สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 382 ราชโองการ (1)

Now you are reading สามีข้าคือขุนนางใหญ่ Chapter บทที่ 382 ราชโองการ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 382 ราชโองการ (1)

เกิดอะไรขึ้น

เหตุใดเขาออกไปทำงานครู่เดียว กลับมาหลานสาวเขาจึงได้มีแม้กระทั่งลูกแล้ว

ไม่สิ แท้งแล้วต่างหาก

เขาเพิ่งจะได้เป็นปู่ทวดหยกๆ เหลนชายก็จากไปเสียแล้ว…

ไม่สิ ไม่สิ ผิดประเด็นแล้ว!

เขาจะมีเหลนชายได้อย่างไรกัน

หยวนเป่าหลินยังไม่แต่งงานมิใช่หรือไร นั่นเป็นเสียงของเป่าหลิน เขาไม่ได้หูฝาดกระมัง ต่อให้ฟังผิดไป แม่ชีน้อยที่จับมือชายหนุ่มอยู่ตรงหน้าก็คือแม่ชีน้อยบ้านเขาอยู่ดี

เขาคงไม่ถึงขั้นตาบอดหรอกกระมัง!

ในที่สุดราชเลขาหยวนก็ขบคิดได้ เขาไม่เพียงแต่ได้ยินเท่านั้น เขายังจับได้คาหนังคาเขาเลยด้วย!

ไอ้หน้าเหม็นนี่มันเป็นใครกัน!

ก่อนที่กู้เจียวจะออกไปได้บอกถึงสาเหตุของโรคของแม่ชีน้อยแก่กู้ฉังชิงแล้ว ทว่าฟังคนอื่นบอกเป็นเรื่องหนึ่ง ฟังแม่ชีน้อยเป็นคนร้องห่มร้องไห้ฟ้องตนกับหูเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

นางจับมือเขาไว้ น้ำตาเม็ดโตหลั่งไหลลงมาไม่หยุด ความเจ็บปวดที่สูญเสียลูกไปอย่างแท้จริงนั่นทำเอากู้ฉังชิงตกใจไปหมด

ในขณะที่ยังตกใจพูดไม่ออกนั้นเอง ด้านหลังก็มีไอสังหารพุ่งเข้าใส่!

กู้ฉังชิงหันกลับไปทันที เห็นราชเลขาหยวนยืนควันออกหูอยู่หน้าประตู กู้ฉังชิงใจกระตุกทันที แทบจะชักมือกลับตามสัญชาตญาณ!

เสียดายที่สายไปเสียแล้ว ราชเลขาหยวนเห็นหมดทุกอย่างแล้ว และได้ยินทุกถ้อยทุกคำไม่ขาดตกบกพร่องเลยด้วย!

ราชเลขาหยวนเข้าห้องมาด้วยไอสังหารพลุ่งพล่าน เขาเดินมาข้างเตียง ขวางระหว่างทั้งคู่ไว้ กู้ฉังชิงหลบไปด้านหลังอย่างรู้ตัว

“เจ้าเป็นใคร!” ราชเลขาหยวนถามเสียงเคร่ง

แวดวงในเมืองหลวงกว้างขวางมาก ซ้ำตระกูลหยวนกับจวนติ้งอันโหวก็ไปมาหาสู่กันน้อยมาก ราชเลขาหยวนเคยเห็นแค่ท่านเหล่าโหวที่ตำหนักจินหลวน

คราก่อนที่ตรอกปี้สุ่ย กู้ฉังชิงอยู่ในที่ลับ ราชเลขาหยวนอยู่ในที่แจ้ง ส่งผลให้กู้ฉังชิงแอบมองเขา แต่เขากลับไม่เห็นกู้ฉังชิง

ยามนี้จบเห่แล้ว กระโดดลงแม่น้ำฮวงโหวก็ล้างมลทินไม่หมดแล้วล่ะ

กู้ฉังชิงประสานมืออย่างปวดหัว “ผู้น้อยกู้ฉังชิงจากจวนติ้งอันโหว คารวะท่านราชเลขาหยวนขอรับ”

ราชเลขาหยวนหรี่ตาลงอย่างอันตราย “กู้ฉังชิง…หลานชายกู้เฉาน่ะรึ”

“ขอรับ” กู้ฉังชิงประสานมือ สายตาไม่กล้ามองหน้าราชเลขาหยวนตรงๆ นี่เป็นมารยาทของผู้น้อยต่อผู้ใหญ่ และเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างมึนงงและรู้สึกผิดในยามนี้

ราชเลขาหยวนนึกถึงประโยคสุดท้ายที่เขาพูดไว้ได้ “เจ้ารู้จักข้ารึ”

“…ขอรับ” กู้ฉังชิงไม่ปฏิเสธ

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ปิดบังไปก็ปิดไม่ได้หรอก

ซ้ำราชเลขาหยวนก็ไม่ใช่คนโง่ เดิมทีเรื่องวันนั้นก็มีกลิ่นตุๆ ออกมาแล้ว เพียงแต่หยวนเป่าหลินเก็บเงียบทำเป็นไม่เป็นอะไร เขาก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจมากนัก

ยามนี้มานึกย้อนดูแล้วเกรงว่าวันนั้นหยวนเป่าหลินคงไม่ได้ถูกฮูหยินกู้คนนั้นช่วยไว้แน่!

ราชเลขาหยวนดวงตาพลันเย็นเยียบ “เจ้าเองรึ เจ้าพาเป่าหลินหนีรึ เจ้ามันฉวยโอกาส!”

พอนึกถึงหลานสาวตัวเองออกจากรังหมาป่าของอันจวิ้นอ๋องไป ก็กระโดดเข้าถ้ำเสืออย่างกู้ฉังชิงต่อ ซ้ำยังถูกรังแกจนมีลูกแล้ว ราชเลขาหยวนก็แทบจะฆ่าไอ้หน้าเหม็นนี่มันซะเดี๋ยวนั้น!

ต่อให้กู้ฉังชิงมีร้อยปากก็แก้ต่างไม่ได้

หากเป็นคนอื่นบางทีอาจจะบ่ายเบี่ยงไปได้หมดจด แต่ดันเป็นกู้ฉังชิงที่ไม่ใช่นิสัยแบบนั้น

ยามนี้ท่านเหล่าโหวก็ได้ข่าวแล้วกำลังเร่งรุดมา

พอได้ยินว่าหลานชายตัวเองทำคนเขาท้องโต ท่านเหล่าโหวก็โมโหจนแทบตายแล้วเกิดใหม่!

ลองคิดจินตนาการดูว่านี่เป็นสตรีบ้านอื่น ท่านเหล่าโหวคงไม่เชื่อง่ายๆ เช่นนี้

เขาชักแส้ออกมาทักทายร่างกู้ฉังชิงทันที!

แม่ชีน้อยดวงหน้างามถอดสี สะอึกสะอื้นยื่นมือออกไปห้ามท่านเหล่าโหวไว้ “อย่าฟาดเขานะเจ้าคะ! เขาไม่ได้ผิด! ข้าเอง…ข้าขืนใจเขา…ข้าจับเขากด…”

ท่านเหล่าโหวมือสั่นเทา ชักแส้กลับมาฟาดหน้าผากตัวเอง “…!!”

ราชเลขาหยวนที่คล้ายจะถูกแส้ที่มองไม่เห็นฟาดหน้าตัวเองเช่นเดียวกัน “…”

รวมถึงกู้ฉังชิงที่แม้ว่าจะล้างมลทินไปได้แล้วแต่ก็แทบจะเหมือนไม่ได้ล้าง “…”

เขาชนกำแพงตายให้มันจบๆ ไปดีกว่า!

กู้ฉังชิงมีภารกิจทางการทหารอยู่ อีกไม่กี่วันก็จะต้องเดินทางไปเขาเฟิงตูแล้ว เมื่อครู่นี้เขากำลังเก็บข้าวของที่เรือน หากกู้เฉิงเฟิงไม่บอกว่ากู้เจียวอยากพบเขา เขาก็คงไม่มาหรอก

ยามนี้ดียิ่งนัก

ไม่ใช่แค่กระโดดแม่น้ำฮวงโหวล้างมลทินไม่หมดแล้ว แต่เป็นถลกหนังแปดชั้นก็ยังถลกไม่เกลี้ยง

ตั้งแต่ที่ราชเลขาหยวนได้ยินต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้จากปากหลานสาวตัวเองแล้ว แน่ใจว่าไอ้หนุ่มนี่ไม่ได้เอาเปรียบหลานสาวตัวเองแม้แต่นิดเดียวจริง กลับเป็นหลานสาวตัวเองที่แต๊ะอั๋งคนเขาไปไม่น้อย ราชเลขาหยวนก็รู้สึกผิดยิ่งนัก

เขาขอโทษท่านเหล่าโหว

แน่นอนว่าท่านเหล่าโหวไม่ได้โกรธเคืองอะไรแล้ว เรื่องพรรค์นี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ยังคงเป็นเจ้าหลานชายนี่เอาเปรียบอยู่ดี เจ้าหลานชายนี่เป็นคนร่ำเรียนวรยุทธ์ เขาสามารถใช้สันมือฟาดอีกฝ่ายให้สลบได้แท้ๆ

แต่เขาไม่ได้ทำ ก็หมายความว่าในใจเขามีความรู้สึกต่อคุณหนูหยวนอยู่บ้างกระมัง

เจ้าหลานชายนี่ มิน่าเล่าเมื่อก่อนพูดเรื่องแต่งงานกับเขาเขาก็ไม่แลไม่สน ที่แท้ก็แอบถูกใจแม่นางตระกูลหยวนนี่เอง

แม่นางตระกูลหยวนนางนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่ใช่คุณหนูตระกูลดังธรรมดาๆ จะมาเทียบได้

ยกตัวอย่างอย่างเรื่องนี้ก็แล้วกัน หากเป็นคนอื่นคงไม่มีทางแบกรับโทษทั้งหมดไว้ที่ตัวเองคนเดียวอย่างกล้าหาญมากเช่นนี้ ซ้ำยังแน่วแน่ไม่ทำให้กู้ฉังชิงลำบากใจอีก

ท่านโหวกู้ไหนเลยจะรู้ว่าที่กู้ฉังชิงไม่ได้ฟาดหยวนเป่าหลินให้สลบนั้นเป็นเพราะหยวนเป่าหลินโดนยากำหนัดหนักไม่น้อย หายใจติดขัด หากสลบไปอาจจะทำให้ขาดใจตายได้เลย

“ผู้น้อยมีธุระต่อ ขอตัวก่อน” กู้ฉังชิงประสานมือคำนับให้ราชเลขาหยวน แล้วคำนับให้ท่านเหล่าโหวนิ่งๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป

แม่ชีน้อยตามออกไป

“คุณหนูหยวนวางใจได้ ข้าไม่มีทางตกลงแต่งงานแน่นอน” เขารู้ว่านางไม่อยากแต่งกับนาง

“ข้าก็ไม่ยอมเช่นกัน!” นางก็รู้ดีว่าเขาไม่อยากแต่งเลยด้วยซ้ำ จะให้เขามาแบกรับแรงกดดันคนเดียวไม่ได้หรอก

กู้ฉังชิงคิดว่านางตามออกมาก็เพราะเรื่องนี้ ในเมื่อคุยกันกระจ่างแล้ว เช่นนั้นเขาก็ควรกลับแล้ว

“ขอตัว” เขาหันหลังจะเดินต่อ

“ช้าก่อนสิ!” แม่ชีน้อยเรียกเขาไว้

กู้ฉังชิงชะงักฝีเท้า หันกลับมามองนาง “คุณหนูหยวนยังมีเรื่องใดที่ยังไม่วางใจรึ”

“ขะ…ข้า…” แม่ชีน้อยแววตาเลื่อนลอยพลางลูบหน้าท้องตัวเอง

กู้ฉังชิงกวาดสายตามองท่าทางของนาง ก่อนจะอ้าปากพะงาบๆ ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วเอ่ย “เจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์…ทำแค่ขั้นนั้นน่ะเจ้าตั้งครรภ์ไม่ได้หรอก”

แม่ชีน้อยขมวดคิ้วเรียวด้วยความไม่เข้าใจ “แต่ข้า…”

กู้ฉังชิงใช้ความกล้าหมดทั้งชีวิตเอ่ย “เรื่องตั้งครรภ์น่ะ…ต้องให้บุรุษ…ให้ความร่วมมือด้วย”

แม่ชีน้อยพึมพำ “ในนิยายก็เขียนไว้แบบนี้นี่นาน สตรีโดนยาเข้า ผลักบุรุษล้มลงก็มีลูกได้แล้ว!”

กู้ฉังชิงถามอย่างแปลกใจ “เจ้าเป็นชี เหตุใดจึงอ่านนิยายเพ้อฝันพรรค์นั้นกัน” นิยายเพ้อฝันสมควรตาย

กู้ฉังชิงรู้สึกว่าหัวข้อสนทนาไปต่อไม่ได้แล้ว เขาจึงทำท่าจะเดินไป

จู่ๆ แม่ชีน้อยก็เหลือบมองเขาอย่างเห็นอกเห็นใจแวบหนึ่ง “หรือว่าเจ้าใช้การไม่ได้ นิยายเขียนไว้แบบนี้เลย มีแค่บุรุษที่ใช้การไม่ได้ สตรีจึงไม่มีลูก”

กู้ฉังชิง “…!!”

กู้ฉังชิงกำหมัดแน่นจนเสียงดังกึดๆ “ต่อไปนี้…เจ้าอย่าอ่านนิยายเล่มนั้นอีกนะ!”

กู้เจียวไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างกู้ฉังชิงกับแม่ชีน้อยใหญ่โตไปถึงราชเลขาหยวนกับท่านเหล่าโหวแล้ว แต่กู้เฉิงเฟิงรู้!

เขาหลบอยู่บนต้นไม้ใหญ่ และเห็นละครฉากนี้เข้าเต็มๆ เลย!

แรกเริ่มกู้เจียวให้พี่ใหญ่ของเขาเข้าไปในเรือนแต่ตอนที่เขาขวางอยู่ด้านนอกเขาก็มองออกแล้วว่ามีอะไรแปลกๆ จึงแอบฟังทั้งหมดเขาจึงได้รู้ว่าพี่ใหญ่บ้านเขาดูท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง แต่ลับหลังนึกไม่ถึงว่าจะหาพี่สะใภ้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว!

ชิๆๆ รวดเร็วขนาดนี้ สมกับเป็นพี่ใหญ่จริงๆ!

น่าเสียดายที่น้องสาวตระกูลหลิงคงต้องช้ำใจเสียแล้ว

หลิงสุ่ยเซียนห่วงหาแต่พี่ใหญ่ หากไม่ใช่พี่ใหญ่ก็ไม่แต่ง ได้ยินว่าหมู่นี้ประท้วงอดอาหารกับที่บ้านแล้ว

แม้ว่าหลิงสุ่ยเซียนจะเป็นลูกพี่ลูกน้องเขา แต่อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ชอบหลิงสุ่ยเซียนหรอก หลิงสุ่ยเซียนโดนตามใจจนเคยตัวเกินไป ไม่เหมาะจะมาเป็นฮูหยินของซื่อจื่อแห่งจวนติ้งอันโหวหรอก

คุณหนูตระกูลหยวนดูท่าทางรอบคอบสุขุมกว่าหลิงสุ่ยเซียนหน่อย แต่ความคิดนางค่อนข้าง…อืม…อธิบายยากเล็กน้อย

ช่างเถอะ พี่ใหญ่ชอบก็พอแล้ว!

น่าเสียดายที่เด็กนั่นออกไปก่อนจึงพลาดละครฉากนี้เสียได้

“ไอ้หยา!” กู้เฉิงเฟิงตบหัวตัวเอง “ยังไม่ได้ไปซื้อยากับเด็กนั่นเลย!”

กู้เฉิงเฟิงใช้วิชาตัวเบาไปที่ตรอกปี้สุ่ย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *