สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 60 รับเลี้ยง

Now you are reading สามีข้าคือขุนนางใหญ่ Chapter บทที่ 60 รับเลี้ยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กู้เจียวโตมาป่านนี้ ไม่เคยตกหลุมพรางของใครแบบนี้มาก่อน แถมอีกฝ่ายยังเป็นเด็กเมื่อวานซืนอีกต่างหาก

“เมื่อครู่เจ้าบอกเองว่าจะไม่ลงเขากับข้า คนออกบวชจะกลับคำเช่นนี้ได้อย่างไร!”

“นั่นเป็นคำตอบของเสี่ยวจิ้งคงในเมื่อครู่ ไม่เกี่ยวกับตอนนี้ เสี่ยวจิ้งคงในตอนนี้บอกว่าจะลงเขาไปกับเจ้า!”

กู้เจียว ’แบบนี้ก็ได้เหรอ’

เสี่ยวจิ้งคงวิ่งเตาะแตะเข้าไปในห้อง “ท่านเจ้าอาวาส! มีคนรับเลี้ยงข้าแล้ว!”

กู้เจียว ‘ไม่ใช่ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย!’

“ผู้ใดกัน” เจ้าอาวาสถามเสียงเอ็นดู

เสี่ยวจิ้งคงยกมือขึ้นชี้ “นาง!”

กู้เจียวที่เพิ่งก้าวข้ามธรณีประตูมาได้เพียงก้าวเดียว “…”

เจ้าอาวาสยกสองมือขึ้นประนม “ที่แท้ก็เป็นโยมกู้นี่เอง อามิตาพุทธ”

กู้เจียวกระแอมให้โล่งคอก่อนจะเอ่ยขึ้น “ท่านอาวาส ความจริงแล้วเมื่อครู่ข้า…”

เจ้าอาวาสยิ้มอย่างอ่อนโยน “อาตมาเข้าใจความหมายของโยมกู้ดี โยมกู้วางใจเถิด อาตมาจะไม่ทำให้โยมกู้ลำบากใจแน่นอน”

กู้เจียวถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคดี โชคดี เจ้าอาวาสยังพอเป็นคนมีเหตุมีผล

เจ้าอาวาสเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง “ความจริงแล้วจิ้งคงเป็นลูกศิษย์ของศิษย์น้องข้า ว่ากันตามหลักแล้วต้องได้รับอนุญาตจากเขาเสียก่อน เพียงแต่อาตมารู้ดีว่าโยมกู้เป็นคนเช่นไร เรื่องนี้อาตมาจะรับผิดชอบแทนศิษย์น้องเอง”

สีหน้าของกู้เจียวมึนงงสุดขีด เดี๋ยวนะ ท่านทำอะไร ทำไมท่านถึงต้องรับผิดชอบด้วย

เจ้าอาวาสเอ่ยกับเสี่ยวจิ้งคง “จิ้งคงเอ๋ย ลงเขาไปแล้วก็ต้องเชื่อฟังโยมกู้ เข้าใจไหม”

เสี่ยวจิ้งคงพยักหน้า “ขอรับ! เข้าใจแล้วขอรับท่านเจ้าอาวาส!”

กู้เจียว “…” ไม่ได้สิ พวกท่านทำอะไรตามอำเภอใจเช่นนี้ได้อย่างไร

กู้เจียว “ข้าว่า พวกท่านควรถามผู้อื่นดูอีกดีหรือไม่ อย่างเช่นความเห็นของบรรดาศิษย์พี่…”

โครม!

เก้าอี้ตัวหนึ่งถูกหามเข้ามาในห้อง

“จิ้งคง เก้าอี้ไม้ไผ่ตัวโปรดของเจ้า พี่ใหญ่ยกให้เจ้า! ลงเขาไปแล้วก็อย่าลืมพี่ใหญ่ละ!”

กึก

ลูกข่างอันหนึ่งถูกยัดใส่อ้อมแขนของจิ้งคง

“จิ้งคง ลูกข่างชิ้นโปรดของเจ้า พี่รองยกให้เจ้า! อย่าลืมพี่รองคนนี้ละ!”

หลังจากนั้น ศิษย์พี่แต่ละคนก็พากันมามอบของขวัญอำลาคนละชิ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ราวกับว่าหากช้าไปแม้แต่ก้าวเดียวกู้เจียวจะเปลี่ยนใจ

กู้เจียวมุมปากกระตุก ‘เจ้าเณรน้อยก่อเรื่องไว้มากมายขนาดไหนกัน ดูศิษย์พี่เจ้าสิรีบร้อนกัน

เสียเหลือเกิน…’

กลับคำตอนนี้ยังทันไหมนะ

กู้เจียวมาเพื่อซื้อภูเขา กลับกลายเป็นว่ายามลงเขาได้ลูกเด็กเล็กแดงเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

เจ้าอาวาสแย้มยิ้ม “ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง!”

กู้เจียว ‘ไม่เห็นรู้สึกว่าได้กำไรเลยสักนิด’

วันนี้เป็นวันสำคัญของเซียวลิ่วหลัง

ไม่ว่าตัวเขาจะใส่ใจหรือไม่ แต่เขาได้เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จากอันดับโหล่ของห้องสองมาเป็นที่หนึ่งของการสอบระดับอำเภอแล้ว

หากเป็นบัณฑิตหัวกะทิจากเทียนจื้อห้องหนึ่งสอบได้ลำดับที่หนึ่งคงไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นแบบนี้

ว่ากันตามตรงแล้วเรียกว่าเขาเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดเลยก็ว่าได้

เซียวลิ่วหลังถูกคนรุมล้อมอยู่ที่สำนักบัณฑิตทั้งวัน ได้ยินลุงหลัวเอ้อร์บอกว่า มีคนไปบอกข่าวดีที่หมู่บ้านแล้ว ดูท่าทางคนทั้งหมู่บ้านคงจะรู้เรื่องกันหมด

เป็นไปตามที่คิดไว้ไม่มีผิด ยามเขาก้าวเข้าประตูเรือนมา ก็เห็นคนมากมายรายล้อมกันเต็มบ้าน

ชาวบ้านนั้นชอบความคึกเป็นที่สุด ไม่ว่าบ้านไหนเกิดเรื่องอะไรขึ้น คนทั้งหมู่บ้านก็จะออกมามุงดู

เซียวลิ่วหลังสูดหายใจลึก เตรียมตัวเตรียมใจโดนชาวบ้านซักไซ้ถามไถ่ เพียงแต่เรื่องที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น

ชาวบ้านเบียดเสียดกันแน่นขนัด จนเขาเดินเข้าบ้านไปไม่ได้ ทำได้เพียงสะกิดบ่าคนข้างหน้า “ท่านป้าจ้าว ข้าขอเข้าไปหน่อย”

“ทำอะไรของเจ้า” ป้าจ้าวสะบัดไหล่อย่างหงุดหงิด

“ข้าเอง ลิ่วหลัง” เขาเอ่ย

ป้าจ้าวเหลียวหลังควับก่อนจะเหล่ตามองเขา “ลิ่วหลังกลับมาแล้วหรือ”

พูดจบก็จ้องมองเข้าไปในเรือนต่อ ไม่สนใจเซียวลิ่วหลัง!

เซียวลิ่วหลังงุนงงไม่น้อย

พวกเจ้าไม่ได้มาออกันอยู่ที่นี่เพราะข้าหรอกหรือ แล้วคำพูดคำจาอย่างขอไปทีเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไรกัน

เซียวลิ่วหลังเบียดเสียดชาวบ้านคนแล้วคนเล่าเข้าไป แล้วก็พบว่าพวกเขาไม่ได้สนใจตนเลย

สักนิด เซียวลิ่วหลังชักจะหงุดหงิดขึ้นมา หากไม่ได้มาเพราะเขา แล้วจะมาเบียดเสียดกันที่บ้านเขาทำไม

เมื่อเขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีฝ่าฝูงชนเข้าประตูเรือนมาได้สำเร็จ ภาพเบื้องหน้าก็พาให้ตาพร่าไปหมด!

เณรน้อยรูปหนึ่งกำลังนั่งนิ่งอยู่บนตั่งเตี้ยข้างกายหญิงชรา ใบหน้ายิ้มแยมแสนน่าเอ็นดู!

ชาวบ้านทั้งหลายมาที่นี่เพราะเณรน้อยรูปนี้ พวกเขาไม่เคยเจอเณรน้อยที่ทั้งน่าเอ็นดูทั้งรูปงามเช่นนี้มาก่อน ช่างแปลกตาเสียเหลือเกิน!

เซียวลิ่วหลังสอบได้ที่หนึ่งแต่กลับถูกเณรน้อยตัวกระจ้อยแย่งความสนใจไปเสียอย่างนั้น

ยามฟ้าเริ่มมืดชาวบ้านถึงได้พากันแยกย้ายกลับไป เซียวลิ่วหลังใบหน้าบึ้งตึง ยิ่งยามที่เห็น

เจ้าเณรน้อยโผเข้ากอดกู้เจียวยามที่ยกกับข้าวเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาก็เหยเกยิ่งกว่าเดิม

“บอกมา นี่มันเกิดเรืองอะไรขึ้น” เขามองไปทางหญิงชราและกู้เจียว

หญิงชราพ่นเมล็ดทางตะวัน “ไม่ต้องมามองหน้าข้า ข้าไม่ได้เป็นคนพามาเสียหน่อย!”

กู้เจียวชะงักไป “หากข้าบอกว่าเป็นของแถมที่ข้าซื้อภูเขามา เจ้าจะเชื่อหรือไม่”

เซียวลิ่งหลัง “…”

“จิ้งคง ไปล้างมือหลังบ้าน ข้าตักน้ำไว้ให้เจ้าแล้ว” กู้เจียวออกอุบายให้เสี่ยวจิ้งคงเดินออกไป ก่อนจะเล่าที่มาที่ไปของเรื่องให้เซียวลิ่วหลังฟัง แน่นอนว่ายกเว้นเรื่องที่นางพลาดท่าให้เสี่ยวจิ้งคง

น่าขายหน้าจะตายไป ให้ตายอย่างไรนางก็ไม่ยอมรับหรอก “…เขาน่าสงสารนัก ข้าเลยพาเขากลับมาด้วย”

เซียวลิ่วหลังจ้องมองกู้เจียวอยู่ครู่หนึ่ง คิดในใจว่านางไม่ใช่คนจิตใจงามขนาดนั้น “เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ถูกหลอก”

กู้เจียวตาเบิกโพลง “ไม่ใช่แน่นอน! เขาเพิ่งอายุกี่ขวบเอง จะมาหลอกข้าได้อย่างไร ข้าไม่ได้โง่ขนาดนั้นเสียหน่อย!”

เซียวลิ่วหลังสงสัย

กู้เจียวรีบเบี่ยงประเด็น หลุบตาลงพลางยกนิ้วชี้ขึ้นชนกันแล้วพูดว่า “หากเจ้าไม่ชอบใจ…”

เซียวลิ่วหลังเอ่ยขัดนาง “ไม่เป็นไร เจ้าชอบก็ดี”

ไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆ เสียหน่อย นางอยากจะเลี้ยงเด็กกี่คนก็เรื่องของนาง เขาไม่มีสิทธิ์

ก้าวก่าย

กู้เจียวเข้าไปในครัวเพื่อยกอาหาร

เสี่ยวจิ้งคงล้างมือเสร็จก็เดินกลับมาที่โถงใหญ่ เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเซียวลิ่วหลังก่อนจะมองเขาหัวจรดเท้าแล้วเอ่ยถามน้ำเสียงจริงจัง “เจ้าคือท่านพ่อของข้าหรือ”

เซียวลิ่วหลังชะงักไป “นางรับเจ้าเป็นลูกแล้วหรือ”

เสี่ยวจิ้งคงส่ายหน้า “เปล่าหรอก เจียวเจียวบอกว่าตามใจ ข้าก็เลยมาถามเจ้า เจ้าอยากเป็น

พ่อข้าหรืออยากเป็นอะไร”

เซียวลิ่วหลังเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าไม่มีลูกโตขนาดเจ้าหรอก”

เสี่ยวจิ้งคงตอบสีหน้าจริงจัง “ข้ายังไม่โตนะ ข้าเพิ่งหกขวบเอง!”

เซียวลิ่วหลังหัวเราะเหอะๆ “เช่นนั้นหรือ ข้านึกว่าเจ้าสามขวบเสียอีก”

เสี่ยวจิ้งคงที่บวกอายุตัวเองเพิ่มไปสามปี “…”

เสี่ยวจิ่งคงเอียงคอครุ่นคิด “เช่นนั้นท่านเป็นพี่ชายข้าไหมละ”

ไม่รอให้เซียวลิ่วหลังตอบ เสี่ยวจิ้งคงก็พยักหน้าราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา “เช่นนั้นก็ได้ กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่ากินเกี๊ยว เล่นอะไรก็ไม่สนุกเท่าเล่น…[1] ”

เซียวลิ่วหลังตวาดลั่น “หุบปาก!”

เณรน้อยรูปนี้เหตุใดถึงไม่สำรวมเอาเสียเลย!!

————————-

[1] กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่ากินเกี๊ยว เล่นอะไรก็ไม่สนุกเท่าเล่นพี่สะใภ้ เป็นสำนวนจีนเปรียบเปรยถึงอาหารและหญิงงามที่ชายหนุ่มต่างหมายปอง อาหารอร่อยที่สุดคือเกี๊ยว หญิงสาวที่งามที่สุดคือพี่สะใภ้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *