน​ช่วงเวลา​คับขัน​…

หากว่า​เยา​ถิง​ถิ​งก​ลับ​คืน​ร่าง​เดิม​ใน​ช่วง​ที่​ถูก​ควบคุมตัว​ไว้​ ​ราชัน​ปีศาจ​ก็​ไม่มีทาง​ทำผิด​พลาด​ครั้ง​มหันต์​…

ดุ​เหมือน​คนที​่​วาง​หลุมพราง​เขา​เช่นนี้​จะ​คำนวณ​ความเป็นไปได้​ทั้งหมด​เอาไว้​แล้ว​!

ในที่สุด​ราชัน​ปีศาจ​ก็​นึกถึง​ตัวการ​ร้าย​ออก​แล้ว​ ​สั่งการ​เสียง​กร้าว​ ​“​ใครก็ได้​ ​ไป​ที่​ตำหนัก​วิจิตร​แล้ว​จับตัว​ไอ้​นักบวช​คน​นั้น​มา​ให้​ผู้เฒ่า​ซะ​!​”

“​ไม่จำเป็น​!​”​ ​เสียงหัวเราะ​แผ่วเบา​สาย​หนึ่ง​แว่ว​มาจาก​ที่​ไกลๆ​ ​เสียงหัวเราะ​นี้​ใส​กระจ่าง​ปาน​สายลม​ ​ล่องลอย​เข้าสู่​ใบ​หู​คน

ราษฎร​ชาว​ปีศาจ​ที่​มีสี​หน้า​งุนงง​หัน​มอง​ไป​ตาม​เสียง

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​2813​ ​เปิดโปง

มี​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​โผล่​ออกมา​จาก​มุมมืด​ราวกับ​จู่ๆ​ ​ก็​โผล่​ทะลุ​ออกมา​จาก​ความว่างเปล่า​ ​คน​เหล่านี้​แต่งกาย​เครื่องแบบ​ทหาร​ปีศาจ​ ​บน​ร่าง​สวม​เกราะ​แวววาว​ ​พวกเขา​แบก​เกี้ยว​สอง​หลัง​เอาไว้​ ​หนึ่ง​แดง​หนึ่ง​ฟ้า​ ​เกี้ยว​สอง​หลัง​นี้​ดู​แวบเดียว​ก็​เห็น​แล้ว​ว่า​ประณีต​อย่างยิ่ง​ ​บน​ม่าน​ของ​เกี้ยว​สีแดง​ปัก​ลาย​สุริยัน​ดวง​หนึ่ง​ไว้​ ​ส่วน​ม่าน​ของ​เกี้ยว​สีฟ้า​ปัก​ลวดลาย​หมู่​ดาว​นับไม่ถ้วน​ไว้

ไม่ว่า​จะ​เป็น​ดวงตะวัน​บน​เกี้ยว​สีแดง​หรือว่า​หมู​ดาว​บน​เกี้ยว​สีฟ้า​ล้วน​คล้าย​จะ​โอบล้อม​ไว้​ด้วย​ประกาย​หมอก​ ​ดู​มีชีวิตชีวา​สมจริง

ดวงตะวัน​ร้อนแรง​จน​ทำให้​คน​ไม่กล้า​มอง​ตรงๆ​ ​หมู่​ดาว​ก็​ลึกล้ำ​ไกลโพ้น​ ​ราวกับ​ถ้า​มอง​มาก​ไป​สักหน่อย​ก็​หลุด​หาย​เข้าไป​ใน​นั้น

ราชัน​ปีศาจ​หน้า​เปลี่ยนสี​แล้ว

ขุนพล​ปีศาจ​เหล่านั้น​เขา​รู้จัก​ ​นั่น​คือ​ส่วนหนึ่ง​ของ​ขุนพล​ที่​สมควร​จะ​ซุ่ม​อยู่ในเส้นทาง​ลับ

เมื่อครู่นี้​เขา​เรียก​พวกเขา​ให้​ออกมา​ ​พวกเขา​ไม่มี​ความเคลื่อนไหว​เลย​ ​ยาม​นี้​กลับ​แบก​เกี้ยว​พิลึกพิลั่น​สอง​หลัง​นี้​ออกมา​…

คนใน​เกี้ยว​เป็น​ใคร​?

เสียงหัวเราะ​ที่​ได้ยิน​เมื่อครู่นี้​คล้าย​จะ​เป็น​ของ​นักบวช​คน​นั้น​…

แล้ว​ใน​เกี้ยว​อีก​หลัง​เล่า​เป็น​ผู้ใด​?

เนื่องจาก​การปรากฏ​ตัว​ขึ้น​ของ​คน​กลุ่ม​นี้​ ​ศึก​นี้​ย่อม​ก่อ​ขึ้น​ไม่ได้​แล้ว

กู้​ซีจิ​่ว​ถอย​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แล้ว​ ​เขา​ยัง​บาดเจ็บ​อยู่​ ​กู้​ซีจิ​่ว​เพียง​จัดการ​ให้​เขา​อย่างง่ายๆ​ ​เท่านั้น​ ​บัดนี้​แม้แต่​แรง​จะ​ลุกขึ้น​ยืน​ก็​ไม่มี​อยู่​เลย

เมื่อ​กู้​ซีจิ​่ว​เข้ามา​ ​ดวงตา​ของ​เขา​พลัน​ส่อง​ประกาย​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หม่นหมอง​ลง​อีกครั้ง​ ​“​อาจารย์​ ​เป็น​ศิษย์​ไม่ได้เรื่อง​…​”

กู้​ซีจิ​่​วทา​บนิ​้ว​หนึ่ง​จรด​ปาก​ส่งเสียง​ชู่ว​ ​“​อย่า​ได้​ละทิ้ง​ตัวเอง​ ​เจ้า​เพิ่ง​อายุ​เท่าไหร่​กัน​…​”

พูด​ไป​ด้วย​พลาง​ถ่ายเท​พลัง​วิญญาณ​รักษา​บาดแผล​ให้​เขา​ไป​ด้วย​ ​จากนั้น​ก็​เงยหน้า​ชม​เรื่อง​ครื้นเครง

ราชัน​ปีศาจ​เอ่ย​อย่าง​โกรธ​เกรี้ยว​ ​“​หยาง​จิ​่น​เทียน​ ​เจ้า​คิด​จะ​ก่อ​กบฏ​รึ​?​!​”

หยาง​จิ​่น​เทียน​ก็​คือ​หัวหน้า​ของ​ขุนพล​ปีศาจ​กลุ่ม​นี้​ ​เขา​เหลือบมอง​ราชัน​ปีศาจ​อย่าง​เยียบ​เย็น​แวบ​หนึ่ง​ ​ไม่​เอ่ย​วาจา​ ​แต่​หยิบ​สังข์​กัก​เสียง​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​ ​ออกแรง​กด​เล็กน้อย​ก็​มีบท​สนทนา​ของ​คน​สอง​คน​แว่ว​ออกมา​จาก​ภายใน​สังข์​กัก​เสียง​…

บทสนทนา​นี้​ชัดเจน​ยิ่งนัก​ ​แทบจะ​ได้ยิน​กัน​ทั่วทั้ง​จัตุรัส

กู้​ซีจิ​่ว​ฟัง​ไป​สอง​สาม​ประโยค​ก็​เบิกตา​นิดๆ​ ​แล้ว

ทุกคน​ล้วน​ได้ยิน​กัน​ทั่ว​ ​ใน​สอง​คน​นี้​คน​หนึ่ง​คือ​ราชัน​ปีศาจ​ ​อีก​คน​หนึ่ง​คือ​ตี้ฝู​อี

บทสนทนา​นี้​เป็น​ตอนที่​ราชัน​ปีศาจ​ขอให้​ตี้ฝู​อี​ช่วยเหลือ​น้องสาว​ของ​ตน​ ​รวมถึง​วิธีการ​ที่​เขา​สมควร​ใช้​ด้วย

ใน​บทสนทนา​สื่อ​ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​ราชัน​ปีศาจ​ต้องการ​ใช้​กลยุทธ์​หลี​่​สิ้น​แทน​ท้อ

เพื่อให้​ได้รับ​ความไว้วางใจ​จาก​นักบวช​ ​ราชัน​ปีศาจ​ถึงขั้น​ที่​บอกเล่า​ถึง​ภาพรวม​ของ​แผนการ​ใน​วันนี้​ด้วย​ ​บอกว่า​จะ​ตามล่า​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ ​พอได้​มาถึง​มือ​และ​เล่น​สนุก​เต็มที่​แล้ว​ ​เขา​จะ​แบ่ง​เนื้อ​สัก​ชิ้น​ให้​นักบวช​ด้วย​ก็ได้​…

แน่นอน​ ​สำหรับ​เรื่องราว​เหล่านั้น​ที่​เยา​ถิง​ถิ​งก​ระ​ทำ​ ​ราชัน​ปีศาจ​ก็​ทราบ​ความใน​ส่วนใหญ่​ด้วย​ ​แต่​เขา​เหิมเกริม​นัก​ ​พูดจา​ทำนอง​ว่า​เขา​ใส่ใจ​เพียง​น้องสาว​คน​นี้​ ​ใน​ใจ​ของ​เขา​แล้ว​คนอื่นๆ​ ​ใน​เผ่า​ปีศาจ​เป็น​เพียง​ข้า​ไพร่​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​มี​ไว้​ใช้สอย​เท่านั้น​ ​ชีวิต​ของ​ข้า​ไพร่​ย่อม​ย่ำยี​ได้​ตามอัธยาศัย​ ​จะ​สังหาร​ไปมาก​น้อย​ปานใด​ล้วน​ไม่เป็นไร​ทั้งสิ้น​…

เมื่อ​ถ้อยคำ​เหล่านี้​หลุด​ลอด​ออกมา​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ข้างบน​แท่น​หรือ​ข้างล่าง​แท่น​ล้วน​เกิด​เสียง​ฮือฮา​ ​แทบ​ทุกคน​ต่าง​ขุ่นเคือง​คั่งแค้น​!

กู้​ซีจิ​่ว​มอง​ใบหน้า​ที่​เขียว​คล้ำ​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​ของ​ราชัน​ปีศาจ​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ส่ายหน้า

ราชัน​ปีศาจ​ผู้​นี้​สมองกลับ​ไป​แล้ว​หรือ​?​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​จะ​เอ่ย​ความในใจ​มากมาย​เช่นนี้​ออกมา​จน​หมด​ ​ปล่อย​ให้​ผู้อื่น​จับจุด​ได้มาก​ขนาด​นี้

ตี้ฝู​อี​คน​นี้​ช่าง​เป็น​อัจฉริยะ​บุคคล​โดยแท้​ ​ไม่ทราบ​เช่นกัน​ว่า​เขา​ใช้​วิธี​ไหน​ถึง​ทำให้​ราชัน​ปีศาจ​เปิด​ไส้​เปิด​พุง​ให้​เช่นนี้​ ​กล่าว​วาจา​ก่อ​ความเคียดแค้น​ชิงชัง​มากมาย​ขนาด​นี้​ออกมา

ความคิด​จิตใจ​ของ​คน​ผู้​นี้​ละเอียดลออ​ลึกล้ำ​เกินไป​แล้ว​!

น่า​หวาดหวั่น​โดยแท้​!​ ​ไม่​คล้าย​เด็ก​อายุ​ยี่สิบ​สาม​เลย​จริงๆ​…

ราชัน​ปีศาจ​เพิ่ง​ฟัง​ไป​ได้​สอง​ประโยค​ก็​หน้า​เขียว​คล้ำ​แล้ว​ ​“​ของปลอม​!​ ​เป็น​ของปลอม​!​ ​เปิ่น​หวาง​มิ​เคย​พูด​เลย​ ​ต้อง​เป็น​เล่ห์กล​ของ​นักบวช​ผู้​นี้​แน่นอน​ ​ใส่ไคล้​เปิ่น​หวาง​!​”​ ​ร่าง​พลัน​โผ​กระโจน​ ​พุ่ง​เข้าใส่​สังข์​กัก​เสียง​ใน​มือ​ของ​หยาง​จิ​่น​เทียน​ ​คิด​จะ​ชิง​ของ​สิ่ง​นี้​มาทำ​ลาย​ให้​ป่นปี้

ความเคลื่อนไหว​ของ​เขา​กล่าว​ได้​ว่าว​่​อง​ไว​ ​แต่​ความเคลื่อนไหว​ของ​กู้​ซีจิ​่​วว​่​อง​ไว​กว่า

————————————————————————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลำนำบุปผาพิษ 2812 เท็จกลับจริง จริงกลับเท็จ 4 / บทที่ 2813 เปิดโปง

Now you are reading ลำนำบุปผาพิษ Chapter 2812 เท็จกลับจริง จริงกลับเท็จ 4 / บทที่ 2813 เปิดโปง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ ​2812​ ​เท็จ​กลับ​จริง​ ​จริง​กลับ​เท็จ​ ​4

เขา​เอ่ย​เสียงเย็น​ ​“​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ตัว​ปลอม​อย่าง​เจ้า​จะ​พอ​มีฝีมือ​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​เปลี่ยนแปลง​ความจริง​ที่ว่า​เจ้า​เป็นตัว​ปลอม​ไป​ไม่ได้​ ​ใครก็ได้​ ​มา​จับ​นาง​ซะ​!​ ​เปิ่น​หวาง​จะ​ไต่สวน​ดู​ให้​ดี​ๆ​!​”

เขา​พลัน​โบกมือ​ครา​หนึ่ง​ ​การ​โบกมือ​นี้​คือ​สัญญาณ​ลับ​ ​ให้​กองทหาร​ที่​ดัก​ซุ่ม​อยู่​เหล่านั้น​ลงมือ​ได้​เลย​…

เขา​เกรง​ว่า​ตน​จะ​ถูก​ลูกหลง​บาดเจ็บ​ไป​ด้วย​ ​ดังนั้น​ทันทีที่​ถอยร่น​ออกมา​ก็ได้​กาง​เขตแดน​ให้​ตัวเอง​ทาง​ด้าน​นี้​แล้ว

ผล​คือ​…

หมื่น​ศร​น้าว​ยิง​ที่​เขา​เฝ้ารอ​คอย​ไม่​ปรากฏ​ขึ้น​ ​ถึงขั้น​ที่​สัก​ดอก​เดียว​ก็​ไม่มี​พุ่ง​ออกมา​เลย

กองทหาร​ที่​ซุ่ม​อยู่ในเส้นทาง​ลับ​ก็​ไม่​โผล่​ออกมา​เลย​ ​ใน​อากาศ​เกิด​ความ​เงียบงัน​อัน​น่าประหลาด​อย่างหนึ่ง​ขึ้น

กู้​ซีจิ​่ว​ถอย​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แล้ว​ ​ถึงแม้​เธอ​จะ​สร้าง​กำบัง​คุ้มกัน​ไว้​รอบกาย​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แล้ว​ ​แต่​ก็​ยาก​จะ​รับประกัน​ได้​ว่า​ในสังกัด​ของ​ราชัน​ปีศาจ​จะ​ไม่มี​คนที​่​สามารถ​ทำลาย​กำบัง​แล้ว​จับตัว​คน​ไป​ได้​ ​หากว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ถูกจับ​ไป​ ​เธอ​คง​ต้อง​เป็นรอง​จริงๆ​ ​แล้ว

อันที่จริง​กู้​ซีจิ​่​วก​็​ค่อนข้าง​ฉงน​อยู่​เช่นกัน​ ​เมื่อ​เธอ​เห็น​ราชัน​ปีศาจ​โบกมือ​ก็​ทราบ​แล้ว​ว่า​เขา​สั่งการ​กองทหาร​ให้​ออกโรง​ ​เธอ​นึก​ไป​ว่า​ถึงแม้​กองทหาร​ที่​ดัก​ซุ่ม​เหล่านั้น​จะ​ถูก​เธอ​ขู่ขวัญ​ไป​ไม่น้อย​แล้ว​ ​แต่​ถึงอย่างไร​กองทหาร​ก็​มีมาก​มาย​ ​เธอ​ไม่​สามารถ​ทำให้​พวกเขา​สยบ​จำนน​ได้​ทั้งหมด​ ​และ​ใน​บรรดา​นั้น​ก็​มี​ผู้​ที่​ภักดี​ต่อ​ราชัน​ปีศาจ​อยู่​ ​หากว่า​ได้รับ​คำสั่ง​จะ​ต้อง​ลงมือ​แน่

หน​นี้​อย่างน้อย​ก็​น่าจะ​มีลูก​ศร​ยิง​ออกมา​สัก​พัน​ดอก​ ​มี​คน​สอง​สาม​ร้อย​คน​พุ่ง​ออกมา

กลับ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​ไม่มี​เลย​สัก​คน

กองทหาร​ที่​ดัก​ซุ่ม​เหล่านั้น​พบพาน​อุบัติเหตุ​อัน​ใด​ไป​แล้ว​หรือ​?

ไม่ทราบ​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​เงา​ร่าง​ของ​ตี้ฝู​อี​พลัน​แวบ​เข้ามา​ใน​สมอง​ของ​เธอ​ ​ความคิด​หนึ่ง​ผุด​ขึ้น​มา​ ​‘​หรือ​เขา​จะ​ลอบ​ลงมือ​แล้ว​…​’

แต่​วรยุทธ์​ของ​เขา​ก็​มี​ขีดจำกัด​นะ​ ​ภายใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​แค่นี้​จะ​สามารถ​สยบ​คน​มากมาย​ถึง​เพียงนี้​อย่างเงียบเชียบ​ได้​อย่างไร​?

ราชัน​ปีศาจ​ก็​ค่อนข้าง​งุนงง​เช่นกัน​ ​ตะโกน​อย่าง​โกรธ​เกรี้ยว​อีกครั้ง​ ​“​ใครก็ได้​!​”

มี​เพียง​องครักษ์​ข้าง​กาย​เขา​ที่​ตอบรับ​ ​ใน​เส้นทาง​ลับ​ยังคง​ไม่มี​ความเคลื่อนไหว​เช่น​เดิม

ความรู้สึก​ไม่​ค่อย​ดี​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​ของ​ราชัน​ปีศาจ​ ​ขณะที่​เขา​กำลังจะ​ส่ง​คน​ไปดู​ใน​เส้นทาง​ลับ​ ​พลัน​ได้ยิน​เสียง​เพชฌฆาต​ร้อง​อุทาน​ออกมา

ราชา​ปีศาจ​กำลัง​หงุดหงิด​อยู่​ ​“​ร้อง​บ้า​อะ​…​”

ทันใดนั้น​เขา​พลัน​แข็ง​ค้าง​ไป​ปาน​ถูก​สายฟ้า​ฟาด​!​ ​ดวงตา​มอง​ตรง​ไป​ที่​เสา​ลงทัณฑ์​ ​ที่​ถูก​ล่าม​ไว้​บน​เสา​คือ​มังกร​เจียว​ตัว​หนึ่ง​ที่​ถูก​แล่​เฉือน​จน​แทบ​เหลือ​เพียง​โครงกระดูก​แล้ว​…

บน​ศีรษะ​ของ​มังกร​เจียว​ตัว​นี้​มี​หงอน​สีแดง​สด​อยู่

ต่อให้​หงอน​นี้​ถูก​เผา​เป็น​เถ้าถ่าน​ราชัน​ปีศาจ​ก็​จำได้​อยู่ดี

เยา​ถิง​ถิง​!

นี่​คือ​ร่าง​เดิม​ของ​เยา​ถิง​ถิง​น้องสาว​ของ​เขา​!

ราชัน​ปีศาจ​เป็น​เผ่าพันธุ์​เจียว​ ​และ​หลังจาก​เผ่า​เจียว​บำเพ็ญ​จน​กลายร่าง​เป็น​มนุษย์​ได้​แล้ว​ ​นอกจาก​ความประสงค์​ของ​ตน​แล้ว​ ​มี​เพียง​ความตาย​เท่านั้น​ถึง​จะ​ทำให้​ร่าง​เดิม​ปรากฏ​ขึ้น​ได้

ใน​สมอง​ของ​ราชัน​ปีศาจ​เกิด​เสียงดัง​ตูมตาม​ ​ว่างเปล่า​ขาวโพลน​ ​แทบจะ​โผ​เข้าไป​แล้ว​ ​“​ถิง​ถิง​!​”

แต่​องค์​หญิง​ผู้​นี้​สิ้นลม​ไป​แล้ว​ ​ย่อม​ไม่​ตอบรับ​เขา​แล้ว

เพชฌฆาต​คน​นั้น​คุกเข่า​ลง​ด้าน​ข้าง​สั่น​ระริก​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ไม่เกี่ยว​กับ​กระหม่อม​นะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​กระหม่อม​…​กระหม่อม​ก็​ไม่ทราบ​เช่นกัน​ว่านา​งคื​อองค​์​หญิง​…​”

“​สารเลว​!​”​ ​นัยน์ตา​ราชัน​ปีศาจ​แดงฉาน​ ​ซัด​ฝ่ามือ​ใส่

อัคคี​โชติช่วง​พุ่ง​ออกมา​จาก​ฝ่ามือ​เขา​ ​ครอบคลุม​เพชฌฆาต​ไม่​กี่​คน​นั้น​เอาไว้​พร้อมกัน​ ​พริบตาเดียว​ก็​เผา​จน​กลายเป็น​ลูกไฟ​ไม่​กี่​กอง​แล้ว​ ​รับเคราะห์​จาก​เพลิง​พิโรธ​ของ​ราชัน​ปีศาจ

“​ใคร​เป็น​คน​ทำ​?​ ​นี่​เป็นฝี​มือ​ของ​ผู้ใด​?​!​”​ ​ราชัน​ปีศาจ​คำราม​ ​สั่นสะเทือน​ทั้ง​แท่น​จน​เกิด​เสียงดัง​กึก​กึก

เขา​สัมผัส​ซาก​มังกร​เจียว​ร่าง​นั้น​อย่างรวดเร็ว​ ​สังเกตเห็น​ว่า​บน​ร่าง​มัน​มี​ผนึก​สาย​หนึ่ง​อยู่​ ​ผนึก​นี้​ได้​ยับยั้ง​ไม่​ให้​เยา​ถิง​ถิ​งก​ลับ​สู่​ร่าง​เดิม​ได้​ใน​ช่วงเวลา​คับขัน​…

หากว่า​เยา​ถิง​ถิ​งก​ลับ​คืน​ร่าง​เดิม​ใน​ช่วง​ที่​ถูก​ควบคุมตัว​ไว้​ ​ราชัน​ปีศาจ​ก็​ไม่มีทาง​ทำผิด​พลาด​ครั้ง​มหันต์​…

ดุ​เหมือน​คนที​่​วาง​หลุมพราง​เขา​เช่นนี้​จะ​คำนวณ​ความเป็นไปได้​ทั้งหมด​เอาไว้​แล้ว​!

ในที่สุด​ราชัน​ปีศาจ​ก็​นึกถึง​ตัวการ​ร้าย​ออก​แล้ว​ ​สั่งการ​เสียง​กร้าว​ ​“​ใครก็ได้​ ​ไป​ที่​ตำหนัก​วิจิตร​แล้ว​จับตัว​ไอ้​นักบวช​คน​นั้น​มา​ให้​ผู้เฒ่า​ซะ​!​”

“​ไม่จำเป็น​!​”​ ​เสียงหัวเราะ​แผ่วเบา​สาย​หนึ่ง​แว่ว​มาจาก​ที่​ไกลๆ​ ​เสียงหัวเราะ​นี้​ใส​กระจ่าง​ปาน​สายลม​ ​ล่องลอย​เข้าสู่​ใบ​หู​คน

ราษฎร​ชาว​ปีศาจ​ที่​มีสี​หน้า​งุนงง​หัน​มอง​ไป​ตาม​เสียง

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​2813​ ​เปิดโปง

มี​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​โผล่​ออกมา​จาก​มุมมืด​ราวกับ​จู่ๆ​ ​ก็​โผล่​ทะลุ​ออกมา​จาก​ความว่างเปล่า​ ​คน​เหล่านี้​แต่งกาย​เครื่องแบบ​ทหาร​ปีศาจ​ ​บน​ร่าง​สวม​เกราะ​แวววาว​ ​พวกเขา​แบก​เกี้ยว​สอง​หลัง​เอาไว้​ ​หนึ่ง​แดง​หนึ่ง​ฟ้า​ ​เกี้ยว​สอง​หลัง​นี้​ดู​แวบเดียว​ก็​เห็น​แล้ว​ว่า​ประณีต​อย่างยิ่ง​ ​บน​ม่าน​ของ​เกี้ยว​สีแดง​ปัก​ลาย​สุริยัน​ดวง​หนึ่ง​ไว้​ ​ส่วน​ม่าน​ของ​เกี้ยว​สีฟ้า​ปัก​ลวดลาย​หมู่​ดาว​นับไม่ถ้วน​ไว้

ไม่ว่า​จะ​เป็น​ดวงตะวัน​บน​เกี้ยว​สีแดง​หรือว่า​หมู​ดาว​บน​เกี้ยว​สีฟ้า​ล้วน​คล้าย​จะ​โอบล้อม​ไว้​ด้วย​ประกาย​หมอก​ ​ดู​มีชีวิตชีวา​สมจริง

ดวงตะวัน​ร้อนแรง​จน​ทำให้​คน​ไม่กล้า​มอง​ตรงๆ​ ​หมู่​ดาว​ก็​ลึกล้ำ​ไกลโพ้น​ ​ราวกับ​ถ้า​มอง​มาก​ไป​สักหน่อย​ก็​หลุด​หาย​เข้าไป​ใน​นั้น

ราชัน​ปีศาจ​หน้า​เปลี่ยนสี​แล้ว

ขุนพล​ปีศาจ​เหล่านั้น​เขา​รู้จัก​ ​นั่น​คือ​ส่วนหนึ่ง​ของ​ขุนพล​ที่​สมควร​จะ​ซุ่ม​อยู่ในเส้นทาง​ลับ

เมื่อครู่นี้​เขา​เรียก​พวกเขา​ให้​ออกมา​ ​พวกเขา​ไม่มี​ความเคลื่อนไหว​เลย​ ​ยาม​นี้​กลับ​แบก​เกี้ยว​พิลึกพิลั่น​สอง​หลัง​นี้​ออกมา​…

คนใน​เกี้ยว​เป็น​ใคร​?

เสียงหัวเราะ​ที่​ได้ยิน​เมื่อครู่นี้​คล้าย​จะ​เป็น​ของ​นักบวช​คน​นั้น​…

แล้ว​ใน​เกี้ยว​อีก​หลัง​เล่า​เป็น​ผู้ใด​?

เนื่องจาก​การปรากฏ​ตัว​ขึ้น​ของ​คน​กลุ่ม​นี้​ ​ศึก​นี้​ย่อม​ก่อ​ขึ้น​ไม่ได้​แล้ว

กู้​ซีจิ​่ว​ถอย​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​แล้ว​ ​เขา​ยัง​บาดเจ็บ​อยู่​ ​กู้​ซีจิ​่ว​เพียง​จัดการ​ให้​เขา​อย่างง่ายๆ​ ​เท่านั้น​ ​บัดนี้​แม้แต่​แรง​จะ​ลุกขึ้น​ยืน​ก็​ไม่มี​อยู่​เลย

เมื่อ​กู้​ซีจิ​่ว​เข้ามา​ ​ดวงตา​ของ​เขา​พลัน​ส่อง​ประกาย​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หม่นหมอง​ลง​อีกครั้ง​ ​“​อาจารย์​ ​เป็น​ศิษย์​ไม่ได้เรื่อง​…​”

กู้​ซีจิ​่​วทา​บนิ​้ว​หนึ่ง​จรด​ปาก​ส่งเสียง​ชู่ว​ ​“​อย่า​ได้​ละทิ้ง​ตัวเอง​ ​เจ้า​เพิ่ง​อายุ​เท่าไหร่​กัน​…​”

พูด​ไป​ด้วย​พลาง​ถ่ายเท​พลัง​วิญญาณ​รักษา​บาดแผล​ให้​เขา​ไป​ด้วย​ ​จากนั้น​ก็​เงยหน้า​ชม​เรื่อง​ครื้นเครง

ราชัน​ปีศาจ​เอ่ย​อย่าง​โกรธ​เกรี้ยว​ ​“​หยาง​จิ​่น​เทียน​ ​เจ้า​คิด​จะ​ก่อ​กบฏ​รึ​?​!​”

หยาง​จิ​่น​เทียน​ก็​คือ​หัวหน้า​ของ​ขุนพล​ปีศาจ​กลุ่ม​นี้​ ​เขา​เหลือบมอง​ราชัน​ปีศาจ​อย่าง​เยียบ​เย็น​แวบ​หนึ่ง​ ​ไม่​เอ่ย​วาจา​ ​แต่​หยิบ​สังข์​กัก​เสียง​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​ ​ออกแรง​กด​เล็กน้อย​ก็​มีบท​สนทนา​ของ​คน​สอง​คน​แว่ว​ออกมา​จาก​ภายใน​สังข์​กัก​เสียง​…

บทสนทนา​นี้​ชัดเจน​ยิ่งนัก​ ​แทบจะ​ได้ยิน​กัน​ทั่วทั้ง​จัตุรัส

กู้​ซีจิ​่ว​ฟัง​ไป​สอง​สาม​ประโยค​ก็​เบิกตา​นิดๆ​ ​แล้ว

ทุกคน​ล้วน​ได้ยิน​กัน​ทั่ว​ ​ใน​สอง​คน​นี้​คน​หนึ่ง​คือ​ราชัน​ปีศาจ​ ​อีก​คน​หนึ่ง​คือ​ตี้ฝู​อี

บทสนทนา​นี้​เป็น​ตอนที่​ราชัน​ปีศาจ​ขอให้​ตี้ฝู​อี​ช่วยเหลือ​น้องสาว​ของ​ตน​ ​รวมถึง​วิธีการ​ที่​เขา​สมควร​ใช้​ด้วย

ใน​บทสนทนา​สื่อ​ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​ราชัน​ปีศาจ​ต้องการ​ใช้​กลยุทธ์​หลี​่​สิ้น​แทน​ท้อ

เพื่อให้​ได้รับ​ความไว้วางใจ​จาก​นักบวช​ ​ราชัน​ปีศาจ​ถึงขั้น​ที่​บอกเล่า​ถึง​ภาพรวม​ของ​แผนการ​ใน​วันนี้​ด้วย​ ​บอกว่า​จะ​ตามล่า​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ ​พอได้​มาถึง​มือ​และ​เล่น​สนุก​เต็มที่​แล้ว​ ​เขา​จะ​แบ่ง​เนื้อ​สัก​ชิ้น​ให้​นักบวช​ด้วย​ก็ได้​…

แน่นอน​ ​สำหรับ​เรื่องราว​เหล่านั้น​ที่​เยา​ถิง​ถิ​งก​ระ​ทำ​ ​ราชัน​ปีศาจ​ก็​ทราบ​ความใน​ส่วนใหญ่​ด้วย​ ​แต่​เขา​เหิมเกริม​นัก​ ​พูดจา​ทำนอง​ว่า​เขา​ใส่ใจ​เพียง​น้องสาว​คน​นี้​ ​ใน​ใจ​ของ​เขา​แล้ว​คนอื่นๆ​ ​ใน​เผ่า​ปีศาจ​เป็น​เพียง​ข้า​ไพร่​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​มี​ไว้​ใช้สอย​เท่านั้น​ ​ชีวิต​ของ​ข้า​ไพร่​ย่อม​ย่ำยี​ได้​ตามอัธยาศัย​ ​จะ​สังหาร​ไปมาก​น้อย​ปานใด​ล้วน​ไม่เป็นไร​ทั้งสิ้น​…

เมื่อ​ถ้อยคำ​เหล่านี้​หลุด​ลอด​ออกมา​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ข้างบน​แท่น​หรือ​ข้างล่าง​แท่น​ล้วน​เกิด​เสียง​ฮือฮา​ ​แทบ​ทุกคน​ต่าง​ขุ่นเคือง​คั่งแค้น​!

กู้​ซีจิ​่ว​มอง​ใบหน้า​ที่​เขียว​คล้ำ​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​ของ​ราชัน​ปีศาจ​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ส่ายหน้า

ราชัน​ปีศาจ​ผู้​นี้​สมองกลับ​ไป​แล้ว​หรือ​?​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​จะ​เอ่ย​ความในใจ​มากมาย​เช่นนี้​ออกมา​จน​หมด​ ​ปล่อย​ให้​ผู้อื่น​จับจุด​ได้มาก​ขนาด​นี้

ตี้ฝู​อี​คน​นี้​ช่าง​เป็น​อัจฉริยะ​บุคคล​โดยแท้​ ​ไม่ทราบ​เช่นกัน​ว่า​เขา​ใช้​วิธี​ไหน​ถึง​ทำให้​ราชัน​ปีศาจ​เปิด​ไส้​เปิด​พุง​ให้​เช่นนี้​ ​กล่าว​วาจา​ก่อ​ความเคียดแค้น​ชิงชัง​มากมาย​ขนาด​นี้​ออกมา

ความคิด​จิตใจ​ของ​คน​ผู้​นี้​ละเอียดลออ​ลึกล้ำ​เกินไป​แล้ว​!

น่า​หวาดหวั่น​โดยแท้​!​ ​ไม่​คล้าย​เด็ก​อายุ​ยี่สิบ​สาม​เลย​จริงๆ​…

ราชัน​ปีศาจ​เพิ่ง​ฟัง​ไป​ได้​สอง​ประโยค​ก็​หน้า​เขียว​คล้ำ​แล้ว​ ​“​ของปลอม​!​ ​เป็น​ของปลอม​!​ ​เปิ่น​หวาง​มิ​เคย​พูด​เลย​ ​ต้อง​เป็น​เล่ห์กล​ของ​นักบวช​ผู้​นี้​แน่นอน​ ​ใส่ไคล้​เปิ่น​หวาง​!​”​ ​ร่าง​พลัน​โผ​กระโจน​ ​พุ่ง​เข้าใส่​สังข์​กัก​เสียง​ใน​มือ​ของ​หยาง​จิ​่น​เทียน​ ​คิด​จะ​ชิง​ของ​สิ่ง​นี้​มาทำ​ลาย​ให้​ป่นปี้

ความเคลื่อนไหว​ของ​เขา​กล่าว​ได้​ว่าว​่​อง​ไว​ ​แต่​ความเคลื่อนไหว​ของ​กู้​ซีจิ​่​วว​่​อง​ไว​กว่า

————————————————————————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+