Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 17 วิทยาลัยเวทมนตร์ สัตว์เหนือมนุษย์

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 17 วิทยาลัยเวทมนตร์ สัตว์เหนือมนุษย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 17 วิทยาลัยเวทมนตร์ สัตว์เหนือมนุษย์

“เมืองหลวงแห่งอาณาจักรมังกรไฟนั้นมีวิทยาลัยแยกออกมามากกว่าอีก 70วิทยาลัยเลยนะ”

ตอนที่พวกเขาเดินทางไปตามถนนที่ถูกปูด้วยหินสีเทา กัปตันฮัดเดอร์ก็พูดขึ้นมา ก่อนที่จะเริ่มแนะนำแต่ละโรงเรียนหรือวิทยาลัยให้กับทุกคนรู้จัก เขาพูดต่อ “แต่เหนือกว่านั้น มีเพียงแค่3วิทยาลัยเวทมนตร์เท่านั้น นั้นก็คือ วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ วิทยาลัยเวทมนตร์ดักลาส และวิทยาลัยเวทมนตร์ครึ่งมังกร ส่วนที่เหลือนั้นคือโรงเรียนนักรบทั้งหมด”

“มีวิทยาลัยเวทมนตร์แค่ 3 ที่เองเหรอ น้อยจัง”

โจน่าห์กับเด็กอีก2คนตะลึง

“การฝึกเวทมนตร์ได้นั้นจำเป็นต้องใช้พรสวรรค์”

กัปตันฮัดเดอร์ยิ้มแล้วอธิบายต่อ “มีเพียง1 ใน หมื่น คนเท่านั้นที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ เพราะงั้น ทำให้วิทยาลัยเวทมนตร์นั้นมีมากกว่านี้ไม่ได้เลย”

โจน่าห์และอีก2คนต่างกังวลและเริ่มไม่สบายใจหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น

โอกาส 1 ใน หมื่น พวกเขาจะโชคดีมากพอที่จะเป็น1ในนั้นรึเปล่านะ

“กัปตันฮัดเดอร์ แล้ว 3 วิทยาลัยเวทมนตร์นี้มันต่างกันยังไงเหรอครับ”เหมิงเหล่ยถามขึ้นมา

“มันต่างกันแทบจะทุกๆอย่างเลยละ เพราะด้วยชนชั้นวรรณะและความสามารถทางเวทมนตร์ที่ต่างกัน ทำให้วิทยาลัยเวทมนตร์ถูกแบ่งแยกย่อยออกเป็นหลายแบบเลยละ ยกตัวอย่างจาก 3 วิทยาลัยเวทมนตร์นี้ก็ได้” กัปตันฮัดเดอร์ยิ้มแล้วแนะนำวิทยาลัยต่อ เขาเชื่อว่าเหมิงเล่ยนั้นมีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ที่มหาศาลและน่าสจะสามารถสมัครและเข้าเรียนในวิทยาลัยเวทมนตร์ได้แน่นอน แต่ประเด็นที่สำคัญเลยก็คือ เขาจะเลือกวิทยาลัยเวทมนตร์ไหนกันแน่ตั่งหาก

“วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟนั้น เป็นวิทยาลัยเวทมนตร์ที่ดีที่สุด จัดตั้งขึ้นตามชื่อของอาณาจักรเวทมนตร์แห่งนี้ ซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นวิทยาลัยเวทมนตร์หลวงประจำอาณาจักรก็ได้! ด้วยชื่อเสียงและความเก่งกาจ ทำใหอาจารย์ที่มหาลัยนี่มีความเข้มงวดสูงและมีความสามารถสุดๆ อีกทั้งในวิทยาลัยยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พร้อมพรั่งด้วยทรัพยากรในการฝึกที่ดีที่สุดที่หาได้ นักเวทที่ได้ฟูมฟักและฝึกฝนที่นี้รับประกันคุณภาพเลยว่าจบออกมาจะต้องยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน เพราะงั้น วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ จึงคู่ควรกับตำแหน่งวิทยาลัยเวทมนตร์ที่ดีที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้!”

กัปตันฮัดเดอร์มองเหมิงเหล่ยด้วยสายตาคาดหวังเล็กน้อยก่อนจะพูด “เพราะงั้น วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ จึงเป็นทางเลือกแรกสำหรับเหล่าอัจฉริยะทางด้านเวทมนตร์จากทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นทั้งครึ่งมังกรหรือมนุษย์ ตราบใดที่มีพรสวรรค์ที่ดีพอเข้าเกณฑ์ ทุกคนก็มีสิทธิ์สมัครเข้าเรียนที่วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟได้ทั้งนั้น และด้วยเหตุนี้ ถ้าเข้าที่นี่ได้ พวกเราเผ่ามนุษย์ก็จะทัดเทียมได้กับพวกครึ่งมังกรยังไงละ”

“เข้าใจแล้ว”

เหมิงเหล่ยพยักหน้าเงียบๆ สายตาเปร่งประกายเริ่มฉายแววจากภายในดวงตาของเขา

“ถ้าให้เปรียบเทียบกันแล้ว อีก 2 วิทยาลัยที่เหลือจะด้อยลงมา” กัปตันฮัดเดอร์พูดต่อ “วิทยาลัยเวทมนตร์ครึ่งมังกรนั้น ส่วนมากจะรับพวกครึ่งมังกรที่มีพรสวรรค์ปานกลาง ถึงแม้ว่าในนั้นจะมีลูกหลานพวกมนุษย์ชนชั้นสูงอยู่ในนั้นด้วยก็เถอะ ส่วนวิทยาลัยเวทมนตร์ดักลาสนั้นส่วนมากจะรับสมัครมนุษย์ที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ จะเรียกได้ว่าเป็นวิทยาลัยเวทมนตร์สำหรับมนุษย์ก็ได้”

วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ

วิทยาลัยเวทมนตร์ครึ่งมังกร

วิทยาลับเวทมนตร์ดักลาส

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าขนาดโรงเรียนยังมีแบ่งว่าเป็นโรงเรียนสำหรับพวกคนเก่งกับโรงเรียนพวกคนธรรมดาในต่างโลกแบบนี้

เหมิงเหล่ยส่ายหัวเล็กน้อยตอนที่เดินต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าเขาจะมองยังไงทั้ง 3 วิทยาลัยเวทมนตร์นี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากการแบ่งแยกพวกห้องคิงกับห้องบ๊วยออกจากกันยังไงอย่างงั้น

ระหว่างที่เดินไปนั้น ยิ่งใกล้ถึงที่หมายก็ยิ่งมีคนมากขึ้นตลอดทาง ส่วนมากจะเป็นครอบครัวที่มากันแบบ ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 หรือไม่ก็มากันเป็นตระกูลใหญ่ ส่วนมากทุกคนก็ต่างกังวลกันทั้งนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าคนพวกนี้เองก็มาเข้าร่วมการทดสอบเวทมนตร์ด้วยเหมือนกัน

เหมิงเหล่ยและพวกเดินตามฝูงชนกันมาเรื่อยๆ จนกระทั้งถึงสถานที่ทดสอบเวทมนตร์ จัตุรัสมังกรไฟนั้นเอง

จัตุรัสมังกรไฟนั้น เป็นพื้นที่จัตุรัสส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ขนาดของมันใหญ่มากพอๆกับการเอาสนามฟุตบอล 2-3สนามมาต่อๆกัน ตรงกลางของจัตุรัสนั้นมีรูปปั้นมังกรทองขนาดยักษ์สูงกว่า100 เมตรตั้งอยู่

เกล็ดของรูปปั้นนั้น เป็นสีทองแวววาวสีสดเหมือนกับว่ามันยังมีชีวิต ปีกของมันสยายออกมาปกคลุมท้องฟ้า ปากของมันอ้าปากกว้าง เหมือนจะคำรามขึ้นท้องนภา เขาของมันแหลมคมเหมือนกับจะทะลวงขึ้นสวงสวรรค์

ท่าทางของรูปปั้นนั้นดูทรงพลังและน่าเกรงขามมากถึงขนาดคนที่มองเห็นมันได้จากระยะไกลยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากรูปปั้นนั้น

“ขอคารวะท่านเทพมังกร”

พอเห็นรูปปั้นมังกรทองนั้น ฮัดเดอร์ก็เอามีกดไปที่หน้าอกของเขาก่อนจะก้มตัวลงโค้งคำนับและกล่าวออกมาเหมือนเป็นนักบุญผู้ศรัทธาต่อพระเจ้า ทำเอาทั้งเหมิงเหล่ยและคนอื่นๆตกใจ

“ลุงฮัดเดอร์ ทำอะไรหน่ะคะ”

เสียงอู้อี้ของโจน่าห์พูดออกมาจากใจอันสับสนของเธอ ทำให้ฮัดเดอร์ตกใจมากๆ เขารีบเอามือปิดปากของโจน่าห์ก่อนจะหันไปมองซ้ายขวา พอเห็นว่าไม่มีใครได้ยินหรือสังเกตเห็น เขาจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ “นี้คือรูปปั้นของท่านมหาเทพมังกร เจ้าต้องทำความเคารพรูปปั้นเทพมังกรทุกครั้งที่เห็น ทั้ง4คนเลย รีบทำความเคารพรูปปั้นเทพมังกรเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

รูปปั้นเทพมังกรเหรอ?

ต้องเคารพรูปปั้นทุกครั้งที่เห็นเหรอ

จากนั้นเหมิงเหล่ยก็เห็น ว่าไม่ใช่แค่กัปตันฮัดเดอร์ แต่ประชาชนทุกคนที่เดินผ่านมาแถวนี้พอเห็นรูปปั้นแล้วก็ต้องหยุดเพื่อโค้งคำนับต่อรูปปั้นเทพมังกรทันทีทุกคน

“เทพมังกรงั้นเหรอ?”

เหมิงเหล่ยขมวดคิ้วเข้าหากัน

“ท่านเทพมังกรเป็นจักรพรรดิผู้ก่อตั้งจักรวรรดิเทพมังกรแห่งนี้ และท่านยังเป็นจุดศูนย์กลางของศาสนาเพียงศาสนาเดียวในจักรวรรดินี้ด้วย”กัปตันฮัดเดอร์พูดเบามากๆ “ประชาชนทุกคนในจักรวรรดิต้องเคารพและนับถือในท่านมหาเทพมังกร ใครก็ตามที่ไม่นับถือหรือไม่เชื่อจะถูกนับเป็นพวกนอกรีตและจะโดนจับไปเผานั่งยางทั้งเป็นทันที เพราะงั้นพวกเจ้ารีบเคารพเดี๋ยวนี้

อะไรกันวะเนี่ย!!

เหมิงเหล่ยตกใจและรีบทำความเคารพทันที ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้ ตราบใดที่เขายังอาศัยประเทศของเทพมังกรอยู่ เขาก็ต้องทำตัวเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม

“คารวะท่านเทพมังกร”

โจน่าห์โจเซฟและแอนดริวเองก็ก้มหัวลง

“ค…คารวะ”

ฮัดเดอร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะชี้ไปที่ด้านหน้า แล้วพูด “เอาละ ที่นั้นละคือสถานที่ ที่การทดสอบเวทมนตร์กำลังจะเริ่มขึ้น พวกเรารีบไปกันเถอะ”

“ไปกันเลย!”

จัตุรัสมังกรไฟนั้นหนาแน่นและเต็มไปด้วยผู้คน เหล่าพวกชนชั้นสูงใส่เสื้อผ้าหลากสีสันส่วนพวกชาวบ้านตาดำๆก็ใส่แค่ชุดเก่าๆสกปรก แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เตะตาของเหมิงเหล่ยที่สุดในตอนนี้ก็คือ พวกครึ่งมังกร

ครึ่งมังกรนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั้นคือ มนุษย์ครึ่งมังกร กับสัตว์ครึ่งมังกร

สัตว์ครึ่งมังกรนั้นเป็นลูกหลานของมังกรยักษ์กับสัตว์เทมนตร์ ทำให้รูปร่างของมันไม่ต่างอะไรจากสัตว์เวทมนตร์เท่าไรนัก หมาป่ามังกรนั้นก็ดูเหมือนหมาป่ายัก แรดมังกรก็ดูเหมือนแรดยักษ์ และใส้เดือนเองก็ดูเหมือนจระเข้ยักษ์…?

มีสัตว์ครึ่งมังกรหลากหลายสายพันธ์แต่พวกมันกลับมีรูปร่างที่เหมือนชนชั้นสูงทุกตัว

ถ้าเกิดพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้ไปโผล่ในป่าสัตว์วิเศษ พกมันคงถูกเป็นเป้าหมายของการล่าแน่ๆ แต่พวกมันกลับใส่ชุดเสื้อผ้าสีทองและเงิน ประดับไปด้วยเครื่องประดับและลูกไม้มากมายเดินไปมาอยู่กลางที่สาธารณะ

ที่นี้ไม่มีใครกล้าล่าหรือฆ่าพวกมัน แต่กลับมีคนอ่อนน้อมและหลบทางให้กับพวกมันและหวาดกลัวพวกมันจะมาหาเรื่องมากกว่า

นั้นเป็นเพราะทุกคนนั้นต่างรู้ว่าสัตว์ครึ่งมังกรหน้าตาน่ากลัวพวกนี้นั้นมาจากตระกูลมังกรชั้นสูง เพราะงั้น มันอาจจะเป็นลูกของมาควิสหรือ หลานของดยุค หรืออาจจะเป็นคนในตระกูลชนชั้นสูงเลยก็ได้ ถ้ามีเรื่องกับมันมีแต่ตายกับตายแน่นอน

แม้แต่มนุษย์เองก็ยังอยู่แทบเท้าเป็นแค่ฝุ่นทุลีดินสำหรับพวกมัน

เหมิงเหล่ยถอนหายใจแล้วมองดูเหล่าสัตว์ครึ่งมังกรพวกนั้น ในสถานที่ ที่เรียกว่าจักรวรรดิเทพมังกร มนุษย์นั้นเป็นได้แค่เพียงขี้ข้า เป็นทาส ในขณะที่มังกรเป็นเจ้านายเป็นขุนนางตัวจริง อย่างเช่น ไม่ว่าสัตว์ตัวไหนก็ตามที่เป็นเครือญาติกับมังกรนั้นจะกลายเป็นเจ้านายชีวิตของมวลมนุษย์ทันที พวกมันฆ่าคนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ได้รับสิทธิ์พิเศษมากมายเหนือใครๆ ถ้ามีใครไปขวางหรือหาเรื่องมัน ความตายคือผลลัพท์สุดท้ายที่จะได้รับกลับไปและมันจะเป็นการตายฟรีด้วย

แน่นอนละว่านอกเหนือจากพวกสัตว์ครึ่งมังกรพวกนี้แล้วก็ยังมีพวกมนุษย์ครึ่งมังกรด้วย

80% ของขุนนางในจักรวรรดิเป็นพวกคนครึ่งมังกร และพวกลูกหลานของขุนนางพวกนี้ก็จะเกิดออกมาเป็นคนครึ่งมังกรอีกด้วย ทำให้ คนที่มาเข้ารับการทดสอบเวทมนตร์นั้น มีจำนวนเยอะมากๆที่เป็นพวกคนครึ่งมังกร

บางคนก็มีเขาบนหัว

บางคนก็มีปีกที่หลัง

บางคนก็มีหางติดตูดบางคนก็มีเกล็ดตามมตัว

ทุกคนต่างมีลักษณะพิเศษของมังกรอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

“เหมิงเหล่ย อย่าไปมองพวกเขาแบบนั้นนะ มันเสียมารยาท”ฮัดเดอร์ตบไหล่ของเหมิงเหล่ยแล้วเตือนเบาๆ “ถ้าเจ้าเกิดไปมีเรื่องหรือทำให้พวกเขาระแคะระคายแม้แต่นิดเดียวละก็ เจ้าคงได้ตายในการโจมตีแค่ครั้งเดียวแน่ๆ เจ้าใช้เหตุผลกับพวกเขาไม่ได้หรอก”

“เออ ครับ ได้ครับ!”

เหมิงเหล่ยพยักหน้า จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่พวกมนุษย์ครึ่งมังกรบางคนที่ใส่เสื้อผ้าแบบชาวบ้านธรรมดาแล้วถาม “กัปตันฮัดเดอร์ครับ คนครึ่งมังกรเป็นชนชั้นสูงไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไมพวกเขาถึงได้ใส่ชุดชาวบ้านละครับ พวกเขาหลุดจากฐานันดรศักดิ์ได้ด้วยเหรอครับ”

นกชนิดเดียวกันอยู่รวมฝูงฉันได้ คนที่เหมือนกันก็อยู่รวมกันฉันนั้น

มีคนจำนวนมากอยู่ในจัตุรัสนี้ และพวกเขาก็อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนแบ่งออกมาได้เป็นกลุ่มละ 2-3คน แล้วก็คุยกันไปมา แต่ถ้าจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆจริง จะแบ่งได้เป็น4 กลุ่มนั้นก็คือ พวกมนุษย์ชนชั้นสูงที่แต่งตัวสวยงาม สัตว์ครึ่งมังกรที่หน้าตาเหมือนสัตว์เวทมนตร์ พวกมนุษย์ครึ่งมังกร แล้วก็มนุษย์ชาวบ้านปรกติ

แต่ละกลุ่มนั้นแตกต่างกันตั้งแต่การแต่งตัวยันหน้าตา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีอีกกลุ่มนึงที่ดูจะไม่เข้าพวกกับทั้ง4กลุ่มมากๆ

พวกเขาเป็นคนครึ่งมังกร แต่กลับใส่ชุดมอซอเก่าๆเหมือนชาวบ้านธรรมดาทั่วๆไปแบบเดียวกับมนุษย์ หรือว่าคนครึ่งมังกรก็มีชาวบ้านเหมือนกันด้วยเหรอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด