God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1941

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1941 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1941

 

ถึงแม้ว่าบรรดาลูกศิษย์ผู้ชายจะมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่คลั่งไคล้และเคารพนับถือ ทว่าลูกศิษย์ผู้หญิงกลับมองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ยั่วยวนและหลงใหลราวกับเป็นเสือสมิง ต้องการที่จะจับเซี่ยปิงมากินให้ได้

 

“นี่คือศิษย์พี่เซี่ยอย่างนั้นรึ? ช่างมีหน้าตาที่หล่อเหลาจริงๆ”

 

“ความหล่อเป็นเพียงข้อดีส่วนหนึ่งของเขาเท่านั้น สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือพรสวรรค์ของเขา”

 

“เดิมทีข้าก็สงสัยว่าเหตุใดผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่มีความสามารถ ทว่าตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ผู้ชายที่มีความสามารถมีเสน่ห์จริงๆและมักที่จะรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตข้างหน้า”

 

“ทว่าศิษย์พี่เซี่ยก็แตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่เขามีพรสวรรค์เท่านั้น ทว่าเขายังเป็นศัตรูกับความร่ํารวย ว่ากันว่าเขาก็มีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นเซนต์ได้”

 

“เซนต์รึ? แม่เจ้า หากได้แต่งงานกับศิษย์พี่เซี่ยล่ะก็ จากนั้นข้าจะไม่กลายเป็นนายหญิงของเซนต์รึ?”

 

“เมื่อใดที่กลายเป็นนายหญิงของเซนต์ นั่นคือการที่หนึ่งคนบรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวก็พลอยได้ดีได้ลอยขึ้นสวรรค์ไปด้วย”

 

“ใช่ ต่อให้พวกเราจะไม่สามารถพัฒนาเป็นเซนต์ในอนาคต ทว่าการที่ได้อยู่ข้างกายเซนต์ก็จะมีชีวิตอยู่ได้นับแสนปีอย่างไม่มีปัญหา สําหรับผลประโยชน์อื่นๆ ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องกล่าวถึง”

 

“ใช่ ข้าพร้อมที่จะพลีกายให้ศิษย์พี่เซี่ย ต้องการที่จะนอนในอ้อมแขนอันกว้างของเขาและหลับไป”

 

“ใช่ หากให้กําเนิดลูกกับศิษย์พี่เซี่ยได้ ด้วยพรสวรรค์ของข้ากับพรสวรรค์ของศิษย์พี่เซี่ยที่รวมกัน สุดท้ายแล้วบุตรที่ออกมาจะมีพรสวรรค์มากมายแค่ไหนกัน บางทีอาจจะให้กําเนิดเซนต์ออกมาก็เป็นได้”

 

“หึหึ ในจักรวาลนี้ผู้หญิงที่พร้อมจะพลีกายให้กับศิษย์พี่เซี่ยมีมากมายแค่ไหนกัน คงจะไม่สามารถนับจํานวนได้ด้วยซ้ํา”

 

“หอคอยที่ใกล้น้ํา ย่อมได้พระจันทร์ก่อน พวกเราที่เป็นลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดิน อยู่ใกล้กับศิษย์พี่เซี่ยที่สุด บุคคลภายนอกไม่สามารถที่จะเทียบกับพวกเราได้ จริงสิ ไม่รู้ว่ามีโอกาสที่พวกเราจะสามารถพบปะพูดคุยกับศิษย์พี่เซี่ยได้หรือไม่”

 

“ว่ากันว่าศิษย์พี่เซี่ยมักที่จะเก็บตัวบ่มเพาะอยู่ในหุบเขาหยานหวงอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องยากที่จะออกมา”

 

“ใช่แล้ว บุคคลที่ขยันขันแข็งเท่านั้นที่จะประสบความสําเร็จเช่นนี้ได้ ข้ายิ่งรู้สึกถูกใจศิษย์พี่เซี่ยมากขึ้นเรื่อยๆ”

 

“ข้าคิดว่าพวกเราควรที่จะเดินทางไปที่หุบเขาหยานหวงเพื่อรอจัดฉากพบกับศิษย์พี่เซี่ยโดยบังเอิญเปลื้องผ้าออกและอาบน้ําในทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ บางทีหากศิษย์พี่เซี่ยมาพบเข้า พวกเราอาจจะยั่วยวนเขาได้”

 

“เหอะ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย ทว่านี่ก็เป็นวิธีการที่ดีเหมือนกัน”

 

ลูกศิษย์ผู้หญิงที่งดงามจํานวนมากต่างก็หัวเราะคิกคัก ถึงแม้ว่าคําพูดของพวกเธอจะฟังดูเหมือนติดตลก ทว่าสีหน้าของพวกเธอกลับเผยให้เห็นถึงความจริงจัง เหมือนว่าจะคิดพิจารณาถึงวิธีการที่จะลอบจู่โจมเซี่ยปิงในตอนกลางคืน จัดฉากเพื่อให้ดูเหมือนได้พบกันโดยบังเอิญ ราวกับเป็นพรหมลิขิต

 

“เจ้าพวกผู้หญิงไร้ความเป็นกุลสตรีนี่ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย”

 

ซู่จีก็กัดฟันพูดออกมา เมื่อเธอได้ยินคําพูดของผู้หญิงที่ไร้ยางอายเหล่านี้ เธอก็รู้สึกเขินอายจนหูแดงขึ้นมา ในฐานะสตรีควรที่จะมีการรักนวลสงวนตัว ไม่คาดคิดว่าจะคิดจู่โจมผู้ชายในตอนกลางคืน เปลื้องผ้าเพื่อยั่วยวนอีกฝ่าย ช่างไม่มีความละอายใจอย่างถึงที่สุด

 

“ใช่ เจ้านี้มีอะไรดีกัน ไม่คาดคิดว่าจะต้องลงทุนจู่โจมตอนกลางคืนเช่นนี้ ช่างน่ารําคาญจริงๆ”

 

ยวีชีชีก็รู้สึกเอือมระอา

 

“เหอะ เจ้าพวกผู้หญิงฟุ้งเฟ้อเหล่านี้ หลงระเริงในความมั่งคั่งและสถานะ คิดที่จะแต่งงานกับสามีที่ดีเพื่อพัฒนาสถานะของตนเองขึ้นมา ชายใดกันที่จะชื่นชอบผู้หญิงเช่นนี้ ช่างเพ้อฝันสิ้นดี”

 

ฉู่หลงก็พูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม

 

“อย่าไปสนใจพวกเธอ พวกเรามาเพียรพยายามกันเถอะ ไม่จําเป็นที่จะต้องพึ่งพาผู้ชาย หากวันหนึ่งผู้หญิงเหล่านี้ถูกผู้ชายทอดทิ้งไป อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเธอจะเป็นอย่างไร” เจียงยารุก็พูดอย่างรังเกียจเช่นกัน

 

ทันใดนั้นก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งที่ตะโกนเสียงดังขึ้นมา “ศิษย์พี่เซี่ย พวกเราจะขอถามคําถามบางอย่างกับท่านได้หรือไม่?”

 

“แน่นอน พวกเจ้าอยากถามอะไร สามารถถามได้อย่างอิสระ”

 

เซี่ยปิงก็ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังอยู่บนเวทีอย่างเรียบเฉย

 

ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด ในความเป็นจริงพวกเขาก็สนใจในคําตอบของเซี่ยปิงมาก เพราะถึงอย่างไรเซี่ยปิงก็เป็นบุคคลที่ลึกลับอย่างมาก มักที่จะเก็บตัวบ่มเพาะ เป็นไปได้ยากมากที่จะติดต่อพูดคุยกับผู้อาวุโสคนอื่นๆของนิกาย

 

“ศิษย์พี่เซี่ย ข้าทราบมาว่าตอนที่ศิษย์พี่เข้าร่วมกับนิกายฟ้าดินใหม่ๆ ศิษย์พี่อยู่ในระดับราชวังสีม่วงเพียงเท่านั้น ทว่าตอนนี้กลับเลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับกฎเทวรูปได้ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ความลับในการบ่มเพาะของศิษย์พี่เซี่ยคืออะไรหรือ สามารถบอกพวกเราได้หรือไม่?” ลูกศิษย์คนนั้นก็เอ่ยถามอย่างสงสัย ผู้คนจํานวนมากที่ได้ยินเช่นนี้ก็เงี่ยหูตั้งใจฟัง พวกเขาก็อยากรู้ความลับในการบ่มเพาะของเซี่ยปิงเช่นกัน

 

“ความลับรึ? ง่ายมาก นั่นก็คือการกินเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณเป็นปริมาณมหาศาล ยิ่งมีคุณภาพเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น จะเป็นการที่ดีที่สุดหากหาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มา นี่จะทําให้มีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์”

 

เซี่ยปิงก็บอกถึงวิธีที่ทําให้ตนเองมีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้

 

กลุ่มของผู้อาวุโสก็กัดมุมปาก เหลวไหลสิ้นดี นี่เป็นการพูดจาไร้สาระ ใครจะไม่รู้กันว่าการกินเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มพลังเวทมนตร์ ทว่ามีที่ไหนที่ในตัวพวกเขาจะมีเงินมากมายเพื่อซื้อเม็ดยาที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม

 

ยิ่งไปกว่านั้นมันจะเป็นการดีที่สุดหากมองหาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มา มองหาบิดาเจ้าสิ หากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มันหาง่ายเช่นนั้น จากนั้นผู้บ่มเพาะทั่วทั้งจักรวาลก็คงจะกลายเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้ากันไปหมดแล้ว

 

เพราะถึงอย่างไรสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นทรัพยากรที่แม้แต่ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็โหยหาเป็นที่สุด เป็นที่ล่วงรู้กันว่าเป็นสมบัติตกทอดที่สืบทอดไปสู่รุ่นสู่รุ่นในตระกูลใหญ่ๆ มีที่ไหนที่จะสามารถหาได้อย่างง่ายดาย แม้แต่บางคนเองในชั่วชีวิตนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เห็น

 

ลูกศิษย์จํานวนมากก็พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรที่จะตอบกลับไปอย่างไร

 

คนๆนั้นก็ถามต่อ “ข้าเข้าใจแล้ว ศิษย์พี่เซี่ย ในเมื่อท่านกินเม็ดยาเข้าไปมากมายแล้ว ท่านก็คงจะรู้ว่าเม็ดยาใดดีที่สุด ไม่รู้ว่าพวกเราควรเลือกซื้อเม็ดยาแบบใดหรือ?”

 

“เม็ดยาแบบใด? เหตุใดถึงไม่ซื้อมาทั้งหมด? จะต้องเลือกไปทําไมกัน?”

 

เซี่ยปิงก็พูดออกมาอย่างไม่เข้าใจ

 

เจ้าเศรษฐีบัดซบนี้!

 

รอยย่นบนหน้าผากของผู้อาวุโสจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจนมากขึ้น พวกเขาคิดว่าตนเองไม่มีทางที่จะสื่อสารกับเจ้าเด็กนี่ได้รู้เรื่อง อยู่กันคนละระดับเกินไป คนยากคนจนอย่างพวกเขาไม่มีทางที่จะจินตนาการได้ถึงโลกของเศรษฐีที่ร่ํารวยอย่างเจ้าเด็กนี่

 

กลุ่มของลูกศิษย์ผู้หญิงก็มีสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลมากยิ่งขึ้น สําหรับเศรษฐีที่ร่ํารวยนั้น พวกเธอไม่อาจต้านทานได้เลย ทําให้หัวใจเต้นรัว อยากได้อะไรก็สามารถซื้อมาทั้งหมด นี่มันคือความมั่งคั่งทางการเงินในระดับใดกัน?

 

“สิ่งที่ศิษย์พี่เซี่ยกล่าวมา พวกเราก็พอจะเข้าใจ ทว่าจะทําอย่างไรหากว่าพวกเราไม่ได้มีเงินถึงเพียงนั้น?”

 

บางคนที่เอ่ยถามขึ้นมา

 

“หากปราศจากเงินก็ไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินมาได้ไม่ใช่หรือ? ทําไมถึงไม่มีเงินกัน? ข้าไม่เข้าใจ”

 

เซี่ยปิงก็รู้สึกสงสัยอย่างมาก คิดว่าการที่ไม่มีเงินเป็นเรื่องที่แปลกมาก เงินก็อยู่ในธนาคาร สามารถที่จะถอนออกมาได้ทุกเมื่อไม่ใช่หรือ?

 

ไม่มีทางที่จะพูดคุยกันได้ ไม่มีทางที่จะพูดคุยกันได้จริงๆ!

 

กลุ่มของผู้อาวุโสก็กัดฟันกันอย่างแน่น ไม่รู้ทําไมพวกเขาถึงมีแรงกระตุ้นที่ต้องการจะอัดผู้คน สิ่งที่เจ้าบัดซบนี่กล่าวมาเป็นการบ่งบอกว่าตนเองร่ํารวยอย่างมหาศาล สามารถที่จะใช้เงินได้อย่างอิสระโดยที่ไม่สนใจสิ่งใด

 

การไปที่ธนาคารจะมีความหมายอะไรหากว่าพวกเขาไม่ได้มีเงินอยู่ในนั้น หากพวกเขามีเงินอยู่ในธนาคารล่ะก็ นั่นจะเรียกว่ายากจนได้อีกหรือ?!

 

บอกตามตรง เงินในธนาคารของพวกเขา หากมีนักต้มตุ้นที่มาเห็นล่ะก็ แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องรู้สึกสงสารและไม่กล้าขโมยไปอีก

 

“ศิษย์พี่เซี่ย พวกเราไม่ใช่บุคคลที่ร่ํารวยเหมือนอย่างท่าน ไม่ได้มีเงินในธนาคารให้ใช้จ่ายอย่างอิสระ อันที่จริงพวกเราต้องการที่จะหาวิธีการหาเงินเช่นกัน ต้องการมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่รู้จบเหมือนกับศิษย์พี่เซี่ย”

 

ลูกศิษย์บางคนก็ถามอย่างซื่อตรง

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง ทําไมไม่พูดตั้งแต่แรก นั่นก็เป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก”

 

เซี่ยปิงก็เข้าใจได้อย่างกะทันหัน “การออกผจญภัยเป็นวิธีการที่ดีอย่างหนึ่ง เมื่อเข้าไปในดินแดนลี้ลับของจักรวาล พวกเจ้าจะค้นพบว่ามีสมบัติมากมายที่ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกเจ้าอย่างอัตโนมัติ มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเข้ามาเดินเก็บเงินก็ว่าได้ เป็นเรื่องที่น่าอภิรมย์อย่างมาก”

 

“ศิษย์พี่เซี่ย ทําไมการออกผจญภัยของท่านถึงได้แตกต่างไปจากพวกเรา?”

 

กลุ่มของลูกศิษย์ก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

 

“มีความแตกต่างอะไรกัน มันก็เหมือนๆกันไม่ใช่หรือ?”

 

เซี่ยปิงก็พูดอธิบายออกมา “การออกผจญภัยเป็นวิธีการหาเงินที่รวดเร็วที่สุด เมื่อเข้าไปในสถานที่บางแห่งอย่างมั่วซุ่ม เจ้าจะค้นพบว่ามีกลุ่มอิทธิพลสองกลุ่มที่กําลังต่อสู้กัน ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต่อสู้กันจนดับสลายไปด้วยกัน นั่นก็จะเหลือสมบัติที่พวกเขาทิ้งไว้ รวมถึงสมบัติที่พวกเขาต้องการแย่งชิงกัน สมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของเจ้า จากนั้นเจ้าก็จะกลายเป็นเฒ่าประมงได้กําไรโดยที่ไม่ต้องลงทุนออกแรงด้วยซ้ํา”

 

“การหลงทางก็ไม่ใช่สิ่งสําคัญ มุ่งหน้าไปตามลางสังหรณ์และสัญชาตญาณของเจ้า และเมื่อเข้าไปในสถานที่นั้น เจ้าจะค้นพบดินแดนลี้ลับที่ไม่มีใครเคยค้นพบมาก่อน ข้างในจะมีสมุนไพรวิญญาณมากมายที่เติบโตอยู่ มีแร่ล้ําค่าและหายากเป็นจํานวนมากทุกๆที่มีแต่ทรัพย์สมบัติ”

 

“ต่อให้จะโชคร้าย เผชิญกับอันตราย ตกลงไปในหน้าผาที่มีความลึกกว่าสามพันกิโลเมตร ความโชคร้ายของเจ้าก็จะกลายเป็นความโชคดีอย่างรวดเร็ว จะค้นพบขุมสมบัติลับที่เซนต์ในยุคโบราณได้ทิ้งเอาไว้ พลังอํานาจจะพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดอีกทั้งก็อาจจะครอบครองมรดกตกทอดของเซนต์มาเช่นกัน”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1941

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1941 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1941

 

ถึงแม้ว่าบรรดาลูกศิษย์ผู้ชายจะมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่คลั่งไคล้และเคารพนับถือ ทว่าลูกศิษย์ผู้หญิงกลับมองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ยั่วยวนและหลงใหลราวกับเป็นเสือสมิง ต้องการที่จะจับเซี่ยปิงมากินให้ได้

 

“นี่คือศิษย์พี่เซี่ยอย่างนั้นรึ? ช่างมีหน้าตาที่หล่อเหลาจริงๆ”

 

“ความหล่อเป็นเพียงข้อดีส่วนหนึ่งของเขาเท่านั้น สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือพรสวรรค์ของเขา”

 

“เดิมทีข้าก็สงสัยว่าเหตุใดผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่มีความสามารถ ทว่าตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ผู้ชายที่มีความสามารถมีเสน่ห์จริงๆและมักที่จะรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตข้างหน้า”

 

“ทว่าศิษย์พี่เซี่ยก็แตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่เขามีพรสวรรค์เท่านั้น ทว่าเขายังเป็นศัตรูกับความร่ํารวย ว่ากันว่าเขาก็มีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นเซนต์ได้”

 

“เซนต์รึ? แม่เจ้า หากได้แต่งงานกับศิษย์พี่เซี่ยล่ะก็ จากนั้นข้าจะไม่กลายเป็นนายหญิงของเซนต์รึ?”

 

“เมื่อใดที่กลายเป็นนายหญิงของเซนต์ นั่นคือการที่หนึ่งคนบรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวก็พลอยได้ดีได้ลอยขึ้นสวรรค์ไปด้วย”

 

“ใช่ ต่อให้พวกเราจะไม่สามารถพัฒนาเป็นเซนต์ในอนาคต ทว่าการที่ได้อยู่ข้างกายเซนต์ก็จะมีชีวิตอยู่ได้นับแสนปีอย่างไม่มีปัญหา สําหรับผลประโยชน์อื่นๆ ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องกล่าวถึง”

 

“ใช่ ข้าพร้อมที่จะพลีกายให้ศิษย์พี่เซี่ย ต้องการที่จะนอนในอ้อมแขนอันกว้างของเขาและหลับไป”

 

“ใช่ หากให้กําเนิดลูกกับศิษย์พี่เซี่ยได้ ด้วยพรสวรรค์ของข้ากับพรสวรรค์ของศิษย์พี่เซี่ยที่รวมกัน สุดท้ายแล้วบุตรที่ออกมาจะมีพรสวรรค์มากมายแค่ไหนกัน บางทีอาจจะให้กําเนิดเซนต์ออกมาก็เป็นได้”

 

“หึหึ ในจักรวาลนี้ผู้หญิงที่พร้อมจะพลีกายให้กับศิษย์พี่เซี่ยมีมากมายแค่ไหนกัน คงจะไม่สามารถนับจํานวนได้ด้วยซ้ํา”

 

“หอคอยที่ใกล้น้ํา ย่อมได้พระจันทร์ก่อน พวกเราที่เป็นลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดิน อยู่ใกล้กับศิษย์พี่เซี่ยที่สุด บุคคลภายนอกไม่สามารถที่จะเทียบกับพวกเราได้ จริงสิ ไม่รู้ว่ามีโอกาสที่พวกเราจะสามารถพบปะพูดคุยกับศิษย์พี่เซี่ยได้หรือไม่”

 

“ว่ากันว่าศิษย์พี่เซี่ยมักที่จะเก็บตัวบ่มเพาะอยู่ในหุบเขาหยานหวงอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องยากที่จะออกมา”

 

“ใช่แล้ว บุคคลที่ขยันขันแข็งเท่านั้นที่จะประสบความสําเร็จเช่นนี้ได้ ข้ายิ่งรู้สึกถูกใจศิษย์พี่เซี่ยมากขึ้นเรื่อยๆ”

 

“ข้าคิดว่าพวกเราควรที่จะเดินทางไปที่หุบเขาหยานหวงเพื่อรอจัดฉากพบกับศิษย์พี่เซี่ยโดยบังเอิญเปลื้องผ้าออกและอาบน้ําในทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ บางทีหากศิษย์พี่เซี่ยมาพบเข้า พวกเราอาจจะยั่วยวนเขาได้”

 

“เหอะ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย ทว่านี่ก็เป็นวิธีการที่ดีเหมือนกัน”

 

ลูกศิษย์ผู้หญิงที่งดงามจํานวนมากต่างก็หัวเราะคิกคัก ถึงแม้ว่าคําพูดของพวกเธอจะฟังดูเหมือนติดตลก ทว่าสีหน้าของพวกเธอกลับเผยให้เห็นถึงความจริงจัง เหมือนว่าจะคิดพิจารณาถึงวิธีการที่จะลอบจู่โจมเซี่ยปิงในตอนกลางคืน จัดฉากเพื่อให้ดูเหมือนได้พบกันโดยบังเอิญ ราวกับเป็นพรหมลิขิต

 

“เจ้าพวกผู้หญิงไร้ความเป็นกุลสตรีนี่ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย”

 

ซู่จีก็กัดฟันพูดออกมา เมื่อเธอได้ยินคําพูดของผู้หญิงที่ไร้ยางอายเหล่านี้ เธอก็รู้สึกเขินอายจนหูแดงขึ้นมา ในฐานะสตรีควรที่จะมีการรักนวลสงวนตัว ไม่คาดคิดว่าจะคิดจู่โจมผู้ชายในตอนกลางคืน เปลื้องผ้าเพื่อยั่วยวนอีกฝ่าย ช่างไม่มีความละอายใจอย่างถึงที่สุด

 

“ใช่ เจ้านี้มีอะไรดีกัน ไม่คาดคิดว่าจะต้องลงทุนจู่โจมตอนกลางคืนเช่นนี้ ช่างน่ารําคาญจริงๆ”

 

ยวีชีชีก็รู้สึกเอือมระอา

 

“เหอะ เจ้าพวกผู้หญิงฟุ้งเฟ้อเหล่านี้ หลงระเริงในความมั่งคั่งและสถานะ คิดที่จะแต่งงานกับสามีที่ดีเพื่อพัฒนาสถานะของตนเองขึ้นมา ชายใดกันที่จะชื่นชอบผู้หญิงเช่นนี้ ช่างเพ้อฝันสิ้นดี”

 

ฉู่หลงก็พูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม

 

“อย่าไปสนใจพวกเธอ พวกเรามาเพียรพยายามกันเถอะ ไม่จําเป็นที่จะต้องพึ่งพาผู้ชาย หากวันหนึ่งผู้หญิงเหล่านี้ถูกผู้ชายทอดทิ้งไป อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเธอจะเป็นอย่างไร” เจียงยารุก็พูดอย่างรังเกียจเช่นกัน

 

ทันใดนั้นก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งที่ตะโกนเสียงดังขึ้นมา “ศิษย์พี่เซี่ย พวกเราจะขอถามคําถามบางอย่างกับท่านได้หรือไม่?”

 

“แน่นอน พวกเจ้าอยากถามอะไร สามารถถามได้อย่างอิสระ”

 

เซี่ยปิงก็ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังอยู่บนเวทีอย่างเรียบเฉย

 

ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด ในความเป็นจริงพวกเขาก็สนใจในคําตอบของเซี่ยปิงมาก เพราะถึงอย่างไรเซี่ยปิงก็เป็นบุคคลที่ลึกลับอย่างมาก มักที่จะเก็บตัวบ่มเพาะ เป็นไปได้ยากมากที่จะติดต่อพูดคุยกับผู้อาวุโสคนอื่นๆของนิกาย

 

“ศิษย์พี่เซี่ย ข้าทราบมาว่าตอนที่ศิษย์พี่เข้าร่วมกับนิกายฟ้าดินใหม่ๆ ศิษย์พี่อยู่ในระดับราชวังสีม่วงเพียงเท่านั้น ทว่าตอนนี้กลับเลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับกฎเทวรูปได้ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ความลับในการบ่มเพาะของศิษย์พี่เซี่ยคืออะไรหรือ สามารถบอกพวกเราได้หรือไม่?” ลูกศิษย์คนนั้นก็เอ่ยถามอย่างสงสัย ผู้คนจํานวนมากที่ได้ยินเช่นนี้ก็เงี่ยหูตั้งใจฟัง พวกเขาก็อยากรู้ความลับในการบ่มเพาะของเซี่ยปิงเช่นกัน

 

“ความลับรึ? ง่ายมาก นั่นก็คือการกินเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณเป็นปริมาณมหาศาล ยิ่งมีคุณภาพเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น จะเป็นการที่ดีที่สุดหากหาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มา นี่จะทําให้มีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์”

 

เซี่ยปิงก็บอกถึงวิธีที่ทําให้ตนเองมีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้

 

กลุ่มของผู้อาวุโสก็กัดมุมปาก เหลวไหลสิ้นดี นี่เป็นการพูดจาไร้สาระ ใครจะไม่รู้กันว่าการกินเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มพลังเวทมนตร์ ทว่ามีที่ไหนที่ในตัวพวกเขาจะมีเงินมากมายเพื่อซื้อเม็ดยาที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม

 

ยิ่งไปกว่านั้นมันจะเป็นการดีที่สุดหากมองหาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มา มองหาบิดาเจ้าสิ หากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มันหาง่ายเช่นนั้น จากนั้นผู้บ่มเพาะทั่วทั้งจักรวาลก็คงจะกลายเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้ากันไปหมดแล้ว

 

เพราะถึงอย่างไรสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นทรัพยากรที่แม้แต่ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็โหยหาเป็นที่สุด เป็นที่ล่วงรู้กันว่าเป็นสมบัติตกทอดที่สืบทอดไปสู่รุ่นสู่รุ่นในตระกูลใหญ่ๆ มีที่ไหนที่จะสามารถหาได้อย่างง่ายดาย แม้แต่บางคนเองในชั่วชีวิตนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เห็น

 

ลูกศิษย์จํานวนมากก็พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรที่จะตอบกลับไปอย่างไร

 

คนๆนั้นก็ถามต่อ “ข้าเข้าใจแล้ว ศิษย์พี่เซี่ย ในเมื่อท่านกินเม็ดยาเข้าไปมากมายแล้ว ท่านก็คงจะรู้ว่าเม็ดยาใดดีที่สุด ไม่รู้ว่าพวกเราควรเลือกซื้อเม็ดยาแบบใดหรือ?”

 

“เม็ดยาแบบใด? เหตุใดถึงไม่ซื้อมาทั้งหมด? จะต้องเลือกไปทําไมกัน?”

 

เซี่ยปิงก็พูดออกมาอย่างไม่เข้าใจ

 

เจ้าเศรษฐีบัดซบนี้!

 

รอยย่นบนหน้าผากของผู้อาวุโสจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจนมากขึ้น พวกเขาคิดว่าตนเองไม่มีทางที่จะสื่อสารกับเจ้าเด็กนี่ได้รู้เรื่อง อยู่กันคนละระดับเกินไป คนยากคนจนอย่างพวกเขาไม่มีทางที่จะจินตนาการได้ถึงโลกของเศรษฐีที่ร่ํารวยอย่างเจ้าเด็กนี่

 

กลุ่มของลูกศิษย์ผู้หญิงก็มีสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลมากยิ่งขึ้น สําหรับเศรษฐีที่ร่ํารวยนั้น พวกเธอไม่อาจต้านทานได้เลย ทําให้หัวใจเต้นรัว อยากได้อะไรก็สามารถซื้อมาทั้งหมด นี่มันคือความมั่งคั่งทางการเงินในระดับใดกัน?

 

“สิ่งที่ศิษย์พี่เซี่ยกล่าวมา พวกเราก็พอจะเข้าใจ ทว่าจะทําอย่างไรหากว่าพวกเราไม่ได้มีเงินถึงเพียงนั้น?”

 

บางคนที่เอ่ยถามขึ้นมา

 

“หากปราศจากเงินก็ไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินมาได้ไม่ใช่หรือ? ทําไมถึงไม่มีเงินกัน? ข้าไม่เข้าใจ”

 

เซี่ยปิงก็รู้สึกสงสัยอย่างมาก คิดว่าการที่ไม่มีเงินเป็นเรื่องที่แปลกมาก เงินก็อยู่ในธนาคาร สามารถที่จะถอนออกมาได้ทุกเมื่อไม่ใช่หรือ?

 

ไม่มีทางที่จะพูดคุยกันได้ ไม่มีทางที่จะพูดคุยกันได้จริงๆ!

 

กลุ่มของผู้อาวุโสก็กัดฟันกันอย่างแน่น ไม่รู้ทําไมพวกเขาถึงมีแรงกระตุ้นที่ต้องการจะอัดผู้คน สิ่งที่เจ้าบัดซบนี่กล่าวมาเป็นการบ่งบอกว่าตนเองร่ํารวยอย่างมหาศาล สามารถที่จะใช้เงินได้อย่างอิสระโดยที่ไม่สนใจสิ่งใด

 

การไปที่ธนาคารจะมีความหมายอะไรหากว่าพวกเขาไม่ได้มีเงินอยู่ในนั้น หากพวกเขามีเงินอยู่ในธนาคารล่ะก็ นั่นจะเรียกว่ายากจนได้อีกหรือ?!

 

บอกตามตรง เงินในธนาคารของพวกเขา หากมีนักต้มตุ้นที่มาเห็นล่ะก็ แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องรู้สึกสงสารและไม่กล้าขโมยไปอีก

 

“ศิษย์พี่เซี่ย พวกเราไม่ใช่บุคคลที่ร่ํารวยเหมือนอย่างท่าน ไม่ได้มีเงินในธนาคารให้ใช้จ่ายอย่างอิสระ อันที่จริงพวกเราต้องการที่จะหาวิธีการหาเงินเช่นกัน ต้องการมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่รู้จบเหมือนกับศิษย์พี่เซี่ย”

 

ลูกศิษย์บางคนก็ถามอย่างซื่อตรง

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง ทําไมไม่พูดตั้งแต่แรก นั่นก็เป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก”

 

เซี่ยปิงก็เข้าใจได้อย่างกะทันหัน “การออกผจญภัยเป็นวิธีการที่ดีอย่างหนึ่ง เมื่อเข้าไปในดินแดนลี้ลับของจักรวาล พวกเจ้าจะค้นพบว่ามีสมบัติมากมายที่ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกเจ้าอย่างอัตโนมัติ มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเข้ามาเดินเก็บเงินก็ว่าได้ เป็นเรื่องที่น่าอภิรมย์อย่างมาก”

 

“ศิษย์พี่เซี่ย ทําไมการออกผจญภัยของท่านถึงได้แตกต่างไปจากพวกเรา?”

 

กลุ่มของลูกศิษย์ก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

 

“มีความแตกต่างอะไรกัน มันก็เหมือนๆกันไม่ใช่หรือ?”

 

เซี่ยปิงก็พูดอธิบายออกมา “การออกผจญภัยเป็นวิธีการหาเงินที่รวดเร็วที่สุด เมื่อเข้าไปในสถานที่บางแห่งอย่างมั่วซุ่ม เจ้าจะค้นพบว่ามีกลุ่มอิทธิพลสองกลุ่มที่กําลังต่อสู้กัน ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต่อสู้กันจนดับสลายไปด้วยกัน นั่นก็จะเหลือสมบัติที่พวกเขาทิ้งไว้ รวมถึงสมบัติที่พวกเขาต้องการแย่งชิงกัน สมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของเจ้า จากนั้นเจ้าก็จะกลายเป็นเฒ่าประมงได้กําไรโดยที่ไม่ต้องลงทุนออกแรงด้วยซ้ํา”

 

“การหลงทางก็ไม่ใช่สิ่งสําคัญ มุ่งหน้าไปตามลางสังหรณ์และสัญชาตญาณของเจ้า และเมื่อเข้าไปในสถานที่นั้น เจ้าจะค้นพบดินแดนลี้ลับที่ไม่มีใครเคยค้นพบมาก่อน ข้างในจะมีสมุนไพรวิญญาณมากมายที่เติบโตอยู่ มีแร่ล้ําค่าและหายากเป็นจํานวนมากทุกๆที่มีแต่ทรัพย์สมบัติ”

 

“ต่อให้จะโชคร้าย เผชิญกับอันตราย ตกลงไปในหน้าผาที่มีความลึกกว่าสามพันกิโลเมตร ความโชคร้ายของเจ้าก็จะกลายเป็นความโชคดีอย่างรวดเร็ว จะค้นพบขุมสมบัติลับที่เซนต์ในยุคโบราณได้ทิ้งเอาไว้ พลังอํานาจจะพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดอีกทั้งก็อาจจะครอบครองมรดกตกทอดของเซนต์มาเช่นกัน”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1941

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1941 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1941

 

ถึงแม้ว่าบรรดาลูกศิษย์ผู้ชายจะมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่คลั่งไคล้และเคารพนับถือ ทว่าลูกศิษย์ผู้หญิงกลับมองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ยั่วยวนและหลงใหลราวกับเป็นเสือสมิง ต้องการที่จะจับเซี่ยปิงมากินให้ได้

 

“นี่คือศิษย์พี่เซี่ยอย่างนั้นรึ? ช่างมีหน้าตาที่หล่อเหลาจริงๆ”

 

“ความหล่อเป็นเพียงข้อดีส่วนหนึ่งของเขาเท่านั้น สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือพรสวรรค์ของเขา”

 

“เดิมทีข้าก็สงสัยว่าเหตุใดผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่มีความสามารถ ทว่าตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ผู้ชายที่มีความสามารถมีเสน่ห์จริงๆและมักที่จะรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตข้างหน้า”

 

“ทว่าศิษย์พี่เซี่ยก็แตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่เขามีพรสวรรค์เท่านั้น ทว่าเขายังเป็นศัตรูกับความร่ํารวย ว่ากันว่าเขาก็มีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นเซนต์ได้”

 

“เซนต์รึ? แม่เจ้า หากได้แต่งงานกับศิษย์พี่เซี่ยล่ะก็ จากนั้นข้าจะไม่กลายเป็นนายหญิงของเซนต์รึ?”

 

“เมื่อใดที่กลายเป็นนายหญิงของเซนต์ นั่นคือการที่หนึ่งคนบรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวก็พลอยได้ดีได้ลอยขึ้นสวรรค์ไปด้วย”

 

“ใช่ ต่อให้พวกเราจะไม่สามารถพัฒนาเป็นเซนต์ในอนาคต ทว่าการที่ได้อยู่ข้างกายเซนต์ก็จะมีชีวิตอยู่ได้นับแสนปีอย่างไม่มีปัญหา สําหรับผลประโยชน์อื่นๆ ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องกล่าวถึง”

 

“ใช่ ข้าพร้อมที่จะพลีกายให้ศิษย์พี่เซี่ย ต้องการที่จะนอนในอ้อมแขนอันกว้างของเขาและหลับไป”

 

“ใช่ หากให้กําเนิดลูกกับศิษย์พี่เซี่ยได้ ด้วยพรสวรรค์ของข้ากับพรสวรรค์ของศิษย์พี่เซี่ยที่รวมกัน สุดท้ายแล้วบุตรที่ออกมาจะมีพรสวรรค์มากมายแค่ไหนกัน บางทีอาจจะให้กําเนิดเซนต์ออกมาก็เป็นได้”

 

“หึหึ ในจักรวาลนี้ผู้หญิงที่พร้อมจะพลีกายให้กับศิษย์พี่เซี่ยมีมากมายแค่ไหนกัน คงจะไม่สามารถนับจํานวนได้ด้วยซ้ํา”

 

“หอคอยที่ใกล้น้ํา ย่อมได้พระจันทร์ก่อน พวกเราที่เป็นลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดิน อยู่ใกล้กับศิษย์พี่เซี่ยที่สุด บุคคลภายนอกไม่สามารถที่จะเทียบกับพวกเราได้ จริงสิ ไม่รู้ว่ามีโอกาสที่พวกเราจะสามารถพบปะพูดคุยกับศิษย์พี่เซี่ยได้หรือไม่”

 

“ว่ากันว่าศิษย์พี่เซี่ยมักที่จะเก็บตัวบ่มเพาะอยู่ในหุบเขาหยานหวงอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องยากที่จะออกมา”

 

“ใช่แล้ว บุคคลที่ขยันขันแข็งเท่านั้นที่จะประสบความสําเร็จเช่นนี้ได้ ข้ายิ่งรู้สึกถูกใจศิษย์พี่เซี่ยมากขึ้นเรื่อยๆ”

 

“ข้าคิดว่าพวกเราควรที่จะเดินทางไปที่หุบเขาหยานหวงเพื่อรอจัดฉากพบกับศิษย์พี่เซี่ยโดยบังเอิญเปลื้องผ้าออกและอาบน้ําในทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ บางทีหากศิษย์พี่เซี่ยมาพบเข้า พวกเราอาจจะยั่วยวนเขาได้”

 

“เหอะ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย ทว่านี่ก็เป็นวิธีการที่ดีเหมือนกัน”

 

ลูกศิษย์ผู้หญิงที่งดงามจํานวนมากต่างก็หัวเราะคิกคัก ถึงแม้ว่าคําพูดของพวกเธอจะฟังดูเหมือนติดตลก ทว่าสีหน้าของพวกเธอกลับเผยให้เห็นถึงความจริงจัง เหมือนว่าจะคิดพิจารณาถึงวิธีการที่จะลอบจู่โจมเซี่ยปิงในตอนกลางคืน จัดฉากเพื่อให้ดูเหมือนได้พบกันโดยบังเอิญ ราวกับเป็นพรหมลิขิต

 

“เจ้าพวกผู้หญิงไร้ความเป็นกุลสตรีนี่ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย”

 

ซู่จีก็กัดฟันพูดออกมา เมื่อเธอได้ยินคําพูดของผู้หญิงที่ไร้ยางอายเหล่านี้ เธอก็รู้สึกเขินอายจนหูแดงขึ้นมา ในฐานะสตรีควรที่จะมีการรักนวลสงวนตัว ไม่คาดคิดว่าจะคิดจู่โจมผู้ชายในตอนกลางคืน เปลื้องผ้าเพื่อยั่วยวนอีกฝ่าย ช่างไม่มีความละอายใจอย่างถึงที่สุด

 

“ใช่ เจ้านี้มีอะไรดีกัน ไม่คาดคิดว่าจะต้องลงทุนจู่โจมตอนกลางคืนเช่นนี้ ช่างน่ารําคาญจริงๆ”

 

ยวีชีชีก็รู้สึกเอือมระอา

 

“เหอะ เจ้าพวกผู้หญิงฟุ้งเฟ้อเหล่านี้ หลงระเริงในความมั่งคั่งและสถานะ คิดที่จะแต่งงานกับสามีที่ดีเพื่อพัฒนาสถานะของตนเองขึ้นมา ชายใดกันที่จะชื่นชอบผู้หญิงเช่นนี้ ช่างเพ้อฝันสิ้นดี”

 

ฉู่หลงก็พูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม

 

“อย่าไปสนใจพวกเธอ พวกเรามาเพียรพยายามกันเถอะ ไม่จําเป็นที่จะต้องพึ่งพาผู้ชาย หากวันหนึ่งผู้หญิงเหล่านี้ถูกผู้ชายทอดทิ้งไป อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเธอจะเป็นอย่างไร” เจียงยารุก็พูดอย่างรังเกียจเช่นกัน

 

ทันใดนั้นก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งที่ตะโกนเสียงดังขึ้นมา “ศิษย์พี่เซี่ย พวกเราจะขอถามคําถามบางอย่างกับท่านได้หรือไม่?”

 

“แน่นอน พวกเจ้าอยากถามอะไร สามารถถามได้อย่างอิสระ”

 

เซี่ยปิงก็ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังอยู่บนเวทีอย่างเรียบเฉย

 

ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด ในความเป็นจริงพวกเขาก็สนใจในคําตอบของเซี่ยปิงมาก เพราะถึงอย่างไรเซี่ยปิงก็เป็นบุคคลที่ลึกลับอย่างมาก มักที่จะเก็บตัวบ่มเพาะ เป็นไปได้ยากมากที่จะติดต่อพูดคุยกับผู้อาวุโสคนอื่นๆของนิกาย

 

“ศิษย์พี่เซี่ย ข้าทราบมาว่าตอนที่ศิษย์พี่เข้าร่วมกับนิกายฟ้าดินใหม่ๆ ศิษย์พี่อยู่ในระดับราชวังสีม่วงเพียงเท่านั้น ทว่าตอนนี้กลับเลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับกฎเทวรูปได้ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ความลับในการบ่มเพาะของศิษย์พี่เซี่ยคืออะไรหรือ สามารถบอกพวกเราได้หรือไม่?” ลูกศิษย์คนนั้นก็เอ่ยถามอย่างสงสัย ผู้คนจํานวนมากที่ได้ยินเช่นนี้ก็เงี่ยหูตั้งใจฟัง พวกเขาก็อยากรู้ความลับในการบ่มเพาะของเซี่ยปิงเช่นกัน

 

“ความลับรึ? ง่ายมาก นั่นก็คือการกินเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณเป็นปริมาณมหาศาล ยิ่งมีคุณภาพเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น จะเป็นการที่ดีที่สุดหากหาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มา นี่จะทําให้มีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์”

 

เซี่ยปิงก็บอกถึงวิธีที่ทําให้ตนเองมีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้

 

กลุ่มของผู้อาวุโสก็กัดมุมปาก เหลวไหลสิ้นดี นี่เป็นการพูดจาไร้สาระ ใครจะไม่รู้กันว่าการกินเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มพลังเวทมนตร์ ทว่ามีที่ไหนที่ในตัวพวกเขาจะมีเงินมากมายเพื่อซื้อเม็ดยาที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม

 

ยิ่งไปกว่านั้นมันจะเป็นการดีที่สุดหากมองหาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มา มองหาบิดาเจ้าสิ หากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มันหาง่ายเช่นนั้น จากนั้นผู้บ่มเพาะทั่วทั้งจักรวาลก็คงจะกลายเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้ากันไปหมดแล้ว

 

เพราะถึงอย่างไรสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นทรัพยากรที่แม้แต่ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็โหยหาเป็นที่สุด เป็นที่ล่วงรู้กันว่าเป็นสมบัติตกทอดที่สืบทอดไปสู่รุ่นสู่รุ่นในตระกูลใหญ่ๆ มีที่ไหนที่จะสามารถหาได้อย่างง่ายดาย แม้แต่บางคนเองในชั่วชีวิตนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เห็น

 

ลูกศิษย์จํานวนมากก็พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรที่จะตอบกลับไปอย่างไร

 

คนๆนั้นก็ถามต่อ “ข้าเข้าใจแล้ว ศิษย์พี่เซี่ย ในเมื่อท่านกินเม็ดยาเข้าไปมากมายแล้ว ท่านก็คงจะรู้ว่าเม็ดยาใดดีที่สุด ไม่รู้ว่าพวกเราควรเลือกซื้อเม็ดยาแบบใดหรือ?”

 

“เม็ดยาแบบใด? เหตุใดถึงไม่ซื้อมาทั้งหมด? จะต้องเลือกไปทําไมกัน?”

 

เซี่ยปิงก็พูดออกมาอย่างไม่เข้าใจ

 

เจ้าเศรษฐีบัดซบนี้!

 

รอยย่นบนหน้าผากของผู้อาวุโสจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจนมากขึ้น พวกเขาคิดว่าตนเองไม่มีทางที่จะสื่อสารกับเจ้าเด็กนี่ได้รู้เรื่อง อยู่กันคนละระดับเกินไป คนยากคนจนอย่างพวกเขาไม่มีทางที่จะจินตนาการได้ถึงโลกของเศรษฐีที่ร่ํารวยอย่างเจ้าเด็กนี่

 

กลุ่มของลูกศิษย์ผู้หญิงก็มีสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลมากยิ่งขึ้น สําหรับเศรษฐีที่ร่ํารวยนั้น พวกเธอไม่อาจต้านทานได้เลย ทําให้หัวใจเต้นรัว อยากได้อะไรก็สามารถซื้อมาทั้งหมด นี่มันคือความมั่งคั่งทางการเงินในระดับใดกัน?

 

“สิ่งที่ศิษย์พี่เซี่ยกล่าวมา พวกเราก็พอจะเข้าใจ ทว่าจะทําอย่างไรหากว่าพวกเราไม่ได้มีเงินถึงเพียงนั้น?”

 

บางคนที่เอ่ยถามขึ้นมา

 

“หากปราศจากเงินก็ไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินมาได้ไม่ใช่หรือ? ทําไมถึงไม่มีเงินกัน? ข้าไม่เข้าใจ”

 

เซี่ยปิงก็รู้สึกสงสัยอย่างมาก คิดว่าการที่ไม่มีเงินเป็นเรื่องที่แปลกมาก เงินก็อยู่ในธนาคาร สามารถที่จะถอนออกมาได้ทุกเมื่อไม่ใช่หรือ?

 

ไม่มีทางที่จะพูดคุยกันได้ ไม่มีทางที่จะพูดคุยกันได้จริงๆ!

 

กลุ่มของผู้อาวุโสก็กัดฟันกันอย่างแน่น ไม่รู้ทําไมพวกเขาถึงมีแรงกระตุ้นที่ต้องการจะอัดผู้คน สิ่งที่เจ้าบัดซบนี่กล่าวมาเป็นการบ่งบอกว่าตนเองร่ํารวยอย่างมหาศาล สามารถที่จะใช้เงินได้อย่างอิสระโดยที่ไม่สนใจสิ่งใด

 

การไปที่ธนาคารจะมีความหมายอะไรหากว่าพวกเขาไม่ได้มีเงินอยู่ในนั้น หากพวกเขามีเงินอยู่ในธนาคารล่ะก็ นั่นจะเรียกว่ายากจนได้อีกหรือ?!

 

บอกตามตรง เงินในธนาคารของพวกเขา หากมีนักต้มตุ้นที่มาเห็นล่ะก็ แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องรู้สึกสงสารและไม่กล้าขโมยไปอีก

 

“ศิษย์พี่เซี่ย พวกเราไม่ใช่บุคคลที่ร่ํารวยเหมือนอย่างท่าน ไม่ได้มีเงินในธนาคารให้ใช้จ่ายอย่างอิสระ อันที่จริงพวกเราต้องการที่จะหาวิธีการหาเงินเช่นกัน ต้องการมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่รู้จบเหมือนกับศิษย์พี่เซี่ย”

 

ลูกศิษย์บางคนก็ถามอย่างซื่อตรง

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง ทําไมไม่พูดตั้งแต่แรก นั่นก็เป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก”

 

เซี่ยปิงก็เข้าใจได้อย่างกะทันหัน “การออกผจญภัยเป็นวิธีการที่ดีอย่างหนึ่ง เมื่อเข้าไปในดินแดนลี้ลับของจักรวาล พวกเจ้าจะค้นพบว่ามีสมบัติมากมายที่ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกเจ้าอย่างอัตโนมัติ มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเข้ามาเดินเก็บเงินก็ว่าได้ เป็นเรื่องที่น่าอภิรมย์อย่างมาก”

 

“ศิษย์พี่เซี่ย ทําไมการออกผจญภัยของท่านถึงได้แตกต่างไปจากพวกเรา?”

 

กลุ่มของลูกศิษย์ก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

 

“มีความแตกต่างอะไรกัน มันก็เหมือนๆกันไม่ใช่หรือ?”

 

เซี่ยปิงก็พูดอธิบายออกมา “การออกผจญภัยเป็นวิธีการหาเงินที่รวดเร็วที่สุด เมื่อเข้าไปในสถานที่บางแห่งอย่างมั่วซุ่ม เจ้าจะค้นพบว่ามีกลุ่มอิทธิพลสองกลุ่มที่กําลังต่อสู้กัน ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต่อสู้กันจนดับสลายไปด้วยกัน นั่นก็จะเหลือสมบัติที่พวกเขาทิ้งไว้ รวมถึงสมบัติที่พวกเขาต้องการแย่งชิงกัน สมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของเจ้า จากนั้นเจ้าก็จะกลายเป็นเฒ่าประมงได้กําไรโดยที่ไม่ต้องลงทุนออกแรงด้วยซ้ํา”

 

“การหลงทางก็ไม่ใช่สิ่งสําคัญ มุ่งหน้าไปตามลางสังหรณ์และสัญชาตญาณของเจ้า และเมื่อเข้าไปในสถานที่นั้น เจ้าจะค้นพบดินแดนลี้ลับที่ไม่มีใครเคยค้นพบมาก่อน ข้างในจะมีสมุนไพรวิญญาณมากมายที่เติบโตอยู่ มีแร่ล้ําค่าและหายากเป็นจํานวนมากทุกๆที่มีแต่ทรัพย์สมบัติ”

 

“ต่อให้จะโชคร้าย เผชิญกับอันตราย ตกลงไปในหน้าผาที่มีความลึกกว่าสามพันกิโลเมตร ความโชคร้ายของเจ้าก็จะกลายเป็นความโชคดีอย่างรวดเร็ว จะค้นพบขุมสมบัติลับที่เซนต์ในยุคโบราณได้ทิ้งเอาไว้ พลังอํานาจจะพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดอีกทั้งก็อาจจะครอบครองมรดกตกทอดของเซนต์มาเช่นกัน”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+