วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 431 จะฆ่าเธอ

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 431 จะฆ่าเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 431 จะฆ่าเธอ

ภายในใจลึกๆ ของเธอมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น

ดั่งที่คาด หลังจากที่โจวเหวินจงวางสายลง แล้วเดินมาหาเธอด้วยสีหน้าที่ร้ายกาจ

“คุณผู้หญิงลู่ คุณบอกว่าคุณไม่มีค่าเท่าหนึ่งพันล้าน คุณก็ดูถูกตัวเองจนเกินไปหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ว่าลู่จิ่งเซินใกล้ไปถึงแล้ว ตอนนี้ฉันพาคุณไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย แล้วถือโอกาสให้คุณดู ท่านประธานลู่ซื่อกรุ๊ป มันคลานอยู่ใต้แทบเท้าของฉันเหมือนหมาที่กำลังขอร้องอ้อนวอนฉัน! ฮ่าๆ!”

โจวเหวินจงพูดจบ ก็ไม่รู้ว่าไปเอาผ้าชำรุดหนึ่งผืนมาจากไหน แล้วเอามายัดปากของเธอไว้ จากนั้นก็ช้อนตัวเธอขึ้นแล้วเดินออกข้างนอก

จิ่งหนิงถูกอุดปากไว้ แล้วพูดอะไรไม่ออก แค่ทำเสียงอู้อี้ แล้วพยายามดิ้นรนสุดชีวิต

ทว่ากำลังของเธอสำหรับโจวเหวินจงแล้ว แทบจะไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง แล้วจับเธอและเอาเชือกมัดไว้ จากนั้นก็แขวนไว้เสาของเรือ ทั้งร่างของเธอเหมือนธงของเรือ แล้วกำลังลอยอยู่กลางอากาศ

"ฮือ……..ฮือ…….ฮือ…….."

โจวเหวินจงเงยหน้าจับจ้องจิ่งหนิงที่ทำหน้าตาดิ้นรนไม่หยุดอย่างไม่คลาดเคลื่อนสายตา สีหน้าของเขาเคล้าด้วยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม

"อย่ากลัวเลย! รอให้ได้เงิน แกค่อยส่งฉัน ฉันจะปล่อยแกลงมา! แกวางใจเถอะ ฉันแค่ขอเงิน ไม่ได้ต้องการจะทำร้ายแก ตอนนี้ต่อให้ฉันทำร้ายแก ก็นอกจากลู่จิ่งเซินไล่ฆ่าฉันไปทั่ว ไม่มีผลประโยชน์อย่างอื่น! "

โจวเหวินจงพูดขึ้น แล้วมองนาฬิกาข้อมือที่อยู่บนมือ "เขาใกล้จะมาถึงแล้ว! แกก็วาสนาให้การค้าขายของพวกเราผ่านไปอย่างราบรื่นเถอะ! "

และตอนนี้ ในอีกด้านหนึ่ง

มีรถทหารฮัมเมอร์ที่เขียวแกมดำจออยู่ข้างถนน ลู่จิ่งเซินนั่งอยู่ในรถ หัวเข่าของเขาวางโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องไว้ และกำลังทำงานอย่างคล่องแคล่ว

พอเปิดประตู เรือนร่างของซูมู่ก็ยื่นเข้ามาจากด้านนอก

"ท่านประธาน คนมาครบแล้ว"

ลู่จิ่งเซินทำสีหน้าที่เลือดเย็น ปลายนิ้วมือเคาะบนแป้นพิมพ์ด้วยความว่องไวและรวดเร็วมาก มีแผนที่ปรากฏ บนนั้นมีจุดสีแดงกะพริบขึ้นไม่หยุด

"จัดเตรียมให้ที่นี่เป็นจุดศูนย์กลาง ใต้น้ำ และครอบคลุมทั้งเรือนทุกลำที่อยู่รอบๆ! "

ซูมู่พยักหน้า แล้วดูลังเลเล็กน้อย "ท่านประธาน ท่านจะไปที่นี่คนเดียวจริงๆ หรอ? อันตรายเกินไปแล้ว! "

ลู่จิ่งเซินไม่ได้ตอบกลับเขา ซูมู่เห็นสถานการณ์นี้ จึงรู้ว่าเขาได้ทำการตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีอะไรน่าพูดถึงอีก แค่หันหลังไปทำธุระของตัวเอง

จี้หลินยวนจึงโทรหาเขาอีกครั้ง

"ลู่จิ่งเซิน ทางผมก็ได้จัดการทุกอย่างไว้แล้ว และรอฟังคำตอบตลอดเวลา"

"อืม" เขาพยักหน้าด้วยความนิ่งเฉย จากนั้นนิ่งงันไปสักพัก แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ "ขอบคุณมาก"

"เหอะ"

ฝ่ายตรงข้ามยิ้มสักพัก แล้วพูดอะไร วางสายลง

ลู่จิ่งเซินก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วก้าวลงจากรถ พลางเดินไปที่ท่าเรือ

บนเรือประมง

ร่างของจิ่งหนิงถูกแขวนไว้กลางอากาศ เชือกรัดตัวเขาไว้จนเหมือนถูกมีดเชือดคอ ดูทุกข์ทรมานมาก

เธอกัดฟัน ไม่ง่ายเลยที่จะคลายเศษผ้าที่อัดไว้ในปากออก แล้วถุยหนึ่งคำ จากนั้นก็มองโจวเหวินจงที่ดึงเชือกแล้วกำลังสูบบุหรี่ ทั้งเครียดทั้งหวาดกลัว

"โจวเหวินจง แกอย่าทำต่อไปนะ ต่อให้แกได้เงิน แต่เรือประมงลำชำรุดนี้ไม่มีทางพาแกหนีไปได้หรอก! การลักพาตัว อย่างน้องก็ถูกตัดสินคดีติดคุกสิบห้าปีขึ้นไป แกต้องคิดให้ดีๆ! ถ้าหากถูกจับแล้ว ไปมอบตัวตอนนี้ไม่ดีกว่าหรอ! "

โจวเหวินจงเงยหน้ามองเธอเพียงพริบตาด้วยความเย็นชา ภายใต้ท้องฟ้าตอนกลางคืน ก้นบุหรี่ที่จุดไฟคล้ายมีความสว่างคล้ายมีความมืดในขณะเดียวกัน ทำให้เขาแลดูโดดเดี่ยวและโหดเหี้ยม

"อย่าพูดมาก! แค่แกอยู่ในมือของฉัน อย่าว่าแต่เรือประมงชำรุดๆ ลำหนึ่งเลย ต่อให้เป็นแผ่นไม้หนึ่งแผ่น แกเชื่อไหมฉันก็จะพาแกหนีไปที่ไกลๆ เลย? "

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว "ไม่ใช่บอกแล้วว่าจะเอาของแลกเงินหรือไง? แกจะพาฉันไปทำไม? "

"แกเห็นว่าฉันโง่หรือไง! ถ้าเกิดลู่จิ่งเซินแอบซ่อนคนไว้รอบๆ แล้วจะทำยังไง? แกต้องส่งฉันไปที่ปลอดภัยก่อน ถึงเวลาฉันจะปล่อยแกอยู่แล้ว! "

"โจวเหวินจง แกทำเกินไปแล้ว ต่อให้เป็นผู้ลักพาตัว ก็ต้องมีคุณธรรมของอาชีพผู้ลักพาตัวหรือเปล่า! แกเอาเงินแล้วไม่ปล่อยคน ลู่จิ่งเซินต้องไม่มีทางยอมแน่นอน! "

แกปล่อยฉันไปตั้งแต่ตอนนี้เถอะ ฉันตกลง ฉันจะช่วยแกขอร้อง ฉันใช้ความเป็นคนของฉันรับประกัน! "

"แกจะพูดมากขนาดนี้ไปทำไม? "

โจวเหวินจงโยนก้นบุหรี่ออกไปอย่างค่อนข้างรู้สึกไม่พอใจ แล้วมองไปยังท้องฟ้าค่ำคืนที่อยู่ที่ไกลและกว้างใหญ่

ผ่านไปสักพัก มีแค่ร่างคนหนึ่งที่เดินมาจากที่ไกลๆ มุมปากของเขากระตุกความเลือดเย็นออกมา แล้วควักมือถือพลางพิมพ์ข้อความสั้นส่งออกไป "คนมาถึงแล้ว"

จิ่งหนิงยังคงเกลี้ยกล่อมโจวเหวินจง ถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ ทว่าต้องทำอะไรสักหน่อย ก็ยังถือว่าสามารถเบี่ยงความสนใจของตัวเอง จะได้ไม่ต้องทำให้รู้สึกทรมานขนาดนั้น

"โจวเหวินจง ไม่งั้นแกปล่อยฉันลงมาเถอะ! ฉันถูกแขวนไว้แบบนี้มันทรมาน!

ถ้าแกไม่ระวังพลั้งมือไปเลื่อนเชือกล่ะ ฉันไม่ใช่ว่าจะตกลงไปในน้ำแล้วกลายเป็นอาหารปลาหรอ?

น้ำที่นี่เชี่ยวขนาดนี้ ถ้าตกลงไปต้องไม่รอดชีวิตแน่นอน ถึงเวลาฉันเสียชีวิตไปก็คงไม่เป็นไร แต่แกต้องเหนื่อยฟรีๆ สุดท้ายไม่ได้เงินสักบาทแล้วยังต้องตายเป็นเพื่อนฉันอีก งั้นคงไม่คุ้มเกินไปแล้ว! "

โจวเหวินจงถูกเธอกล่อมหูจนอยากจะเอาสำลีมาอุดหูไว้

"โจวเหวินจง! แกได้ยินคำพูดที่ฉันพูดไหม? "

จิ่งหนิงตะโกนด้วยอย่างหมดเรี่ยวแรง

"ได้ยินแล้วๆ! "

สุดท้ายโจวเหวินจงก็อดทนไม่ไหว แล้วตะคอกใส่เธอ "หุบปาก! ผู้ชายของแกมาแล้ว เขาให้เงินฉัน ฉันต้องปล่อยแกลงมาอยู่แล้ว! "

จิ่งหนิงนิ่งงันไป

แล้วเงยหน้ามองไป เห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงท่าเรือจริงๆ

คือลู่จิ่งเซิน!

สีหน้าที่เธอซีดเซียวทันที

เวลานี้ สิ่งที่เธอนึกถึงเป็นอันดับแรกไม่ใช่ความปลอดภัยของตัวเอง แต่เป็นแผลบนร่างของเขา

บาดแผลที่หนักขนาดนั้น หลายวันก่อนเพิ่งจะหลุดพ้นจากอันตราย! หมอบอกว่าแม้แต่ลงจากเตียงยังไม่อนุญาตให้เขาขยับ ทำไมเขาถึงไม่สนใจชีวิตตัวเองแบบนี้ กลับวิ่งมาที่นี่ด้วยตัวเองจริงๆ?

นัยน์ตาของจิ่งหนิงผ่าวร้อนขึ้นมาทันที ภายในใจเหมือนถูกบีบ ทำให้รู้สึกปวดใจจวนจะขาดใจ

โจวเหวินจงทำสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมา แล้วจับเชือกไว้แน่นๆ รอให้ลู่จิ่งเซินขึ้นเรือมาเจรจา

ท่าเรือมีเรือลำเล็กเทียบอยู่หนึ่งลำ เขาออกคำสั่งลู่จิ่งเซินอย่างเสียงดังว่าให้ลู่จิ่งเซินนั่งเรือมา ตัวเองกลับไม่ได้เทียบท่า

ลู่จิ่งเซินก็ไม่ได้พูดอะไร ตัวเองนั่งเรือเล็กมาคนเดียว แล้วพายเรือไปฝั่งนี้

และในเวลานี้ หูฟังบลูทูธในหูของโจวเหวินจงส่งเสียงๆ หนึ่งมา

"ซุ่มโจมที! ฆ่าเขาเถอะ! "

ในมือถือมีแค่คำพูดนี้สั้นๆ โจวเหวินจงจึงเอ๋อไปทันที แล้วเงยหน้ามองจิ่งหนิงเพียงพริบตาเดียว จากนั้นก็หันไปมองลู่จิ่งเซินที่ยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้

"ไอ้สารเลว! "

จู่ๆ เขาก็ตวาดด้วยเสียงเข้ม จิ่งหนิงยังไม่ได้สติกลับมา กลางอากาศที่มืดมัวจึงมีเสียง "ปัง" ดังขึ้น

แค่เห็นโจวเหวินจงไม่รู้ว่าควักปืนหนึ่งกระบอกออกมาจากไหน แล้วยิงไปยังทิศทางที่ลู่จิ่งเซินอยู่ แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม "หยุดก่อน! อย่าเข้ามาใกล้! "

เรือเล็กของลู่จิ่งซินจอดอยู่ตรงนั้น

จิ่งหนิงชะงักไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!

"ฆ่าเธอ! "

ในหูฟังมีเสียงสั่งการอันเย็นชาส่งมาอีกครั้ง

จากนั้น โจวเหวินจงก็ทำนัยน์ตาที่เลือดเย็น กลับไม่ได้ยินฝั่งตรงข้ามพูด

และค่อยๆ ปล่อยเชือกลง ท่าทีของเขาค่อนข้างสั่นเทา สามารถมองออกว่าภายในใจรู้สึกหวาดกลัว

และจิ่งหนิงก็เห็นสีหน้าที่กระวนกระวายของเขา ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด