Chronology of Renewal | บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ 144 : Wordless Reply

Now you are reading Chronology of Renewal | บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ Chapter 144 : Wordless Reply at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

และแล้วเวลาก็ผ่านไปอีกสองสามวันหลังจากที่ไดเอน่าตัดสินใจที่จะส่งพวกนากาไปยังหมู่บ้านของรีซาน่าเพื่อตามหาข้อมูลของอารอนจนในที่สุดแผนการส่งนักเรียนออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ก็ได้รับการอนุมัติจากท่านผู้อำนวยการเป็นที่เรียบร้อย
 

แต่ถึงอย่างนั้นพวกนากาก็ยังต้องรอเวลาให้ทางโรงเรียนจัดเตรียมอุปกรณ์และยานพาหนะไปอีกเป็นเวลาสองสามวัน ซึ่งในช่วงเวลาที่พวกเขาได้แต่รอคอยนั้นเอง คอนแนลและซิลเวสก็ได้ถูกประกาศเรียกตัวในช่วงเวลาพักกลางวันเพื่อไปทดสอบยูนิตส่วนตัวที่ในที่สุดเอริกะก็ยอมปล่อยออกมาให้ทั้งสองคนใช้เสียที

 

“ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะพาซิลเวสไปหาคุณเอริกะเขาก่อนก็ละกันนะครับนากา”

 

“อื้ม ระวังตัวกันด้วยล่ะทั้งสองคน”

 

นากาที่กำลังป้อนข้าวให้กับโมโกะนั้นได้หันมาพยักหน้าตอบคอนแนลกลับไป ส่วนทางด้านซิลเวสที่กำลังเล่นอยู่กับอีฟเองก็ได้พูดบอกลาเด็กสาวขึ้นมาด้วยเช่นกัน

 

“ถ้างั้นเดี๋ยวเอาไว้พี่จะกลับมาหาใหม่อีกทีนะอีฟจัง”

 

“….!”

 

อีฟที่ได้ยินคำพูดเป็นเชิงบอกลาของซิลเวสนั้นไม่รอช้าที่จะโบกมือไปมากลับไปให้อีกฝ่าย และเมื่อทั้งคอนแนลและซิลเวสเดินจากไปแล้วเด็กสาวก็ได้หันไปเอามือตีๆ ไปที่ขาของรีซาน่าเพื่อเรียกความสนใจของเธอแทน

 

“อ..เอ่อ… อีฟจังมีอะไรหรือเปล่า?”

 

“……”

 

“เอ๋? อยากจะจับเขาของฉันงั้นหรอจ๊ะ? ถ้างั้นก็ขึ้นมานี่เลยมา~”

 

ถึงแม้ว่าอีฟที่ไม่เคยเอ่ยปากพูดเลยแม้แต่ครั้งเดียวจะยังคงไว้ซึ่งความเงียบอีกทั้งยังคงหลับตาอยู่ตลอดเวลาจนดูไม่ออกว่าเธอต้องการอะไรกันแน่ แต่ว่าจากท่าทีที่อีฟยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขาของรีซาน่าและเอียงคอไปมาเหมือนกับว่ากำลังมองสำรวจดูมันนั้นก็พอจะทำให้รีซาน่าคาดเดาได้บ้าง เธอจึงไม่รอช้าที่จะยกตัวอีฟขึ้นมานั่งขี่คอให้เด็กสาวได้เข้าใกล้เขาสีดำของเธอมากขึ้นในทันที

 

และนั่นก็ทำให้นากาที่แอบกังวลอยู่หน่อยๆ ว่าเพื่อนๆ ของตนจะรู้สึกรำคาญหรือเปล่ากับการที่มีอีฟที่มีนิสัยแทบไม่ได้ต่างไปจากเด็กเล็กแบบนี้มาร่วมวงด้วยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง ในขณะที่ทางด้านโมโกะที่ถือว่าตนเองเป็นผู้ปกครองของอีฟร่วมกันกับนากาด้วยอีกคนหนึ่งก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน

 

“เธอดูเข้ากันได้กับอีฟมากกว่าตอนที่เจอกับพวกฉันในตอนสอบเยอะเลยนะรีซาน่า”

 

“แหม่ ก็อีฟเขาเป็นเด็กดีนี่คะ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นๆ เห็นฉันเดินเข้าไปหาก็ร้องไห้งอแงกันหมดแล้ว”

 

รีซาน่าที่ได้ยินคำพูดของโมโกะได้พูดตอบกลับเธอกลับไปพลางโยกตัวไปมาเล็กน้อยให้อีฟที่ขี่คอของเธออยู่ได้แกว่งตัวเล่นอย่างสนุกสนานท่ามกลางความหวาดเสียวของคนอื่นๆ ว่านั่นจะทำให้อีฟร่วงตกลงมาหรือเปล่า

 

ส่วนทางด้านอัลเบิร์ตที่นั่งร่วมวงอยู่ด้วยตั้งแต่แรกแต่ว่ากำลังนั่งคุยอยู่กับซึบากิและเซซิลอยู่เองก็ได้หันมาเอ่ยปากพูดกัดรีซาน่าอย่างเจ็บแสบตามนิสัยปากเสียของเขา

 

“ก็เธอตัวใหญ่ซะขนาดนั้นพอพวกเด็กๆ เห็นเข้าเขาก็คิดว่าเป็นยักษ์จะมาไล่จับกินน่ะสิ เธอเองก็ระวังตัวเอาไว้ด้วยล่ะอีฟ ถ้าเกิดเผลอขึ้นมาระวังจะโดนยัยนี่จับไปกินตับเอานะ”

 

“…..?”

 

“อ—อย่าไปพูดอะไรให้เด็กกลัวแบบนั้นสิคะอัลเบิร์ต!!”

 

คำพูดของอัลเบิร์ตนั้นได้ทำให้รีซาน่าหันขวับไปหาเขาและตีมือเข้าใส่ด้วยท่าทีเขินอายที่ดูไม่ค่อยจะเข้ากับขนาดตัวของเธอสักเท่าไหร่ อีกทั้งด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลของเธอก็ทำให้อัลเบิร์ตต้องรีบขยับตัวหลบพร้อมกับพูดต่อว่าขึ้นมาอีกครั้ง

 

“เฮ้ย— ฉันแค่พูดล้อเล่นเฉยๆ ถึงกับต้องเอาท่อนซุงมาเหวี่ยงใส่กันเลยเรอะ!?”

 

“นี่ว่าแขนใครเป็นท่อนซุงกันคะ!?”

 

“เลิกเล่นแล้วไปกันได้แล้ว…”

 

ในขณะที่รีซาน่ากำลังร้องโวยวายเพราะว่าอัลเบิร์ตพูดล้อเธอไม่หยุดอยู่นั้นเอง ทางด้านเซซิลและซึบากิก็ได้ลุกขึ้นจากโต๊ะและเอ่ยปากพูดเรียกอัลเบิร์ตขึ้นมาจนทำให้นากาที่เห็นแบบนั้นต้องพูดถามอัลเบิร์ตขึ้นมา

 

“นี่พวกนายเริ่มต้นออกไปหาข้อมูลกันแล้วหรอ?”

 

“มันก็แน่อยู่แล้วสิฟะ ถ้าเกิดว่าพวกนายไม่ต้องรอท่านผู้อำนวยการอนุมัติแล้วก็หาของมาให้ก่อนก็คงจะรีบออกไปหาข้อมูลกันทันทีเหมือนกันไม่ใช่หรือไง”

 

“มันก็ใช่นั่นแหล่ะ แต่ไม่ใช่ว่าทางด้านพวกนายก็ต้องรอผู้อำนวยการเขาอนุมัติก่อนเหมือนกันหรอกหรอ?”

 

นากาที่ได้รับคำตอบกลับมาจากอัลเบิร์ตแล้วได้พูดถามคำถามใหม่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และนั่นก็ทำให้ซึบากิที่พักนี้ต้องมารวมกลุ่มกับอัลเบิร์ตและพวกนากาจนพอจะรู้จักนิสัยของนากาขึ้นมาบ้างแล้วตัดสินใจที่จะพูดตอบคำถามแบบรวบรัดขึ้นมา

 

“เรื่องนั้นท่านผู้อำนวยการอนุมัติไปพร้อมๆ กับของนายนั่นล่ะ… แต่ว่าทางด้านพวกฉันเป็นแค่การหาข้อมูลในเมืองก็เลยไม่ต้องรออุปกรณ์กับรถจากทางโรงเรียนก็เลยเริ่มงานกันได้เลย”

 

“ก็ตามที่ยัยแมวดำว่ามานั่นล่ะ เดี๋ยวยัยนี่กับยัยเด็กห้องพยาบาลจะไปคุ้ยที่คลินิกของอาจารย์อารอนดูว่าอาจารย์เขาทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้หรือเปล่า ส่วนทางด้านฉันกับเซซิลจะลองไปไล่ถามจากพวกชาวบ้านแถวๆ นั้นดู”

 

คำพูดอธิบายของอัลเบิร์ตที่แทนตัวตนของซึบากิว่ายัยแมวดำนั้นได้ทำให้เจ้าตัวหันไปมองพ่อหนุ่มปากเสียตาขวาง แต่ถึงอย่างนั้นทางด้านอัลเบิร์ตก็กลับไม่มีท่าทีว่าจะแยแสเลยแม้แต่น้อยจนทำให้ซึบากิตัดสินใจที่จะแยกตัวออกไปทำงานในส่วนของตัวเองแทน

 

“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันขอไปตามตัวยัยคาร์เทียร์เลยก็ละกัน เพราะยังไงเดี๋ยวก็ต้องแยกกันไปอยู่แล้วนี่”

 

“โอ้ ถ้างั้นพวกเราก็ไปกันบ้างเถอะยัยบ้านนอก ตามมาดีๆ อย่าให้หลงล่ะ ฉันขี้เกียจเสียเวลาไปตามหาเด็กบ้านนอกอย่างเธอน่ะ”

 

“……….”

 

เซซิลที่ได้ยินอัลเบิร์ตเรียกตัวเธอที่มาจากหมู่บ้านในเขตของเมืองอื่นว่าเด็กบ้านนอกนั้นได้ถลึงตาใส่อัลเบิร์ตไปด้วยอีกคนหนึ่ง แต่ก็เช่นเคยว่าอัลเบิร์ตนั้นไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเลยแม้แต่น้อยและออกเดินตรงหายจากโรงอาหารไปจนทำให้เซซิลได้แต่ส่ายหน้าไปมาและเดินตามหลังเขาไป

 

ส่วนทางด้านนากาที่กำลังแหย่อีฟที่ขี่หลังรีซาน่าเล่นอยู่นั้นก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาเมื่อเขาเห็นท่าทีของเซซิลที่ทำท่าเหมือนกับว่าจะชักดาบคาตานะของเธอออกมาเชือดอัลเบิร์ตได้ทุกเมื่อ

 

“ดูเป็นทีมที่ไม่ค่อยจะเข้าขากันสักเท่าไหร่เลยนะนั่น”

 

“ก็เรามีคนอยู่กันแค่นี้มันก็ช่วยไม่ได้นี่เนอะ อ่ะ—อย่าโยกไปมาแบบนั้นสิอีฟ เดี๋ยวรีซาน่าเขาก็ล้มหรอก…”

 

ในขณะที่โมโกะกำลังพูดตอบนากากลับไปอยู่นั้นเองเธอก็สังเกตเห็นว่าในขณะนี้อีฟกำลังใช้มือของเธอจับเขาสีดำของรีซาน่าทั้งสองข้างเอาไว้และโยกตัวไปมาเหมือนกับว่ากำลังเล่นม้าโยกอยู่อย่างไรอย่างนั้น ซึ่งคำพูดเตือนของโมโกะก็ได้ทำให้รีซาน่าที่ตกเป็นของเล่นของอีฟต้องรีบพูดขึ้นมา

 

“อ่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อีฟจังเขาไม่ได้ตัวหนักขนาดนั้นสักหน่อย ปล่อยเขาเล่นไปก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวช่วงที่พวกเราไปที่หมู่บ้านของฉันกันก็คงจะได้ตัวติดกันอีกยาวๆ เลย”

 

แปะๆ

 

ในระหว่างที่รีซาน่ากำลังเอ่ยปากพูดขึ้นมาอยู่นั้นเอง อยู่ๆ อีฟก็ปล่อยมือข้างหนึ่งของเธอออกจากเขาของรีซาน่าและยกมันขึ้นมาตบๆ ไปที่ศีรษะของเจ้าตัวเบาๆ จนทำให้รีซาน่าต้องเอ่ยปากพูดถามขึ้นมา

 

“เอ๋? อะไรหรอจ๊ะอีฟ?”

 

“………”

 

แต่ถึงแม้ว่าอีฟจะได้ยินคำถามของรีซาน่าไปแล้วก็ตาม แต่ว่าตัวเธอเองก็ไม่เคยเอ่ยปากพูดอะไรอยู่แล้ว สิ่งที่รีซาน่าได้รับกลับไปจึงมีแต่ความเงียบและมือของอีฟที่ยังคงตบลงบนหัวของเธอเบาๆ เหมือนกับกำลังปลอบใจเธอในเรื่องอะไรบางอย่างอยู่อย่างไรอย่างนั้นจนทำให้นากาต้องพูดอธิบายการกระทำของเด็กสาวขึ้นมา

 

“บางทีอีฟเขาก็ชอบทำอะไรแปลกๆ แบบนั้นแหล่ะ น่าจะเพราะว่าอยากจะสื่อสารกับพวกเราแต่ว่าพูดไม่ได้ล่ะมั้ง ถ้าเธอไม่ชอบใจก็บอกได้นะรีซาน่าเดี๋ยวพวกฉันจะช่วยห้ามอีฟให้เอง”

 

“อ่ะ— ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบอะไรหรอกนะคะ แค่ว่าอยู่ดีๆ เขาก็มาลูบกันแบบนี้ฉันก็เลยแปลกใจนิดหน่อยน่ะค่ะ…”

 

“……!”

 

คำพูดของรีซาน่านั้นได้ทำให้อีฟที่ขี่คอลูบหัวของรีซาน่าอยู่มีท่าทีตื่นต้นขึ้นมาเหมือนกับว่าเธอสามารถฟังสิ่งที่พวกเขากำลังพูดกันอยู่รู้เรื่องและกระหน่ำมือลูบหัวของรีซาน่าไปมาอีกครั้งหนึ่ง และนั่นก็ทำให้รีซาน่าต้องยกมือขึ้นไปเขี่ยแก้มของอีฟเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้เด็กสาวหยุดลูบหัวของเธอจนผมยุ่งมากไปกว่านี้พร้อมกับเอ่ยปากพูดพึมพำออกมาเบาๆ

 

“อยากจะสื่อสารด้วยอย่างงั้นหรอ… ถ้าตอนนั้นฉันพยายามจะสื่อสารกับพวกเขาแทนที่จะหนีออกมาจากหมู่บ้านแบบนี้มันจะดีกว่าหรือเปล่านะ…”

 

 

“ถ้าคิดจะหายตัวไปไหนอย่างน้อยก็หัดทิ้งเบาะแสเอาไว้ให้ตามตัวกันซะบ้างสิคะอาจารย์อารอน…”

 

หลังจากนั้นอีกไม่นานสักเท่าไหร่นัก ทางด้านซึบากิที่ไปตามตัวคาร์เทียร์และพาตัวคู่แข่งของเธอมาช่วยกันคุ้ยหาเบาะแสจากคลินิกของอารอนตามคำสั่งของไดเอน่าก็ได้พูดบ่นขึ้นมาหลังจากที่เธอคุ้ยโต๊ะทำงานของอารอนจนเละแต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไรเลยแม้แต่น้อย

 

ซึ่งท่าทีหงุดหงิดและเสียงของซึบากิที่ดังไม่ใช่น้อยนั้นก็ได้ทำให้คาร์เทียร์ที่กำลังกล่อมเด็กทารกลูกของคุณแม่เจนของเธอให้นอนหลับอยู่ต้องพูดต่อว่าออกมา

 

“อย่าทำเสียงดังสิซึบากิจัง แล้วหนูก็บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าพี่อารอนเขาไม่ได้ทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้ให้เลยน่ะ เพราะถ้าพี่เขาทิ้งอะไรเอาไว้หนูก็ต้องเจอไปนานแล้วสิ”

 

“ก็คุณประธานนักเรียนเขาสั่งให้ฉันพาเธอมาค้นหาที่นี่แล้วจะให้ฉันทำยังไ—”

 

กริ๊งงงง—

 

“อ๊ะ มีคนมาอ่ะ– ซึบากิจังออกไปรับแขกให้หน่อยสิหนูกล่อมน้องอยู่… ถ้าเกิดว่าเป็นคนไข้อาการไม่หนักก็บอกให้กลับไปก่อนก็แล้วกัน แต่ถ้าดูแล้วท่าทางจะแย่ก็ให้เข้ามาได้เลย”

 

“ให้ตายสิ พอมีข้ออ้างแล้วก็ใช้ใหญ่เลยนะยัยนี่…”

 

ซึบากิที่ถูกคาร์เทียร์สั่งใช้งานนั้นก็ได้พูดบ่นกระปอดกระแปดออกมาและเดินตรงออกจากห้องพักไปโดยไม่วายที่จะแอบโบกมือให้กับเด็กทารกตัวน้อยที่เป็นน้องของคาร์เทียร์ที่กำลังจ้องมองเธอตาแป๋วอยู่โดยไม่มีท่าทีว่าจะหลับไปเลยแม้แต่น้อย

 

“………”

 

และเมื่อซึบากิเปิดประตูของคลินิกออกมาแล้วเธอก็ได้พบเข้ากับร่างเล็กๆ ของสาวใช้ตัวน้อยในชุดเครื่องแบบสีน้ำตาลที่มีเส้นผมสีเทาและดวงตาสีแดงที่กำลังจ้องมองดูเธออยู่ด้วยสายตาแปลกใจ ซึ่งท่าทางของสาวใช้ตัวน้อยที่ดูเหมือนว่าจะมีสุขภาพดีไม่ได้เจ็บป่วยแต่อย่างใดนั้นก็ทำให้ซึบากิไม่รอช้าที่เอ่ยปากไล่ผู้มาเยือนกลับไปในทันที

 

“ตอนนี้คลินิกของคุณหมออารอนปิดให้บริการชั่วคราวค่ะ ถ้ามีใครเจ็บป่วยล่ะก็เชิญไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลของทางเมืองหรือว่าคลินิกแห่งอื่นได้เลยค่ะ”

 

“ฉันมาขอพบคุณหมออารอนค่ะ…”

 

“เอ่อ… ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็…”

 

คำพูดของสาวใช้ผมสีเทาเบื้องหน้าได้ทำให้สึบากิชะงักไปเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสาวใช้ที่ถูกสั่งให้มาตามตัวอารอนไปรักษาพวกขุนนางถึงที่บ้านหรือเปล่าถึงได้แจ้งจุดประสงค์อย่างชัดเจนแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่ซึบากิจะได้พูดสอบถามอะไรขึ้นมา สาวใช้ตัวน้อยเบื้องหน้าของเธอก็เอ่ยปากพูดถามขึ้นมาเสียก่อน

 

“…ท่านอารอนเองก็ยังไม่ได้กลับมาที่นี่งั้นหรอคะ?”

 

“เอ๋ะ? คุณรู้เรื่องที่อาจารย์อารอนหายตัวไปด้วยงั้นหรอคะ!?”

 

แต่คำถามของสาวใช้ตัวน้อยเบื้องหน้านั้นได้ทำให้ซึบากิพูดถามกลับไปด้วยความตกใจ เพราะว่านอกจากพวกเธอและทางโรงเรียนแล้วไม่น่าจะมีใครรู้เรื่องที่ว่าอาจารย์อารอนของเธอหายตัวไปได้อีก และนั่นก็คงจะหมายความว่าสาวใช้ตัวน้อยเบื้องหน้าเธอคงจะรู้เรื่องหรือว่ามีเบาะแสที่ว่าอาจารย์อารอนหายตัวไปไหนอย่างแน่นอน

 

“ดูจากท่าทีของคุณแล้วท่านอารอนคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่จริงด้วยสินะคะ…”

 

“อาจารย์อารอนเขาหายตัวไปอย่างที่คุณน่าจะรู้อยู่แล้วนั่นแหล่ะค่ะ! ว่าแต่คุณเป็นใครเกี่ยวข้องยังไงกับอาจารย์อารอนหรอคะ!? แล้วทำไมคุณถึงเรียกอาจารย์อารอนว่าท่านล่ะ เขาไม่เคยเห็นจะบอกฉันเลยนะว่าเขามีสาวใช้ด้วยน่ะ!”

 

ซึบากิที่ได้ยินคำพูดของสาวใช้เบื้องหน้านั้นแทบจะยื่นมือออกไปเขย่าตัวอีกฝ่ายเพื่อสอบถามแต่ก็ยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ได้ทัน ส่วนทางด้านสาวใช้ตัวน้อยเองก็ได้ก้มหน้าลงเล็กน้อยกับคำถามของซึบากิเหมือนกับว่ากำลังคิดหาคำตอบให้กับอีกฝ่ายอยู่ชั่วขณะแล้วจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมา

 

“ฉันเป็น—”

 

“หนูบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่าส่งเสียงดังน่ะซึบากิจัง! อ่ะ—พี่สาวใช้เมื่อตอนนั้นนี่…”

 

ในขณะที่สาวใช้ตัวน้อยกำลังจะเอ่ยปากพูดตอบซึบากิกลับไปอยู่นั้นเอง คาร์เทียร์ที่ได้ยินเสียงร้องถามดังลั่นด้วยความตื่นเต้นของซึบากิก็ได้ยื่นหน้าออกมาจากด้านในห้องพักเพื่อต่อว่าเพื่อนของเธอก่อนที่เธอจะต้องชะงักไปกับร่างของสาวใช้ตัวน้อยที่เธอเคยพบเจอมาแล้วก่อนหน้านี้ในวันเธอวิ่งฝ่าฝนออกมาจากคฤหาสน์ของเวก้าเพื่อขอความช่วยเหลือจากอารอน

 

ซึ่งคำพูดของคาร์เทียร์ที่ฟังดูเหมือนว่าจะเคยพบเจอกับสาวใช้ตัวน้อยผู้มาเยือนก่อนแล้วก็ได้ทำให้ซึบากิหันไปพูดถามคู่แข่งของเธอขึ้นมา

 

“คนรู้จักของเธอหรอคาร์เทียร์?”

 

“ก็ไม่เชิงหรอก… ตอนที่หนูมาที่นี่เป็นครั้งแรกพี่สาวคนนี้เขาก็มาหาพี่อารอนในวันเดียวกันด้วยน่ะ เห็นว่าเป็นคนรู้จักเก่าที่มาคุยเรื่องภารกิจอะไรสักอย่างเนี่ยแหล่ะ ตอนนั้นหนูเห็นพี่พยาบาลเขาโวยวายใหญ่เลย”

 

คาร์เทียร์พูดอธิบายเรื่องที่เธอพอจะจำได้ในวันนั้นออกมาให้ซึบากิฟังคร่าวๆ ในขณะที่ทางด้านสาวใช้ตัวน้อยก็ได้เลิกคิ้วมองดูดวงตาข้างซ้ายของคาร์เทียร์สลับกับใบหน้าของซึบากิด้วยท่าทีเหมือนกับว่าแปลกใจอะไรบางอย่างก่อนที่เธอจะค้อมตัวลงเล็กน้อยพร้อมกับพูดแนะนำตัวขึ้นมา

 

“ฉัน… นูลิส เบต้า เป็นสาวใช้ของเพื่อนคนหนึ่งของท่านอารอนค่ะ ส่วนพวกคุณคงจะเป็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนรีมินัสสินะคะ”

 

“ใช่แล้วค่ะ ฉันซึบากิ ส่วนยัยหัวสีตกนี่ชื่อว่าคาร์เทียร์—”

 

“แนะนำตัวคนอื่นให้มันดีๆ หน่อยสิซึบากิจัง!!”

 

คาร์เทียร์ที่ได้ยินเพื่อนของเธอแนะนำตัวแทนให้เธอด้วยคำพูดแบบขอไปทีนั้นได้สะบัดมือไปฟาดเข้าใส่กลางหลังของซึบากิอย่างแรง ในขณะที่ทางด้านสาวใช้ตัวน้อยอย่างนูลิสนั้นก็ได้พยักหน้ากลับไปให้พวกเธอเป็นการตอบรับแล้วจึงเงยหน้าจ้องมองตรงไปยังอากาศเบื้องหลังของซึบากิอย่างเงียบๆ

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้ เมย์ เพื่อนวิญญาณสาวของซึบากิที่กำลังหมุนตัวหัวเราะสุดเสียงอยู่กลางอากาศกับการแกล้งกันเองของสองสาวถึงกับชะงักไปในทันทีเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าผู้มาเยือนรายใหม่กำลังจ้องมองตรงมาที่เธอถึงขั้นที่เรียกได้ว่าสบตากันซะด้วยซ้ำ

 

‘น—นั่นเขากำลังมองฉันอยู่หรือเปล่าน่ะซึบากิ?”

 

“เวลาแนะนำตัวคนอื่นก็หัดพูดจาให้มันเพราะๆ หน่อยสิซึบากิจัง! เอาไหนลองพูดใหม่อีกรอบนึงซิ นี่! ฟังอยู่หรือเปล่าเนี่ยซึบากิจัง!”

 

‘ซึบากิ… นี่! ซึบากิ!!’

 

“ไม่ทราบว่า—”

 

“หนวกหูหน่า!! เอ่อ… ฉันไม่ได้หมายคุณนูลิสนะคะ”

 

ซึบากิที่ได้ยินทั้งเสียงโวยวายของคาร์เทียร์และเสียงหัวเราะดังลั่นของเมย์ก่อนจะกลายเป็นเสียงร้องถามรัวๆ ของเมย์ที่ดังแทรกมากับเสียงพูดสั่งสอนของคาร์เทียร์นั้นรู้สึกเหมือนกับว่าจะสติหลุดและเผลอหลุดตวาดออกมาเสียงดังก่อนที่เธอจะต้องรีบเอ่ยปากพูดขอโทษนูลิสขึ้นมาเมื่อได้พบว่าเมื่อสักครู่มีเสียงของสาวใช้ตัวน้อยเบื้องหน้าพยายามจะเอ่ยปากพูดอะไรขึ้นมาด้วยอีกคนหนึ่ง

 

ซึ่งทางด้านนูลิสนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมานักและเอ่ยปากพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ เงียบเสียงลงแล้ว

 

“ดูเหมือนว่าพวกคุณเองก็คงจะไม่รู้ว่าท่านอารอนหายตัวไปที่ไหนเหมือนกันสินะคะ”

 

“พูดแบบนี้แปลว่าพี่นูลิสเองก็ไม่รู้หรอคะ?”

 

“ถ้าฉันรู้ฉันก็คงจะไปหาท่านอารอนโดยตรงแล้วล่ะค่ะ…”

 

นูลิสเอ่ยปากพูดตอบคาร์เทียร์กลับไปตรงๆ จนทำให้ไหล่ของคาร์เทียร์ถึงกับลู่ลงหลังจากที่เธอแอบมีความหวังว่าพี่สาวใช้คนนี้ที่ดูเหมือนว่าจะรู้จักกับทั้งพี่อารอนของเธอและพี่พยาบาลผมบลอนด์อาจจะรู้ว่าพี่อารอนของเธอหายตัวไปไหนกันแน่

 

ซึ่งท่าทีโศกเศร้าของคาร์เทียร์นั้นก็ได้ทำให้ซึบากิชะงักไปเล็กน้อยแล้วจึงเอ่ยปากพูดถามนูลิสที่ดูเหมือนจะรู้ว่าเมื่อวันนั้นอารอนออกจากเมืองไปทำอะไรขึ้นมาตรงๆ

 

“คุณนูลิสคิดว่าอาจารย์อารอนยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าคะ?”

 

“……..”

 

คำถามของซึบากิได้ทำให้นูลิสนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่เธอจะเอ่ยปากพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ของเธอ

 

“…ถึงฉันจะบอกแบบเดียวกันไม่ได้กับคนอื่นๆ ที่ท่านอารอนพาไปด้วยในวันนั้นแล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านอารอนอยู่ในสภาพอย่างไร แต่ว่าคนอย่างท่านอารอนน่ะไม่มีทางตายเพราะเรื่องนั้นหรอกนะคะ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่หลังจากที่ท่านอารอนได้พบกับพวกคุณแบบนี้แล้วแน่ๆ ล่ะค่ะ…”

 

“พบกับพวกฉัน… งั้นหรอคะ นั่นสินะ…”

 

คำตอบของนูลิสได้ทำให้ซึบากิเผลอเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา ในขณะที่ทางด้านคาร์เทียร์เองก็ได้ยกมือขึ้นมาแตะดวงตาข้างซ้ายของตนพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันเศร้าสร้อยออกมาอีกครั้งหนึ่งโดยมีเสียงของนูลิสพูดอธิบายออกมาให้พวกเธอทั้งสองคนฟังไปด้วย

 

“ใช่แล้วค่ะ แล้วก็ถ้าเกิดว่าเขายังคงเป็นท่านอารอนคนเดิมกับที่ฉันจำได้ล่ะก็ ไม่ว่าพวกคุณจะออกไปตามหาเขาหรือเปล่า ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวท่านอารอนก็จะต้องกลับมาหาพวกคุณเองจนได้อย่างแน่นอน”

 

“……..”

 

สิ่งที่นูลิสพูดออกมานั้นได้ทำให้เด็กสาวทั้งสองคนนิ่งเงียบไปอีกครั้งหนึ่งก่อนที่คาร์เทียร์จะเอ่ยปากพูดถามเพื่อนของเธอขึ้นมา

 

“แต่ไม่ว่ายังไงพวกเราก็จะออกตามหาพี่อารอนอยู่ดีใช่มั้ยล่ะซึบากิจัง!”

 

“อ่า… ก็ขนาดคุณประธานนักเรียนเขายังยอมตั้งกลุ่มออกไปตามหาอาจารย์อารอนเขาเลยแล้วจะให้พวกเรารออยู่เฉยๆ ได้ยังไงกันล่ะจริงมั้ย!”

 

“……”

 

นูลิสที่เห็นว่าความหวังดีที่ไม่อยากจะให้เด็กสาวทั้งสองคนเสียเวลาออกไปตามหาอารอนโดยเปล่าประโยชน์เพราะว่าสักวันหนึ่งเขาก็จะกลับมาเองอยู่แล้วได้ถูกปัดทิ้งไปเฉยๆ แบบนั้นได้เผยรอยยิ้มเล็กๆ ออกมาพร้อมกับจับชายกระโปรงยกขึ้นและค้อมหัวให้กับเด็กสาวทั้งสองคนเป็นสัญญาณของการบอกลาและเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ในเมื่อท่านอารอนไม่อยู่ที่นี่ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงจะหมดธุระแล้วล่ะค่ะ… พวกคุณเองก็รักษาตัวกันด้วย”

 

“จะว่าไปแล้วพี่นูลิสอาศัยอยู่แถวไหนหรอคะ ถ้าเกิดว่าพี่อารอนกลับมาแล้วเดี๋ยวหนูจะได้ส่งข่าวไปให้พี่นูลิสได้ไง”

 

“เรื่องนั้นคงจะไม่จำเป็นแล้วล่ะค่ะ… เพราะในเมื่อท่านอารอนได้พบเจอกับพวกคุณแล้วคำตอบของเขาก็คงจะมีอยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้นแล้วล่ะค่ะ…”

 

“คำตอบงั้นหรอคะ?”

 

คำพูดของนูลิสได้ทำให้คาร์เทียร์นึกไปถึงวันที่เธอได้พบกับสาวใช้เบื้องหน้าขึ้นมาได้ว่าในตอนนั้นนอกจากที่พี่พยาบาลผมบลอนด์ที่ปกติแล้วจะเป็นคนใจดีจะตกใจกับการปรากฏตัวของสาวใช้ตัวน้อยจนเผลอหลุดปากพูดด่าพี่อารอนออกมาแล้ว สาเหตุที่นูลิสมาที่นี่เมื่อตอนนั้นก็คือการมาขอคำตอบของเรื่องอะไรสักอย่างนึงที่ทำให้พี่อารอนของเธอดูกลุ้มใจมากนั่นเอง

 

“ค่ะ… แต่ว่าเรื่องนั้นพวกคุณไม่ต้องสน— อ่ะ…”

 

ในขณะที่นูลิสกำลังเอ่ยปากพูดตอบคาร์เทียร์ออกไปอยู่นั้นเองเธอก็ได้ชะงักไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นเส้นผมสีดำยุ่งๆ และชายเสื้อกาวน์สีขาวผลุบหายเข้าไปในซอกตึกใกล้ๆ กัน ซึ่งการที่นูลิสชะงักไปกลางคันนั้นก็ได้ทำให้ซึบากิต้องพูดถามขึ้นมา

 

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณนูลิส?”

 

“เปล่าค่ะ… ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันนะคะ แล้วถ้าเป็นไปได้พวกคุณก็ระวังเด็กผู้หญิงผมสีดำยุ่งๆ ที่ใส่ชุดเสื้อกาวน์เอาไว้ด้วยก็ดีนะคะ…”

 

นูลิสเอ่ยปากพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่เธอจะซอยเท้าเดินตรงไปยังซอกตึกที่เธอเห็นหลังไวๆ ของใครบางคนผลุบหายเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนที่ทันใดนั้นเองจะมีเสียงร้องโวยวายของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังแว่วๆ ออกมาให้ทั้งซึบากิและคาร์เทียร์ได้ยิน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด