วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 1065 กลับไปเอง

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 1065 กลับไปเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนที่อยู่บนเตียง ย่อมจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว

เธอรอไปสักพัก เห็นลู่จิ่งเซินไม่มีปฏิกิริยา ก็เลยอยากรู้อยากเห็นยื่นมือจะไปลูบหน้าผากของเขา

แต่มือยังอยู่กลางอากาศ เดิมทีผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับสักนิด อยู่ดีๆลืมตาขึ้นพริบตาเดียวก็จับข้อมือของเธอไว้เลย

นั่นคือสีหน้าที่ทำให้จิ่งหนิงมีความรู้สึกแปลกหน้าอย่างยิ่งแบบหนึ่ง

ก็เหมือน กำลังจ้องมองคนคนหนึ่งที่ไม่รู้จักหรืออาจจะเป็นศัตรู

ในใจจิ่งหนิงยิ้มขม

ก็ใช่ ตอนนี้เธอสำหรับลู่จิ่งเซินมากล่าว จะไม่ใช่ศัตรูเหรอ?

ถึงยังไง แม้เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูจากสภาพการณ์ก่อนหน้านี้ก็มองออกว่าลู่จิ่งเซินกำลังไล่ฆ่าหนานกงจิ่นอยู่ แต่ตนเองกลับจับพลัดจับผลูช่วยเขาเลย

ดังนั้น เธอก็ไม่มีอะไรจะตัดพ้อนะ

จิ่งหนิงเม้มปากแล้วเม้มปากอีก ฝืนใจอดทนความรู้สึกประหลาดตอนที่เผชิญหน้ากับสายตาแบบนั้นของเขาไว้ ถามว่า“คุณตื่นแล้วเหรอ? รู้สึกเป็นยังไงบ้าง? มีที่ไหนไม่สบายไหม?”

ลู่จิ่งเซินเอามือเธอออกอย่างเย็นชา ลุกขึ้นมานั่ง

“นี่เป็นสถานที่อะไร?”

เขาพินิจพิเคราะห์บริเวณรอบๆหนึ่งที ถามเสียงแหบ

อาจเป็นเพราะว่าได้รับบาดเจ็บ เสียงของเขาปรากฏเป็นเสียงแหบที่ผิดปกติอย่างหนึ่ง

จิ่งหนิงมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย “คุณก็ไม่รู้เช่นกันเหรอ? ฉันยังคิดว่าเป็นคนของคุณช่วยพวกเราขึ้นมา คุณน่าจะรู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหนล่ะ”

“คนของผมเหรอ?”

ลู่จิ่งเซินจ้องมองเธอหนึ่งทีอย่างแปลกประหลาด “คนของผมอะไร?”

จิ่งหนิงอึ้งชะงัก

ต่อจากนี้ ก็ได้ยินเสียงที่มีความต่ำของเขาเล็กน้อย “คนของผมตายอยู่บนเรือไปนานแล้ว”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักอย่างโหดร้าย!

“ถ้าว่าอย่างนี้ พวกเขาไม่ใช่……”

รู้สึกถึงอะไร ฉับพลันในทันทีเธอหุบปากไว้

ลู่จิ่งเซินไม่ได้พูด สำรวจเครื่องมือที่เชื่อมต่ออยู่บนกายของตนเองสักหน่อย ก็ยื่นมือดึงท่อออกเลย จากนั้นก็สวมใส่แจ็คเก็ตไว้ เดินไปยังข้างนอก

จิ่งหนิงรีบตามเข้าไป

ข้างนอกล้วนไม่มีสักคนเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ อาจจะมีลู่จิ่งเซินอยู่ เธอกลับสำรวจได้ของบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน

อย่างเช่น ในกลางอากาศดูเหมือนมีแสงสีแดงอ่อนๆผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่า นั่นเป็นเซนเซอร์อินฟราเรด

ลู่จิ่งเซินพูดเสียงเย็นชาว่า “ตามให้แน่น ผมทำยังไงคุณก็ทำตามแบบนั้น”

“โอ๊ะ。”

จิ่งหนิงขานรับอย่างเชื่อฟัง ติดตามอยู่ข้างหลังเขา เดินออกไปยังข้างนอกทีละก้าวๆ

ประมาณห้านาที ทั้งสองคนก็เดินมาถึงข้างนอกแล้ว

ลู่จิ่งเซินไม่รู้ว่าได้เสื้อผ้าของพนักงานทำความสะอาดมาจากไหนตัวหนึ่งโยนให้เธอ ให้เธอเปลี่ยนเลย ตนเองก็เปลี่ยนอีกชุดหนึ่งที่เหมือนกันทุกอย่างเช่นกัน จากนั้นลากรถขยะจากทางเดินมาคันหนึ่ง ก้มหัวเดินไปยังข้างนอกด้วยกัน

ตลอดทางนี้ออกมา ไม่ลำบากเลย

ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงข้างนอก ลู่จิ่งเซินจ้องมองเธอหนึ่งที เสียงเข้มพูดว่า “คุณจะตามผมไป หรือว่าจะกลับไปเอง?”

จิ่งหนิงนี่จึงรู้สึกถึงว่าตนเองปลอดภัยแล้ว

ดังนั้น เธอส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก

“ฉันกลับไปเอง”

ถึงแม้ว่าความคิดที่อยู่ในใจแท้ๆของจิ่งหนิงคือจะตามลู่จิ่งเซินไป อย่างนี้เธอจึงจะสามารถรู้ได้ว่าตกลงลู่จิ่งเซินทำอะไรอยู่

แต่คำพูดที่พูดออกจากปาก กลับไม่ทำตามการตัดสินใจของเธอ

ในเวลานี้ จิ่งหนิงจึงรู้สึกถึงว่าถึงแม้ตอนนี้เธอกลับไปอดีต แต่ตามความจริง เธอเพียงแค่ผู้ชมคนหนึ่งเท่านั้น

เรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้น เธอได้แต่เพียงจ้องมองไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงใดๆได้เลย

ลู่จิ่งเซินพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน หมุนตัวขึ้นรถไปเลย

จิ่งหนิงก็เรียกรถรถแท็กซี่คันหนึ่งจากข้างถนนเช่นกัน นั่งรถไปยังโรงเรียน

ถึงโรงเรียนแล้ว ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่เธอคุ้นเคยแห่งนั้น

เธอหายตัวไปหลายวัน ทุกคนล้วนถามเธอว่าเป็นยังไงแล้ว ไปไหนแล้ว เธอก็ไม่กล้าพูดเช่นกัน ล้วนทำให้ผ่านไปลวกๆอย่างคลุมเครือ

เดิมทีคิดว่า ชีวิตจะสงบเงียบอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ

แต่นึกไม่ถึง มีวันหนึ่ง เดิมทีที่เธอคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่มีการสื่อสารอะไรในชีวิตอีก ปรากฏตัวอีกแล้ว

ในครั้งนี้ เป็นเพราะว่าเธอได้รับใบแจ้งในการบริจาคไข่ฉบับหนึ่ง

ไม่มีทางอื่น จิ่งหนิงถูกไล่ออกจากบ้าน สิ้นเนื้อประดาตัว มหาวิทยาลัยที่เธอเรียนในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าพักอยู่ในโรงเรียนแต่ค่าเทอมบวกกับค่าหอพักก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยก้อนหนึ่งเช่นกัน

แต่เธอเอาเงินมากขนาดนี้ออกมาไม่ได้เลยสักนิด เห็นกับตาว่าวันที่จะเปิดเทอมก็ใกล้จะมาถึงแล้ว โทรศัพท์ที่ทวงค่าเทอมโทรมาต่อๆกัน

เธอไม่มีทางออกจริงๆ มีวันหนึ่งพบเห็นว่ามีคนต้องการสิ่งนี้โดยไม่เจตนา คิดทุกแง่ทุกมุม ถึงยังไงก็บริจาคแค่ครั้งเดียว ทั้งไม่ส่งผลกระทบอะไร ดังนั้นก็ไปเลย

นึกไม่ถึง คนที่ต้องการรับบริจาคคนนั้น กลับเป็นลู่จิ่งเซิน

วินาทีนั้น จิ่งหนิงจ้องมองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามทั้งคุ้นเคยทั้งเย็นชาคนนั้น ทันใดนั้นอารมณ์สลับซับซ้อน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

ถ้าหากเธอไม่รู้ว่าตนเองตอนนี้คืออยู่ในความทรงจำของตนเองเมื่อก่อน ยังคิดไม่ถึงจริงๆ ทั้งสองคนมีวันหนึ่งจะพบกันในสภาพการณ์แบบนี้

ลู่จิ่งเซินมองเห็นเธอ ดูเหมือนประหลาดใจมากเช่นกัน

หลังจากผ่านความประหลาดใจ กลับไม่นานก็ยอมรับความจริงนี้แล้ว

“คุณก็คือคนที่พวกเขาหามาเหรอ?”

จิ่งหนิงมองเห็นตนเองพยักหน้าอย่างงุนงง “ใช่”

“รู้ว่าพวกเขาหาคุณมาทำอะไรไหม?”

“รู้”

“ได้ งั้นก็ไปตรวจเช็คร่างกายเถอะ”

ต่อจากนี้ จิ่งหนิงก็ตามเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนไปตรวจเช็ค ทั้งร่างกายให้กับตนเอง

หลังจากตรวจเสร็จ เธอถูกพากลับไปในห้องนั้นอีก

เพียงเห็นลู่จิ่งเซินเปลี่ยนชุดสูทที่งดงามทั้งตัวไว้แล้ว นั่งอยู่ที่นั่นก็คือทัศนียภาพที่สวยงามทั้งตัวอย่างหนึ่ง ลักษณะท่าทีล้วนไม่เหมือนกันกับครั้งก่อนที่เธอเห็นอยู่บนเรือสำราญ

จิ่งหนิงมีความกังวลเล็กน้อย

“เรื่องนั้น……ถ้าหากเงื่อนไขได้มาตรฐานล่ะก็ พวกคุณสามารถจ่ายเงินได้เมื่อไหร่ล่ะ?”

ลู่จิ่งเซินเปิดดูผลการตรวจเช็คร่างกายของเธอ ไม่มีอารมณ์อะไรตอบกลับ “ไม่นาน”

เขาเปิดดูผลตรวจเสร็จ ดูเหมือนพอใจมาก

ดังนั้นถามจิ่งหนิง “การผ่าตัดนี้ อาจจะไม่สำเร็จในครั้งเดียว ดังนั้นคุณต้องอยู่ที่นี่หลายวัน คุณยินยอมไหม?”

จิ่งหนิงรีบพยักหน้า “ยินยอม”

ดังนั้น ลู่จิ่งเซินก็ให้คนพาเธอลงไป

ช่วงเวลาต่อมานี้ จิ่งหนิงก็พักอยู่ในบ้านที่ฟุ่มเฟือยมากสวยงามมากหลังหนึ่ง

บางครั้งบางคราวลู่จิ่งเซินจะเข้ามา แต่ล้วนมาดูความคืบหน้า

เขากับจิ่งหนิงแทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกัน แต่จิ่งหนิงกลับรู้สึกได้ว่า ลักษณะท่าทีของผู้ชายคนนี้ที่ตนเองได้พบเห็นไม่เหมือนกับก่อนหน้านั้น

เธอก็ไม่เข้าใจ ตกลงไม่เหมือนตรงไหน เพียงแค่ทำเรื่องของตนเองอย่างเงียบๆ

ศึกษาบทเรียนล่วงหน้า เตรียมตัวไปโรงเรียน ตอนนี้ได้เพียงแค่เงิน การเรียนของเธอก็จะไปต่อได้แล้ว

ในที่สุด มีวันหนึ่ง การเก็บตัวอย่างสำเร็จ

ลู่จิ่งเซินเอาการ์ดที่มีเงินหนึ่งล้านใบหนึ่งให้เธอ ทั้งสองคนนี้ก็ถือว่าทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นการซื้อขาย

จิ่งหนิงได้เงิน กำลังจะออกไป

แต่ก็อยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆกลับมีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา

บนกายคนกลุ่มนั้นดูเหมือนมัดของอะไรไว้ เธอยังไม่ทันมองให้ชัด ก็ถูกคนคนหนึ่งจับไว้อย่างแน่นแล้ว

ต่อจากนี้ก็ได้ยินว่ามีคนร้องตะโกนเสียงเคร่งขรึมเฉียบขาด “เพื่อเจ้านาย ระเบิดที่นี่เดี๋ยวนี้”

เสียงระเบิดที่ใหญ่โตมโหฬารดังขึ้น จิ่งหนิงถูกระเบิดจนสมองล้วนมึนงงแล้ว อยู่ดีๆในใจก็เหมือนมีสายธนูเส้นหนึ่งถูกปล่อยออกไปอย่างนั้นเลย เหมือนดั่งชั่วพริบตาเดียวสูญเสียแรงกำลังทั้งหมด

และในเวลานี้ อยู่ดีๆข้อมือแน่นขึ้น

อีกคนหนึ่งจับแขนของเธอไว้ พาเธอเข้าไปในอ้อมอกของตนเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 1065 กลับไปเอง

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 1065 กลับไปเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนที่อยู่บนเตียง ย่อมจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว

เธอรอไปสักพัก เห็นลู่จิ่งเซินไม่มีปฏิกิริยา ก็เลยอยากรู้อยากเห็นยื่นมือจะไปลูบหน้าผากของเขา

แต่มือยังอยู่กลางอากาศ เดิมทีผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับสักนิด อยู่ดีๆลืมตาขึ้นพริบตาเดียวก็จับข้อมือของเธอไว้เลย

นั่นคือสีหน้าที่ทำให้จิ่งหนิงมีความรู้สึกแปลกหน้าอย่างยิ่งแบบหนึ่ง

ก็เหมือน กำลังจ้องมองคนคนหนึ่งที่ไม่รู้จักหรืออาจจะเป็นศัตรู

ในใจจิ่งหนิงยิ้มขม

ก็ใช่ ตอนนี้เธอสำหรับลู่จิ่งเซินมากล่าว จะไม่ใช่ศัตรูเหรอ?

ถึงยังไง แม้เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูจากสภาพการณ์ก่อนหน้านี้ก็มองออกว่าลู่จิ่งเซินกำลังไล่ฆ่าหนานกงจิ่นอยู่ แต่ตนเองกลับจับพลัดจับผลูช่วยเขาเลย

ดังนั้น เธอก็ไม่มีอะไรจะตัดพ้อนะ

จิ่งหนิงเม้มปากแล้วเม้มปากอีก ฝืนใจอดทนความรู้สึกประหลาดตอนที่เผชิญหน้ากับสายตาแบบนั้นของเขาไว้ ถามว่า“คุณตื่นแล้วเหรอ? รู้สึกเป็นยังไงบ้าง? มีที่ไหนไม่สบายไหม?”

ลู่จิ่งเซินเอามือเธอออกอย่างเย็นชา ลุกขึ้นมานั่ง

“นี่เป็นสถานที่อะไร?”

เขาพินิจพิเคราะห์บริเวณรอบๆหนึ่งที ถามเสียงแหบ

อาจเป็นเพราะว่าได้รับบาดเจ็บ เสียงของเขาปรากฏเป็นเสียงแหบที่ผิดปกติอย่างหนึ่ง

จิ่งหนิงมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย “คุณก็ไม่รู้เช่นกันเหรอ? ฉันยังคิดว่าเป็นคนของคุณช่วยพวกเราขึ้นมา คุณน่าจะรู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหนล่ะ”

“คนของผมเหรอ?”

ลู่จิ่งเซินจ้องมองเธอหนึ่งทีอย่างแปลกประหลาด “คนของผมอะไร?”

จิ่งหนิงอึ้งชะงัก

ต่อจากนี้ ก็ได้ยินเสียงที่มีความต่ำของเขาเล็กน้อย “คนของผมตายอยู่บนเรือไปนานแล้ว”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักอย่างโหดร้าย!

“ถ้าว่าอย่างนี้ พวกเขาไม่ใช่……”

รู้สึกถึงอะไร ฉับพลันในทันทีเธอหุบปากไว้

ลู่จิ่งเซินไม่ได้พูด สำรวจเครื่องมือที่เชื่อมต่ออยู่บนกายของตนเองสักหน่อย ก็ยื่นมือดึงท่อออกเลย จากนั้นก็สวมใส่แจ็คเก็ตไว้ เดินไปยังข้างนอก

จิ่งหนิงรีบตามเข้าไป

ข้างนอกล้วนไม่มีสักคนเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ อาจจะมีลู่จิ่งเซินอยู่ เธอกลับสำรวจได้ของบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน

อย่างเช่น ในกลางอากาศดูเหมือนมีแสงสีแดงอ่อนๆผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่า นั่นเป็นเซนเซอร์อินฟราเรด

ลู่จิ่งเซินพูดเสียงเย็นชาว่า “ตามให้แน่น ผมทำยังไงคุณก็ทำตามแบบนั้น”

“โอ๊ะ。”

จิ่งหนิงขานรับอย่างเชื่อฟัง ติดตามอยู่ข้างหลังเขา เดินออกไปยังข้างนอกทีละก้าวๆ

ประมาณห้านาที ทั้งสองคนก็เดินมาถึงข้างนอกแล้ว

ลู่จิ่งเซินไม่รู้ว่าได้เสื้อผ้าของพนักงานทำความสะอาดมาจากไหนตัวหนึ่งโยนให้เธอ ให้เธอเปลี่ยนเลย ตนเองก็เปลี่ยนอีกชุดหนึ่งที่เหมือนกันทุกอย่างเช่นกัน จากนั้นลากรถขยะจากทางเดินมาคันหนึ่ง ก้มหัวเดินไปยังข้างนอกด้วยกัน

ตลอดทางนี้ออกมา ไม่ลำบากเลย

ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงข้างนอก ลู่จิ่งเซินจ้องมองเธอหนึ่งที เสียงเข้มพูดว่า “คุณจะตามผมไป หรือว่าจะกลับไปเอง?”

จิ่งหนิงนี่จึงรู้สึกถึงว่าตนเองปลอดภัยแล้ว

ดังนั้น เธอส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก

“ฉันกลับไปเอง”

ถึงแม้ว่าความคิดที่อยู่ในใจแท้ๆของจิ่งหนิงคือจะตามลู่จิ่งเซินไป อย่างนี้เธอจึงจะสามารถรู้ได้ว่าตกลงลู่จิ่งเซินทำอะไรอยู่

แต่คำพูดที่พูดออกจากปาก กลับไม่ทำตามการตัดสินใจของเธอ

ในเวลานี้ จิ่งหนิงจึงรู้สึกถึงว่าถึงแม้ตอนนี้เธอกลับไปอดีต แต่ตามความจริง เธอเพียงแค่ผู้ชมคนหนึ่งเท่านั้น

เรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้น เธอได้แต่เพียงจ้องมองไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงใดๆได้เลย

ลู่จิ่งเซินพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน หมุนตัวขึ้นรถไปเลย

จิ่งหนิงก็เรียกรถรถแท็กซี่คันหนึ่งจากข้างถนนเช่นกัน นั่งรถไปยังโรงเรียน

ถึงโรงเรียนแล้ว ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่เธอคุ้นเคยแห่งนั้น

เธอหายตัวไปหลายวัน ทุกคนล้วนถามเธอว่าเป็นยังไงแล้ว ไปไหนแล้ว เธอก็ไม่กล้าพูดเช่นกัน ล้วนทำให้ผ่านไปลวกๆอย่างคลุมเครือ

เดิมทีคิดว่า ชีวิตจะสงบเงียบอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ

แต่นึกไม่ถึง มีวันหนึ่ง เดิมทีที่เธอคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่มีการสื่อสารอะไรในชีวิตอีก ปรากฏตัวอีกแล้ว

ในครั้งนี้ เป็นเพราะว่าเธอได้รับใบแจ้งในการบริจาคไข่ฉบับหนึ่ง

ไม่มีทางอื่น จิ่งหนิงถูกไล่ออกจากบ้าน สิ้นเนื้อประดาตัว มหาวิทยาลัยที่เธอเรียนในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าพักอยู่ในโรงเรียนแต่ค่าเทอมบวกกับค่าหอพักก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยก้อนหนึ่งเช่นกัน

แต่เธอเอาเงินมากขนาดนี้ออกมาไม่ได้เลยสักนิด เห็นกับตาว่าวันที่จะเปิดเทอมก็ใกล้จะมาถึงแล้ว โทรศัพท์ที่ทวงค่าเทอมโทรมาต่อๆกัน

เธอไม่มีทางออกจริงๆ มีวันหนึ่งพบเห็นว่ามีคนต้องการสิ่งนี้โดยไม่เจตนา คิดทุกแง่ทุกมุม ถึงยังไงก็บริจาคแค่ครั้งเดียว ทั้งไม่ส่งผลกระทบอะไร ดังนั้นก็ไปเลย

นึกไม่ถึง คนที่ต้องการรับบริจาคคนนั้น กลับเป็นลู่จิ่งเซิน

วินาทีนั้น จิ่งหนิงจ้องมองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามทั้งคุ้นเคยทั้งเย็นชาคนนั้น ทันใดนั้นอารมณ์สลับซับซ้อน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

ถ้าหากเธอไม่รู้ว่าตนเองตอนนี้คืออยู่ในความทรงจำของตนเองเมื่อก่อน ยังคิดไม่ถึงจริงๆ ทั้งสองคนมีวันหนึ่งจะพบกันในสภาพการณ์แบบนี้

ลู่จิ่งเซินมองเห็นเธอ ดูเหมือนประหลาดใจมากเช่นกัน

หลังจากผ่านความประหลาดใจ กลับไม่นานก็ยอมรับความจริงนี้แล้ว

“คุณก็คือคนที่พวกเขาหามาเหรอ?”

จิ่งหนิงมองเห็นตนเองพยักหน้าอย่างงุนงง “ใช่”

“รู้ว่าพวกเขาหาคุณมาทำอะไรไหม?”

“รู้”

“ได้ งั้นก็ไปตรวจเช็คร่างกายเถอะ”

ต่อจากนี้ จิ่งหนิงก็ตามเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนไปตรวจเช็ค ทั้งร่างกายให้กับตนเอง

หลังจากตรวจเสร็จ เธอถูกพากลับไปในห้องนั้นอีก

เพียงเห็นลู่จิ่งเซินเปลี่ยนชุดสูทที่งดงามทั้งตัวไว้แล้ว นั่งอยู่ที่นั่นก็คือทัศนียภาพที่สวยงามทั้งตัวอย่างหนึ่ง ลักษณะท่าทีล้วนไม่เหมือนกันกับครั้งก่อนที่เธอเห็นอยู่บนเรือสำราญ

จิ่งหนิงมีความกังวลเล็กน้อย

“เรื่องนั้น……ถ้าหากเงื่อนไขได้มาตรฐานล่ะก็ พวกคุณสามารถจ่ายเงินได้เมื่อไหร่ล่ะ?”

ลู่จิ่งเซินเปิดดูผลการตรวจเช็คร่างกายของเธอ ไม่มีอารมณ์อะไรตอบกลับ “ไม่นาน”

เขาเปิดดูผลตรวจเสร็จ ดูเหมือนพอใจมาก

ดังนั้นถามจิ่งหนิง “การผ่าตัดนี้ อาจจะไม่สำเร็จในครั้งเดียว ดังนั้นคุณต้องอยู่ที่นี่หลายวัน คุณยินยอมไหม?”

จิ่งหนิงรีบพยักหน้า “ยินยอม”

ดังนั้น ลู่จิ่งเซินก็ให้คนพาเธอลงไป

ช่วงเวลาต่อมานี้ จิ่งหนิงก็พักอยู่ในบ้านที่ฟุ่มเฟือยมากสวยงามมากหลังหนึ่ง

บางครั้งบางคราวลู่จิ่งเซินจะเข้ามา แต่ล้วนมาดูความคืบหน้า

เขากับจิ่งหนิงแทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกัน แต่จิ่งหนิงกลับรู้สึกได้ว่า ลักษณะท่าทีของผู้ชายคนนี้ที่ตนเองได้พบเห็นไม่เหมือนกับก่อนหน้านั้น

เธอก็ไม่เข้าใจ ตกลงไม่เหมือนตรงไหน เพียงแค่ทำเรื่องของตนเองอย่างเงียบๆ

ศึกษาบทเรียนล่วงหน้า เตรียมตัวไปโรงเรียน ตอนนี้ได้เพียงแค่เงิน การเรียนของเธอก็จะไปต่อได้แล้ว

ในที่สุด มีวันหนึ่ง การเก็บตัวอย่างสำเร็จ

ลู่จิ่งเซินเอาการ์ดที่มีเงินหนึ่งล้านใบหนึ่งให้เธอ ทั้งสองคนนี้ก็ถือว่าทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นการซื้อขาย

จิ่งหนิงได้เงิน กำลังจะออกไป

แต่ก็อยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆกลับมีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา

บนกายคนกลุ่มนั้นดูเหมือนมัดของอะไรไว้ เธอยังไม่ทันมองให้ชัด ก็ถูกคนคนหนึ่งจับไว้อย่างแน่นแล้ว

ต่อจากนี้ก็ได้ยินว่ามีคนร้องตะโกนเสียงเคร่งขรึมเฉียบขาด “เพื่อเจ้านาย ระเบิดที่นี่เดี๋ยวนี้”

เสียงระเบิดที่ใหญ่โตมโหฬารดังขึ้น จิ่งหนิงถูกระเบิดจนสมองล้วนมึนงงแล้ว อยู่ดีๆในใจก็เหมือนมีสายธนูเส้นหนึ่งถูกปล่อยออกไปอย่างนั้นเลย เหมือนดั่งชั่วพริบตาเดียวสูญเสียแรงกำลังทั้งหมด

และในเวลานี้ อยู่ดีๆข้อมือแน่นขึ้น

อีกคนหนึ่งจับแขนของเธอไว้ พาเธอเข้าไปในอ้อมอกของตนเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+