เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] 180 จ้าวเหวินเทาอัจฉริยะด้านการตั้งชื่อ

Now you are reading เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] Chapter 180 จ้าวเหวินเทาอัจฉริยะด้านการตั้งชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภรรยาของจางหมิงใจกว้างขนาดนี้ แน่นอนว่าก็เป็นเพราะจ้าวเหวินเทาไม่ใช่คนขี้งก อีกอย่างก่อนหน้านี้เขาก็เอาของมาให้ไม่น้อย หล่อนจึงประทับใจจ้าวเหวินเทาเป็นอย่างมาก

วันนี้แน่นอนว่าไม่ต้องพูดอะไร หล่อนย่อมต้องช่วยเหลืออยู่แล้วถึงจะดี

ได้ยินจ้าวเหวินเทาพูดดังนั้น หล่อนก็พูดรัวเร็ว “เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? แล้วภรรยาเป็นยังไงบ้าง? ได้ลูกสาวหรือลูกชาย?”

“ภรรยาของผมสบายดี หล่อนคลอดได้ลูกชาย บอกว่าพอคลอดเสร็จก็หิวเลย” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“งั้นฉันไม่รั้งให้เธออยู่คุยที่นี่แล้ว เธอเอาโจ๊กกับไข่ไก่ไปให้น้องสะใภ้ก่อน ในหม้อยังมีกับข้าวอีกอย่าง เดี๋ยวฉันทำเสร็จแล้วจะเอาไปส่งให้นะ” ภรรยาจางหมิงกล่าว

“งั้นผมไปก่อนนะพี่สะใภ้” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขาจึงขับรถเอาอาหารไปส่งให้ภรรยาที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนจางหมิงหลังจากแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้องก็ไม่เจอจ้าวเหวินเทาแล้ว เมื่อครู่เขากำลังนอนหลับอยู่เลย

“เหวินเทาล่ะ?” จางหมิงออกมาไม่เจออีกฝ่าย จึงเอ่ยปากถาม

แม้ทั้งสองคนจะรู้จักเพราะเย่หมิงเป่ย แต่ตอนนี้เขาก็สนิทกับจ้าวเหวินเทามาก ไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ

จ้าวเหวินเทามาบอกกับเขาเรื่องที่จะเหมาฟาร์มกระต่ายด้วย ทั้งยังถามความเห็นของเขา ว่าฟาร์มกระต่ายมีศักยภาพในการพัฒนาหรือไม่?

จางหมิงพาเขาไปถามพ่อที่บ้าน หลังจากพูดคุยกับพ่อของเขา พ่อของเขาก็รู้สึกว่าสามารถทำได้ ตราบใดที่ทำธุรกิจได้ดี อนาคตย่อมดี

“ภรรยาของเขาคลอดลูกแล้ว นี่ก็เอาโจ๊กกับไข่ไปให้ภรรยากินก่อนแล้วค่ะ” ภรรยาของจางหมิงกล่าว

“เร็วขนาดนี้เลย ได้ลูกชายหรือลูกสาวล่ะ?” จางหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ภรรยาจางหมิงแอบรู้สึกอิจฉา “ได้ลูกชายค่ะ”

“ภรรยา นี่คุณยังอิจฉาฉูฉู่อีกเหรอ? งั้นพวกเราก็ควรจะพูดถึงกำหนดการมีลูกแล้วสิ?” จางหมิงกล่าว

ภรรยาของจางหมิงกลอกตาใส่เขาด้วยรอยยิ้ม “แล้วงานของฉันจะทำยังไงคะ? รอปีหน้าแม่ของฉันก็เกษียณแล้ว ถึงเวลานั้นพอมีเวลาดูแล พวกเราค่อยมีก็แล้วกัน”

ไม่เช่นนั้นหากคลอดลูกแล้วก็ต้องลาออกจากงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกน่ะสิ หล่อนไม่ยอมหรอก

หากพึ่งพาแค่เงินเดือนของจางหมิง ในบ้านคงได้ใช้ชีวิตกันแบบรัดเข็มขัดสุด ๆ เงินเดือนของหล่อนไม่ได้น้อยไปกว่าจางหมิงเท่าไรนัก หล่อนไม่ยอมลาออกแน่

ภรรยาของจางหมิงทำกับข้าวเพิ่มอีกอย่าง นี่เป็นอาหารสำหรับจ้าวเหวินเทาและคุณแม่เย่ จากนั้นทั้งสองก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลด้วยกัน

ตอนที่พวกเขามาถึง เย่ฉูฉู่ก็รับประทานอาหารเสร็จพอดี เป็นเพราะตอนคลอดลูกเสร็จก็รู้สึกเหนื่อย เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไป

คุณแม่เย่เห็นจางหมิงและภรรยามาเยี่ยม ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “จางหมิง ไม่เจอกันนานเลยนะ”

จางหมิงก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “สวัสดีครับคุณน้า ไม่ได้เจอกันนานเลย หลังจากกลับมาที่เมืองผมก็คิดถึงชีวิตในชนบทอยู่เหมือนกัน โชคดีจริง ๆ ที่มีคุณน้าคอยดูแล”

ภรรยาของจางหมิงก็เคยได้ยินเขาเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ฟัง “คุณน้า น้องสะใภ้เป็นยังไงบ้างคะ?”

“เพิ่งกินข้าวเสร็จก็หลับไปแล้ว เด็กอยู่ข้างใน เดี๋ยวน้าพาเข้าไปดู” คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นก็นำภรรยาจางหมิงเข้ามาดู ภรรยาของจางหมิงได้เห็นหน้าเย่ฉูฉู่แล้ว

หล่อนไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้จางหมิงคิดจะจีบเย่ฉูฉู่มาก่อน แต่เมื่อเห็นเย่ฉูฉู่หน้าตาแบบนี้ก็รู้สึกว่าไม่เลวเลย เธอสวยมากเลยล่ะ

นอกจากนี้ยังมีเจ้าตัวน้อยอีกคน ตอนนี้ยังเล็กอยู่จึงมองไม่ออก แต่องค์ประกอบทั้งห้าบนใบหน้าก็เหมือนกับเย่ฉูฉู่คนเป็นแม่ค่อนข้างมากเลย

อนาคตคงไม่ต่างกันเท่าไรนัก

คุณแม่เย่อุ้มหลานออกมาให้จางหมิงได้ดู

จางหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หน้าตาคล้ายฉูฉู่เลยครับ”

“ไม่เหมือนภรรยาของผมสักหน่อย ภรรยาผมสวยมาก นี่ก็ไม่รู้ว่าเหมือนใคร แอบหน้าตาน่าเกลียดอยู่นะ” จ้าวเหวินเทาผู้เป็นพ่อพูด

“เด็กเพิ่งคลอดก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ รอให้โตก่อนก็ดูดีเอง เธอกับฉูฉู่ก็ไม่ได้หน้าตาแย่ ลูกจะน่าเกลียดได้ยังไง!” คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จ้าวเหวินเทาคลี่ยิ้ม “แม่พูดถูก ลูกชายเหมือนแม่ ฉูฉู่หน้าตาดีขนาดนั้น ลูกก็ต้องหน้าตาดีเหมือนกัน!”

จางหมิงและภรรยามาอยู่คุยที่นี่อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขอตัวกลับ

จ้าวเหวินเทาให้คุณแม่เย่ไปพักผ่อน ส่วนตัวเองก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กข้างเตียงเพื่อดูลูก แต่ดูอยู่สักพักก็หลับไปเช่นกัน

เย่ฉูฉู่คลอดลูกต้องใช้พลังกาย ส่วนพวกเขาที่เป็นครอบครัวต้องใช้พลังใจ ต่างก็เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก

ลูกโตเร็วจริง ๆ ตอนแรกตัวย่นหน้าตาก็ดูน่าเกลียด ผ่านไปไม่กี่วันก็เปลี่ยนแล้ว ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลหลังจากอยู่ครบเจ็ดวันและกลับมาที่บ้าน ดวงตาของเขาดูเป็นประกาย ใบหน้าเป็นสีชมพูจนทำให้คนทนไม่ไหวอยากเข้าไปหอมสักฟอด

“หอมแก้มลูกไม่ได้นะ แล้วก็หยิกแก้มไม่ได้ด้วย เดี๋ยวน้ำลายไหล” คุณแม่เย่กำชับทั้งสองคน

เย่ฉูฉู่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เธอเชื่อหรอกว่าหอมแก้มจะทำให้น้ำลายไหล

ทว่าจ้าวเหวินเทากลับคุ้นชินในการพูดคุยจ้อแจ้กับลูก มีทั้งเรียกว่าเจ้าเด็กบ้า เจ้าเด็กนิสัยไม่ดี ตอนที่แม่เกิดนายออกมาลำบากขนาดนั้น รอให้โตขึ้นถ้าไม่กตัญญู ถึงเวลานั้นพ่อจะจัดการนายซะ!

ส่วนชื่อของลูกที่ต้องให้ความสำคัญกับชื่อจริง และควรใช้ตัวอักษรอะไรตามที่บรรพบุรุษกำหนดนั้น เป็นเรื่องของคุณพ่อจ้าวในฐานะปู่

จ้าวเหวินเทาตั้งชื่อเล่นให้ลูกว่า ‘จวี้เป่าเผิน’

เย่ฉูฉู่ “…”

ลูกลิงชื่อฟาไฉ ลูกชายชื่อจวี้เป่าเผิน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพ่อคนนี้เห็นแก่เงิน

เย่ฉูฉู่ย่อมไม่ปล่อยให้เขาตั้งแบบมั่ว ๆ เธอจึงปฏิเสธชื่อเล่นนี้

“ทำไมถึงไม่เอาล่ะครับ จวี้เป่าเผินดีจะตาย แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าเป็นชื่อมงคล” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขาเคล้ารอยยิ้ม “งั้นคุณก็ตั้งชื่อตัวเองสิ ฉันไม่ให้ลูกชายของฉันมีชื่อเล่นแบบนี้หรอกค่ะ”

“งั้นก็ตั้งชื่อว่า จีต้าน ยาต้าน หนิวต้าน หยางต้าน? เหมือนกับพวกพี่ชายเถี่ยต้าน หลูต้าน หม่าต้านไง” จ้าวเหวินเทาเสนอชื่อต่อไป

เย่ฉูฉู่ “…”

ส่วนลูกชายเบะปากทำท่าจะร้องไห้แล้ว

พวกเขาออกเดินทางกลับมาตั้งแต่เช้า แต่เป็นเพราะขับรถช้า เพราะกลัวว่าจะทำให้แม่ยายและภรรยากระแทกกับรถ ดังนั้นกว่าจะมาถึงบ้านก็เป็นช่วงค่ำ

ก่อนที่จะกลับมาก็ได้โทรศัพท์กลับมาที่ทีมใหญ่ล่วงหน้าแล้ว

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวจึงมารอที่บ้านใหม่ เมื่อได้ยินเสียงรถ ทั้งสองคนก็รีบออกมา

จ้าวเหวินเทาขับรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วดับเครื่อง

คุณแม่เย่อุ้มหลานอยู่ในอ้อมอก นางกล่าวทักทายคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวด้วยสีหน้าอ่อนล้า

“แม่ภรรยา ลำบากเธอแล้วจริง ๆ!” หลังจากคุณแม่จ้าวได้เห็นเด็กหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดของนาง จึงพูดคุยกับคุณแม่เย่

คุณแม่เย่ยิ้ม “นี่ก็เป็นหลานฉันเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก”

เหนื่อยมันก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว แต่ภายในใจก็มีความสุข

จ้าวเหวินเทาหยิบเก้าอี้มาวางไว้ด้านล่าง ก่อนจะประคองภรรยาให้ลงจากรถ

“คุณพ่อ คุณแม่” เย่ฉูฉู่กล่าวทักทายพ่อแม่สามี

“สะใภ้หก ลำบากเธอแล้วนะ แม่ภรรยาเธอก็เหมือนกัน รีบเข้าไปพักผ่อนในบ้านเถอะ ในบ้านทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว” คุณแม่จ้าวรีบกล่าว

เย่ฉูฉู่เองก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว หลังจากพยักหน้าก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ถูกจ้าวเหวินเทาประคองเข้าไปในบ้าน

คุณแม่เย่ก็เข้ามาพักผ่อนเช่นกัน

คุณพ่อจ้าวมองหลานชายตัวน้อย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เด็กคนนี้หน้าตาดีจริง ๆ!”

ก่อนหน้านี้ได้โทรศัพท์กลับมาแจ้งแล้ว ย่อมต้องทราบว่าเป็นหลานชาย พวกเขาทายถูกจริง ๆ

จ้าวเหวินเทาที่เป็นพ่อในตอนนี้ก็ไม่ได้รังเกียจแล้ว กล่าวอย่างพึงพอใจว่า “แหงอยู่แล้วครับ พ่อแม่หน้าตาดีแบบนี้ ลูกจะหน้าตาไม่ดีได้ยังไงล่ะ?”

คุณแม่จ้าวได้ยินก็หัวเราะ แต่นางก็รู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากเลย

หลานชายตัวน้อยหน้าตาดีจริง ๆ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าคล้ายกับปู่และย่าอย่างพวกเขาทั้งคู่!

……………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ตั้งชื่อลูกอะไรอะเหวินเทา มันดูเรียกยากไปหน่อยนะ

บ้านสี่รู้เรื่องเข้าได้ลุกเป็นไฟแน่นอน

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] 180 จ้าวเหวินเทาอัจฉริยะด้านการตั้งชื่อ

Now you are reading เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] Chapter 180 จ้าวเหวินเทาอัจฉริยะด้านการตั้งชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภรรยาของจางหมิงใจกว้างขนาดนี้ แน่นอนว่าก็เป็นเพราะจ้าวเหวินเทาไม่ใช่คนขี้งก อีกอย่างก่อนหน้านี้เขาก็เอาของมาให้ไม่น้อย หล่อนจึงประทับใจจ้าวเหวินเทาเป็นอย่างมาก

วันนี้แน่นอนว่าไม่ต้องพูดอะไร หล่อนย่อมต้องช่วยเหลืออยู่แล้วถึงจะดี

ได้ยินจ้าวเหวินเทาพูดดังนั้น หล่อนก็พูดรัวเร็ว “เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? แล้วภรรยาเป็นยังไงบ้าง? ได้ลูกสาวหรือลูกชาย?”

“ภรรยาของผมสบายดี หล่อนคลอดได้ลูกชาย บอกว่าพอคลอดเสร็จก็หิวเลย” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“งั้นฉันไม่รั้งให้เธออยู่คุยที่นี่แล้ว เธอเอาโจ๊กกับไข่ไก่ไปให้น้องสะใภ้ก่อน ในหม้อยังมีกับข้าวอีกอย่าง เดี๋ยวฉันทำเสร็จแล้วจะเอาไปส่งให้นะ” ภรรยาจางหมิงกล่าว

“งั้นผมไปก่อนนะพี่สะใภ้” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขาจึงขับรถเอาอาหารไปส่งให้ภรรยาที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนจางหมิงหลังจากแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้องก็ไม่เจอจ้าวเหวินเทาแล้ว เมื่อครู่เขากำลังนอนหลับอยู่เลย

“เหวินเทาล่ะ?” จางหมิงออกมาไม่เจออีกฝ่าย จึงเอ่ยปากถาม

แม้ทั้งสองคนจะรู้จักเพราะเย่หมิงเป่ย แต่ตอนนี้เขาก็สนิทกับจ้าวเหวินเทามาก ไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ

จ้าวเหวินเทามาบอกกับเขาเรื่องที่จะเหมาฟาร์มกระต่ายด้วย ทั้งยังถามความเห็นของเขา ว่าฟาร์มกระต่ายมีศักยภาพในการพัฒนาหรือไม่?

จางหมิงพาเขาไปถามพ่อที่บ้าน หลังจากพูดคุยกับพ่อของเขา พ่อของเขาก็รู้สึกว่าสามารถทำได้ ตราบใดที่ทำธุรกิจได้ดี อนาคตย่อมดี

“ภรรยาของเขาคลอดลูกแล้ว นี่ก็เอาโจ๊กกับไข่ไปให้ภรรยากินก่อนแล้วค่ะ” ภรรยาของจางหมิงกล่าว

“เร็วขนาดนี้เลย ได้ลูกชายหรือลูกสาวล่ะ?” จางหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ภรรยาจางหมิงแอบรู้สึกอิจฉา “ได้ลูกชายค่ะ”

“ภรรยา นี่คุณยังอิจฉาฉูฉู่อีกเหรอ? งั้นพวกเราก็ควรจะพูดถึงกำหนดการมีลูกแล้วสิ?” จางหมิงกล่าว

ภรรยาของจางหมิงกลอกตาใส่เขาด้วยรอยยิ้ม “แล้วงานของฉันจะทำยังไงคะ? รอปีหน้าแม่ของฉันก็เกษียณแล้ว ถึงเวลานั้นพอมีเวลาดูแล พวกเราค่อยมีก็แล้วกัน”

ไม่เช่นนั้นหากคลอดลูกแล้วก็ต้องลาออกจากงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกน่ะสิ หล่อนไม่ยอมหรอก

หากพึ่งพาแค่เงินเดือนของจางหมิง ในบ้านคงได้ใช้ชีวิตกันแบบรัดเข็มขัดสุด ๆ เงินเดือนของหล่อนไม่ได้น้อยไปกว่าจางหมิงเท่าไรนัก หล่อนไม่ยอมลาออกแน่

ภรรยาของจางหมิงทำกับข้าวเพิ่มอีกอย่าง นี่เป็นอาหารสำหรับจ้าวเหวินเทาและคุณแม่เย่ จากนั้นทั้งสองก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลด้วยกัน

ตอนที่พวกเขามาถึง เย่ฉูฉู่ก็รับประทานอาหารเสร็จพอดี เป็นเพราะตอนคลอดลูกเสร็จก็รู้สึกเหนื่อย เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไป

คุณแม่เย่เห็นจางหมิงและภรรยามาเยี่ยม ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “จางหมิง ไม่เจอกันนานเลยนะ”

จางหมิงก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “สวัสดีครับคุณน้า ไม่ได้เจอกันนานเลย หลังจากกลับมาที่เมืองผมก็คิดถึงชีวิตในชนบทอยู่เหมือนกัน โชคดีจริง ๆ ที่มีคุณน้าคอยดูแล”

ภรรยาของจางหมิงก็เคยได้ยินเขาเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ฟัง “คุณน้า น้องสะใภ้เป็นยังไงบ้างคะ?”

“เพิ่งกินข้าวเสร็จก็หลับไปแล้ว เด็กอยู่ข้างใน เดี๋ยวน้าพาเข้าไปดู” คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นก็นำภรรยาจางหมิงเข้ามาดู ภรรยาของจางหมิงได้เห็นหน้าเย่ฉูฉู่แล้ว

หล่อนไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้จางหมิงคิดจะจีบเย่ฉูฉู่มาก่อน แต่เมื่อเห็นเย่ฉูฉู่หน้าตาแบบนี้ก็รู้สึกว่าไม่เลวเลย เธอสวยมากเลยล่ะ

นอกจากนี้ยังมีเจ้าตัวน้อยอีกคน ตอนนี้ยังเล็กอยู่จึงมองไม่ออก แต่องค์ประกอบทั้งห้าบนใบหน้าก็เหมือนกับเย่ฉูฉู่คนเป็นแม่ค่อนข้างมากเลย

อนาคตคงไม่ต่างกันเท่าไรนัก

คุณแม่เย่อุ้มหลานออกมาให้จางหมิงได้ดู

จางหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หน้าตาคล้ายฉูฉู่เลยครับ”

“ไม่เหมือนภรรยาของผมสักหน่อย ภรรยาผมสวยมาก นี่ก็ไม่รู้ว่าเหมือนใคร แอบหน้าตาน่าเกลียดอยู่นะ” จ้าวเหวินเทาผู้เป็นพ่อพูด

“เด็กเพิ่งคลอดก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ รอให้โตก่อนก็ดูดีเอง เธอกับฉูฉู่ก็ไม่ได้หน้าตาแย่ ลูกจะน่าเกลียดได้ยังไง!” คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จ้าวเหวินเทาคลี่ยิ้ม “แม่พูดถูก ลูกชายเหมือนแม่ ฉูฉู่หน้าตาดีขนาดนั้น ลูกก็ต้องหน้าตาดีเหมือนกัน!”

จางหมิงและภรรยามาอยู่คุยที่นี่อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขอตัวกลับ

จ้าวเหวินเทาให้คุณแม่เย่ไปพักผ่อน ส่วนตัวเองก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กข้างเตียงเพื่อดูลูก แต่ดูอยู่สักพักก็หลับไปเช่นกัน

เย่ฉูฉู่คลอดลูกต้องใช้พลังกาย ส่วนพวกเขาที่เป็นครอบครัวต้องใช้พลังใจ ต่างก็เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก

ลูกโตเร็วจริง ๆ ตอนแรกตัวย่นหน้าตาก็ดูน่าเกลียด ผ่านไปไม่กี่วันก็เปลี่ยนแล้ว ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลหลังจากอยู่ครบเจ็ดวันและกลับมาที่บ้าน ดวงตาของเขาดูเป็นประกาย ใบหน้าเป็นสีชมพูจนทำให้คนทนไม่ไหวอยากเข้าไปหอมสักฟอด

“หอมแก้มลูกไม่ได้นะ แล้วก็หยิกแก้มไม่ได้ด้วย เดี๋ยวน้ำลายไหล” คุณแม่เย่กำชับทั้งสองคน

เย่ฉูฉู่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เธอเชื่อหรอกว่าหอมแก้มจะทำให้น้ำลายไหล

ทว่าจ้าวเหวินเทากลับคุ้นชินในการพูดคุยจ้อแจ้กับลูก มีทั้งเรียกว่าเจ้าเด็กบ้า เจ้าเด็กนิสัยไม่ดี ตอนที่แม่เกิดนายออกมาลำบากขนาดนั้น รอให้โตขึ้นถ้าไม่กตัญญู ถึงเวลานั้นพ่อจะจัดการนายซะ!

ส่วนชื่อของลูกที่ต้องให้ความสำคัญกับชื่อจริง และควรใช้ตัวอักษรอะไรตามที่บรรพบุรุษกำหนดนั้น เป็นเรื่องของคุณพ่อจ้าวในฐานะปู่

จ้าวเหวินเทาตั้งชื่อเล่นให้ลูกว่า ‘จวี้เป่าเผิน’

เย่ฉูฉู่ “…”

ลูกลิงชื่อฟาไฉ ลูกชายชื่อจวี้เป่าเผิน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพ่อคนนี้เห็นแก่เงิน

เย่ฉูฉู่ย่อมไม่ปล่อยให้เขาตั้งแบบมั่ว ๆ เธอจึงปฏิเสธชื่อเล่นนี้

“ทำไมถึงไม่เอาล่ะครับ จวี้เป่าเผินดีจะตาย แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าเป็นชื่อมงคล” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขาเคล้ารอยยิ้ม “งั้นคุณก็ตั้งชื่อตัวเองสิ ฉันไม่ให้ลูกชายของฉันมีชื่อเล่นแบบนี้หรอกค่ะ”

“งั้นก็ตั้งชื่อว่า จีต้าน ยาต้าน หนิวต้าน หยางต้าน? เหมือนกับพวกพี่ชายเถี่ยต้าน หลูต้าน หม่าต้านไง” จ้าวเหวินเทาเสนอชื่อต่อไป

เย่ฉูฉู่ “…”

ส่วนลูกชายเบะปากทำท่าจะร้องไห้แล้ว

พวกเขาออกเดินทางกลับมาตั้งแต่เช้า แต่เป็นเพราะขับรถช้า เพราะกลัวว่าจะทำให้แม่ยายและภรรยากระแทกกับรถ ดังนั้นกว่าจะมาถึงบ้านก็เป็นช่วงค่ำ

ก่อนที่จะกลับมาก็ได้โทรศัพท์กลับมาที่ทีมใหญ่ล่วงหน้าแล้ว

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวจึงมารอที่บ้านใหม่ เมื่อได้ยินเสียงรถ ทั้งสองคนก็รีบออกมา

จ้าวเหวินเทาขับรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วดับเครื่อง

คุณแม่เย่อุ้มหลานอยู่ในอ้อมอก นางกล่าวทักทายคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวด้วยสีหน้าอ่อนล้า

“แม่ภรรยา ลำบากเธอแล้วจริง ๆ!” หลังจากคุณแม่จ้าวได้เห็นเด็กหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดของนาง จึงพูดคุยกับคุณแม่เย่

คุณแม่เย่ยิ้ม “นี่ก็เป็นหลานฉันเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก”

เหนื่อยมันก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว แต่ภายในใจก็มีความสุข

จ้าวเหวินเทาหยิบเก้าอี้มาวางไว้ด้านล่าง ก่อนจะประคองภรรยาให้ลงจากรถ

“คุณพ่อ คุณแม่” เย่ฉูฉู่กล่าวทักทายพ่อแม่สามี

“สะใภ้หก ลำบากเธอแล้วนะ แม่ภรรยาเธอก็เหมือนกัน รีบเข้าไปพักผ่อนในบ้านเถอะ ในบ้านทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว” คุณแม่จ้าวรีบกล่าว

เย่ฉูฉู่เองก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว หลังจากพยักหน้าก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ถูกจ้าวเหวินเทาประคองเข้าไปในบ้าน

คุณแม่เย่ก็เข้ามาพักผ่อนเช่นกัน

คุณพ่อจ้าวมองหลานชายตัวน้อย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เด็กคนนี้หน้าตาดีจริง ๆ!”

ก่อนหน้านี้ได้โทรศัพท์กลับมาแจ้งแล้ว ย่อมต้องทราบว่าเป็นหลานชาย พวกเขาทายถูกจริง ๆ

จ้าวเหวินเทาที่เป็นพ่อในตอนนี้ก็ไม่ได้รังเกียจแล้ว กล่าวอย่างพึงพอใจว่า “แหงอยู่แล้วครับ พ่อแม่หน้าตาดีแบบนี้ ลูกจะหน้าตาไม่ดีได้ยังไงล่ะ?”

คุณแม่จ้าวได้ยินก็หัวเราะ แต่นางก็รู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากเลย

หลานชายตัวน้อยหน้าตาดีจริง ๆ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าคล้ายกับปู่และย่าอย่างพวกเขาทั้งคู่!

……………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ตั้งชื่อลูกอะไรอะเหวินเทา มันดูเรียกยากไปหน่อยนะ

บ้านสี่รู้เรื่องเข้าได้ลุกเป็นไฟแน่นอน

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] 180 จ้าวเหวินเทาอัจฉริยะด้านการตั้งชื่อ

Now you are reading เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] Chapter 180 จ้าวเหวินเทาอัจฉริยะด้านการตั้งชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภรรยาของจางหมิงใจกว้างขนาดนี้ แน่นอนว่าก็เป็นเพราะจ้าวเหวินเทาไม่ใช่คนขี้งก อีกอย่างก่อนหน้านี้เขาก็เอาของมาให้ไม่น้อย หล่อนจึงประทับใจจ้าวเหวินเทาเป็นอย่างมาก

วันนี้แน่นอนว่าไม่ต้องพูดอะไร หล่อนย่อมต้องช่วยเหลืออยู่แล้วถึงจะดี

ได้ยินจ้าวเหวินเทาพูดดังนั้น หล่อนก็พูดรัวเร็ว “เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? แล้วภรรยาเป็นยังไงบ้าง? ได้ลูกสาวหรือลูกชาย?”

“ภรรยาของผมสบายดี หล่อนคลอดได้ลูกชาย บอกว่าพอคลอดเสร็จก็หิวเลย” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“งั้นฉันไม่รั้งให้เธออยู่คุยที่นี่แล้ว เธอเอาโจ๊กกับไข่ไก่ไปให้น้องสะใภ้ก่อน ในหม้อยังมีกับข้าวอีกอย่าง เดี๋ยวฉันทำเสร็จแล้วจะเอาไปส่งให้นะ” ภรรยาจางหมิงกล่าว

“งั้นผมไปก่อนนะพี่สะใภ้” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขาจึงขับรถเอาอาหารไปส่งให้ภรรยาที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนจางหมิงหลังจากแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้องก็ไม่เจอจ้าวเหวินเทาแล้ว เมื่อครู่เขากำลังนอนหลับอยู่เลย

“เหวินเทาล่ะ?” จางหมิงออกมาไม่เจออีกฝ่าย จึงเอ่ยปากถาม

แม้ทั้งสองคนจะรู้จักเพราะเย่หมิงเป่ย แต่ตอนนี้เขาก็สนิทกับจ้าวเหวินเทามาก ไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ

จ้าวเหวินเทามาบอกกับเขาเรื่องที่จะเหมาฟาร์มกระต่ายด้วย ทั้งยังถามความเห็นของเขา ว่าฟาร์มกระต่ายมีศักยภาพในการพัฒนาหรือไม่?

จางหมิงพาเขาไปถามพ่อที่บ้าน หลังจากพูดคุยกับพ่อของเขา พ่อของเขาก็รู้สึกว่าสามารถทำได้ ตราบใดที่ทำธุรกิจได้ดี อนาคตย่อมดี

“ภรรยาของเขาคลอดลูกแล้ว นี่ก็เอาโจ๊กกับไข่ไปให้ภรรยากินก่อนแล้วค่ะ” ภรรยาของจางหมิงกล่าว

“เร็วขนาดนี้เลย ได้ลูกชายหรือลูกสาวล่ะ?” จางหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ภรรยาจางหมิงแอบรู้สึกอิจฉา “ได้ลูกชายค่ะ”

“ภรรยา นี่คุณยังอิจฉาฉูฉู่อีกเหรอ? งั้นพวกเราก็ควรจะพูดถึงกำหนดการมีลูกแล้วสิ?” จางหมิงกล่าว

ภรรยาของจางหมิงกลอกตาใส่เขาด้วยรอยยิ้ม “แล้วงานของฉันจะทำยังไงคะ? รอปีหน้าแม่ของฉันก็เกษียณแล้ว ถึงเวลานั้นพอมีเวลาดูแล พวกเราค่อยมีก็แล้วกัน”

ไม่เช่นนั้นหากคลอดลูกแล้วก็ต้องลาออกจากงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกน่ะสิ หล่อนไม่ยอมหรอก

หากพึ่งพาแค่เงินเดือนของจางหมิง ในบ้านคงได้ใช้ชีวิตกันแบบรัดเข็มขัดสุด ๆ เงินเดือนของหล่อนไม่ได้น้อยไปกว่าจางหมิงเท่าไรนัก หล่อนไม่ยอมลาออกแน่

ภรรยาของจางหมิงทำกับข้าวเพิ่มอีกอย่าง นี่เป็นอาหารสำหรับจ้าวเหวินเทาและคุณแม่เย่ จากนั้นทั้งสองก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลด้วยกัน

ตอนที่พวกเขามาถึง เย่ฉูฉู่ก็รับประทานอาหารเสร็จพอดี เป็นเพราะตอนคลอดลูกเสร็จก็รู้สึกเหนื่อย เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไป

คุณแม่เย่เห็นจางหมิงและภรรยามาเยี่ยม ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “จางหมิง ไม่เจอกันนานเลยนะ”

จางหมิงก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “สวัสดีครับคุณน้า ไม่ได้เจอกันนานเลย หลังจากกลับมาที่เมืองผมก็คิดถึงชีวิตในชนบทอยู่เหมือนกัน โชคดีจริง ๆ ที่มีคุณน้าคอยดูแล”

ภรรยาของจางหมิงก็เคยได้ยินเขาเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ฟัง “คุณน้า น้องสะใภ้เป็นยังไงบ้างคะ?”

“เพิ่งกินข้าวเสร็จก็หลับไปแล้ว เด็กอยู่ข้างใน เดี๋ยวน้าพาเข้าไปดู” คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นก็นำภรรยาจางหมิงเข้ามาดู ภรรยาของจางหมิงได้เห็นหน้าเย่ฉูฉู่แล้ว

หล่อนไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้จางหมิงคิดจะจีบเย่ฉูฉู่มาก่อน แต่เมื่อเห็นเย่ฉูฉู่หน้าตาแบบนี้ก็รู้สึกว่าไม่เลวเลย เธอสวยมากเลยล่ะ

นอกจากนี้ยังมีเจ้าตัวน้อยอีกคน ตอนนี้ยังเล็กอยู่จึงมองไม่ออก แต่องค์ประกอบทั้งห้าบนใบหน้าก็เหมือนกับเย่ฉูฉู่คนเป็นแม่ค่อนข้างมากเลย

อนาคตคงไม่ต่างกันเท่าไรนัก

คุณแม่เย่อุ้มหลานออกมาให้จางหมิงได้ดู

จางหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หน้าตาคล้ายฉูฉู่เลยครับ”

“ไม่เหมือนภรรยาของผมสักหน่อย ภรรยาผมสวยมาก นี่ก็ไม่รู้ว่าเหมือนใคร แอบหน้าตาน่าเกลียดอยู่นะ” จ้าวเหวินเทาผู้เป็นพ่อพูด

“เด็กเพิ่งคลอดก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ รอให้โตก่อนก็ดูดีเอง เธอกับฉูฉู่ก็ไม่ได้หน้าตาแย่ ลูกจะน่าเกลียดได้ยังไง!” คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จ้าวเหวินเทาคลี่ยิ้ม “แม่พูดถูก ลูกชายเหมือนแม่ ฉูฉู่หน้าตาดีขนาดนั้น ลูกก็ต้องหน้าตาดีเหมือนกัน!”

จางหมิงและภรรยามาอยู่คุยที่นี่อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขอตัวกลับ

จ้าวเหวินเทาให้คุณแม่เย่ไปพักผ่อน ส่วนตัวเองก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กข้างเตียงเพื่อดูลูก แต่ดูอยู่สักพักก็หลับไปเช่นกัน

เย่ฉูฉู่คลอดลูกต้องใช้พลังกาย ส่วนพวกเขาที่เป็นครอบครัวต้องใช้พลังใจ ต่างก็เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก

ลูกโตเร็วจริง ๆ ตอนแรกตัวย่นหน้าตาก็ดูน่าเกลียด ผ่านไปไม่กี่วันก็เปลี่ยนแล้ว ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลหลังจากอยู่ครบเจ็ดวันและกลับมาที่บ้าน ดวงตาของเขาดูเป็นประกาย ใบหน้าเป็นสีชมพูจนทำให้คนทนไม่ไหวอยากเข้าไปหอมสักฟอด

“หอมแก้มลูกไม่ได้นะ แล้วก็หยิกแก้มไม่ได้ด้วย เดี๋ยวน้ำลายไหล” คุณแม่เย่กำชับทั้งสองคน

เย่ฉูฉู่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เธอเชื่อหรอกว่าหอมแก้มจะทำให้น้ำลายไหล

ทว่าจ้าวเหวินเทากลับคุ้นชินในการพูดคุยจ้อแจ้กับลูก มีทั้งเรียกว่าเจ้าเด็กบ้า เจ้าเด็กนิสัยไม่ดี ตอนที่แม่เกิดนายออกมาลำบากขนาดนั้น รอให้โตขึ้นถ้าไม่กตัญญู ถึงเวลานั้นพ่อจะจัดการนายซะ!

ส่วนชื่อของลูกที่ต้องให้ความสำคัญกับชื่อจริง และควรใช้ตัวอักษรอะไรตามที่บรรพบุรุษกำหนดนั้น เป็นเรื่องของคุณพ่อจ้าวในฐานะปู่

จ้าวเหวินเทาตั้งชื่อเล่นให้ลูกว่า ‘จวี้เป่าเผิน’

เย่ฉูฉู่ “…”

ลูกลิงชื่อฟาไฉ ลูกชายชื่อจวี้เป่าเผิน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพ่อคนนี้เห็นแก่เงิน

เย่ฉูฉู่ย่อมไม่ปล่อยให้เขาตั้งแบบมั่ว ๆ เธอจึงปฏิเสธชื่อเล่นนี้

“ทำไมถึงไม่เอาล่ะครับ จวี้เป่าเผินดีจะตาย แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าเป็นชื่อมงคล” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขาเคล้ารอยยิ้ม “งั้นคุณก็ตั้งชื่อตัวเองสิ ฉันไม่ให้ลูกชายของฉันมีชื่อเล่นแบบนี้หรอกค่ะ”

“งั้นก็ตั้งชื่อว่า จีต้าน ยาต้าน หนิวต้าน หยางต้าน? เหมือนกับพวกพี่ชายเถี่ยต้าน หลูต้าน หม่าต้านไง” จ้าวเหวินเทาเสนอชื่อต่อไป

เย่ฉูฉู่ “…”

ส่วนลูกชายเบะปากทำท่าจะร้องไห้แล้ว

พวกเขาออกเดินทางกลับมาตั้งแต่เช้า แต่เป็นเพราะขับรถช้า เพราะกลัวว่าจะทำให้แม่ยายและภรรยากระแทกกับรถ ดังนั้นกว่าจะมาถึงบ้านก็เป็นช่วงค่ำ

ก่อนที่จะกลับมาก็ได้โทรศัพท์กลับมาที่ทีมใหญ่ล่วงหน้าแล้ว

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวจึงมารอที่บ้านใหม่ เมื่อได้ยินเสียงรถ ทั้งสองคนก็รีบออกมา

จ้าวเหวินเทาขับรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วดับเครื่อง

คุณแม่เย่อุ้มหลานอยู่ในอ้อมอก นางกล่าวทักทายคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวด้วยสีหน้าอ่อนล้า

“แม่ภรรยา ลำบากเธอแล้วจริง ๆ!” หลังจากคุณแม่จ้าวได้เห็นเด็กหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดของนาง จึงพูดคุยกับคุณแม่เย่

คุณแม่เย่ยิ้ม “นี่ก็เป็นหลานฉันเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก”

เหนื่อยมันก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว แต่ภายในใจก็มีความสุข

จ้าวเหวินเทาหยิบเก้าอี้มาวางไว้ด้านล่าง ก่อนจะประคองภรรยาให้ลงจากรถ

“คุณพ่อ คุณแม่” เย่ฉูฉู่กล่าวทักทายพ่อแม่สามี

“สะใภ้หก ลำบากเธอแล้วนะ แม่ภรรยาเธอก็เหมือนกัน รีบเข้าไปพักผ่อนในบ้านเถอะ ในบ้านทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว” คุณแม่จ้าวรีบกล่าว

เย่ฉูฉู่เองก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว หลังจากพยักหน้าก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ถูกจ้าวเหวินเทาประคองเข้าไปในบ้าน

คุณแม่เย่ก็เข้ามาพักผ่อนเช่นกัน

คุณพ่อจ้าวมองหลานชายตัวน้อย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เด็กคนนี้หน้าตาดีจริง ๆ!”

ก่อนหน้านี้ได้โทรศัพท์กลับมาแจ้งแล้ว ย่อมต้องทราบว่าเป็นหลานชาย พวกเขาทายถูกจริง ๆ

จ้าวเหวินเทาที่เป็นพ่อในตอนนี้ก็ไม่ได้รังเกียจแล้ว กล่าวอย่างพึงพอใจว่า “แหงอยู่แล้วครับ พ่อแม่หน้าตาดีแบบนี้ ลูกจะหน้าตาไม่ดีได้ยังไงล่ะ?”

คุณแม่จ้าวได้ยินก็หัวเราะ แต่นางก็รู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากเลย

หลานชายตัวน้อยหน้าตาดีจริง ๆ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าคล้ายกับปู่และย่าอย่างพวกเขาทั้งคู่!

……………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ตั้งชื่อลูกอะไรอะเหวินเทา มันดูเรียกยากไปหน่อยนะ

บ้านสี่รู้เรื่องเข้าได้ลุกเป็นไฟแน่นอน

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+