วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 1079 รักแท้หรือไม่

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 1079 รักแท้หรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จิ่งหนิงอึ้งชะงักไปหนึ่งที ดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเธอ

เธออยู่ในความรักความผูกพันแม้นับไม่ได้ว่าจะราบรื่นมาก แต่ก่อนเคยประสบเจอมู่ยั่นเจ๋อผู้ชายเหี้ยๆคนนั้นมาก่อน

แต่โดยรวมมากล่าว หลังจากตั้งแต่อยู่ด้วยกันกับลู่จิ่งเซิน ความรักความผูกพันของคนทั้งสองก็ราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง แทบจะไม่ได้พบเจอกับอุปสรรคอะไร

ด้วยเหตุนี้จากที่เธอดูมา เรื่องของความรักความผูกพันดูเหมือนโดยพื้นฐานล้วนเป็นลักษณะแบบนี้

ในเมื่อหนานกงจิ่นสามารถทำเพื่อเฉียนเฉียนถึงระดับนี้ ยึดมั่นถือมั่นเป็นหนึ่งพันปีเต็มๆก็ไม่ได้ละทิ้งอีก

แม้ฟังดูแล้วเหมือนน่ากลัวมาก ทั้งบ้าคลั่งมากเช่นกัน

แต่ยังไงยังเป็นเนื่องเพราะความรักที่เขามีต่อเฉียนเฉียน จึงจะ ประคองเขาเดินมานานขนาดนี้ได้

ถ้าหากเขาไม่รักเฉียนเฉียนจริงๆ อย่างนั้นหนึ่งพันปีเต็มๆนี้จะยืนหยัดไว้ได้ยังไงอีกล่ะ?

หัวเหยาเห็นลักษณะท่าทีของเธองุนงงเต็มใบหน้า ก็รู้ว่าเธอยังไม่เข้าใจอีก

อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหนึ่งที

เธอพูดอย่างช้าๆว่า “แท้ที่จริงหลักการนี้แกไม่เข้าใจดีที่สุดแล้ว แกไม่เข้าใจก็แสดงว่าแกอยู่ในความสุขมาโดยตลอด ถ้าหากวันไหนเข้าใจแล้ว ฉันกลับจะรักสงสารแก”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักไปอีกหนึ่งที แต่ครั้งนี้เธอดูเหมือนเข้าใจอะไรได้แล้ว

และเงียบลงไปด้วย

“ดังนั้นความหมายของแก หนานกงจิ่นไม่ได้เนื่องเพราะรักเฉียนเฉียนจริงๆ แต่คือเนื่องเพราะยึดมั่นถือมั่นในความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจเล็กน้อยนั้นที่เขามีต่อเฉียนเฉียนเหรอ?”

หัวเหยายิ้มเย็นชาหนึ่งที “ก็ไม่ใช่ว่าล้วนไม่มีความรักทั้งหมด เขาอาจจะเคยรักเฉียนเฉียนมาก่อน เพียงแค่รักนี้มีมากน้อยเท่าไหร่ก็ไม่แน่แล้วล่ะ

เขายึดมั่นถือมั่นมาเป็นพันปี แต่ลองดูสิพันปีนี้เขาล้วนทำอะไรอยู่ล่ะ?

เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่ย้ำอยู่กับที่ย้อนหวนคิดถึงทั้งหมดที่เขาเคยประสบพบเจอกับเฉียนเฉียน

ทั้งเสาะหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ อยากจะทำให้เฉียนเฉียนฟื้นคืนชีพ ทั้งมัวแต่หลงใหลอยู่ในดินแดนแห่งความเพ้อฝันที่ตัวเองรักเขามากนี้อยู่

แต่พูดตามตรง เขารักเฉียนเฉียนจริงเหรอ เข้าใจเฉียนเฉียนจริงเหรอ?

เขาเคยคิดมาก่อนไหมทำไมถึงสุดท้ายเฉียนเฉียนจะยอมตาย ก็ไม่ยอมกลายเป็นราชินีของเขาล่ะ?

เขาเคยเล่ารายละเอียดที่เขารักเฉียนเฉียนมากมายให้กับแกมาก่อนใช่ไหม แต่เขาย่อมไม่เคยพูดถึงความคิดที่แท้จริงอยู่ในใจของเขาให้แกฟังมาก่อนแน่นอน

จนถึงวันนี้ ตกลงเขารู้ไหมว่าตนเองผิดอยู่ที่ไหนล่ะ? ทั้งรู้หรือไม่ว่าในตอนต้นเฉียนเฉียนทำไมต้องออกจากเขาล่ะ?”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักไปหนึ่งที “เขา……”

เธอย้อนคิดอย่างละเอียด ตอนที่ตนเองอยู่กับหนานกงจิ่น เขาเล่าเรื่องอดีตของเขามากมายให้กับตนเองฟังจริงๆ

แต่ดูเหมือนไม่เคยเล่าความคิดที่แท้จริงอยู่ในใจลึกๆของตัวเขาเองมาก่อนจริงๆ

ดังนั้นจุดนี้จิ่งหนิงไม่แน่ใจนะ

หัวเหยาพูดอย่างเย็นชาว่า “เขาน่าจะไม่เคยนึกถึงคำถามนี้มาก่อนล่ะ เนื่องเพราะอยู่ในจิตลึกๆของเขา คำถามนี้ไม่ต้องไปคิดกระทั่งไม่จำเป็นต้องไปเสาะหาคำตอบเลยสักนิด

เนื่องเพราะเขายอมรับโดยปริยายว่าเฉียนเฉียนก็คือเกิดมาเพื่อเขา ตายเพื่อเขามานานแล้ว

และเฉียนเฉียนตายแล้วเรื่องนี้หลุดพ้นจากการจับกุมของเขา ในเวลาเดียวกันอาจจะเป็นไปได้ว่ามีความรู้สึกผิดเล็กน้อย ดังนั้นเขาก็จะสู้สุดชีวิตอยากทำให้เฉียนเฉียนฟื้นคืนชีพ

ถึงแม้แผนการนี้ฟังแล้วจะบ้าคลั่งขนาดนั้นจะเสียสละคนมากมาย จะยิ่งทำยิ่งห่างไกลกับความคิดที่ยืนหยัดไว้ของเฉียนเฉียนก็ไม่เสียดายเช่นกัน

แต่ถ้าหากว่าฉันเป็นเฉียนเฉียน ตอนที่ฉันเห็นลักษณะท่าทีอย่างนี้ของเขา จะไม่ดีใจแน่นอน

เนื่องเพราะความตายของฉันก็คือเพื่อที่จะให้เขาเข้าใจถึงคุณค่าของชีวิตกับความหมายของชีวิต ถ้าหากเขาไม่ทะนุถนอมชีวิตของคนอื่นกับตนเองอย่างนี้เหมือนเดิม งั้นความตายของฉันจะมีความหมายอะไรอีกล่ะ?

ถึงแม้ว่าฉันฟื้นคืนชีพแล้ว ดังนั้นสภาพการณ์ระหว่างพวกเราทั้งสองกับระหว่างพวกเราทั้งสองในหนึ่งพันปีก่อน จะมีความแตกต่างกันอะไรอีกล่ะ?

สิ่งที่ฉันทำทั้งหมดล้วนไม่มีความหมายแล้ว และเขากระทั่งไม่เคยนึกถึงความคิดที่แท้จริงอยู่ในใจฉันคืออะไรมาก่อนเลย? ผู้ชายแบบนี้ แกสามารถพูดได้ว่าเขารักฉันจริงๆเหรอ?”

จิ่งหนิงมึนๆอึ้งชะงักอยู่ที่นั่น เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้ยังสามารถเจาะลึกขนาดนี้ได้อีก

ผ่านไปสักพัก เธออดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยตนเองยิ้มแล้วยิ้มอีก

“ดูจากด้านความรักความผูกพันนี้ ฉันไม่ได้ดูอย่างละเอียดลึกซึ้งเท่าแกจริงๆ พอถูกแกอธิบายเช่นนี้ ฉันก็เข้าใจแล้ว ดูแล้วความจริงจะเป็นเช่นนี้จริงๆ”

พอเธอพูดเช่นนี้ หัวเหยากลับรู้สึกเขิน

เธอก็ยิ้มแล้วยิ้มอีกอย่างเย็นชา “ฉันก็แค่พูดเหลวไหลตามนั้นสักหน่อย แกไม่ต้องเอาจริง ยังไงเขาก็ตายแล้ว ตกลงความจริงเป็นยังไงล้วนไม่สำคัญแล้ว”

จิ่งหนิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก

ทั้งสองคนทำspaเสร็จ เห็นกับตาว่าเวลาค่ำแล้ว เวลานี้อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยน่าจะเลิกเรียนแล้ว

ดังนั้นก็เลยบอกลากับหัวเหยา ต่างกลับบ้าน

หลังจากกลับถึงบ้านอานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยเป็นอย่างที่คิดไว้กลับมาแล้วจริงๆ

ลูกทั้งสองล้วนฉลาดมาก ด้านการบ้านล้วนไม่ต้องให้เธอกังวล

ไม่นานตนเองก็ทำเสร็จแล้ว

หลังจากทำการบ้านเสร็จ อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยวิ่งเข้ามาพัวพันกับเธออยู่ จะให้เธอเล่นเกมเป็นเพื่อนกับพวกเขาด้วยกัน

ตอนนี้จิ่งหนิงยังตั้งครรภ์ ร่างกายหนักอึ้ง เล่นเป็นเพื่อนพวกเขาสักพักก็เหนื่อยจนไม่ไหวแล้ว

ในเวลานี้ ลู่จิ่งเซินก็กลับมาจากข้างนอกเช่นกัน

เห็นลูกทั้งสองพัวพันกับจิ่งหนิงอยู่ตลอด ทำหน้าขึงลับลง ก็ดุให้ลูกทั้งสองออกไปเลย

“พอแล้ว ไม่เห็นหม่ามี๊ของพวกแกเหนื่อยแล้วเหรอ? ยังไม่รีบไปเล่นเองไป!”

อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยแลบลิ้นแล้วแลบลิ้นอีกกับเขา ก็ไม่ได้พัวพันกับจิ่งหนิงต่อไปอีก มือจูงมือก็มัวแต่วิ่งออกไปเลย

จิ่งหนิงยิ้มแล้วยิ้มอีก พูดว่า “คุณมักจะดุขนาดนั้น ระมัดระวังลูกล้วนจะไม่สนิทกันกับคุณแล้ว”

ลู่จิ่งเซิน ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง เดินถึงข้างกายเธอ หลังจากนั่งลงเอามือข้างหนึ่งวางอยู่บนท้องของเธอ

เอาใจใส่พูดว่า “เป็นยังไงบ้างล่ะ? วันนี้เหน็ดเหนื่อยหรือไม่? เจ้าตัวเล็กทั้งสองนี้ได้ก่อกวนคุณหรือไม่?”

จิ่งหนิงยิ้มอยู่ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “พวกเขาเชื่อฟังมาก ไม่ได้ก่อกวนฉัน”

เพิ่งพูดจบ บนหนังท้องก็นูนขึ้นนิดๆหนึ่งที

มือของลู่จิ่งเซินเนื่องเพราะวางอยู่บนท้องของเธอพอดี ดังนั้นรู้สึกได้ชัดเจนมาก อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลงอย่างตื่นตะลึง

แม้ว่าเขาไม่ได้เป็นบิดาครั้งแรกแล้ว แต่ได้สัมผัสการขยับตัวของทารกในครรภ์อย่างเห็นได้ชัดแบบนี้จริงๆ ยังเป็นครั้งแรก

จิ่งหนิงก็นึกไม่ถึงการขยับตัวของทารกในครรภ์ในครั้งนี้จะมาได้เร็วขนาดนี้

เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มพูดว่า “ดูสิ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาเลย ฉันล้วนสงสัยว่าพวกเขาจะได้ยินพวกเราพูดคุยกันใช่หรือไม่ล่ะ?”

เธอไม่พูดก็ยังดี พอเธอพูดแบบนี้ ลู่จิ่งเซินก็เอาจริงเลย

จ้องมองท้องของเธอ ก็เหมือนเช่นดั่งลูกที่อยู่ข้างในสามารถได้ยินเขาพูดจริงๆ

จริงจังกำชับพูดว่า “พวกแกทั้งสองต้องเป็นเด็กดี อย่าก่อกวนหม่ามี๊ของพวกแก มิฉะนั้นรอพวกแกออกมา ผมก็จะตีก้นน้อยๆของพวกแก รู้หรือไม่?”

จิ่งหนิงถูกเขาหยอกเล่นจนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

ในเวลานี้ อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยก็ได้ยินเสียงวิ่งเข้ามาแล้วเช่นกัน

พวกเขาอยากรู้อยากเห็นถามว่า “หม่ามี๊ แด๊ดดี้! น้องชายน้อยกับน้องสาวน้อยจะออกมาแล้วเหรอ?”

จิ่งหนิงถูกพวกเขาหยอกเล่นจนหัวเราะแล้ว พูดว่า “ที่ไหนจะเร็วขนาดนั้น? ตอนนี้เพิ่งห้าเดือนกว่าล่ะ!”

อานอานโตกว่าหน่อยแล้ว ต่อความรู้ทั่วไปเหล่านี้ก็รู้ได้บ้างแล้วเช่นกัน

เธอ “โอ๊ะ” เสียงดังเสียงหนึ่ง

“งั้นยังมีหลายเดือนล่ะ น้องชาย อย่าร้อนใจ พวกน้องชายน้อยกับน้องสาวน้อยไม่ช้าก็เร็วล้วนจะออกมาล่ะ!”

จิ้งเจ๋อน้อยได้ยินคำพูดก็พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างจริงจัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 1079 รักแท้หรือไม่

Now you are reading วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน Chapter 1079 รักแท้หรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จิ่งหนิงอึ้งชะงักไปหนึ่งที ดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเธอ

เธออยู่ในความรักความผูกพันแม้นับไม่ได้ว่าจะราบรื่นมาก แต่ก่อนเคยประสบเจอมู่ยั่นเจ๋อผู้ชายเหี้ยๆคนนั้นมาก่อน

แต่โดยรวมมากล่าว หลังจากตั้งแต่อยู่ด้วยกันกับลู่จิ่งเซิน ความรักความผูกพันของคนทั้งสองก็ราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง แทบจะไม่ได้พบเจอกับอุปสรรคอะไร

ด้วยเหตุนี้จากที่เธอดูมา เรื่องของความรักความผูกพันดูเหมือนโดยพื้นฐานล้วนเป็นลักษณะแบบนี้

ในเมื่อหนานกงจิ่นสามารถทำเพื่อเฉียนเฉียนถึงระดับนี้ ยึดมั่นถือมั่นเป็นหนึ่งพันปีเต็มๆก็ไม่ได้ละทิ้งอีก

แม้ฟังดูแล้วเหมือนน่ากลัวมาก ทั้งบ้าคลั่งมากเช่นกัน

แต่ยังไงยังเป็นเนื่องเพราะความรักที่เขามีต่อเฉียนเฉียน จึงจะ ประคองเขาเดินมานานขนาดนี้ได้

ถ้าหากเขาไม่รักเฉียนเฉียนจริงๆ อย่างนั้นหนึ่งพันปีเต็มๆนี้จะยืนหยัดไว้ได้ยังไงอีกล่ะ?

หัวเหยาเห็นลักษณะท่าทีของเธองุนงงเต็มใบหน้า ก็รู้ว่าเธอยังไม่เข้าใจอีก

อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหนึ่งที

เธอพูดอย่างช้าๆว่า “แท้ที่จริงหลักการนี้แกไม่เข้าใจดีที่สุดแล้ว แกไม่เข้าใจก็แสดงว่าแกอยู่ในความสุขมาโดยตลอด ถ้าหากวันไหนเข้าใจแล้ว ฉันกลับจะรักสงสารแก”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักไปอีกหนึ่งที แต่ครั้งนี้เธอดูเหมือนเข้าใจอะไรได้แล้ว

และเงียบลงไปด้วย

“ดังนั้นความหมายของแก หนานกงจิ่นไม่ได้เนื่องเพราะรักเฉียนเฉียนจริงๆ แต่คือเนื่องเพราะยึดมั่นถือมั่นในความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจเล็กน้อยนั้นที่เขามีต่อเฉียนเฉียนเหรอ?”

หัวเหยายิ้มเย็นชาหนึ่งที “ก็ไม่ใช่ว่าล้วนไม่มีความรักทั้งหมด เขาอาจจะเคยรักเฉียนเฉียนมาก่อน เพียงแค่รักนี้มีมากน้อยเท่าไหร่ก็ไม่แน่แล้วล่ะ

เขายึดมั่นถือมั่นมาเป็นพันปี แต่ลองดูสิพันปีนี้เขาล้วนทำอะไรอยู่ล่ะ?

เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่ย้ำอยู่กับที่ย้อนหวนคิดถึงทั้งหมดที่เขาเคยประสบพบเจอกับเฉียนเฉียน

ทั้งเสาะหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ อยากจะทำให้เฉียนเฉียนฟื้นคืนชีพ ทั้งมัวแต่หลงใหลอยู่ในดินแดนแห่งความเพ้อฝันที่ตัวเองรักเขามากนี้อยู่

แต่พูดตามตรง เขารักเฉียนเฉียนจริงเหรอ เข้าใจเฉียนเฉียนจริงเหรอ?

เขาเคยคิดมาก่อนไหมทำไมถึงสุดท้ายเฉียนเฉียนจะยอมตาย ก็ไม่ยอมกลายเป็นราชินีของเขาล่ะ?

เขาเคยเล่ารายละเอียดที่เขารักเฉียนเฉียนมากมายให้กับแกมาก่อนใช่ไหม แต่เขาย่อมไม่เคยพูดถึงความคิดที่แท้จริงอยู่ในใจของเขาให้แกฟังมาก่อนแน่นอน

จนถึงวันนี้ ตกลงเขารู้ไหมว่าตนเองผิดอยู่ที่ไหนล่ะ? ทั้งรู้หรือไม่ว่าในตอนต้นเฉียนเฉียนทำไมต้องออกจากเขาล่ะ?”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักไปหนึ่งที “เขา……”

เธอย้อนคิดอย่างละเอียด ตอนที่ตนเองอยู่กับหนานกงจิ่น เขาเล่าเรื่องอดีตของเขามากมายให้กับตนเองฟังจริงๆ

แต่ดูเหมือนไม่เคยเล่าความคิดที่แท้จริงอยู่ในใจลึกๆของตัวเขาเองมาก่อนจริงๆ

ดังนั้นจุดนี้จิ่งหนิงไม่แน่ใจนะ

หัวเหยาพูดอย่างเย็นชาว่า “เขาน่าจะไม่เคยนึกถึงคำถามนี้มาก่อนล่ะ เนื่องเพราะอยู่ในจิตลึกๆของเขา คำถามนี้ไม่ต้องไปคิดกระทั่งไม่จำเป็นต้องไปเสาะหาคำตอบเลยสักนิด

เนื่องเพราะเขายอมรับโดยปริยายว่าเฉียนเฉียนก็คือเกิดมาเพื่อเขา ตายเพื่อเขามานานแล้ว

และเฉียนเฉียนตายแล้วเรื่องนี้หลุดพ้นจากการจับกุมของเขา ในเวลาเดียวกันอาจจะเป็นไปได้ว่ามีความรู้สึกผิดเล็กน้อย ดังนั้นเขาก็จะสู้สุดชีวิตอยากทำให้เฉียนเฉียนฟื้นคืนชีพ

ถึงแม้แผนการนี้ฟังแล้วจะบ้าคลั่งขนาดนั้นจะเสียสละคนมากมาย จะยิ่งทำยิ่งห่างไกลกับความคิดที่ยืนหยัดไว้ของเฉียนเฉียนก็ไม่เสียดายเช่นกัน

แต่ถ้าหากว่าฉันเป็นเฉียนเฉียน ตอนที่ฉันเห็นลักษณะท่าทีอย่างนี้ของเขา จะไม่ดีใจแน่นอน

เนื่องเพราะความตายของฉันก็คือเพื่อที่จะให้เขาเข้าใจถึงคุณค่าของชีวิตกับความหมายของชีวิต ถ้าหากเขาไม่ทะนุถนอมชีวิตของคนอื่นกับตนเองอย่างนี้เหมือนเดิม งั้นความตายของฉันจะมีความหมายอะไรอีกล่ะ?

ถึงแม้ว่าฉันฟื้นคืนชีพแล้ว ดังนั้นสภาพการณ์ระหว่างพวกเราทั้งสองกับระหว่างพวกเราทั้งสองในหนึ่งพันปีก่อน จะมีความแตกต่างกันอะไรอีกล่ะ?

สิ่งที่ฉันทำทั้งหมดล้วนไม่มีความหมายแล้ว และเขากระทั่งไม่เคยนึกถึงความคิดที่แท้จริงอยู่ในใจฉันคืออะไรมาก่อนเลย? ผู้ชายแบบนี้ แกสามารถพูดได้ว่าเขารักฉันจริงๆเหรอ?”

จิ่งหนิงมึนๆอึ้งชะงักอยู่ที่นั่น เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้ยังสามารถเจาะลึกขนาดนี้ได้อีก

ผ่านไปสักพัก เธออดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยตนเองยิ้มแล้วยิ้มอีก

“ดูจากด้านความรักความผูกพันนี้ ฉันไม่ได้ดูอย่างละเอียดลึกซึ้งเท่าแกจริงๆ พอถูกแกอธิบายเช่นนี้ ฉันก็เข้าใจแล้ว ดูแล้วความจริงจะเป็นเช่นนี้จริงๆ”

พอเธอพูดเช่นนี้ หัวเหยากลับรู้สึกเขิน

เธอก็ยิ้มแล้วยิ้มอีกอย่างเย็นชา “ฉันก็แค่พูดเหลวไหลตามนั้นสักหน่อย แกไม่ต้องเอาจริง ยังไงเขาก็ตายแล้ว ตกลงความจริงเป็นยังไงล้วนไม่สำคัญแล้ว”

จิ่งหนิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก

ทั้งสองคนทำspaเสร็จ เห็นกับตาว่าเวลาค่ำแล้ว เวลานี้อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยน่าจะเลิกเรียนแล้ว

ดังนั้นก็เลยบอกลากับหัวเหยา ต่างกลับบ้าน

หลังจากกลับถึงบ้านอานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยเป็นอย่างที่คิดไว้กลับมาแล้วจริงๆ

ลูกทั้งสองล้วนฉลาดมาก ด้านการบ้านล้วนไม่ต้องให้เธอกังวล

ไม่นานตนเองก็ทำเสร็จแล้ว

หลังจากทำการบ้านเสร็จ อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยวิ่งเข้ามาพัวพันกับเธออยู่ จะให้เธอเล่นเกมเป็นเพื่อนกับพวกเขาด้วยกัน

ตอนนี้จิ่งหนิงยังตั้งครรภ์ ร่างกายหนักอึ้ง เล่นเป็นเพื่อนพวกเขาสักพักก็เหนื่อยจนไม่ไหวแล้ว

ในเวลานี้ ลู่จิ่งเซินก็กลับมาจากข้างนอกเช่นกัน

เห็นลูกทั้งสองพัวพันกับจิ่งหนิงอยู่ตลอด ทำหน้าขึงลับลง ก็ดุให้ลูกทั้งสองออกไปเลย

“พอแล้ว ไม่เห็นหม่ามี๊ของพวกแกเหนื่อยแล้วเหรอ? ยังไม่รีบไปเล่นเองไป!”

อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยแลบลิ้นแล้วแลบลิ้นอีกกับเขา ก็ไม่ได้พัวพันกับจิ่งหนิงต่อไปอีก มือจูงมือก็มัวแต่วิ่งออกไปเลย

จิ่งหนิงยิ้มแล้วยิ้มอีก พูดว่า “คุณมักจะดุขนาดนั้น ระมัดระวังลูกล้วนจะไม่สนิทกันกับคุณแล้ว”

ลู่จิ่งเซิน ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง เดินถึงข้างกายเธอ หลังจากนั่งลงเอามือข้างหนึ่งวางอยู่บนท้องของเธอ

เอาใจใส่พูดว่า “เป็นยังไงบ้างล่ะ? วันนี้เหน็ดเหนื่อยหรือไม่? เจ้าตัวเล็กทั้งสองนี้ได้ก่อกวนคุณหรือไม่?”

จิ่งหนิงยิ้มอยู่ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “พวกเขาเชื่อฟังมาก ไม่ได้ก่อกวนฉัน”

เพิ่งพูดจบ บนหนังท้องก็นูนขึ้นนิดๆหนึ่งที

มือของลู่จิ่งเซินเนื่องเพราะวางอยู่บนท้องของเธอพอดี ดังนั้นรู้สึกได้ชัดเจนมาก อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลงอย่างตื่นตะลึง

แม้ว่าเขาไม่ได้เป็นบิดาครั้งแรกแล้ว แต่ได้สัมผัสการขยับตัวของทารกในครรภ์อย่างเห็นได้ชัดแบบนี้จริงๆ ยังเป็นครั้งแรก

จิ่งหนิงก็นึกไม่ถึงการขยับตัวของทารกในครรภ์ในครั้งนี้จะมาได้เร็วขนาดนี้

เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มพูดว่า “ดูสิ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาเลย ฉันล้วนสงสัยว่าพวกเขาจะได้ยินพวกเราพูดคุยกันใช่หรือไม่ล่ะ?”

เธอไม่พูดก็ยังดี พอเธอพูดแบบนี้ ลู่จิ่งเซินก็เอาจริงเลย

จ้องมองท้องของเธอ ก็เหมือนเช่นดั่งลูกที่อยู่ข้างในสามารถได้ยินเขาพูดจริงๆ

จริงจังกำชับพูดว่า “พวกแกทั้งสองต้องเป็นเด็กดี อย่าก่อกวนหม่ามี๊ของพวกแก มิฉะนั้นรอพวกแกออกมา ผมก็จะตีก้นน้อยๆของพวกแก รู้หรือไม่?”

จิ่งหนิงถูกเขาหยอกเล่นจนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

ในเวลานี้ อานอานกับจิ้งเจ๋อน้อยก็ได้ยินเสียงวิ่งเข้ามาแล้วเช่นกัน

พวกเขาอยากรู้อยากเห็นถามว่า “หม่ามี๊ แด๊ดดี้! น้องชายน้อยกับน้องสาวน้อยจะออกมาแล้วเหรอ?”

จิ่งหนิงถูกพวกเขาหยอกเล่นจนหัวเราะแล้ว พูดว่า “ที่ไหนจะเร็วขนาดนั้น? ตอนนี้เพิ่งห้าเดือนกว่าล่ะ!”

อานอานโตกว่าหน่อยแล้ว ต่อความรู้ทั่วไปเหล่านี้ก็รู้ได้บ้างแล้วเช่นกัน

เธอ “โอ๊ะ” เสียงดังเสียงหนึ่ง

“งั้นยังมีหลายเดือนล่ะ น้องชาย อย่าร้อนใจ พวกน้องชายน้อยกับน้องสาวน้อยไม่ช้าก็เร็วล้วนจะออกมาล่ะ!”

จิ้งเจ๋อน้อยได้ยินคำพูดก็พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างจริงจัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+