ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต 56

Now you are reading ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต Chapter 56 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.56 – ราชาผู้พิชิต รวบรวมรั้วมาจัดทัพ

Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author

 ──ปราสาทใกล้ชายแดน──

 

พวกเราที่ออกจาก[วังเทพอสูร・สมบูรณ์]ก็กลับไปยังปราสาทที่ฮิลก้าปกครอง

เพื่อรับมือกับการบุกของ[สิบปราชญ์] จึงจะทำการรวบรวม[รั้ว]ด้วยตนเอง

 

“ถึงจะบอกปฏิเสธมาก็เถอะ แต่ประชาชนของตระกูลเจ้าเมืองคิโทลน่ะเป็นพวกที่มีความภาคภูมิใจสูง”

“ก็นะ”

“ถึงนายจะเป็น[ราชาแห่งชายแดน]ผู้เกรียงไกร แต่ก็ไม่ใช่ว่าประชาชนจะตอบรับการเกณฑ์ทหารหรอกนะ”

 

ผมพยักหน้าตอบคำพูดของขุนศึก

เรื่องที่คนของเขตเจ้าเมืองคิโทลเป็นพวกที่มีความภาคภูมิใจสูง ก็สะกิดใจมาตั้งแต่ต้อนที่พบกับทูตขององค์หญิงซิลเวียร์ครั้งแรกแล้ว

ตอนแรกมาก็ดูถูกอมนุษย์ที่ชายแดนเลยนี่นะ องค์หญิงซิลเวียร์เองก็ด้วย

แต่ว่า พอได้คุยกันก็เข้าใจได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่แน่นอน

 

“ถึงจะถูกปฏิเสธ ก็จะไม่โกรธอะไรเหล่าพลเมืองหรอก”

“จะเชื่อใจ”

 

ขุนศึกฮิลก้าพยักหน้าตอบทั้งๆที่ยังปิดบังใบหน้าด้วยเกราะ

หลังจากนั้นก็เคาะดาบที่ห้อยอยู่ที่เอวดัง กิ๊ง

 

“นายคือผู้ที่จัดการพวกอสูรบน[หอคอยอสูร] ในจุดนั้นก็ต้องขอขอบคุณ ปกติแล้วพวกเราก็ต้องคอยเฝ้าหอคอยนั่นเพื่อไม่ให้มีอสูรออกมาข้างนอกตลอด การที่ไม่จำเป็นต้องเอาทหารไปใช้ในส่วนนั้นอีกแล้วถือว่าช่วยได้มากเลยล่ะ”

“ก็ไม่ใช่ว่าปลอดภัยโดยสมบูรณ์แล้วหรอก”

“เข้าใจแล้ว [ราชาแห่งชายแดน]เอ๋ย จนกว่านายของเราจะกลับมา ขอสัญญาว่าจะไม่เข้าไปในหอคอยนั่น”

“ขอบคุณ”

“ก็บอกไปแล้วนี่? ฝ่ายที่ต้องขอบคุณมันทางนี้ต่างหาก”

 

พูดจบ ขุนศึกฮิลก้าก็ถอดหมวกเกราะคาบูโตะออก

ผิวสีขาวกับดวงตาสีฟ้า ผมเป็นสีทอง

 

นี่คือ[ขุนศึกรูปงามฮิลก้า]งั้นเหรอ

จากน้ำเสียงก็คิดไว้ว่าเป็นสาวงามสูงวัยหรอก แต่อ่อนกว่าที่คิดแฮะ รู้สึกว่าน่าจะอายุมากกว่าริเซ็ตแค่นิดหน่อย เป็นเด็กสาวรูปงาม มากกว่าที่จะเป็นสาวงาม

 

“โอ้! ท่านฮิลก้าถอดหมวกเกราะออกล่ะ!?”

“ทั้งๆที่ไม่เคยให้พวกเราได้เห็นหน้าแท้ๆ!?”

“…อาา น่าเสียดายที่ได้เห็นแค่ด้านหลัง ไม่สิ พวกเรายัง ไม่มีผลงานพอที่จะได้เห็นใบหน้านั่นด้วยตาตัวเอง นี่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ[ราชาแห่งชายแดน]…”

 

“เดี๋ยวเถอะ เลิกโวยวายได้แล้ว เดี๋ยวก็ถูก[ราชาแห่งชายแดน]หัวเราะเยาะเอาหรอก”

“““เปล่าเปล่าเปล่าเปล่าเปล่า!!”””

 

พวกทหารทุกคนคุกเข่าแล้วก้มหน้าลงพื้น

พอเห็นแบบนั้น ขุนศึกฮิลก้าก็รีบสวมหมวกเกราะคาบูโตะกลับ

 

“ที่ให้เห็นหน้าเนี่ย เป็นหลักฐานว่าเชื่อใจในตัวคุณ”

“…ไม่ได้ทำอะไรให้ขนาดนั้นสักหน่อย”

 

ความจริงแล้วก็แค่กระโดดขึ้นไปยอดหอคอยแล้วฆ่าอสูรหนึ่งจนจากนั้นก็เปิดใช้งาน[วงเวท]เอง เขตแดนบนแผ่นดินนี้เองถ้าไล่ทัพศัตรูแล้วก็ว่าจะสลายทิ้งไป ก็ถ้าเจ้าเมืองคิโทลกลับมา มันอาจจะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญเอาได้ ขอไม่หาเรื่องเพื่อนบ้านใส่ตัวละกัน

 

“แต่ว่าก็ต้องขอขอบคุณความมีน้ำใจของคุณขุนศึก ได้เห็นของดีๆเข้าแล้ว”

“ถ้าไม่สนใจเรื่องสถานะที่ต่างกัน ก็รู้สึกได้ถึงมิตรภาพของนายเลยล่ะ ถึงขนาดคิดว่า ถ้านายไม่ใช่ราชา แต่เป็นขุนศึกของแผ่นดินนี้ล่ะก็ จริงๆนะ”

“น่าเสียดาย แต่ว่าข้ามีครอบครัวอยู่ที่ชายแดนแล้วล่ะ”

 

ผมวางมือลงบนหัวของยูกิโนะ

 

“มู๊ ก็บอกว่าอย่าทำเหมือนเป็นเด็กไงคะ คุณโชม–ไม่สิ ราชาของเรา”

 

ถึงยูกิโนะจะทำแก้มป่อง แต่สุดท้ายก็เอามือของตัวเองมาวางทับของผม

ถึงอายุของผมในตอนนี้กับยูกิโนะจะห่างกันเป็นเท่าตัว แต่พวกเราก็เหมือนกับเพื่อนสมัยเด็กกัน ต่อให้ผมกลับไปโลกเดิมแล้ว ก็อยากจะให้ใช้ชีวิตอยู่ที่ชายแดนอย่างสงบสุขต่อไปได้

…คนที่ทำให้ยูกิโนะกลายเป็นจูนิเบียวก็คือผม ดังนัน้มันก็ช่วยไม่ได้

 

“แต่ว่า เพื่อปกป้องความสงบสุขของชายแดนกับที่แห่งนี้ ก็อยากจะเตรียมการ”

“เข้าใจแล้ว [ราชาแห่งชายแดน] จะเริ่มเกณฑ์ทหารเลยก็ไม่เป็นไร”

“ช่วยตามมาด้วยได้ไหม? ถ้าแค่คนนอกอย่างข้า ก็อาจจะถูกคนในปราสาทระแวงเอาได้”

“ก็ว่าจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”

 

ขุนศึกพยักหน้า

ผมดึงบังเหียนของม้าดำ[ซังคูโคคุโย]ให้ออกเดิน

แล้วพวกเราก็ขี่ม้าวนดูบ้านต่างๆที่อยู่ภายในปราสาท

 

──หลังที่1──

 

“งั้นมาดูตั้งแต่สุดมุมเลยดีไหม?”

“อา ฝากด้วยล่ะ” “ฝากด้วยนะคะ”

“หลังแรกสุดคือทางนี้…เอ๊ะ เดินเลยไปแล้วนะ? [ราชาแห่งชายแดน]!?”

“เห็นแล้วล่ะ”

“บอกว่าเห็นแล้ว เหรอ…จะไม่ส่งเสียงทักหน่แยเหรอ?”

“ไม่มีเวลา อยากจะเรียกรวดเดียวตอนสุดท้ายเลย”

“…อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว แล้ว บ้านนี้เป็นยังไงล่ะ?”

“การวางประตูดูดี รั้วที่ล้อมบ้านเองก็ใช้ได้”

“นี่มองไปที่ไหนเนี่ย”

“จุดที่น่าจะเอามาใช้เป็นกำลังรบได้”

“ในบ้านมีชายหนุ่มอยู่ ท่าทางแข็งแรงด้วย”

“บ้านนี้ไม่ได้ จะเอารั้วไปไม่ได้ มีคนป่วยอยู่ด้วย”

“ฉันเองก็เห็นค่ะ มีคุณเด็กตัวเล็กๆอยู่ด้วยค่ะ”

“อา ดังนั้นจึงเอา[รั้ว]ไปจากบ้านหลังนี้ไม่ได้”

“มีคนป่วยแล้วจะเอาทหารไปจากบ้านไม่ได้เหรอ?”

“ถ้าลมเข้าไปจากช่องว่างร่างกายจะแย่ขึ้นน่ะ” “นั่นสินะคะ ไม่ดีกับคนป่วยนะคะ”

“…เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างระหว่างครอบครัว…คิดถึงขั้นนั้นเลยเหรอ[ราชาแห่งชายแดน]…”

“ไปต่อกันเถอะ” “ต่อไปค่ะ”

 

ผมกับยูกิโนะ แล้วก็ขุนศึกฮิลก้าขี่ม้าไปยังบ้านถัดไป

 

──หลังที่2──

 

“ที่นี่…มีพี่น้อง3คนอยู่น่ะ ไม่มีคนป่วย คนพ่อเองก็แข็งแรง ไม่ส่งเสียงทักจะดีเหรอ?”

“น่าเสียดาย แต่ดูเหมือนจะไม่มี[รั้ว]ที่ผมต้องการอยู่” “ถึงจะมีรั้วต้นไม้(คาคิเนะ)อยู่ก็เถอะนะคะ”

“…ช่องว่างจิตใจ(คาคิเนะ)? ก็จริงที่เด็ก2คนจะเป็นลูกติดฝั่งแม่…อย่าบอกนะว่า รู้ว่าลูกแท้ๆกับลูกติดมีช่องว่างจิตใจกันอยู่น่ะ!? [ราชาแห่งชายแดน]!!”

“เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ” “ไปที่ต่อไปกันเถอะค่ะ ต่อไป”

 

──หลังที่3──

 

“ที่นี่มีแค่เด็กผู้หญิงแฝดสามกับคุณแม่อาศัยอยู่ คิดว่าคงจะรวบรวมมาเป็นทหารไม่ได้หรอก…”

“ไม่หรอก หนาใช้ได้เลย” “ความสูงก็เรียงกำลังดีค่ะ”

“หา!?”

“ถ้าหนาก็จะมีความยืดหยุ่น ถ้าสูงระดับเดียวกัน ก็สามารถทัพที่ทำงานเข้ากันได้”

“จะลองเรียกที่นี่ดูไหมคะ? ราชาของเรา”

“แน่นอน”

“เดี๋ยวสิ! เด็กตัวเล็กๆแบบนี้เนี่ยนะ!?  เอามือไปแตะที่รั้ว…อ๊ะ ไม่เรียกเหรอ”

“ไว้เรียกทีหลัง ถ้าอยู่ๆคนนอกมาเรียก ก็อาจจะตกจะเอาได้”

“ราชาของเราไม่ชอบที่จะบังคับหรอกนะคะ”

“…ถึงจะบอกไม่บังคับก็เถอะ แต่คิดว่าการเรียกบ้านที่มีเด็กน้อยสามคนก็ไม่น่าจะไหวนะ”

““ต่อไป ต่อไป””

 

แล้วผม ยูกิโนะ และขุนศึกฮิลก้าก็เดินดูบ้านต่างๆในปราสาทอย่างรวดเร็ว

เพื่อให้สามารถจัดทัพที่เข้ากันได้มากที่สุด ที่เลือกไว้ก็ได้มาประมาณ200หลัง

สำหรับกำลังรั้วถือว่าเพียงพอ

 

“…ขอถามหน่อยได้ไหม [ราชาแห่งชายแดน]”

“ว่ามาได้เลย”

“ถึงจะบอกว่าจะให้ทหารมีความเป็นเอกภาพ แล้วก็ดูจะเลือกอย่างเหมาะสมแล้วก็เถอะ”

“สำหรับทางนี้ก็ดูจากความแข็ง ความสูง แล้วก็ความหนาน่ะ”

“ให้พูดตามตรง คิดว่าไม่มีคนที่จะตอบรับการเกณฑ์ทหารนี่หรอก ถึงจะตอบรับ แต่จะเป็นกำลังรบได้หรือเปล่า…”

“จะเป็นกำลังรบได้หรือเปล่า ไว้คุณขุนศึกทดสอบเองก็ได้นี่”

“ฉันเหรอ?”

“สำหรับข้า ไม่ได้คิดจะเอารั้ว(เฮ)ที่รวบรวมได้ที่นี่ไปปะทะกับทัพศัตรูเลยหรอกนะ จำเป็นต้องมีการฝึก…ไม่สิ จัดเรียงเสียก่อน เรื่องคู่ซ้อม ก็อยากจะขอร้องทหารของคุณขุนศึกหน่อย”

“ก็ได้หรอก? ทหารของเราเป็นทหารประจำการของตระกูลเจ้าเมืองคิโทล และยังมีกำลังหลักเป็นทหารม้า มีความมั่นใจในเรื่องความคล่องตัว แต่ไม่คิดว่ากองทหารแปลกๆที่[ราชาแห่งชายแดน]เรียกมาจะสู้ได้หรอกนะ”

“ถ้าสู้ไม่ได้ ก็สู้กับพวก[สิบปราชญ์]ไม่ได้หรอก ดังนั้น ก็ต้องทดสอบกันก่อน”

 

พวกเราพูดแบบนั้นจนมาถึงยังถนนหลักของประสาท

เป็นช่วงเวลาเย็น คนเดินผ่านลดไปพอสมควรแล้ว มีเพียงผู้ใหญ่ไม่กี่คนกับพวกเด็กที่กำลังเล่นเท่านั้น ถึงจะรวบรวมรั้วมาที่นี่ก็คงไม่รบกวนอะไร

 

“ฟังให้ดี บ้านต่างๆของตระกูลคิโทลผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจเอ๋ย”

“อยู่ๆก็เริ่มพูดเลยเหรอ!?”

 

เงียบเถอะน่าคุณขุนพล ทางนี้ก็อายนะ ยูกิโนะตรงหน้าผมก็ทำตาเป็นประกายด้วย ม้าดำ[ซังคูโคคุโย]ที่พวกเราขี่ก็ส่งเสียง บุ๊รุรุ ดึงดูดสายตาคนอีก

ถ้าเกิดไม่มีใครตอบรับได้ไม่เหลือหน้ากันพอดี

 

“ในเวลานี้ สถานที่แห่งนี้กำลังตกอยู่นอันตราย ถึงข้าจะเป็นคนจากชายแดน แต่ในฐานะเพื่อนบ้านแล้วก็คิดจะปกป้องแผ่นดินแห่งนี้ ดังนั้นจึงอยากจะขอยืมพลัง ทำการ[Enchant(เสริมแกร่ง)]ให้แล้ว แต่ถ้าเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่ในบ้านล่ะก็จะไม่ทำอะไรก็ได้

แต่ว่า คนที่จะให่ยืมกำลังที่จะขับไล่ศัตรู ก็ช่วยตอบรับเสียงเรียกของข้าด้วย”

“[ราชาแห่งชายแดน]–ไม่สิ ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอโช–กึ๊ก!? เดี๋ยวจิ!? ประกาศชื่อด้วยสิคะ! คุณโชมะ!!”

“…พูดอะไรกันน่ะ พวกคุณ”

 

ขุนศึกฮิลก้าพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

 

“ถึงจะเรียกในที่แบบนี้ แต่เสียงก็คงไปไม่ถึงคนในบ้านต่างๆหรอก–”

 

[เฮ!]

 

มาถึงแล้ว

 

[เฮ!] [เฮเฮ!] [เฮฮ] [เฮฮ!]

 

ตึกตึกตึกตึก

 

เสียงเท้า(?)เข้ามาใกล้

อีกฝั่งของทางเดิน ย่านที่อยู่อาศัยที่มีอาทิตย์อัสดงเป็นฉากหลัง

แผ่นสี่เหลี่ยมเหมือนเงาเดินมาจากตรงนั้น

พวกมันส่งเสียงพลางเข้ามาใกล้

 

[เฮ] [เฮ] [เฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮ!!]

 

“““อุหวาาาาาาาาาาา!!??”””

“ว๊ายย! รั้วกำลังเดินอยู่!” “งานเทศกาลเหรอน่ะ!?” “ตามไปกันเถอะ!!”

 

ทหารกับคุณขุนศึกส่งเสียงร้องออกมา แล้วก็มีพวกเด็กๆที่หัวเราะพลางปนเข้ามาในแถวด้วย

 

“…อย่าบอกนะว่า พวกรั้วของบ้านตอบรับเสียงเรียกที่บอกว่า[จงปกป้องแผ่นดินนี้]น่ะ…?”

“เอามาจากสิ่งปลูกสร้างหรอกเหรอ!!”

“พวกเราก็ไปกันเถอะ!!”

 

แล้วก็พวกผู้ใหญ่ที่วิ่งหนีกับจ้าละหวั่น

กลายเป็นแถวขบวนใหญ่ ก็มารวมกันจนเต็มถนนใต้ปราสาท

 

挿絵(By みてみん)

 

“–เดี๋ยว ทหารอาสามนุษย์น่ะไม่ต้องการ”

“นั่นสินะคะ ลูกน้องของคุณโชมะ มีแค่ฉัน คุณริเซ็ต และคุณฮารุกะ[สามขุนพล]ก็เพียงพอล้วค่ะ!”

“ไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย”

 

ช่วยไม่ได้ เรื่องการจัดการทหารอาสาของเมืองก็ฝากคุณขุนศึกละกัน

งานของผมคือการสั่งและใช้งาน[รั้วอาสา]ที่ตอบรับคำเรียก

 

“…เอ๋~~ ฮิ๊เอ๋~~~~~~……”

“ถ้าอย่างนั้นคุณขุนศึก พรุ่งนี้ก็ได้ แต่จะช่วยมาฝีก[ทหารมีจิตใจ]ของข้าด้วยจะได้ไหม?”

“…มะ ไม่ทำไม่ได้เหรอ? ไม่ได้สินะ…”

“ก็ตามนั้นล่ะครับ–ไม่สิ ใช่แล้วล่ะ ข้าคือ[ราชาแห่งชายแดน] ไม่รู้วิธีการต่อสู้ของโลกมนุษย์หรอก ถ้าไม่ให้ขุนศึกตัวจริงเป็นคนสอนคงจะไม่ได้”

“…อุ อู๊”

“แถม ข้าเองก็พึ่งเคยนำทัพรั้วขนาดใหญ่แบบนี้ครั้งแรก กลับกัน น่าเป็นห่วงว่าจะโดนคุณขุนศึกจัดการซะเละมากกว่าอีก”

“กะ ก็ได้”

 

ขุนศึกฮิลก้าตบเกราะที่สวมอยู่ที่หน้า

 

“จะให้ทหารม้าทั้งหมด200นายของเราเป็นคู่มือให้เอง! ขอชมพลังที่แท้จริงของ[ราชาแห่งชายแดน]หน่อยล่ะ จะได้ไปรายงานให้กับองค์หญิงเรเนสและองค์หญิงซิลเวียร์ได้!”

“อา ฝากเป็นคู่มือด้วยล่ะ”

“แต่ว่า ห้ามบินเด็ดขาดนะ”

“เข้าใจแล้ว”

“มะ ไม่มีอาวุธยิงด้วยนะ? เป็นแค่การฝึกระหว่างทหารนี่นา!”

“นั่นสินะ ถ้ามีคนบาดเจ็บมันจะแย่เอานี่นา”

“นะ แน่นอน นั่นมันความคิดพื้นฐานอยู่แล้ว แล้วก็ห้ามออมมือเด็ดขาด! จะได้แสดงพลังของทหารทั้งสองฝ่ายได้อย่างเต็มที่ยังไงล่ะ! [ราชาแห่งชายแดน]!!”

 

──วันต่อมา [ราชาแห่งชายแดน]กับ[หน่วยขุนศึกฮิลก้า]ก็ตั้งทัพประจันหน้ากัน──

 

挿絵(By みてみん)

 

──หลายสิบนาทีต่อมา──

 

“ทุกหน่วยอ้อมไปล้อมฐานของอีกฝ่ายจากข้างหลังซะ! จะไปล่ะนะ [ราชาแห่งชายแดน]!”

 

“รั้วทั้งหมดจัดรูปแบบตามคำสั่ง ใช้ขบวนรับมือทหารม้าตามที่คุยกับยูกิโนะเมื่อวาน!”

“ฝากด้วยนะคะ ทุกคน!”

 

[[[[[[เฮ!!!]]]]]]

 

挿絵(By みてみん)

 

“มู๊!? รั้วแยกกันงั้นเหรอ!? คิดจะปิดทางพวกเรางั้นเหรอ…ดะ เดี๋ยวสิ!?”

“ท่านขุนศึก! ผมเราเข้าใจผิดแล้วล่ะ อีกฝ่ายเป็นรั้วที่รวมตัวกันหลายแผ่น ถ้าแยกออกก็จะสามารถเป็นสิ่งกีดขวาง…อะไรกัน ทำไมรั้วถึงถูกควบคุมได้อย่างเป็นระเบียบแบบนั้นกัน–!?”

“ตอนที่พวกเรารถความเร็วลง…ก็กลับมารวมตัวกันเหรอ!? อ๊าา รั้วกำลังเข้ามาจากทางซ้ายขวาาาา!? เข้ามาแล้ววว! ถูกล้อมแล้ววววววววว!!”

 

[เฮ!]

[เฮเฮ!]

[เฮฮฮฮฮฮ!!]

 

挿絵(By みてみん)

 

จากนั้น–

 

──หลายวันต่อมา──

 

“ซิลเวียร์! มีสาส์นมาจากขุนศึกฮิลก้าที่ปราสาทตะวันตกล่ะ!”

“สถานที่ที่[ราชาแห่งชายแดน]ไปสินะคะ แล้ว ขุนศึกว่าอะไรคะ?”

“เดี๋ยวนะเดี๋ยวนะ…เอ”

 

[บอกไปว่าไม่จำเป็นต้องออกมือ ถึงจะบอกไปอย่างนั้นก็เถอะะ! แต่มันก็ไม่ควรเอาเป็นจริงจังหรือเปล่าอะค่ะะะะะะะะะ! คนคนนั้นมีมันอะไรกัน…เป็นอะไรกันแน่กันค้าา ผนึกกำลังทหารม้า200นายได้แบบไร้บาดแผลเนี่ยนะะะะะะ องค์หญิงเรเนส ฉัน ให้ฉันนำทัพจะดีจริงๆเหรอค้าา …]

 

“…น่าคิดถึงจังเลยน่า ฮิลก้าตอนเด็กๆเคยเป็นแบบนี้สินะ”

“…จากสาส์นแล้วขุนศึก จำลองรบกับ[ราชาแห่งชายแดน]สินะคะ”

“ช่างกล้าหาญอะไรเช่นนี้!”

“เกียรติของนักรบสินะคะ ถ้าท่านพ่อกลับมา ก็คงต้องบอกให้เพิ่มเงินเดือนฮิลก้าแล้วล่ะค่ะ”

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน พวกเราเองก็รีบรวบรวมทหาร มุ่งหน้าไปปราสาทตะวันตกได้แล้ว จะพึ่งแค่[ราชาแห่งชายแดน]ที่เป็นกำลังเสริมไม่ได้หรอก”

“ต้องรีบแล้วสินะคะ”

“อาา ถ้าฝากให้[ราชาแห่งชายแดน] แค่พวกเขาก็คงจะไล่ทัพศัตรูไปได้หรอก แต่ถ้่าเป็นแบบนั้น…”

“ขุนศึกฮิลก้าคงจะลาออกสินะคะ”

“คนคนนั้น ถ้าถอดหน้ากากออกก็เป็นเด็กขี้แงนี่นะ”

 

(และวันต่อมา)

 

“–มีม้าเร็วมาอีกงั้นเหรอ!?”

“อา จากขุนศึกฮิลก้า รายงานด่วน–มีทัพหน้าออกมาจาก[จุดเชื่อมเมือง] จำนวน1,000 กำลังมุ่งตรงไปยังปราสาทตะวันตก…!?”

“ข้อมูลนั้นได้มาจากไหน!?”

“ดูเหมือนจะจากน้องสาวของ[ราชาแห่งชายแดน]ที่รวบรวมข้อมูลอยู่ที่[จุดเชื่อมเมือง] แต่ทำไมถึงไปถึงปราสาทก่อนทัพศัตรูได้…ก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ลูกน้องของ[ราชาแห่งชายแดน]สินะ แต่ว่า จะเร็วเกินไปแล้ว…”

“ทหารส่วนใหญ่เป็นทหารม้า ที่เหลือก็ทหารราบกับหน่วยสนับสนุนสินะคะ คงจะใช้ทหารม้าโจมตีหมู่บ้านแล้วหาเสบียงเพิ่มจากคนในพื้นที่  จากนั้นก็ใช้ทหารราบยึดพื้นที่…”

“จะยังไงก็ช่างเถอะ แต่ทางนี้ก็ต้องรีบเคลื่อนไหวแล้ว!”

“แล้ว ขุนศึกฮิลก้าว่าอะไรบ้างเหรอคะ ท่านพี่!?”

“…อา เรื่องนั้น”

 

องค์หญิงเรเนสมองไปที่จดหมาย แล้วพูดออกมา

 

“ดูเหมือนจะ…รู้สึกสงสารทัพศัตรู”

“ถูก[ราชาแห่งชายแดน]ทำอะไรน่ะ ไม่สิ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ”

“ไม่รู้หรอก แต่ว่า รีบกันเถอะ ให้ทหารที่รวบรวมได้ตอนนี้เคลื่อนไหวทันที รีบแจ้งข้อมูลไปยังพวกแม่ทัพ ไม่ใช่เวลาจะมาลังเลแล้ว!”

“ค่ะ ท่านพี่!”

 

จากนั้นซิลเวียร์กับเรเนสก็ออกวิ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด