God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1922

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1922 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1922

 

เมื่อได้ยินคําเหล่านี้ เซียปิงก็รู้สึกถึงความหนาวเหน็บบนอากาศ นี่คือแผนการใหญ่ อย่างไม่ต้องสงสัยว่านี่คือแผนการใหญ่ของเซนต์เทวลิขิต เป็นแผนการที่ดําเนินมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แพร่กระจายไปสู่ทุกเผ่าพันธุ์ของจักรวาล

 

เขาได้ใช้ความตายของตนเองเป็นบทนําและใช้แผนผังโชคชะตาราศีในการดําเนินแผนกา รของเขาดึงดูดผู้มีพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วนเข้ามาด้วยเม็ดยาแห่งโชคชะตาและสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์อื่นๆ

 

เห็นได้ชัดว่าผู้มีพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์ต่างๆเหล่านี้ก็ไม่สามารถอดทนต่อสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ได้เพราะเมื่อใดที่กินเม็ดยาแห่งโชคชะตาเข้าไป ทันใดนั้นก็จะมีโอกาสพัฒนาเป็นเซนต์เพิ่มขึ้นใครกันที่จะอดใจไหว

 

เพราะถึงอย่างไรการที่จะพัฒนาขึ้นไปในระดับเซนต์นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง เทียบได้กับการทะยานขึ้นสวรรค์ ตอนนี้การที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นมาถึง30%นั้น ใครกันที่จะไม่คลุ้มคลั่งและโหยหาสิ่งนี้

 

ในความเป็นจริงเม็ดยาแห่งโชคชะตาก็เป็นเพียงแค่กับดักเท่านั้น สิ่งที่สําคัญก็คือข้างในเม็ดยาแห่งโชคชะตามีประทับตราของเซนต์เทวลิขิตอยู่ การที่มีประทับตรานี้อยู่ ก็เทียบเท่าได้กับการได้รับประสบการณ์การบ่มเพาะของเซนต์เทวลิขิตไป

 

แน่นอนว่าเดิมที่บรรดาอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ต่างๆของจักรวาลก็มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นเซนต์ได้ทว่าการได้รับประทับตราของเซนต์เทวลิขิตไปอีกนั้น มันก็เทียบเท่าได้กับการราดน้ํามันลงบนกองไฟทําให้ได้ผลลัพธ์สองเท่าทั้งๆที่ใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว

 

อย่างไรก็ตาม บรรดาอัจฉริยะเหล่านี้ก็ไม่มีทางที่จะค้นพบถึงแผนการนี้ได้ พวกเขาคงจะคิดว่าตนเองมีพรสวรรค์ในระดับสุดยอด ส่งผลให้พัฒนาการของพวกเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นคุณงามความดีของพวกเขาทั้งหมดทว่านี้ก็เป็นการที่พวกเขาตกไปอยู่ในหลุมพรางของเซนต์เทวลิขิตเช่นกัน

 

“เหตุใดเซนต์เทวลิขิตถึงได้ทําเช่นนี้? เดิมที่เขาก็เป็นถึงเซนต์ไร้เทียมทาน ยืนตระหง่านอยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาล”

 

เซี่ยบังเอ่ยถาม

 

“ง่ายมาก เขาคิดที่จะกลายเป็นเทพเจ้า คิดที่จะมีชีวิตอยู่ไปชั่วนิรันดร์ ต้องการที่จะก้าวผ่านขีดจํากัดและเลื่อนขั้นขึ้นไปในขอบเขตของเทพเจ้า!”

 

ระบบตอบกลับ

 

ขอบเขตเทพเจ้า?!

 

ร่างกายของเซี่ยงก็สั่นเทา นี่แทบที่จะเป็นตํานานของจักรวาล การที่คิดจะเลื่อนขึ้นขึ้นไปในระดับที่เหนือกว่าเซนต์นั้น นั่นคือเทพเจ้า เป็นตํานานอย่างแท้จริง ตั้งแต่ยุคสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันนี้ ในบรรดาเซนต์จํานวนนับไม่ถ้วนก็ยังไม่มีใครที่สามารถพัฒนาไปสู่ขอบเขตเทพเจ้าได้

 

ทว่าเซนต์เทวลิขิตก็แตกต่างออกไป เขาเป็นเซนต์ในระดับไร้เทียมทาน แตะจุดก้าวผ่านของการเลื่อนขั้นไปสู่ขอบเขตของเทพเจ้าแล้ว

 

ซึ่งในการที่จะบรรลุจุดประสงค์ของตนเองนั้น เขาจึงตายไปอย่างสมัครใจในสงครามกับพวกเดม่อนในยุคสมัยโบราณ และก็ดําเนินแผนการข้ามยุคสมัยนี้ ใช้ระยะเวลาอันยาวนาน

 

“เซนต์คือขอบเขตที่สามารถสัมผัสถึงกฎต่างๆของจักรวาล”

 

ระบบพูดออกมา “ถึงแม้ว่าเซนต์เทวลิขิตจะเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับเซนต์ไร้เทียมทานได้ทว่าเขาก็ไม่เคยเข้าใจกฏของจักรวาลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยังคงขาดอีกเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นซึ่งมันขัดขวางการพัฒนาของเขา”

 

“ในตอนั้นเขาก็คิดได้ว่าความสามารถของคนๆหนึ่งย่อมมีขีดจํากัด การที่ต้องการจะเข้าใจกฎทั้งหมดทั้งมวลของจักรวาลอย่างสมบูรณ์แบบนั้น จําเป็นที่จะต้องใช้สติปัญญาของสิ่งมีชีวิต จํานวนมาก ดังนั้นเขาจึงตายไปและเปลี่ยนกลายเป็นประทับตราวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน”

 

“จากนั้นประทับตราเหล่านี้ก็จะฝังเข้าไปในตัวของผู้มีพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์ต่างๆ หลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของพวกเขา ใช้ประสบการณ์ จิตวิญญาณและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเป็นอาหารเพื่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และทําความเข้าใจในกฏของจักรวาลอย่างสมบูรณ์แบบ

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

 

เซียปิงก็เข้าใจถึงแผนการของเซนต์เทวลิขิตได้อย่างกะทันหัน นี่เทียบเท่ากับการมีร่างโคลนจํานวนนับไม่ถ้วนที่ช่วยในการบ่มเพาะ การที่ต้องการจะทําความเข้าใจกฎของจักรวาลอย่างสมบูรณ์แบบนั้น การที่มีผู้ช่วยเหลือจํานวนนับไม่ถ้วนย่อมเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่ามาก

 

เมื่อถึงวันหนึ่ง ร่างโคลนเหล่านี้ก็จะหลอมรวมเข้าด้วยกัน ประทับตราทั้งหมดก็จะหวนกลับคืนสู่เซนต์เทวลิขิต จากนั้นเซนต์เทวลิขิตก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาในจักรวาลอีกครั้ง

 

ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเซนต์เทวลิขิตจะบรรลุถึงระดับใด บางทีอาจจะพัฒนาขึ้นไปสู่ขอบเขตเทพเจ้าจริงๆ

 

เขาก็นึกได้ถึงทันย่า-นักวิทยาศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มังกรก่อนหน้านี้ ฝ่ายตรงข้ามมีวิถีการบ่มเพาะที่แตกต่างไปจากเซนต์เทวลิขิตอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าจะต้องการพึ่งพาวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการสังเกตและรับรู้ถึงข้อมูลเชิงลึกของจักรวาล ศึกษากฎทั้งหมดของฟิสิกส์ชีววิทยารวมถึงอวกาศและห้วงกาลเวลา

 

เมื่อฝ่ายตรงข้ามศึกษาข้อมูลทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ คาดการณ์ได้ว่าบางทีในตอนนั้นทันย่าก็อาจจะพัฒนาขึ้นไปสู่ขอบเขตเทพเจ้าก็เป็นได้

 

หนึ่งคือวิธีของสิ่งมีชีวิตทั่วไป เซนต์เทวลิขิตคิดว่าพรสวรรค์ของตนเองไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงคิดที่จะรวบรวมพลังอํานาจของอัจฉริยะจํานวนนับไม่ถ้วน หลังจากผ่านระยะเวลาไปอย่างยาวนานท้ายที่สุดเขาก็จะสามารถทําความเข้าใจจนแตกฉานได้อย่างแท้จริง

 

ทว่าอีกวิธีคือวิธีการของอัจฉริยะ มีพรสวรรค์ที่เหนือกว่าทุกๆคน บรรลุระดับที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นจึงไม่จําเป็นที่จะต้องเสียเวลาและไขว่คว้าทุกสิ่งทุกอย่างมาด้วยตนเองเหนือกว่าทุกๆคนด้วยการพึ่งพาตนเอง

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดในสองวิธีนี้ มันก็เป็นเส้นทางในการบรรลุเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือการพัฒนาเป็นเทพเจ้า

 

แต่ก็ไม่ต้องสงสัยว่าวิธีการของเซนต์เทวลิขิตนั้นทั้งโหดเหี้ยมและชั่วร้ายอย่างยิ่ง ใช้ซากศพของผู้มีพรสวรรค์จํานวนนับไม่ถ้วนเป็นบันไดเพื่อเหยียบขึ้นไปสู่ความรุ่งโรจน์ เป็นบันไดไปสู่การพัฒนาเป็นเทพเจ้าของเขา สิ่งมีชีวิตจํานวนนับไม่ถ้วนจะต้องกลายเป็นเครื่องสังเวยแก่เขา

 

ต้องยอมรับว่าฝ่ายตรงข้ามมีจิตใจที่อํามหิตอย่างแท้จริง เพื่อที่จะพัฒนาเป็นเทพเจ้า ต่อให้จะต้องสังเวยชีวิตของอัจฉริยะจํานวนมากแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย

“ทว่าแผนการเช่นนี้ยังไม่มีใครค้นพบอีกหรือ?”

 

เซียปิงเอ่ยถาม

 

“จะค้นพบได้อย่างไร? เซนต์เทวลิขิตเป็นตัวตนที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของจักรวาลมาตลอดหากเขาคิดว่าไม่มีใครที่ค้นพบแผนการนี้ได้ จากนั้นมันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีใครค้นพบแผนการนี้ได้” ระบบตอบกลับไป “แน่นอนว่าจักรวาลก็กว้างใหญ่ไพศาล บางทีอาจจะมีบุคคลที่มากฝีมือมากมายที่ค้นพบความผิดปกติยางอย่าง ทว่าการที่ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาหรือบางทีก็อาจจะเกรงกลัวว่าตนเองจะยั่วยุเซนต์เทวลิขิตเข้าได้ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงการที่จะเผชิญกับหายนะไม่กล้าที่จะเข้าไปในก้าวก่ายในแผนการของบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวผู้นั้น”

 

“ หรือไม่ก็เซนต์เทวลิขิตก็อาจจะทําข้อตกลงกับตัวตนที่ทรงอํานาจอื่นๆและให้ฝ่ายตรงข้ามเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ สรุปสั้นๆก็คือระยะเวลายาวนานที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครที่เปิดโปงแผนการนี้สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าเรื่องนี้ลึกลับซับซ้อนมากแค่ไหน”

 

เซียปิงก็พยักหน้า เขาก็ยอมรับในจุดๆนี้ วิธีการของเซนต์เทวลิขิตเป็นวิธีการที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน เขาเป็นเซนต์ไร้เทียมทาน ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของจักรวาล บุคคลที่สามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกับเขาก็มีน้อยมาก ใครกันที่จะค้นพบแผนการใหญ่นี้ได้

 

ยิ่งไปกว่านั้นระยะเวลาก็มีส่วนสําคัญเป็นอย่างมาก

 

บางที่เดิมที่การตายของเซนต์เทวลิขิตอาจจะทําให้เซนต์บางส่วนรู้สึกสงสัย คิดว่าเซนต์ไร้เที่ยมทานที่ทรงอํานาจเช่นนั้นจะเสียชีวิตไปได้อย่างไร บางทีเรื่องนี้อาจจะมีเงื่อนงํา อาจจะมีแผนการใดๆซ่อนอยู่

 

ทว่าระยะเวลาก็เพียงพอที่จะทําลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ แม้แต่เซนต์ก็เช่นกัน

 

หนึ่งร้อยล้านปีต่อมา เซนต์เทวลิขิตก็ยังไม่ได้ฟื้นคืนชีพกลับมา

 

หนึ่งพันล้านปีต่อมา หนึ่งหมื่นล้านปี หนึ่งแสนล้านปีหรือไม่หนึ่งล้านล้านปีต่อมา ทว่าในตอนนั้นเซนต์เทวลิขิตก็ยังไม่ปรากฏตัวขึ้นมาและยังไม่ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกนั้น

 

ระยะเวลาอันยาวนานเช่นนี้ เพียงพอที่จะกลบความทรงจําของเซนต์ทุกๆคนได้ในตอนนั้นเรื่องราวของเซนต์เทวลิขิตก็จะกลายเป็นเพียงตํานานในยุคโบราณเท่านั้น

 

การที่ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน เซนต์ทุกๆคนก็ต้องคิดว่าเซนต์เทวลิขิตได้ตายไปจริงๆ ตายไปอย่างสมบูรณ์

 

ยิ่งเป็นบรรดาเซนต์ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นมาได้ไม่นานนั้น พวกเขาก็รับรู้เพียงแค่ว่าเซนต์เทวขิตเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์เท่านั้น ใครกันที่จะคิดได้ว่าฝ่ายตรงข้ามยังรอคอยการฟื้นคืนชีพอีกทั้งยังซ่อนแผนการที่ชั่วร้ายเช่นนี้ไว้

 

“สามารถกลั่นกรองเม็ดยาเหล่านี้ได้หรือไม่?”

 

เซี่ยงก็เอ่ยถามข้อสงสัย

 

“สามารถกลั่นกรองได้ ทว่านี่จะเป็นการทําให้เซนต์เทวลิขิตไหวตัวขึ้นมา ทําให้ฝ่ายตรงข้ามฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันที จากนั้นก็เข้ามาสร้างปัญหาให้กับผู้เล่น ผู้เล่นต้องการสิ่งนี้หรือไม่?”

 

ระบบตอบกลับ

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ”

 

เซี่ยปิงก็กัดมุมปากและกวักมือปฏิเสธไป หากกระตุ้นให้เจ้าเฒ่าปีศาจนั่นฟื้นคืนชีพขึ้นมาเช่นนี้และรู้ว่าตัวเขากําลังจะทําลายแผนการอันยาวนานของฝ่ายตรงข้ามนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับความพิโรธที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน

 

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อเขา เหตุใดจะต้องทําเรื่องที่โง่เขลาเช่นนั้นด้วย

 

ถึงแม้ว่าเขามักจะทําอะไรบ้าบิน ทว่าเขาก็ยังมีความตระหนักรู้อยู่เช่นกัน

 

หากไม่ได้ประโยชน์อะไรและไม่ได้คิดว่าตนเองควบคุมสถานการณ์ได้ การที่ยังจะคิดทําเช่นนั้นก็ย่อมเป็นการกระทําที่โง่เขลาสิ้นดี

 

“จริงสิ หรือว่าเตาหลอมพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน มันเป็นสายลับของเซนต์เทวลิขิตหรือไม่?”

 

เซียปิงก็นึกได้ถึงจุดๆนี้ทันที เขาก็ล่วงรู้ว่าแผนผังโชคชะตาราศีและเตาหลอมแห่งความอ้างว้างจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเซนต์เทวลิขิตยังเฝ้ารอเวลาที่จะได้ฟื้นคืนชีพอยู่ อีกทั้งพวกมันก็เป็นผู้สนับสนุนหลักในแผนการของเซนต์เทวลิขิตเช่นกัน

 

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะนึกสงสัยในสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ชิ้นอื่นๆของเซนต์เทวลิขิต

 

“ไม่ต้องกังวล ทางระบบได้ทําการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เตาหลอมพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับแผนการนั้น เดิมที่มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ธรรมดาสําหรับเซนต์เทวลิขิตไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์หลักของเขา”

 

ระบบพูดออกมาอย่างต่อเนื่อง “ยิ่งไปกว่านั้นแผนการนี้ก็มีความสําคัญอย่างยิ่ง จะปล่อยให้รั่วไหลออกไปไม่ได้เด็ดขาด แน่นอนว่ายิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ได้รับรู้สิ่งใดคิดว่าเซนต์เทวลิขิตได้ตายไปแล้วจริงๆ เพราะว่าถึงอย่างไรหากแม้แต่คนใกล้ชิดของตนเองก็หลอกลวงได้ การที่จะหลอกลวงคนอื่นๆก็ย่อมเป็นเรื่องง่าย”

 

“อืม เข้าใจแล้ว”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียปิงก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถใช้งานเตาหลอมพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายตรงข้ามก็กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว

ต่อให้เซนต์เทวลิขิตจะฟื้นคืนชีพกลับมาก็ไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้อีก

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1922

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1922 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1922

 

เมื่อได้ยินคําเหล่านี้ เซียปิงก็รู้สึกถึงความหนาวเหน็บบนอากาศ นี่คือแผนการใหญ่ อย่างไม่ต้องสงสัยว่านี่คือแผนการใหญ่ของเซนต์เทวลิขิต เป็นแผนการที่ดําเนินมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แพร่กระจายไปสู่ทุกเผ่าพันธุ์ของจักรวาล

 

เขาได้ใช้ความตายของตนเองเป็นบทนําและใช้แผนผังโชคชะตาราศีในการดําเนินแผนกา รของเขาดึงดูดผู้มีพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วนเข้ามาด้วยเม็ดยาแห่งโชคชะตาและสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์อื่นๆ

 

เห็นได้ชัดว่าผู้มีพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์ต่างๆเหล่านี้ก็ไม่สามารถอดทนต่อสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ได้เพราะเมื่อใดที่กินเม็ดยาแห่งโชคชะตาเข้าไป ทันใดนั้นก็จะมีโอกาสพัฒนาเป็นเซนต์เพิ่มขึ้นใครกันที่จะอดใจไหว

 

เพราะถึงอย่างไรการที่จะพัฒนาขึ้นไปในระดับเซนต์นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง เทียบได้กับการทะยานขึ้นสวรรค์ ตอนนี้การที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นมาถึง30%นั้น ใครกันที่จะไม่คลุ้มคลั่งและโหยหาสิ่งนี้

 

ในความเป็นจริงเม็ดยาแห่งโชคชะตาก็เป็นเพียงแค่กับดักเท่านั้น สิ่งที่สําคัญก็คือข้างในเม็ดยาแห่งโชคชะตามีประทับตราของเซนต์เทวลิขิตอยู่ การที่มีประทับตรานี้อยู่ ก็เทียบเท่าได้กับการได้รับประสบการณ์การบ่มเพาะของเซนต์เทวลิขิตไป

 

แน่นอนว่าเดิมที่บรรดาอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ต่างๆของจักรวาลก็มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นเซนต์ได้ทว่าการได้รับประทับตราของเซนต์เทวลิขิตไปอีกนั้น มันก็เทียบเท่าได้กับการราดน้ํามันลงบนกองไฟทําให้ได้ผลลัพธ์สองเท่าทั้งๆที่ใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว

 

อย่างไรก็ตาม บรรดาอัจฉริยะเหล่านี้ก็ไม่มีทางที่จะค้นพบถึงแผนการนี้ได้ พวกเขาคงจะคิดว่าตนเองมีพรสวรรค์ในระดับสุดยอด ส่งผลให้พัฒนาการของพวกเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นคุณงามความดีของพวกเขาทั้งหมดทว่านี้ก็เป็นการที่พวกเขาตกไปอยู่ในหลุมพรางของเซนต์เทวลิขิตเช่นกัน

 

“เหตุใดเซนต์เทวลิขิตถึงได้ทําเช่นนี้? เดิมที่เขาก็เป็นถึงเซนต์ไร้เทียมทาน ยืนตระหง่านอยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาล”

 

เซี่ยบังเอ่ยถาม

 

“ง่ายมาก เขาคิดที่จะกลายเป็นเทพเจ้า คิดที่จะมีชีวิตอยู่ไปชั่วนิรันดร์ ต้องการที่จะก้าวผ่านขีดจํากัดและเลื่อนขั้นขึ้นไปในขอบเขตของเทพเจ้า!”

 

ระบบตอบกลับ

 

ขอบเขตเทพเจ้า?!

 

ร่างกายของเซี่ยงก็สั่นเทา นี่แทบที่จะเป็นตํานานของจักรวาล การที่คิดจะเลื่อนขึ้นขึ้นไปในระดับที่เหนือกว่าเซนต์นั้น นั่นคือเทพเจ้า เป็นตํานานอย่างแท้จริง ตั้งแต่ยุคสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันนี้ ในบรรดาเซนต์จํานวนนับไม่ถ้วนก็ยังไม่มีใครที่สามารถพัฒนาไปสู่ขอบเขตเทพเจ้าได้

 

ทว่าเซนต์เทวลิขิตก็แตกต่างออกไป เขาเป็นเซนต์ในระดับไร้เทียมทาน แตะจุดก้าวผ่านของการเลื่อนขั้นไปสู่ขอบเขตของเทพเจ้าแล้ว

 

ซึ่งในการที่จะบรรลุจุดประสงค์ของตนเองนั้น เขาจึงตายไปอย่างสมัครใจในสงครามกับพวกเดม่อนในยุคสมัยโบราณ และก็ดําเนินแผนการข้ามยุคสมัยนี้ ใช้ระยะเวลาอันยาวนาน

 

“เซนต์คือขอบเขตที่สามารถสัมผัสถึงกฎต่างๆของจักรวาล”

 

ระบบพูดออกมา “ถึงแม้ว่าเซนต์เทวลิขิตจะเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับเซนต์ไร้เทียมทานได้ทว่าเขาก็ไม่เคยเข้าใจกฏของจักรวาลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยังคงขาดอีกเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นซึ่งมันขัดขวางการพัฒนาของเขา”

 

“ในตอนั้นเขาก็คิดได้ว่าความสามารถของคนๆหนึ่งย่อมมีขีดจํากัด การที่ต้องการจะเข้าใจกฎทั้งหมดทั้งมวลของจักรวาลอย่างสมบูรณ์แบบนั้น จําเป็นที่จะต้องใช้สติปัญญาของสิ่งมีชีวิต จํานวนมาก ดังนั้นเขาจึงตายไปและเปลี่ยนกลายเป็นประทับตราวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน”

 

“จากนั้นประทับตราเหล่านี้ก็จะฝังเข้าไปในตัวของผู้มีพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์ต่างๆ หลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของพวกเขา ใช้ประสบการณ์ จิตวิญญาณและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเป็นอาหารเพื่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และทําความเข้าใจในกฏของจักรวาลอย่างสมบูรณ์แบบ

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

 

เซียปิงก็เข้าใจถึงแผนการของเซนต์เทวลิขิตได้อย่างกะทันหัน นี่เทียบเท่ากับการมีร่างโคลนจํานวนนับไม่ถ้วนที่ช่วยในการบ่มเพาะ การที่ต้องการจะทําความเข้าใจกฎของจักรวาลอย่างสมบูรณ์แบบนั้น การที่มีผู้ช่วยเหลือจํานวนนับไม่ถ้วนย่อมเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่ามาก

 

เมื่อถึงวันหนึ่ง ร่างโคลนเหล่านี้ก็จะหลอมรวมเข้าด้วยกัน ประทับตราทั้งหมดก็จะหวนกลับคืนสู่เซนต์เทวลิขิต จากนั้นเซนต์เทวลิขิตก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาในจักรวาลอีกครั้ง

 

ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเซนต์เทวลิขิตจะบรรลุถึงระดับใด บางทีอาจจะพัฒนาขึ้นไปสู่ขอบเขตเทพเจ้าจริงๆ

 

เขาก็นึกได้ถึงทันย่า-นักวิทยาศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มังกรก่อนหน้านี้ ฝ่ายตรงข้ามมีวิถีการบ่มเพาะที่แตกต่างไปจากเซนต์เทวลิขิตอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าจะต้องการพึ่งพาวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการสังเกตและรับรู้ถึงข้อมูลเชิงลึกของจักรวาล ศึกษากฎทั้งหมดของฟิสิกส์ชีววิทยารวมถึงอวกาศและห้วงกาลเวลา

 

เมื่อฝ่ายตรงข้ามศึกษาข้อมูลทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ คาดการณ์ได้ว่าบางทีในตอนนั้นทันย่าก็อาจจะพัฒนาขึ้นไปสู่ขอบเขตเทพเจ้าก็เป็นได้

 

หนึ่งคือวิธีของสิ่งมีชีวิตทั่วไป เซนต์เทวลิขิตคิดว่าพรสวรรค์ของตนเองไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงคิดที่จะรวบรวมพลังอํานาจของอัจฉริยะจํานวนนับไม่ถ้วน หลังจากผ่านระยะเวลาไปอย่างยาวนานท้ายที่สุดเขาก็จะสามารถทําความเข้าใจจนแตกฉานได้อย่างแท้จริง

 

ทว่าอีกวิธีคือวิธีการของอัจฉริยะ มีพรสวรรค์ที่เหนือกว่าทุกๆคน บรรลุระดับที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นจึงไม่จําเป็นที่จะต้องเสียเวลาและไขว่คว้าทุกสิ่งทุกอย่างมาด้วยตนเองเหนือกว่าทุกๆคนด้วยการพึ่งพาตนเอง

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดในสองวิธีนี้ มันก็เป็นเส้นทางในการบรรลุเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือการพัฒนาเป็นเทพเจ้า

 

แต่ก็ไม่ต้องสงสัยว่าวิธีการของเซนต์เทวลิขิตนั้นทั้งโหดเหี้ยมและชั่วร้ายอย่างยิ่ง ใช้ซากศพของผู้มีพรสวรรค์จํานวนนับไม่ถ้วนเป็นบันไดเพื่อเหยียบขึ้นไปสู่ความรุ่งโรจน์ เป็นบันไดไปสู่การพัฒนาเป็นเทพเจ้าของเขา สิ่งมีชีวิตจํานวนนับไม่ถ้วนจะต้องกลายเป็นเครื่องสังเวยแก่เขา

 

ต้องยอมรับว่าฝ่ายตรงข้ามมีจิตใจที่อํามหิตอย่างแท้จริง เพื่อที่จะพัฒนาเป็นเทพเจ้า ต่อให้จะต้องสังเวยชีวิตของอัจฉริยะจํานวนมากแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย

“ทว่าแผนการเช่นนี้ยังไม่มีใครค้นพบอีกหรือ?”

 

เซียปิงเอ่ยถาม

 

“จะค้นพบได้อย่างไร? เซนต์เทวลิขิตเป็นตัวตนที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของจักรวาลมาตลอดหากเขาคิดว่าไม่มีใครที่ค้นพบแผนการนี้ได้ จากนั้นมันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีใครค้นพบแผนการนี้ได้” ระบบตอบกลับไป “แน่นอนว่าจักรวาลก็กว้างใหญ่ไพศาล บางทีอาจจะมีบุคคลที่มากฝีมือมากมายที่ค้นพบความผิดปกติยางอย่าง ทว่าการที่ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาหรือบางทีก็อาจจะเกรงกลัวว่าตนเองจะยั่วยุเซนต์เทวลิขิตเข้าได้ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงการที่จะเผชิญกับหายนะไม่กล้าที่จะเข้าไปในก้าวก่ายในแผนการของบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวผู้นั้น”

 

“ หรือไม่ก็เซนต์เทวลิขิตก็อาจจะทําข้อตกลงกับตัวตนที่ทรงอํานาจอื่นๆและให้ฝ่ายตรงข้ามเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ สรุปสั้นๆก็คือระยะเวลายาวนานที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครที่เปิดโปงแผนการนี้สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าเรื่องนี้ลึกลับซับซ้อนมากแค่ไหน”

 

เซียปิงก็พยักหน้า เขาก็ยอมรับในจุดๆนี้ วิธีการของเซนต์เทวลิขิตเป็นวิธีการที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน เขาเป็นเซนต์ไร้เทียมทาน ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของจักรวาล บุคคลที่สามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกับเขาก็มีน้อยมาก ใครกันที่จะค้นพบแผนการใหญ่นี้ได้

 

ยิ่งไปกว่านั้นระยะเวลาก็มีส่วนสําคัญเป็นอย่างมาก

 

บางที่เดิมที่การตายของเซนต์เทวลิขิตอาจจะทําให้เซนต์บางส่วนรู้สึกสงสัย คิดว่าเซนต์ไร้เที่ยมทานที่ทรงอํานาจเช่นนั้นจะเสียชีวิตไปได้อย่างไร บางทีเรื่องนี้อาจจะมีเงื่อนงํา อาจจะมีแผนการใดๆซ่อนอยู่

 

ทว่าระยะเวลาก็เพียงพอที่จะทําลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ แม้แต่เซนต์ก็เช่นกัน

 

หนึ่งร้อยล้านปีต่อมา เซนต์เทวลิขิตก็ยังไม่ได้ฟื้นคืนชีพกลับมา

 

หนึ่งพันล้านปีต่อมา หนึ่งหมื่นล้านปี หนึ่งแสนล้านปีหรือไม่หนึ่งล้านล้านปีต่อมา ทว่าในตอนนั้นเซนต์เทวลิขิตก็ยังไม่ปรากฏตัวขึ้นมาและยังไม่ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกนั้น

 

ระยะเวลาอันยาวนานเช่นนี้ เพียงพอที่จะกลบความทรงจําของเซนต์ทุกๆคนได้ในตอนนั้นเรื่องราวของเซนต์เทวลิขิตก็จะกลายเป็นเพียงตํานานในยุคโบราณเท่านั้น

 

การที่ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน เซนต์ทุกๆคนก็ต้องคิดว่าเซนต์เทวลิขิตได้ตายไปจริงๆ ตายไปอย่างสมบูรณ์

 

ยิ่งเป็นบรรดาเซนต์ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นมาได้ไม่นานนั้น พวกเขาก็รับรู้เพียงแค่ว่าเซนต์เทวขิตเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์เท่านั้น ใครกันที่จะคิดได้ว่าฝ่ายตรงข้ามยังรอคอยการฟื้นคืนชีพอีกทั้งยังซ่อนแผนการที่ชั่วร้ายเช่นนี้ไว้

 

“สามารถกลั่นกรองเม็ดยาเหล่านี้ได้หรือไม่?”

 

เซี่ยงก็เอ่ยถามข้อสงสัย

 

“สามารถกลั่นกรองได้ ทว่านี่จะเป็นการทําให้เซนต์เทวลิขิตไหวตัวขึ้นมา ทําให้ฝ่ายตรงข้ามฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันที จากนั้นก็เข้ามาสร้างปัญหาให้กับผู้เล่น ผู้เล่นต้องการสิ่งนี้หรือไม่?”

 

ระบบตอบกลับ

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ”

 

เซี่ยปิงก็กัดมุมปากและกวักมือปฏิเสธไป หากกระตุ้นให้เจ้าเฒ่าปีศาจนั่นฟื้นคืนชีพขึ้นมาเช่นนี้และรู้ว่าตัวเขากําลังจะทําลายแผนการอันยาวนานของฝ่ายตรงข้ามนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับความพิโรธที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน

 

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อเขา เหตุใดจะต้องทําเรื่องที่โง่เขลาเช่นนั้นด้วย

 

ถึงแม้ว่าเขามักจะทําอะไรบ้าบิน ทว่าเขาก็ยังมีความตระหนักรู้อยู่เช่นกัน

 

หากไม่ได้ประโยชน์อะไรและไม่ได้คิดว่าตนเองควบคุมสถานการณ์ได้ การที่ยังจะคิดทําเช่นนั้นก็ย่อมเป็นการกระทําที่โง่เขลาสิ้นดี

 

“จริงสิ หรือว่าเตาหลอมพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน มันเป็นสายลับของเซนต์เทวลิขิตหรือไม่?”

 

เซียปิงก็นึกได้ถึงจุดๆนี้ทันที เขาก็ล่วงรู้ว่าแผนผังโชคชะตาราศีและเตาหลอมแห่งความอ้างว้างจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเซนต์เทวลิขิตยังเฝ้ารอเวลาที่จะได้ฟื้นคืนชีพอยู่ อีกทั้งพวกมันก็เป็นผู้สนับสนุนหลักในแผนการของเซนต์เทวลิขิตเช่นกัน

 

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะนึกสงสัยในสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ชิ้นอื่นๆของเซนต์เทวลิขิต

 

“ไม่ต้องกังวล ทางระบบได้ทําการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เตาหลอมพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับแผนการนั้น เดิมที่มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ธรรมดาสําหรับเซนต์เทวลิขิตไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์หลักของเขา”

 

ระบบพูดออกมาอย่างต่อเนื่อง “ยิ่งไปกว่านั้นแผนการนี้ก็มีความสําคัญอย่างยิ่ง จะปล่อยให้รั่วไหลออกไปไม่ได้เด็ดขาด แน่นอนว่ายิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ได้รับรู้สิ่งใดคิดว่าเซนต์เทวลิขิตได้ตายไปแล้วจริงๆ เพราะว่าถึงอย่างไรหากแม้แต่คนใกล้ชิดของตนเองก็หลอกลวงได้ การที่จะหลอกลวงคนอื่นๆก็ย่อมเป็นเรื่องง่าย”

 

“อืม เข้าใจแล้ว”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียปิงก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถใช้งานเตาหลอมพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายตรงข้ามก็กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว

ต่อให้เซนต์เทวลิขิตจะฟื้นคืนชีพกลับมาก็ไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้อีก

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+