[นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ 2 ฉันทำงานหนัก ฉันทำงานหนักมาก ถ้าให้นับ ฉันทำงานหนักมาประมาณหนึ่งร้อยปีแล้ว
<<วูป~!>>
<การย้ายโลกเสร็จสมบูรณ์>
“… ไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้วนะ..”
หลังจากกลับมาที่ (โลกสีขาว) ได้อย่างปลอดภัย ฉันเดินไปที่โต๊ะใกล้ๆ ฉันนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวธรรมดาที่ฉันไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไร มันรู้สึกดีและนุ่ม แล้วค่อยๆ นั่งลงไปยังเก้าอี้ไม้เนื้อแข็งที่เคยชิน
“รอบนี้ใช้เวลาหนึ่งปี นานเหมือนกันนะ …”
ข้างหน้าของฉันมีกำแพงสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ มันมีความสูงประมาณสองเมตรและมีประตูหลายบานติดอยู่ ในตอนแรกกำแพงนั้นสั้นนิดเดียว แต่ตอนนี้ฉันต้องหันศีรษะเพื่อดูสุดขอบซ้ายและขวา
“ฉันทำดีที่สุดแล้วใช่ไหม? คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”
มีประตูทั้งหมด 100 บานเรียงกัน หมายความว่าฉันถูกเตะออกจากปาร์ตี้ผู้กล้า 100 ครั้งใน 100 โลกที่แตกต่างกันมาแล้ว มันเป็นตัวเลขที่บ้าบอจริงๆ ที่ไม่มีใครควรภูมิใจ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นจำนวนที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับฉันในการกลับไปยังโลกที่ฉันจากมา
“… คุณพูดเอง เพื่อให้ฉันกลับไปยังโลกเดิมของฉันได้ ฉันจะต้องเข้าร่วมปาร์ตี้ผู้กล้า 100 ปาร์ตี้ ใน 100 โลกที่แตกต่างกัน และถูกขับไล่ 100 ครั้ง ตอนนี้พอฉันมาคิดดูอีกที มันไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมคุณถึงไม่ขอให้ฉันช่วยโลกหรือช่วยเหล่าฮีโร่ ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันถูกเนรเทศล่ะ? …ถึงฉันถามไปก็คงไม่ตอบสินะ”
พระเจ้าไม่เคยตอบ ไม่เคยตอบอะไรเลย
อันที่จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่เคยได้ยินเสียงของพระเจ้าเลย ฉันกำลังใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและธรรมดาอยู่ดีๆ ก็ถูกเรียกตัวมาที่นี่ สิ่งที่ฉันมีตรงหน้าคือสมุดปกขาว
ใช่ แน่นอน แค่หน้าปกเท่านั้นที่เป็นสีขาว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้างในสมุดจะไม่มีอะไรเขียนไว้ มันมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ หรืออีกนัยหนึ่งคือเงื่อนไขที่ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ และกำแพงข้างหน้าฉันตอนนี้ก็ยังเล็กอยู่และมีเพียงประตูเดียว
ถ้าฉันผ่านประตูนั้นไป ฉันจะถูกพาไปยังอีกโลกหนึ่ง จากนั้นจะถูกเตะออกจากปาร์ตี้ผู้กล้า พูดตามตรง ฉันกลับมาที่นี่ได้โดยทำตามเงื่อนไข <คุณจะถูกเนรเทศหลังจากที่คุณเป็นสมาชิกของปาร์ตี้นานกว่าหกเดือน หรือหลังจากที่คุณได้รับการยอมรับว่าเป็นสมาชิกของปาร์ตี้โดยการได้รับ ความไว้วางใจในระดับนึง> พอทำครบเงื่อนไขเสร็จก็จะถูกส่งกลับมา เมื่อเปิดประตูแล้ว จะไม่สามารถเปิดประตูบานเดิมซ้ำได้อีก แต่จะมีประตูใหม่เพิ่มเข้ามาแทน
“แต่ฉันก็ผ่านเงื่อนไขลึกลับบ้าๆ นั้นมาได้ ฉันใช้เวลาตั้งหนึ่งร้อยปี แต่ฉันก็ทำได้! อย่างน้อยคุณก็น่าจะช่วยสร้างการเฉลิมฉลองให้กับความพยายามของฉันสักหน่อย หรืออะไรทำนองนั้น คุณรู้ไหม?”
ขณะที่พูดเบาๆ อยู่คนเดียว ฉันก็เหลือบไปเห็นร่างที่สะท้อนอยู่ในกระจกข้างโต๊ะ สิ่งที่ฉันเห็นคือชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง สูงเกิน 170 เซนติเมตรเล็กน้อย ผมสั้นสีดำ รูปร่างปานกลาง
ทุกครั้งที่ฉันกลับมาที่ “White World” แห่งนี้ ร่างกายของฉันจะกลับสู่สภาพเหมือนอายุยี่สิบปีเมื่อฉันถูกเรียกตัวมาที่นี่ นอกจากนั้น เวลาที่สั้นที่สุดที่ฉันใช้ในโลกอื่นคือเจ็ดหรือแปดเดือน นานที่สุดก็ประมาณสามปี ซึ่งหมายความว่าฉันอายุยี่สิบต้นๆ ซ้ำไปซ้ำมาประมาณหนึ่งร้อยปี
น่าแปลกที่ร่างกายของฉันซึ่งปกติจะกลายเป็นชายชราที่มีริ้วรอยและมีความคิดกับสติปัญญาที่ได้รับมากมาย แต่ดันไม่เติบโตเต็มที่ไปจากที่เห็นก่อนหน้านี้ อาจกล่าวได้ว่าจิตใจของฉันถูกดึงลงโดยร่างกายของฉัน หรืออาจกล่าวได้ว่าไม่มีที่ว่างสำหรับการเติบโต เนื่องจากฉันยังคงถูกปฏิบัติเหมือนเด็กอายุยี่สิบปีโดยคนรอบข้าง ถึงอย่างนั้นฉันก็นับว่าอยู่มานานแล้วนะ แต่ใจฉันกลับยังเด็กอยู่เนี่ยสิ
ดังนั้นฉันเลยไม่เคยนึกสาเหตุที่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้เลย ฉันไม่สามารถนึกถึงเป็นความคิดในแแง่ดี แบบว่า “โอ้ว! ขอบคุณ คุณมากเลย! ตัวฉันได้เติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจก็เพราะท่าน” ไม่ ฉันไม่ต้องการอยู่ในความกรุณาของพระเจ้าที่ลักพาตัวผู้คนและบังคับให้พวกเขาทำงานบ้าๆ ที่ไม่สามารถเข้าใจได้เป็นเวลา 100 ปีแบบนี้นะโว้ย
“… เห้อ เอางั้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม ฉันทำตามคำแนะนำของคุณไปแล้วพอใจรึยัง ครั้งนี้คุณต้องทำตามสัญญาได้แล้ว”
ลูกแก้วคริสตัลที่วางอยู่กลางโต๊ะที่มีบรรยากาศเคร่งขรึมส่องประกายแวววาวราวกับจะตอบสนองต่อคำพูดที่ไม่เต็มใจของฉัน นี่เป็นสัญญาณว่าฉันจะได้รับทักษะเป็นรางวัลสำหรับการถูกขับไล่ออกจากโลกอื่นได้สำเร็จ
“ยังจะให้อะไรฉันอีกงั้นเหรอ? เอาเถอะ หากคุณให้ฉัน ฉันจะรับมันก็ได้”
ฉันตั้งชื่อมันว่า [Banishment Skills] (สกิลผู้ถูกขับไล่) และโดยพื้นฐานแล้วพวกมันมีประโยชน์มาก หากไม่มีพวกมัน การแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มปาร์ตี้ผู้กล้า ใน 100 โลกจะยากกว่านี้มาก และอาจต้องใช้เวลาเพิ่มอีกหลายร้อยปี
“โลกที่หนึ่ง โลกใบแรกก่อนที่ฉันจะมีสกิลผู้ถูกขับไล่ทั้งหมดเป็นเหมือนนรก …แล้วคราวนี้ล่ะ?”
ฉันตัวสั่นเมื่อฉันนึกถึงอดีตเมื่อตอนนั้น จากนั้นฉันก็ค่อยๆ วางมือลงบนลูกแก้วคริสตัล จากนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ลึกลับก็ไหลเข้ามาหาฉัน …. เอาจริงดิ?
“นั่นก็เป็นอีก…สกิลสำคัญมั้ง ฉันสามารถเห็นอนาคตที่มันจะถูกทิ้งให้ตายในที่เก็บของได้เลย …”
ฉันไม่คิดว่าฉันจะใช้สกิลแบบใช้งานได้ครั้งเดียวอันนี้ได้เมื่อไหร่? แม้ว่าฉันจะโดนไล่ต้อนก็ตาม ถ้าฉันค้นหาผ่าน [Stranger Box] ต้องมียาวิเศษมากมายวางอยู่รอบ ๆ ซึ่งสามารถรักษาได้ทุกอย่างตราบเท่าที่ฉันยังไม่ตาย
“…………………… เอ๊ะ?”
ไม่ใช่ว่าพลังประหลาดบางอย่างได้ตื่นขึ้นในตัวฉันนะ แต่เป็นเพราะจู่ๆ ก็ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เคลื่อนไหวได้นอกจากฉัน ยิ่งกว่านั้น แม้แต่ลมก็ไม่พัด ฉันรู้สึกได้เหมือนมีบางอย่างปรากฏขึ้น
“…. ด้านซ้าย?”
ปกติแล้วประตูสู่โลกใหม่จะปรากฏขึ้นทางด้านขวา กล่าวอีกนัยหนึ่ง ยิ่งคุณไปทางซ้ายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะเดินไปยังประตูหมายเลขหนึ่ง แต่ถ้ามีบางสิ่งปรากฏขึ้นทางซ้ายแบบนี้ ถ้างั้น ….. บางที!?
“……..มันออกมาจริงด้วย”
ถัดจากประตูหมายเลข 001 ที่ฉันเดินผ่านครั้งแรก ประตูหมายเลข 000 ก็ปรากฏขึ้น มันเป็นประตูที่ไม่เคยมีมาก่อน ประตูที่มาก่อนจุดเริ่มต้นของ….โลกอื่นๆ นี่ต้องเป็นประตูที่จะนำไปสู่โลกที่ฉันจากมาแน่ๆ
“ฉันกลับไปได้จริงเหรอ…?”
ฉันสามารถกลับบ้านได้ ฮ่า! ฉันกลับได้! ฉันสามารถกลับไปยังโลกเดิมของฉัน โลกที่ถูกพรากไปจากฉันอย่างไร้เหตุผลเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ฉันกลับไปได้.. ฉันสามารถกลับบ้านได้~ …
“เฮ้ พระเจ้า? ฉันมาที่นี่ได้ประมาณ 100 ปีแล้วนะ แต่โลกเดิมเวลายังเดินต่อเป็น 100 ปีอยู่หรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างงั้น ฉันคิดว่าครอบครัวและเพื่อนของฉันคงตายหมดแล้ว …”
อายุขัยของมนุษย์ก็ประมาณหกสิบปี ขุนนางบางคนที่บริโภคอาหารดีๆ อาจมีชีวิตอยู่ได้ถึงเจ็ดสิบหรือแปดสิบ ในบางโลก มันเป็นไปได้ที่จะยืดอายุคนด้วยเวทมนตร์ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีคนที่ทรงพลังหรือพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ในโลกของฉัน ดังนั้นจึงไม่มีใครรอดไปได้
“คุณก็รู้ คุณคือพระเจ้า ดังนั้นคุณจึงสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ได้ตามใจชอบ… นายจะไม่ทำอย่างนั้นหรือ? อ้าว หรือว่านายบอกให้ฉันใช้สกิลสุดท้ายนี่! โว้ย! ให้ตายเถอะ นั่นมันขี้งกชะมัด!”
มีความเป็นไปได้ที่ฉันสามารถจัดการสถานการณ์นี้ได้โดยใช้สกิลที่ฉันเพิ่งได้รับ แต่นั่นจะเป็นการเสียเวลาถ้าคุณถามฉัน เพราะ 100 ปีที่ฉันสูญเสียไปคือ 100 ปีที่ฉันถูกพระเจ้าพรากไป การสละสกิลของฉันเพื่อชดเชยมันก็เหมือนกับการเอาเงินทั้งหมดที่ฉันได้รับจากการทำงานมาเป็นค่าเล่าเรียน และไม่ว่าฉันจะนิสัยดีแค่ไหน ฉันก็ไม่ยอมง่ายๆ แน่
ตุ้บ!
“โว้ว!?”
เมื่อฉันพยายามจะโต้เถียงกับเขา ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงดังขึ้นข้างหลังฉัน ฉันหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ และมองดูใต้ฝ่าเท้าของฉันว่าเสียงนั้นมาจากไหน ….บนพื้น มีหนังสือปกสีขาวที่ดูเหมือนกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“โอ้ คุณหมายถึงให้ฉันอ่านเจ้านี่? อะไรอยู่ในสมุดกัน… หมายเลข?”
เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นจากสมุดและมองที่ประตูอีกครั้ง ฉันเห็นว่ามีการเพิ่มหมายเลขอื่นลงไปด้านใต้หมายเลขของโลกที่สลักไว้บนประตู
“นี่มันคือระยะเวลาที่ผ่านไปในโลกนั้นตั้งแต่ฉันจากไป… นั่นหมายความว่า…”
ประตูสู่โลกเดิมคือ 000 หมายเลขอื่นๆ ที่สลักไว้ด้านล่างก็มีเส้นศูนย์สะอาดเช่นกัน
“เวลาไม่ผ่านไปเลยตั้งแต่ที่ฉันจากไป…? หมายความว่าฉันสามารถย้อนกลับไปตอนที่ฉันถูกพาตัวมาที่นี่ได้งั้นเหรอ!?”
นี่สินะคือจุดจบที่แท้จริง หลังการเดินทางอันยาวนานของฉัน … ผ่านโลกนับไม่ถ้วนและการถูกเนรเทศจากปาร์ตี้ผู้กล้า ครั้งแล้วครั้งเล่าจะสิ้นสุดลงเมื่อฉันผ่านประตูนี้
“เอาล่ะ! ถึงเวลาที่ฉันจะ … กลับสู่โลกเดิมของฉันแล้ว!”
ขณะที่ฉันกำลังจะหมุนลูกบิดประตูเพื่อกลับสู่โลกใบเดิม หนังสือเพิ่มเติมก็ตกลงมาจากท้องฟ้า กระแทกหัวฉันอย่างแรง
“โอ๊ย!!?”
Comments
[นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ 2 ฉันทำงานหนัก ฉันทำงานหนักมาก ถ้าให้นับ ฉันทำงานหนักมาประมาณหนึ่งร้อยปีแล้ว
<<วูป~!>>
<การย้ายโลกเสร็จสมบูรณ์>
“… ไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้วนะ..”
หลังจากกลับมาที่ (โลกสีขาว) ได้อย่างปลอดภัย ฉันเดินไปที่โต๊ะใกล้ๆ ฉันนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวธรรมดาที่ฉันไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไร มันรู้สึกดีและนุ่ม แล้วค่อยๆ นั่งลงไปยังเก้าอี้ไม้เนื้อแข็งที่เคยชิน
“รอบนี้ใช้เวลาหนึ่งปี นานเหมือนกันนะ …”
ข้างหน้าของฉันมีกำแพงสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ มันมีความสูงประมาณสองเมตรและมีประตูหลายบานติดอยู่ ในตอนแรกกำแพงนั้นสั้นนิดเดียว แต่ตอนนี้ฉันต้องหันศีรษะเพื่อดูสุดขอบซ้ายและขวา
“ฉันทำดีที่สุดแล้วใช่ไหม? คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”
มีประตูทั้งหมด 100 บานเรียงกัน หมายความว่าฉันถูกเตะออกจากปาร์ตี้ผู้กล้า 100 ครั้งใน 100 โลกที่แตกต่างกันมาแล้ว มันเป็นตัวเลขที่บ้าบอจริงๆ ที่ไม่มีใครควรภูมิใจ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นจำนวนที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับฉันในการกลับไปยังโลกที่ฉันจากมา
“… คุณพูดเอง เพื่อให้ฉันกลับไปยังโลกเดิมของฉันได้ ฉันจะต้องเข้าร่วมปาร์ตี้ผู้กล้า 100 ปาร์ตี้ ใน 100 โลกที่แตกต่างกัน และถูกขับไล่ 100 ครั้ง ตอนนี้พอฉันมาคิดดูอีกที มันไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมคุณถึงไม่ขอให้ฉันช่วยโลกหรือช่วยเหล่าฮีโร่ ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันถูกเนรเทศล่ะ? …ถึงฉันถามไปก็คงไม่ตอบสินะ”
พระเจ้าไม่เคยตอบ ไม่เคยตอบอะไรเลย
อันที่จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่เคยได้ยินเสียงของพระเจ้าเลย ฉันกำลังใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและธรรมดาอยู่ดีๆ ก็ถูกเรียกตัวมาที่นี่ สิ่งที่ฉันมีตรงหน้าคือสมุดปกขาว
ใช่ แน่นอน แค่หน้าปกเท่านั้นที่เป็นสีขาว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้างในสมุดจะไม่มีอะไรเขียนไว้ มันมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ หรืออีกนัยหนึ่งคือเงื่อนไขที่ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ และกำแพงข้างหน้าฉันตอนนี้ก็ยังเล็กอยู่และมีเพียงประตูเดียว
ถ้าฉันผ่านประตูนั้นไป ฉันจะถูกพาไปยังอีกโลกหนึ่ง จากนั้นจะถูกเตะออกจากปาร์ตี้ผู้กล้า พูดตามตรง ฉันกลับมาที่นี่ได้โดยทำตามเงื่อนไข <คุณจะถูกเนรเทศหลังจากที่คุณเป็นสมาชิกของปาร์ตี้นานกว่าหกเดือน หรือหลังจากที่คุณได้รับการยอมรับว่าเป็นสมาชิกของปาร์ตี้โดยการได้รับ ความไว้วางใจในระดับนึง> พอทำครบเงื่อนไขเสร็จก็จะถูกส่งกลับมา เมื่อเปิดประตูแล้ว จะไม่สามารถเปิดประตูบานเดิมซ้ำได้อีก แต่จะมีประตูใหม่เพิ่มเข้ามาแทน
“แต่ฉันก็ผ่านเงื่อนไขลึกลับบ้าๆ นั้นมาได้ ฉันใช้เวลาตั้งหนึ่งร้อยปี แต่ฉันก็ทำได้! อย่างน้อยคุณก็น่าจะช่วยสร้างการเฉลิมฉลองให้กับความพยายามของฉันสักหน่อย หรืออะไรทำนองนั้น คุณรู้ไหม?”
ขณะที่พูดเบาๆ อยู่คนเดียว ฉันก็เหลือบไปเห็นร่างที่สะท้อนอยู่ในกระจกข้างโต๊ะ สิ่งที่ฉันเห็นคือชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง สูงเกิน 170 เซนติเมตรเล็กน้อย ผมสั้นสีดำ รูปร่างปานกลาง
ทุกครั้งที่ฉันกลับมาที่ “White World” แห่งนี้ ร่างกายของฉันจะกลับสู่สภาพเหมือนอายุยี่สิบปีเมื่อฉันถูกเรียกตัวมาที่นี่ นอกจากนั้น เวลาที่สั้นที่สุดที่ฉันใช้ในโลกอื่นคือเจ็ดหรือแปดเดือน นานที่สุดก็ประมาณสามปี ซึ่งหมายความว่าฉันอายุยี่สิบต้นๆ ซ้ำไปซ้ำมาประมาณหนึ่งร้อยปี
น่าแปลกที่ร่างกายของฉันซึ่งปกติจะกลายเป็นชายชราที่มีริ้วรอยและมีความคิดกับสติปัญญาที่ได้รับมากมาย แต่ดันไม่เติบโตเต็มที่ไปจากที่เห็นก่อนหน้านี้ อาจกล่าวได้ว่าจิตใจของฉันถูกดึงลงโดยร่างกายของฉัน หรืออาจกล่าวได้ว่าไม่มีที่ว่างสำหรับการเติบโต เนื่องจากฉันยังคงถูกปฏิบัติเหมือนเด็กอายุยี่สิบปีโดยคนรอบข้าง ถึงอย่างนั้นฉันก็นับว่าอยู่มานานแล้วนะ แต่ใจฉันกลับยังเด็กอยู่เนี่ยสิ
ดังนั้นฉันเลยไม่เคยนึกสาเหตุที่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้เลย ฉันไม่สามารถนึกถึงเป็นความคิดในแแง่ดี แบบว่า “โอ้ว! ขอบคุณ คุณมากเลย! ตัวฉันได้เติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจก็เพราะท่าน” ไม่ ฉันไม่ต้องการอยู่ในความกรุณาของพระเจ้าที่ลักพาตัวผู้คนและบังคับให้พวกเขาทำงานบ้าๆ ที่ไม่สามารถเข้าใจได้เป็นเวลา 100 ปีแบบนี้นะโว้ย
“… เห้อ เอางั้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม ฉันทำตามคำแนะนำของคุณไปแล้วพอใจรึยัง ครั้งนี้คุณต้องทำตามสัญญาได้แล้ว”
ลูกแก้วคริสตัลที่วางอยู่กลางโต๊ะที่มีบรรยากาศเคร่งขรึมส่องประกายแวววาวราวกับจะตอบสนองต่อคำพูดที่ไม่เต็มใจของฉัน นี่เป็นสัญญาณว่าฉันจะได้รับทักษะเป็นรางวัลสำหรับการถูกขับไล่ออกจากโลกอื่นได้สำเร็จ
“ยังจะให้อะไรฉันอีกงั้นเหรอ? เอาเถอะ หากคุณให้ฉัน ฉันจะรับมันก็ได้”
ฉันตั้งชื่อมันว่า [Banishment Skills] (สกิลผู้ถูกขับไล่) และโดยพื้นฐานแล้วพวกมันมีประโยชน์มาก หากไม่มีพวกมัน การแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มปาร์ตี้ผู้กล้า ใน 100 โลกจะยากกว่านี้มาก และอาจต้องใช้เวลาเพิ่มอีกหลายร้อยปี
“โลกที่หนึ่ง โลกใบแรกก่อนที่ฉันจะมีสกิลผู้ถูกขับไล่ทั้งหมดเป็นเหมือนนรก …แล้วคราวนี้ล่ะ?”
ฉันตัวสั่นเมื่อฉันนึกถึงอดีตเมื่อตอนนั้น จากนั้นฉันก็ค่อยๆ วางมือลงบนลูกแก้วคริสตัล จากนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ลึกลับก็ไหลเข้ามาหาฉัน …. เอาจริงดิ?
“นั่นก็เป็นอีก…สกิลสำคัญมั้ง ฉันสามารถเห็นอนาคตที่มันจะถูกทิ้งให้ตายในที่เก็บของได้เลย …”
ฉันไม่คิดว่าฉันจะใช้สกิลแบบใช้งานได้ครั้งเดียวอันนี้ได้เมื่อไหร่? แม้ว่าฉันจะโดนไล่ต้อนก็ตาม ถ้าฉันค้นหาผ่าน [Stranger Box] ต้องมียาวิเศษมากมายวางอยู่รอบ ๆ ซึ่งสามารถรักษาได้ทุกอย่างตราบเท่าที่ฉันยังไม่ตาย
“…………………… เอ๊ะ?”
ไม่ใช่ว่าพลังประหลาดบางอย่างได้ตื่นขึ้นในตัวฉันนะ แต่เป็นเพราะจู่ๆ ก็ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เคลื่อนไหวได้นอกจากฉัน ยิ่งกว่านั้น แม้แต่ลมก็ไม่พัด ฉันรู้สึกได้เหมือนมีบางอย่างปรากฏขึ้น
“…. ด้านซ้าย?”
ปกติแล้วประตูสู่โลกใหม่จะปรากฏขึ้นทางด้านขวา กล่าวอีกนัยหนึ่ง ยิ่งคุณไปทางซ้ายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะเดินไปยังประตูหมายเลขหนึ่ง แต่ถ้ามีบางสิ่งปรากฏขึ้นทางซ้ายแบบนี้ ถ้างั้น ….. บางที!?
“……..มันออกมาจริงด้วย”
ถัดจากประตูหมายเลข 001 ที่ฉันเดินผ่านครั้งแรก ประตูหมายเลข 000 ก็ปรากฏขึ้น มันเป็นประตูที่ไม่เคยมีมาก่อน ประตูที่มาก่อนจุดเริ่มต้นของ….โลกอื่นๆ นี่ต้องเป็นประตูที่จะนำไปสู่โลกที่ฉันจากมาแน่ๆ
“ฉันกลับไปได้จริงเหรอ…?”
ฉันสามารถกลับบ้านได้ ฮ่า! ฉันกลับได้! ฉันสามารถกลับไปยังโลกเดิมของฉัน โลกที่ถูกพรากไปจากฉันอย่างไร้เหตุผลเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ฉันกลับไปได้.. ฉันสามารถกลับบ้านได้~ …
“เฮ้ พระเจ้า? ฉันมาที่นี่ได้ประมาณ 100 ปีแล้วนะ แต่โลกเดิมเวลายังเดินต่อเป็น 100 ปีอยู่หรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างงั้น ฉันคิดว่าครอบครัวและเพื่อนของฉันคงตายหมดแล้ว …”
อายุขัยของมนุษย์ก็ประมาณหกสิบปี ขุนนางบางคนที่บริโภคอาหารดีๆ อาจมีชีวิตอยู่ได้ถึงเจ็ดสิบหรือแปดสิบ ในบางโลก มันเป็นไปได้ที่จะยืดอายุคนด้วยเวทมนตร์ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีคนที่ทรงพลังหรือพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ในโลกของฉัน ดังนั้นจึงไม่มีใครรอดไปได้
“คุณก็รู้ คุณคือพระเจ้า ดังนั้นคุณจึงสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ได้ตามใจชอบ… นายจะไม่ทำอย่างนั้นหรือ? อ้าว หรือว่านายบอกให้ฉันใช้สกิลสุดท้ายนี่! โว้ย! ให้ตายเถอะ นั่นมันขี้งกชะมัด!”
มีความเป็นไปได้ที่ฉันสามารถจัดการสถานการณ์นี้ได้โดยใช้สกิลที่ฉันเพิ่งได้รับ แต่นั่นจะเป็นการเสียเวลาถ้าคุณถามฉัน เพราะ 100 ปีที่ฉันสูญเสียไปคือ 100 ปีที่ฉันถูกพระเจ้าพรากไป การสละสกิลของฉันเพื่อชดเชยมันก็เหมือนกับการเอาเงินทั้งหมดที่ฉันได้รับจากการทำงานมาเป็นค่าเล่าเรียน และไม่ว่าฉันจะนิสัยดีแค่ไหน ฉันก็ไม่ยอมง่ายๆ แน่
ตุ้บ!
“โว้ว!?”
เมื่อฉันพยายามจะโต้เถียงกับเขา ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงดังขึ้นข้างหลังฉัน ฉันหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ และมองดูใต้ฝ่าเท้าของฉันว่าเสียงนั้นมาจากไหน ….บนพื้น มีหนังสือปกสีขาวที่ดูเหมือนกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“โอ้ คุณหมายถึงให้ฉันอ่านเจ้านี่? อะไรอยู่ในสมุดกัน… หมายเลข?”
เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นจากสมุดและมองที่ประตูอีกครั้ง ฉันเห็นว่ามีการเพิ่มหมายเลขอื่นลงไปด้านใต้หมายเลขของโลกที่สลักไว้บนประตู
“นี่มันคือระยะเวลาที่ผ่านไปในโลกนั้นตั้งแต่ฉันจากไป… นั่นหมายความว่า…”
ประตูสู่โลกเดิมคือ 000 หมายเลขอื่นๆ ที่สลักไว้ด้านล่างก็มีเส้นศูนย์สะอาดเช่นกัน
“เวลาไม่ผ่านไปเลยตั้งแต่ที่ฉันจากไป…? หมายความว่าฉันสามารถย้อนกลับไปตอนที่ฉันถูกพาตัวมาที่นี่ได้งั้นเหรอ!?”
นี่สินะคือจุดจบที่แท้จริง หลังการเดินทางอันยาวนานของฉัน … ผ่านโลกนับไม่ถ้วนและการถูกเนรเทศจากปาร์ตี้ผู้กล้า ครั้งแล้วครั้งเล่าจะสิ้นสุดลงเมื่อฉันผ่านประตูนี้
“เอาล่ะ! ถึงเวลาที่ฉันจะ … กลับสู่โลกเดิมของฉันแล้ว!”
ขณะที่ฉันกำลังจะหมุนลูกบิดประตูเพื่อกลับสู่โลกใบเดิม หนังสือเพิ่มเติมก็ตกลงมาจากท้องฟ้า กระแทกหัวฉันอย่างแรง
“โอ๊ย!!?”
Comments