ศพ 226 สงครามเย็น

Now you are reading ศพ Chapter 226 สงครามเย็น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 226 สงครามเย็น

 

เมื่อเห็นบ้านที่ว่างเปล่าตัวผมก็เริ่มรู้สึกโทษตัวเองตอนมู่หลงเหยียนพูดประโยคสุดท้ายออกมาเหมือนเธอกําลังเสีย

 

ผมพูดแรงไปรึเปล่า

 

แม้ผมจะไม่อยากเป็นคนสํานักหู และไม่อยากเป็นลูกศิ ย์ของจิ้งจอก แต่ผมก็เป็นเหมือนที่มหลงเหยียนและอาจา รย์พูดเอาไว้ ถ้าผมเป็นชูหมาในอนาคตผมก็เป็นคนของเผ่า จิ้งจอก และได้รับการคุ้มครองจากจิ้งจอก

 

ไม่ใช่แคดีกับผม มันยัง ส่งผลดีต่อการกําจัดองค์กรตาผีและการกําจัดหมอผีชั่วในอนาคตด้วย

 

ผมสงบลงไม่น้อย หลังจากถอนหายใจออกมา ผมก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง

 

นอนมองเพดานที่มืดมิดเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่ผมก็หลับตานอนไม่ได้

 

เมื่อคิดถึงเรื่องในคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอาไก่ไปให้ถูกซ้อมเจอเย่เพิ่ง คารวะเชียนจิ้งจอกและสุดท้ายก็เรื่อง หลงเหยียนมาร้องไห้ต่อหน้าอาจารย์บอกให้ยอมเป็นชูหมา

ทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับมหลงเหยียน ในสมองของผมเต็มไปด้วยเรื่องของผีตนนี้

 

ผมทั้งเกลียดและไม่พอใจ แต่ผมกลับไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป

 

ผมโมโหมาก แต่เรื่องนี้ กลับไหลเข้ามาในสมองไม่หยุดผมอดคิดถึงมู่หลงเหยียนไม่ได้

 

แต่จะพูดว่าเกลียดขนาดไหน ผมกลับไม่ได้เกลียดเธอจริงๆ และเกลียดเธอไม่ลงด้วยซ้ํา

 

อารมณ์และความรู้สึกแปลกๆนี้ ทําให้ตัวเองนอนไม่หลับทั้งคืน

 

จนกระทั่งฟ้าใกล้สว่าง ผมถึงได้นอนหลับไปพักหนึ่ง

 

เช้าวันรุ่งขึ้นผมทําเหมือนเดิมทุกอย่าง ตื่นขึ้นมาจุดธูปให้มูหลงเหยียน

 

แต่ครั้งนี้ผมกลับเจอปัญหา ธูปในมือของผม ไม่ว่าจะทํายังไงมันก็จุดไม่ติด

 

ครั้งสองครั้งยังไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อครั้งสามครั้งสี่ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ

 

ทํางานในสายงานของพวกเรา ธูป เทียน เงินกระดาษพวกนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ส่งให้กับคนตาย

 

จู่ๆถ้าของพวกนี้เกิดความผิดปกติ เราก็ต้องคิดว่าอาจเป็นเพราะคนตายไม่ยอมรับมัน

 

ผมขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ มองที่ป้ายวิญญาณของมู่หลงเหยียน หลังจากนั้นก็จุดไปอีกสองสามครั้ง แต่มันยังเป็นเห มือนเดิม ผมยังจุดไม่ติด

 

อาจารย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อาจารย์ปูเห็นผมจุดธูปอยู่นานเขาจึงหันมาพูดกับผมว่า “ เสี่ยวฝาน เป็นอะไร”

 

“ อาจารย์ ธูปนี้ มันไม่ติดไฟ !” ผมพูดตามความจริง

 

เมื่ออาจารย์ได้ยิน เขากลับทําตาเบิกกว้าง เผยสีหน้าหนักใจออกมา

 

เขามองไปที่ป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียน หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา “ เฮ้ย ! ไอ้เด็กเวรนี่ เหมือนเมียแกจะยัง โกรธอยู่นะ เลิกจุดได้แล้วไปเอาผลไม้มาให้เมียแก แล้วก็ขอ โทษเธอซะ !”

 

“ อาจารย์ ผมไม่ได้ทําร้ายเธอนะ ! แล้วผมก็ไม่ผิดด้วย” ผมพูดต่อผมรู้สึกไม่พอใจ

 

แต่อาจารย์กลับโบกมือ “ ไม่ว่าแกจะเป็นคนผิดรึเปล่าแต่เมียแกก็ทําเพื่อแก พวกเรายังไม่ต้องพูดถึงเรื่องลูกศิษย์ พูดแค่เรื่องที่แกทําร้ายเมียไม่ว่าเมียแกจะเป็นคนหรือผี แกเป็นผู้ชาย จะไปทําร้ายผู้หญิงได้ยังไง”

 

อาจารย์เริ่มสอนผมอย่างจริงจัง แต่คําพูดพวกนี้กลับทําให้ผมอารมณ์เสีย

 

ผมทําร้ายมู่หลงเหยียนเหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันเหรอผมเคยทําร้ายผู้หลงเหยียนที่ไหนละ เมื่อคืนคนที่โด นทําร้ายน่ะผมต่างหากผมก็แค่ลวนลามเธอครั้งเดียว และ มันก็เป็นเพราะมูหลงเหยียนบังคับผมเอง

 

ดังนั้น ผมจะต้องอธิบายให้อาจารย์ฟังอย่างชัดเจน 

 

ผลลัพธ์อาจารย์กลับยื่นมือมาห้ามผม “ พูดมากไปก็เท่านั้น ตอนนี้เมียแกกําลังโมโห ทางที่ดีแกควรจะง้อเธอ แกน าจะเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกแก ถ้าเมียแกอยากจะทําอะ ไรแก อาจารย์ก็ช่วยแกไม่ได้นะ !”

 

เมื่อได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ ก๊ก ” รู้สึกเย็นวาบที่ขาทั้งสองข้าง

 

ผมพูดในใจว่าจบกัน ทําไมผมไม่คิดถึงเรื่องนี้นะ

 

มู่หลงเหยียนชอบขู่ผมบ่อยๆ ถ้าเธอต้องการทําอะไรผมจริงๆ ชีวิตหลังจากนี้ของผมคงไม่ได้ไปเดินเที่ยวที่เมืองไหนอี กแล้ว.

 

เมื่อคิดได้ผมก็ตัวสั่นทันที ผมไม่กล้าเถียงต่อ รีบกลืนน้ําลายแล้วยกมือขึ้นคารวะป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียน “ น้องศพ ! ฉันผิดเอง เธอหายโกรธเถอะนะฉันขอโทษ !”

 

หลังจากพูดจบ ผมยังหยิบกระดาษมาเผา

 

กระดาษติดไฟ แต่รูปยังคงไม่ไหม้

 

ผมเองก็ไม่ได้รอให้มู่หลงเหยียนตอบกลับ ผมเข้าใจดีมู่หลงเหยียนจะต้องโกรธอยู่

 

สิ่งที่ผมควรทําผมก็ทําแล้ว คําขอโทษผมก็พูดแล้วเรื่องชูหมาผมก็ยอมแล้ว ตอนนี้ผมทําได้เพียงรอให้มู่หลงเหยียน หายโกรธเท่านั้น

 

ดังนั้นในสองสามวันที่ผ่านมานี้ เมื่อผมมีเวลาว่างผมก็มักจะมาจุดธูปที่ป้ายวิญญาณตลอด ลองดูว่าสามารถ จุดได้ไหม

 

บางครั้งก็สามารถจุดได้ แต่หลังจุดได้ไม่นานมันก็ดับโดยอัตโนมัติ

 

อีกอย่างช่วงสองสามวันมานี้ ใจผมก็ไม่สงบมาโดยตลอดผมมักรู้สึกอารมณ์เสียบ่อยๆ

 

ผมคิดว่าจะไปที่ปาปุยหม่าดีไหม ไปพูดกับมู่หลงเหยียนด้วยตัวเอง แต่ผมกลับทิ้งศักดิ์ศรีที่ตัวเองมีไม่ได้

 

เวลาผ่านไปราวอาทิตย์นึงแล้ว ประมาณสี่ทุ่ม ผมกําลังนอนเล่นเกมออนไลค์อยู่บนเตียงกับเหล่าเพิ่งและหยางเฉ่ว !

 

แต่ทันใดนั้น ไฟในห้องก็กระพริบสองครั้ง “ พรีบพรีบ ” จากนั้นก็ดับลงทันที

 

ผมคิดว่าแค่ไฟดับธรรมดา ผมจึงไม่ได้สนใจ

 

แต่ทันใดนั้น นอกห้องกลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “ ก๊อกก๊อกก๊อก”

 

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ผมก็ตะโกนออกไปข้างนอกว่า * ใคร ! ”

 

ขณะที่พูด ผมก็ลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปที่ประตู 

 

เพราะพวกเราเปิดร้านขายของเกี่ยวกับงานศพ บางครั้งมักมีคนตายกลางดึก ครอบครัวก็จะมาซื้อธูป เทียน ก ระดาษเงินกระดาษทองอะไรพวกนั้น

 

แต่ผมเพิ่งเดินออกไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงแหบของยายแก่ดังขึ้น “ คุณผู้ชาย ยายเองเจ้าคะ !” 

 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผมก็ตกใจทันที

 

ยายโม่ ทําไมยายโม่มาหาผมดึกขนาดนี้

 

ผมไม่ได้ลังเล วางโทรศัพท์ลงแล้วรีบเปิดประตูทันที

 

ขณะที่เปิดประตูออก ยายโม่หลังโก่ง หน้ามีรอยย่น ในมือถือไม้เท้ามังกรก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าของผม

 

“ ยายโม่ ทําไมยายมาที่นี่ละ เชิญเข้ามาข้างในครับ !” ผมรีบพูด

 

แต่ยายโม่กลับหัวเราะ “ ฮี ” “ ไม่ได้เจ้าค่ะคุณผู้ชาย ข้าน้อยมาเพื่อพูดแทนคุณหนู !”

 

พูดแทน ป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียนก็อยู่ที่นี่ เมื่อก่อนเวลาจะพูดอะไรกับผมเธอก็พูดผ่านป้ายวิญญาณ ตอนนี้กลับใช้ ให้ยายโม่มาพูดแทนจะเห็นได้ว่ามู่หลงเหยียนยังโกรธ และ ไม่ยอมคุยกับผมตรงๆ

 

ผมเงียบไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาทันที “ ยายโม่เธอพูดอะไรเหรอครับ ”

 

“ คุณผู้ชาย คุณหนูให้ข้าน้อยมาบอกคุณว่า หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี ให้คุณเตรียมของเซ่นไหว้ไปที่ศาลเจ้า หลักเมือง เพื่อเจอคนสํานักหูเจ้าคะ !” ยายโม่พูดด้วยเสียง แหบแห้ง

 

“ สามวัน มันเร็วมากเลยนะครับ ” ผมพูดด้วย ความตกใจ

 

แต่ยายโม่กลับส่ายหน้า “ คุณผู้ชาย ครั้งนี้อย่าปฏิเสธความตั้งใจของคุณหนูเลยเจ้าค่ะ เพื่อเรื่องชูหมา คุณหนูถึง กับไปเขาจิ้งจอกด้วยตัวเองพบนางพญาจิ้งจอกชูหม่าครั้งนี้ นางพญาจิ้งจอกจะลงเขามารับศิษย์ด้วยตัวเองถ้าทําสําเร็จในอนาคตภายในอาณาเขตเฉินเซียนคุณจะได้รับการดูแลจากสํานักหู”

 

เมื่อได้ยินยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ

 

มู่หลงเหยียนไม่ได้กําลังโกรธผมอยู่เหรอแต่เธอกลับไปเขาจิ้งจอกด้วยตัวเอง เพื่อเชิญนางพญาจิ้งจอกมาทําพิธีชูหมาให้ผม

 

ผมรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไง

 

ยายโม่เห็นผมเงียบ เธอจึงหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” หลังจากนั้นก็แสดงสีหน้าหนักใจอีกครั้ง “ คุณผู้ชายข้าน้อยมีเรื่องอยากจะพูดแต่ไม่รู้ว่าควรพูดออกมาดีไหม !”

 

เมื่อเห็นยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็รีบพูดทันที “ ยายโม่มีอะ ไรก็พูดออกมาตรงๆเถอะครับผมแค่ฟังเท่านั้น !”

 

ยายโม่พยักหน้าเล็กน้อย “ คุณผู้ชาย ช่วงเวลาที่คุณหนู ก้าวผ่านมา เป็นเวลา 300 ปีเต็มๆในเมื่อคุณผู้ชายและคุณ หนูมีวาสนาต่อกัน ได้แต่งงานกันแล้ว ข้าน้อยก็หวังว่าคุณผู้ชายจะดูแลคุณหนูอย่างดี และข้าน้อยก็ดูออก ว่าอาการ บาดเจ็บที่คุณหนูได้รับ หลังจากแต่งงานกับคุณผู้ชาย…”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ศพ 226 สงครามเย็น

Now you are reading ศพ Chapter 226 สงครามเย็น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 226 สงครามเย็น

 

เมื่อเห็นบ้านที่ว่างเปล่าตัวผมก็เริ่มรู้สึกโทษตัวเองตอนมู่หลงเหยียนพูดประโยคสุดท้ายออกมาเหมือนเธอกําลังเสีย

 

ผมพูดแรงไปรึเปล่า

 

แม้ผมจะไม่อยากเป็นคนสํานักหู และไม่อยากเป็นลูกศิ ย์ของจิ้งจอก แต่ผมก็เป็นเหมือนที่มหลงเหยียนและอาจา รย์พูดเอาไว้ ถ้าผมเป็นชูหมาในอนาคตผมก็เป็นคนของเผ่า จิ้งจอก และได้รับการคุ้มครองจากจิ้งจอก

 

ไม่ใช่แคดีกับผม มันยัง ส่งผลดีต่อการกําจัดองค์กรตาผีและการกําจัดหมอผีชั่วในอนาคตด้วย

 

ผมสงบลงไม่น้อย หลังจากถอนหายใจออกมา ผมก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง

 

นอนมองเพดานที่มืดมิดเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่ผมก็หลับตานอนไม่ได้

 

เมื่อคิดถึงเรื่องในคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอาไก่ไปให้ถูกซ้อมเจอเย่เพิ่ง คารวะเชียนจิ้งจอกและสุดท้ายก็เรื่อง หลงเหยียนมาร้องไห้ต่อหน้าอาจารย์บอกให้ยอมเป็นชูหมา

ทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับมหลงเหยียน ในสมองของผมเต็มไปด้วยเรื่องของผีตนนี้

 

ผมทั้งเกลียดและไม่พอใจ แต่ผมกลับไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป

 

ผมโมโหมาก แต่เรื่องนี้ กลับไหลเข้ามาในสมองไม่หยุดผมอดคิดถึงมู่หลงเหยียนไม่ได้

 

แต่จะพูดว่าเกลียดขนาดไหน ผมกลับไม่ได้เกลียดเธอจริงๆ และเกลียดเธอไม่ลงด้วยซ้ํา

 

อารมณ์และความรู้สึกแปลกๆนี้ ทําให้ตัวเองนอนไม่หลับทั้งคืน

 

จนกระทั่งฟ้าใกล้สว่าง ผมถึงได้นอนหลับไปพักหนึ่ง

 

เช้าวันรุ่งขึ้นผมทําเหมือนเดิมทุกอย่าง ตื่นขึ้นมาจุดธูปให้มูหลงเหยียน

 

แต่ครั้งนี้ผมกลับเจอปัญหา ธูปในมือของผม ไม่ว่าจะทํายังไงมันก็จุดไม่ติด

 

ครั้งสองครั้งยังไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อครั้งสามครั้งสี่ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ

 

ทํางานในสายงานของพวกเรา ธูป เทียน เงินกระดาษพวกนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ส่งให้กับคนตาย

 

จู่ๆถ้าของพวกนี้เกิดความผิดปกติ เราก็ต้องคิดว่าอาจเป็นเพราะคนตายไม่ยอมรับมัน

 

ผมขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ มองที่ป้ายวิญญาณของมู่หลงเหยียน หลังจากนั้นก็จุดไปอีกสองสามครั้ง แต่มันยังเป็นเห มือนเดิม ผมยังจุดไม่ติด

 

อาจารย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อาจารย์ปูเห็นผมจุดธูปอยู่นานเขาจึงหันมาพูดกับผมว่า “ เสี่ยวฝาน เป็นอะไร”

 

“ อาจารย์ ธูปนี้ มันไม่ติดไฟ !” ผมพูดตามความจริง

 

เมื่ออาจารย์ได้ยิน เขากลับทําตาเบิกกว้าง เผยสีหน้าหนักใจออกมา

 

เขามองไปที่ป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียน หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา “ เฮ้ย ! ไอ้เด็กเวรนี่ เหมือนเมียแกจะยัง โกรธอยู่นะ เลิกจุดได้แล้วไปเอาผลไม้มาให้เมียแก แล้วก็ขอ โทษเธอซะ !”

 

“ อาจารย์ ผมไม่ได้ทําร้ายเธอนะ ! แล้วผมก็ไม่ผิดด้วย” ผมพูดต่อผมรู้สึกไม่พอใจ

 

แต่อาจารย์กลับโบกมือ “ ไม่ว่าแกจะเป็นคนผิดรึเปล่าแต่เมียแกก็ทําเพื่อแก พวกเรายังไม่ต้องพูดถึงเรื่องลูกศิษย์ พูดแค่เรื่องที่แกทําร้ายเมียไม่ว่าเมียแกจะเป็นคนหรือผี แกเป็นผู้ชาย จะไปทําร้ายผู้หญิงได้ยังไง”

 

อาจารย์เริ่มสอนผมอย่างจริงจัง แต่คําพูดพวกนี้กลับทําให้ผมอารมณ์เสีย

 

ผมทําร้ายมู่หลงเหยียนเหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันเหรอผมเคยทําร้ายผู้หลงเหยียนที่ไหนละ เมื่อคืนคนที่โด นทําร้ายน่ะผมต่างหากผมก็แค่ลวนลามเธอครั้งเดียว และ มันก็เป็นเพราะมูหลงเหยียนบังคับผมเอง

 

ดังนั้น ผมจะต้องอธิบายให้อาจารย์ฟังอย่างชัดเจน 

 

ผลลัพธ์อาจารย์กลับยื่นมือมาห้ามผม “ พูดมากไปก็เท่านั้น ตอนนี้เมียแกกําลังโมโห ทางที่ดีแกควรจะง้อเธอ แกน าจะเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกแก ถ้าเมียแกอยากจะทําอะ ไรแก อาจารย์ก็ช่วยแกไม่ได้นะ !”

 

เมื่อได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ ก๊ก ” รู้สึกเย็นวาบที่ขาทั้งสองข้าง

 

ผมพูดในใจว่าจบกัน ทําไมผมไม่คิดถึงเรื่องนี้นะ

 

มู่หลงเหยียนชอบขู่ผมบ่อยๆ ถ้าเธอต้องการทําอะไรผมจริงๆ ชีวิตหลังจากนี้ของผมคงไม่ได้ไปเดินเที่ยวที่เมืองไหนอี กแล้ว.

 

เมื่อคิดได้ผมก็ตัวสั่นทันที ผมไม่กล้าเถียงต่อ รีบกลืนน้ําลายแล้วยกมือขึ้นคารวะป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียน “ น้องศพ ! ฉันผิดเอง เธอหายโกรธเถอะนะฉันขอโทษ !”

 

หลังจากพูดจบ ผมยังหยิบกระดาษมาเผา

 

กระดาษติดไฟ แต่รูปยังคงไม่ไหม้

 

ผมเองก็ไม่ได้รอให้มู่หลงเหยียนตอบกลับ ผมเข้าใจดีมู่หลงเหยียนจะต้องโกรธอยู่

 

สิ่งที่ผมควรทําผมก็ทําแล้ว คําขอโทษผมก็พูดแล้วเรื่องชูหมาผมก็ยอมแล้ว ตอนนี้ผมทําได้เพียงรอให้มู่หลงเหยียน หายโกรธเท่านั้น

 

ดังนั้นในสองสามวันที่ผ่านมานี้ เมื่อผมมีเวลาว่างผมก็มักจะมาจุดธูปที่ป้ายวิญญาณตลอด ลองดูว่าสามารถ จุดได้ไหม

 

บางครั้งก็สามารถจุดได้ แต่หลังจุดได้ไม่นานมันก็ดับโดยอัตโนมัติ

 

อีกอย่างช่วงสองสามวันมานี้ ใจผมก็ไม่สงบมาโดยตลอดผมมักรู้สึกอารมณ์เสียบ่อยๆ

 

ผมคิดว่าจะไปที่ปาปุยหม่าดีไหม ไปพูดกับมู่หลงเหยียนด้วยตัวเอง แต่ผมกลับทิ้งศักดิ์ศรีที่ตัวเองมีไม่ได้

 

เวลาผ่านไปราวอาทิตย์นึงแล้ว ประมาณสี่ทุ่ม ผมกําลังนอนเล่นเกมออนไลค์อยู่บนเตียงกับเหล่าเพิ่งและหยางเฉ่ว !

 

แต่ทันใดนั้น ไฟในห้องก็กระพริบสองครั้ง “ พรีบพรีบ ” จากนั้นก็ดับลงทันที

 

ผมคิดว่าแค่ไฟดับธรรมดา ผมจึงไม่ได้สนใจ

 

แต่ทันใดนั้น นอกห้องกลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “ ก๊อกก๊อกก๊อก”

 

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ผมก็ตะโกนออกไปข้างนอกว่า * ใคร ! ”

 

ขณะที่พูด ผมก็ลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปที่ประตู 

 

เพราะพวกเราเปิดร้านขายของเกี่ยวกับงานศพ บางครั้งมักมีคนตายกลางดึก ครอบครัวก็จะมาซื้อธูป เทียน ก ระดาษเงินกระดาษทองอะไรพวกนั้น

 

แต่ผมเพิ่งเดินออกไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงแหบของยายแก่ดังขึ้น “ คุณผู้ชาย ยายเองเจ้าคะ !” 

 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผมก็ตกใจทันที

 

ยายโม่ ทําไมยายโม่มาหาผมดึกขนาดนี้

 

ผมไม่ได้ลังเล วางโทรศัพท์ลงแล้วรีบเปิดประตูทันที

 

ขณะที่เปิดประตูออก ยายโม่หลังโก่ง หน้ามีรอยย่น ในมือถือไม้เท้ามังกรก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าของผม

 

“ ยายโม่ ทําไมยายมาที่นี่ละ เชิญเข้ามาข้างในครับ !” ผมรีบพูด

 

แต่ยายโม่กลับหัวเราะ “ ฮี ” “ ไม่ได้เจ้าค่ะคุณผู้ชาย ข้าน้อยมาเพื่อพูดแทนคุณหนู !”

 

พูดแทน ป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียนก็อยู่ที่นี่ เมื่อก่อนเวลาจะพูดอะไรกับผมเธอก็พูดผ่านป้ายวิญญาณ ตอนนี้กลับใช้ ให้ยายโม่มาพูดแทนจะเห็นได้ว่ามู่หลงเหยียนยังโกรธ และ ไม่ยอมคุยกับผมตรงๆ

 

ผมเงียบไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาทันที “ ยายโม่เธอพูดอะไรเหรอครับ ”

 

“ คุณผู้ชาย คุณหนูให้ข้าน้อยมาบอกคุณว่า หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี ให้คุณเตรียมของเซ่นไหว้ไปที่ศาลเจ้า หลักเมือง เพื่อเจอคนสํานักหูเจ้าคะ !” ยายโม่พูดด้วยเสียง แหบแห้ง

 

“ สามวัน มันเร็วมากเลยนะครับ ” ผมพูดด้วย ความตกใจ

 

แต่ยายโม่กลับส่ายหน้า “ คุณผู้ชาย ครั้งนี้อย่าปฏิเสธความตั้งใจของคุณหนูเลยเจ้าค่ะ เพื่อเรื่องชูหมา คุณหนูถึง กับไปเขาจิ้งจอกด้วยตัวเองพบนางพญาจิ้งจอกชูหม่าครั้งนี้ นางพญาจิ้งจอกจะลงเขามารับศิษย์ด้วยตัวเองถ้าทําสําเร็จในอนาคตภายในอาณาเขตเฉินเซียนคุณจะได้รับการดูแลจากสํานักหู”

 

เมื่อได้ยินยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ

 

มู่หลงเหยียนไม่ได้กําลังโกรธผมอยู่เหรอแต่เธอกลับไปเขาจิ้งจอกด้วยตัวเอง เพื่อเชิญนางพญาจิ้งจอกมาทําพิธีชูหมาให้ผม

 

ผมรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไง

 

ยายโม่เห็นผมเงียบ เธอจึงหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” หลังจากนั้นก็แสดงสีหน้าหนักใจอีกครั้ง “ คุณผู้ชายข้าน้อยมีเรื่องอยากจะพูดแต่ไม่รู้ว่าควรพูดออกมาดีไหม !”

 

เมื่อเห็นยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็รีบพูดทันที “ ยายโม่มีอะ ไรก็พูดออกมาตรงๆเถอะครับผมแค่ฟังเท่านั้น !”

 

ยายโม่พยักหน้าเล็กน้อย “ คุณผู้ชาย ช่วงเวลาที่คุณหนู ก้าวผ่านมา เป็นเวลา 300 ปีเต็มๆในเมื่อคุณผู้ชายและคุณ หนูมีวาสนาต่อกัน ได้แต่งงานกันแล้ว ข้าน้อยก็หวังว่าคุณผู้ชายจะดูแลคุณหนูอย่างดี และข้าน้อยก็ดูออก ว่าอาการ บาดเจ็บที่คุณหนูได้รับ หลังจากแต่งงานกับคุณผู้ชาย…”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+