ราชาเหนือราชัน 157 : ทําความเข้าใจต่อวิถีเต๋า

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 157 : ทําความเข้าใจต่อวิถีเต๋า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย ราชาเหนือราชัน ตอนที่ 157 : ทําความเข้าใจต่อวิถีเต๋า

ที่ถูกขนานนามว่าป่ากระบี่เพราะสถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางป่าไผ่ด้านหลังสถาบัน แต่ที่นั่นไม่มีป่าอยู่จริง มีเพียงไม่ไผ่แตกเป็นแนวยาวเท่านั้น ไม้ไผ่ทั้งหมดถูกตัดทิ้ง เหลือเพียงตอ มีบางเหตุผลที่ทําให้หน่อไม้ไผ่ไม่งอกงาม

เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนเห็นป่ากระบี่ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความประหลาดใจ ที่นี่มีตอไผ่กว่าหนึ่งพันต้น รอยตัดที่มีลักษณะเหมือนกันหมดราวกับถูกตัดออกด้วยการฟันเพียงครึ่งเดียว

“การฟันเพียงครั้งเดียวที่ตัดต้นไผ่ได้มากมาย นี่เป็นเหตุผลที่เรียกสถานที่แห่งนี้ว่าป่ากระบี่” ลั่วหยงเฉิงกล่าว เขาเองก็ตกใจเมื่อได้เห็นป่ากระบี่ครั้งแรกเช่นกัน

“ท่านทราบไหมว่าผู้ใดเป็นคนทํา?” เซียงเส้าหยุนถาม

ลั่วหยงเฉิงส่ายหัว “เราเองก็ไม่ทราบเช่นกัน

“ไม่มีผู้ใดทราบเลยหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนตกใจเมื่อได้ฟัง

ลั่วหยงเฉิงตอบกลับ “ไม่เลย หากย้อนความ ในตอนนั้นมีบุคคลสําคัญได้มายังสถาบันไผ่เขียวเพื่อถามเกี่ยวกับสุราไผ่เขียว เขาเข้ามาอยู่ที่นี่เพียงครู่เดียว ตอนแรกเราไม่ได้คิดอะไรมาก ด้วยคาดว่าเขามาพักที่นี่เพื่อดื่มด่ากับทิวทัศน์อันงดงาม แต่สิ่ง
ที่เราคาดไม่ถึงคือ วันหนึ่งเขาก็ได้ปลดปล่อยการฟันที่ท้าทายสวรรค์ สร้างความตกใจให้แก่ทุกคนในสถาบันในตอนนั้น เมื่อเรามาถึงกณพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอย่าง

ที่เจ้าเห็นแล้ว” เขาหยุดเพียงครู่ และกล่าวต่อ “ในตอนนั้นคนผู้นั้นก็จากไปแล้ว เหลือเพียงป่ากระบี่ไว้เบื้องหลังเพื่อเป็นการขอบคุณต่อสถาบันเราสําหรับสุรา”

“แค่นี้หรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามอย่างไม่เชื่อ

“ใช่ เราเพิ่งทราบว่าเขาเป็นยอดฝีมือที่ถูกซ่อน เราไม่กล้าจะถามถึงคําแนะนําต่อนะขอบนภาเลยแม้แต่น้อย กังวลว่าพวกเขาจะยึดครองป่ากระบุไว้เป็นของตนเอง หรืออาจจะทําลายมัน” ลั่วหยงเฉิงกล่าว และกล่าวเสริม “หลังจากสืบมาหลายปี เราก็พบว่าเขาคือหนึ่งในสิบจักรพรรดิแห่งนครขอบนภา จักรพรรดิกระบี่

“จักรพรรดิกระบี่หรือ? สิ่งนี้ถูกทิ้งไว้โดยผู้ฝึกยุทธ์ระดับจักรพรรดิร์นี่?” เซี่ยงเส้าหยุนดวงตาเบิกโพลงด้วยความตื่นเต้น
“เช่นนั้น ข้าจะพาศิษย์ออกจากสถานที่แห่งนี้สักครู่ เจ้าจะได้มีพื้นที่ เราจะพูดคุยกันเมื่อเจ้าเริ่มเข้าใจในเจตนากระบี่ที่นี่” ลั่วหยงเฉิงกล่าวก่อนจะเดินไปยังศิษย์ที่อยู่ในบริเวณ

เซี่ยงเส้าหยุนอยู่ที่นั่นโดยลําพัง ใช้ทุกสิ่งโดยรอบตัว ก่อนจะเริ่มเข้าไปยังป่ากระบี่ เด็กหนุ่มลูบไล้ต้นไผ่ที่ถูกตัด เมื่อสัมผัสร่องรอยการฟันอันเฉียบคม เขาก็ตื่นเต้นอย่างมาก

เมื่อพบว่าการตัดก้านไม้ไผ่มากมายในการฟันเพียงครึ่งเดียวนั้นน่าเหลือเชื่อ แต่เมื่อได้เห็นไม้ไผ่กว่าหนึ่งพันต้นที่มีรอยตัดเหมือนกันหมด แม้จะเป็นเรื่องยากจะเชื่อ นอกจากนี้ยังพบว่าต้นไผ่ที่ถูกตัดสูญเสียพลังไปจนหมดหลังจากถูกฟัน ราวกับทุกต้นได้ตายจนหมด

โดยทั่วไปแม้จะตัดต้นไผ่ไปแล้ว ไม่นานมันจะงอกงามขึ้นมาใหม่อย่างเชื่องช้า แต่ต้นไผ่กว่าหนึ่งพันต้นที่นี่ได้ตายจนหมดแล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะงอกขึ้นมาใหม่

หลังจากสํารวจโดยรอบเพียงคู่ เซี่ยงเส้าหยุนนั่งขัดสมาธิ ทําจิตใจให้สงบ และเริ่มสัมผัสธรรมชาติรอบตัว ด้วยภูมิหลังทําให้เขารู้หลายสิ่งที่ผู้อื่นไม่เคยเห็น ดังนั้น เขาจึงตระหนักดีว่าการที่บุคคลได้ทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง คนผู้นั้นจะต้องจมอยู่กับสภาพแว้มล้อมเพื่อจับความรู้สึกชั่ววูบ

การทําสมาธิผ่านไปเจ็ดวัน และเจ็ดคืน เขานั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ดื่ม หรือกิน กีดกันตัวเองให้สามารถดื่มด่กับโลกรอบตัวอย่างเต็มที่ น่าเสียดายที่เขายังไม่ได้อะไรจากการทําสมาธิแม้แต่น้อย ด้วยไม่สามารถจับความรู้สึกที่กําลังมองหาในคืนนี้ ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นยืนเพราะไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป

“เจ้าเจตนากระบี่ ข้าจะทําเช่นไรจึงจะหาเจ้าพบ?” เซี่ยงเส้าหยุนบ่นพึมพําอย่างโศกเศร้า

เขาเดินไปโดยรอบอย่างไร้จุดหมาย และเมื่อมาถึงขอบของป่ากระบี่ ด้านนอกป่ากระบี่สามารถมองเห็นต้นไผ่พลิ้วไหวไปตามสายลม

“ริ้ว”

ทันใดนั้น ลมกระโชกแรงได้พัดเอาใบไผ่ มันตกลง และบาดใบหน้าเด็กหนุ่ม เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรง เขาร้องด้วยความตกใจ และเมื่อสัมผัสใบหน้าก็พบว่ามีเลือดไหล

“ใบไผ่…สามารถสร้างบาดแผลแก่เราได้งั้นหรือ?” เซี่ยงเส้หยุนกล่าวไม่ออก

ในขณะพึมพํา สายตาก็ได้จ้องมองไปที่ใบไผ่ที่ล่องลอยในอากาศ ทันใดนั้นเขตแดนวิญญาณภายในก็เปิดใช้งาน และฉากที่น่าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นภายในหัว

ในภาพนั่น เขาเห็นร่างที่ไม่ชัดเจนนั่งไขว่ห้างในป่าไผ่ ก่อนจะเหวี่ยงกระบี่ไร้เสียงส่งพลังงานกระบี่ร่อนไปในอากาศ เกิดเสียง “หวี่” และไม่ไผ่โดยรอบก็ถูกโค่นลง

เซี่ยงเส้าหยุนยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่า ฉากนั้นฉายในใจ ทําให้เข้าสู่จิตใจที่ต่างจากผู้อื่น การฟื้นตามธรรมชาติ และเฉียบคมมาก ดูราวกับการฟันแบบเบาสบาย แต่ก็แฝงไปด้วยพลังพิเศษภายใน ด้านการฟันเพียงครั้งเดียว ต้นไผ่กว่าหนึ่งพันต้นก็ถูกโค่นลง

คนผู้นั้นประสบความสําเร็จได้อย่างไรกัน?

เซี่ยงเส้าหยุนมองดูภาพที่ฉายวนภายในหัวซ้ําแล้วซ้ําเล่า พยายามหาแก่นสําคัญที่อยู่เบื้องหลัง แต่ขณะเดียวกัน เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งที่จะเข้าใจในแก่นสําคัญอย่างแท้จริง ในตอนนั้นเอง เด็กหนุ่มก็เข้าใจว่าเขาถูกใบไผ่บาดที่ใบหน้าได้อย่างไร แม้ใบไม้จะดูไม่อันตราย แต่มันได้สร้างบาดแผลให้เขาอย่างแท้จริง

ทําอย่างไรกัน?

เซี่ยงเส้าหยุนครุ่นคิดไม่หยุดหย่อน เขานั่งทําสมาธิโดยไม่รู้ตัว และกระบี่ราชันผ่าเมฆาได้ปรากฏขึ้นบนตัก เป็นอีกครั้งที่เข้าสู่สมาธิอันลึกซึ้งกว่าครั้งก่อน

แม้จะมีมดไต่บนร่างกาย แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่รู้ตัว แม้แต่นกมาเกาะที่หัว เขาได้ผสมผสายตนเองเข้าสู่โลกรอบตัวอย่างสมบูรณ์ นี่เป็นสถานะที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าใจวิถีแห่งเต๋า

ครึ่งเดือนผ่านไปในชั่วพริบตา เด็กหนุ่มถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ตาย และนก ราวกับเป็นรูปปั้น ในวันนี้ กระบี่ราชันผ่าเมฆาบนตักได้เริ่มสั่นสะท้าน เส้นพลังสีม่วง และทองเริ่มเล็ดลอดออกจากกระบี่ เซี่ยงเส้าหยุนจับกระบี่ และเหวี่ยงมันอย่างเบาบาง

พี่บ!

พลังงานจากกระบี่ถูกยิงออก ก่อนจะหายไปในทันที กระบี่กลับสู่ตําแหน่งเดิม และทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ริ้ว!

ลมพัดผ่านไร้เสียง ไม้ไผ่แกว่งไปมาเบาบาง

ฟับ! ฟบ!

ถัดจากนั้น ไม้ไผ่ได้แกว่งไกวต่อหน้าเซี่ยงเส้าหยุนก็พังทลายลง ลั่วหยงเฉิงได้เข้ามาในบริเวณใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียง หัวใจของเขาก็เต้นเร็ว และรุนแรง ภายในร้องออกด้วยความตื่นตระหนก นะ นี่เขาไม่สามารถเข้าใจมันได้จริง ใช่ไหม?

เขาพุ่งตัวไปหาเซี่ยงเส้าหยุนในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาเหนือราชัน 157 : ทําความเข้าใจต่อวิถีเต๋า

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 157 : ทําความเข้าใจต่อวิถีเต๋า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย ราชาเหนือราชัน ตอนที่ 157 : ทําความเข้าใจต่อวิถีเต๋า

ที่ถูกขนานนามว่าป่ากระบี่เพราะสถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางป่าไผ่ด้านหลังสถาบัน แต่ที่นั่นไม่มีป่าอยู่จริง มีเพียงไม่ไผ่แตกเป็นแนวยาวเท่านั้น ไม้ไผ่ทั้งหมดถูกตัดทิ้ง เหลือเพียงตอ มีบางเหตุผลที่ทําให้หน่อไม้ไผ่ไม่งอกงาม

เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนเห็นป่ากระบี่ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความประหลาดใจ ที่นี่มีตอไผ่กว่าหนึ่งพันต้น รอยตัดที่มีลักษณะเหมือนกันหมดราวกับถูกตัดออกด้วยการฟันเพียงครึ่งเดียว

“การฟันเพียงครั้งเดียวที่ตัดต้นไผ่ได้มากมาย นี่เป็นเหตุผลที่เรียกสถานที่แห่งนี้ว่าป่ากระบี่” ลั่วหยงเฉิงกล่าว เขาเองก็ตกใจเมื่อได้เห็นป่ากระบี่ครั้งแรกเช่นกัน

“ท่านทราบไหมว่าผู้ใดเป็นคนทํา?” เซียงเส้าหยุนถาม

ลั่วหยงเฉิงส่ายหัว “เราเองก็ไม่ทราบเช่นกัน

“ไม่มีผู้ใดทราบเลยหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนตกใจเมื่อได้ฟัง

ลั่วหยงเฉิงตอบกลับ “ไม่เลย หากย้อนความ ในตอนนั้นมีบุคคลสําคัญได้มายังสถาบันไผ่เขียวเพื่อถามเกี่ยวกับสุราไผ่เขียว เขาเข้ามาอยู่ที่นี่เพียงครู่เดียว ตอนแรกเราไม่ได้คิดอะไรมาก ด้วยคาดว่าเขามาพักที่นี่เพื่อดื่มด่ากับทิวทัศน์อันงดงาม แต่สิ่ง
ที่เราคาดไม่ถึงคือ วันหนึ่งเขาก็ได้ปลดปล่อยการฟันที่ท้าทายสวรรค์ สร้างความตกใจให้แก่ทุกคนในสถาบันในตอนนั้น เมื่อเรามาถึงกณพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอย่าง

ที่เจ้าเห็นแล้ว” เขาหยุดเพียงครู่ และกล่าวต่อ “ในตอนนั้นคนผู้นั้นก็จากไปแล้ว เหลือเพียงป่ากระบี่ไว้เบื้องหลังเพื่อเป็นการขอบคุณต่อสถาบันเราสําหรับสุรา”

“แค่นี้หรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามอย่างไม่เชื่อ

“ใช่ เราเพิ่งทราบว่าเขาเป็นยอดฝีมือที่ถูกซ่อน เราไม่กล้าจะถามถึงคําแนะนําต่อนะขอบนภาเลยแม้แต่น้อย กังวลว่าพวกเขาจะยึดครองป่ากระบุไว้เป็นของตนเอง หรืออาจจะทําลายมัน” ลั่วหยงเฉิงกล่าว และกล่าวเสริม “หลังจากสืบมาหลายปี เราก็พบว่าเขาคือหนึ่งในสิบจักรพรรดิแห่งนครขอบนภา จักรพรรดิกระบี่

“จักรพรรดิกระบี่หรือ? สิ่งนี้ถูกทิ้งไว้โดยผู้ฝึกยุทธ์ระดับจักรพรรดิร์นี่?” เซี่ยงเส้าหยุนดวงตาเบิกโพลงด้วยความตื่นเต้น
“เช่นนั้น ข้าจะพาศิษย์ออกจากสถานที่แห่งนี้สักครู่ เจ้าจะได้มีพื้นที่ เราจะพูดคุยกันเมื่อเจ้าเริ่มเข้าใจในเจตนากระบี่ที่นี่” ลั่วหยงเฉิงกล่าวก่อนจะเดินไปยังศิษย์ที่อยู่ในบริเวณ

เซี่ยงเส้าหยุนอยู่ที่นั่นโดยลําพัง ใช้ทุกสิ่งโดยรอบตัว ก่อนจะเริ่มเข้าไปยังป่ากระบี่ เด็กหนุ่มลูบไล้ต้นไผ่ที่ถูกตัด เมื่อสัมผัสร่องรอยการฟันอันเฉียบคม เขาก็ตื่นเต้นอย่างมาก

เมื่อพบว่าการตัดก้านไม้ไผ่มากมายในการฟันเพียงครึ่งเดียวนั้นน่าเหลือเชื่อ แต่เมื่อได้เห็นไม้ไผ่กว่าหนึ่งพันต้นที่มีรอยตัดเหมือนกันหมด แม้จะเป็นเรื่องยากจะเชื่อ นอกจากนี้ยังพบว่าต้นไผ่ที่ถูกตัดสูญเสียพลังไปจนหมดหลังจากถูกฟัน ราวกับทุกต้นได้ตายจนหมด

โดยทั่วไปแม้จะตัดต้นไผ่ไปแล้ว ไม่นานมันจะงอกงามขึ้นมาใหม่อย่างเชื่องช้า แต่ต้นไผ่กว่าหนึ่งพันต้นที่นี่ได้ตายจนหมดแล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะงอกขึ้นมาใหม่

หลังจากสํารวจโดยรอบเพียงคู่ เซี่ยงเส้าหยุนนั่งขัดสมาธิ ทําจิตใจให้สงบ และเริ่มสัมผัสธรรมชาติรอบตัว ด้วยภูมิหลังทําให้เขารู้หลายสิ่งที่ผู้อื่นไม่เคยเห็น ดังนั้น เขาจึงตระหนักดีว่าการที่บุคคลได้ทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง คนผู้นั้นจะต้องจมอยู่กับสภาพแว้มล้อมเพื่อจับความรู้สึกชั่ววูบ

การทําสมาธิผ่านไปเจ็ดวัน และเจ็ดคืน เขานั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ดื่ม หรือกิน กีดกันตัวเองให้สามารถดื่มด่กับโลกรอบตัวอย่างเต็มที่ น่าเสียดายที่เขายังไม่ได้อะไรจากการทําสมาธิแม้แต่น้อย ด้วยไม่สามารถจับความรู้สึกที่กําลังมองหาในคืนนี้ ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นยืนเพราะไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป

“เจ้าเจตนากระบี่ ข้าจะทําเช่นไรจึงจะหาเจ้าพบ?” เซี่ยงเส้าหยุนบ่นพึมพําอย่างโศกเศร้า

เขาเดินไปโดยรอบอย่างไร้จุดหมาย และเมื่อมาถึงขอบของป่ากระบี่ ด้านนอกป่ากระบี่สามารถมองเห็นต้นไผ่พลิ้วไหวไปตามสายลม

“ริ้ว”

ทันใดนั้น ลมกระโชกแรงได้พัดเอาใบไผ่ มันตกลง และบาดใบหน้าเด็กหนุ่ม เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรง เขาร้องด้วยความตกใจ และเมื่อสัมผัสใบหน้าก็พบว่ามีเลือดไหล

“ใบไผ่…สามารถสร้างบาดแผลแก่เราได้งั้นหรือ?” เซี่ยงเส้หยุนกล่าวไม่ออก

ในขณะพึมพํา สายตาก็ได้จ้องมองไปที่ใบไผ่ที่ล่องลอยในอากาศ ทันใดนั้นเขตแดนวิญญาณภายในก็เปิดใช้งาน และฉากที่น่าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นภายในหัว

ในภาพนั่น เขาเห็นร่างที่ไม่ชัดเจนนั่งไขว่ห้างในป่าไผ่ ก่อนจะเหวี่ยงกระบี่ไร้เสียงส่งพลังงานกระบี่ร่อนไปในอากาศ เกิดเสียง “หวี่” และไม่ไผ่โดยรอบก็ถูกโค่นลง

เซี่ยงเส้าหยุนยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่า ฉากนั้นฉายในใจ ทําให้เข้าสู่จิตใจที่ต่างจากผู้อื่น การฟื้นตามธรรมชาติ และเฉียบคมมาก ดูราวกับการฟันแบบเบาสบาย แต่ก็แฝงไปด้วยพลังพิเศษภายใน ด้านการฟันเพียงครั้งเดียว ต้นไผ่กว่าหนึ่งพันต้นก็ถูกโค่นลง

คนผู้นั้นประสบความสําเร็จได้อย่างไรกัน?

เซี่ยงเส้าหยุนมองดูภาพที่ฉายวนภายในหัวซ้ําแล้วซ้ําเล่า พยายามหาแก่นสําคัญที่อยู่เบื้องหลัง แต่ขณะเดียวกัน เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งที่จะเข้าใจในแก่นสําคัญอย่างแท้จริง ในตอนนั้นเอง เด็กหนุ่มก็เข้าใจว่าเขาถูกใบไผ่บาดที่ใบหน้าได้อย่างไร แม้ใบไม้จะดูไม่อันตราย แต่มันได้สร้างบาดแผลให้เขาอย่างแท้จริง

ทําอย่างไรกัน?

เซี่ยงเส้าหยุนครุ่นคิดไม่หยุดหย่อน เขานั่งทําสมาธิโดยไม่รู้ตัว และกระบี่ราชันผ่าเมฆาได้ปรากฏขึ้นบนตัก เป็นอีกครั้งที่เข้าสู่สมาธิอันลึกซึ้งกว่าครั้งก่อน

แม้จะมีมดไต่บนร่างกาย แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่รู้ตัว แม้แต่นกมาเกาะที่หัว เขาได้ผสมผสายตนเองเข้าสู่โลกรอบตัวอย่างสมบูรณ์ นี่เป็นสถานะที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าใจวิถีแห่งเต๋า

ครึ่งเดือนผ่านไปในชั่วพริบตา เด็กหนุ่มถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ตาย และนก ราวกับเป็นรูปปั้น ในวันนี้ กระบี่ราชันผ่าเมฆาบนตักได้เริ่มสั่นสะท้าน เส้นพลังสีม่วง และทองเริ่มเล็ดลอดออกจากกระบี่ เซี่ยงเส้าหยุนจับกระบี่ และเหวี่ยงมันอย่างเบาบาง

พี่บ!

พลังงานจากกระบี่ถูกยิงออก ก่อนจะหายไปในทันที กระบี่กลับสู่ตําแหน่งเดิม และทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ริ้ว!

ลมพัดผ่านไร้เสียง ไม้ไผ่แกว่งไปมาเบาบาง

ฟับ! ฟบ!

ถัดจากนั้น ไม้ไผ่ได้แกว่งไกวต่อหน้าเซี่ยงเส้าหยุนก็พังทลายลง ลั่วหยงเฉิงได้เข้ามาในบริเวณใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียง หัวใจของเขาก็เต้นเร็ว และรุนแรง ภายในร้องออกด้วยความตื่นตระหนก นะ นี่เขาไม่สามารถเข้าใจมันได้จริง ใช่ไหม?

เขาพุ่งตัวไปหาเซี่ยงเส้าหยุนในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+