วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 947 เรื่องเก่าสมัยก่อน

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 947 เรื่องเก่าสมัยก่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทุกคนกลับมาถึงวิลล่าของท่านปู่ชิวอีกครั้ง

แต่กลับมาครั้งนี้ ความรู้สึกของแต่ละคนต่างไม่เหมือนกัน

ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว พวกจิ่งหนิงมาถึงสนามบิน ตอนแรกก็เตรียมตัวจะขึ้นเครื่องบินแล้ว แต่จู่ๆ ลู่จิ่งเซินกลับได้รับสาย จากนั้นก็รีบแจ้งให้พวกเขาลงจากเครื่องบินและมาที่นี่ทันที

ความเป็นจริงแล้ว ตอนที่อยู่ในวิลล่า ลู่จิ่งเซินก็ดูออกตั้งนานแล้วว่าท่านปู่ชิวผิดปกติ ถึงแม้ดูเหมือนจิตใจเที่ยงตรง แต่ความเป็นจริงกลับมีบางอย่างปิดบังไว้

แต่เขาไม่ได้ไปหาท่านปู่ชิวแฉไพ่เหมือนจิ่งหนิง กลับเป็นตีหน้าตายแอบวางสองคนเฝ้าไว้รอบๆ วิลล่าของท่านปู่ชิว ดูว่าเขามีท่าทีอะไรบ้าง

นึกไม่ถึงเลย พวกเขาเพิ่งออกมาจากที่นั่น ข่าวก็มาถึงตามหลังแล้ว

บอกว่าท่านปู่ชิวออกไปจากวิลล่าด้วยตัวคนเดียวในกลางดึก ไปทางท้ายสุดของหมู่บ้านแล้ว

ลู่จิ่งเซินรู้สึกได้ว่าผิดปกติ จึงพาพวกเขารีบตามมา ก็ได้เจอฉากที่ท่านปู่ชิวกับคนใส่เสื้อดำคนนั้นกำลังคุมเชิงกันอยู่พอดี

จนถึงตอนนี้แล้ว พวกเขายังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีกเหรอ

แต่จิ่งหนิงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าผลของเรื่องนี้มิอาจคาดเดาได้มากกว่าที่เธอคิดอีก

ขณะนี้ทุกคนนั่งอยู่ในห้องรับแขกของวิลล่า บรรยากาศพะอืดพะอมไปหมด

เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบดังมาจากข้างนอก

ไม่นาน กู้ซือเฉียนก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว

เฉียวฉีรีบเดินขึ้นไปถามว่า: “เป็นไงบ้าง จับคนได้ยัง”

สีหน้าของกู้ซือเฉียนดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำหน้ามืดครึ้มและส่ายหัว

ลู่จิ่งเซินกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับผลนี้

ดูก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่บุคคลธรรมดา ฟ้ามืดขนาดนี้แล้ว กู้ซือเฉียนก็ไม่คุ้นเคยธรณีสัณฐานของที่นี่ด้วย จับคนไม่ได้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

เขาหันหน้ากลับไปดูท่านปู่ชิว

“ท่านปู่ ท่านควรอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเราฟังหน่อยไหม”

สีหน้าของท่านปู่ชิวก็ดูแย่มากเหมือนกัน

ขณะนี้ เขาไม่มีสีหน้าแบบดื้อรั้น เยาะเย้ยและสมน้ำหน้าเมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขาก่อนหน้านี้แบบนั้นแล้ว ทั้งคนดูซึมกะทือ นั่งอยู่ตรงนั้น เงียบอย่างกับประติมากรรมชิ้นหนึ่ง

จิ่งหนิงพูดเสียงเบาว่า: “ท่านปู่ พวกหนูรู้เรื่องนี้แล้ว ก็ไม่มีทางปล่อยไปไม่สนใจหรอก ท่านบอกหรือไม่บอก ความจริงแล้วสุดท้ายพวกหนูก็สืบได้อยู่ดี แค่ต้องเดินทางเปล่าๆ และเสียเวลาเยอะหน่อยแค่นั้นเอง พวกหนูยังมีเวลาอีกหลายเดือนสามารถรอได้ แต่ท่านลองถามใจตัวเองดู ท่านรอได้เหรอ เหลนสาวของท่านรอได้เหรอ”

เสียงของเธอเพิ่งหยุดลง ท่านปู่ก็ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด

เนิ่นนาน เขาจึงถอนกายใจอย่างลึกซึ้ง

“ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ปิดปังพวกแกไม่ได้หรอก ฉันก็ไม่ได้อยากจงใจปิดบังพวกแกต่อแล้ว ฉันก็แค่กำลังคิดอยู่ว่าต้องบอกเรื่องนี้กับพวกแกยังไง”

คนทุกคนต่างขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมายกัน

ท่านปู่เงียบไปอีกสักพักจึงค่อยๆ เปิดปาก

“เรื่องนี้ต้องพูดย้อนกลับไปถึงหกสิบปีที่แล้ว…”

จริงๆ แล้ว เมื่อหกสิบปีที่แล้วสถานการณ์ยังคงวุ่นวายมาก ท่านปู่ชิวเป็นเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตอยู่ในสังคง เพิ่งความสามารถทั้งตัวหาข้าวกินในกลียุคล้วนๆ

หลังๆ มาก็ได้รู้จักนายหญิงหชินและผู้ชายอีกคนโดยโอกาสบังเอิญ กี่คนนี้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลียุค ความสัมพันธ์ดีกันอย่างยิ่ง

หลังๆ มานายหญิงหชินแต่งงานกับท่านปู่ลู่ก็ไปจากพวกเขาแล้ว พวกเขาอวยพรให้เพื่อนคนนี้ ในเวลาเดียวกันก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนเธอ เนื่องจากฐานะและทางที่จะเดินมันต่างกัน

ผู้ชายสองคนกลายเป็นพี่น้องต่างนามสกุล มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ก็ถือว่าผ่านสมัยที่วุ่นวายที่สุดมาโดยไม่ง่ายแล้ว

พวกเขาเพิ่งการค้าขายวัตถุโบราณทำเงินมาไม่น้อย ตอนแรกคิดว่าถ้ามีเงินแล้วก็จะหาที่ตั้งถิ่นฐาน ทำการค้าขายด้วยกัน แต่สุดท้ายกลับเกิดความขัดแย้งกันขึ้นมา

สองคนเป็นคนร่วมจัดการของเหล่านั้นด้วยกัน ระหว่างนั้นก็มักจะมีเรื่องผิดกฎหมายอยู่ไม่น้อย มีบางเรื่องที่ใหญ่โตจนจะพูดว่าตัดหัวก็ไม่ถือว่าแรง

ถึงแม้เงินนี้จะทำมาเยอะมาก แต่มันล้วนสู้กลับมาด้วยชีวิต

สองคนต่างแต่งงานมีลูกกันแล้ว อีกฝ่ายอยากมีชีวิตที่สงบสุข ท่านปู่ชิวก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ

แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจคือทำไมอีกฝ่ายถึงเอาเรื่องที่เขาสองคนทำในหลายปีนี้เล่าให้อีกคนฟังอย่างละเอียด

ซึ่งเขาเห็นว่านี่คือช่องโหว่ที่ใหญ่มาก

เพราะเขาเชื่อกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งอย่างแน่วแน่มาตลอด นั่นก็คือในโลกนี้ไม่มีกำแพงด่านไหนที่ไม่มีรอยแตก และไม่มีคนไหนที่ไม่หักหลังอีกฝ่าย แม้จะสนิทสนมอย่างสามีภรรยาก็ตาม

มีแต่คนสองแบบที่จะไม่หักหลัง ถ้าไม่ใช่คนที่ทำเรื่องนี้ด้วยกัน ก็คือคนตาย

ดังนั้น ตอนนั้นเขาจึงมีความคิดจะฆ่าคนขึ้นมา สองคนทะเลาะกันใหญ่เพราะเรื่องนี้ สุดท้ายแยกทางกันอย่างอารมณ์เสีย

หลังๆ มาเขาก็ได้รู้โดยบังเอิญว่าพี่ชายของภรรยาอีกฝ่ายกลับเป็นคนของตำรวจ

ตอนนั้นเขาว้าวุ่นไปหมด บวกกับตัวเองยังขี้สงสัยอีกด้วย มีครั้งหนึ่งเขาดื่มเหล้าเยอะเกินไป ตอนแรกแค่อยากไปหาพี่น้องคนนั้นที่บ้านคุยกับเขาดีๆ ให้เขาจัดการเรื่องนี้ให้สะอาด อย่าเหลือปัญหาที่จะตามมาทีหลังให้กับตัวเองได้

แต่วันนั้นโชคไม่ดี พี่น้องไม่อยู่บ้าน มีแค่ภรรยาของเขาอุ้มลูกที่เพิ่งคลอดออกมาไม่นานอยู่ในบ้าน

เขากับภรรยาของอีกฝ่ายมีปากเสียงขึ้นมาเพราะบางประโยค เขาโมโหขึ้นมา นึกถึงภัยอันตรายที่ผู้หญิงคนนี้นำมา จึงฆ่าเธอตายโดยความผิดพลาดแล้ว

ตอนนั้นเขาก็ตกใจจนมึนแล้วเช่นกัน หายเมาเกือบครึ่งเลย ทันใดนั้นพี่น้องกลับมาพอดี เห็นภรรยานอนอยู่ในกองเลือด จึงสู้ตายกับเขาอยู่แล้ว

ท่านปู่ชิวฝึกซ้อมกังฟูอย่างหนักตั้งแต่ตอนเด็ก สามารถบอกได้ว่ากังฟูในมือนั้นมีน้อยคนที่สามารถสู้ได้ ดังนั้น เขาก็ได้ฆ่าพี่น้องคนนั้นจนเสียชีวิตแล้วเช่นกัน สุดท้ายเหลือแค่ลูกที่ยังไม่ครบหนึ่งเดือน

ตอนแรกเขาก็เคยคิดที่ฆ่าเด็กคนนั้นทิ้งด้วยคน แต่อาจเป็นเพราะตอนนั้นเขาใจอ่อนแล้ว หรืออาจเป็นเพราะเขาคิดว่าแค่เด็กยังไม่ครบเดือนคนหนึ่งไม่เกิดความอันตรายต่อตัวเองหรอก ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจ จากไปอย่างเตาะแตะ

ในคืนนั้นก็เก็บของไปจากเมืองนั้นแล้ว ตั้งแต่นั้นมาเปลี่ยนหน้าตาใหม่ ไม่เคยพูดเรื่องอดีตนี้ขึ้นมาอีกเลย

จนกระทั่งหลังๆ มา ทั้งลูกสะใภ้และลูกชายสองคนของเขาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไป

ในตอนนั้นเขายังไม่ได้เอะใจอะไร เพราะว่าเขากับลูกชายไม่ได้อยู่ในเมืองเดียวกัน เขาดูศพแล้วก็ไม่พบปัญหาอะไร

และหลังจากนั้นต่อมา ก็คือการตายของหลานชายและภรรยาแล้ว

ครั้งนี้ เขากลับเจอปัญหาแล้ว

ถึงแม้พวกเขาตายจากอุบัติเหตุรถยนต์ แต่เขาพบว่าอุบัติเหตุรถยนต์นั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่คือฝีมือของคน

มีคนแอบทำอะไรบางอย่างกับรถของพวกเขา เพราะฉะนั้นเบรกของพวกเขาจึงล้มเหลว ชนราวออกไปด้วยความเร็วสูงบนทางด่วน กลิ้งลงไปใต้เนินเขา รถพังคนตาย

ตอนนั้นเขาก็ได้สงสัยขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้นำเรื่องนี้ไปโยงกับเรื่องหกสิบปีที่แล้วเรื่องนั้น

เพราะเขาคิดว่าเรื่องนั้นผ่านไปตั้งหลายปีมากแล้ว นอกจากฟ้าดินกับเขาที่รู้ ไม่มีใครคนไหนรู้อีกแล้ว

เด็กที่ไม่ครบเดือนคนนั้น ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีชีวิตอยู่รอดต่อหรือไม่ ถึงเขาอยู่รอดแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจำได้ว่าเขาเป็นคนฆ่าคน

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เคยนำเรื่องอุบัติเหตุรถยนต์ไปโยงกับเรื่องนั้นด้วยกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 947 เรื่องเก่าสมัยก่อน

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 947 เรื่องเก่าสมัยก่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทุกคนกลับมาถึงวิลล่าของท่านปู่ชิวอีกครั้ง

แต่กลับมาครั้งนี้ ความรู้สึกของแต่ละคนต่างไม่เหมือนกัน

ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว พวกจิ่งหนิงมาถึงสนามบิน ตอนแรกก็เตรียมตัวจะขึ้นเครื่องบินแล้ว แต่จู่ๆ ลู่จิ่งเซินกลับได้รับสาย จากนั้นก็รีบแจ้งให้พวกเขาลงจากเครื่องบินและมาที่นี่ทันที

ความเป็นจริงแล้ว ตอนที่อยู่ในวิลล่า ลู่จิ่งเซินก็ดูออกตั้งนานแล้วว่าท่านปู่ชิวผิดปกติ ถึงแม้ดูเหมือนจิตใจเที่ยงตรง แต่ความเป็นจริงกลับมีบางอย่างปิดบังไว้

แต่เขาไม่ได้ไปหาท่านปู่ชิวแฉไพ่เหมือนจิ่งหนิง กลับเป็นตีหน้าตายแอบวางสองคนเฝ้าไว้รอบๆ วิลล่าของท่านปู่ชิว ดูว่าเขามีท่าทีอะไรบ้าง

นึกไม่ถึงเลย พวกเขาเพิ่งออกมาจากที่นั่น ข่าวก็มาถึงตามหลังแล้ว

บอกว่าท่านปู่ชิวออกไปจากวิลล่าด้วยตัวคนเดียวในกลางดึก ไปทางท้ายสุดของหมู่บ้านแล้ว

ลู่จิ่งเซินรู้สึกได้ว่าผิดปกติ จึงพาพวกเขารีบตามมา ก็ได้เจอฉากที่ท่านปู่ชิวกับคนใส่เสื้อดำคนนั้นกำลังคุมเชิงกันอยู่พอดี

จนถึงตอนนี้แล้ว พวกเขายังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีกเหรอ

แต่จิ่งหนิงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าผลของเรื่องนี้มิอาจคาดเดาได้มากกว่าที่เธอคิดอีก

ขณะนี้ทุกคนนั่งอยู่ในห้องรับแขกของวิลล่า บรรยากาศพะอืดพะอมไปหมด

เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบดังมาจากข้างนอก

ไม่นาน กู้ซือเฉียนก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว

เฉียวฉีรีบเดินขึ้นไปถามว่า: “เป็นไงบ้าง จับคนได้ยัง”

สีหน้าของกู้ซือเฉียนดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำหน้ามืดครึ้มและส่ายหัว

ลู่จิ่งเซินกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับผลนี้

ดูก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่บุคคลธรรมดา ฟ้ามืดขนาดนี้แล้ว กู้ซือเฉียนก็ไม่คุ้นเคยธรณีสัณฐานของที่นี่ด้วย จับคนไม่ได้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

เขาหันหน้ากลับไปดูท่านปู่ชิว

“ท่านปู่ ท่านควรอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเราฟังหน่อยไหม”

สีหน้าของท่านปู่ชิวก็ดูแย่มากเหมือนกัน

ขณะนี้ เขาไม่มีสีหน้าแบบดื้อรั้น เยาะเย้ยและสมน้ำหน้าเมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขาก่อนหน้านี้แบบนั้นแล้ว ทั้งคนดูซึมกะทือ นั่งอยู่ตรงนั้น เงียบอย่างกับประติมากรรมชิ้นหนึ่ง

จิ่งหนิงพูดเสียงเบาว่า: “ท่านปู่ พวกหนูรู้เรื่องนี้แล้ว ก็ไม่มีทางปล่อยไปไม่สนใจหรอก ท่านบอกหรือไม่บอก ความจริงแล้วสุดท้ายพวกหนูก็สืบได้อยู่ดี แค่ต้องเดินทางเปล่าๆ และเสียเวลาเยอะหน่อยแค่นั้นเอง พวกหนูยังมีเวลาอีกหลายเดือนสามารถรอได้ แต่ท่านลองถามใจตัวเองดู ท่านรอได้เหรอ เหลนสาวของท่านรอได้เหรอ”

เสียงของเธอเพิ่งหยุดลง ท่านปู่ก็ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด

เนิ่นนาน เขาจึงถอนกายใจอย่างลึกซึ้ง

“ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ปิดปังพวกแกไม่ได้หรอก ฉันก็ไม่ได้อยากจงใจปิดบังพวกแกต่อแล้ว ฉันก็แค่กำลังคิดอยู่ว่าต้องบอกเรื่องนี้กับพวกแกยังไง”

คนทุกคนต่างขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมายกัน

ท่านปู่เงียบไปอีกสักพักจึงค่อยๆ เปิดปาก

“เรื่องนี้ต้องพูดย้อนกลับไปถึงหกสิบปีที่แล้ว…”

จริงๆ แล้ว เมื่อหกสิบปีที่แล้วสถานการณ์ยังคงวุ่นวายมาก ท่านปู่ชิวเป็นเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตอยู่ในสังคง เพิ่งความสามารถทั้งตัวหาข้าวกินในกลียุคล้วนๆ

หลังๆ มาก็ได้รู้จักนายหญิงหชินและผู้ชายอีกคนโดยโอกาสบังเอิญ กี่คนนี้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลียุค ความสัมพันธ์ดีกันอย่างยิ่ง

หลังๆ มานายหญิงหชินแต่งงานกับท่านปู่ลู่ก็ไปจากพวกเขาแล้ว พวกเขาอวยพรให้เพื่อนคนนี้ ในเวลาเดียวกันก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนเธอ เนื่องจากฐานะและทางที่จะเดินมันต่างกัน

ผู้ชายสองคนกลายเป็นพี่น้องต่างนามสกุล มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ก็ถือว่าผ่านสมัยที่วุ่นวายที่สุดมาโดยไม่ง่ายแล้ว

พวกเขาเพิ่งการค้าขายวัตถุโบราณทำเงินมาไม่น้อย ตอนแรกคิดว่าถ้ามีเงินแล้วก็จะหาที่ตั้งถิ่นฐาน ทำการค้าขายด้วยกัน แต่สุดท้ายกลับเกิดความขัดแย้งกันขึ้นมา

สองคนเป็นคนร่วมจัดการของเหล่านั้นด้วยกัน ระหว่างนั้นก็มักจะมีเรื่องผิดกฎหมายอยู่ไม่น้อย มีบางเรื่องที่ใหญ่โตจนจะพูดว่าตัดหัวก็ไม่ถือว่าแรง

ถึงแม้เงินนี้จะทำมาเยอะมาก แต่มันล้วนสู้กลับมาด้วยชีวิต

สองคนต่างแต่งงานมีลูกกันแล้ว อีกฝ่ายอยากมีชีวิตที่สงบสุข ท่านปู่ชิวก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ

แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจคือทำไมอีกฝ่ายถึงเอาเรื่องที่เขาสองคนทำในหลายปีนี้เล่าให้อีกคนฟังอย่างละเอียด

ซึ่งเขาเห็นว่านี่คือช่องโหว่ที่ใหญ่มาก

เพราะเขาเชื่อกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งอย่างแน่วแน่มาตลอด นั่นก็คือในโลกนี้ไม่มีกำแพงด่านไหนที่ไม่มีรอยแตก และไม่มีคนไหนที่ไม่หักหลังอีกฝ่าย แม้จะสนิทสนมอย่างสามีภรรยาก็ตาม

มีแต่คนสองแบบที่จะไม่หักหลัง ถ้าไม่ใช่คนที่ทำเรื่องนี้ด้วยกัน ก็คือคนตาย

ดังนั้น ตอนนั้นเขาจึงมีความคิดจะฆ่าคนขึ้นมา สองคนทะเลาะกันใหญ่เพราะเรื่องนี้ สุดท้ายแยกทางกันอย่างอารมณ์เสีย

หลังๆ มาเขาก็ได้รู้โดยบังเอิญว่าพี่ชายของภรรยาอีกฝ่ายกลับเป็นคนของตำรวจ

ตอนนั้นเขาว้าวุ่นไปหมด บวกกับตัวเองยังขี้สงสัยอีกด้วย มีครั้งหนึ่งเขาดื่มเหล้าเยอะเกินไป ตอนแรกแค่อยากไปหาพี่น้องคนนั้นที่บ้านคุยกับเขาดีๆ ให้เขาจัดการเรื่องนี้ให้สะอาด อย่าเหลือปัญหาที่จะตามมาทีหลังให้กับตัวเองได้

แต่วันนั้นโชคไม่ดี พี่น้องไม่อยู่บ้าน มีแค่ภรรยาของเขาอุ้มลูกที่เพิ่งคลอดออกมาไม่นานอยู่ในบ้าน

เขากับภรรยาของอีกฝ่ายมีปากเสียงขึ้นมาเพราะบางประโยค เขาโมโหขึ้นมา นึกถึงภัยอันตรายที่ผู้หญิงคนนี้นำมา จึงฆ่าเธอตายโดยความผิดพลาดแล้ว

ตอนนั้นเขาก็ตกใจจนมึนแล้วเช่นกัน หายเมาเกือบครึ่งเลย ทันใดนั้นพี่น้องกลับมาพอดี เห็นภรรยานอนอยู่ในกองเลือด จึงสู้ตายกับเขาอยู่แล้ว

ท่านปู่ชิวฝึกซ้อมกังฟูอย่างหนักตั้งแต่ตอนเด็ก สามารถบอกได้ว่ากังฟูในมือนั้นมีน้อยคนที่สามารถสู้ได้ ดังนั้น เขาก็ได้ฆ่าพี่น้องคนนั้นจนเสียชีวิตแล้วเช่นกัน สุดท้ายเหลือแค่ลูกที่ยังไม่ครบหนึ่งเดือน

ตอนแรกเขาก็เคยคิดที่ฆ่าเด็กคนนั้นทิ้งด้วยคน แต่อาจเป็นเพราะตอนนั้นเขาใจอ่อนแล้ว หรืออาจเป็นเพราะเขาคิดว่าแค่เด็กยังไม่ครบเดือนคนหนึ่งไม่เกิดความอันตรายต่อตัวเองหรอก ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจ จากไปอย่างเตาะแตะ

ในคืนนั้นก็เก็บของไปจากเมืองนั้นแล้ว ตั้งแต่นั้นมาเปลี่ยนหน้าตาใหม่ ไม่เคยพูดเรื่องอดีตนี้ขึ้นมาอีกเลย

จนกระทั่งหลังๆ มา ทั้งลูกสะใภ้และลูกชายสองคนของเขาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไป

ในตอนนั้นเขายังไม่ได้เอะใจอะไร เพราะว่าเขากับลูกชายไม่ได้อยู่ในเมืองเดียวกัน เขาดูศพแล้วก็ไม่พบปัญหาอะไร

และหลังจากนั้นต่อมา ก็คือการตายของหลานชายและภรรยาแล้ว

ครั้งนี้ เขากลับเจอปัญหาแล้ว

ถึงแม้พวกเขาตายจากอุบัติเหตุรถยนต์ แต่เขาพบว่าอุบัติเหตุรถยนต์นั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่คือฝีมือของคน

มีคนแอบทำอะไรบางอย่างกับรถของพวกเขา เพราะฉะนั้นเบรกของพวกเขาจึงล้มเหลว ชนราวออกไปด้วยความเร็วสูงบนทางด่วน กลิ้งลงไปใต้เนินเขา รถพังคนตาย

ตอนนั้นเขาก็ได้สงสัยขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้นำเรื่องนี้ไปโยงกับเรื่องหกสิบปีที่แล้วเรื่องนั้น

เพราะเขาคิดว่าเรื่องนั้นผ่านไปตั้งหลายปีมากแล้ว นอกจากฟ้าดินกับเขาที่รู้ ไม่มีใครคนไหนรู้อีกแล้ว

เด็กที่ไม่ครบเดือนคนนั้น ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีชีวิตอยู่รอดต่อหรือไม่ ถึงเขาอยู่รอดแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจำได้ว่าเขาเป็นคนฆ่าคน

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เคยนำเรื่องอุบัติเหตุรถยนต์ไปโยงกับเรื่องนั้นด้วยกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+