วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 910 อยากช่วยแต่ทำไม่ได้

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 910 อยากช่วยแต่ทำไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ดูแล้ววันนี้ซือเฉียนมีการเตรียมการมา ช่างเถอะ เชิญเข้ามานั่งในบ้านก่อน ”

พูดพลาง ก็พาเขาเดินเข้าไปในบ้าน

ทั้งสองเข้าไปในบ้าน แล้วมีคนรับใช้ยกน้ำชามาให้

ยังไม่ได้นั่งลง ก็ได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวาน“คุณหนาน มีแขกมาหรือ ?”

เห็นหลินเย่วเอ๋อร์ใส่ชุดกี่เพ้าสีแดงเข้ม กำลังเดินลงมาชั้นบน

ผมของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย แฝงไปด้วยกลิ่นอายความขี้เกียจ เหมือนกับเพิ่งจะลุกจากเตียงไม่นาน

เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก ตะลึงไปเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

หนานมู่หรงสายตาล้ำลึกเล็กน้อย มองดูเธอแวบหนึ่ง แล้วก็มองไปทางกู้ซือเฉียนอยากกับคิดอะไรอยู่ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“เยว่เอ๋อร์ คุณกู้มาหา รีบมาทักทายเร็ว ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์ค้างอยู่ที่มุมปาก หยุดไปครู่หนึ่ง สีหน้าฝืนเป็นปกติ แล้วเดินเข้ามา

“คุณกู้เป็นคนงานยุ่ง ทำไมวันนี้ถึงคิดจะมาได้?”

น้ำเสียงเธอเรียบๆ แฝงไปด้วยความเยาะเย้ย

กู้ซือเฉียนไม่อยากจะสนใจเธอ มองไปทางหนานมู่หรงแล้วกล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า“ที่ผมมาในวันนี้ มีเรื่องหนึ่งอยากจะถามคุณ”

หนานมู่หรงเลิกคิ้ว แล้วกล่าวว่า“ผมรู้แล้ว คุณถามมา ”

กู้ซือเฉียนหยิบเอกสารในอกออกมาวางไปบนโต๊ะ

นิ้วมือหนานมู่หรงที่จับแก้วไว้ชะงักไปเล็กน้อย สายตาจ้องไปที่บนเอกสารฉบับนั้น แววตาหม่นหมองลงทันที

เอกสารถูกกางออก ดังนั้น ไม่ต้องหยิบขึ้นมาเปิดดูอีก ก็เห็นรายละเอียดบนนั้นได้อย่างชัดเจนแล้ว

เห็นเพียง นั่นเป็นข้อมูลของสามคนนั้น บนนั้นเขียนประวัติภูมิหลังของบุคคลพวกนั้นอย่างละเอียด และช่วงนี้ไปที่ไหนมาบ้าง

ที่สำคัญก็คือ ข้อสรุปสุดท้ายของพวกเขา นั่นก็คือ ทั้งสามคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเฉียวฉี

“ดูแล้ววันนี้ซือเฉียนมีการเตรียมการมา ช่างเถอะ เชิญเข้ามานั่งในบ้านก่อน ”

พูดพลาง ก็พาเขาเดินเข้าไปในบ้าน

ทั้งสองเข้าไปในบ้าน แล้วมีคนรับใช้ยกน้ำชามาให้

ยังไม่ได้นั่งลง ก็ได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวาน“คุณหนาน มีแขกมาหรือ ?”

เห็นหลินเย่วเอ๋อร์ใส่ชุดกี่เพ้าสีแดงเข้ม กำลังเดินลงมาชั้นบน

ผมของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย แฝงไปด้วยกลิ่นอายความขี้เกียจ เหมือนกับเพิ่งจะลุกจากเตียงไม่นาน

เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก ตะลึงไปเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

หนานมู่หรงสายตาล้ำลึกเล็กน้อย มองดูเธอแวบหนึ่ง แล้วก็มองไปทางกู้ซือเฉียนอยากกับคิดอะไรอยู่ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“เยว่เอ๋อร์ คุณกู้มาหา รีบมาทักทายเร็ว ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์ค้างอยู่ที่มุมปาก หยุดไปครู่หนึ่ง สีหน้าฝืนเป็นปกติ แล้วเดินเข้ามา

“คุณกู้เป็นคนงานยุ่ง ทำไมวันนี้ถึงคิดจะมาได้?”

น้ำเสียงเธอเรียบๆ แฝงไปด้วยความเยาะเย้ย

กู้ซือเฉียนไม่อยากจะสนใจเธอ มองไปทางหนานมู่หรงแล้วกล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า“ที่ผมมาในวันนี้ มีเรื่องหนึ่งอยากจะถามคุณ”

หนานมู่หรงเลิกคิ้ว แล้วกล่าวว่า“ผมรู้แล้ว คุณถามมา ”

กู้ซือเฉียนหยิบเอกสารในอกออกมาวางไปบนโต๊ะ

นิ้วมือหนานมู่หรงที่จับแก้วไว้ชะงักไปเล็กน้อย สายตาจ้องไปที่บนเอกสารฉบับนั้น แววตาหม่นหมองลงทันที

เอกสารถูกกางออก ดังนั้น ไม่ต้องหยิบขึ้นมาเปิดดูอีก ก็เห็นรายละเอียดบนนั้นได้อย่างชัดเจนแล้ว

เห็นเพียง นั่นเป็นข้อมูลของสามคนนั้น บนนั้นเขียนประวัติภูมิหลังของบุคคลพวกนั้นอย่างละเอียด และช่วงนี้ไปที่ไหนมาบ้าง

ที่สำคัญก็คือ ข้อสรุปสุดท้ายของพวกเขา นั่นก็คือ ทั้งสามคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเฉียวฉี

ทุกคนต่างตกใจหน้าซีดเผือด

ตอนนี้ในบ้านแม้จะมีเพียงพวกเขาสามคน แต่ว่าภายในและภายนอกคฤหาสน์นี้ ไม่รู้มีคนซุ่มซ่อนไว้เท่าไหร่

และในห้องรับแขกก็มีกล้องวงจรปิด อีกด้านของกล้องวงจรปิดต่อไปในห้องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ดังนั้น เมื่อเขาหยิบปืนออกมา ทันใดนั้น ประตูใหญ่ก็ถูกเปิดออก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา

“วางปืนลง!”

พวกเขาชี้ไปที่กู้ซือเฉียน แล้วกล่าวด้วยความโกรธ

และในเวลาเดียวกันนี้ พวกฉินเยว่ที่รออยู่ข้างนอกตลอดเวลา เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พุ่งเข้ามาล้อมพวกเขาไว้

บรรยากาศตึงเครียดราวกับสายเครื่องดีดสี เมื่อสัมผัสก็ระเบิดทันที

หลินเยว่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ตกใจจนตะลึงงัน อ้าปากค้างจนแทบจะยัดไข่ไก่ได้หนึ่งปาก มองดูสถานการณ์ตรงหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยสีหน้าตกใจ

สีหน้าหนานมู่หรงหมองลง

เขากล่าวเสียงเรียบว่า“ซือเฉียน นี่คุณหมายความว่าอย่างไร ?”

กู้ซือเฉียนกล่าวอย่างเย็นชา“บอกมาว่าเธออยู่ที่ไหน แล้วผมจะปล่อยคุณไปทันที”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งของหนานมู่หรงตะโกนว่า“ปล่อยคุณหนาน มิเช่นนั้นเราจะยิง”

“ดูแล้ววันนี้ซือเฉียนมีการเตรียมการมา ช่างเถอะ เชิญเข้ามานั่งในบ้านก่อน ”

พูดพลาง ก็พาเขาเดินเข้าไปในบ้าน

ทั้งสองเข้าไปในบ้าน แล้วมีคนรับใช้ยกน้ำชามาให้

ยังไม่ได้นั่งลง ก็ได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวาน“คุณหนาน มีแขกมาหรือ ?”

เห็นหลินเย่วเอ๋อร์ใส่ชุดกี่เพ้าสีแดงเข้ม กำลังเดินลงมาชั้นบน

ผมของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย แฝงไปด้วยกลิ่นอายความขี้เกียจ เหมือนกับเพิ่งจะลุกจากเตียงไม่นาน

เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก ตะลึงไปเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

หนานมู่หรงสายตาล้ำลึกเล็กน้อย มองดูเธอแวบหนึ่ง แล้วก็มองไปทางกู้ซือเฉียนอยากกับคิดอะไรอยู่ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“เยว่เอ๋อร์ คุณกู้มาหา รีบมาทักทายเร็ว ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์ค้างอยู่ที่มุมปาก หยุดไปครู่หนึ่ง สีหน้าฝืนเป็นปกติ แล้วเดินเข้ามา

“คุณกู้เป็นคนงานยุ่ง ทำไมวันนี้ถึงคิดจะมาได้?”

น้ำเสียงเธอเรียบๆ แฝงไปด้วยความเยาะเย้ย

กู้ซือเฉียนไม่อยากจะสนใจเธอ มองไปทางหนานมู่หรงแล้วกล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า“ที่ผมมาในวันนี้ มีเรื่องหนึ่งอยากจะถามคุณ”

หนานมู่หรงเลิกคิ้ว แล้วกล่าวว่า“ผมรู้แล้ว คุณถามมา ”

กู้ซือเฉียนหยิบเอกสารในอกออกมาวางไปบนโต๊ะ

นิ้วมือหนานมู่หรงที่จับแก้วไว้ชะงักไปเล็กน้อย สายตาจ้องไปที่บนเอกสารฉบับนั้น แววตาหม่นหมองลงทันที

เอกสารถูกกางออก ดังนั้น ไม่ต้องหยิบขึ้นมาเปิดดูอีก ก็เห็นรายละเอียดบนนั้นได้อย่างชัดเจนแล้ว

เห็นเพียง นั่นเป็นข้อมูลของสามคนนั้น บนนั้นเขียนประวัติภูมิหลังของบุคคลพวกนั้นอย่างละเอียด และช่วงนี้ไปที่ไหนมาบ้าง

ที่สำคัญก็คือ ข้อสรุปสุดท้ายของพวกเขา นั่นก็คือ ทั้งสามคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเฉียวฉี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด