ศพ 390 สถานการณ์เลวร้าย

Now you are reading ศพ Chapter 390 สถานการณ์เลวร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 390 สถานการณ์เลวร้าย

ขณะมองมือที่โดนเผาของตัวเอง หน้าจางจีเทาก็ดูบิดเบี้ยวสุดๆ

“สมควรตาย อาวุธบ้าอะไรของแกฮะ !” จางจีเทาตะคอกออกมา

เหล่าเฟิงกลับเค้นเสียงดัง ฮี “กระจกแปดทิศ เอาไว้สู้กับพวกชั่วอย่างพวกแกโดยเฉพาะ !”

พอพูดจบ เหล่าเฟิงก็ถือกระจกแปดทิศเอาไว้ในมือ ทําท่าจะโจมตีอีกรอบ

แต่ผมรู้ดี กระจกแปดทิศอันนี้เป็นอาวุธที่เหล่าเฟิงเอาไว้ใช้ปกป้องตัวเองตอนพี่เฟิงไม่ออกมา

และเวลาใช้อาวุธชิ้นนี้ มันก็กินพลังสุดๆ

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เหล่าเฟิงใช้มันไปหลายครั้งแล้ว

พูดอีกอย่างคือ พลังของเหล่าเฟิงเหลือไม่มากแล้ว แม้ตอนนี้จะดูสงบนิ่ง แต่ก็ใกล้ถึงขีดจํากัดแล้ว

ส่วนทางด้านมู่หลงเหยียน ตอนนี้กําลังต่อสู้อย่างยากลําบาก

นักพรตกุ่ย ยัยป้าคนสวย คราวนี้เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อเล่นงานเรา มีการเตรียมการเอาไว้ก่อน แล้ว

และคํานวณเอาไว้อย่างดีแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านจํานวนหรือพลัง คราวนี้พวกเราก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทั้งนั้น

สถานการณ์แย่มาก หากคิดจะหนีในเวลานี้ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก วงนอกแทบจะมีแต่พวกผีไม่มีทางให้เดินได้เลยสักนิด

“กระจกแปดทิศงั้นเหรอ ? วันนี้ข้าจะทําลายมันให้ไม่เหลือชิ้นดี !” จางจีเทาตะคอก ในขณะเดียวกันก็แลบลิ้นที่แดงและยาว เลียมือที่โดนเผาข้างนั้นของตัวเอง

จากนั้นก็ถลึงตา ออกคําสั่งกับพวกสัตว์ประห าดไม่กี่ตัวที่อยู่ข้างๆเขา “ไปฉีกกระชากพวกมันซะ !”

เสียงเพิ่งดังขึ้น สัตว์ประหลาดพวกนั้นก็หันมาจองพวกเราอย่างดุร้าย

ต่อจากนั้น พวกมันก็กรีดร้องออกมา แล้วพุ่งเข้ามาหาพวกเราทันที

ไม่เพียงแค่นั้น ผีร้ายที่อยู่รอบๆ ก็เข้ามาล้อมพวกเราในเวลานี้ด้วย

พลังน้อยนิดของผมและเหล่าเฟิง สู้กับศัตรูตัวสองตัวยังพอว่า สามห้าตัวนี่คือถึงขีดจํากัดของพวกเราแล้ว

แต่ตอนนี้ เรากําลังเผชิญหน้ากับผีร้าย และ สัตว์ประหลาดจํานวนมหาศาล ผมสองคนสู้ไม่ไหวจริงๆ

เราไม่อยากตาย และไม่อยากโดนจับ ไม่อยากกลายเป็นทาสผีของพวกมัน และยิ่งไม่อยากร้องขอชีวิต

ดังนั้น พวกเราเลยได้แต่กัดฟันเตรียมสู้เท่านั้น

เหล่าเฟิงทําหน้าเข้ม เขาหยิบยาเม็ดสีดําขึ้นมา ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

วินาทีนั้นเขาไม่ได้ลังเลกลืนยาลงไปทันที

ในเวลาเดียวกันก็ประสานมือ ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง ก็ตบไปที่หน้าอกของตัวเอง “หานเฉ่วเฟิง นายมัวทําอะไรอยู่ รีบตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ !”

เสียงเพิ่งเงียบลง บนร่างของเหล่าเฟิงก็มีลมหายใจของใครอีกคนปรากฏขึ้น

พลังหยินที่ทรงพลังระเบิดออกมา ผมเข้าใจดี นี่คือวิญญาณดวงที่สองในร่างเหล่าเฟิง พี่ชายแท้ๆของเขา

หานเฉ่วเฟิง

ในขณะที่พลังหยินระเบิดตัว ตัวเหล่าเฟิงก็สั่นเล็กน้อย

ภายใต้ดวงตาสวรรค์ มีร่างคนสีขาวโผล่ออกมาจากหัวเหล่าเฟิง

ต่อจากนั้น ผมก็เห็นร่างของผู้ชายชุดขาวล่วงลงข้างๆ

เขาไม่ใช่ใครอื่น เขากคือพี่เฟิง หานเฉ่วเฟิงนั่นเอง

ไม่รอให้พี่เฟิงได้พูด ผีร้าย และสัตว์ประหลาด พวกนั้นก็พุ่งเข้ามาแล้ว

ผมรีบสั่นกระดิ่งสยบพวกมัน ในเวลาเดียวกันก็กวาดแกว่งเก้าอี้ต้านพวกมันเอาไว้

เหล่าเฟิงเองก็ทําแบบเดียวกัน พยายามปัดป้องอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเพราะพี่เฟิงกําลังหลับอยู่ เขาแทบไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นผีร้ายพวกมันพุ่งเข้ามา เขาก็ยังพูดขึ้นมาอย่างไม่ใยดี

“ไปตายซะไอ้พวกบ้า !”

พลังของพี่เฟิงสูงกว่าพวกเราหนึ่งขั้น หรือเทียบได้กับนักพรตตู๋และยัยป้าคนสวย

ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับผีร้ายชั้นต่ําพวกนี้ เขาก็ต้องมีแรงบดขยี้อยู่แล้ว

พี่เฟิงโบกมือ ทันใดนั้นผีร้ายสามตนก็ล้มกลิ้งลงไปกับพื้นทันที

จากนั้นก็ตามด้วยการเตะ สัตว์ประหลาดสี่ขาตนหนึ่ง โดนเตะออกไปไกลถึงสามเมตร

พี่เพิ่งทําหน้าเข้ม ไม่ทําหน้าเลื่อยเฉื่อยเหมือน เมื่อก่อนแล้ว

“เจ้าขยะ เกิดอะไรขึ้น ? ทําไมมีผีร้ายเยอะขนาดนี้ฮะ ? ไปกระโดดเข้ารังผีมาหรือไง ?” น้ําเสียงจริงจัง

พี่เฟิงพูดด้วยความสงสัย

เหล่าเฟิงสู้ไปพูดไป “พวกศัตรูเก่ามาหาเรื่อง”

“ สุดยอด ! คราวนี้จัดการยากแฮะ ! ฉันจะถ่วง เวลาพวกมันเอาไว้ พวกแกสองคนหาโอกาสหนีไปเลยนะ

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่มีใครรอดแน่ ! ” พี่เฟิงพูดต่อ ในขณะเดียวกันก็ต้านการโจมตีของพวกผีร้ายอย่างต่อเนื่อง

คําพูดนี้มู่หลงเหยียนก็เคยพูดเหมือนกัน และพวกเราก็คิดแบบนั้น

แต่อีกฝ่ายมีจํานวนเยอะมาก พวกเราหาโอกาสไม่ได้จริงๆ

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะการปรากฏตัวของพี่เฟิง ผมและเหล่าเฟิงก็คงโดนรุมฆ่าจนตายไปแล้ว

“ หนึงั้นเหรอ ? วันนี้พวกแกไม่ว่าใครก็ต้องตายอย่าคิดว่าจะหนีไปได้สักคน ! วิญญาณคู่แบบพวกแก

เหมาะเอาไปเป็นตัวทดลองให้องค์กรพอดี !” ขณะพูดอย่างเย็นชา จางจีเทาก็เริ่มประสานมือ

ตอมผมเห็นจางจีเทาประสานมือท่านั้น ผมก็ตัวเย็นวาบทันที นี่มันท่าประสานมือวิชาควบคุมผี

ตอนนั้นที่โรงงานร้าง จางจีเทาก็ใช้ประโยชน์จากวิชานี้

เรียกผีที่อยู่รอบๆออกมา ทําให้กลายเป็นวิญญาณร้าย แล้วสุดท้ายก็ช่วยให้มันหนีไปได้

ตอนนี้ที่นี่มีผีร้ายเยอะพออยู่แล้ว ถ้ายังมาเพิ่มอีก เราจะยังสู้ได้กะผีนะซิ !

พอคิดได้แบบนี้ ผมก็รีบพูดออกมาทันที “จะให้มันเสกคาถาจบไม่ได้ !”

หลังจากพูดจบ ผมก็คิดจะพุ่งไปข้างหน้า เพื่อหยุดจางจีเทาเอาไว้

แต่ความสามารถของผมมีจํากัด ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ถึงผมจะพุ่งออกไป อย่างไม่คิดชีวิต

แต่สุดท้ายก็ยังทําตามที่คิดไม่ได้

พี่เฟิงร้ายกาจกว่าหน่อย พลังก็เยอะกว่า

แต่ถึงจะเป็นเขา ก็หาทางเข้าใกล้จางจีเทาไม่ได้

สิ่งที่ขวางอยู่ข้างหน้าผม หากพูดให้มันดูน้อยหน่อยก็มีผีอยู่สิบกว่าตัวไม่อาจเข้าไปถึงได้ในระยะเวลาสั้นๆ

แต่มือของจางจีเทา กลับเสกคาถาเสร็จแล้ว และเขากําลังพูดขึ้นมาว่า “ วิชาควบคุมผี ผีชั่วทั้งสิบทิศ

จงฟังคําสั่งข้า ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง !”

เสียงเพิ่งดังขึ้น แสงสีดํากระเบิดออก ธงสีดําปรากฎขึ้น มันพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ห่างจากหัวจางจีเทาประมาณสองเมตร

ในขณะที่ธงเริ่มทํางาน มันก็ปล่อยคลื่นพลังจํานวนมหาศาลออกมา

ผ่านไปแค่วินาทีเดียว จู่ๆธงผืนนั้นก็ระเบิด กลายเป็นหมอกดํา และกระจายไปรอบๆทิศ

แต่เพียงแค่วินาทีเดียวนั้น จู่ๆรอบๆก็มีสายลมที่เยือกเย็นพัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ต่อจากนั้น ทั้งสองฝั่งถนน ก็มีเริ่มมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น

เสี้ยววินาทีต่อมาปลายถนนทั้งสองด้าน ก็มีผีหน้าขาวลอยเข้ามา

การเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วมาก จํานวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

หนึ่งตัว สองตัว สามตัว จนกระทั่งถึงตัวที่สิบตัวผมก็แข็งที่อทันที

จบกัน ตอนนี้โดนล้อมจนหนีไม่ได้แล้ว ในเวลาแบบนี้ยังมีผีร้ายเพิ่มมาอีกสิบตัว พวกเราคงรอดยากแล้ว

หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ผมไม่เคยเจอสถานการณ์ที่แย่แบบนี้มาก่อน

ผมใช้ไปเกือบทุกวิถีทางแล้ว ถึงจะเรียกน้องศพออกมา แต่ก็ยังไม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้

สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่านั้นคือ ในขณะที่ผมกําลังคิดไม่ตก ทางมู่หลงเหยียนก็มีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้น

แม้มู่หลงเหยียนจะไม่ได้มาด้วยร่างจริง แต่พลังก็อยู่ในขั้นเต้าจวิน เป็นพลังที่น่าหวั่นเกรง

แต่ตอนนี้ เธอกลับโดนฝ่ามือของยัยแก่เข้าที่หน้าอก

มู่หลงเหยียนกรีดร้องขึ้นมาทันที แล้วทันใดนั้น ตัวเธอก็กระเด็นออกไป
ผมเห็นฉากนี้เข้าโดยบังเอิญ หน้าผมเปลี่ยนสีม่านตาเบิกกว้างในทันตา “น้องศพ !”

หลังจากพูดจบ ผมก็พุ่งเข้าไปแบบแทบไม่คิดชีวิตเลยก็ว่าได้

ดูเหมือนผมจะอยู่ห่างจากมู่หลงเหยียนไม่ไกล หลังจากล้มผีร้ายสองตัวได้แล้ว ผมก็มาถึงตรงหน้า

มู่หลงเหยียน

ส่วนมู่หลงเหยียน จู่ๆร่างจิตของเธอเดี๋ยวก็ สว่างเดี๋ยวก็ดับวูบนี่ นี่มันเป็นสัญญาณก่อนร่างจะหายไปไม่ใช่เหรอ

ถ้ามู่หลงเหยียนหายไปจริงๆ ในสถานการณ์ แบบนี้ ใครจะต้านกุยซานหยวนและยัยป้าคนสวยนั่นไหวละ

พอถึงตอนนั้น ถึงจะไม่มีผีร้ายหลายสิบตัวเข้ามาเกี่ยว เพียงสู้กับหมอผีชั่วสองตนนี้ ในหมู่พวก เราก็ไม่มีใครสู้ไหวแล้ว…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ศพ 390 สถานการณ์เลวร้าย

Now you are reading ศพ Chapter 390 สถานการณ์เลวร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 390 สถานการณ์เลวร้าย

ขณะมองมือที่โดนเผาของตัวเอง หน้าจางจีเทาก็ดูบิดเบี้ยวสุดๆ

“สมควรตาย อาวุธบ้าอะไรของแกฮะ !” จางจีเทาตะคอกออกมา

เหล่าเฟิงกลับเค้นเสียงดัง ฮี “กระจกแปดทิศ เอาไว้สู้กับพวกชั่วอย่างพวกแกโดยเฉพาะ !”

พอพูดจบ เหล่าเฟิงก็ถือกระจกแปดทิศเอาไว้ในมือ ทําท่าจะโจมตีอีกรอบ

แต่ผมรู้ดี กระจกแปดทิศอันนี้เป็นอาวุธที่เหล่าเฟิงเอาไว้ใช้ปกป้องตัวเองตอนพี่เฟิงไม่ออกมา

และเวลาใช้อาวุธชิ้นนี้ มันก็กินพลังสุดๆ

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เหล่าเฟิงใช้มันไปหลายครั้งแล้ว

พูดอีกอย่างคือ พลังของเหล่าเฟิงเหลือไม่มากแล้ว แม้ตอนนี้จะดูสงบนิ่ง แต่ก็ใกล้ถึงขีดจํากัดแล้ว

ส่วนทางด้านมู่หลงเหยียน ตอนนี้กําลังต่อสู้อย่างยากลําบาก

นักพรตกุ่ย ยัยป้าคนสวย คราวนี้เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อเล่นงานเรา มีการเตรียมการเอาไว้ก่อน แล้ว

และคํานวณเอาไว้อย่างดีแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านจํานวนหรือพลัง คราวนี้พวกเราก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทั้งนั้น

สถานการณ์แย่มาก หากคิดจะหนีในเวลานี้ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก วงนอกแทบจะมีแต่พวกผีไม่มีทางให้เดินได้เลยสักนิด

“กระจกแปดทิศงั้นเหรอ ? วันนี้ข้าจะทําลายมันให้ไม่เหลือชิ้นดี !” จางจีเทาตะคอก ในขณะเดียวกันก็แลบลิ้นที่แดงและยาว เลียมือที่โดนเผาข้างนั้นของตัวเอง

จากนั้นก็ถลึงตา ออกคําสั่งกับพวกสัตว์ประห าดไม่กี่ตัวที่อยู่ข้างๆเขา “ไปฉีกกระชากพวกมันซะ !”

เสียงเพิ่งดังขึ้น สัตว์ประหลาดพวกนั้นก็หันมาจองพวกเราอย่างดุร้าย

ต่อจากนั้น พวกมันก็กรีดร้องออกมา แล้วพุ่งเข้ามาหาพวกเราทันที

ไม่เพียงแค่นั้น ผีร้ายที่อยู่รอบๆ ก็เข้ามาล้อมพวกเราในเวลานี้ด้วย

พลังน้อยนิดของผมและเหล่าเฟิง สู้กับศัตรูตัวสองตัวยังพอว่า สามห้าตัวนี่คือถึงขีดจํากัดของพวกเราแล้ว

แต่ตอนนี้ เรากําลังเผชิญหน้ากับผีร้าย และ สัตว์ประหลาดจํานวนมหาศาล ผมสองคนสู้ไม่ไหวจริงๆ

เราไม่อยากตาย และไม่อยากโดนจับ ไม่อยากกลายเป็นทาสผีของพวกมัน และยิ่งไม่อยากร้องขอชีวิต

ดังนั้น พวกเราเลยได้แต่กัดฟันเตรียมสู้เท่านั้น

เหล่าเฟิงทําหน้าเข้ม เขาหยิบยาเม็ดสีดําขึ้นมา ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

วินาทีนั้นเขาไม่ได้ลังเลกลืนยาลงไปทันที

ในเวลาเดียวกันก็ประสานมือ ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง ก็ตบไปที่หน้าอกของตัวเอง “หานเฉ่วเฟิง นายมัวทําอะไรอยู่ รีบตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ !”

เสียงเพิ่งเงียบลง บนร่างของเหล่าเฟิงก็มีลมหายใจของใครอีกคนปรากฏขึ้น

พลังหยินที่ทรงพลังระเบิดออกมา ผมเข้าใจดี นี่คือวิญญาณดวงที่สองในร่างเหล่าเฟิง พี่ชายแท้ๆของเขา

หานเฉ่วเฟิง

ในขณะที่พลังหยินระเบิดตัว ตัวเหล่าเฟิงก็สั่นเล็กน้อย

ภายใต้ดวงตาสวรรค์ มีร่างคนสีขาวโผล่ออกมาจากหัวเหล่าเฟิง

ต่อจากนั้น ผมก็เห็นร่างของผู้ชายชุดขาวล่วงลงข้างๆ

เขาไม่ใช่ใครอื่น เขากคือพี่เฟิง หานเฉ่วเฟิงนั่นเอง

ไม่รอให้พี่เฟิงได้พูด ผีร้าย และสัตว์ประหลาด พวกนั้นก็พุ่งเข้ามาแล้ว

ผมรีบสั่นกระดิ่งสยบพวกมัน ในเวลาเดียวกันก็กวาดแกว่งเก้าอี้ต้านพวกมันเอาไว้

เหล่าเฟิงเองก็ทําแบบเดียวกัน พยายามปัดป้องอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเพราะพี่เฟิงกําลังหลับอยู่ เขาแทบไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นผีร้ายพวกมันพุ่งเข้ามา เขาก็ยังพูดขึ้นมาอย่างไม่ใยดี

“ไปตายซะไอ้พวกบ้า !”

พลังของพี่เฟิงสูงกว่าพวกเราหนึ่งขั้น หรือเทียบได้กับนักพรตตู๋และยัยป้าคนสวย

ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับผีร้ายชั้นต่ําพวกนี้ เขาก็ต้องมีแรงบดขยี้อยู่แล้ว

พี่เฟิงโบกมือ ทันใดนั้นผีร้ายสามตนก็ล้มกลิ้งลงไปกับพื้นทันที

จากนั้นก็ตามด้วยการเตะ สัตว์ประหลาดสี่ขาตนหนึ่ง โดนเตะออกไปไกลถึงสามเมตร

พี่เพิ่งทําหน้าเข้ม ไม่ทําหน้าเลื่อยเฉื่อยเหมือน เมื่อก่อนแล้ว

“เจ้าขยะ เกิดอะไรขึ้น ? ทําไมมีผีร้ายเยอะขนาดนี้ฮะ ? ไปกระโดดเข้ารังผีมาหรือไง ?” น้ําเสียงจริงจัง

พี่เฟิงพูดด้วยความสงสัย

เหล่าเฟิงสู้ไปพูดไป “พวกศัตรูเก่ามาหาเรื่อง”

“ สุดยอด ! คราวนี้จัดการยากแฮะ ! ฉันจะถ่วง เวลาพวกมันเอาไว้ พวกแกสองคนหาโอกาสหนีไปเลยนะ

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่มีใครรอดแน่ ! ” พี่เฟิงพูดต่อ ในขณะเดียวกันก็ต้านการโจมตีของพวกผีร้ายอย่างต่อเนื่อง

คําพูดนี้มู่หลงเหยียนก็เคยพูดเหมือนกัน และพวกเราก็คิดแบบนั้น

แต่อีกฝ่ายมีจํานวนเยอะมาก พวกเราหาโอกาสไม่ได้จริงๆ

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะการปรากฏตัวของพี่เฟิง ผมและเหล่าเฟิงก็คงโดนรุมฆ่าจนตายไปแล้ว

“ หนึงั้นเหรอ ? วันนี้พวกแกไม่ว่าใครก็ต้องตายอย่าคิดว่าจะหนีไปได้สักคน ! วิญญาณคู่แบบพวกแก

เหมาะเอาไปเป็นตัวทดลองให้องค์กรพอดี !” ขณะพูดอย่างเย็นชา จางจีเทาก็เริ่มประสานมือ

ตอมผมเห็นจางจีเทาประสานมือท่านั้น ผมก็ตัวเย็นวาบทันที นี่มันท่าประสานมือวิชาควบคุมผี

ตอนนั้นที่โรงงานร้าง จางจีเทาก็ใช้ประโยชน์จากวิชานี้

เรียกผีที่อยู่รอบๆออกมา ทําให้กลายเป็นวิญญาณร้าย แล้วสุดท้ายก็ช่วยให้มันหนีไปได้

ตอนนี้ที่นี่มีผีร้ายเยอะพออยู่แล้ว ถ้ายังมาเพิ่มอีก เราจะยังสู้ได้กะผีนะซิ !

พอคิดได้แบบนี้ ผมก็รีบพูดออกมาทันที “จะให้มันเสกคาถาจบไม่ได้ !”

หลังจากพูดจบ ผมก็คิดจะพุ่งไปข้างหน้า เพื่อหยุดจางจีเทาเอาไว้

แต่ความสามารถของผมมีจํากัด ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ถึงผมจะพุ่งออกไป อย่างไม่คิดชีวิต

แต่สุดท้ายก็ยังทําตามที่คิดไม่ได้

พี่เฟิงร้ายกาจกว่าหน่อย พลังก็เยอะกว่า

แต่ถึงจะเป็นเขา ก็หาทางเข้าใกล้จางจีเทาไม่ได้

สิ่งที่ขวางอยู่ข้างหน้าผม หากพูดให้มันดูน้อยหน่อยก็มีผีอยู่สิบกว่าตัวไม่อาจเข้าไปถึงได้ในระยะเวลาสั้นๆ

แต่มือของจางจีเทา กลับเสกคาถาเสร็จแล้ว และเขากําลังพูดขึ้นมาว่า “ วิชาควบคุมผี ผีชั่วทั้งสิบทิศ

จงฟังคําสั่งข้า ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง !”

เสียงเพิ่งดังขึ้น แสงสีดํากระเบิดออก ธงสีดําปรากฎขึ้น มันพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ห่างจากหัวจางจีเทาประมาณสองเมตร

ในขณะที่ธงเริ่มทํางาน มันก็ปล่อยคลื่นพลังจํานวนมหาศาลออกมา

ผ่านไปแค่วินาทีเดียว จู่ๆธงผืนนั้นก็ระเบิด กลายเป็นหมอกดํา และกระจายไปรอบๆทิศ

แต่เพียงแค่วินาทีเดียวนั้น จู่ๆรอบๆก็มีสายลมที่เยือกเย็นพัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ต่อจากนั้น ทั้งสองฝั่งถนน ก็มีเริ่มมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น

เสี้ยววินาทีต่อมาปลายถนนทั้งสองด้าน ก็มีผีหน้าขาวลอยเข้ามา

การเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วมาก จํานวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

หนึ่งตัว สองตัว สามตัว จนกระทั่งถึงตัวที่สิบตัวผมก็แข็งที่อทันที

จบกัน ตอนนี้โดนล้อมจนหนีไม่ได้แล้ว ในเวลาแบบนี้ยังมีผีร้ายเพิ่มมาอีกสิบตัว พวกเราคงรอดยากแล้ว

หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ผมไม่เคยเจอสถานการณ์ที่แย่แบบนี้มาก่อน

ผมใช้ไปเกือบทุกวิถีทางแล้ว ถึงจะเรียกน้องศพออกมา แต่ก็ยังไม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้

สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่านั้นคือ ในขณะที่ผมกําลังคิดไม่ตก ทางมู่หลงเหยียนก็มีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้น

แม้มู่หลงเหยียนจะไม่ได้มาด้วยร่างจริง แต่พลังก็อยู่ในขั้นเต้าจวิน เป็นพลังที่น่าหวั่นเกรง

แต่ตอนนี้ เธอกลับโดนฝ่ามือของยัยแก่เข้าที่หน้าอก

มู่หลงเหยียนกรีดร้องขึ้นมาทันที แล้วทันใดนั้น ตัวเธอก็กระเด็นออกไป
ผมเห็นฉากนี้เข้าโดยบังเอิญ หน้าผมเปลี่ยนสีม่านตาเบิกกว้างในทันตา “น้องศพ !”

หลังจากพูดจบ ผมก็พุ่งเข้าไปแบบแทบไม่คิดชีวิตเลยก็ว่าได้

ดูเหมือนผมจะอยู่ห่างจากมู่หลงเหยียนไม่ไกล หลังจากล้มผีร้ายสองตัวได้แล้ว ผมก็มาถึงตรงหน้า

มู่หลงเหยียน

ส่วนมู่หลงเหยียน จู่ๆร่างจิตของเธอเดี๋ยวก็ สว่างเดี๋ยวก็ดับวูบนี่ นี่มันเป็นสัญญาณก่อนร่างจะหายไปไม่ใช่เหรอ

ถ้ามู่หลงเหยียนหายไปจริงๆ ในสถานการณ์ แบบนี้ ใครจะต้านกุยซานหยวนและยัยป้าคนสวยนั่นไหวละ

พอถึงตอนนั้น ถึงจะไม่มีผีร้ายหลายสิบตัวเข้ามาเกี่ยว เพียงสู้กับหมอผีชั่วสองตนนี้ ในหมู่พวก เราก็ไม่มีใครสู้ไหวแล้ว…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+