[นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ 20 ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ควรปล่อยให้คนอื่นทำมันแทน

Now you are reading [นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ Chapter 20 ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ควรปล่อยให้คนอื่นทำมันแทน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอ็ด!? เฮ้ เอ็ด!?”

 

“เธอไม่ต้องเรียกฉันหลายครั้งขนาดนั้นก็ได้ ฉันยังได้ยินเสียงเธออยู่นะ”

 

“เอ็ด!!”

 

ขณะที่ฉันเลื้อยขึ้นและออกจากร่างของหนอนศิลาที่เอนเอียง เทียก็กระโดดขึ้นคร่อมร่างของฉันทันที ซึ่งตอนนี้ได้กลิ่นที่เหม็นมาก

 

“เอ็ด เจ้างี่เง่า! ทำไมนายถึงสะเพร่าแบบนี้!”

 

“ไม่ ฉันไม่ได้สะเพร่า ฉันรู้ว่าเวทมนตร์ของเทียได้เผาอวัยวะของหนอนศิลาไปเยอะแล้ว ฉันจึงรู้ว่ามันจะไม่ละลายกรดใส่ฉันได้ และในสภาพนี้ มันจะไม่อุดรูที่ฉันเจาะไว้”

 

“อุด? รู?”

 

“แน่นอน ใช่ไหมล่ะ? ถ้ารูที่เจ้าตัวใหญ่เดินผ่านยังอยู่ตรงนั้น ภูเขาคงพังทลายลงในเวลาไม่นาน”

 

“นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ยังไง?”

 

“หืม? หนอนศิลากินแต่แร่ใช่ไหม? แต่แร่มันยึดติดอยู่กับดิน กล่าวอีกนัยหนึ่งว่าถ้าดินหมด――”

 

“… ฉันเข้าใจ พอแล้วๆ”

 

ฉันอธิบายให้เธอฟังตามที่เธอขอ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเทียค่อยๆ หันหน้าหนีและเหินห่างจากฉัน ฮึช่างไร้เหตุผล

 

“แล้ว? เป็นไงบ้าง” อเล็กซิสถาม

 

“ฟุฟุฟุ~ แน่นอน… ทางนี้!”

 

อเล็กซิสมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าตกตะลึง แต่ฉันยิ้มกว้างและดึงก้อนโลหะสีเงินแวววาวออกมาจาก [Stranger Box] ในกระเป๋าของฉัน

 

“ว้าว สวยจัง! ตะ-แต่สิ่งนี้ … สิ่งนี้ …” เทียอุทานออกมา

 

“อืม สำหรับสัตว์เวทย์ขนาดใหญ่แบบนี้ มันใหญ่ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” ชายชรากอนโซพึมพำ

 

“มันเพียงพอแล้ว ฉันไม่เคยเห็นแท่งมิธริลบริสุทธิ์ที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน”

 

ฉันวางมิธริลบริสุทธิ์ก้อนใหญ่ลงบนพื้น มันน่าจะหนักประมาณ 50 กิโลในมือของฉัน … พูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นเรื่องใหญ่

 

“อเล็กซิสบอกว่าเขาไม่เคยเห็น … แบบนี้มาก่อน แล้วมันราคาเท่าไหร่ล่ะ?” เทียถาม

 

“อืม? เป็นวัสดุที่ยังไม่ได้แปรรูป ดังนั้นลำพังสิ่งนี้จะไม่ได้ราคาสูงขนาดนั้น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เงินจะซื้อได้ ถ้าเธอรวยพอที่จะมีเส้นสายของช่างตีเหล็กที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เธอก็จะสามารถซื้อปราสาททั้งหลังได้ เข้าใจไหม?”

 

“อะไร!? ขนาดนั้นเลย!!?”

 

เทียรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินราคา จนทำเสียงตลกๆ และใช้นิ้วแหย่ก้อนมิธริลพร้อมกับพึมพำว่า “ถึงมันจะเป็นสิ่งนั้น … แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งนั้น…” ด้วยเทียที่ทำหน้าไร้เดียงสาที่อยู่ข้างหลังฉันขณะที่ฉันยังคงพูดคุยเรื่องนี้กับอเล็กซิส

 

“ดังนั้น ท่านผู้กล้า มันยากที่จะใช้เจ้านี้อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ อย่างไรก็ตาม…”

 

“ฉันรู้ ฉันจะแนะนำนายให้รู้จักกับช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียงที่ฉันรู้จัก ในกรณีนั้น–“

 

“ไม่ นั่นไม่จำเป็น แต่จะเป็นไปได้ไหมที่จะเช่าเวิร์กช็อปที่ไหนสักแห่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น”

 

“… หมายความว่านายตีเหล็กเป็นด้วย?”

 

“ฉันจะไม่พูดอย่างนั้น ฉันจะพูดยังไงดี… จริงๆ แล้ว นอกจากการเป็นคนแบกกระเป๋าและนักดาบแล้ว ฉันยังมีความมั่นใจเล็กน้อยในทักษะการตีเหล็กของฉันด้วย”

 

โกงใช่ไหมล่ะ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นประสบการณ์ตั้งร้อยกว่าปีของฉัน โอเคนะ?

 

★★★★★

 

“โฮ่โฮ่ หมอนี่เก่งใช้ได้”

 

อเล็กซิสมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าสุดจะพรรณนา และด้วยสายสัมพันธ์ของเขา ฉันจึงสามารถเช่าเวิร์กช็อปเล็กๆ ในอะโทรุมไทน์ได้ ฉันพยายามมอบก้อนมิธริลบริสุทธิ์ให้อเล็กซิสเป็นการขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของเขา แต่เขาพูดว่า “นายเป็นคนพบสัตว์เวทย์ตั้งแต่แรก และตอนนี้นายต้องการให้ฉันรับเครดิตสำหรับมันอีกไหม” ฉันถูกบอกแบบนั้นในขณะที่เขากำลังสางผมอยู่ ดังนั้นของทั้งหมดจึงยังอยู่ใน [Stranger Box] ของฉัน

 

“เตาหลอมได้รับการดูแลอย่างดีและเครื่องมือทั้งหมดอยู่ที่นั่น … พวกนี้ไม่ใช่ของสำรองหรืออะไร ที่นี่เป็นที่ที่มีคนใช้เป็นประจำทุกวันใช่ไหม? มันปลอดภัยจริงเหรอที่จะยืม”

 

“ใช่ไม่มีปัญหา เราได้รับค่าตอบแทนเพียงพอจากผู้กล้าของเราแล้ว และ … เหนือสิ่งอื่นใด เจ้าหนอนศิลาตัวนั้น! หากสิ่งนั้นไม่ถูกกำจัด เมืองนี้จะต้องประสบกับความหายนะที่ไม่อาจแก้ไขได้ เมื่อฉันนึกถึงความรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น ก็ไม่เป็นอะไร”

 

คนที่ปลดล็อกเวิร์กช็อปและพาทัวร์ฉันพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่ฉันตรวจสอบห้องต่างๆ

 

ในขณะที่อเล็กซิสเป็นคนที่ไม่ลังเลที่จะใช้พลังของเขา แต่เขาก็ยังเป็นคนที่ไม่ใช้พลังยกเว้นเมื่อจำเป็น ดังนั้นฉันจึงสงสัยว่าอเล็กซิสบังคับให้เขาเช่ามัน นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาว่าเจ้าของสามารถคุยโวว่าเขาได้รับค่าจ้างดีแค่ไหนหรือเขา “ให้ผู้กล้ายืมเวิร์กชอปของเขาได้อย่างไร” เป็นไปได้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นการแข่งขันแบบ “ให้ฉันช่วย-ฉันดีกว่า-ฉันทำได้” มากกว่า

 

“ถ้าขาดตกบกพร่องประการใด ติดต่อพวกเราได้ หากเป็นวัสดุสิ้นเปลืองทั่วไป คุณสามารถซื้อได้ที่บ้านตรงนั้น ฉันจะจ่ายให้คุณในภายหลัง”

 

“ไม่ ไม่ ฉันไม่สามารถขอให้คุณทำถึงขนาดนั้นได้! ขอบคุณมาก ตอนนี้ฉันจะใช้มันอย่างระมัดระวัง”

 

ฉันก้มศีรษะลงและผู้ที่แนะนำฉันก็ออกจากโรงงานโดยทิ้งกุญแจไว้เบื้องหลัง จากนั้น ฉันเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในโรงงาน ….ตามลำพัง

 

“แล้วตอนนี้นายจะทำอะไร”

 

“สิ่งที่ฉันจะทำคือ ฉันจะจัดการกับเด็กคนนี้ … เธอแน่ใจเหรอว่าต้องการดู?”

 

เธอจ้องมาที่ฉันด้วยดวงตาเป็นประกายในขณะที่ฉันเริ่มเตรียมการสำหรับโรงตีเหล็ก

 

“ฉันพูดแทนเธอไม่ได้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าดูเท่าไหร่ เข้าใจไหม”

 

“อาร่า นั่นไม่ใช่หน้าที่ที่นายตัดสินใจใช่ไหม ฉันจะตัดสินเองใจว่ามันสนุกหรือไม่! ดังนั้นอย่ากังวลไปเลย เอ็ด”

 

“ฮะ … ก็ได้ มันอาจจะร้อนมากก็ได้นะ แต่อย่ากดดันตัวเองเกินไป โอเค๊? นอกจากนี้ ในขณะที่ฉันกำลังมีสมาธิ ฉันจะไม่พักผ่อนเพื่อคุญกับเธอ ดังนั้นเธอจึงสามารถล็อกประตูแล้วออกไปเมื่อไหร่ก็ได้”

 

“อะไร? เอ็ดจะทำยังไงถ้าฉันล็อกประตู”

 

“ฉันจะดูแลเรื่องนั้นเอง”

 

มันไม่เหมือนกับห้องเก็บสมบัติในปราสาท ดังนั้นกุญแจสู่ห้องทำงานแบบนี้จึงไม่มีอะไรต้องห่วง แน่นอน ถ้าฉันถูกเห็นตอน “กำลังสะเดาะกุญแจ” ฉันอาจจะถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุก อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าฉันจะเช่าสถานที่นี้ ดังนั้นฉันจะไม่ถูกรายงานว่าทำเรื่องยุ่งเล็กน้อยที่ทางเข้าโรงงานนี้

 

“ยังไงก็เถอะ เอ็ดนี่… สามารถทำทุกอย่างได้จริงๆ นะ”

 

“ฉันไม่สามารถทำทุกอย่างได้ มีหลายสิ่งที่ฉันทำไม่ได้ … มือของฉันทำให้ฉันพลาดเสมอ”

 

รอยยิ้มของเทียซ้อนทับกับรอยยิ้มสุดท้ายที่ฉันเห็นเธอให้ในวันนั้น ฉันไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไรที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงและจะไม่มาถึงอีก… แต่ความทรงจำอันขมขื่นนั้นจะไม่มีวันทิ้งฉันไป

 

“… เอ็ด?”

 

“อ่า ไม่มีอะไรหรอก ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มกันเถอะ!”

 

ฉันส่ายหัว ฉันเปิดเตาหลอมและหยิบก้อนมิธริลบริสุทธิ์ออกมาจาก [Stranger Box] มิธริลไม่ต้องการอุณหภูมิที่สูงมากในการละลาย แต่การควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มคุณสมบัติของมิธริลให้ได้สูงสุด

 

“ถ้าร้อนเกินไปก็จะระเหยโดยไม่จำเป็น และถ้าเย็นเกินไปก็จะละลายไม่สม่ำเสมอ ถ้าเรามีเตาเวทมนตร์ มันจะง่ายกว่านี้อยู่หรอก …”

 

เตาหลอมเวทมนตร์เป็นสินค้าล้ำค่าที่ช่างตีเหล็กทั่วโลกต้องการ สามารถปรับความร้อนได้ด้วยพลังเวทมนตร์ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ไม่มีอยู่ในโลกนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้ที่จะสร้างมันขึ้นมาโดยใช้สลิกผู้ถูกขับไล่ของฉัน แต่เนื่องจากฉันจำรายละเอียดของพิมพ์เขียวของเตาหลอมเวทมนตร์ไม่ได้ทั้งหมด มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

ดังนั้นฉันจึงวางถ่านหินลงในเตาอย่างระมัดระวัง [Master Smith] มีความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของเตาหลอม แต่ถ้าฉันอาศัยทักษะของฉัน ฉันคงไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีได้ (T/N: Master smith=ช่างฝีมือที่เรียนรู้ได้จากการดูและเลียนแบบ)

 

“… โอเค ดีมาก”

 

เมื่อถึงเวลาฉันก็เทก้อนมิธริลที่ได้มาลงในเตาหลอม หลังจากนั้นไม่นาน มิธริลที่หลอมละลายก็หยดลงมาจากปากเตา และฉันก็ค่อยๆ ใช้ค้อนทุบไปที่มัน

 

สร้างมัน สร้างอนาคต เปลี่ยนตอนจบ ฉันจะสร้างอาวุธที่จะเปิดชะตากรรมของเรา เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องสูญเสียเพื่อน ๆ ด้วยมือของฉันเอง เพื่อเปลี่ยนโชคชะตาของเรา

 

ฉันใส่จิตวิญญาณของฉันลงในทุกจังหวะ ไม่ว่าฉันจะมีสกิลผู้ถูกขับไล่มากเพียงใด มันก็ไม่ใช่งานง่าย

 

อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้มีความคิดที่จะล้มเลิกแม้แต่น้อย เมื่อนึกถึงหน้าเทียวันนั้น มือของฉันไม่สั่นอีก แม้จะฟาดเป็นหมื่นครั้ง

 

ที่สุด ต้องแข็งแกร่งที่สุด ฉันยังคงตอกมิธริลต่อไป

 

(T/N: ขอบคุณทุกคอมเม้นใต้ตอนของหลายๆคนที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการแปลเรื่องนี้ต่อด้วยครับ ในตอนแรกผมคิดไว้แล้วว่าจะต้องโดนบ่นเรื่องการแปลแน่ๆ เพราะเรื่องนี้คือการแปลนิยายเรื่องแรกที่ผมทำ แต่กลับได้คอมเม้นให้กำลังใจมาแทน ผมก็ขอขอบคุณทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วย และขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ 20 ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ควรปล่อยให้คนอื่นทำมันแทน

Now you are reading [นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ Chapter 20 ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ควรปล่อยให้คนอื่นทำมันแทน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอ็ด!? เฮ้ เอ็ด!?”

 

“เธอไม่ต้องเรียกฉันหลายครั้งขนาดนั้นก็ได้ ฉันยังได้ยินเสียงเธออยู่นะ”

 

“เอ็ด!!”

 

ขณะที่ฉันเลื้อยขึ้นและออกจากร่างของหนอนศิลาที่เอนเอียง เทียก็กระโดดขึ้นคร่อมร่างของฉันทันที ซึ่งตอนนี้ได้กลิ่นที่เหม็นมาก

 

“เอ็ด เจ้างี่เง่า! ทำไมนายถึงสะเพร่าแบบนี้!”

 

“ไม่ ฉันไม่ได้สะเพร่า ฉันรู้ว่าเวทมนตร์ของเทียได้เผาอวัยวะของหนอนศิลาไปเยอะแล้ว ฉันจึงรู้ว่ามันจะไม่ละลายกรดใส่ฉันได้ และในสภาพนี้ มันจะไม่อุดรูที่ฉันเจาะไว้”

 

“อุด? รู?”

 

“แน่นอน ใช่ไหมล่ะ? ถ้ารูที่เจ้าตัวใหญ่เดินผ่านยังอยู่ตรงนั้น ภูเขาคงพังทลายลงในเวลาไม่นาน”

 

“นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ยังไง?”

 

“หืม? หนอนศิลากินแต่แร่ใช่ไหม? แต่แร่มันยึดติดอยู่กับดิน กล่าวอีกนัยหนึ่งว่าถ้าดินหมด――”

 

“… ฉันเข้าใจ พอแล้วๆ”

 

ฉันอธิบายให้เธอฟังตามที่เธอขอ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเทียค่อยๆ หันหน้าหนีและเหินห่างจากฉัน ฮึช่างไร้เหตุผล

 

“แล้ว? เป็นไงบ้าง” อเล็กซิสถาม

 

“ฟุฟุฟุ~ แน่นอน… ทางนี้!”

 

อเล็กซิสมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าตกตะลึง แต่ฉันยิ้มกว้างและดึงก้อนโลหะสีเงินแวววาวออกมาจาก [Stranger Box] ในกระเป๋าของฉัน

 

“ว้าว สวยจัง! ตะ-แต่สิ่งนี้ … สิ่งนี้ …” เทียอุทานออกมา

 

“อืม สำหรับสัตว์เวทย์ขนาดใหญ่แบบนี้ มันใหญ่ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” ชายชรากอนโซพึมพำ

 

“มันเพียงพอแล้ว ฉันไม่เคยเห็นแท่งมิธริลบริสุทธิ์ที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน”

 

ฉันวางมิธริลบริสุทธิ์ก้อนใหญ่ลงบนพื้น มันน่าจะหนักประมาณ 50 กิโลในมือของฉัน … พูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นเรื่องใหญ่

 

“อเล็กซิสบอกว่าเขาไม่เคยเห็น … แบบนี้มาก่อน แล้วมันราคาเท่าไหร่ล่ะ?” เทียถาม

 

“อืม? เป็นวัสดุที่ยังไม่ได้แปรรูป ดังนั้นลำพังสิ่งนี้จะไม่ได้ราคาสูงขนาดนั้น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เงินจะซื้อได้ ถ้าเธอรวยพอที่จะมีเส้นสายของช่างตีเหล็กที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เธอก็จะสามารถซื้อปราสาททั้งหลังได้ เข้าใจไหม?”

 

“อะไร!? ขนาดนั้นเลย!!?”

 

เทียรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินราคา จนทำเสียงตลกๆ และใช้นิ้วแหย่ก้อนมิธริลพร้อมกับพึมพำว่า “ถึงมันจะเป็นสิ่งนั้น … แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งนั้น…” ด้วยเทียที่ทำหน้าไร้เดียงสาที่อยู่ข้างหลังฉันขณะที่ฉันยังคงพูดคุยเรื่องนี้กับอเล็กซิส

 

“ดังนั้น ท่านผู้กล้า มันยากที่จะใช้เจ้านี้อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ อย่างไรก็ตาม…”

 

“ฉันรู้ ฉันจะแนะนำนายให้รู้จักกับช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียงที่ฉันรู้จัก ในกรณีนั้น–“

 

“ไม่ นั่นไม่จำเป็น แต่จะเป็นไปได้ไหมที่จะเช่าเวิร์กช็อปที่ไหนสักแห่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น”

 

“… หมายความว่านายตีเหล็กเป็นด้วย?”

 

“ฉันจะไม่พูดอย่างนั้น ฉันจะพูดยังไงดี… จริงๆ แล้ว นอกจากการเป็นคนแบกกระเป๋าและนักดาบแล้ว ฉันยังมีความมั่นใจเล็กน้อยในทักษะการตีเหล็กของฉันด้วย”

 

โกงใช่ไหมล่ะ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นประสบการณ์ตั้งร้อยกว่าปีของฉัน โอเคนะ?

 

★★★★★

 

“โฮ่โฮ่ หมอนี่เก่งใช้ได้”

 

อเล็กซิสมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าสุดจะพรรณนา และด้วยสายสัมพันธ์ของเขา ฉันจึงสามารถเช่าเวิร์กช็อปเล็กๆ ในอะโทรุมไทน์ได้ ฉันพยายามมอบก้อนมิธริลบริสุทธิ์ให้อเล็กซิสเป็นการขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของเขา แต่เขาพูดว่า “นายเป็นคนพบสัตว์เวทย์ตั้งแต่แรก และตอนนี้นายต้องการให้ฉันรับเครดิตสำหรับมันอีกไหม” ฉันถูกบอกแบบนั้นในขณะที่เขากำลังสางผมอยู่ ดังนั้นของทั้งหมดจึงยังอยู่ใน [Stranger Box] ของฉัน

 

“เตาหลอมได้รับการดูแลอย่างดีและเครื่องมือทั้งหมดอยู่ที่นั่น … พวกนี้ไม่ใช่ของสำรองหรืออะไร ที่นี่เป็นที่ที่มีคนใช้เป็นประจำทุกวันใช่ไหม? มันปลอดภัยจริงเหรอที่จะยืม”

 

“ใช่ไม่มีปัญหา เราได้รับค่าตอบแทนเพียงพอจากผู้กล้าของเราแล้ว และ … เหนือสิ่งอื่นใด เจ้าหนอนศิลาตัวนั้น! หากสิ่งนั้นไม่ถูกกำจัด เมืองนี้จะต้องประสบกับความหายนะที่ไม่อาจแก้ไขได้ เมื่อฉันนึกถึงความรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น ก็ไม่เป็นอะไร”

 

คนที่ปลดล็อกเวิร์กช็อปและพาทัวร์ฉันพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่ฉันตรวจสอบห้องต่างๆ

 

ในขณะที่อเล็กซิสเป็นคนที่ไม่ลังเลที่จะใช้พลังของเขา แต่เขาก็ยังเป็นคนที่ไม่ใช้พลังยกเว้นเมื่อจำเป็น ดังนั้นฉันจึงสงสัยว่าอเล็กซิสบังคับให้เขาเช่ามัน นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาว่าเจ้าของสามารถคุยโวว่าเขาได้รับค่าจ้างดีแค่ไหนหรือเขา “ให้ผู้กล้ายืมเวิร์กชอปของเขาได้อย่างไร” เป็นไปได้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นการแข่งขันแบบ “ให้ฉันช่วย-ฉันดีกว่า-ฉันทำได้” มากกว่า

 

“ถ้าขาดตกบกพร่องประการใด ติดต่อพวกเราได้ หากเป็นวัสดุสิ้นเปลืองทั่วไป คุณสามารถซื้อได้ที่บ้านตรงนั้น ฉันจะจ่ายให้คุณในภายหลัง”

 

“ไม่ ไม่ ฉันไม่สามารถขอให้คุณทำถึงขนาดนั้นได้! ขอบคุณมาก ตอนนี้ฉันจะใช้มันอย่างระมัดระวัง”

 

ฉันก้มศีรษะลงและผู้ที่แนะนำฉันก็ออกจากโรงงานโดยทิ้งกุญแจไว้เบื้องหลัง จากนั้น ฉันเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในโรงงาน ….ตามลำพัง

 

“แล้วตอนนี้นายจะทำอะไร”

 

“สิ่งที่ฉันจะทำคือ ฉันจะจัดการกับเด็กคนนี้ … เธอแน่ใจเหรอว่าต้องการดู?”

 

เธอจ้องมาที่ฉันด้วยดวงตาเป็นประกายในขณะที่ฉันเริ่มเตรียมการสำหรับโรงตีเหล็ก

 

“ฉันพูดแทนเธอไม่ได้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าดูเท่าไหร่ เข้าใจไหม”

 

“อาร่า นั่นไม่ใช่หน้าที่ที่นายตัดสินใจใช่ไหม ฉันจะตัดสินเองใจว่ามันสนุกหรือไม่! ดังนั้นอย่ากังวลไปเลย เอ็ด”

 

“ฮะ … ก็ได้ มันอาจจะร้อนมากก็ได้นะ แต่อย่ากดดันตัวเองเกินไป โอเค๊? นอกจากนี้ ในขณะที่ฉันกำลังมีสมาธิ ฉันจะไม่พักผ่อนเพื่อคุญกับเธอ ดังนั้นเธอจึงสามารถล็อกประตูแล้วออกไปเมื่อไหร่ก็ได้”

 

“อะไร? เอ็ดจะทำยังไงถ้าฉันล็อกประตู”

 

“ฉันจะดูแลเรื่องนั้นเอง”

 

มันไม่เหมือนกับห้องเก็บสมบัติในปราสาท ดังนั้นกุญแจสู่ห้องทำงานแบบนี้จึงไม่มีอะไรต้องห่วง แน่นอน ถ้าฉันถูกเห็นตอน “กำลังสะเดาะกุญแจ” ฉันอาจจะถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุก อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าฉันจะเช่าสถานที่นี้ ดังนั้นฉันจะไม่ถูกรายงานว่าทำเรื่องยุ่งเล็กน้อยที่ทางเข้าโรงงานนี้

 

“ยังไงก็เถอะ เอ็ดนี่… สามารถทำทุกอย่างได้จริงๆ นะ”

 

“ฉันไม่สามารถทำทุกอย่างได้ มีหลายสิ่งที่ฉันทำไม่ได้ … มือของฉันทำให้ฉันพลาดเสมอ”

 

รอยยิ้มของเทียซ้อนทับกับรอยยิ้มสุดท้ายที่ฉันเห็นเธอให้ในวันนั้น ฉันไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไรที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงและจะไม่มาถึงอีก… แต่ความทรงจำอันขมขื่นนั้นจะไม่มีวันทิ้งฉันไป

 

“… เอ็ด?”

 

“อ่า ไม่มีอะไรหรอก ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มกันเถอะ!”

 

ฉันส่ายหัว ฉันเปิดเตาหลอมและหยิบก้อนมิธริลบริสุทธิ์ออกมาจาก [Stranger Box] มิธริลไม่ต้องการอุณหภูมิที่สูงมากในการละลาย แต่การควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มคุณสมบัติของมิธริลให้ได้สูงสุด

 

“ถ้าร้อนเกินไปก็จะระเหยโดยไม่จำเป็น และถ้าเย็นเกินไปก็จะละลายไม่สม่ำเสมอ ถ้าเรามีเตาเวทมนตร์ มันจะง่ายกว่านี้อยู่หรอก …”

 

เตาหลอมเวทมนตร์เป็นสินค้าล้ำค่าที่ช่างตีเหล็กทั่วโลกต้องการ สามารถปรับความร้อนได้ด้วยพลังเวทมนตร์ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ไม่มีอยู่ในโลกนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้ที่จะสร้างมันขึ้นมาโดยใช้สลิกผู้ถูกขับไล่ของฉัน แต่เนื่องจากฉันจำรายละเอียดของพิมพ์เขียวของเตาหลอมเวทมนตร์ไม่ได้ทั้งหมด มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

ดังนั้นฉันจึงวางถ่านหินลงในเตาอย่างระมัดระวัง [Master Smith] มีความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของเตาหลอม แต่ถ้าฉันอาศัยทักษะของฉัน ฉันคงไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีได้ (T/N: Master smith=ช่างฝีมือที่เรียนรู้ได้จากการดูและเลียนแบบ)

 

“… โอเค ดีมาก”

 

เมื่อถึงเวลาฉันก็เทก้อนมิธริลที่ได้มาลงในเตาหลอม หลังจากนั้นไม่นาน มิธริลที่หลอมละลายก็หยดลงมาจากปากเตา และฉันก็ค่อยๆ ใช้ค้อนทุบไปที่มัน

 

สร้างมัน สร้างอนาคต เปลี่ยนตอนจบ ฉันจะสร้างอาวุธที่จะเปิดชะตากรรมของเรา เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องสูญเสียเพื่อน ๆ ด้วยมือของฉันเอง เพื่อเปลี่ยนโชคชะตาของเรา

 

ฉันใส่จิตวิญญาณของฉันลงในทุกจังหวะ ไม่ว่าฉันจะมีสกิลผู้ถูกขับไล่มากเพียงใด มันก็ไม่ใช่งานง่าย

 

อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้มีความคิดที่จะล้มเลิกแม้แต่น้อย เมื่อนึกถึงหน้าเทียวันนั้น มือของฉันไม่สั่นอีก แม้จะฟาดเป็นหมื่นครั้ง

 

ที่สุด ต้องแข็งแกร่งที่สุด ฉันยังคงตอกมิธริลต่อไป

 

(T/N: ขอบคุณทุกคอมเม้นใต้ตอนของหลายๆคนที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการแปลเรื่องนี้ต่อด้วยครับ ในตอนแรกผมคิดไว้แล้วว่าจะต้องโดนบ่นเรื่องการแปลแน่ๆ เพราะเรื่องนี้คือการแปลนิยายเรื่องแรกที่ผมทำ แต่กลับได้คอมเม้นให้กำลังใจมาแทน ผมก็ขอขอบคุณทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วย และขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+