God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1939

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1939 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1939

 

เพียงแค่ชั่วพริบตา ระยะเวลาก็ผ่านไปถึงหนึ่งเดือน

 

ในระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ เซียปิงก็ทําการบ่มเพาะอยู่ตลอดเวลา แกนพลังฉีของเขาก็เสถียรมั่นคงอย่างสมบูรณ์ ย่อยสลายพลังงานของเลือดนกฟีนิกซ์ได้อย่างรวดเร็ว หลอมรวมเข้ากับกล้ามเนื้อและกระดูกทั้งหมด

 

เพราะว่าได้รับพลังงานที่มหาศาลนี้มา พลังเวทมนตร์ของเขาจึงเพิ่มขึ้นมาเช่นกัน พัฒนาขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของระดับกฎเทวรูปขั้นกลาง ขาดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นก็จะเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับกฏเทวรูปขั้นสูง

 

ตอนนี้พลังเวทมนตร์ของเขาก็ทรงอํานาจขึ้นมากกว่าเดิมถึงหนึ่งเท่า

 

ทว่าเซลล์อีกานรกทองคําของเขาก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ ยังคงอยู่ที่95ล้านเซลล์ เพราะพลังงานของเลือดนกฟีนิกซ์ได้กระตุ้นเซลล์อีกานรกทองคําจนหมดแล้ว

 

แน่นอนว่าเซียปิงก็ต้องยับยั้งการตื่นขึ้นของเซลล์อีกานรกทองคําเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรในตอนนี้เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญกับการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์

 

ทว่าระยะเวลาที่ผ่านมานี้เขาก็ไม่ได้ควบแน่นพลังเวทมนตร์ขึ้นมาเท่านั้น เขาทําการศึกษาความสามารถศักดิ์สิทธิ์ หมัดวิถีแห่งราชาที่ได้ครอบครองมาจากลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก่อนหน้านี้เช่นกัน

 

ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถศักดิ์สิทธิ์อยู่มากแล้ว ทว่าการที่ได้เรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายแต่อย่างใด

 

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าไม่มีผลเสียกับการที่มีวิชาความรู้มากเกินไป

 

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงสถานะของตนเองอยู่ตลอด การที่มีวิธีการมากมายเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตนเองก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน

 

“ต้องลองทดสอบพลังอํานาจของหมัดวิถีแห่งราชานี้”

 

ร่างของเซียงก็กระพริบหายไปและปรากฏตัวขึ้นมาในพื้นที่ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ของลูกปัดพิภพ รอบๆเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า เขาก็เริ่มแสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ หมัดวิถีแห่งราชาที่เพิ่งได้เรียนรู้ออกมา

 

ในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เขาก็ทําความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ได้อย่างสมบูรณ์

 

ในความเป็นจริงเขาก็ได้เรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดมามากมาย ซึ่งหมัดวิถีแห่งราชาก็เป็นหนึ่งในนั้น ภายใต้การศึกษามัน เขาก็สามารถทําความเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็ว ศึกษาจนสําเร็จภายในเวลาเพียงสั้นๆ

 

ทันใดนั้นเชียปิงก็แสดงทักษะหมัดออกมาในพื้นที่บริเวณนี้ บนอากาศมีพลังหมัดสีทองนับหมื่นปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทว่าส่วนลึกของพลังหมัดสีทองนี้เหมือนว่าจะแอบแฝงไปด้วยตราแผ่นดินหยก มีออร่าของวิถีแห่งราชาที่หาที่เปรียบไม่ได้แผ่ออกมา

 

ตึบ!

 

หมัดนี้กระแทกเข้ากับแผ่นดินอย่างรุนแรง ทะลวงผ่านไปอย่างกะทันหันจนเกิดเป็นหลุมลึกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าหลายพันกิโลเมตร ออร่าของวิถีแห่งราชาก็คลุ้มคลั่งอย่างมาก กัดกร่อนแผ่นดินบริเวณนี้จนกลายเป็นสีทองอย่างกะทันหัน เหมือนว่าจะเปลี่ยนกลายเป็นทองคําก็ว่าได้

 

แม้แต่พลังอํานาจนี้ก็ลุกลามเข้าไปในแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง เจาะทะลวงจนลึกลงไปกว่าหลายร้อยกิโลเมตร ทะลวงไปถึงน้ําบาดาลใต้ดิน ส่งผลให้น้ําพุ่งทะลักขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าจะเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นทะเลสาบอย่างกะทันหัน

 

กลุ่มดินที่อยู่รอบๆก็เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่านภายใต้พลังหมัดของวิถีแห่งราชาที่น่าสะพรึงกลัวนี้

 

หากเทียบหมัดวิถีแห่งราชานี้กับที่ลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นได้แสดงออกมาก่อนหน้านี้นั้น ไม่ต้องสงสัยว่าพลังหมัดของเสี่ยชิงทรงพลังกว่าหลายเท่า ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบกันได้เลย

 

หากจะต้องเปรียบเทียบกันจริงๆ ลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก่อนหน้านี้เป็นราชาเยาว์วัยที่อยู่ภายใต้อํานาจของขุนนาง ไม่ได้ถือครองอํานาจที่แท้จริง

 

ทว่าเซียปิงเป็นราชาที่แท้จริงที่ปกครองอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ มีกองทัพทหารและม้าอยู่ภายใต้อํานาจเป็นจํานวนนับล้าน แอบแฝงไปด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไร้ขอบเขต ช่องว่างดังกล่าวไม่มีทางที่จะประเมินค่าได้

 

สาเหตุที่ความแตกต่างมีมากมายเช่นนี้ก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเซียปิงทําความเข้าใจหมัดวิถีแห่งราชานี้ได้อย่างท่องแท้ ทว่าเป็นเพราะพลังเวทมนตร์และพลังอํานาจของเขายิ่งใหญ่และมหาศาลกว่าลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นผู้นั้นไม่รู้กี่เท่า

 

นี่เป็นเหมือนกับช่องว่างของอํานาจที่แท้จริงของอาณาจักร คนหนึ่งมีทหารเป็นจํานวนมากและมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ ทว่าอีกคนกลับขาดแคลนทหารและมีอาณาเขตที่เล็กมาก

 

ต่อให้ทั้งสองคนจะเป็นราชาเหมือนกัน ทว่าพลังอํานาจก็ยังคงแตกต่างกันมาก ไม่มีทางที่จะเปรียบเทียบในระดับเดียวกันได้อย่างแน่นอน

 

“เจ้านาย!”

 

วิช กระทิงสีครามก็ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าเซี่ยปิงอย่างกะทันหัน

 

“โอ้ กระทิงสีคราม”

 

เซี่ยปิงก็ยับยั้งออร่าของตนเองและมองไปที่กระทิงสีคราม “เป็นอย่างไร? การเพาะปลูกสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นดําเนินไปด้วยดีหรือไม่?”

 

“ไม่มีปัญหา พวกมันเติบโตขึ้นมาได้ เจ้านายสามารถเข้าไปดูด้วยตนเอง

 

เมื่อกล่าวถึงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ กระทิงสีครามก็ตื่นเต้นอย่างมาก จากนั้นมันก็นําทางเซียยิ่งไป

 

อย่างรวดเร็วเชียปิงก็มาถึงสวนสมุนไพรที่บุปผาอัสนีสีม่วงถูกปลูกไว้ เห็นเพียงแค่ว่าสวนสมุนไพรนี้ครอบคลุมพื้นที่ในระยะกว่าพันกิโลเมตรและกระทิงสีครามก็ได้จัดตั้งค่ายกลสายฟ้ามาในพื้นที่บริเวณนี้ เชื่อมต่อเข้ากับห้วงมิติสายฟ้า

 

ทว่าแกนหลักของค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ก็คือบุปผาอัสนีสีม่วงนั่นเอง พลังงานสายฟ้าที่มหาศาลหลั่งไหลเข้ามา ปกคลุมรอบๆพื้นที่ในบริเวณนี้ มีการสั่นสะท้านของสายฟ้าในทุกหนแห่ง เหมือนว่าจะก่อตัวกลายเป็นทะเลสายฟ้าก็ว่าได้

 

พลังงานสายฟ้าที่มหาศาลนี้ก็ถูกกลั่นกรองโดยค่ายกลอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนกลายเป็นของเหลวสายฟ้า

 

หากนักวิทยายุทธคนใดที่บ่มเพาะทักษะธาตุสายฟ้าเข้ามาบ่มเพาะในสถานที่แห่งนี้นั้น มันจะเพิ่มความเร็วในการพัฒนาได้อย่างแน่นอน จะได้รับผลประโยชน์ไปอย่างมาก ดึงดูดแก่นแท้สายฟ้าที่ไร้ที่สิ้นสุดเข้ามาได้

 

นอกจากนี้ด้านข้างก็ยังมีสวนสมุนไพรอยู่อีกสวนหนึ่งเช่นกัน นี่ก็คือตําแหน่งที่เถาวัลย์ห้าธาตุถูกปลูกไว้ ครอบคลุมพื้นที่กว่าสามพันกิโลเมตร

 

เห็นเพียงแค่ว่าเถาวัลย์ห้าธาตุเติบโตขึ้นมา เถาวัลย์ที่หนาของมันปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่บริเวณนี้ เหมือนว่าจะเปลี่ยนให้กลายเป็นผืนปาที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ เป็นภาพที่เขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยพลังชีวิต

 

ในขณะเดียวกันพื้นที่ผืนปานี้ก็แยกออกเป็นห้าภูมิภาคด้วยกัน นั่นคือภูมิภาคโลหะ ไม้ น้ํา ไฟ และดิน ดึงดูดพลังงานของทั้งห้าธาตุเข้ามา ทําให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสําหรับการบ่มเพาะพลังอํานาจของทั้งห้าธาตุ

 

กระทิงสีครามก็ได้จัดตั้งค่ายกลรวบรวมพลังงานห้าธาตุไว้ในสถานที่แห่งนี้เช่นกัน มันจะดึงดูดธาตุทั้งห้าเข้ามาจากส่วนลึกของความว่างเปล่า ทําให้พลังฉีธรรมชาติในสถานที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

 

หากปลูกสมุนไพรวิญญาณอื่นๆในสถานที่แห่งนี้ มันจะมีสรรพคุณในการส่งเสริมซึ่งกันและกัน

 

“เยี่ยม”

 

เมื่อเซี่ยปิงเห็นเช่นนี้ เขาก็มีสายตาเป็นประกาย รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

 

บางทีหากตนเองดูดกลืนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เข้าไป เกรงว่ามันจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวและไม่ได้มีผลเช่นนี้ ควรที่ใช้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นแกนกลางเพื่อจัดตั้งค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นสวนสมุนไพรที่พิเศษ

 

วิธีการนี้จะเป็นการใช้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและจะได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

 

นอกจากเถาวัลย์ห้าธาตุและบุปผาอัสนี้สีม่วงนั้น สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์อื่นๆก็ถูกกระทิงสีคราม นําไปปลูกไว้ในสถานที่ต่างๆตามความเหมาะสมของพวกมัน

 

อย่างเช่นหญ้าห้วงมิติ นี่คือสมุนไพรวิญญาณที่เติบโตขึ้นมาในส่วนลึกของห้วงมิติ เป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่เติบโตขึ้นมาจากการดึงดูดพลังงานห้วงมิติ

 

ดังนั้นมันจึงได้มอบสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับกลุ่มของแมลงหลุมดํา สําหรับพวกมัน หญ้าหัวงมิตินี้ถือว่าเป็นยาชูกําลังชั้นยอด โดยปกติแล้วหญ้าเหล่านี้จะเติบโตขึ้นมาใกล้กับรังที่พวกมันอาศัยอยู่

 

ทว่าหญ้าห้วงมิติที่บรรลุถึงระดับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้นั้น เป็นสิ่งที่หายากอย่างยิ่ง

 

ดังนั้นแมลงหลุมดําเหล่านี้จึงยินดีรับหน้าที่ดูแลหญ้าห้วงมิติ พวกมันก็วางแผนที่จะเพาะปลูกและขยายพันธุ์หญ้าห้วงมิตินี้อย่างต่อเนื่อง ทําให้กลายเป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ของหญ้าห้วงมิติ

 

ดึ๊ง ดึ๊ง!!

 

ในตอนนี้เครื่องมือสื่อสารของเชียปิงก็ดังขึ้นมา เป็นผู้นํานิกายจูเซียนนั่นเองที่ติดต่อเข้ามาเขาก็รับสายโดยที่ไม่ลังเล

 

“ท่านผู้นํานิกาย ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใด?”

 

เซี่ยบังเอ่ยถาม

 

“เจ้าลืมไปแล้วหรือ? นี่เป็นเรื่องที่ข้าได้บอกเจ้าแล้ว ข้าต้องการให้เจ้ารับผิดชอบดูแลการทดสอบของลูกศิษย์หน้าใหม่ ครั้งนี้เจ้าและผู้อาวุโสคนอื่นๆจะร่วมมือด้วยกัน ช่วยควบคุมดูแลบรรดาลูกศิษย์หน้าใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดๆกับพวกเขา”

 

ผู้นํานิกายจูเซียนก็เอ่ยออกมา

 

“เข้าใจแล้ว ข้าจะมุ่งหน้าไปทันที”

 

เชี่ยปิงก็นึกถึงเรื่องที่ผู้นํานิกายได้พูดกับเขาก่อนหน้านี้ ตนเองได้เติบโตขึ้นมาจนอยู่ในระดับผู้อาวุโสแล้ว ควรที่จะมีส่วนร่วมกับการทํางานของนิกาย

 

วิซ!

 

ก่อนจากไปเขาก็เอ่ยถ้อยคําทิ้งท้ายกับกระทิงสีครามโดยได้เอ่ยชมมันและบอกให้มันทํางานอย่างหนักต่อไป จากนั้นร่างของเขาก็กระพริบหายไป ออกไปจากพื้นที่ของลูกปัดพิภพ

 

ทว่าเมื่อเซี่ยป่งออกจากหุบเขาหยานหวงและกําลังบินไปที่โถงหลักของนิกายนั้น เขาก็สังเกตเห็นซูจี เจียงยารุ อู่หลงและยวีซีชีทั้งสี่คนที่กําลังเดินอยู่บนท้องถนน พวกเธอก็เหมือนจะมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกับเขาเช่นกัน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ 1939

Now you are reading God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ Chapter 1939 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1939

 

เพียงแค่ชั่วพริบตา ระยะเวลาก็ผ่านไปถึงหนึ่งเดือน

 

ในระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ เซียปิงก็ทําการบ่มเพาะอยู่ตลอดเวลา แกนพลังฉีของเขาก็เสถียรมั่นคงอย่างสมบูรณ์ ย่อยสลายพลังงานของเลือดนกฟีนิกซ์ได้อย่างรวดเร็ว หลอมรวมเข้ากับกล้ามเนื้อและกระดูกทั้งหมด

 

เพราะว่าได้รับพลังงานที่มหาศาลนี้มา พลังเวทมนตร์ของเขาจึงเพิ่มขึ้นมาเช่นกัน พัฒนาขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของระดับกฎเทวรูปขั้นกลาง ขาดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นก็จะเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับกฏเทวรูปขั้นสูง

 

ตอนนี้พลังเวทมนตร์ของเขาก็ทรงอํานาจขึ้นมากกว่าเดิมถึงหนึ่งเท่า

 

ทว่าเซลล์อีกานรกทองคําของเขาก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ ยังคงอยู่ที่95ล้านเซลล์ เพราะพลังงานของเลือดนกฟีนิกซ์ได้กระตุ้นเซลล์อีกานรกทองคําจนหมดแล้ว

 

แน่นอนว่าเซียปิงก็ต้องยับยั้งการตื่นขึ้นของเซลล์อีกานรกทองคําเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรในตอนนี้เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญกับการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์

 

ทว่าระยะเวลาที่ผ่านมานี้เขาก็ไม่ได้ควบแน่นพลังเวทมนตร์ขึ้นมาเท่านั้น เขาทําการศึกษาความสามารถศักดิ์สิทธิ์ หมัดวิถีแห่งราชาที่ได้ครอบครองมาจากลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก่อนหน้านี้เช่นกัน

 

ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถศักดิ์สิทธิ์อยู่มากแล้ว ทว่าการที่ได้เรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายแต่อย่างใด

 

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าไม่มีผลเสียกับการที่มีวิชาความรู้มากเกินไป

 

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงสถานะของตนเองอยู่ตลอด การที่มีวิธีการมากมายเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตนเองก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน

 

“ต้องลองทดสอบพลังอํานาจของหมัดวิถีแห่งราชานี้”

 

ร่างของเซียงก็กระพริบหายไปและปรากฏตัวขึ้นมาในพื้นที่ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ของลูกปัดพิภพ รอบๆเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า เขาก็เริ่มแสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ หมัดวิถีแห่งราชาที่เพิ่งได้เรียนรู้ออกมา

 

ในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เขาก็ทําความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ได้อย่างสมบูรณ์

 

ในความเป็นจริงเขาก็ได้เรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดมามากมาย ซึ่งหมัดวิถีแห่งราชาก็เป็นหนึ่งในนั้น ภายใต้การศึกษามัน เขาก็สามารถทําความเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็ว ศึกษาจนสําเร็จภายในเวลาเพียงสั้นๆ

 

ทันใดนั้นเชียปิงก็แสดงทักษะหมัดออกมาในพื้นที่บริเวณนี้ บนอากาศมีพลังหมัดสีทองนับหมื่นปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทว่าส่วนลึกของพลังหมัดสีทองนี้เหมือนว่าจะแอบแฝงไปด้วยตราแผ่นดินหยก มีออร่าของวิถีแห่งราชาที่หาที่เปรียบไม่ได้แผ่ออกมา

 

ตึบ!

 

หมัดนี้กระแทกเข้ากับแผ่นดินอย่างรุนแรง ทะลวงผ่านไปอย่างกะทันหันจนเกิดเป็นหลุมลึกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าหลายพันกิโลเมตร ออร่าของวิถีแห่งราชาก็คลุ้มคลั่งอย่างมาก กัดกร่อนแผ่นดินบริเวณนี้จนกลายเป็นสีทองอย่างกะทันหัน เหมือนว่าจะเปลี่ยนกลายเป็นทองคําก็ว่าได้

 

แม้แต่พลังอํานาจนี้ก็ลุกลามเข้าไปในแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง เจาะทะลวงจนลึกลงไปกว่าหลายร้อยกิโลเมตร ทะลวงไปถึงน้ําบาดาลใต้ดิน ส่งผลให้น้ําพุ่งทะลักขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าจะเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นทะเลสาบอย่างกะทันหัน

 

กลุ่มดินที่อยู่รอบๆก็เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่านภายใต้พลังหมัดของวิถีแห่งราชาที่น่าสะพรึงกลัวนี้

 

หากเทียบหมัดวิถีแห่งราชานี้กับที่ลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นได้แสดงออกมาก่อนหน้านี้นั้น ไม่ต้องสงสัยว่าพลังหมัดของเสี่ยชิงทรงพลังกว่าหลายเท่า ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบกันได้เลย

 

หากจะต้องเปรียบเทียบกันจริงๆ ลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก่อนหน้านี้เป็นราชาเยาว์วัยที่อยู่ภายใต้อํานาจของขุนนาง ไม่ได้ถือครองอํานาจที่แท้จริง

 

ทว่าเซียปิงเป็นราชาที่แท้จริงที่ปกครองอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ มีกองทัพทหารและม้าอยู่ภายใต้อํานาจเป็นจํานวนนับล้าน แอบแฝงไปด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไร้ขอบเขต ช่องว่างดังกล่าวไม่มีทางที่จะประเมินค่าได้

 

สาเหตุที่ความแตกต่างมีมากมายเช่นนี้ก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเซียปิงทําความเข้าใจหมัดวิถีแห่งราชานี้ได้อย่างท่องแท้ ทว่าเป็นเพราะพลังเวทมนตร์และพลังอํานาจของเขายิ่งใหญ่และมหาศาลกว่าลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นผู้นั้นไม่รู้กี่เท่า

 

นี่เป็นเหมือนกับช่องว่างของอํานาจที่แท้จริงของอาณาจักร คนหนึ่งมีทหารเป็นจํานวนมากและมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ ทว่าอีกคนกลับขาดแคลนทหารและมีอาณาเขตที่เล็กมาก

 

ต่อให้ทั้งสองคนจะเป็นราชาเหมือนกัน ทว่าพลังอํานาจก็ยังคงแตกต่างกันมาก ไม่มีทางที่จะเปรียบเทียบในระดับเดียวกันได้อย่างแน่นอน

 

“เจ้านาย!”

 

วิช กระทิงสีครามก็ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าเซี่ยปิงอย่างกะทันหัน

 

“โอ้ กระทิงสีคราม”

 

เซี่ยปิงก็ยับยั้งออร่าของตนเองและมองไปที่กระทิงสีคราม “เป็นอย่างไร? การเพาะปลูกสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นดําเนินไปด้วยดีหรือไม่?”

 

“ไม่มีปัญหา พวกมันเติบโตขึ้นมาได้ เจ้านายสามารถเข้าไปดูด้วยตนเอง

 

เมื่อกล่าวถึงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ กระทิงสีครามก็ตื่นเต้นอย่างมาก จากนั้นมันก็นําทางเซียยิ่งไป

 

อย่างรวดเร็วเชียปิงก็มาถึงสวนสมุนไพรที่บุปผาอัสนีสีม่วงถูกปลูกไว้ เห็นเพียงแค่ว่าสวนสมุนไพรนี้ครอบคลุมพื้นที่ในระยะกว่าพันกิโลเมตรและกระทิงสีครามก็ได้จัดตั้งค่ายกลสายฟ้ามาในพื้นที่บริเวณนี้ เชื่อมต่อเข้ากับห้วงมิติสายฟ้า

 

ทว่าแกนหลักของค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ก็คือบุปผาอัสนีสีม่วงนั่นเอง พลังงานสายฟ้าที่มหาศาลหลั่งไหลเข้ามา ปกคลุมรอบๆพื้นที่ในบริเวณนี้ มีการสั่นสะท้านของสายฟ้าในทุกหนแห่ง เหมือนว่าจะก่อตัวกลายเป็นทะเลสายฟ้าก็ว่าได้

 

พลังงานสายฟ้าที่มหาศาลนี้ก็ถูกกลั่นกรองโดยค่ายกลอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนกลายเป็นของเหลวสายฟ้า

 

หากนักวิทยายุทธคนใดที่บ่มเพาะทักษะธาตุสายฟ้าเข้ามาบ่มเพาะในสถานที่แห่งนี้นั้น มันจะเพิ่มความเร็วในการพัฒนาได้อย่างแน่นอน จะได้รับผลประโยชน์ไปอย่างมาก ดึงดูดแก่นแท้สายฟ้าที่ไร้ที่สิ้นสุดเข้ามาได้

 

นอกจากนี้ด้านข้างก็ยังมีสวนสมุนไพรอยู่อีกสวนหนึ่งเช่นกัน นี่ก็คือตําแหน่งที่เถาวัลย์ห้าธาตุถูกปลูกไว้ ครอบคลุมพื้นที่กว่าสามพันกิโลเมตร

 

เห็นเพียงแค่ว่าเถาวัลย์ห้าธาตุเติบโตขึ้นมา เถาวัลย์ที่หนาของมันปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่บริเวณนี้ เหมือนว่าจะเปลี่ยนให้กลายเป็นผืนปาที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ เป็นภาพที่เขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยพลังชีวิต

 

ในขณะเดียวกันพื้นที่ผืนปานี้ก็แยกออกเป็นห้าภูมิภาคด้วยกัน นั่นคือภูมิภาคโลหะ ไม้ น้ํา ไฟ และดิน ดึงดูดพลังงานของทั้งห้าธาตุเข้ามา ทําให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสําหรับการบ่มเพาะพลังอํานาจของทั้งห้าธาตุ

 

กระทิงสีครามก็ได้จัดตั้งค่ายกลรวบรวมพลังงานห้าธาตุไว้ในสถานที่แห่งนี้เช่นกัน มันจะดึงดูดธาตุทั้งห้าเข้ามาจากส่วนลึกของความว่างเปล่า ทําให้พลังฉีธรรมชาติในสถานที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

 

หากปลูกสมุนไพรวิญญาณอื่นๆในสถานที่แห่งนี้ มันจะมีสรรพคุณในการส่งเสริมซึ่งกันและกัน

 

“เยี่ยม”

 

เมื่อเซี่ยปิงเห็นเช่นนี้ เขาก็มีสายตาเป็นประกาย รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

 

บางทีหากตนเองดูดกลืนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เข้าไป เกรงว่ามันจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวและไม่ได้มีผลเช่นนี้ ควรที่ใช้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นแกนกลางเพื่อจัดตั้งค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นสวนสมุนไพรที่พิเศษ

 

วิธีการนี้จะเป็นการใช้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและจะได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

 

นอกจากเถาวัลย์ห้าธาตุและบุปผาอัสนี้สีม่วงนั้น สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์อื่นๆก็ถูกกระทิงสีคราม นําไปปลูกไว้ในสถานที่ต่างๆตามความเหมาะสมของพวกมัน

 

อย่างเช่นหญ้าห้วงมิติ นี่คือสมุนไพรวิญญาณที่เติบโตขึ้นมาในส่วนลึกของห้วงมิติ เป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่เติบโตขึ้นมาจากการดึงดูดพลังงานห้วงมิติ

 

ดังนั้นมันจึงได้มอบสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับกลุ่มของแมลงหลุมดํา สําหรับพวกมัน หญ้าหัวงมิตินี้ถือว่าเป็นยาชูกําลังชั้นยอด โดยปกติแล้วหญ้าเหล่านี้จะเติบโตขึ้นมาใกล้กับรังที่พวกมันอาศัยอยู่

 

ทว่าหญ้าห้วงมิติที่บรรลุถึงระดับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้นั้น เป็นสิ่งที่หายากอย่างยิ่ง

 

ดังนั้นแมลงหลุมดําเหล่านี้จึงยินดีรับหน้าที่ดูแลหญ้าห้วงมิติ พวกมันก็วางแผนที่จะเพาะปลูกและขยายพันธุ์หญ้าห้วงมิตินี้อย่างต่อเนื่อง ทําให้กลายเป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ของหญ้าห้วงมิติ

 

ดึ๊ง ดึ๊ง!!

 

ในตอนนี้เครื่องมือสื่อสารของเชียปิงก็ดังขึ้นมา เป็นผู้นํานิกายจูเซียนนั่นเองที่ติดต่อเข้ามาเขาก็รับสายโดยที่ไม่ลังเล

 

“ท่านผู้นํานิกาย ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใด?”

 

เซี่ยบังเอ่ยถาม

 

“เจ้าลืมไปแล้วหรือ? นี่เป็นเรื่องที่ข้าได้บอกเจ้าแล้ว ข้าต้องการให้เจ้ารับผิดชอบดูแลการทดสอบของลูกศิษย์หน้าใหม่ ครั้งนี้เจ้าและผู้อาวุโสคนอื่นๆจะร่วมมือด้วยกัน ช่วยควบคุมดูแลบรรดาลูกศิษย์หน้าใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดๆกับพวกเขา”

 

ผู้นํานิกายจูเซียนก็เอ่ยออกมา

 

“เข้าใจแล้ว ข้าจะมุ่งหน้าไปทันที”

 

เชี่ยปิงก็นึกถึงเรื่องที่ผู้นํานิกายได้พูดกับเขาก่อนหน้านี้ ตนเองได้เติบโตขึ้นมาจนอยู่ในระดับผู้อาวุโสแล้ว ควรที่จะมีส่วนร่วมกับการทํางานของนิกาย

 

วิซ!

 

ก่อนจากไปเขาก็เอ่ยถ้อยคําทิ้งท้ายกับกระทิงสีครามโดยได้เอ่ยชมมันและบอกให้มันทํางานอย่างหนักต่อไป จากนั้นร่างของเขาก็กระพริบหายไป ออกไปจากพื้นที่ของลูกปัดพิภพ

 

ทว่าเมื่อเซี่ยป่งออกจากหุบเขาหยานหวงและกําลังบินไปที่โถงหลักของนิกายนั้น เขาก็สังเกตเห็นซูจี เจียงยารุ อู่หลงและยวีซีชีทั้งสี่คนที่กําลังเดินอยู่บนท้องถนน พวกเธอก็เหมือนจะมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกับเขาเช่นกัน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+