วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 245 รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 245 รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 245 รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

จิ่งหนิงพยักหน้าเล็กน้อย

"แบบนี้ไม่ถูกนะ" คุณหญิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "พูดตามหลักการแล้ว เมียน้อยกับลูกนอกสมรสจะยึดครองอำนาจ ในเมื่อเธอคาดการณ์ว่าจะเกิดเรื่อง ทำไมถึงมอบสร้อยคอให้ลูกสาวแท้ๆเพียงแค่เส้นเดียว"

"คุณย่า คุณหมายความว่า….."

"ถ้าหากฉันเป็นแม่ของเธอ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการช่วงชิง ไม่เพียงแค่ช่วงชิงพ่อของเธอ แต่ยังคิดช่วงชิงทรัพย์สมบัติของตระกูลด้วย

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันต้องรีบโอนถ่ายทรัพย์สินส่วนหนึ่งให้กับเธอ เช่นนี้ต่อให้ในอนาคตฉันตายไป เธอก็จะไม่ถูกคนอื่นกลั่นแกล้ง เธอคิดว่าใช่ไหม?"

จิ่งหนิงนิ่งอึ้งชั่วขณะ

อันที่จริงก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยสงสัยเรื่องนี้มาก่อน เพียงแต่แม่ของเธอเสียชีวิตแล้ว ต่อให้คิดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

อีกอย่างเท่าที่เธอรู้มา ก่อนที่แม่ของเธอจะเสียชีวิต ทรัพย์สมบัติจำนวนมากของโม่ซื่อกรุ๊ปได้ถูกจิ่งเซี่ยวเต๋อกับหวังเสว่เหมยสองแม่ลูกยึดครองไปแล้ว

โม่ไฉ่เวย แม่ของเธอเป็นคนไม่ยินดียินร้าย และไม่ชอบการช่วงชิงด้วย

ด้วยเหตุนี้ต่อให้สองแม่ลูกจะเอาเปรียบมาหลายปีมากแค่ไหน หรือเปลี่ยนชื่อบริษัทจากโม่ซื่อกรุ๊ปเป็นจิ่งซื่อกรุ๊ป เธอก็ไม่มีท่าทีขัดแย้งเลย

อีกอย่างไม่รู้ว่าเป็นลางสังหรณ์หรือเปล่า เธอรู้สึกว่าเหมือนกับแม่ของเธอมีเรื่องเก็บไว้ในใจ

บางครั้งก็แอบเผยความรู้สึกละอายใจต่อจิ่งเซี่ยวเต๋อโดยไม่รู้ตัว

และนี่ก็เป็นสาเหตุที่จิ่งเซี่ยวเต๋อเริ่มมีพฤติกรรมกำเริบสืบสานด้วย

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว และครุ่นคิดอย่างนิ่งเงียบ

เมื่อลู่จิ่งเซินเห็นแบบนี้ก็ไม่อยากให้เธอต้องมาเสียใจกับเรื่องอดีตเหล่านี้ เลยรีบพูดเปลี่ยนประเด็น

"เอาล่ะ ตอนนี้เป็นเวลากินข้าว พวกเราไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว มา หนิงหนิง คุณลองชิมปูขนของที่นี้สักหน่อย"

ขณะที่พูดก็ช่วยปอกเปลือกปูในจานของจิ่งหนิง

จิ่งหนิงดึงสติกลับมา และพยักหน้าเล็กน้อย

ตรงข้าม เมื่ออานอานเห็นแบบนี้ก็รีบพูดขึ้นมาว่า : "แด๊ดดี้ หนูก็อยากกินปูเหมือนกัน"

ลู่จิ่งเซินเหลือบมองเธอเล็กน้อย แล้วคีบเนื้อปูในจานของตัวเองให้กับอานอาน

เมื่อเด็กน้อยเห็นในจานของตัวเองมีเนื้อปูเพียงเล็กน้อยก็ไม่พอใจทันที

เธอทำหน้าบิดเบี้ยว และพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า : "หนูไม่เอา! หนูอยากได้เนื้อปูที่แด๊ดดี้กำลังแกะอยู่ อยากได้เนื้อปูเยอะๆเหมือนกับหม่ามี๊!"

ขณะที่พูดก็ยกนิ้วชี้ไปที่จานของจิ่งหนิง

จิ่งหนิงเก็บรอยยิ้มลง

ลู่จิ่งหนิงเผยสีหน้าดุขึ้น

"สุขภาพของตัวเองเป็นยังไง หรือว่าไม่รู้? คุณหมอบอกแล้วว่ากินอาหารเย็นมากไม่ได้ แต่วันนี้อนุญาตให้หนูกินนิดเดียว เห็นแก่หม่ามี๊ที่ใจดีเท่านั้นแหละ หากหนูไม่กินก็เอาคืนให้แด๊ดดี้"

ขณะที่พูดก็แสร้งทำเป็นยื่นมือจะไปแย่งจานของเธอ

เมื่อเด็กน้อยเห็นแบบนี้ก็รีบหยิบจานที่อยู่เบื้องหน้าไปทันที

พร้อมเผยดวงตาใสสะอาดชุ่มน้ำตาเล็กน้อย และทำปากมุ่ยด้วย ดูแล้วน่าเอ็นดูมาก

"แด๊ดดี้ใจร้าย แย่งปูของหนูไปกิน อานอานไม่นั่งกับแด๊ดดี้แล้ว"

พูดจบก็เดินลงจากเก้าอี้ แล้ววิ่งไปด้านข้างของจิ่งหนิง แล้วนั่งบนเก้าอี้ใกล้กับจิ่งหนิง

"อานอานอยากนั่งกับหม่ามี๊"

ขณะที่พูดก็เงยหน้ายิ้มแย้มเอาอกเอาใจจิ่งหนิงด้วย

จิ่งหนิงรู้สึกเหมือนกับหัวใจของตัวเองละลาย เธอยื่นมือลูบหัวของเธอเล็กน้อย แสดงถึงการปลอบโยน

แล้วคีบเนื้อชิ้นหนึ่งใส่ในจานของเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า : "อานอานกินปูไม่ได้ อานอานกินเนื้อแดงแทนได้ไหมค่ะ? เนื้อแดงก็อร่อยนะคะ"

อานอานพยักหน้าเล็กน้อย และหยิบก้อนขนาดเล็กในจานขึ้นมาตัก จากนั้นก็หรี่ตายิ้มแย้มอย่างน่ารัก

"ขอบคุณค่ะ หม่ามี๊ เนื้อที่หม่ามี๊ให้อร่อยมากเลยค่ะ"

ลู่จิ่งเซิน : "……"

ในตอนนั้นใครตีให้ตายก็ไม่ยอมกินเนื้อแดง

เมื่อมีแม่ลืมพ่อทันที!

เมื่อเห็นสองแม่ลูกที่อยู่ตรงหน้ามีท่าทางสนิทสนมกันอย่างมีความสุข ก็มีบางคนรู้สึกน้อยใจขึ้น

รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

คุณหญิงกลับมีท่าทางมีความสุข ตอนแรกเธอกังวลว่าจิ่งหนิงกับอานอานจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอหมดความรู้สึกกังวลแล้ว

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอานอานคิดยังไง เพื่อตามหาแม่สักคนให้กับเธอ ไม่รู้คุณหญิงต้องเสียแรงมากแค่ไหน

แต่อานอานกลับไม่ชอบใครเลยสักคน แม้แต่ลูกหลานของตระกูลกวนที่เป็นเด็กเรียบร้อยมีมารยาท เมื่อมาเจอกับอานอาน เธอถึงกับต้องยอมแพ้

แต่เมื่อพบกับจิ่งหนิง เกินความคาดหมายมาก คุณหญิงไม่เคยเห็นอานอานเชื่อฟังแบบนี้มาก่อนเลย

คุณหญิงรู้สึกปลื้มใจมาก

จิ่งหนิงซักถามอย่างสงสัยว่า : "หนูรู้เพียงว่าอานอานมีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง แต่ไม่รู้เลยว่าเธอเป็นอะไร เธอป่วยเป็นอะไรหรอค่ะ? หรือว่าเธอเป็นตั้งแต่เกิดค่ะ?"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนที่อยู่บนโต๊ะก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย

ลู่จิ่งเซินมีสีหน้าทุกข์ใจเล็กน้อย ส่วนคุณหญิงถอนหายใจเล็กน้อย

"เรื่องนี้มันยาว อานอานไม่เหมือนกับเด็กทั่วไป เธอ……"

จิ่งหนิงฟังอย่างตั้งใจ

"เธอไม่ได้ตั้งท้องและคลอดทั่วไป แต่เกิดมาจากผ่านการหลอดทดลองแปลงมดลูก อีกอย่างในตอนนั้นเกิดข้อผิดพลาดด้วย เลยทำให้สุขภาพของเด็กไม่แข็งแรงตลอดไป"

เมื่อจิ่งหนิงได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกตกใจทันที

เธอนึกมาตลอดว่าอานอานเป็นของขวัญที่ลู่จิ่งเซินกับแฟนผู้หญิงบางคนพลาดพลั้ง!

ที่แท้ไม่ใช่ คิดไม่ถึงว่าเป็นเด็กหลอดแก้ว?

ถึงแม้จิ่งหนิงไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง แต่ตอนอยู่ต่างประเทศก่อนหน้านี้เคยบังเอิญได้ยินข่าวพูดถึงเด็กหลอดแก้วมาก่อน

ได้ยินมาว่า มีหมออัจฉริยะบางคนสามารถจำลองสภาพแวดล้อมเด็กน้อยในมดลูกได้ด้วย เพื่อสร้างความสะดวกและลดความเจ็บปวดทรมานแก่ผู้หญิงในอนาคต

คิดไม่ถึงว่าจะประสบความสำเร็จ!

ด้วยเหตุนี้จิ่งหนิงหันหน้ามองอานอาน ในดวงตาเพิ่มสายตาเย็นดูมากยิ่งขึ้น

เดิมทีก็มีชีวิตน่าสงสารอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าแม้แต่แม่แท้ๆยังไม่มีเลย!

ถ้าหากผู้หญิงอุ้มบุญนับว่าเป็นแม่ด้วย

จิ่งหนิงคงรู้สึกเสียใจภายหลังมากแน่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ปฏิบัติต่อเธอดีมากกว่านี้

เด็กน้อยเผยสีหน้ามึนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมบรรยากาศของผู้ใหญ่ถึงจู่ๆก็น่าอึดอัดขึ้น

เธอกะพริบตาเล็กน้อย จากนั้นก็ดึงแขนเสื้อของจิ่งหนิงเล็กน้อย

"หม่ามี๊ พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่หรอ?"

จิ่งหนิงรู้สึกเอ็นดูมาก เลยโน้มตัวกอดเธอเบาๆจากด้านข้าง และพูดปลอบโยนว่า : "ไม่มีอะไรคะ อานอานเป็นเด็กดี"

เด็กน้อยปล่อยให้จิ่งหนิงอ้อมกอด โดยไม่ขัดขืน พร้อมกับกะพริบตานิ่งๆจ้องมองเธอ

อันที่จริงไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เข้าใจไม่กระจ่าง

อย่างเช่น อันที่จริงเธอรู้ว่าเมื่อกี้พวกเขากำลังคุยเรื่องของเธออยู่ และที่จิ่งหนิงโอบกอดเธอ เพราะสงสารเธอ

แต่เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่น่าสงสารเลยสักนิด

แด๊ดดี้บอกกับเธอแล้วว่า เธอมีหม่ามี๊ และหม่ามี๊ของเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก

ในคอมพิวเตอร์ของแด๊ดดี้ยังมีรูปภาพของหม่ามี๊อยู่ ตอนที่เธอเห็นจิ่งหนิงครั้งแรกก็จำได้ทันที

อีกอย่างแด๊ดดี้ยังบอกอีกว่า เธอไม่เหมือนกับเด็กทั่วไป แค่วิธีการกำเนิดเท่านั้นเอง

อันที่จริงก็เหมือนกัน แต่ถ้าหากต้องบอกสิ่งที่ไม่เหมือนกันคงเป็นเพราะเธอหน้าตาสวยกว่าพวกเขา และน่ารักกว่าด้วย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด