เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ

Now you are reading เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] Chapter 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ
ตอนที่ 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ

“แม่ทำคนเดียวไหวเหรอ?” เย่ฉูฉู่กังวลใจมาก ทำอาหารให้คนสิบกว่าคนเป็นงานที่เหนื่อยมากเลยนะ

“แม่ทำคนเดียวไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงเวลานั้นค่อยหาคนมาช่วยอีกสักสองสามคน” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่เห็นจ้าวเหวินเทาวางแผนไว้ดีแล้วจึงไม่ได้พูดอะไรให้มากมายอีก เธอหยิบแบบเสื้อผ้าที่ออกแบบไว้ช่วงนี้ออกมาจากตู้เพื่อให้เขาดู

“พี่สะใภ้สามให้ฉันออกแบบเสื้อผ้าสี่ฤดูออกมาหนึ่งชุด บอกว่าจะทำแฟชั่นโชว์ในธีมโฟร์ซีซัน นี่เป็นชุดฤดูร้อน คุณดูสิ เป็นยังไงบ้าง?” น้ำเสียงของเย่ฉูฉู่แฝงด้วยความโอ้อวด

จ้าวเหวินเทาก็ต้องบอกว่าสวยอยู่แล้ว เขาดูภาพร่างที่ภรรยาวาดด้วยมือหนึ่งรอบ กล่าวชมว่า “ภรรยา คุณวาดดีมากเลย! สวยจริง ๆ คุณตัดให้ตัวเองสักชุดสิ เอาตัวนี้แหละ แก้แขนเสื้อกับขากางเกงหน่อย แบบนี้กว้างเกินไปแล้ว ลมเข้าได้ด้วย ลมฤดูใบไม้ผลิแรงแล้วก็หนาว ภรรยา ผมว่านะ ขากางเกงอันนี้ใส่เชือกผูกขาด้วยได้หรือเปล่า เหมือนกับที่พวกป้า ๆ ใส่นั่นไง ทำแบบนี้ลมไม่เข้าไปด้านในแน่นอน”

จ้าวเหวินเทาเสนอความคิดเห็น

กระโปรงของชุดที่อยู่บนนิตยสารเหล่านั้นยาวลากพื้นจนกวาดขยะบนถนนได้แล้ว จนแบบของเธอดูเบาไปเลย

“คุณพูดถูก เพียงแต่ว่านี่เป็นแค่เสื้อผ้าหนึ่งตัว คุณต้องดูทั้งชุด มองด้านบนและด้านล่างพร้อมกันเลย แขนเสื้อพอง ๆ ต้องเข้าคู่กับกางเกงขาบาน แบบนี้ถึงจะสวย ดูทันสมัยด้วย” เย่ฉูฉู่อธิบาย “ที่คุณพูดมามันต้องออกแบบอีกอย่าง เพื่อให้เข้ากับเสื้อด้านบน”

จ้าวเหวินเทารีบพูด “ภรรยา คุณนี่สุดยอดจริง ๆ ถูกต้อง เป็นแบบนี้แหละ ถึงจะดูสวยทั้งชุด อืม คุณวาดไว้ดีมากเลยนะ!”

ได้ฟังคำชมไร้แก่นสารของสามีแล้ว เย่ฉูฉู่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดไปล้วนเปล่าประโยชน์ ในเวลานี้เองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“ต้องเป็นพี่สามโทรมาแน่เลย!” เย่ฉูฉู่อุทานความประหลาดใจและรีบไปรับสาย

จ้าวเหวินเทาคิดไม่ถึงว่าภรรยาจะชอบโทรศัพท์ขนาดนี้ จึงเดินไปกล่อมเสี่ยวไป๋หยางด้วยรอยยิ้ม

คนที่โทรมาย่อมเป็นเย่หมิงเป่ยอยู่แล้ว เขากล่าวทักทายกับเย่ฉูฉู่ จากนั้นก็ให้โจวหมิ่นคุย

“พี่สะใภ้สาม ฉันติดโทรศัพท์แล้วนะคะ!” เย่ฉูฉู่พูดด้วยความตื่นเต้น “หลังจากนี้อยากคุยกับพี่สะใภ้สามตอนไหนก็สะดวกแล้ว!”

โจวหมิ่นกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “เธอติดตั้งโทรศัพท์ไว้ก็ดีแล้วล่ะ เขียนจดหมายช้ามาก มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถคุยกับเธอให้ชัดเจนได้ คุยโทรศัพท์นี่แหละดี”

“ใช่แล้วพี่สะใภ้สาม จริงสิ ฉันออกแบบเสื้อผ้าชุดสี่ฤดูตามที่พี่บอกออกมาแล้วนะคะ ไม่รู้ว่าใช้ได้หรือเปล่า พรุ่งนี้ฉันจะให้เหวินเทาส่งไปรษณีย์ไปให้นะ”

“เธอออกแบบทั้งทีจะใช้ไม่ได้ได้ไง?” โจวหมิ่นกล่าว “เธอไม่ต้องเครียด ทำตามความคิดของเธอนั่นแหละ”

เย่ฉูฉู่รู้สึกซึ้งใจกับความเชื่อใจของโจวหมิ่นมาก “นี่ถ้าตอนนี้พี่สะใภ้สามเห็นชุดที่ฉันออกแบบก็คงจะดี ถ้าไม่ได้ฉันจะได้แก้ไขทันที”

โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอนี่ใจร้อนกว่าฉันอีกนะเนี่ย อีกไม่นานพวกเราก็จะได้เห็นหน้ากันผ่านโทรศัพท์แล้ว ถึงเวลานั้นฉันก็สามารถเห็นแบบร่างของเธอได้ทุกที่ทุกเวลาเลย”

เย่ฉูฉู่คิดว่านี่เป็นคำพูดปลอบใจของโจวหมิ่น เธอไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้อีกสิบกว่าปีจะมีคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งกล้องทำให้มองเห็นอีกฝ่ายได้แล้ว และผ่านไปอีกยี่สิบกว่าปีก็จะมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถวิดีโอคอลได้ทุกที่ทุกเวลา

เธอไม่รู้ แต่โจวหมิ่นกลับทราบดี

พี่สะใภ้น้องสามีพูดคุยกันอย่างออกรส ทำเอาสามีของพวกเธอทั้งคู่แอบหึงหวง ตอนที่ภรรยาคุยกับพวกเขายังไม่มีความสุขขนาดนี้เลย

หลังจากวางสาย เย่ฉูฉู่ก็รู้สึกอารมณ์ค้างนิดหน่อย แล้วพูดกับสามีว่า “คุยกับพี่สะใภ้สามนี่ดีจริง ๆ เลย ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะไปหมด ทำไมคุณทำหน้าแบบนั้นคะเนี่ย?”

“ภรรยา คุณมองไม่ออกเหรอว่าผมอิจฉามาก?” จ้าวเหวินเทาพูดเกินจริง

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขา “ไปเลยไป!”

ทางฝั่งโจวหมิ่นก็กำลังชมเย่ฉูฉู่ “ฉูฉู่นี่ฉลาดจริง ๆ เลยนะ พูดแค่ครั้งเดียวก็เข้าใจแล้ว แค่นิดเดียวก็ทะลุปรุโปร่งเลย อยากให้เธอมาที่นี่จัง”

สายตาของเย่หมิงเป่ยดูขุ่นเคือง “หมินหมิ่น คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า?”

“ลืมอะไรคะ?” โจวหมิ่นไม่เข้าใจ

คุณแม่เย่ที่กำลังกล่อมหลานอยู่ข้าง ๆ พูดเคล้ารอยยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก ติดตั้งโทรศัพท์แล้ว จะคุยกันตอนไหนก็ได้ทุกที่ทุกเวลานั่นแหละ”

โจวหมิ่นส่งเสียง ‘โอ๊ย’ และตบหน้าผากตัวเอง “ดูฉันสิ คุยกับฉูฉู่เพลิน ลืมแม่ไปเสียสนิทเลย”

คุณแม่เย่ยิ้ม “พวกเธอคุยกันแม่ก็มีความสุขแล้ว ไม่เป็นไร ครั้งหน้าค่อยคุยกันก็ได้”

เย่หมิงเป่ยกล่าว “ฉูฉู่เองก็น่าจะลืมแล้วเหมือนกัน”

โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ลืมแน่นอนเลย ไม่งั้นเธอคงพูดถึงนานแล้ว พอฉูฉู่พูดถึงเรื่องเสื้อผ้าของเธอก็ลืมไปหมดทุกอย่าง”

“คิดไม่ถึงเลยนะว่าสองพี่น้องสะใภ้จะคุยกันออกรสขนาดนี้” คุณแม่เย่กล่าว “คนไม่รู้คงคิดว่าพวกเธอเป็นพี่น้องแท้ ๆ”

“ฉันกับฉูฉู่ถูกชะตากันไงคะ” โจวหมิ่นกล่าว

ตอนนี้โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ตอนที่โจวหมิ่นรับสาย ก็ได้ยินเสียงหงุดหงิดของเย่ฉูฉู่ดังขึ้นจากปลายสาย “พี่สะใภ้สาม ฉันขอคุยกับแม่หน่อย เมื่อกี้ฉันลืมไปเสียสนิทเลย”

โจวหมิ่นหัวเราะร่า จากนั้นก็เรียกคุณแม่เย่ให้มารับสาย

เย่ฉูฉู่เองก็เพิ่งนึกถึงแม่ จึงโทรศัพท์มาหาอีกครั้ง

“แม่สบายดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม

คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่สบายดี แกลืมแม่ไปเลยนะ”

เย่ฉูฉู่รีบขอโทษขอโพยอย่างรวดเร็ว คุณแม่เย่ก็ไม่ได้โทษลูกสาวของนางจริง ๆ นางถามถึงสถานการณ์ภายในบ้าน

สองแม่ลูกคุยกันครู่หนึ่งก็วาดสายไป

“มีโทรศัพท์นี่ดีจริง ๆ เลยนะ คิดถึงใครก็โทรไปคุยได้ เหมือนอยู่ใกล้กันเลย” คุณแม่เย่พูดด้วยอารมณ์ความรู้สึก “ไม่แปลกใจเลยที่คนพูดกันว่า ชีวิตที่ดีก็คือด้านบนและด้านล่างมีไฟฟ้ามีโทรศัพท์ ถือว่าจริงเลยแหละ”

คุณแม่เย่ก็คิดถึงบ้านแล้ว นางเป็นห่วงคุณพ่อเย่ เป็นห่วงหลานชายหลานสาว คิดถึงลูกชายและลูกสาว แต่ลูกชายทั้งสองคนต่างก็โตกันหมดแล้ว ตอนนี้ลูกชายคนเล็กก็มีลูกแล้ว ไม่สามารถดูแลชีวิตพวกเขาได้แล้ว ดังนั้นต่อให้คิดถึงก็ทำได้เพียงแค่อดทน

โจวหมิ่นมองเห็นถึงความคิดของคุณแม่เย่ “แม่คะ ถึงเวลานั้นก็บอกให้คุณพ่อไปที่บ้านฉูฉู่สิคะ แม่จะได้คุยกับพ่อด้วย”

เย่หมิงเป่ยกล่าว “แม่ แบบนี้ก็ดีนะ! แม่คิดถึงใครก็บอกให้พวกเขาไปบ้านฉูฉู่ ก็คุยกับแม่ได้แล้ว!”

คุณแม่เย่ก็คิดว่าไม่เลวเลย “ได้ ถึงเวลานั้นแม่จะบอกฉูฉู่”

อันที่จริงไม่ต้องพูด เย่ฉูฉู่ก็พูดกับจ้าวเหวินเทาแล้ว วันพรุ่งนี้เธอจะให้คุณพ่อเย่มาโทรคุยกับคุณแม่เย่ นี่ก็นานมากแล้ว ทั้งสองคนคงคิดถึงกันมาก

จ้าวเหวินเทาตกปากรับคำ วันรุ่งขึ้นจึงไปรับพ่อตามาที่บ้าน นอกจากนี้ยังมีพี่ใหญ่เย่และพี่รองเย่ รวมถึงพวกลูก ๆ ด้วย พวกเขาพูดคุยโทรศัพท์กับคุณแม่เย่ คุณแม่เย่ที่อยู่ทางฝั่งนั้นก็ถึงกับขอบตารื้น แต่เมื่อได้ยินว่าพวกลูกหลานและสามีสบายดี นางก็บรรเทาความรู้สึกคิดถึงบ้านได้เช่นกัน

ฤดูร้อนปีนี้ คนของหมู่บ้านข้าวซานถุนต่างยุ่งจนหัวหมุน นอกหมู่บ้านมีจ้าวเหวินเทาที่กำลังสร้างฟาร์มกระต่าย ในหมู่บ้านก็ยังมีอีกหลายครอบครัวที่กำลังสร้างบ้าน นอกจากนี้ก็ยังยุ่งอยู่กับการลงนาทำสวน ได้เห็นถึงชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง

ผ่านไปกว่าครึ่งเดือน ฟาร์มกระต่ายขั้นพื้นฐานของจ้าวเหวินเทาก็สร้างขึ้นมาแล้ว รังกระต่ายถูกวางเรียงกันเป็นแถว ห้องพักของพนักงานก็ถูกจัดเรียงเป็นแถว รอบ ๆ คือต้นไม้ ต้นหญ้า ล้อมด้วยลวดหนาม แบบนี้กระต่ายก็จะวิ่งออกไปไม่ได้ ภายในพื้นที่ขอบเขตกิจกรรมถูกแบ่งออกเป็นสวนผัก กองฟืน โกดัง และสวนผลไม้ หนึ่งในนั้นมีถนนไว้เดินซึ่งปูพื้นด้วยหินชนวน มีความคดเคี้ยวไปมาให้ความรู้สึกได้ถึงทางคดเคี้ยวนำไปสู่สถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงาม

ไม่เพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เพื่อให้เดินสะดวกเมื่อฝนตกด้วย จ้าวเหวินเทาเห็นถนนที่สะอาดสะอ้านในเมืองก็รู้สึกอิจฉามาก เขาจึงทำให้เกิดขึ้นจริงที่ฟาร์มกระต่ายก่อนเป็นที่แรก

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

พอติดตั้งโทรศัพท์แล้วมันก็สะดวกแบบนี้จริงๆ คิดถึงใครก็คุยกันได้ ส่วนเรื่องค่าโทรศัพท์บ้านนี้คงจ่ายไหวอยู่

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ

Now you are reading เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] Chapter 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ
ตอนที่ 268 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ

“แม่ทำคนเดียวไหวเหรอ?” เย่ฉูฉู่กังวลใจมาก ทำอาหารให้คนสิบกว่าคนเป็นงานที่เหนื่อยมากเลยนะ

“แม่ทำคนเดียวไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงเวลานั้นค่อยหาคนมาช่วยอีกสักสองสามคน” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่เห็นจ้าวเหวินเทาวางแผนไว้ดีแล้วจึงไม่ได้พูดอะไรให้มากมายอีก เธอหยิบแบบเสื้อผ้าที่ออกแบบไว้ช่วงนี้ออกมาจากตู้เพื่อให้เขาดู

“พี่สะใภ้สามให้ฉันออกแบบเสื้อผ้าสี่ฤดูออกมาหนึ่งชุด บอกว่าจะทำแฟชั่นโชว์ในธีมโฟร์ซีซัน นี่เป็นชุดฤดูร้อน คุณดูสิ เป็นยังไงบ้าง?” น้ำเสียงของเย่ฉูฉู่แฝงด้วยความโอ้อวด

จ้าวเหวินเทาก็ต้องบอกว่าสวยอยู่แล้ว เขาดูภาพร่างที่ภรรยาวาดด้วยมือหนึ่งรอบ กล่าวชมว่า “ภรรยา คุณวาดดีมากเลย! สวยจริง ๆ คุณตัดให้ตัวเองสักชุดสิ เอาตัวนี้แหละ แก้แขนเสื้อกับขากางเกงหน่อย แบบนี้กว้างเกินไปแล้ว ลมเข้าได้ด้วย ลมฤดูใบไม้ผลิแรงแล้วก็หนาว ภรรยา ผมว่านะ ขากางเกงอันนี้ใส่เชือกผูกขาด้วยได้หรือเปล่า เหมือนกับที่พวกป้า ๆ ใส่นั่นไง ทำแบบนี้ลมไม่เข้าไปด้านในแน่นอน”

จ้าวเหวินเทาเสนอความคิดเห็น

กระโปรงของชุดที่อยู่บนนิตยสารเหล่านั้นยาวลากพื้นจนกวาดขยะบนถนนได้แล้ว จนแบบของเธอดูเบาไปเลย

“คุณพูดถูก เพียงแต่ว่านี่เป็นแค่เสื้อผ้าหนึ่งตัว คุณต้องดูทั้งชุด มองด้านบนและด้านล่างพร้อมกันเลย แขนเสื้อพอง ๆ ต้องเข้าคู่กับกางเกงขาบาน แบบนี้ถึงจะสวย ดูทันสมัยด้วย” เย่ฉูฉู่อธิบาย “ที่คุณพูดมามันต้องออกแบบอีกอย่าง เพื่อให้เข้ากับเสื้อด้านบน”

จ้าวเหวินเทารีบพูด “ภรรยา คุณนี่สุดยอดจริง ๆ ถูกต้อง เป็นแบบนี้แหละ ถึงจะดูสวยทั้งชุด อืม คุณวาดไว้ดีมากเลยนะ!”

ได้ฟังคำชมไร้แก่นสารของสามีแล้ว เย่ฉูฉู่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดไปล้วนเปล่าประโยชน์ ในเวลานี้เองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“ต้องเป็นพี่สามโทรมาแน่เลย!” เย่ฉูฉู่อุทานความประหลาดใจและรีบไปรับสาย

จ้าวเหวินเทาคิดไม่ถึงว่าภรรยาจะชอบโทรศัพท์ขนาดนี้ จึงเดินไปกล่อมเสี่ยวไป๋หยางด้วยรอยยิ้ม

คนที่โทรมาย่อมเป็นเย่หมิงเป่ยอยู่แล้ว เขากล่าวทักทายกับเย่ฉูฉู่ จากนั้นก็ให้โจวหมิ่นคุย

“พี่สะใภ้สาม ฉันติดโทรศัพท์แล้วนะคะ!” เย่ฉูฉู่พูดด้วยความตื่นเต้น “หลังจากนี้อยากคุยกับพี่สะใภ้สามตอนไหนก็สะดวกแล้ว!”

โจวหมิ่นกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “เธอติดตั้งโทรศัพท์ไว้ก็ดีแล้วล่ะ เขียนจดหมายช้ามาก มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถคุยกับเธอให้ชัดเจนได้ คุยโทรศัพท์นี่แหละดี”

“ใช่แล้วพี่สะใภ้สาม จริงสิ ฉันออกแบบเสื้อผ้าชุดสี่ฤดูตามที่พี่บอกออกมาแล้วนะคะ ไม่รู้ว่าใช้ได้หรือเปล่า พรุ่งนี้ฉันจะให้เหวินเทาส่งไปรษณีย์ไปให้นะ”

“เธอออกแบบทั้งทีจะใช้ไม่ได้ได้ไง?” โจวหมิ่นกล่าว “เธอไม่ต้องเครียด ทำตามความคิดของเธอนั่นแหละ”

เย่ฉูฉู่รู้สึกซึ้งใจกับความเชื่อใจของโจวหมิ่นมาก “นี่ถ้าตอนนี้พี่สะใภ้สามเห็นชุดที่ฉันออกแบบก็คงจะดี ถ้าไม่ได้ฉันจะได้แก้ไขทันที”

โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอนี่ใจร้อนกว่าฉันอีกนะเนี่ย อีกไม่นานพวกเราก็จะได้เห็นหน้ากันผ่านโทรศัพท์แล้ว ถึงเวลานั้นฉันก็สามารถเห็นแบบร่างของเธอได้ทุกที่ทุกเวลาเลย”

เย่ฉูฉู่คิดว่านี่เป็นคำพูดปลอบใจของโจวหมิ่น เธอไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้อีกสิบกว่าปีจะมีคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งกล้องทำให้มองเห็นอีกฝ่ายได้แล้ว และผ่านไปอีกยี่สิบกว่าปีก็จะมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถวิดีโอคอลได้ทุกที่ทุกเวลา

เธอไม่รู้ แต่โจวหมิ่นกลับทราบดี

พี่สะใภ้น้องสามีพูดคุยกันอย่างออกรส ทำเอาสามีของพวกเธอทั้งคู่แอบหึงหวง ตอนที่ภรรยาคุยกับพวกเขายังไม่มีความสุขขนาดนี้เลย

หลังจากวางสาย เย่ฉูฉู่ก็รู้สึกอารมณ์ค้างนิดหน่อย แล้วพูดกับสามีว่า “คุยกับพี่สะใภ้สามนี่ดีจริง ๆ เลย ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะไปหมด ทำไมคุณทำหน้าแบบนั้นคะเนี่ย?”

“ภรรยา คุณมองไม่ออกเหรอว่าผมอิจฉามาก?” จ้าวเหวินเทาพูดเกินจริง

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขา “ไปเลยไป!”

ทางฝั่งโจวหมิ่นก็กำลังชมเย่ฉูฉู่ “ฉูฉู่นี่ฉลาดจริง ๆ เลยนะ พูดแค่ครั้งเดียวก็เข้าใจแล้ว แค่นิดเดียวก็ทะลุปรุโปร่งเลย อยากให้เธอมาที่นี่จัง”

สายตาของเย่หมิงเป่ยดูขุ่นเคือง “หมินหมิ่น คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า?”

“ลืมอะไรคะ?” โจวหมิ่นไม่เข้าใจ

คุณแม่เย่ที่กำลังกล่อมหลานอยู่ข้าง ๆ พูดเคล้ารอยยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก ติดตั้งโทรศัพท์แล้ว จะคุยกันตอนไหนก็ได้ทุกที่ทุกเวลานั่นแหละ”

โจวหมิ่นส่งเสียง ‘โอ๊ย’ และตบหน้าผากตัวเอง “ดูฉันสิ คุยกับฉูฉู่เพลิน ลืมแม่ไปเสียสนิทเลย”

คุณแม่เย่ยิ้ม “พวกเธอคุยกันแม่ก็มีความสุขแล้ว ไม่เป็นไร ครั้งหน้าค่อยคุยกันก็ได้”

เย่หมิงเป่ยกล่าว “ฉูฉู่เองก็น่าจะลืมแล้วเหมือนกัน”

โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ลืมแน่นอนเลย ไม่งั้นเธอคงพูดถึงนานแล้ว พอฉูฉู่พูดถึงเรื่องเสื้อผ้าของเธอก็ลืมไปหมดทุกอย่าง”

“คิดไม่ถึงเลยนะว่าสองพี่น้องสะใภ้จะคุยกันออกรสขนาดนี้” คุณแม่เย่กล่าว “คนไม่รู้คงคิดว่าพวกเธอเป็นพี่น้องแท้ ๆ”

“ฉันกับฉูฉู่ถูกชะตากันไงคะ” โจวหมิ่นกล่าว

ตอนนี้โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ตอนที่โจวหมิ่นรับสาย ก็ได้ยินเสียงหงุดหงิดของเย่ฉูฉู่ดังขึ้นจากปลายสาย “พี่สะใภ้สาม ฉันขอคุยกับแม่หน่อย เมื่อกี้ฉันลืมไปเสียสนิทเลย”

โจวหมิ่นหัวเราะร่า จากนั้นก็เรียกคุณแม่เย่ให้มารับสาย

เย่ฉูฉู่เองก็เพิ่งนึกถึงแม่ จึงโทรศัพท์มาหาอีกครั้ง

“แม่สบายดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม

คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่สบายดี แกลืมแม่ไปเลยนะ”

เย่ฉูฉู่รีบขอโทษขอโพยอย่างรวดเร็ว คุณแม่เย่ก็ไม่ได้โทษลูกสาวของนางจริง ๆ นางถามถึงสถานการณ์ภายในบ้าน

สองแม่ลูกคุยกันครู่หนึ่งก็วาดสายไป

“มีโทรศัพท์นี่ดีจริง ๆ เลยนะ คิดถึงใครก็โทรไปคุยได้ เหมือนอยู่ใกล้กันเลย” คุณแม่เย่พูดด้วยอารมณ์ความรู้สึก “ไม่แปลกใจเลยที่คนพูดกันว่า ชีวิตที่ดีก็คือด้านบนและด้านล่างมีไฟฟ้ามีโทรศัพท์ ถือว่าจริงเลยแหละ”

คุณแม่เย่ก็คิดถึงบ้านแล้ว นางเป็นห่วงคุณพ่อเย่ เป็นห่วงหลานชายหลานสาว คิดถึงลูกชายและลูกสาว แต่ลูกชายทั้งสองคนต่างก็โตกันหมดแล้ว ตอนนี้ลูกชายคนเล็กก็มีลูกแล้ว ไม่สามารถดูแลชีวิตพวกเขาได้แล้ว ดังนั้นต่อให้คิดถึงก็ทำได้เพียงแค่อดทน

โจวหมิ่นมองเห็นถึงความคิดของคุณแม่เย่ “แม่คะ ถึงเวลานั้นก็บอกให้คุณพ่อไปที่บ้านฉูฉู่สิคะ แม่จะได้คุยกับพ่อด้วย”

เย่หมิงเป่ยกล่าว “แม่ แบบนี้ก็ดีนะ! แม่คิดถึงใครก็บอกให้พวกเขาไปบ้านฉูฉู่ ก็คุยกับแม่ได้แล้ว!”

คุณแม่เย่ก็คิดว่าไม่เลวเลย “ได้ ถึงเวลานั้นแม่จะบอกฉูฉู่”

อันที่จริงไม่ต้องพูด เย่ฉูฉู่ก็พูดกับจ้าวเหวินเทาแล้ว วันพรุ่งนี้เธอจะให้คุณพ่อเย่มาโทรคุยกับคุณแม่เย่ นี่ก็นานมากแล้ว ทั้งสองคนคงคิดถึงกันมาก

จ้าวเหวินเทาตกปากรับคำ วันรุ่งขึ้นจึงไปรับพ่อตามาที่บ้าน นอกจากนี้ยังมีพี่ใหญ่เย่และพี่รองเย่ รวมถึงพวกลูก ๆ ด้วย พวกเขาพูดคุยโทรศัพท์กับคุณแม่เย่ คุณแม่เย่ที่อยู่ทางฝั่งนั้นก็ถึงกับขอบตารื้น แต่เมื่อได้ยินว่าพวกลูกหลานและสามีสบายดี นางก็บรรเทาความรู้สึกคิดถึงบ้านได้เช่นกัน

ฤดูร้อนปีนี้ คนของหมู่บ้านข้าวซานถุนต่างยุ่งจนหัวหมุน นอกหมู่บ้านมีจ้าวเหวินเทาที่กำลังสร้างฟาร์มกระต่าย ในหมู่บ้านก็ยังมีอีกหลายครอบครัวที่กำลังสร้างบ้าน นอกจากนี้ก็ยังยุ่งอยู่กับการลงนาทำสวน ได้เห็นถึงชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง

ผ่านไปกว่าครึ่งเดือน ฟาร์มกระต่ายขั้นพื้นฐานของจ้าวเหวินเทาก็สร้างขึ้นมาแล้ว รังกระต่ายถูกวางเรียงกันเป็นแถว ห้องพักของพนักงานก็ถูกจัดเรียงเป็นแถว รอบ ๆ คือต้นไม้ ต้นหญ้า ล้อมด้วยลวดหนาม แบบนี้กระต่ายก็จะวิ่งออกไปไม่ได้ ภายในพื้นที่ขอบเขตกิจกรรมถูกแบ่งออกเป็นสวนผัก กองฟืน โกดัง และสวนผลไม้ หนึ่งในนั้นมีถนนไว้เดินซึ่งปูพื้นด้วยหินชนวน มีความคดเคี้ยวไปมาให้ความรู้สึกได้ถึงทางคดเคี้ยวนำไปสู่สถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงาม

ไม่เพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เพื่อให้เดินสะดวกเมื่อฝนตกด้วย จ้าวเหวินเทาเห็นถนนที่สะอาดสะอ้านในเมืองก็รู้สึกอิจฉามาก เขาจึงทำให้เกิดขึ้นจริงที่ฟาร์มกระต่ายก่อนเป็นที่แรก

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

พอติดตั้งโทรศัพท์แล้วมันก็สะดวกแบบนี้จริงๆ คิดถึงใครก็คุยกันได้ ส่วนเรื่องค่าโทรศัพท์บ้านนี้คงจ่ายไหวอยู่

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+