เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] 313 ฉลองเทศกาล

Now you are reading เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] Chapter 313 ฉลองเทศกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 313 ฉลองเทศกาล
ตอนที่ 313 ฉลองเทศกาล

 

“เหวินเทาบอกว่าที่ฟาร์มกระต่ายไม่ได้หยุดงาน ฉันเลยคิดว่าคนเยอะแยะขนาดนี้ แม่คนเดียวคงทำไม่ทัน ก็เลยเอาผักที่ล้างไว้แล้วมาด้วยค่ะ” เย่ฉูฉู่ได้ยินว่าพ่อสามีไปเสื้อเนื้อแพะมาให้ตัวเอง ก็รู้สึกซึ้งใจมาก ระหว่างที่พูดก็ไปลับมีดเพื่อเตรียมทำไส้เกี๊ยว

จ้าวเหวินเทาเห็นก็รีบพูดว่า “ภรรยา เดี๋ยวผมทำเอง”

คุณแม่จ้าวยิ้ม “ฉูฉู่ เธอให้เขาทำเถอะ ผู้ชายตัวใหญ่แบบนั้น สับไส้เกี๊ยวก็เหมือนกับเล่นสนุกนั่นแหละ เธอไปนั่งตรงนั้น พวกเราไปคุยกันดีกว่า”

เย่ฉูฉู่ไม่ได้ยืนกราน ยื่นเขียงให้จ้าวเหวินเทาด้วยรอยยิ้ม และเดินไปนั่งคุยเป็นเพื่อนแม่สามี

 

“อากาศหนาวแล้ว เมื่อวานซื้อเนื้อหมูกลับมา แม่กลัวว่าจะเสียเลยโรยเกลือไว้นิดหน่อย” คุณแม่จ้าวกำชับลูกชาย “เหวินเทา ตอนคลุกไส้ใส่เกลือให้น้อย ๆ นะ ในเนื้อมีเกลืออยู่แล้ว เดี๋ยวต้องใส่ซีอิ๊วลงไปอีก!”

“เข้าใจแล้วแม่!” จ้าวเหวินเทาขานตอบ

คุณแม่จ้าวจึงถามเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงว่าเป็นอย่างไร

“ต้องขอบคุณคนพวกนั้นที่เหวินเทาเชิญมาค่ะ มากันสองวันก็เก็บเกี่ยวทานตะวันกลับมาจนหมดเกลี้ยงเลย ส่วนถั่วเขียวกับถั่วเหลืองก็เก็บมานิดหน่อย ที่เหลือลุงชุยกับลูกชายก็ทำกันไหวแล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

คุณแม่จ้าวหยอกเสี่ยวไป๋หยางไปพลาง พูดคุยไปพลาง “แล้วข้าวโพดล่ะ ถึงเวลานั้นจะทำยังไง?”

“แม่ ถึงเวลานั้นก็ต้องมีวิธีอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องกังวลหรอก” จ้าวเหวินเทาที่กำลังสับไส้เกี๊ยวอยู่ตรงนั้นเอ่ยขึ้น

  

คุณแม่จ้าวหันกลับมาพูด “ดูแกสิ ขับรถออกไปให้น้อย ๆ สักสองสามวัน ก็เก็บเกี่ยวเองได้แล้ว ยังต้องไปเรียกคนนู้นคนนี้มาอีก ถ้าการเก็บเกี่ยวล่าช้าขึ้นมาจะทำยังไง?”

“นี่ก็ไม่ได้ล่าช้าแล้วไม่ใช่เหรอครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวเคล้ารอยยิ้ม “แม่ดูที่ดินที่ผมปลูกสองปีนี้สิ มีตอนไหนบ้างที่ล่าช้า”

 

“แกไม่ล่าช้า แต่มันก็ฉิวเฉียด ทำให้คนอื่นเป็นกังวลไปด้วย” คุณแม่จ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์

จ้าวเหวินเทายิ้ม “แม่ มีแต่แม่นั่นแหละที่กลุ้มใจไปเปล่า ๆ”

คุณแม่จ้าวพูดกับเย่ฉูฉู่ “เธอฟังเข้าสิ ก็เป็นเสียอย่างนี้ เฮ้อ ฉันคลอดพวกเขาออกมาหกคน มีแต่เขานี่แหละที่ทำให้แม่เป็นห่วงที่สุด! ไม่เคยฟังฉันเลยตั้งแต่เล็กจนโต”

เย่ฉูฉู่แย้มยิ้ม “คุณแม่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงเวลานั้นถ้าทำไม่ทัน ฉันก็เรียกให้พวกพี่ ๆ ของฉันมาช่วยสักสองสามวันก็ได้ ข้าวโพดก็ปลูกไว้ไม่เยอะ”

“แต่ปีนี้ปลูกผักกาดขาวเพิ่มด้วยไม่ใช่เหรอ ตอนที่เก็บเกี่ยวผักกาดขาวก็เป็นช่วงที่ต้องเก็บเกี่ยวข้าวโพดพอดี ไม่ว่าจะพืชผลไหนก็ล่าช้าไม่ได้ทั้งนั้น นี่ถ้าหิมะตกขึ้นมาคงได้เสียเปล่าทั้งหมด” คุณแม่จ้าวกำชับลูกชายอีกครั้งอย่าห้ามไม่อยู่ “เหวินเทา แกอย่าทำเป็นไม่ใส่ใจนะ ตอนที่เก็บผักกาดขาวกับข้าวโพดเป็นช่วงที่ยุ่งที่สุด แกต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ”

“แม่ ไม่ต้องห่วงหรอก ผมมีแผนในใจแล้ว” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยท่าทางไม่รีบร้อน

“แกเป็นแบบนี้ แม่จะวางใจได้เหรอ?” คุณแม่จ้าวกล่าว ก่อนจะถอนหายใจอีกหน “เฮ้อ เรื่องนี้วางใจไม่ได้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน!”

“แม่ แม่เองก็รู้นี่ครับ” จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคัก

 

คุณแม่จ้าวขี้เกียจจะสนใจเจ้าลูกชายคนนี้แล้ว

เพียงไม่นานจ้าวเหวินเทาก็หั่นผักจนเสร็จ ตอนนี้เจ้าพวกต้านและเจ้าพวกหยาก็เดินตามกันเข้ามาในลาน

“คุณย่า!”

“อาสะใภ้หก!”

“อาหก!”

พวกเด็ก ๆ พากันส่งเสียงเรียกเจี๊ยวจ๊าว

“พวกเราเอาขนมไหว้พระจันทร์มาให้แล้ว!”

คุณแม่จ้าวเห็นพวกหลานชายและหลานสาวก็มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้ และกล่าวทักทายเด็ก ๆ

“อ้าว เอาขนมไหว้พระจันทร์มาให้ย่าด้วย!”

 

เถี่ยต้านเป็นตัวแทนของบ้านพี่รองจ้าวนำขนมไหว้พระจันทร์สองชั่งมอบให้คุณแม่จ้าว และไวน์อีกสองขวด ไม่ต้องคิดเลย นี่ไม่ใช่ไวน์ลาฟีต 1982 แบบนั้นแน่นอน มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นขัณฑสกร(1)ผสมน้ำที่มีขายอยู่ในชนบทโดยเฉพาะ ราคาอยู่ที่แปดเหมา

หม่าต้านเป็นตัวแทนของบ้านพี่สามจ้าว มีขนมไหว้พระจันทร์สองชั่ง และผลไม้กระป๋องสองขวด

ซานหยาและซื่อหยาคนหนึ่งถือขนมไหว้พระจันทร์สองชั่ง ส่วนอีกคนถือผงนมมอลต์มาหนึ่งกล่อง

  

“คุณย่า นี่เป็นของเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่พ่อกับแม่ฝากมาให้ค่ะ”

“ดี ๆๆ ขอบใจพ่อกับแม่พวกเธอด้วยนะ” คุณแม่จ้าวพูดอย่างมีความสุข “อยู่ฉลองกันที่นี่นะ อาเล็กของพวกเธอจะห่อเกี๊ยวให้กินด้วย”

ซานหยาและซื่อหยาแสดงออกเป็นคนแรก “แม่บอกไว้แล้วค่ะ บอกให้พวกหนูอยู่ฉลองกับคุณปู่คุณย่าที่นี่”

 

อีกสองหยาที่เหลือก็แสดงออกว่าจะอยู่ฉลองที่นี่

  

จ้าวเหวินเทากล่าว “งั้นพวกเธอก็อยู่ว่าง ๆ ไม่ได้นะ ต้าหยาพาพวกน้อง ๆ ไปเก็บผักมากินกับน้ำจิ้มตอนเที่ยง ส่วนเถี่ยต้านพาน้อง ๆ ผู้ชายที่เหลือไปเก็บฟืนกลับมาเผาไฟ”

 

“ผมอยากเก็บไข่ไก่ อาเล็ก อาเลี้ยงไก่ไว้เยอะมากเลยไม่ใช่เหรอ แถมยังมีเป็ดด้วย พวกมันวางไข่ที่ไหนเหรอ?” หม่าต้านถามด้วยความตื่นเต้น

 

“ยังไม่ทันได้วางไข่ก็เป็นกังวลแล้ว ปีหน้านะ ค่อยมาเก็บไข่!’

 

หม่าต้านไม่ได้รู้สึกผิดหวัง เพียงไม่นานก็กลับมาร่าเริงอีกครั้ง “อาเล็ก ปีหน้าจะออกไข่ได้เยอะเหมือนกับหลี่เฉียจื่อหรือเปล่าครับ?”

จ้าวเหวินเทาเหงื่อตก “หม่าต้าน เธอเรียนภาษายังไงของเธอเนี่ย? นั่นเป็นไก่ต่างหากล่ะที่ออกไข่ ไม่ใช่อาเล็กของเธอออกไข่สักหน่อย!”

พวกเด็ก ๆ พากันหัวเราะร่า

หม่าต้านกลับไม่กลัวแม้แต่น้อย “อาเล็ก ผมหมายถึงไก่บ้านอาเล็กไม่ใช่เหรอ? ผมก็ไม่ได้พูดผิดนี่นา”

“ยังไม่ยอมรับอีก เธอบอกว่าไก่ของอาที่ไหนกัน เธอบอกว่าอาออกไข่ต่างหากล่ะ บอกอามาซะดี ๆ เธอสอบวิชาภาษาจีนได้กี่คะแนน?” จ้าวเหวินเทาถาม

 

“ไม่บอกหรอก!” หม่าต้านรีบเปลี่ยนประเด็น “แล้วสรุปว่าจะมากกว่าบ้านของเขาหรือเปล่าล่ะครับ?”

“ก็ต้องมากกว่าอยู่แล้ว!” จ้าวเหวินเทาคุยโวโอ้อวดก่อน “ถึงเวลานั้นอาจะเรียกให้เธอมาเก็บให้หนำใจเลย! หม่าต้าน เธอไม่พูด อาก็รู้ว่าเธอคงสอบได้คะแนนไม่ดีแน่นอน”

 

“ผมสอบได้คะแนนดีจะตาย!” หม่าต้านกระวนกระวาย “ครูของผมยังชมผมด้วยนะ!”

 

เย่ฉูฉู่หมดคำพูด “ตอนแรกไข่ไก่ที่ออกมาไม่ได้เยอะขนาดนั้น คงสู้คนอื่นไม่ได้ รออีกสักสองสามปีนะ หม่าต้านเรียนเก่งมากแล้ว อาเล็กก็แค่พูดเล่นน่ะ”

  

หม่าต้านถอนหายใจอย่างโล่งอก และเดินตามเถี่ยต้านและคนอื่น ๆ ไป

เอ้อร์หยากล่าว “อาสะใภ้หก ไฉไฉล่ะคะ?”

 

“ไฉไฉออกไปเล่นในป่าแล้วจ๊ะ อีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว

 

เอ้อร์หยารู้สึกผิดหวังมาก ลิงน้อยน่ารักมาก แต่ก็ไม่ได้เห็นอยู่เรื่อยเลย

หลังจากต้าหยาและบรรดาเสี่ยวหยาไปเก็บผักในสวนแล้ว เย่ฉูฉู่จึงกล่าว “คุณแม่คะ ฉันเอาของไปไว้ในบ้านนะคะ”

  

“ก็ได้ เธอเอาเข้าไปเถอะ” คุณแม่จ้าวตั้งใจอยู่กับการเลี้ยงหลานชาย

เย่ฉูฉู่จึงนำของเข้าไปด้านใน

 

จ้าวเหวินเทามองของเหล่านั้น “พี่รองกับพี่สี่ยังพอทน พี่สามนี่ขี้งกเกินไปแล้ว เอาของมาให้แค่นี้เอง ขนมไหว้พระจันทร์นั่นไม่ต้องพูดถึงหรอก คงแข็งโป๊กแน่ ๆ แม่กับพ่อกัดไม่เข้าหรอก”

 

จ้าวเหวินเทาซื้อขนมไหว้พระจันทร์กลับมาฉลองตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว เป็นขนมไหว้พระจันทร์ไส้ธัญพืชห้าอย่างที่สั่งทำไว้ในเมือง มีสี่ชิ้น ขนาดใหญ่และนิ่ม ในนั้นมีไส้แน่นเต็มคำ นอกจากขนมไหว้พระจันทร์ ยังซื้อเหล้าขาวมาให้พ่อกับแม่หนึ่งลังด้วย ส่วนของเขาซื้อขนมไหว้พระจันทร์มานิดหน่อย ปกติอยู่บ้านเขาก็ไม่ได้ดื่มเหล้าอยู่แล้ว ภรรยาของเขาก็ไม่ค่อยดื่มด้วย

“พี่สามของคุณก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ขนาดกับตัวเองยังประหยัดเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ซื้อขนมไหว้พระจันทร์มาให้นิดหน่อยก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” เย่ฉูฉู่ปลอบ

 

คุณแม่จ้าวเข้าใจลูกชายคนที่สามเป็นอย่างดี เขาใช้ชีวิตเป็นเกินไปแล้ว จึงไม่ยอมกินไม่ยอมดื่มเพราะเสียดาย ซื้อของมาฉลองเทศกาลแบบนี้ย่อมรู้สึกปวดใจมาก แต่จะทำอะไรได้ นี่ก็เป็นลูกที่นางให้กำเนิดออกมา ลูก ๆ ก็เป็นพ่อคนกันหมดแล้ว คิดจะเปลี่ยนก็คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ดังนั้นปล่อยเขาไปเถอะ

  

จ้าวเหวินเทายังอยากพูดอะไรต่อ เย่ฉูฉู่ก็พูดออกมาว่า “พี่สามเองก็ลำบาก คุณพูดให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ”

 

จ้าวเหวินเทาส่ายหน้า และพูดถึงเรื่องอื่นแทน

การฉลองเทศกาลในวันนี้ ฟาร์มกระต่ายไม่สามารถหยุดงานได้ จ้าวเหวินเทาจึงแจกเงินในวันหยุดให้ทุกคนคนละห้าหยวน เพิ่มด้วยของกินอร่อย ๆ ในมื้อนี้ ทุกคนจึงพึงพอใจอย่างมาก

  

อาหารมีไก่ตุ๋นสองตัว ปลาตุ๋นหนึ่งหม้อ ไก่เป็นไก่ที่เลี้ยงเอง ส่วนปลาจับมาจากในแม่น้ำ เป็นปลาขาวสร้อยที่มีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ ผัดกับข้าวเพิ่มอีกสามสี่อย่าง ไส้เนื้อลงไปในนั้นทั้งหมด และน้ำพริกคู่กับผักจานใหญ่อีกหนึ่งจาน ทั้งผักและเนื้อมีครบแล้ว อาหารจานหลักคือเกี๊ยว มีไส้เนื้อหมูผสมผักชีล้อมและไส้ไข่ไก่ผสมกุยช่าย แต่ละคนดื่มเหล้าแก้วเล็ก อาหารวางอยู่เต็มโต๊ะมากกว่าฉลองเทศกาลที่บ้านตัวเองเสียอีก

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เรียกอีกชื่อว่าแซคคารินหรือดีน้ำตาล ให้ความหวานสูงกว่าน้ำตาล 300 เท่า สูตรทางเคมีคือ C7H5NO3S ในอดีตนิยมใช้อย่างกว้างขวางเพราะมีราคาถูกกว่าน้ำตาล แต่ปัจจุบันเลิกใช้กันแล้วเพราะมีงานวิจัยพบว่าเป็นสารก่อมะเร็ง

สารจากผู้แปล

ดีจังเลยที่ถึงหยุดงานไม่ได้ก็มีอาหารการกินดีเยี่ยมมาแทน

พี่สามจะประหยัดถึงขนาดไหนเนี่ย นี่เทศกาลนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] 313 ฉลองเทศกาล

Now you are reading เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] Chapter 313 ฉลองเทศกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 313 ฉลองเทศกาล
ตอนที่ 313 ฉลองเทศกาล

 

“เหวินเทาบอกว่าที่ฟาร์มกระต่ายไม่ได้หยุดงาน ฉันเลยคิดว่าคนเยอะแยะขนาดนี้ แม่คนเดียวคงทำไม่ทัน ก็เลยเอาผักที่ล้างไว้แล้วมาด้วยค่ะ” เย่ฉูฉู่ได้ยินว่าพ่อสามีไปเสื้อเนื้อแพะมาให้ตัวเอง ก็รู้สึกซึ้งใจมาก ระหว่างที่พูดก็ไปลับมีดเพื่อเตรียมทำไส้เกี๊ยว

จ้าวเหวินเทาเห็นก็รีบพูดว่า “ภรรยา เดี๋ยวผมทำเอง”

คุณแม่จ้าวยิ้ม “ฉูฉู่ เธอให้เขาทำเถอะ ผู้ชายตัวใหญ่แบบนั้น สับไส้เกี๊ยวก็เหมือนกับเล่นสนุกนั่นแหละ เธอไปนั่งตรงนั้น พวกเราไปคุยกันดีกว่า”

เย่ฉูฉู่ไม่ได้ยืนกราน ยื่นเขียงให้จ้าวเหวินเทาด้วยรอยยิ้ม และเดินไปนั่งคุยเป็นเพื่อนแม่สามี

 

“อากาศหนาวแล้ว เมื่อวานซื้อเนื้อหมูกลับมา แม่กลัวว่าจะเสียเลยโรยเกลือไว้นิดหน่อย” คุณแม่จ้าวกำชับลูกชาย “เหวินเทา ตอนคลุกไส้ใส่เกลือให้น้อย ๆ นะ ในเนื้อมีเกลืออยู่แล้ว เดี๋ยวต้องใส่ซีอิ๊วลงไปอีก!”

“เข้าใจแล้วแม่!” จ้าวเหวินเทาขานตอบ

คุณแม่จ้าวจึงถามเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงว่าเป็นอย่างไร

“ต้องขอบคุณคนพวกนั้นที่เหวินเทาเชิญมาค่ะ มากันสองวันก็เก็บเกี่ยวทานตะวันกลับมาจนหมดเกลี้ยงเลย ส่วนถั่วเขียวกับถั่วเหลืองก็เก็บมานิดหน่อย ที่เหลือลุงชุยกับลูกชายก็ทำกันไหวแล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

คุณแม่จ้าวหยอกเสี่ยวไป๋หยางไปพลาง พูดคุยไปพลาง “แล้วข้าวโพดล่ะ ถึงเวลานั้นจะทำยังไง?”

“แม่ ถึงเวลานั้นก็ต้องมีวิธีอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องกังวลหรอก” จ้าวเหวินเทาที่กำลังสับไส้เกี๊ยวอยู่ตรงนั้นเอ่ยขึ้น

  

คุณแม่จ้าวหันกลับมาพูด “ดูแกสิ ขับรถออกไปให้น้อย ๆ สักสองสามวัน ก็เก็บเกี่ยวเองได้แล้ว ยังต้องไปเรียกคนนู้นคนนี้มาอีก ถ้าการเก็บเกี่ยวล่าช้าขึ้นมาจะทำยังไง?”

“นี่ก็ไม่ได้ล่าช้าแล้วไม่ใช่เหรอครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวเคล้ารอยยิ้ม “แม่ดูที่ดินที่ผมปลูกสองปีนี้สิ มีตอนไหนบ้างที่ล่าช้า”

 

“แกไม่ล่าช้า แต่มันก็ฉิวเฉียด ทำให้คนอื่นเป็นกังวลไปด้วย” คุณแม่จ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์

จ้าวเหวินเทายิ้ม “แม่ มีแต่แม่นั่นแหละที่กลุ้มใจไปเปล่า ๆ”

คุณแม่จ้าวพูดกับเย่ฉูฉู่ “เธอฟังเข้าสิ ก็เป็นเสียอย่างนี้ เฮ้อ ฉันคลอดพวกเขาออกมาหกคน มีแต่เขานี่แหละที่ทำให้แม่เป็นห่วงที่สุด! ไม่เคยฟังฉันเลยตั้งแต่เล็กจนโต”

เย่ฉูฉู่แย้มยิ้ม “คุณแม่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงเวลานั้นถ้าทำไม่ทัน ฉันก็เรียกให้พวกพี่ ๆ ของฉันมาช่วยสักสองสามวันก็ได้ ข้าวโพดก็ปลูกไว้ไม่เยอะ”

“แต่ปีนี้ปลูกผักกาดขาวเพิ่มด้วยไม่ใช่เหรอ ตอนที่เก็บเกี่ยวผักกาดขาวก็เป็นช่วงที่ต้องเก็บเกี่ยวข้าวโพดพอดี ไม่ว่าจะพืชผลไหนก็ล่าช้าไม่ได้ทั้งนั้น นี่ถ้าหิมะตกขึ้นมาคงได้เสียเปล่าทั้งหมด” คุณแม่จ้าวกำชับลูกชายอีกครั้งอย่าห้ามไม่อยู่ “เหวินเทา แกอย่าทำเป็นไม่ใส่ใจนะ ตอนที่เก็บผักกาดขาวกับข้าวโพดเป็นช่วงที่ยุ่งที่สุด แกต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ”

“แม่ ไม่ต้องห่วงหรอก ผมมีแผนในใจแล้ว” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยท่าทางไม่รีบร้อน

“แกเป็นแบบนี้ แม่จะวางใจได้เหรอ?” คุณแม่จ้าวกล่าว ก่อนจะถอนหายใจอีกหน “เฮ้อ เรื่องนี้วางใจไม่ได้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน!”

“แม่ แม่เองก็รู้นี่ครับ” จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคัก

 

คุณแม่จ้าวขี้เกียจจะสนใจเจ้าลูกชายคนนี้แล้ว

เพียงไม่นานจ้าวเหวินเทาก็หั่นผักจนเสร็จ ตอนนี้เจ้าพวกต้านและเจ้าพวกหยาก็เดินตามกันเข้ามาในลาน

“คุณย่า!”

“อาสะใภ้หก!”

“อาหก!”

พวกเด็ก ๆ พากันส่งเสียงเรียกเจี๊ยวจ๊าว

“พวกเราเอาขนมไหว้พระจันทร์มาให้แล้ว!”

คุณแม่จ้าวเห็นพวกหลานชายและหลานสาวก็มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้ และกล่าวทักทายเด็ก ๆ

“อ้าว เอาขนมไหว้พระจันทร์มาให้ย่าด้วย!”

 

เถี่ยต้านเป็นตัวแทนของบ้านพี่รองจ้าวนำขนมไหว้พระจันทร์สองชั่งมอบให้คุณแม่จ้าว และไวน์อีกสองขวด ไม่ต้องคิดเลย นี่ไม่ใช่ไวน์ลาฟีต 1982 แบบนั้นแน่นอน มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นขัณฑสกร(1)ผสมน้ำที่มีขายอยู่ในชนบทโดยเฉพาะ ราคาอยู่ที่แปดเหมา

หม่าต้านเป็นตัวแทนของบ้านพี่สามจ้าว มีขนมไหว้พระจันทร์สองชั่ง และผลไม้กระป๋องสองขวด

ซานหยาและซื่อหยาคนหนึ่งถือขนมไหว้พระจันทร์สองชั่ง ส่วนอีกคนถือผงนมมอลต์มาหนึ่งกล่อง

  

“คุณย่า นี่เป็นของเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่พ่อกับแม่ฝากมาให้ค่ะ”

“ดี ๆๆ ขอบใจพ่อกับแม่พวกเธอด้วยนะ” คุณแม่จ้าวพูดอย่างมีความสุข “อยู่ฉลองกันที่นี่นะ อาเล็กของพวกเธอจะห่อเกี๊ยวให้กินด้วย”

ซานหยาและซื่อหยาแสดงออกเป็นคนแรก “แม่บอกไว้แล้วค่ะ บอกให้พวกหนูอยู่ฉลองกับคุณปู่คุณย่าที่นี่”

 

อีกสองหยาที่เหลือก็แสดงออกว่าจะอยู่ฉลองที่นี่

  

จ้าวเหวินเทากล่าว “งั้นพวกเธอก็อยู่ว่าง ๆ ไม่ได้นะ ต้าหยาพาพวกน้อง ๆ ไปเก็บผักมากินกับน้ำจิ้มตอนเที่ยง ส่วนเถี่ยต้านพาน้อง ๆ ผู้ชายที่เหลือไปเก็บฟืนกลับมาเผาไฟ”

 

“ผมอยากเก็บไข่ไก่ อาเล็ก อาเลี้ยงไก่ไว้เยอะมากเลยไม่ใช่เหรอ แถมยังมีเป็ดด้วย พวกมันวางไข่ที่ไหนเหรอ?” หม่าต้านถามด้วยความตื่นเต้น

 

“ยังไม่ทันได้วางไข่ก็เป็นกังวลแล้ว ปีหน้านะ ค่อยมาเก็บไข่!’

 

หม่าต้านไม่ได้รู้สึกผิดหวัง เพียงไม่นานก็กลับมาร่าเริงอีกครั้ง “อาเล็ก ปีหน้าจะออกไข่ได้เยอะเหมือนกับหลี่เฉียจื่อหรือเปล่าครับ?”

จ้าวเหวินเทาเหงื่อตก “หม่าต้าน เธอเรียนภาษายังไงของเธอเนี่ย? นั่นเป็นไก่ต่างหากล่ะที่ออกไข่ ไม่ใช่อาเล็กของเธอออกไข่สักหน่อย!”

พวกเด็ก ๆ พากันหัวเราะร่า

หม่าต้านกลับไม่กลัวแม้แต่น้อย “อาเล็ก ผมหมายถึงไก่บ้านอาเล็กไม่ใช่เหรอ? ผมก็ไม่ได้พูดผิดนี่นา”

“ยังไม่ยอมรับอีก เธอบอกว่าไก่ของอาที่ไหนกัน เธอบอกว่าอาออกไข่ต่างหากล่ะ บอกอามาซะดี ๆ เธอสอบวิชาภาษาจีนได้กี่คะแนน?” จ้าวเหวินเทาถาม

 

“ไม่บอกหรอก!” หม่าต้านรีบเปลี่ยนประเด็น “แล้วสรุปว่าจะมากกว่าบ้านของเขาหรือเปล่าล่ะครับ?”

“ก็ต้องมากกว่าอยู่แล้ว!” จ้าวเหวินเทาคุยโวโอ้อวดก่อน “ถึงเวลานั้นอาจะเรียกให้เธอมาเก็บให้หนำใจเลย! หม่าต้าน เธอไม่พูด อาก็รู้ว่าเธอคงสอบได้คะแนนไม่ดีแน่นอน”

 

“ผมสอบได้คะแนนดีจะตาย!” หม่าต้านกระวนกระวาย “ครูของผมยังชมผมด้วยนะ!”

 

เย่ฉูฉู่หมดคำพูด “ตอนแรกไข่ไก่ที่ออกมาไม่ได้เยอะขนาดนั้น คงสู้คนอื่นไม่ได้ รออีกสักสองสามปีนะ หม่าต้านเรียนเก่งมากแล้ว อาเล็กก็แค่พูดเล่นน่ะ”

  

หม่าต้านถอนหายใจอย่างโล่งอก และเดินตามเถี่ยต้านและคนอื่น ๆ ไป

เอ้อร์หยากล่าว “อาสะใภ้หก ไฉไฉล่ะคะ?”

 

“ไฉไฉออกไปเล่นในป่าแล้วจ๊ะ อีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว

 

เอ้อร์หยารู้สึกผิดหวังมาก ลิงน้อยน่ารักมาก แต่ก็ไม่ได้เห็นอยู่เรื่อยเลย

หลังจากต้าหยาและบรรดาเสี่ยวหยาไปเก็บผักในสวนแล้ว เย่ฉูฉู่จึงกล่าว “คุณแม่คะ ฉันเอาของไปไว้ในบ้านนะคะ”

  

“ก็ได้ เธอเอาเข้าไปเถอะ” คุณแม่จ้าวตั้งใจอยู่กับการเลี้ยงหลานชาย

เย่ฉูฉู่จึงนำของเข้าไปด้านใน

 

จ้าวเหวินเทามองของเหล่านั้น “พี่รองกับพี่สี่ยังพอทน พี่สามนี่ขี้งกเกินไปแล้ว เอาของมาให้แค่นี้เอง ขนมไหว้พระจันทร์นั่นไม่ต้องพูดถึงหรอก คงแข็งโป๊กแน่ ๆ แม่กับพ่อกัดไม่เข้าหรอก”

 

จ้าวเหวินเทาซื้อขนมไหว้พระจันทร์กลับมาฉลองตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว เป็นขนมไหว้พระจันทร์ไส้ธัญพืชห้าอย่างที่สั่งทำไว้ในเมือง มีสี่ชิ้น ขนาดใหญ่และนิ่ม ในนั้นมีไส้แน่นเต็มคำ นอกจากขนมไหว้พระจันทร์ ยังซื้อเหล้าขาวมาให้พ่อกับแม่หนึ่งลังด้วย ส่วนของเขาซื้อขนมไหว้พระจันทร์มานิดหน่อย ปกติอยู่บ้านเขาก็ไม่ได้ดื่มเหล้าอยู่แล้ว ภรรยาของเขาก็ไม่ค่อยดื่มด้วย

“พี่สามของคุณก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ขนาดกับตัวเองยังประหยัดเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ซื้อขนมไหว้พระจันทร์มาให้นิดหน่อยก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” เย่ฉูฉู่ปลอบ

 

คุณแม่จ้าวเข้าใจลูกชายคนที่สามเป็นอย่างดี เขาใช้ชีวิตเป็นเกินไปแล้ว จึงไม่ยอมกินไม่ยอมดื่มเพราะเสียดาย ซื้อของมาฉลองเทศกาลแบบนี้ย่อมรู้สึกปวดใจมาก แต่จะทำอะไรได้ นี่ก็เป็นลูกที่นางให้กำเนิดออกมา ลูก ๆ ก็เป็นพ่อคนกันหมดแล้ว คิดจะเปลี่ยนก็คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ดังนั้นปล่อยเขาไปเถอะ

  

จ้าวเหวินเทายังอยากพูดอะไรต่อ เย่ฉูฉู่ก็พูดออกมาว่า “พี่สามเองก็ลำบาก คุณพูดให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ”

 

จ้าวเหวินเทาส่ายหน้า และพูดถึงเรื่องอื่นแทน

การฉลองเทศกาลในวันนี้ ฟาร์มกระต่ายไม่สามารถหยุดงานได้ จ้าวเหวินเทาจึงแจกเงินในวันหยุดให้ทุกคนคนละห้าหยวน เพิ่มด้วยของกินอร่อย ๆ ในมื้อนี้ ทุกคนจึงพึงพอใจอย่างมาก

  

อาหารมีไก่ตุ๋นสองตัว ปลาตุ๋นหนึ่งหม้อ ไก่เป็นไก่ที่เลี้ยงเอง ส่วนปลาจับมาจากในแม่น้ำ เป็นปลาขาวสร้อยที่มีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ ผัดกับข้าวเพิ่มอีกสามสี่อย่าง ไส้เนื้อลงไปในนั้นทั้งหมด และน้ำพริกคู่กับผักจานใหญ่อีกหนึ่งจาน ทั้งผักและเนื้อมีครบแล้ว อาหารจานหลักคือเกี๊ยว มีไส้เนื้อหมูผสมผักชีล้อมและไส้ไข่ไก่ผสมกุยช่าย แต่ละคนดื่มเหล้าแก้วเล็ก อาหารวางอยู่เต็มโต๊ะมากกว่าฉลองเทศกาลที่บ้านตัวเองเสียอีก

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เรียกอีกชื่อว่าแซคคารินหรือดีน้ำตาล ให้ความหวานสูงกว่าน้ำตาล 300 เท่า สูตรทางเคมีคือ C7H5NO3S ในอดีตนิยมใช้อย่างกว้างขวางเพราะมีราคาถูกกว่าน้ำตาล แต่ปัจจุบันเลิกใช้กันแล้วเพราะมีงานวิจัยพบว่าเป็นสารก่อมะเร็ง

สารจากผู้แปล

ดีจังเลยที่ถึงหยุดงานไม่ได้ก็มีอาหารการกินดีเยี่ยมมาแทน

พี่สามจะประหยัดถึงขนาดไหนเนี่ย นี่เทศกาลนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+