ตอนที่ 1954   เดิมที่กลุ่มของเดม่อนเหล่านี้คิดว่าการสังหารเจ้ามนุษย์นี่เป็นเรื่องที่มีโอกาสประสบความสําเร็จกว่า99% เพราะถึงอย่างไรการที่เผชิญหน้ากับการโจมตีของเดม่อนจํานวนมากเช่นนี้ แม้แต่เดม่อนในระดับสูงสุดก็ไม่สามารถต้านทานได้ จะต้องหายวับไปในพริบตา   ทว่าใครกันที่จะรู้ได้ว่าเจ้ามนุษย์นี่จะมีสิ่งประดิษฐ์เซนต์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้อยู่ สามารถที่จะควบคุมจิตใจได้ ทําให้พวกมันตกอยู่ในความสับสนและความโกลาหลนี้เป็นการทําลายการโจมตีประสานกันของพวกมัน   สถานการณ์เช่นนี้ท่าให้พวกมันเผชิญกับความสูญเสียที่ใหญ่หลวงในทันที   ตอนนี้พวกมันไม่มีทางที่จะหลบหนีได้และทําได้เพียงแค่โจมตีประสานเพื่อสังหารเจ้ามนุษย์นี่ แต่ปัญหาก็ คือเจ้าเด็กนี้มีสิ่งประดิษฐ์เซนต์-คทาแห่งความรุ่งโรจน์อยู่ในมือ สามารถที่จะทําลายการโจมตีประสานของ พวกมันได้   บางทีหากเขาเข้าไปใกล้ร่างของเจ้าเด็กนี้ จิตใจของพวกมันอาจจะถูกสิ่งประดิษฐ์เซนต์นั่นควบคุมได้อย่าง สมบูรณ์   ในกรณีนี้ พวกมันที่วางแผนจะเข้าไปใกล้เจ้ามนุษย์นี่ เพื่อสังหารจะเป็นการนําพาภัยพิบัติมาสู่ตนเองอย่างแท้จริง ราวกับเป็นแกะที่วิ่งเข้าปากเสือไม่มีผิด   “ข้าคิดว่าพวกเจ้าเดม่อนประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไป”   เซียปิงก็ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้างพลางกล่าวออกมา “แม้แต่การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ก็สังหารข้าไม่ได้ ทว่าพวกเจ้าเดม่นไร้น้ํายาที่มีพลังอํานาจเพียงแค่นี้กลับต้องการที่จะสังหารข้าร์? พวกเจ้าไม่คิดว่ากําลังมั่น ใจในตนเองเกินไปหน่อยรึ? จงยอมเชื่อฟังและรับหน้าที่เป็นโล่กําบังสําหรับพลังอํานาจของการลงทัณฑ์แห่ง สวรรค์ซะโดยดี บางที่รอให้การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์สิ้นสุดลง พวกเจ้าบางส่วนอาจจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ ทว่าหากยังคงทําการดิ้นรนขัดขึ้นโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้นก็มีโอกาสที่พวกเจ้าจะตายไปทั้งหมด ทําไมจะต้องนําพาความตายมาสู่ตนเองกัน?”   เขาก็ได้ทําการแนะนําเดม่อนพวกนี้ด้วยเจตนาที่ดี   “ไอ้เวรเอ๊ย ก่อนหน้านี้ยังวางมาดเสแสร้งบอกว่าพวกเราเป็นสหายพี่น้องกัน ตอนนี้ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ของตนเองออกมา”   “ต้องการที่จะใช้พวกเราเป็นโล่กําบัง รับกระสุนแทนเขา เจ้ามนุษย์นี่ช่างบัดซบเหลือเกิน ไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย”   “เจ้ามนุษย์ไร้ยางอาย การที่กล้าทําเรื่องที่ไร้ศีลธรรมเช่นนี้ เจ้าไม่รู้สึกคันเนื้อคันตัวกระวนกระวายใจบ้างเลยหรือ?”   เมื่อได้ยินคําพูดของเซียปิง กลุ่มของเดม่อนก็โมโหจนเจียนตาย พวกมันก็รู้ว่าในที่สุดเจ้ามนุษย์นี่ก็เผยธาตุแท้ของตนเองออกมา ต้องการที่จะใช้พวกมันเดม่อนเป็นแพะรับบาป   ทว่าเมื่อคิดได้ถึงจุดๆนี้ พวกมันก็โมโหมาก เพราะว่าเจ้ามนุษย์นี่ไม่ได้เห็นหัวพวกมันแม้แต่น้อย   “เจ้ามนุษย์โง่ เจ้าจะยโสโอหังเกินไปแล้ว ที่นี่คือโลกอบิส เป็นอาณาเขตของพวกเราเดม่อน มนุษย์ที่ต่ําต้อยอย่างเจ้าไม่สามารถทําอะไรบ้าบินในที่แห่งนี้ได้!”   ในตอนนี้เสียงที่น่าสะพรึงกลัวและไม่อาจอธิบายได้ดังขึ้นมาสะเทือนน้ําสะเทือนบก จากนั้นภาพเงาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเดม่อนจํานวนมาก ราวกับเป็นภูเขาที่สูงนับพันเมตรก็ว่าได้ ร่างกายมีออร่าของอบสที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา รวมถึงออร่าของนรกเขุม   เจ้าของเสียงนี้ก็คือเดม่อนนรกเก้าขุมนั้นเอง!   ในช่วงเวลานี้ มันไม่สามารถทนอยู่เฉยได้อีกแล้ว จะต้องเคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง สังหารเจ้ามนุษย์บัดซบนี้ให้สิ้นซาก   ติบ!   สายฟ้าพิโรธจํานวนนับสิบเส้นก็ผ่าลงมาบนตัวของเดม่อนนรกเก้าขุม ทว่าร่างของเดม่อนนรกเก้ขุมกลับสั่นไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทันใดนั้นสายฟ้าสีแดงทั้งหมดก็หายวับไปกับตา ไม่สามารถสร้างความเสียหายที่ รุนแรงใดๆให้กับมันได้   บางทีก็อาจจะมีอาการบาดเจ็บอยู่บ้าง ทว่าสําหรับเดม่อนนรกเก้ชุมอย่างมันนั้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องคํานึงถึงเลย   เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เดม่อนจํานวนมากก็มีความสุขขึ้นมาทันที ในที่สุดเดม่อนนรกเก้ขุมก็เคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง   เพราะว่าเดม่อนนรกเก้ชุมนั้นแตกต่างจากเดม่อนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เป็นเดม่อนที่กําเนิดขึ้นมาจากขุมนรกของอบิส ร่างกายของมันท่วมท้นไปด้วยพลังอํานาจของภูตผีในขุมนรก สามารถเปลี่ยนกลายเป็นร่างวิญญาณได้   “สายลมดารานรกเก่าขุม!”   ทันใดนั้นเดม่อนนรกเก้าชุมก็เคลื่อนไหวออกมา เห็นเพียงแค่ว่ามันไหลเวียนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมากระแสพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏขึ้นมาโดยที่ร่างกายของมันเป็นจุดศูนย์กลาง เหมือนกับว่าพายุเฮอริเคนได้ถือกําเนิดขึ้นมาในจักรวาลก็ว่าได้   นี่คือสายลมดารานรกเก้าขุม เป็นกระแสพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัว เพียงพอที่จะปัดเป่ายอดฝีมือที่อยู่ในต่ํากว่าระดับลงทัณฑ์สายฟ้าใดๆให้หายวับไปกับตาได้   ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าที่เผชิญหน้ากับสายลมดารานรกเก่าขุมนี้ หากไม่ตายก็จะต้องบาดเจ็บสาหัส เพราะว่าสายลมดารานี้ไม่ใช่แค่สร้างความเสียหายต่อร่างกายได้เท่านั้น ทว่ายังสามารถโจมตีจิตวิญญาณได้เช่นกัน สร้างความเสียหายในสองทางสามารถกราบทุกสิ่งทุกอย่าง   หลั่ว หลั่ว หลั่ว!!!   เมื่อพายุพัดออกไป กระแสพลังฉีเหล่านี้ก็เปลี่ยนกลายเป็นสายลมดาราสีดําทันที แอบแฝงไปด้วยพลังงานของนรกเก๊ขุม มีออร่าการทําลายล้างการกัดกร่อนและการตัดฉีกแผ่ออกมา   จากมันสายลมแต่ละเส้นก็เปลี่ยนกลายเป็นเหมือนกับดาบพลังฉีสีดําอย่างรวดเร็ว ตัดทะลวงแผ่นดิน พื้นที่ในระยะหลายร้อยล้านกิโลเมตรต่างก็ถูกดาบพลังฉีสีดํานี้ตัดเฉือนผ่านไป   ไม่มีเดม่อนตัวใดที่สามารถนับได้ว่าสุดท้ายแล้วในโลกที่มืดสลัวนี้มีดาบพลังฉีสีดําเป็นจํานวนมากแค่ไหน พวกมันเห็นเพียงแค่ว่าดาบเหล่านี้ครอบคลุมไปทั่วทั้งพื้น เหมือนว่าแผ่นดินจะล่มสลายและแตกแยกออกจากกันโดยดาบพลังฉีสีดําเหล่านี้   พื้นดินก็ถูกสายลมดารานี้ตัดผ่านไป ตัดทะลวงไปอย่างง่ายดาย ปรากฏเป็นรอยแยกนับไม่ถ้วน เหมือนว่าทวีปเดม่อนแห่งนี้จะถูกสายลมดารานรกเก้าขุมฉีกออกจากกัน   เดม่อนจํานวนมากก็หวาดกลัวจนเจียนตาย เพราะว่าดาบพลังฉีสีด่าเหล่านี้ไม่ได้แยกแยะมิตรหรือศัตรู หากอยู่ใกล้กับมัน จะต้องถูกตัดกลายเป็นชิ้นๆอย่างกะทันหัน   พวกมันก็หวาดกลัวจนหลบหนีออกไปในทุกทิศทาง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่จะตายไปภายใต้การต่อสู้ของยอดฝีมือระดับสุดยอดทั้งสอง เป็นการนําพาภัยพิบัติมาสู่บ่อปลา   “ลําแสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างออกมา!”   เซียปิงก็กวัดแกว่งคทาแห่งความรุ่งโรจน์ในมือและก็ชี้คทาไปบนอากาศ   หล่ง หล่ง หล่ง   ทันใดนั้นลําแสงศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นเส้นก็พุ่งลงมา เหมือนว่าจะเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งแสงสว่าง กลายเป็นโลกของเทวดา เพียงพอที่จะชําระล้างความมืดมิดและสิ่งสกปรกทุกอย่างในโลกใบนี้   ภาพเงาของเทวดาจํานวนนับไม่ถ้วนก็เหมือนจะปรากฏขึ้นมาในโลกอบสนี้ พวกเขาต่างก็ถือคทาอยู่ในมือ มีสีหน้าที่เกิดความเศร้าอาดูรและเกิดความเจ็บแค้นกับชะตากรรมของโลก แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างออกมา เสียง ขับร้องของบทกวีดังขึ้นมาลางๆ   แสงศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก็ระเบิดใส่สายลมดารานรกเก้าชุมจํานวนนับไม่ถ้วนทันที   ทั้งสองพลังอํานาจปะทะกันอย่างรุนแรง ส่งเสียงสายฟ้าฟาดออกมา พลังอํานาจของทั้งสองฝั่งต่างก็บรรลุระดับสูงสุด ไม่สามารถที่เอาชนะกันและกันได้ กระจายหายไปในทันที เปลี่ยนกลายเป็นความว่างเปล่า   “บัดซบ นี่คือสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของเผ่าพันธุ์เทวดา มีพลังอานาจที่ยับยั้งพวกเราเดม่อนได้โดยเฉพาะ ทว่าเจ้าเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงมีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของเผ่าพันธุ์เทวดาได้?”   ม่านตาของเดม่อนนรกเก้ขุมก็ขยายขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าคทานี้จะร้ายกาจจนถึงขั้นนี้ สามารถต้านทาน แม้กระทั่งสายลมดารานรกเก่าขุมของมัน น่าสะพรึงกลัวทีเดียว “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะต้องรู้ คนตายไม่จําเป็นที่จะต้องรู้อะไร คทาแห่งความรุ่งโรจน์ ลําแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งการลงทัณฑ์!” เซียปิงก็ยกคทาแห่งความรุ่งโรจน์ขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็ชี้ไปที่เดม่อนนรกเก้าชุม   ปัง!   ทันใดนั้นลําแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวที่มีขนาดหนาก็ปะทุออกไปจากคาทาแห่งความรุ่งโรจน์ ล่าแสงศักดิ์สิทธิ์นี้เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างไร้ขอบเขต แอบแฝงไปด้วยออร่าของการปัดเป่าทําลายล้าง การชําระล้างและออร่าของการลงทัณฑ์   นี่ก็คือการโจมตีที่ทรงอํานาจที่สุดของคทาแห่งความรุ่งโรจน์ ราวกับเป็นแสงเลเซอร์ก็ว่าได้ แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจที่ยิ่งใหญ่และมหาศาล   วิซ!   อดใจต่อมา แสงแห่งการลงทัณฑ์นี้ก็พุ่งทะลวงออกไป จากไกลมาใกล้ ฉีกผ่านห้วงอวกาศ อักขระเทวดาจํานวนนับไม่ถ้วนก็รวมตัวกันที่ส่วนลึกของลําแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ แอบแฝงไปด้วยพลังงานที่ไร้ที่สิ้นสุด   “ท่าไม่ดีแล้ว!”   เดม่อนนรกเก่าขุมก็มีขนลุกชันขึ้นมาทันที รู้สึกได้ถึงวิกฤตแห่งความตายที่กําลังใกล้เข้ามา ลําแสงแห่งกา รลงทัณฑ์นี้น่าสะพรึงกลัวจริงๆ เพ่งเล็งมาที่จิตวิญญาณของมันโดยตรง   หากมันรับลําแสงนี้เข้ามาล่ะก็ จิตวิญญาณจะสูญสลายไปในพริบตา แม้แต่เซนต์ก็ไม่สามารถชุบชีวิตมันได้   “แปลงร่างวิญญาณ แปรสภาพกึ่งจริง ร่างวิญญาณนรก!”   ภายในชั่วพริบตา เดม่อนนรกเก่าขุมก็ไหลเวียนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางสายเลือดออกมา ทั่วทั้งร่างกายของมันแปรเปลี่ยนไป เปลี่ยนกลายเป็นภาพเงาเสมือนจริงอย่างกะทันหันและหลบหลีกออกไปทันที   ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ ไม่คาดคิดว่าลําแสงแห่งการลงทัณฑ์นี้จะพุ่งผ่านมันไปโดยตรง   ทว่ากลุ่มของเดม่อนที่อยู่ข้างหลังของเดม่อนนรกเก้ขุมก็ไม่ได้โชคดีนัก รับลําแสงศักดิ์สิทธิ์นี้เข้าไปเต็มๆ   “อ้ากก!!!”   ทันใดนั้นเดม่อนจํานวนหลายพันตัวก็ไม่ทันได้ระวังตัว ทั่วทั้งร่างกายถูกล่าแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะลวงออกไป ร่างของพวกมันถูกแผดเผาจนแหลกสลายไป หายไปอย่างสมบูรณ์ หลงเหลือเพียงแค่กลุ่มของเถ้าธุลีเท่านั้น  

ตอนที่ 1954

 

เดิมที่กลุ่มของเดม่อนเหล่านี้คิดว่าการสังหารเจ้ามนุษย์นี่เป็นเรื่องที่มีโอกาสประสบความสําเร็จกว่า99% เพราะถึงอย่างไรการที่เผชิญหน้ากับการโจมตีของเดม่อนจํานวนมากเช่นนี้ แม้แต่เดม่อนในระดับสูงสุดก็ไม่สามารถต้านทานได้ จะต้องหายวับไปในพริบตา

 

ทว่าใครกันที่จะรู้ได้ว่าเจ้ามนุษย์นี่จะมีสิ่งประดิษฐ์เซนต์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้อยู่ สามารถที่จะควบคุมจิตใจได้ ทําให้พวกมันตกอยู่ในความสับสนและความโกลาหลนี้เป็นการทําลายการโจมตีประสานกันของพวกมัน

 

สถานการณ์เช่นนี้ท่าให้พวกมันเผชิญกับความสูญเสียที่ใหญ่หลวงในทันที

 

ตอนนี้พวกมันไม่มีทางที่จะหลบหนีได้และทําได้เพียงแค่โจมตีประสานเพื่อสังหารเจ้ามนุษย์นี่ แต่ปัญหาก็ คือเจ้าเด็กนี้มีสิ่งประดิษฐ์เซนต์-คทาแห่งความรุ่งโรจน์อยู่ในมือ สามารถที่จะทําลายการโจมตีประสานของ พวกมันได้

 

บางทีหากเขาเข้าไปใกล้ร่างของเจ้าเด็กนี้ จิตใจของพวกมันอาจจะถูกสิ่งประดิษฐ์เซนต์นั่นควบคุมได้อย่าง สมบูรณ์

 

ในกรณีนี้ พวกมันที่วางแผนจะเข้าไปใกล้เจ้ามนุษย์นี่ เพื่อสังหารจะเป็นการนําพาภัยพิบัติมาสู่ตนเองอย่างแท้จริง ราวกับเป็นแกะที่วิ่งเข้าปากเสือไม่มีผิด

 

“ข้าคิดว่าพวกเจ้าเดม่อนประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไป”

 

เซียปิงก็ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้างพลางกล่าวออกมา “แม้แต่การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ก็สังหารข้าไม่ได้ ทว่าพวกเจ้าเดม่นไร้น้ํายาที่มีพลังอํานาจเพียงแค่นี้กลับต้องการที่จะสังหารข้าร์? พวกเจ้าไม่คิดว่ากําลังมั่น ใจในตนเองเกินไปหน่อยรึ? จงยอมเชื่อฟังและรับหน้าที่เป็นโล่กําบังสําหรับพลังอํานาจของการลงทัณฑ์แห่ง สวรรค์ซะโดยดี บางที่รอให้การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์สิ้นสุดลง พวกเจ้าบางส่วนอาจจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ ทว่าหากยังคงทําการดิ้นรนขัดขึ้นโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้นก็มีโอกาสที่พวกเจ้าจะตายไปทั้งหมด ทําไมจะต้องนําพาความตายมาสู่ตนเองกัน?”

 

เขาก็ได้ทําการแนะนําเดม่อนพวกนี้ด้วยเจตนาที่ดี

 

“ไอ้เวรเอ๊ย ก่อนหน้านี้ยังวางมาดเสแสร้งบอกว่าพวกเราเป็นสหายพี่น้องกัน ตอนนี้ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ของตนเองออกมา”

 

“ต้องการที่จะใช้พวกเราเป็นโล่กําบัง รับกระสุนแทนเขา เจ้ามนุษย์นี่ช่างบัดซบเหลือเกิน ไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย”

 

“เจ้ามนุษย์ไร้ยางอาย การที่กล้าทําเรื่องที่ไร้ศีลธรรมเช่นนี้ เจ้าไม่รู้สึกคันเนื้อคันตัวกระวนกระวายใจบ้างเลยหรือ?”

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเซียปิง กลุ่มของเดม่อนก็โมโหจนเจียนตาย พวกมันก็รู้ว่าในที่สุดเจ้ามนุษย์นี่ก็เผยธาตุแท้ของตนเองออกมา ต้องการที่จะใช้พวกมันเดม่อนเป็นแพะรับบาป

 

ทว่าเมื่อคิดได้ถึงจุดๆนี้ พวกมันก็โมโหมาก เพราะว่าเจ้ามนุษย์นี่ไม่ได้เห็นหัวพวกมันแม้แต่น้อย

 

“เจ้ามนุษย์โง่ เจ้าจะยโสโอหังเกินไปแล้ว ที่นี่คือโลกอบิส เป็นอาณาเขตของพวกเราเดม่อน มนุษย์ที่ต่ําต้อยอย่างเจ้าไม่สามารถทําอะไรบ้าบินในที่แห่งนี้ได้!”

 

ในตอนนี้เสียงที่น่าสะพรึงกลัวและไม่อาจอธิบายได้ดังขึ้นมาสะเทือนน้ําสะเทือนบก จากนั้นภาพเงาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเดม่อนจํานวนมาก ราวกับเป็นภูเขาที่สูงนับพันเมตรก็ว่าได้ ร่างกายมีออร่าของอบสที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา รวมถึงออร่าของนรกเขุม

 

เจ้าของเสียงนี้ก็คือเดม่อนนรกเก้าขุมนั้นเอง!

 

ในช่วงเวลานี้ มันไม่สามารถทนอยู่เฉยได้อีกแล้ว จะต้องเคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง สังหารเจ้ามนุษย์บัดซบนี้ให้สิ้นซาก

 

ติบ!

 

สายฟ้าพิโรธจํานวนนับสิบเส้นก็ผ่าลงมาบนตัวของเดม่อนนรกเก้าขุม ทว่าร่างของเดม่อนนรกเก้ขุมกลับสั่นไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทันใดนั้นสายฟ้าสีแดงทั้งหมดก็หายวับไปกับตา ไม่สามารถสร้างความเสียหายที่ รุนแรงใดๆให้กับมันได้

 

บางทีก็อาจจะมีอาการบาดเจ็บอยู่บ้าง ทว่าสําหรับเดม่อนนรกเก้ชุมอย่างมันนั้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องคํานึงถึงเลย

 

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เดม่อนจํานวนมากก็มีความสุขขึ้นมาทันที ในที่สุดเดม่อนนรกเก้ขุมก็เคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง

 

เพราะว่าเดม่อนนรกเก้ชุมนั้นแตกต่างจากเดม่อนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เป็นเดม่อนที่กําเนิดขึ้นมาจากขุมนรกของอบิส ร่างกายของมันท่วมท้นไปด้วยพลังอํานาจของภูตผีในขุมนรก สามารถเปลี่ยนกลายเป็นร่างวิญญาณได้

 

“สายลมดารานรกเก่าขุม!”

 

ทันใดนั้นเดม่อนนรกเก้าชุมก็เคลื่อนไหวออกมา เห็นเพียงแค่ว่ามันไหลเวียนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมากระแสพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏขึ้นมาโดยที่ร่างกายของมันเป็นจุดศูนย์กลาง เหมือนกับว่าพายุเฮอริเคนได้ถือกําเนิดขึ้นมาในจักรวาลก็ว่าได้

 

นี่คือสายลมดารานรกเก้าขุม เป็นกระแสพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัว เพียงพอที่จะปัดเป่ายอดฝีมือที่อยู่ในต่ํากว่าระดับลงทัณฑ์สายฟ้าใดๆให้หายวับไปกับตาได้

 

ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าที่เผชิญหน้ากับสายลมดารานรกเก่าขุมนี้ หากไม่ตายก็จะต้องบาดเจ็บสาหัส เพราะว่าสายลมดารานี้ไม่ใช่แค่สร้างความเสียหายต่อร่างกายได้เท่านั้น ทว่ายังสามารถโจมตีจิตวิญญาณได้เช่นกัน สร้างความเสียหายในสองทางสามารถกราบทุกสิ่งทุกอย่าง

 

หลั่ว หลั่ว หลั่ว!!!

 

เมื่อพายุพัดออกไป กระแสพลังฉีเหล่านี้ก็เปลี่ยนกลายเป็นสายลมดาราสีดําทันที แอบแฝงไปด้วยพลังงานของนรกเก๊ขุม มีออร่าการทําลายล้างการกัดกร่อนและการตัดฉีกแผ่ออกมา

 

จากมันสายลมแต่ละเส้นก็เปลี่ยนกลายเป็นเหมือนกับดาบพลังฉีสีดําอย่างรวดเร็ว ตัดทะลวงแผ่นดิน พื้นที่ในระยะหลายร้อยล้านกิโลเมตรต่างก็ถูกดาบพลังฉีสีดํานี้ตัดเฉือนผ่านไป

 

ไม่มีเดม่อนตัวใดที่สามารถนับได้ว่าสุดท้ายแล้วในโลกที่มืดสลัวนี้มีดาบพลังฉีสีดําเป็นจํานวนมากแค่ไหน พวกมันเห็นเพียงแค่ว่าดาบเหล่านี้ครอบคลุมไปทั่วทั้งพื้น เหมือนว่าแผ่นดินจะล่มสลายและแตกแยกออกจากกันโดยดาบพลังฉีสีดําเหล่านี้

 

พื้นดินก็ถูกสายลมดารานี้ตัดผ่านไป ตัดทะลวงไปอย่างง่ายดาย ปรากฏเป็นรอยแยกนับไม่ถ้วน เหมือนว่าทวีปเดม่อนแห่งนี้จะถูกสายลมดารานรกเก้าขุมฉีกออกจากกัน

 

เดม่อนจํานวนมากก็หวาดกลัวจนเจียนตาย เพราะว่าดาบพลังฉีสีด่าเหล่านี้ไม่ได้แยกแยะมิตรหรือศัตรู หากอยู่ใกล้กับมัน จะต้องถูกตัดกลายเป็นชิ้นๆอย่างกะทันหัน

 

พวกมันก็หวาดกลัวจนหลบหนีออกไปในทุกทิศทาง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่จะตายไปภายใต้การต่อสู้ของยอดฝีมือระดับสุดยอดทั้งสอง เป็นการนําพาภัยพิบัติมาสู่บ่อปลา

 

“ลําแสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างออกมา!”

 

เซียปิงก็กวัดแกว่งคทาแห่งความรุ่งโรจน์ในมือและก็ชี้คทาไปบนอากาศ

 

หล่ง หล่ง หล่ง

 

ทันใดนั้นลําแสงศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นเส้นก็พุ่งลงมา เหมือนว่าจะเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งแสงสว่าง กลายเป็นโลกของเทวดา เพียงพอที่จะชําระล้างความมืดมิดและสิ่งสกปรกทุกอย่างในโลกใบนี้

 

ภาพเงาของเทวดาจํานวนนับไม่ถ้วนก็เหมือนจะปรากฏขึ้นมาในโลกอบสนี้ พวกเขาต่างก็ถือคทาอยู่ในมือ มีสีหน้าที่เกิดความเศร้าอาดูรและเกิดความเจ็บแค้นกับชะตากรรมของโลก แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างออกมา เสียง ขับร้องของบทกวีดังขึ้นมาลางๆ

 

แสงศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก็ระเบิดใส่สายลมดารานรกเก้าชุมจํานวนนับไม่ถ้วนทันที

 

ทั้งสองพลังอํานาจปะทะกันอย่างรุนแรง ส่งเสียงสายฟ้าฟาดออกมา พลังอํานาจของทั้งสองฝั่งต่างก็บรรลุระดับสูงสุด ไม่สามารถที่เอาชนะกันและกันได้ กระจายหายไปในทันที เปลี่ยนกลายเป็นความว่างเปล่า

 

“บัดซบ นี่คือสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของเผ่าพันธุ์เทวดา มีพลังอานาจที่ยับยั้งพวกเราเดม่อนได้โดยเฉพาะ ทว่าเจ้าเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงมีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของเผ่าพันธุ์เทวดาได้?”

 

ม่านตาของเดม่อนนรกเก้ขุมก็ขยายขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าคทานี้จะร้ายกาจจนถึงขั้นนี้ สามารถต้านทาน แม้กระทั่งสายลมดารานรกเก่าขุมของมัน น่าสะพรึงกลัวทีเดียว

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะต้องรู้ คนตายไม่จําเป็นที่จะต้องรู้อะไร คทาแห่งความรุ่งโรจน์ ลําแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งการลงทัณฑ์!” เซียปิงก็ยกคทาแห่งความรุ่งโรจน์ขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็ชี้ไปที่เดม่อนนรกเก้าชุม

 

ปัง!

 

ทันใดนั้นลําแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวที่มีขนาดหนาก็ปะทุออกไปจากคาทาแห่งความรุ่งโรจน์ ล่าแสงศักดิ์สิทธิ์นี้เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างไร้ขอบเขต แอบแฝงไปด้วยออร่าของการปัดเป่าทําลายล้าง การชําระล้างและออร่าของการลงทัณฑ์

 

นี่ก็คือการโจมตีที่ทรงอํานาจที่สุดของคทาแห่งความรุ่งโรจน์ ราวกับเป็นแสงเลเซอร์ก็ว่าได้ แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจที่ยิ่งใหญ่และมหาศาล

 

วิซ!

 

อดใจต่อมา แสงแห่งการลงทัณฑ์นี้ก็พุ่งทะลวงออกไป จากไกลมาใกล้ ฉีกผ่านห้วงอวกาศ อักขระเทวดาจํานวนนับไม่ถ้วนก็รวมตัวกันที่ส่วนลึกของลําแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ แอบแฝงไปด้วยพลังงานที่ไร้ที่สิ้นสุด

 

“ท่าไม่ดีแล้ว!”

 

เดม่อนนรกเก่าขุมก็มีขนลุกชันขึ้นมาทันที รู้สึกได้ถึงวิกฤตแห่งความตายที่กําลังใกล้เข้ามา ลําแสงแห่งกา รลงทัณฑ์นี้น่าสะพรึงกลัวจริงๆ เพ่งเล็งมาที่จิตวิญญาณของมันโดยตรง

 

หากมันรับลําแสงนี้เข้ามาล่ะก็ จิตวิญญาณจะสูญสลายไปในพริบตา แม้แต่เซนต์ก็ไม่สามารถชุบชีวิตมันได้

 

“แปลงร่างวิญญาณ แปรสภาพกึ่งจริง ร่างวิญญาณนรก!”

 

ภายในชั่วพริบตา เดม่อนนรกเก่าขุมก็ไหลเวียนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางสายเลือดออกมา ทั่วทั้งร่างกายของมันแปรเปลี่ยนไป เปลี่ยนกลายเป็นภาพเงาเสมือนจริงอย่างกะทันหันและหลบหลีกออกไปทันที

 

ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ ไม่คาดคิดว่าลําแสงแห่งการลงทัณฑ์นี้จะพุ่งผ่านมันไปโดยตรง

 

ทว่ากลุ่มของเดม่อนที่อยู่ข้างหลังของเดม่อนนรกเก้ขุมก็ไม่ได้โชคดีนัก รับลําแสงศักดิ์สิทธิ์นี้เข้าไปเต็มๆ

 

“อ้ากก!!!”

 

ทันใดนั้นเดม่อนจํานวนหลายพันตัวก็ไม่ทันได้ระวังตัว ทั่วทั้งร่างกายถูกล่าแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะลวงออกไป ร่างของพวกมันถูกแผดเผาจนแหลกสลายไป หายไปอย่างสมบูรณ์ หลงเหลือเพียงแค่กลุ่มของเถ้าธุลีเท่านั้น