Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 25 ทะเลาะวิวาท การทดสอบนักเรียนใหม่

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 25 ทะเลาะวิวาท การทดสอบนักเรียนใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย อ่านนิยาย

บทที่ 25 ทะเลาะวิวาท การทดสอบนักเรียนใหม่

ทั้งลานกว้างจัตุรัสเงียบลงทันที

ฮาร์ต ชายหนุ่มร่างอ้วนตะลึงตอนที่เขาเห็นแลนซ์กระเด็นลอยขึ้นฟ้าไปไกล ก่อนที่เขาจะมองไปที่เหมิงเหล่ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ตาตี่ๆของเขามองเหมิงเหล่ยด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง “…เป็นไปได้ยังไงกัน?”

ตุ๊บ

เสียงหล่นลงมากระแทกพื้นเรียกความสนใจจากทุกคนในจตุรัส อาจารย์ที่คุมการทดสอบนักเรียนใหม่ต่างหันหน้ามามองด้วยความไม่พอใจ

“เกิดอะไรขึ้นตรงนั้นน่ะ”

“ใครมีเรื่องกัน!”

“กล้ามีเรื่องชกต่อยทะเลาะวิวาทกันในจตุรัสเทพมังกรแห่งนี้เลยเรอะ”

“พวกนั้นอยากโดนไล่ออกจากวิทยาลัยรึไง”

อาจารย์วัยกลางคนที่ใส่ชุดนักเวทเดินตรงเข้ามาทันที พร้อมด้วยแววตาเข้มงวดและจริงจัง เขาหันไปมองแลนซ์แล้วถาม

“เกิดอะไรขึ้นหน่ะ ใครเป็นคนก่อเรื่องกัน!?”

แลนซ์ถมเลือดที่กกปากตัวเองออก ก่อนจะมองเหมิงเหล่ยด้วยความโกรธเกรี้ยว จนเหมือนมีไฟพ่นออกมาจากดวงตาของเขา ใช่แล้ว หมัดที่พุ่งเข้าหน้าเมื่อกี้เป็นของเหมิงเหล่ยนั้นเอง เขาตะโกน “ไอ้มนุษย์เศษสวะ กล้าดียังไงมาทำกับข้าแบบนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายห่าซะ”

ร่างเกล็ดสีเขียวยืนขึ้นก่อนจะปล่อยออร่าที่ดูน่ากลัว โกรธแค้น และกระหายเลือดออกมาอย่างเห็นได้ชัด –ตอนนี้เขากำลังคลั่งได้ที่เลย

“อา— เวรละ หมอนั้นเอาจริงแล้ว”

ชายร่างอ้วนหน้าเปลี่ยนสีก่อนจะพูด “ถึงไอ้โง่นั้นมันจะอายุไม่เท่าไร แต่ร่างกายของเขามันเทียบเคียงได้กับนักรบระดับ 3 เลยนะ พี่ชาย ข้าเองก็ซึ้งใจกับความกล้าหาญของเจ้านะ แต่ตอนนี้เรารีบหนีกันก่อนดีไหม”

นักรบระดับ 3 เลยเหรอ?

สายตาประหลาดใจฉายแววเข้ามาในดวงตาของเหมิงเหล่ยทันที มนุษย์ครึ่งมังกรที่ชื่อแลนซ์นั้นดูจะอายุน้อยมากๆถ้าเทียบอายุกันแล้ว แลนซ์นั้นอายุพอๆกับเด็กประถมของโลกมนุษย์เลยด้วยซ้ำ

แต่ด้วยความเป็นครึ่งมังกร ถึงแม้ว่าอายุจะแค่นั้นแต่ร่างกายของเขาไม่ได้ตัวเล็กเลย ร่างกายระดับนักรบระดับ 3 เป็นครึ่งมังกรที่มีพรสวรรค์เต็มเปี่ยม เมื่อเทียบกับเขาแล้ว มนุษย์อย่างกัปตันฮัดเดอร์ที่ต้องฝึกฝนแบบเอาเป็นเอาตาย 20-30 ปี ก็ยังเป็นได้แค่นักรบระดับ 2 เท่านั้น ถ้าเกิดเขาได้ยินเรื่องแบบนี่เขาละก็ เขาคงเอาหัวโขกกำแพงตายแน่ๆ

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกัปตันฮัดเดอร์ถึงบอกว่าไม่ว่ายังไง ห้ามไปหาเรื่องกับครึ่งมังกรเด็ดขาด ไม่ว่าจะอยู่ในชนชั้นไหนแต่ครึ่งมังกรพวกนั้นยังไงก็เหนือกว่ามนุษย์แน่นอน ซึ่งวันนี้ เหมิงเหล่ยได้มารู้ด้วยตัวเองแล้ว

“ตายห่าไปซะไอ้สวะ!”

แลนซ์กระทืบพื้นจมมดินทำให้เกิดรอยแยกของหินแตก ก่อนจะใช้แรงส่งทั้งหมดที่มี พุ่งตรงไปข้างหน้าหมายหัวเหมิงเหล่ย

“กล้าดียังไงกัน!”

แต่ถึงอย่างนั้น ในจังหวะที่เสียงคำรามของแลนซ์ดังลั่นนั้นเอง อาจารย์วัยกลางคนที่สวมผ้าคลุมเวทก็พุ่งเข้าไปขวางหน้าแลนซ์ด้วยความเร็วสูงพร้อมสายตาที่เลือดเย็น

“กล้าดียังไงมาทำตัวป่าเถื่อนต่อหน้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กัน!”

อาจารย์วัยกลางคนจู่ๆก็โบกสะบัดมือเล็กน้อยกลางอากาศ ก่อนที่มันจะเปลี่ยนกลายเป็นสายลมสีเขียว พันเป็นเกลียวเป็นรูปงูขนาดใหญ่ 2 ตัวพันกระชากขาของแลนซ์ไว้ ทำให้แลนซ์ที่พุ่งตัวหยุดชะงักและทิ้งดิ่งลงพื้นทันที

ตู้ม!!

“5555 วันนี้เหมือนว่าดวงของเจ้าจะไม่ค่อยเข้าข้างเท่าไรนะ ข้าคงได้ขำตายแน่ๆเลย 55555” พอเห็นภาพแบบนั้นแล้วฮาร์ตก็ก้มลงมาแล้วหัวเราะใส่ทันที

“ไอ้บ้าเอ้ย!!”

แลนซ์นั้นมีร่างกายที่แข็งแรง แค่แรงกระแทกนิดหน่อยทำอะไรเขาไม่ได้หรอก เขากระเสือกกระสนลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะมองหน้าอาจารย์ สติขาดแล้วพูด “เจ้าเป็นใครกัน มาหยุดข้าทำไม”

“วิทยาลัยแห่งนี้มีกฎข้อห้ามไม่ให้มีใครทะเลาะวิวาทกันโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าจะมาทำตัวหยาบช้าแบบนี้ไม่ได้”อาจารย์พูด “ฝ่ายวินัยอยู่ไหน เอาเขาไปโยนออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้”

โยนออกไปข้างนอกเหรอ?

แย่ละ

แลนซ์ที่พึ่งได้ยินแบบนั้นสติก็หวนคืนกลับมาทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนกะทันหันก่อนจะพูดอย่างไวๆ “ไม่ เดี๋ยวก่อน ท่าน ข้าเป็นนักเรียนใหม่ที่พึ่งเข้ามารายงานตัว ข้ามีตราวิทยาลัยอย่างถูกต้อง อย่าพึ่งไล่ข้าออกเลย”

“นักเรียนใหม่เหรอ หื้ม!”

ชายวัยกลางคนมองตราวิทยาลัยที่หน้าอกก่อนที่จะพูด “ก็ได้ ถือว่าเจ้าเป็นนักเรียนใหม่ยังไม่รู้กฎรู้ความ ข้าจะยกโทษให้เจ้าครั้งนึงละกัน แต่ถ้าหากเจ้ากล้าที่จะสร้างปัญหาอีกละก็ ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือพระราชา ข้าก็จะไล่เจ้าออกไปทันที”

“ครับ เข้าใจแล้วครับ”

เหงื่อแตกออกมาจากหน้าผากของแลนซ์ก่อนที่เขาจะผงกหัว

ชายวัยกลางคนนั้นหันไปมองเหมิงเหล่ย แล้วพูด “เจ้าเองก็เหมือนกัน ไม่ได้อ่านกฏของวิทยาลัยรึไงว่า ห้ามไม่ให้นักเรียนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเองโดยเด็ดขาย ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกไล่ออกทันที และจะโดนโยนออกนอกวิทยาลัยทันทีที่เห็น มีเรื่องกับเพื่อนตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแบบนี้ เจ้าอยากโดนไล่ออกรึยังไงกัน?! “

“ไม่ครับ ไม่”

เหมิงเหล่ยก้มหัวลงทันที

“หื้ม ดี ถ้างั้นก็แล้วไป แต่จงจำไว้ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีครั้งที่2อีก”

ชายวัยกลางคนพูดเสียงดัง สีหน้าของเขาเหมือนกับว่าลูกศิษย์ทำให้เขาผิดหวังมาก ก่อนจะพูด “พวกเจ้ารู้ไหมว่ามีซักกี่คนที่พยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้เข้าวิทยาลัยมังกรไฟน่ะ แต่พวกเจ้ากลับทำผิดกฎตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเลยเนี่ยมันใช่ไหม”

“ท่านครับคือ…”

“หื้ม!!” อาจารย์พ่นลมออกมาก่อนจะกลับไปที่จุดทดสอบ แล้วตะโกน คนต่อไป!

เหมิงเหล่ยหันกลับไปมอง แล้วพบว่า ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แถวตรงหน้าของเขาแล้ว เขาเป็นคิวถัดไปที่จะได้ทดสอบ

“เดี๋ยวข้าจัดการเอง”

อาจารย์คนเดียวกันนั้นมองเหมิงเหล่ยก่อนจะบอกอาจารย์ที่คุมการสอบข้างๆเขา

“ได้ครับท่านหัวหน้าฝ่าย!” อาจารย์อีกคนพูด

จากนั้นเขาก็เริ่มการทดสอบเหมิงเหล่ย

ในตอนนั้นเอง ฮาร์ตก็เดินเข้าไปสอดแนมอย่างจริงจัง ตอนนี้เขาเริ่มที่จะสนใจตัวของเหมิงเหล่ยมากๆ การที่เหมิงเหล่ยต่อยหน้าของแลนซ์บินไปได้นั้น แสดงว่าร่างกายของเขาก็ต้องแข็งแกร่งพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นการที่มนุษย์ปรกติจะทำแบบนั้นได้นั้นมันยากมากๆ แล้วเหมิงเหล่ยทำได้ยังไงกันละ….

ฮาร์ตเลยเดาไปว่าเหมมิงเหล่ยนั้นน่าจะฝึกวิชาออร่าสงครามมาบ้างและ แล้วก็อาจจะเป็นนักรบอยู่แล้วด้วย

แต่เขาก็ยังสามารถเข้ามาในวิทยาลัยมังกรไฟแห่งนี้ได้

น่าแปลกจริงๆ เขาเลยเดาไปอีกว่าพรสวรรค์ของเขาน่าจะอ่อนมากแน่ ๆ

แลนซ์เองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันตอนที่เขาตามมาดูทีหลัง

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องคิดผิด

“ระดับดีเลิศ! พลังธาตุสายฟ้า ระดับดีเลิศ”อาจารย์ที่คุมสอบพูดออกมาแล้วตกตะลึง

“ระดับดีเลิศเหรอ!”

“ว่ายังไงนะ ระดับดีเลิศเลยงั้นเหรอ!”

อาจารย์วัยกลางคนกับอาจารย์คนอื่น ๆ ที่คุมการทดสอบเดินเข้ามาดูกันเรียงคนแล้วมองดูลูกแก้วทดสอบที่สะท้อนแสงออกมาสว่างไสว

“อะไรวะ ระดับดีเลิศงั้นเหรอ?!”

ฮาร์ตหายใจเฮือกใหญ่ “นี้เจ้าหมอนั้นเป็นมนุษย์กลายพันธ์รึยังไงกัน”

“ธาตุสายฟ้าระดับดีเลิศ หรือว่าเจ้าจะเป็น…”

อาจารย์วัยกลางคนนึกขึ้นมาได้ ก่อนจะหยิบรายชื่อนักศึกษาใหม่บนโต๊ะขึ้นมาดูแล้วไล่หาตามรายชื่อ

“เหมิงเหล่ย อายุ 15ปี พลังธาตุสายฟ้าระดับดีเลิศ พลังวิญญาณเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกัน 100 เท่า เป็นชาวมนุษย์”

“เจ้าคือเหมิงเหล่ยซินะ”

อาจารย์วัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมามองเหมิงเหล่ย

“ใช่แล้วนั้นข้าเอง” เหมิงเหล่ยพยักหน้า

“ไม่เลวนี่ไอ้หนุ่ม เป็นเจ้านี่เอง!” อาจารย์คนนั้นพูด ก่อนจะพูด “จงไปทดสอบพลังวิญญาณซะ!”

เหมิงเหล่ยไปเข้ารับการทดสอบพลังวิญญาณ แล้วก็เหมือนกับก่อนหน้านี้ ผลการทดสอบออกมาชัดเจนว่ามากกว่ารุ่นเดียวกัน 100เท่า พอเห็นผลการทดสอบแบบนั้น อาจารย์ก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด แต่ถึงอย่างนั้นจู่ๆเขาก็เริ่มนึกย้อนเหตุการณ์ขึ้นมา ถ้าเมื่อกี้เขาไล่เหมิงเหล่ยออกจากวิทยาลัยละก็ เขาคงได้โดนเบื้องบนเล่นงานหนักแน่ๆ

เหมิงเหล่ยนั้นเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่ดีที่สุดที่เราได้มาในปีนี้เลยก็ว่าได้

“ทำไมเจ้าถึงมีเรื่องชกต่อยเมื่อกี้ทั้งๆที่เจ้ามีพรสวรรค์มากมายขนาดนี้กันละ”อาจารย์วัยกลางคนพูดทดสอบเชาว์ปัญญา

“ข้า…”

“เจ้ามีอะไรก็พูดออกมาอย่างยืดอกเลย กลัวว่าจะโดนไล่ออกหรือยังไงกัน” อาจารย์พูดขึ้นมาแล้วชี้นิ้วไปที่หน้าของเหมิงเหล่ย “ถ้าเจ้าโดนไล่ออกขึ้นมา เจ้าจะทำยังไง คงจะร้องไห้ขี้มูกโป่งขอร้องไม่ให้โดนไล่ออกซิท่า”

“อะแฮ่ม ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก มากสุด ข้าก็แค่ย้ายไปเข้าวิทยาลัยดักลาสแทน”เหมิงเหล่ยพึมพำออกมา

“เออ…”

ชายวัยกลางคนยืนนิ่งอึ้งอย่างไร้คำพูด เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรยังไงต่อ เพราะความจริงที่ว่าถึงที่นี่จะไล่เขาออก เขาก็สามารถหาที่อื่นเข้าได้เสมอนั้นมันเป็นความจริง กับคนที่มีพรสวรรค์มหาศาลอย่างเหมิงเหล่ยแล้ว ถึงจะไม่ได้อยู่ที่วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ เขาก็คงไปเข้าวิทยาลัยเวทมนตร์อื่นได้ง่ายๆแน่ๆ ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้นเลยวักนิด

“อะแฮ่ม เจ้าคงมีเหตุผลของเจ้าซินะ” อาจารย์กระแอมเล็กน้อยก่อนจะพูด “แต่เจ้าก็ควรจะสำรวมกิริยาไว้หน่อยนะ วิทยาลัยแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะมาก่อเรื่อง เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด