God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1961

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1961 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1961

 

วิซ!

 

ร่างของเซียปิงก็กะพริบหายไปก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้ายวีชีช เจียงยารุ ซูจีและอู่หลงทั้งสี่คน

 

ปัง!

 

ทันทีที่ดิ่งลงมาสู่พื้นดิน ทันใดนั้นเปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นมาทั่วทั้งหุบเขา แผดเผาเดม่อนจํานวนกว่าพันตัวในทันที เปลวไฟลุกไหม้ไปทั่วร่างกายของพวกมัน เปลี่ยนกลายเป็นคบเพลิงขนาดใหญ่ก็ว่าได้ เปลวไฟทะยานขึ้นสู่สวรรค์

 

กลุ่มของเดม่อนก็แตกตื่นกันอย่างมาก ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ทว่าหลังจากหนึ่งลมหายใจ เสียงร้องที่น่าสมเพชของพวกมันก็หยุดลง เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่หลงเหลือแม้แต่ตัวเดียว

 

“หืมม? นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”

 

เซียปิงก็ขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะว่าเมื่อครู่นี้เขายังไม่ทันได้ลงมือทําอะไร เพียงแค่ลงมาที่หุบเขานี้เท่านั้น ไม่คาดคิดว่ากลุ่มของเดม่อนเหล่านี้จะถูกเผาไหม้จนตายไปอย่างกะทันหัน

 

ทว่าเขาก็สัมผัสได้ว่าเปลวไฟเหล่านี้มาจากตัวเขาจริงๆ เป็นพลังอํานาจของตนเองที่แผดเผาออกไป ไม่ใช่เป็นใครอื่นที่ลงมือทําลายกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้จนหมด

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง

 

เซียปิงก็ครุ่นคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เพราะว่าสายเลือดอีกานรกทองคําของเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไป โดยเฉพาะการที่ได้ดูดกลืนแหล่งพลังงานของเดม่อนอรุณแสงเข้ามาและได้รับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของฝ่ายตรงข้ามมานั้น มันทําให้เขาพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ปลุกเซลล์อีกานรกทองค่าขึ้นมาถึงสามร้อยล้านเซลล์

 

หากเป็นเช่นนั้น ออร่าเปลวไฟของเขา รวมถึงออร่าของหยางบริสุทธิ์ก็จะพัฒนาขึ้นมาจนน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

 

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงอะไร ทว่าออร่าของเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวนี้ก็ไม่สามารถยับยั้งได้ หากเป็นคนอื่นๆที่สัมผัสถึงตัวเขา คงจะคิดว่าเซียซึ่งเป็นพระอาทิตย์ที่กําลังเดินอยู่ก็ว่าได้ แผ่คลื่นความร้อนที่น่าอัศจรรย์ออกมาตลอดเวลา

 

แน่นอนว่าคลื่นความร้อนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเซียปิง จะไม่ปะทุออกมาอย่างส่งเดช

 

ทว่าหากเป็นศัตรูที่มีความมุ่งร้ายต่อเซี่ยปิงนั้น พลังงานเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวนี้จะปลดปล่อยออกไปอย่างอัตโนมัติ สังหารศัตรูเหล่านี้อย่างกะทันหัน นี่เป็นปฏิกิริยาโต้ตอบทางสัญชาตญาณรวดเร็วจนถึงจุดที่เซียปิงก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ํา

 

กลุ่มของเดม่อนในหุบเขานี้ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกมันเห็นมนุษย์เข้ามา จากนั้นจึงมองเซียปิงเป็นศัตรูไปโดยปริยาย

 

ทว่าท้ายที่สุดก็เห็นได้ชัดว่าความคิดมุ่งร้ายพยาบาทของพวกมันที่มีต่อเซียปิงได้กระตุ้นสัญชาตญาณการป้องกันของเซียปิงอย่างกะทันหัน พลังงานเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวจึงได้ปะทุออกไป

 

ต่อให้จะรั่วไหลออกไปเพียงเล็กน้อย ทว่าเดม่อนที่อ่อนแอเหล่านี้ก็ไม่สามารถต้านทานได้

 

ภายในระยะเวลาอันสั้น กลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ก็ถูกแผดเผาจนตายไป ทั่วทั้งร่างกายลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟ เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่าน

 

“ดูเหมือนว่าจะต้องเก็บตัวบ่มเพาะเป็นระยะเวลาหนึ่ง ควบคุมสายเลือดอีกานรกทองค่าให้ได้อย่างสมบูรณ์”

 

เซียปิงก็เอามือเท้าคาง คิดว่าระยะเวลาหลายวันนี้ตนเองได้พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไปจริงๆ นี่ก็ส่งผลให้ตนเองสูญเสียการควบคุมเล็กน้อย จะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการทําให้ทุกอย่างเสถียรและมั่นคง

 

“เซี่ยปิง เหตุใดเจ้าจึงปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?”

 

เจียงยารุก็ถามอย่างสงสัย

 

ยวีซีซี ซูจีและอู่หลงทั้งสามก็รู้สึกแปลกประหลาดอย่างมาก เพราะเซียปิงเป็นผู้สังเกตการณ์เท่านั้น ไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทดสอบของลูกศิษย์หน้าใหม่ถึงจะถูก

 

หากถูกค้นพบ บางทีพวกเธออาจจะถูกตัดสิทธิ์จากการทดสอบนี้ได้ ถูกมองว่าฉ้อโกงการทดสอบนี้

 

“เพียงแค่ผ่านมาโดยบังเอิญเท่านั้น”

 

เซียปิงก็บ่งบอกว่านี่เป็นเพียงเหตุบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจเดินทางมาที่นี่

 

อีกทั้งเขาก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะสังหารกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ เพียงแค่ว่าพวกเดม่อนเหล่านี้รนหาที่ตายโดยการแผ่จิตสังหารมาสู่ตัวเขาเท่านั้น ท้ายที่สุดเปลวไฟของเขาก็แผดเผาพวกมันไปโดยอัตโนมัติ

 

“ผืนก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์สีแดงก่อนหน้านี้เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่? นี่เจ้าเพิ่งกลับออกมาจากส่วนลึกของทวีปเดม่อนอย่างนั้นรึ?” ยวีชชีก็นึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทันที คิดว่าก้อนเมฆสีแดงที่ดูน่ากลัวเหล่านั้นจะต้องมีความเกี่ยวกับเจ้าตัวสร้างปัญหาอย่างเซียซึ่งเป็นแน่

 

“นี่เป็นความลับ หากเจ้าต้องการรู้ ดูเหมือนว่าคืนนี้พวกเราจะต้องอยู่ร่วมกันสองต่อสอง ข้าสามารถอธิบายเจ้าอย่างละเอียดได้ทั้งคืน ไม่ปกปิดแม้แต่ครึ่งคํา มันจะเป็นการสนทนาที่ยาวนานไปจนถึงเช้า”

 

เซี่ยปิงก็เผยรอยยิ้มหยอกเย้าออกมา

 

“เหอะ ใครกันที่จะอยากรู้ความลับของเจ้า ช่างไม่มีความละอายใจจริงๆ เจ้ามนุษย์เหม็น!”

 

ทว่ายวีชีชีก็หน้าแดงขึ้นมา เธอก็รู้ว่าสิ่งที่เซียปิงพูดออกมานั้นหมายความว่าอย่างไร เห็นได้ชัดว่าต้องการจะทําเรื่องไม่ดีกับเธอ การที่ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ร่วมกันสองต่อสอง มีที่ไหนที่เธอจะหลบหนีออกไปได้

 

“ซูจี เหตุใดใบหน้าของเจ้าถึงได้แดงเช่นนั้น? เป็นไข้ไม่สบายหรือ?” ฉ่หลงก็สังเกตเห็นความผิดปกติของจีที่อยู่ใกล้ๆทันที ในช่วงเวลานี้ใบหน้าที่ขาวนวลของเธอเหมือนว่าจะแดงค่ําขึ้นมา ดวงตาที่งดงามก็เป็นประกาย ร่างกายเหมือนจะรุ่มร้อนไปทั้งตัว

 

เหตุใดเธอถึงคิดว่าซูจีในตอนนี้ผิดปกติไปอย่างมาก เหมือนกับถูกวางยาก็ว่าได้

 

“นี่ขะ…ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จู่ๆข้าก็คิดว่าเซียปิงมีเสน่ห์อย่างมาก มีหน้าตาที่หล่อเหลา ดูแข็งแกร่งกําย่า ชวนให้หลงใหล

 

ใบหน้าของซูจีก็แดงขึ้นมาพร้อมกับพูดออกไปอย่างที่ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด ทว่าหลังจากที่พูดคําเหล่านี้ออกไป เธอกลับรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง ปรารถนาที่จะเอาหัวมุดดินทันที เหตุใดตนเองถึงได้เอ่ยถ้อยคําที่น่าอายเช่นนั้นไป

 

“หล่อเหลา? นี่ก็เป็นเพียงแค่ข้อดอย่างหนึ่งของข้าเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีพลังอํานาจที่ไร้เทียมทาน มีความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว ความอดทนนาน…เดี๋ยว นี่เจ้ากําลังจะทําอะไร เวรเอ๊ย เจ้าผู้หญิงป่าเถื่อน นี่เจ้ากําลังคิดจะทําอะไรกัน?!”

 

เดิมทีเซียปิงวางแผนที่จะโอ้อวดคุยโวต่อไป ทว่าจู่ๆซูจีก็เหมือนจะควบคุมตนเองไม่ได้ กระโจนเข้ามาหาตัวเขา ราวกับเป็นปลาหมึกยักษ์ที่เขามารัดตัวเขา ไม่มีการยับยั้งชั่งใจแม้แต่น้อย

 

“เจ้าอันธพาล ข้าอยากสัมผัสถึงความอดทนนานของเจ้า”

 

ซูจีก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ลมหายใจรดต้นคอของเซียปิง ดวงตาที่งดงามของเธอราวกับเป็นดวงตาของหมาป่าที่หิวกระหาย เพียงพอที่จะทําให้ชายทุกคนคลุ้มคลังขึ้นมาได้

 

“นี่..ถึงแม้ว่านี่จะเป็นข้อดีที่โดดเด่นของข้าและล่วงรู้กันไปทั่ว ทว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก นี่มันยังกลางวันแสกๆ ยิ่งไปกว่านั้นรอบๆก็ยังมีคนที่กําลังมองอยู่ เจ้าอย่าล่วงเกินข้าเช่นนี้ ข้าเป็นบุรุษที่มีจรรยาบรรณ”

 

เซียปิงก็กลืนน้ําลายของตนเอง รู้สึกเหมือนว่าจะควบคุมตนเองไม่ได้เล็กน้อย จิตใจเริ่มสั่นคลอน

 

“จริง? แต่เจ้าไม่คิดว่าการที่มีคนกําลังมองอยู่จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นหรือ? หรือว่าเจ้ารังเกียจข้า? ข้ามเสน่ห์ไม่พอหรือ?” ซูจีก็หัวเราะคิกคักออกมา มือขาวนวลขนาดเล็กของเธอก็วาดไปรอบๆหน้าอกของเซียปิง

 

“เป็นไปได้อย่างไรที่จะรังเกียจเจ้า? ต่อให้จะรังเกียจผู้คนทั่วทั้งจักรวาล ก็เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะรังเกียจเจ้าได้ลงคอ

 

เซียปิงก็พูดอย่างหวาดกลัว เขาคิดว่าตนเองไม่สามารถควบคุมสถานการณ์นี้ได้ การเคลื่อนไหวเช่นนี้ น้ําเสียงเช่นนี้ กิริยาท่าทางเช่นนี้ ไม่ว่าชายใดก็ไม่อาจขัดขึ้นได้ นี่คือพลังวิเศษของผู้หญิง

 

ทว่าไม่ทันรอให้เขาได้พูดอะไรอีกก็มีมือที่ดึงเขาเข้ามาอย่างรวดเร็ว คนๆนี้ก็คือเจียงยารุนั่นเอง เธอก็เหมือนจะผิดปกติไปเช่นกัน ใบหน้าที่งดงามของเธอแดงขึ้นมา ดวงตาก็เหมือนจะพร่ามัวเล็กน้อย

 

เธอดึงเซียปิงเข้ามาหาหน้าอกของตนเองโดยตรง มีท่าทางที่เผด็จการอย่างมาก เหมือนจะไม่สนใจความคิดของผู้ใด “เจ้าอันธพาลป่าเถื่อน มักจะหมายตาบรรดาผู้หญิงที่ไร้ยางอาย ลูบไล้ดอกไม้และเหยียบย่าทุ่งหญ้าไปทั่วทุกหนแห่ง ทว่าขาในฐานะเพื่อนสมัยเด็กกลับไม่เหลียวแลเลยรี? เจ้าไม่ต้องการข้าร์? หน้าอกของข้าไม่ใหญ่พอหรือ?”

 

“แน่นอนว่าใหญ่พอ ข้าก็สังเกตเห็นการเติบโตของเจ้าเช่นกัน มันเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งต่อสายตาทุกคน”

 

เซียปิงก็รู้สึกเหมือนว่าตนเองกําลังหายใจไม่ทัน

 

ทว่าไม่ทันรอให้เซียปิงได้เคลื่อนไหวอะไร ข้างหลังก็มีมือที่คว้าเสื้อของเขาไว้ ผู้ที่เคลื่อนไหวออกมานี้ก็คือ ยวีชีชีนั้นเอง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1961

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1961 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1961

 

วิซ!

 

ร่างของเซียปิงก็กะพริบหายไปก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้ายวีชีช เจียงยารุ ซูจีและอู่หลงทั้งสี่คน

 

ปัง!

 

ทันทีที่ดิ่งลงมาสู่พื้นดิน ทันใดนั้นเปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นมาทั่วทั้งหุบเขา แผดเผาเดม่อนจํานวนกว่าพันตัวในทันที เปลวไฟลุกไหม้ไปทั่วร่างกายของพวกมัน เปลี่ยนกลายเป็นคบเพลิงขนาดใหญ่ก็ว่าได้ เปลวไฟทะยานขึ้นสู่สวรรค์

 

กลุ่มของเดม่อนก็แตกตื่นกันอย่างมาก ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ทว่าหลังจากหนึ่งลมหายใจ เสียงร้องที่น่าสมเพชของพวกมันก็หยุดลง เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่หลงเหลือแม้แต่ตัวเดียว

 

“หืมม? นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”

 

เซียปิงก็ขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะว่าเมื่อครู่นี้เขายังไม่ทันได้ลงมือทําอะไร เพียงแค่ลงมาที่หุบเขานี้เท่านั้น ไม่คาดคิดว่ากลุ่มของเดม่อนเหล่านี้จะถูกเผาไหม้จนตายไปอย่างกะทันหัน

 

ทว่าเขาก็สัมผัสได้ว่าเปลวไฟเหล่านี้มาจากตัวเขาจริงๆ เป็นพลังอํานาจของตนเองที่แผดเผาออกไป ไม่ใช่เป็นใครอื่นที่ลงมือทําลายกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้จนหมด

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง

 

เซียปิงก็ครุ่นคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เพราะว่าสายเลือดอีกานรกทองคําของเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไป โดยเฉพาะการที่ได้ดูดกลืนแหล่งพลังงานของเดม่อนอรุณแสงเข้ามาและได้รับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของฝ่ายตรงข้ามมานั้น มันทําให้เขาพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ปลุกเซลล์อีกานรกทองค่าขึ้นมาถึงสามร้อยล้านเซลล์

 

หากเป็นเช่นนั้น ออร่าเปลวไฟของเขา รวมถึงออร่าของหยางบริสุทธิ์ก็จะพัฒนาขึ้นมาจนน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

 

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงอะไร ทว่าออร่าของเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวนี้ก็ไม่สามารถยับยั้งได้ หากเป็นคนอื่นๆที่สัมผัสถึงตัวเขา คงจะคิดว่าเซียซึ่งเป็นพระอาทิตย์ที่กําลังเดินอยู่ก็ว่าได้ แผ่คลื่นความร้อนที่น่าอัศจรรย์ออกมาตลอดเวลา

 

แน่นอนว่าคลื่นความร้อนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเซียปิง จะไม่ปะทุออกมาอย่างส่งเดช

 

ทว่าหากเป็นศัตรูที่มีความมุ่งร้ายต่อเซี่ยปิงนั้น พลังงานเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวนี้จะปลดปล่อยออกไปอย่างอัตโนมัติ สังหารศัตรูเหล่านี้อย่างกะทันหัน นี่เป็นปฏิกิริยาโต้ตอบทางสัญชาตญาณรวดเร็วจนถึงจุดที่เซียปิงก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ํา

 

กลุ่มของเดม่อนในหุบเขานี้ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกมันเห็นมนุษย์เข้ามา จากนั้นจึงมองเซียปิงเป็นศัตรูไปโดยปริยาย

 

ทว่าท้ายที่สุดก็เห็นได้ชัดว่าความคิดมุ่งร้ายพยาบาทของพวกมันที่มีต่อเซียปิงได้กระตุ้นสัญชาตญาณการป้องกันของเซียปิงอย่างกะทันหัน พลังงานเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวจึงได้ปะทุออกไป

 

ต่อให้จะรั่วไหลออกไปเพียงเล็กน้อย ทว่าเดม่อนที่อ่อนแอเหล่านี้ก็ไม่สามารถต้านทานได้

 

ภายในระยะเวลาอันสั้น กลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ก็ถูกแผดเผาจนตายไป ทั่วทั้งร่างกายลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟ เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่าน

 

“ดูเหมือนว่าจะต้องเก็บตัวบ่มเพาะเป็นระยะเวลาหนึ่ง ควบคุมสายเลือดอีกานรกทองค่าให้ได้อย่างสมบูรณ์”

 

เซียปิงก็เอามือเท้าคาง คิดว่าระยะเวลาหลายวันนี้ตนเองได้พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไปจริงๆ นี่ก็ส่งผลให้ตนเองสูญเสียการควบคุมเล็กน้อย จะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการทําให้ทุกอย่างเสถียรและมั่นคง

 

“เซี่ยปิง เหตุใดเจ้าจึงปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?”

 

เจียงยารุก็ถามอย่างสงสัย

 

ยวีซีซี ซูจีและอู่หลงทั้งสามก็รู้สึกแปลกประหลาดอย่างมาก เพราะเซียปิงเป็นผู้สังเกตการณ์เท่านั้น ไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทดสอบของลูกศิษย์หน้าใหม่ถึงจะถูก

 

หากถูกค้นพบ บางทีพวกเธออาจจะถูกตัดสิทธิ์จากการทดสอบนี้ได้ ถูกมองว่าฉ้อโกงการทดสอบนี้

 

“เพียงแค่ผ่านมาโดยบังเอิญเท่านั้น”

 

เซียปิงก็บ่งบอกว่านี่เป็นเพียงเหตุบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจเดินทางมาที่นี่

 

อีกทั้งเขาก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะสังหารกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ เพียงแค่ว่าพวกเดม่อนเหล่านี้รนหาที่ตายโดยการแผ่จิตสังหารมาสู่ตัวเขาเท่านั้น ท้ายที่สุดเปลวไฟของเขาก็แผดเผาพวกมันไปโดยอัตโนมัติ

 

“ผืนก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์สีแดงก่อนหน้านี้เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่? นี่เจ้าเพิ่งกลับออกมาจากส่วนลึกของทวีปเดม่อนอย่างนั้นรึ?” ยวีชชีก็นึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทันที คิดว่าก้อนเมฆสีแดงที่ดูน่ากลัวเหล่านั้นจะต้องมีความเกี่ยวกับเจ้าตัวสร้างปัญหาอย่างเซียซึ่งเป็นแน่

 

“นี่เป็นความลับ หากเจ้าต้องการรู้ ดูเหมือนว่าคืนนี้พวกเราจะต้องอยู่ร่วมกันสองต่อสอง ข้าสามารถอธิบายเจ้าอย่างละเอียดได้ทั้งคืน ไม่ปกปิดแม้แต่ครึ่งคํา มันจะเป็นการสนทนาที่ยาวนานไปจนถึงเช้า”

 

เซี่ยปิงก็เผยรอยยิ้มหยอกเย้าออกมา

 

“เหอะ ใครกันที่จะอยากรู้ความลับของเจ้า ช่างไม่มีความละอายใจจริงๆ เจ้ามนุษย์เหม็น!”

 

ทว่ายวีชีชีก็หน้าแดงขึ้นมา เธอก็รู้ว่าสิ่งที่เซียปิงพูดออกมานั้นหมายความว่าอย่างไร เห็นได้ชัดว่าต้องการจะทําเรื่องไม่ดีกับเธอ การที่ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ร่วมกันสองต่อสอง มีที่ไหนที่เธอจะหลบหนีออกไปได้

 

“ซูจี เหตุใดใบหน้าของเจ้าถึงได้แดงเช่นนั้น? เป็นไข้ไม่สบายหรือ?” ฉ่หลงก็สังเกตเห็นความผิดปกติของจีที่อยู่ใกล้ๆทันที ในช่วงเวลานี้ใบหน้าที่ขาวนวลของเธอเหมือนว่าจะแดงค่ําขึ้นมา ดวงตาที่งดงามก็เป็นประกาย ร่างกายเหมือนจะรุ่มร้อนไปทั้งตัว

 

เหตุใดเธอถึงคิดว่าซูจีในตอนนี้ผิดปกติไปอย่างมาก เหมือนกับถูกวางยาก็ว่าได้

 

“นี่ขะ…ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จู่ๆข้าก็คิดว่าเซียปิงมีเสน่ห์อย่างมาก มีหน้าตาที่หล่อเหลา ดูแข็งแกร่งกําย่า ชวนให้หลงใหล

 

ใบหน้าของซูจีก็แดงขึ้นมาพร้อมกับพูดออกไปอย่างที่ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด ทว่าหลังจากที่พูดคําเหล่านี้ออกไป เธอกลับรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง ปรารถนาที่จะเอาหัวมุดดินทันที เหตุใดตนเองถึงได้เอ่ยถ้อยคําที่น่าอายเช่นนั้นไป

 

“หล่อเหลา? นี่ก็เป็นเพียงแค่ข้อดอย่างหนึ่งของข้าเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีพลังอํานาจที่ไร้เทียมทาน มีความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว ความอดทนนาน…เดี๋ยว นี่เจ้ากําลังจะทําอะไร เวรเอ๊ย เจ้าผู้หญิงป่าเถื่อน นี่เจ้ากําลังคิดจะทําอะไรกัน?!”

 

เดิมทีเซียปิงวางแผนที่จะโอ้อวดคุยโวต่อไป ทว่าจู่ๆซูจีก็เหมือนจะควบคุมตนเองไม่ได้ กระโจนเข้ามาหาตัวเขา ราวกับเป็นปลาหมึกยักษ์ที่เขามารัดตัวเขา ไม่มีการยับยั้งชั่งใจแม้แต่น้อย

 

“เจ้าอันธพาล ข้าอยากสัมผัสถึงความอดทนนานของเจ้า”

 

ซูจีก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ลมหายใจรดต้นคอของเซียปิง ดวงตาที่งดงามของเธอราวกับเป็นดวงตาของหมาป่าที่หิวกระหาย เพียงพอที่จะทําให้ชายทุกคนคลุ้มคลังขึ้นมาได้

 

“นี่..ถึงแม้ว่านี่จะเป็นข้อดีที่โดดเด่นของข้าและล่วงรู้กันไปทั่ว ทว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก นี่มันยังกลางวันแสกๆ ยิ่งไปกว่านั้นรอบๆก็ยังมีคนที่กําลังมองอยู่ เจ้าอย่าล่วงเกินข้าเช่นนี้ ข้าเป็นบุรุษที่มีจรรยาบรรณ”

 

เซียปิงก็กลืนน้ําลายของตนเอง รู้สึกเหมือนว่าจะควบคุมตนเองไม่ได้เล็กน้อย จิตใจเริ่มสั่นคลอน

 

“จริง? แต่เจ้าไม่คิดว่าการที่มีคนกําลังมองอยู่จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นหรือ? หรือว่าเจ้ารังเกียจข้า? ข้ามเสน่ห์ไม่พอหรือ?” ซูจีก็หัวเราะคิกคักออกมา มือขาวนวลขนาดเล็กของเธอก็วาดไปรอบๆหน้าอกของเซียปิง

 

“เป็นไปได้อย่างไรที่จะรังเกียจเจ้า? ต่อให้จะรังเกียจผู้คนทั่วทั้งจักรวาล ก็เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะรังเกียจเจ้าได้ลงคอ

 

เซียปิงก็พูดอย่างหวาดกลัว เขาคิดว่าตนเองไม่สามารถควบคุมสถานการณ์นี้ได้ การเคลื่อนไหวเช่นนี้ น้ําเสียงเช่นนี้ กิริยาท่าทางเช่นนี้ ไม่ว่าชายใดก็ไม่อาจขัดขึ้นได้ นี่คือพลังวิเศษของผู้หญิง

 

ทว่าไม่ทันรอให้เขาได้พูดอะไรอีกก็มีมือที่ดึงเขาเข้ามาอย่างรวดเร็ว คนๆนี้ก็คือเจียงยารุนั่นเอง เธอก็เหมือนจะผิดปกติไปเช่นกัน ใบหน้าที่งดงามของเธอแดงขึ้นมา ดวงตาก็เหมือนจะพร่ามัวเล็กน้อย

 

เธอดึงเซียปิงเข้ามาหาหน้าอกของตนเองโดยตรง มีท่าทางที่เผด็จการอย่างมาก เหมือนจะไม่สนใจความคิดของผู้ใด “เจ้าอันธพาลป่าเถื่อน มักจะหมายตาบรรดาผู้หญิงที่ไร้ยางอาย ลูบไล้ดอกไม้และเหยียบย่าทุ่งหญ้าไปทั่วทุกหนแห่ง ทว่าขาในฐานะเพื่อนสมัยเด็กกลับไม่เหลียวแลเลยรี? เจ้าไม่ต้องการข้าร์? หน้าอกของข้าไม่ใหญ่พอหรือ?”

 

“แน่นอนว่าใหญ่พอ ข้าก็สังเกตเห็นการเติบโตของเจ้าเช่นกัน มันเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งต่อสายตาทุกคน”

 

เซียปิงก็รู้สึกเหมือนว่าตนเองกําลังหายใจไม่ทัน

 

ทว่าไม่ทันรอให้เซียปิงได้เคลื่อนไหวอะไร ข้างหลังก็มีมือที่คว้าเสื้อของเขาไว้ ผู้ที่เคลื่อนไหวออกมานี้ก็คือ ยวีชีชีนั้นเอง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+