วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 352 ถูกคนใส่ร้าย

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 352 ถูกคนใส่ร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่352 ถูกคนใส่ร้าย

"คุณหนูรอง ช่วยฉันด้วย! ฉันถูกใส่ร้าย! คุณหนูรอง ช่วยฉันด้วย!"

ในยามวิกฤติ เธอกระโจนเข้าหาจิ่งเสี่ยวหย่า พร้อมขอร้องให้เธอช่วยเหลือ

แต่ยังไม่ทันกระโจนมาถึงเบื้องหน้าของจิ่งเสี่ยวหย่า เธอก็ถูกคนดึงกลับไป

เมื่อจิ่งเสี่ยวหย่าเห็นแบบนี้ก็เผยสีหน้าลำบากใจขึ้นเล็กน้อย

"คุณตาค่ะ บางทีเสี่ยวหยู่อาจจะพลาดพลั้งทำไป เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เรา….."

"ไม่ต้องเห็นอกเห็นใจเธอหรอก!"

คุณท่านตระกูลกวนพูดแทรกเธอขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า : "สามารถทำกับเด็กอายุหกขวบได้ คงไม่ใช่คนดีแล้ว แต่เป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยมน่ารังเกียจ ดังนั้นตระกูลกวนของเราไม่มีทางปล่อยคนแบบนี้แน่นอน!"

เมื่อเสี่ยวหยู่ได้ยินแบบนี้ก็ร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง

จิ่งเสี่ยวหย่าถอนหายใจเล็กน้อย

และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า : "ต้องขอโทษด้วย ฉันคงช่วยอะไรเธอไม่ได้ ฉัน….หวังว่าเธอจะโชคดีละกัน"

ขณะที่พูดก็อดใจหันหน้าหนีไปด้านข้างเล็กน้อยอย่างลำบากใจ

ในบรรดาฝูงชนมีคนพูดประชดขึ้นว่า : "ผู้หญิงที่หน้าเนื้อใจเสือแบบนี้เก็บไว้ทำอะไรกัน? คุณหนูรองช่างมีเมตตาเหลือเกิน คิดไม่ถึงจะจิตใจดีต่อคนเลวแบบนี้ได้"

"แม้แต่เด็กคนหนึ่งจะทำกันได้ลงมือ แถมเป็นหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลลู่ด้วย เธอคงคิดอยากทำลายมิตรภาพของสองตระกูลกวนกับลู่ใช่ไหม ช่างน่ารังเกียจจริงๆ"

"ฐานะของสาวใช้คนนี้ไม่ธรรมดา สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ สงสัยคงมีคนคอยหนุนหลังสั่งการแน่"

"ช่างน่ากลัวจริงๆ! ทำไมเธอถึงได้เลวขนาดนี้"

"โชคดีที่ช่วยไว้ทัน หากช่วยไม่ทัน ฉันไม่กล้าคิดจริงๆ แต่เมื่อคิดว่าคนแบบนี้อยู่ข้างกาย ฉันก็รู้สึกขนลุกขนซู่แล้ว"

"โธ่ คุณหนูรองช่างเป็นคนจิตใจดีจริงๆ แม้แต่คนเลวแบบนี้ก็ยังมีความเห็นอกเห็นใจ"

เมื่อจิ่งเสี่ยวหย่าได้ยินเสียงชื่นชมรอบข้างแบบนี้ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย

นอกจากฝูงชนแล้ว ยังมีกวนเสว่เฟยที่เห็นฉากนี้ เธอกำหมัดอย่างแน่น จนอดใจไม่ไหวเดินกระโจนออกไป

แต่มีร่างเงาเล็กคนหนึ่งที่มีความรวดเร็วกว่าเธอ จู่ๆก็กระโจนมายืนอยู่เบื้องหน้าเสี่ยวหยู่

นายหญิงหชินสะดุ้งตกใจ พร้อมร้องเรียกด้วยน้ำเสียงตกใจว่า : "อานอาน หนูทำอะไร?"

อานอานวิ่งมาเบื้องหน้าเสี่ยวหยู่ และสั่งให้คนที่จับเธอออกไปให้กับตำรวจหยุดการกระทำลง จากนั้นเธอก็คว้าจับมือของเสี่ยวหยู่ แล้วบนหลังของตัวเอง

ทุกคนต่างนิ่งอึ้ง แม้แต่เสี่ยวหยู่เองก็ตกใจนิ่งค้างกับการกระทำของเธอเหมือนกัน จนเธอทำตัวไม่ถูก

มีเพียงจิ่งเสี่ยวหย่าคนเดียวที่ขมวดคิ้ว

อานอานปล่อยมือเสี่ยวหยู่ แล้วหันหลังจ้องมองคุณท่านกวน

"คุณท่านกวน พี่สาวคนนี้ไม่ใช่คนผลักหนูตกน้ำหรอกค่ะ"

คนในที่เกิดเหตุต่างพากันตกตะลึง

คุณท่านตระกูลกวนขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเล็กน้อยขึ้น

"อานอาน หนูรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่?"

อานอานมีสีหน้าจริงจังมาก และพูดขึ้นว่า : "หนูรู้ตัวดีค่ะ และหนูพูดว่าเธอไม่ใช่ฆาตกรที่ผลักหนูตกสระน้ำค่ะ"

วินาทีต่อมา ทุกคนเริ่มดึงสติกลับมา

"ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วเป็นใครล่ะ?"

"ไม่ใช่ว่าเจอหลักฐานแล้วหรอ? แถมมีพยานด้วย แล้วจะไม่ใช่เธอได้ยังไง?"

"ใช่ อีกอย่างคุณหนูอานอานก็ไม่เห็นฆาตกร แม้แต่กล้องวงจรปิดก็ไม่ได้ถูกถ่ายเหตุการณ์ด้วย แล้วหนูแน่ใจได้ยังไงว่าไม่ใช่เธอคนนี้?"

ฝูงชนเริ่มเกิดการถกเถียงขึ้น

จากนั้นคุณท่านตระกูลลู่ก็เอ่ยปากขึ้น

"เอาล่ะ ทุกคนเงียบๆหน่อย"

เขาจ้องมองอานอานด้วยสายตาอ่อนโยน และพูดขึ้นว่า : "หลานสาวที่รัก หนูพูดมาสิว่าทำไมถึงคิดว่าพี่สาวคนนี้ไม่ใช่คนผลักหนู?"

อานอานหันหน้าจับมือของเสี่ยวหยู่อีกครั้ง และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : "เพราะตอนที่คนๆนั้นผลักหนู หนูจำได้ว่าตอนที่ฝ่ามือสัมผัสบนบ่าของหนู มือของเธอนุ่มมาก ถึงแม้จะออกแรง แต่สัมผัสได้ว่าเป็นมือที่เรียวเล็กมาก

แต่มือของพี่สาวคนนี้ใหญ่มาก อีกทั้งยังหยาบมากด้วย ตอนที่วางบนบ่าของหนู หนูสัมผัสแต่กระดูกที่หนาใหญ่ ไม่มีความอ่อนนุ่มเลย ดังนั้นหนูคิดว่าเธอไม่ใช่คนที่ผลักหนูคนๆนั้นก่อนหน้านี้ค่ะ"

เมื่อได้ยินแบบนี้ คนในที่เกิดเหตุก็ถกเถียงกันอีกครั้ง

เสี่ยวหยู่นั่งนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ไม่นานก็ดึงสติกลับมา พร้อมจ้องมองอานอานด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อขึ้น

เพราะเป็นสาวใช้ เสี่ยวหยู่จึงมักทำงานหนัก อีกอย่างเธอเป็นคนภาคเหนือ เกิดมาเป็นคนที่มีกระดูกหราใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีฝ่ามือใหญ่กว่าผู้หญิงปกติมาก

อีกอย่างเสี่ยวหยู่มีรูปร่างค่อนข้างผอมมาก บนมือไม่มีเนื้อ มีเพียงกระดูก หากมองเพียงแวบเดียว สามารถมองออกว่าไม่ใช่มือของผู้หญิง แต่เหมือนมือของผู้ชายมากกว่า

ด้วยเหตุนี้ เมื่อมือแบบนี้มาสัมผัสบนร่างกายจะไม่รีบรู้ถึงความอ่อนนุ่ม

เมื่อได้ยินคำพูดอธิบายแบบนี้ของอานอาน คุณท่านไม่กี่คนก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที

ตรงกันข้าม เสี่ยวหยู่รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เธอถึงกับคุกเข่าขอบคุณต่อหน้าอานอาน

"คุณหนูอานอานพูดถูกค่ะ ฉันไม่ได้เป็นคนผลักเธอ อีกอย่างฉันเป็นแค่สาวใช้ ไม่มีความเคียดแค้นต่อกัน แทบไม่มีเจตนาอะไรจะทำร้ายเธอเลย! ส่วนของเล่นผีเสื้อนั้นต้องมีคนตั้งใจวางในห้องของฉันแน่นอน เพื่อต้องการให้ฉันเป็นแพะรับบาป!"

เสี่ยวหยู่ตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนจิ่งเสี่ยวหย่าเปลี่ยนสีหน้าทันที

เธอถอนหายใจ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นว่า : "แต่หลักฐานมัดตัวแน่นแบบนี้แล้ว แถมนอกจากเธอแล้ว คนอื่นก็ไม่มีเจตนา และไม่มีโอกาสมากกว่าเหมือนกันนะ"

เธอหยุดนิ่ง และพูดต่อว่า : "เสี่ยวหยู่ ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอคงหวาดกลัวมาก ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงทำร้ายอานอาน แต่คงเป็นเหตุผลส่วนตัว เธอวางใจเถอะ ขอเพียงเธอยอมพูดความจริง ยอมรับความผิด คุณตาต้องยกโทษให้เธอแน่นอน"

เสี่ยวหยู่รีบส่ายหน้าทันที

"ไม่ ไม่ใช่ฉันจริงๆ คุณหนูรอง ได้โปรดเชื่อฉันเถอะ ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายคุณหนูอานอานจริงๆ"

จิ่งเสี่ยวหย่ายิ่งขมวดคิ้วแน่น และแอบเผยสีหน้ารำคาญใจขึ้นเล็กน้อย

"ฉันเชื่อเธอ แต่….คุณหนูอานอานเป็นเพียงแค่เด็กหกขวบ อาจมีการเข้าใจผิด แล้วอย่างนี้เธอจะพิสูจน์ยังไงหรอว่าฆาตกรไม่ใช่เธอหรอ?"

เสี่ยวหยู่นิ่งอึ้งชั่วขณะ

แทบคิดไม่ถึงเลยว่าคุณหนูจิ่งเสี่ยวหย่าจะพูดแบบนี้

ความรู้สึกสิ้นหวังและความรู้สึกตื่นตระหนกถาโถมเข้ามากลางใจ เธอส่ายหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจว่า : "ฉัน ฉันไม่รู้"

จิ่งเสี่ยวหย่าถอนหายใจอย่างจนปัญญา

ฉากนี้เหมือนกับคนร้ายที่ไม่ยอมรับผิดเผชิญหน้ากับคนเกลี้ยกล่อมผู้มีจิตใจดี

ทันใดนั้นจิ่งหนิงก็เอ่ยปากพูดขึ้น

"อันที่จริงคิดอยากตามหาฆาตกรตัวจริงไม่ใช่เรื่องยากเลย"

ผู้คนต่างพากันนิ่งอึ้งทันที พร้อมจ้องมองผู้หญิงด้วยสายตาตกใจ

และเห็นในมือของจิ่งหนิงถือของเล่นผีเสื้อชิ้นนั้น โดยที่ไม่รู้ว่าถือตั้งแต่เมื่อไหร่

ผีเสื้อสีชมพูหมุนบนเล็บอันเรียวสวยของเธอเล็กน้อย ราวกับมีชีวิตอย่างนั้น แต่เมื่อมองแบบนี้ก็สามารถจินตนาการออกว่า ในตอนที่แสงมืดสลัว ทำไมอานอานถึงคิดว่ามันเป็นผีเสื้อจริง และวิ่งตามออกไป

คุณท่านตระกูลกวนขมวดคิ้วเล็กน้อย และซักถามขึ้นว่า : "ทำไมเธอพูดแบบนี้?"

จิ่งหนิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ยิ้มและพูดว่า : ",เป็นอย่างที่อานอานพูดเมื่อกี้ สาวใช้คนนี้ไม่ใช่คนที่ผลักเธอตกน้ำคนนั้น แต่หลักฐานอยู่บนตัวผีเสื้อตัวนี้"

ทุกคนต่างพากันนิ่งอึ้งทันที

เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่จิ่งหนิงพูดว่าคืออะไร

ไม่เพียงคนรอบข้าง แม้แต่คุณท่านลู่และคุณหญิงหชินต่างก็มึนงงเหมือนกัน ทุกคนต่างจ้องมองเธอด้วยสีหน้าสงสัย

มีเพียงลู่จินเซินที่จ้องมองของเล่นผีเสื้อตัวนั้น แล้วเผยสายตามีเล่ห์เหลี่ยมขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด