ราชาเหนือราชัน 149 : กลับไปอาบน้ำ และพักผ่อน

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 149 : กลับไปอาบน้ำ และพักผ่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย ราชาเหนือราชัน ตอนที่ 149 : กลับไปอาบน้ำ และพักผ่อน

คําที่สลักนั่นดูจะเป็นอักษรโบราณ แม้แต่ผู้เซี่ยงเส้าหยุนผู้อ่านตํารามามากกว่าหนึ่งหมื่นเล่มยังไม่อาจเข้าใจตัวหนังสือโบราณทั้งหมดนั่นได้จึงชัดเจนว่าผิวหนังนี่มีอายุเก่าแก่มากตงจื่อ พยายามมองไปยังตัวหนังสือความสับสนปกคลุมไปทั่วทั้งใบหน้า ขณะกล่าวคําเบา “นี่มันคําบ้าอะไรกัน?”

“ข้าก็ไม่ทราบ แต่นของข้า” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ก่อนจะเก็บหนังนั่นโดยไม่ลังเลด้วยหากเขาไม่อาจอ่านมันได้ไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นจะอ่านมันไม่ได้ดูเหมือนจะมีความลับอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

ตงจื่อทราบดีว่านี่อาจเป็นสิ่งล้ําค่าที่สุดนับตั้งแต่เดินทางมาแต่นางไม่ต้องการต่อสู้กับเซี่ยงเส้าหยุนเพื่อแย่งชิงมันหากไม่มีเซี่ยงเส้าหยุนนางก็ไม่อาจมาไกลได้ขนาดนี้และนางยังได้รับเมล็ดแก่นแห่งชีวิตซึ่งเป็นสมบัติล้ําค่าการได้ครอบครองนับว่าคุ้มค่าในการเดินทางครั้งนี้

ทั้งสองไม่ได้ออกไปข้างนอกในทันที ด้วยค้นหาภายในถ้ำอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งเพื่อดูว่าพลาดสิ่งใดไหมหลังจากแน่ใจแล้วทั้งสองจึงออกจากถ้ำแห่งนี้

ทันดนั้น ตงซื้อก็หน้าแดง อุโมงค์ด้านนอกเต็มไปด้วยพิษศพทมิฬ นางไม่อาจออกไปได้หากเซี่ยงเส้าหยุนไม่ช่วย และที่สําคัญกว่านั้นเพศที่แท้จริงได้ถูกเปิดเผยแล้วนางจึงอายเกินกว่าจะเข้าใกล้เซี่ยงเส้หยุนได้

“มาเถิด ได้เวลาไปแล้ว” เซี่ยงเส้าหยุนเรียกนาง

“ข้า-ข้า…” ตงจ่อลังเล ด้วยไม่ทราบจะกล่าวสิ่งใดออก

ดูเหมือนจะเด็กหนุ่มจะอ่านความคิดออก มีรอยยิ้มเผยบนใบหน้าของเซี่ยงเส้าหยุนขณะกล่าว“มาเร็ว น้องชายข้ามเพศข้าไม่ทําอะไรเจ้าหรอกไม่ต้องกังวล”

“เจ้าสิข้ามเพศ เจ้ามันคนของตระกูลข้ามเพศ!” ตงจอด่าทอ

เซี่ยงเส้าหยุนเดินเข้ามาหาทันที และจับแขนของนาง ก่อนจะดึงเข้าไปยังอุโมงค์นั่นชั้นของพลังงานสายฟ้าโอบล้อมรอบตัวทั้งสองขณะวิ่งฝ่าถออกไปยังทางออกมันไม่เหมือนกับตอนที่เข้ามา ด้วยแทบไม่เหลือศพขนทมิฬแล้วเหลือเพียงแค่พิษเท่านั้น
ตงจอกําลังวางแผนจัดการเซี่ยงเส้าหยุนแต่เมื่อเห็นวิธีที่เขาพยายามปกป้องนางความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจขณะใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งสองออกมาจากถ้ำได้อย่างราบลื่น พิษค่อยจางในอากาศอย่างเชื่องช้าและไม่เป็นอุปสรรคต่อทั้งสองมากนักเซี่ยงเส้าหยุนวิ่งต่ออย่างรวดเร็วขณะจูงมือตงจ่อไว้หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดทั้งสองก็ออกมาจากถ้ำได้สําเร็จแต่โชคร้ายที่มีสมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬรออยู่ด้านนอก

เมื่อคนของนิกายหุบเขาทมิฬมาถึง พวกเขาไม่อาจตัดสินใจได้ว่าควรเข้าไปในถ้ำไหมแต่ในที่สุดก็พบว่ามีรอบเผาไหม้โดยรอบ และด้านในถ้ำ รวมถึงซากศพขนทมิฬมากมายดังนั้นจึงสรุปได้ว่ามีคนเข้าไปด้านในแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเฝ้าระวังอยู่ที่หน้าทางเข้า และรอคอยผู้ที่เข้าไปด้านในและแน่นอนว่าการรอคอยไม่สูญเปล่าเมื่อเซี่ยงเส้าหยุน และตงจื่อเห็นคนกว่าหนึ่งร้อยคนรออยู่ด้านนอกทั้งสองตกใจมากเห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้เป็นสมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬ

เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าในใจ “บ้าฉิบ เหตุใดจึงมากันเร็วนัก?

“ไง พวกท่านมาทําอะไรที่นี่ดึกดื่นเช่นนี้? อากาศที่หนาวเหน็บนัก ข้าขอแนะนําให้พวกท่านกลับไปอาบน้ำ และพักผ่อนเสีย”เซี่ยงเส้หยุนทักทายอย่างอบอุ่นและลากตงจ่อไปอีกทางที่มี
คนน้อย

“เหอะ พวกเจ้าบุกรุกเหมืองของนิกายหุบเขาทมิฬ และยังกล้ากล่าวเหน็บแนบกับพวกเราอีกหรือ? เช่นนั้นเจ้าสมควรตาย!”คนหนึ่งกล่าวตําหนิ

“เดี๋ยว นี่ท่านกล่าวหาว่าเราบุกรุกเหมืองของท่านหรือ? เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือสถานที่ฝังศพสัตว์ประหลาดเหล่านั้นจับพวกเราเข้าไปในถ้ำหากไม่โชคดีเราคงตายไปแล้วมีผีดิบจํานวนมากภายในนั้น!” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวเกินจริง

ตอนนั้นเอง เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบให้ตงจื่อหนีไป “หนีไปเสีย ได้โอกาสแล้ว”

“ไม่! ข้าจะไม่หนีไปไหน!” ตงจอตะโกน

เซี่ยงเส้าหยุนเผยสีหน้าดูไม่ได้ เขาอุตส่ากระซิบเพื่อที่สมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬจะไม่ได้ยินแต่เด็กสาวหน้าโง่กลับตะโกนออกมา

“เหอะ หลบหนีหรือ? ดูรอบตัวเจ้าเสีย คิดว่าจะสามารถหนีไปได้งั้นหรือ?”ใครบางคนจากกายหุบเขาทมิฬกล่าว

ในตอนนั้นเอง รองเจ้าตําหนักของนิกายหุบเขาทมิฬก้าวออก และกล่าว “ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร แต่พวกเจ้าต้องมากับเรา เราจะตัดสินโชคชะตาของพวกเจ้าที่หลังพวกเจ้ามัดพวกมันไว้ หากพวกมันกล้าขัดขืนก็จงสังหารเสีย”

จิตสังหารเผยออกมาจากรองเจ้าตําหนักขณะออกคําสั่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คิดจะปล่อยพวกเขาไปจากนั้นมีสองคนเข้ามาใกล้เซี่ยงเส้าหยุนและตงจื่อ

“เจ้ากล้า…” ตงจอก้าวถอยหลัง และตะโกน

แต่ก่อนจะได้ทันกล่าวจนจบ เซี่ยงเส้าหยุนรีบวิ่งไปยังทิศทางหนึ่งและพานางไปด้วย

“ผู้ใดกล้าขวางทางข้าจะต้องตาย!” เซี่ยงเส้าหยุนคํารามขณะมังกรและพยัคฆ์ปรากฏตัวด้านหลังพยัคฆ์คํารามดังกึกก้องทําให้หูของผู้ที่ได้ยินต้องเจ็บปวด

เสียงคํารามของพยัคฆ์เป็นความสามารถโดยกําเนิดของสัตว์ปีศาจที่เซี่ยงเส้าหยุนได้รับจากการถ่ายทอดวิญญาณพยัคฆ์ขาวแม้เสียงคํารามจะไม่น่ากลัวเท่าของจริงแต่แก่นแท้ของเสียงคํารามพยัคฆ์ขาวนั้นอยู่ในเสียงคํารามนั่นอย่างแน่นอนดังนั้นเสียงคํารามจึงดูจะมีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง

สมาชิกนิกายหุบเขาทมิฬต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ ปล่อยโอกาสให้เซี่ยงเส้าหยุนพุ่งออกจากวงล้อม ด้วยก้าวราชันเก่ปรโลกทําให้เด็กหนุ่มเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพก็ไม่อาจเทียบเคียง

นอกจากนี้ เซี่ยงเส้าหยุนยังเลือกที่จะไปยังจุดที่มีคนน้อยที่สุดจึงทําให้สามารถออกจากวงล้อมและเข้าป่าไปได้โดยง่ายเขาใช้พลังทั้งหมดปลดปล่อนพลังงานออกจากเก้าดวงดาวเพื่อหลบหนี

แต่โชคไม่ดี สมาชิกนิกายหุบเขาทมิฬมีมากเกินไป แม้แต่รองเจ้าตําหนักก็อยู่ที่นี่ด้วยและพวกเขาทั้งหมดต่างเป็นชนชั้นสูงเซียงเส้าหยุน และตงซื้อไม่อาจหลบหนีไปได้โดยง่าย

รองเจ้าตําหนักพุ่งผ่านอากาศราวกับเงาขณะไล่ล่าทั้งสอง มีผู้ติดตามใกล้ชิดอีกสองถึงสามคนพวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ช่วงท้ายของระดับแปรสภาพที่ทรงพลัง

“อย่าฝันว่าจะหนีพ้น” รองเจ้าตําหนักกล่าว ก่อนจะส่งฝ่ามือทั้งสองเข้าโจมตีฝ่ามือหนึ่งพุ่งเป้าไปที่เซี่ยงเส้าหยุนขณะที่อีกมือหนึ่งพุ่งเป้าไปที่ตงจื่อ

การโจมตีอันหนักหน่วงกวาดทุกสิ่งราวกับคลื่นยักษ์ ในขณะที่กําลังจะถึงตัวทั้งสองร่างหนึ่งรากฏขึ้นและกระแทกการโจมตีกลับไปยังรองเจ้าตําหนักรองเจ้าตําหนักตกใจอย่างที่สุดและถูกส่งลอยไปด้วยการโต้กลับนั่น

ตู้ม!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาเหนือราชัน 149 : กลับไปอาบน้ำ และพักผ่อน

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 149 : กลับไปอาบน้ำ และพักผ่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย ราชาเหนือราชัน ตอนที่ 149 : กลับไปอาบน้ำ และพักผ่อน

คําที่สลักนั่นดูจะเป็นอักษรโบราณ แม้แต่ผู้เซี่ยงเส้าหยุนผู้อ่านตํารามามากกว่าหนึ่งหมื่นเล่มยังไม่อาจเข้าใจตัวหนังสือโบราณทั้งหมดนั่นได้จึงชัดเจนว่าผิวหนังนี่มีอายุเก่าแก่มากตงจื่อ พยายามมองไปยังตัวหนังสือความสับสนปกคลุมไปทั่วทั้งใบหน้า ขณะกล่าวคําเบา “นี่มันคําบ้าอะไรกัน?”

“ข้าก็ไม่ทราบ แต่นของข้า” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ก่อนจะเก็บหนังนั่นโดยไม่ลังเลด้วยหากเขาไม่อาจอ่านมันได้ไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นจะอ่านมันไม่ได้ดูเหมือนจะมีความลับอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

ตงจื่อทราบดีว่านี่อาจเป็นสิ่งล้ําค่าที่สุดนับตั้งแต่เดินทางมาแต่นางไม่ต้องการต่อสู้กับเซี่ยงเส้าหยุนเพื่อแย่งชิงมันหากไม่มีเซี่ยงเส้าหยุนนางก็ไม่อาจมาไกลได้ขนาดนี้และนางยังได้รับเมล็ดแก่นแห่งชีวิตซึ่งเป็นสมบัติล้ําค่าการได้ครอบครองนับว่าคุ้มค่าในการเดินทางครั้งนี้

ทั้งสองไม่ได้ออกไปข้างนอกในทันที ด้วยค้นหาภายในถ้ำอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งเพื่อดูว่าพลาดสิ่งใดไหมหลังจากแน่ใจแล้วทั้งสองจึงออกจากถ้ำแห่งนี้

ทันดนั้น ตงซื้อก็หน้าแดง อุโมงค์ด้านนอกเต็มไปด้วยพิษศพทมิฬ นางไม่อาจออกไปได้หากเซี่ยงเส้าหยุนไม่ช่วย และที่สําคัญกว่านั้นเพศที่แท้จริงได้ถูกเปิดเผยแล้วนางจึงอายเกินกว่าจะเข้าใกล้เซี่ยงเส้หยุนได้

“มาเถิด ได้เวลาไปแล้ว” เซี่ยงเส้าหยุนเรียกนาง

“ข้า-ข้า…” ตงจ่อลังเล ด้วยไม่ทราบจะกล่าวสิ่งใดออก

ดูเหมือนจะเด็กหนุ่มจะอ่านความคิดออก มีรอยยิ้มเผยบนใบหน้าของเซี่ยงเส้าหยุนขณะกล่าว“มาเร็ว น้องชายข้ามเพศข้าไม่ทําอะไรเจ้าหรอกไม่ต้องกังวล”

“เจ้าสิข้ามเพศ เจ้ามันคนของตระกูลข้ามเพศ!” ตงจอด่าทอ

เซี่ยงเส้าหยุนเดินเข้ามาหาทันที และจับแขนของนาง ก่อนจะดึงเข้าไปยังอุโมงค์นั่นชั้นของพลังงานสายฟ้าโอบล้อมรอบตัวทั้งสองขณะวิ่งฝ่าถออกไปยังทางออกมันไม่เหมือนกับตอนที่เข้ามา ด้วยแทบไม่เหลือศพขนทมิฬแล้วเหลือเพียงแค่พิษเท่านั้น
ตงจอกําลังวางแผนจัดการเซี่ยงเส้าหยุนแต่เมื่อเห็นวิธีที่เขาพยายามปกป้องนางความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจขณะใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งสองออกมาจากถ้ำได้อย่างราบลื่น พิษค่อยจางในอากาศอย่างเชื่องช้าและไม่เป็นอุปสรรคต่อทั้งสองมากนักเซี่ยงเส้าหยุนวิ่งต่ออย่างรวดเร็วขณะจูงมือตงจ่อไว้หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดทั้งสองก็ออกมาจากถ้ำได้สําเร็จแต่โชคร้ายที่มีสมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬรออยู่ด้านนอก

เมื่อคนของนิกายหุบเขาทมิฬมาถึง พวกเขาไม่อาจตัดสินใจได้ว่าควรเข้าไปในถ้ำไหมแต่ในที่สุดก็พบว่ามีรอบเผาไหม้โดยรอบ และด้านในถ้ำ รวมถึงซากศพขนทมิฬมากมายดังนั้นจึงสรุปได้ว่ามีคนเข้าไปด้านในแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเฝ้าระวังอยู่ที่หน้าทางเข้า และรอคอยผู้ที่เข้าไปด้านในและแน่นอนว่าการรอคอยไม่สูญเปล่าเมื่อเซี่ยงเส้าหยุน และตงจื่อเห็นคนกว่าหนึ่งร้อยคนรออยู่ด้านนอกทั้งสองตกใจมากเห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้เป็นสมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬ

เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าในใจ “บ้าฉิบ เหตุใดจึงมากันเร็วนัก?

“ไง พวกท่านมาทําอะไรที่นี่ดึกดื่นเช่นนี้? อากาศที่หนาวเหน็บนัก ข้าขอแนะนําให้พวกท่านกลับไปอาบน้ำ และพักผ่อนเสีย”เซี่ยงเส้หยุนทักทายอย่างอบอุ่นและลากตงจ่อไปอีกทางที่มี
คนน้อย

“เหอะ พวกเจ้าบุกรุกเหมืองของนิกายหุบเขาทมิฬ และยังกล้ากล่าวเหน็บแนบกับพวกเราอีกหรือ? เช่นนั้นเจ้าสมควรตาย!”คนหนึ่งกล่าวตําหนิ

“เดี๋ยว นี่ท่านกล่าวหาว่าเราบุกรุกเหมืองของท่านหรือ? เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือสถานที่ฝังศพสัตว์ประหลาดเหล่านั้นจับพวกเราเข้าไปในถ้ำหากไม่โชคดีเราคงตายไปแล้วมีผีดิบจํานวนมากภายในนั้น!” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวเกินจริง

ตอนนั้นเอง เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบให้ตงจื่อหนีไป “หนีไปเสีย ได้โอกาสแล้ว”

“ไม่! ข้าจะไม่หนีไปไหน!” ตงจอตะโกน

เซี่ยงเส้าหยุนเผยสีหน้าดูไม่ได้ เขาอุตส่ากระซิบเพื่อที่สมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬจะไม่ได้ยินแต่เด็กสาวหน้าโง่กลับตะโกนออกมา

“เหอะ หลบหนีหรือ? ดูรอบตัวเจ้าเสีย คิดว่าจะสามารถหนีไปได้งั้นหรือ?”ใครบางคนจากกายหุบเขาทมิฬกล่าว

ในตอนนั้นเอง รองเจ้าตําหนักของนิกายหุบเขาทมิฬก้าวออก และกล่าว “ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร แต่พวกเจ้าต้องมากับเรา เราจะตัดสินโชคชะตาของพวกเจ้าที่หลังพวกเจ้ามัดพวกมันไว้ หากพวกมันกล้าขัดขืนก็จงสังหารเสีย”

จิตสังหารเผยออกมาจากรองเจ้าตําหนักขณะออกคําสั่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คิดจะปล่อยพวกเขาไปจากนั้นมีสองคนเข้ามาใกล้เซี่ยงเส้าหยุนและตงจื่อ

“เจ้ากล้า…” ตงจอก้าวถอยหลัง และตะโกน

แต่ก่อนจะได้ทันกล่าวจนจบ เซี่ยงเส้าหยุนรีบวิ่งไปยังทิศทางหนึ่งและพานางไปด้วย

“ผู้ใดกล้าขวางทางข้าจะต้องตาย!” เซี่ยงเส้าหยุนคํารามขณะมังกรและพยัคฆ์ปรากฏตัวด้านหลังพยัคฆ์คํารามดังกึกก้องทําให้หูของผู้ที่ได้ยินต้องเจ็บปวด

เสียงคํารามของพยัคฆ์เป็นความสามารถโดยกําเนิดของสัตว์ปีศาจที่เซี่ยงเส้าหยุนได้รับจากการถ่ายทอดวิญญาณพยัคฆ์ขาวแม้เสียงคํารามจะไม่น่ากลัวเท่าของจริงแต่แก่นแท้ของเสียงคํารามพยัคฆ์ขาวนั้นอยู่ในเสียงคํารามนั่นอย่างแน่นอนดังนั้นเสียงคํารามจึงดูจะมีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง

สมาชิกนิกายหุบเขาทมิฬต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ ปล่อยโอกาสให้เซี่ยงเส้าหยุนพุ่งออกจากวงล้อม ด้วยก้าวราชันเก่ปรโลกทําให้เด็กหนุ่มเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพก็ไม่อาจเทียบเคียง

นอกจากนี้ เซี่ยงเส้าหยุนยังเลือกที่จะไปยังจุดที่มีคนน้อยที่สุดจึงทําให้สามารถออกจากวงล้อมและเข้าป่าไปได้โดยง่ายเขาใช้พลังทั้งหมดปลดปล่อนพลังงานออกจากเก้าดวงดาวเพื่อหลบหนี

แต่โชคไม่ดี สมาชิกนิกายหุบเขาทมิฬมีมากเกินไป แม้แต่รองเจ้าตําหนักก็อยู่ที่นี่ด้วยและพวกเขาทั้งหมดต่างเป็นชนชั้นสูงเซียงเส้าหยุน และตงซื้อไม่อาจหลบหนีไปได้โดยง่าย

รองเจ้าตําหนักพุ่งผ่านอากาศราวกับเงาขณะไล่ล่าทั้งสอง มีผู้ติดตามใกล้ชิดอีกสองถึงสามคนพวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ช่วงท้ายของระดับแปรสภาพที่ทรงพลัง

“อย่าฝันว่าจะหนีพ้น” รองเจ้าตําหนักกล่าว ก่อนจะส่งฝ่ามือทั้งสองเข้าโจมตีฝ่ามือหนึ่งพุ่งเป้าไปที่เซี่ยงเส้าหยุนขณะที่อีกมือหนึ่งพุ่งเป้าไปที่ตงจื่อ

การโจมตีอันหนักหน่วงกวาดทุกสิ่งราวกับคลื่นยักษ์ ในขณะที่กําลังจะถึงตัวทั้งสองร่างหนึ่งรากฏขึ้นและกระแทกการโจมตีกลับไปยังรองเจ้าตําหนักรองเจ้าตําหนักตกใจอย่างที่สุดและถูกส่งลอยไปด้วยการโต้กลับนั่น

ตู้ม!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+