God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1780

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1780 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นอกจากดินแดนทะเลเลือด พระพุทธศาสนาและตระกูลหมาป่า กลุ่มอิทธิพลอื่นๆก็ต้องการที่จะล้างแค้นเช่นกัน ทว่าพวกเขาก็ถูกห้ามปราบไว้โดยผู้นำของพวกเขา ไม่สามารถโจมตีนิกายฟ้าดิน ไม่อย่างนั้นจะต้องเผชิญกับหายนะอย่างแน่นอน

เดิมทีทั่วทั้งจักรวาลต่างก็ประหม่าเกรงกลัว คิดว่าจะเกิดสงครามใหญ่โตขึ้น ทว่ามันก็ราวกับฟ้าร้องเสียงดังแต่ฝนกลับตกนิดเดียว ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบสุขเหมือนเดิม เหมือนกับว่าการตายของพระโพ่วฌาและคนอื่นๆไม่ได้เกิดขึ้น

การที่มีอำนาจทำให้ทุกอย่างเงียบสงบเช่นนี้ มันก็ทำให้กลุ่มอิทธิพลส่วนใหญ่พูดคุยกันถึงนิกายฟ้าดินด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม คาดเดากันอย่างต่อเนื่อง

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? กลุ่มของพระโพ่วฌาและพระผู้อาวุโสเหล่านั้นถูกทำลายไปจนราบคาบ ไม่คาดคิดว่าทางพระพุทธศาสนาจะไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้แม้แต่น้อย พวกเขาไม่โมโห ไม่ต้องการที่จะล้างแค้นหรือ?”

“ไม่ใช่เพียงแค่พระพุทธศาสนาเท่านั้นที่ไม่ได้ล้างแค้น ตระกูลหมาป่าในทางตะวันตกของจักรวาลก็เหมือนจะสงบมาก ไม่ได้มีวี่แววของการยกทัพไปถามโทษแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าผู้นำของตนเองถูกสังหารไป นี่คือความอัปยศอดสูครั้งยิ่งใหญ่”

“ม่ายยย สิ่งที่น่าแปลกที่สุดก็คือองค์กรทะเลเลือดที่เป็นองค์ของปีศาจร้ายเหล่านั้น พวกเขาเป็นบุคคลที่ไม่ได้คำนึงถึงกฎหมายและสวรรค์ เป็นบุคคลประเภทที่เสาะหาการล้างแค้นให้กับเรื่องเล็กน้อยที่สุด หากมีบางคนสังหารผู้อาวุโสในองค์กรของพวกเขา พวกเขาจะต้องล้างแค้นอย่างแน่นอน ทว่าตอนนี้กลับไม่มีสัญญาณใดๆมาจากพวกเขา เหมือนกับว่าสองพี่น้องทะเลเลือดไม่ได้ตายไปก็ว่าได้ อันที่จริงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?”

ผู้คนจำนวนมากก็รู้สึกสงสัยอย่างมาก พวกเขาคิดว่ากลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ก็มีอำนาจเทียบเท่าได้กับนิกายฟ้าดิน หากกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ต้องการแก้แค้น นิกายฟ้าดินจะต้องเผชิญกับความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แน่นอน

ทว่ามีที่ไหนที่เป็นอย่างที่พวกเขาคิด กลุ่มอิทธิพลเหล่านั้นต่างก็ไม่กล้าโผล่หัวออกมา เหมือนกับว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างอยู่ในความสงบ นี่มันช่างเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการจริงๆ

“จะต้องมีเรื่องบางอย่างที่พวกเราไม่รู้อย่างแน่นอน”

“พูดถูก กลุ่มอิทธิพลที่น่าเกรงขามเหล่านี้ ทว่าตอนนี้กลับไม่มีความคิดที่จะล้างแค้นเลย พลังอำนาจของนิกายฟ้าดินอยู่เหนือจินตนาการของพวกเราจริงๆ ทำให้พวกเขาไม่กล้าทำอะไรวู่วามออกไป”

“ดูเหมือนว่านิกายฟ้าดินจะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกเราคิด จะต้องยกระดับการประเมินนิกายฟ้าดินให้สูงขึ้นอีก”

ผู้คนต่างก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม พวกเขาคิดว่าจะต้องมีเรื่องเบื้องหลัง แต่ละต่างก็มีสีหน้าที่จริงจังอย่างมาก ประเมินอำนาจของนิกายฟ้าดินใหม่ รวมถึงพลังอำนาจของเซี่ยปิงลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดิน

ทั่วทั้งจักรวาลต่างก็เต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำที่ไหลเชี่ยว กลุ่มอิทธิพลจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังสืบข่าวต่างๆนาๆ

แน่นอนว่ากลุ่มอิทธิพลจำนวนมากก็มีหน่วยข่าวกรองที่ดี ผ่านไปไม่นานก็ได้รู้ข่าวของการที่เซนต์อสูรมืดได้สังหารเซนต์ทั้งสี่ไป ทำให้กลุ่มอิทธิพลจำนวนนับไม่ถ้วนหวาดกลัวและตื่นตระหนก เห็นนิกายฟ้าดินเป็นนิกายที่ไม่สามารถท้าทายได้

…………

หลังจากนั้นหนึ่งวัน

ในที่สุดยานดาราจักรก็ได้เดินทางมาถึงโลกแห่งเมฆา ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุใดๆขึ้นเลย ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น

“ในที่สุดก็ได้กลับอีกครั้ง”

เซี่ยปิงมองดูโลกแห่งเมฆาที่เขาคุ้นเคย เต็มไปด้วยอารมณ์ที่เอ่อล้น เหมือนกับว่าทวีปแห่งนี้ดำรงอยู่ในทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงอยู่ในสภาพเช่นเดิม

ดิ้ง ดิ้ง!!

ในตอนนี้ เสียงของระบบได้ดังขึ้นมา “ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ครั้งนี้ได้กระตุ้นความเกลียดชังมาอย่างมหาศาล ได้รับคริสตัลความเกลียดชังไปห้าสิบหน่วย ตอนนี้ผู้เล่นมีคริสตัลความเกลียดชังทั้งหมด250หน่วย ขอให้ผู้เล่นพยายามต่อไป”

“ดูเหมือนว่าการสังหารพระโพ่วฌาและคนอื่นๆในครั้งนี้จะดึงดูดความเกลียดชังมาได้มากมาย” เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง

วิซ!

ยานอวกาศลงจอดที่โลกแห่งเมฆาอย่างรวดเร็ว จากนั้นประตูยานอวกาศก็เปิดออก วินาทีต่อมาเซี่ยปิงก็เดินออกมาจากข้างใน

“หืม?!”

ทันใดนั้น เซี่ยปิงก็สัมผัสได้ถึงพลังการยับยั้งที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งถ่ายทอดออกมาจากโลกแห่งเมฆา แกนพลังฉีของเขาถูกปิดผนึกอย่างกะทันหัน ลดลงอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดก็หยุดอยู่ที่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด

ตอนนี้เขาก็ล่วงรู้ถึงความรู้สึกก่อนหน้านี้ของมนุษย์ต่างดาวที่ได้เหยียบเข้ามาในโลกแห่งเมฆา แกนพลังฉีถูกปิดผนึกไว้ ถูกยับยั้งจนเหลือพลังอำนาจในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น นี่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอปวกเปียกอย่างแท้จริง

ทว่าเขาก็มั่นใจในความสามารถของตนเอง ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นกังวลแต่อย่างใด

“ดูเหมือนว่าโลกแห่งเมฆาจะไม่ใช่โลกธรรมดาเลย”

ในตอนนี้เซี่ยปิงก็มีความรู้และประสบการณ์นับไม่ถ้วน ล่วงรู้ถึงความลับมากมายของจักรวาล ทว่าโลกที่สามารถยับยั้งแกนพลังฉีของผู้บ่มเพาะอย่างโลกแห่งเมฆานั้น เป็นโลกที่หายากอย่างยิ่ง

บางทีโลกแห่งนี้อาจจะซ่อนความลับที่ยิ่งใหญ่เอาไว้

ยิ่งไปกว่านั้นจู่ๆเขาก็นึกได้ถึงเจ้าปีศาจที่น่าเคารพตั้นเทียนซึ่งถูกปิดผนึกไว้ในเทือกเขาหมอกเมฆา ตอนนี้เมื่อลองคิดดูดีๆ เจ้าปีศาจตนนั้นก็น่าสะพรึงกลัวทีเดียว ถูกปิดผนึกไว้ในเทือกเขาหมอกเมฆา เห็นได้ชัดว่าโลกแห่งเมฆาแห่งนี้มีเรื่องแปลกประหลาดมากมาย

ในความเป็นจริง ครั้งนี้ที่เขากลับมาก็เพื่อสืบหาความลับของโลกแห่งเมฆาเช่นกัน ดูว่ามีโอกาสที่จะดูดกลืนทั้งโลกแห่งนี้ไปได้หรือไม่ ครอบครองเป็นของตนเอง

“อันดับแรกจะต้องดูว่าตอนนี้โลกแห่งเมฆาพัฒนาไปถึงไหน”

ถึงแม้ว่าเซี่ยปิงจะต้องการรู้เกี่ยวกับความลับของโลกแห่งเมฆา ทว่าในช่วงเวลานี้ เขาก็เพิ่งกลับมาที่โลกแห่งเมฆาอีกครั้ง ต้องการที่จะพักผ่อน เพราะว่าถึงอย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะบ่มเพาะอยู่ตลอดเวลา จะต้องแบ่งแยกเวลาทำงานกับพักผ่อนให้สมดุลกัน

ร่างของเขากระพริบหายไป เดินอยู่บนพื้นดินของโลกแห่งเมฆา มองดูเมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยรอบ มองดูสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปของโลกแห่งเมฆา

………

หลังจากนั้นหนึ่งวัน

ตอนนี้เซี่ยปิงก็ล่วงรู้ถึงข้อมูลรายละเอียดคร่าวๆของโลกแห่งเมฆาแล้ว

ในครั้งก่อนที่เขาทำลายกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงและครอบครองยานอวกาศจากกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงมา ทว่ายานอวกาศเหล่านี้ก็แอบแฝงไปด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจักรวาล

อย่างเช่น เครื่องยนต์เร่งความเร็ว ระบบควบคุมแรงโน้มถ่วง คอมพิวเตอร์อัจฉริยะ หุ่นยนต์นาโน เทคโนโลยีของเหล็กไมก้าและวัสดุอื่นๆของยานอวกาศ สิ่งเหล่านี้ต่างก็ถูกศึกษาเจาะลึกโดยนักวิทยาศาสตร์ของโลกแห่งเมฆา

แน่นอนว่าเหตุผลที่พวกเขาศึกษาค้นคว้าได้อย่างรวดเร็วก็เป็นเพราะว่าเครือข่ายเสมือนจริง นักวิทยาศาสตร์ต่างก็เข้าไปในเครือข่ายเสมือนจริง ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของจักรวาล

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนรู้ไปจนถึงระดับสูงสุดและยังล้าหลังอยู่เล็กน้อย ทว่ามันก็เพียงพอให้โลกแห่งเมฆาพัฒนาไปได้ไกลมากขึ้น

ดังนั้นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกแห่งเมฆาจึงพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ทำให้โลกแห่งเมฆาเปลี่ยนแปลงไปราวกับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

อีกทั้งยังเป็นเพราะการยอมจำนนของเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลและเผ่าพันธุ์ปีศาจบนบก ถิ่นฐานของมนุษย์จึงครอบคลุมไปทั่วทั้งโลกแห่งเมฆา ทำให้เมืองมนุษย์กำเนิดขึ้นมามากมาย เป็นเหมือนกับฐานที่มั่นก็ว่าได้ กระจายไปตามทุกซอกทุกมุมของโลกแห่งเมฆา

ทว่าเมืองที่สร้างใหม่เหล่านี้ต่างก็กลายเป็นที่อยู่อาศัยร่วมกันของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลและเผ่าพันธุ์ปีศาจบนบก ทั้งสามเผ่าพันธุ์ต่างก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่ได้รบราฆ่าฟันกันเหมือนก่อน

แน่นอนว่าต้องมีเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจกับการปกครองของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทว่าการกระทำใดๆของพวกมันก็ไร้ประโยชน์ ภายใต้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมถึงพลังการต่อสู้ที่ทรงอำนาจของมนุษย์ พวกมันก็ถูกปราบปรามไปทั้งหมด หากไม่ถูกประหารก็ถูกกักขังไปทั้งหมด

สรุปก็คือส่วนเล็กๆเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม

ในเวลาเดียวกัน แกนพลังฉีของมนุษย์ก็พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด การที่มีต้นไม้วิญญาณห้าธาตุและมีการสนับสนุนของเม็ดยามากมายจากจักรวาล มนุษย์ในระดับราชันก็ถือกำเนิดมากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างทวีคูณ

จนถึงตอนนี้ ก็มีราชันมนุษย์เป็นจำนวนกว่าหนึ่งร้อยล้านคน มีราชันในระดับสมปรารถนาจำนวนหนึ่งแสนคน ราชันในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ก็มีมากกว่าหนึ่งพันคน

เรียกได้ว่าตอนนี้อิทธิพลของเผ่าพันธุ์มนุษย์แตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

“อืม เดี๋ยว นั่นมันพ่อไม่ใช่หรือ?”

ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็กำลังเดินอยู่ตามท้องถนนและสังเกตเห็นหน้าจอทีวีที่อยู่ในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งในหน้าจอนั้นมีภาพของเซี่ยชวนหลี่ พ่อของเขาปรากฏอยู่

เขาสวมใส่ชุดสูทพร้อมรองเท้าหนัง เสยผมไปข้างหลัง มีท่าทางที่ยิ่งใหญ่และสูงส่ง ในเวลานี้กำลังยืนอยู่บนแท่นบางอย่าง ข้างล่างมีเจ้าหน้าที่มากมายที่กำลังตั้งใจฟังเขาอย่างเคารพและจดรายละเอียดอยู่บนสมุดเช่นกัน มีนักข่าวมากมาย เหมือนกับกำลังสัมภาษณ์พ่อของเขา

ทว่าแม่ฮวงหลันซินก็เหมือนจะมีรูปลักษณ์ที่สวยสดงดงาม แต่งตัวอย่างเป็นทางการ นั่งอยู่ในอัฒจันทร์ มีท่าทางที่สง่างามและมีภูมิฐาน ดึงดูดความสนใจของนักข่าวมากมาย กล้องถ่ายรูปก็กดถ่ายอย่างต่อเนื่อง แชะ แชะ

“ประธานาธิบดี? ไม่มีทาง นี่พ่อของข้ากลายเป็นประธานาธิบดีรึ?!”

เซี่ยปิงกระพริบตา มองดูจอทีวีอย่างุนงง เห็นได้ชัดว่าในหนึ่งปีนี้ พ่อเซี่ยชวนหลี่ของตนเองได้กลายเป็นประธานาธิบดีแล้ว ทว่าแม่ฮวงหลันซินก็ได้กลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประธานาธิบดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด