You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! 166

Now you are reading You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! Chapter 166 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

GG:บทที่ 166 – ความหึงหวง

เมื่อเห็นองค์ราชินีเงียบไป หยวนเต๋อก็กล่าวต่อว่า “ลูกศิษย์ของหม่อมฉันเพิ่งกลับมาจากโลกมนุษย์ เกิดเหตุแย่งชิงอาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณจนส่งผลให้มีคนตายและสูญหายจำนวนมาก และคนที่ตายจำนวนไม่น้อยถูกดูดพลังจนร่างซูบผอม หม่อมฉันคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของเด็กผู้หญิงในโลงคนนั้นแน่นอนพะย่ะค่ะ”

ตงฮวงไป๋ลู่มองหน้าผู้เฒ่าแคระและพูดออกมาอย่างเชื่องช้าว่า “แล้วไงล่ะ”

หยวนเต๋อตกตะลึง รีบก้มศีรษะลงทันที

“เรื่องนี้มันมีปัญหาตรงไหน เหตุเกิดขึ้นในแดนใต้ ไม่ใช่อาณาเขตของเราสักหน่อย ถ้าเจ้ามีอะไรจะพูดก็รีบพูดออกมา อย่ามัวชักแม่น้ำทั้งห้าให้เสียเวลา!” ตงฮวงไป๋ลู่กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ทำไมผู้เฒ่าเหล่านี้ถึงไม่รู้จักหน้าที่ของตนเอง มีความจำเป็นใดต้องรบกวนเธอในเวลานี้ด้วย?

แปดผู้เฒ่าหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ราวกับว่าไม่มีใครกล้าพูดเรื่องสำคัญออกมา

ทันใดนั้น ทั้งแปดคนก็คุกเข่าลงพร้อมกัน “พวกหม่อมฉันหวังว่าองค์ราชินีจะทรงพิจารณาเลือกพระสวามีได้แล้วนะพะย่ะค่ะ นี่ก็ควรค่าแก่เวลาที่ท่านจะต้องมีรัชทายาทเอาไว้สำหรับสืบทอดบัลลังก์แล้ว”

ตงฮวงไป๋ลู่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่มีท่าทีฉุนโกรธแม้แต่น้อย แต่นั่นกลับทำให้แปดผู้เฒ่ารู้สึกหวาดกลัวมากกว่าเดิม

“ข้านึกว่าพวกเจ้าเลือกพระสวามีเอาไว้ให้ข้าเรียบร้อยแล้วเสียอีก” องค์ราชินียิ้มออกมาแล้ว แต่แววตาของเธอเป็นประกายดุร้ายอย่างยิ่ง

ในกลุ่มของแปดผู้เฒ่า ชายชราร่างอ้วนขยับกายออกมาข้างหน้า เขามีชื่อว่าซิงหาน เครายาวๆ ใต้คางของเขาระไปกับพื้นท้องพระโรงยามที่ก้มตัวต่ำ ถ้าขยับไปมามันก็ไม่ต่างไปจากไม้กวาดเลยทีเดียว

“กราบบังคมทูลองค์ราชินี ท่านจำเป็นต้องอภิเสกสมรสกับผู้ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ และด้วยเหตุนี้เอง สายเลือดของเทพเจ้าจึงสำคัญยิ่ง สายเลือดโบราณคือสิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบันนี้ แม้แต่อีกสองตระกูลก็ไม่สมควรได้เกี่ยวดองกับท่าน ตราบใดที่ท่านให้กำเนิดพระโอรสและสืบทอดราชบัลลังก์ ตระกูลตงก็จะต้องยิ่งใหญ่เกรียงไกรตลอดไปแน่นอนพะย่ะค่ะ”

ตงฮวงไป๋ลู่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุด ไม่ตอบรับคำใดออกมา

ซิงหานพูดต่อว่า “ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ของฝั่งเหนืออยู่ภายใต้การควบคุมของท่านทั้งสิ้น ในขณะที่ตระกูลทางฝั่งใต้อยู่ภายใต้การควบคุมของท่านจี่ ถึงแม้ว่าหยูเฉิงเจ้อร์จะอยู่ในฝั่งใต้ แต่เขาก็ไม่สนใจโลกภายนอก หม่อมฉันคิดว่าตระกูลของเขานี่แหละ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดพะย่ะค่ะ”

หลังจากที่หยุดไปเล็กน้อย ซิงหานก็กล่าวต่อว่า “บุตรชายคนรองของหยูเฉิงเจ้อร์มีนามว่าคังสือไช่ หน้าตาของเขาหล่อเหลาราวเทพบุตร ไม่มีผู้ใดจะเหมาะสมกับตำแหน่งพระสวามีของท่านมากไปกว่าเขาอีกแล้ว”

“พูดจบหรือยัง?” ตงฮวงไป๋ลู่ถาม

“จบแล้วพะยะค่ะฝ่าบาท!”

“พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว” ตงฮวงไป๋ลู่โบกมือไล่และลุกขึ้นยืน

หยวนเต๋อรีบพูดออกมาทันทีว่า “หม่อมฉันมีอีกหนึ่งเรื่องสำคัญต้องแจ้งให้พระองค์ทราบ! นี่คือเรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลชิงในหลงอันพะย่ะค่ะ!”

ตงฮวงไป๋ลู่หยุดชะงักอยู่กับที่ ความรู้สึกบางอย่างปรากฏขึ้นบนใบหน้าแสนงดงามของเธอ แปดผู้เฒ่าก้มศีรษะลงด้วยความลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่พบความเปลี่ยนแปลงใดๆ จากองค์ราชินีตามมา

“พวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวกับข้า” ตงฮวงไป๋ลู่เตรียมตัวเดินหนีกลับเข้าที่พักผ่อนประจำพระองค์

หยวนเต๋อตะโกนออกไปว่า “ฝ่าบาท ตอนนี้ตะกูลชิงมีหัวหน้าครอบครัวคนใหม่แล้วพะย่ะค่ะ และชื่อของเขาก็คือเย่ฮัว!”

ชื่อของเขาคือเย่ฮัว คนสารเลวนั่นมีชื่อว่าเย่ฮัว!

เนื่องจากองค์ราชินีหันหลังอยู่ แปดผู้เฒ่าจึงมองไม่เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของพระองค์

แต่ทุกคนในกลุ่มแปดผู้เฒ่าพากันจ้องมองหยวนเต๋อด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจเลยว่าชายชราร่างแคระจะรายงานเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ทำไม

หยวนเต๋อไม่สนใจอะไรอีกแล้วขณะกล่าวต่อไปว่า “ผู้ชายคนนี้มีภรรยาชื่อว่าชิงหยา เธอกำลังตั้งท้องอยู่ด้วยพะย่ะค่ะ!”

ทุกคำที่หยวนเต๋อพูดออกมา เป็นเหมือนใบมีดที่กรีดลงไปกลางหัวใจอันแสนบอบบางของตงฮวงไป๋ลู่

เขามีภรรยาแล้ว ภรรยาของเขากำลังตั้งท้อง ทำไมเขาถึงทำตัวแบบนี้!

ภาพเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนผุดวาบเข้ามาในความทรงจำของตงฮวงไป๋ลู่ ในตอนนั้น สถานการณ์แทบไม่แตกต่างไปจากคืนนี้ แต่ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เป็นบิดาของเธอ ในขณะที่ตัวเธอเองหลบหนีไปมีความสัมพันธ์กับเย่ฮัวบนโลกมนุษย์

ตอนที่ได้ยินชื่อเสียงของชายหนุ่มผู้นั้นเป็นครั้งแรก ตงฮวงไป๋ลู่ไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริง ว่ากันว่าหญิงใดที่ได้สัมผัสเย่ฮัวแล้ว ก็จะไม่มีโอกาสได้สัมผัสเขาอีกเป็นครั้งที่สอง ในตอนนั้น ตงฮวงไป๋ลู่ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน เธอไม่เคยเจอใครที่เป็นคนหลงตัวเองจนสุดโต่งเหมือนเขามาก่อน

หลังจากที่เล่นสนุกอยู่ในโลกมนุษย์ได้ประมาณครึ่งเดือน ตงฮวงไป๋ลู่ก็กลับมายังโลกของตนเอง หลังจากนั้นเธอก็ล้มป่วยไม่สบาย ด้วยสาเหตุที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะหมอหลวงตรวจพบว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ เรื่องนี้มันเป็นไปได้ไงกัน!

เมื่อได้รับการวินิจฉัยอีกชุดใหญ่ ตงฮวงไป๋ลู่ก็แน่ใจว่าตนเองตั้งครรภ์อยู่จริงๆ และไม่ต้องสืบเธอก็รู้ว่าพ่อเด็กเป็นใคร

ในตอนนั้น บิดาของเธอโกรธมาก ทำให้อาการป่วยของท่านทรุดหนักลง ทุกคนต่างโน้มน้าวให้ตงฮวงไป๋ลู่จำกัดเด็กในท้องทิ้งไป เพราะเด็กคนนี้เป็นความน่าอับอายของวงศ์ตระะกูล

แต่ตงฮวงไป๋ลู่ตัดใจทำไม่ลง จะอย่างไรเด็กในท้องก็เป็นลูกของเธอ

หลังจากพักฟื้นได้ประมาณหนึ่งเดือน ตงฮวงไป๋ลู่ก็ทนอยู่ที่นี่ไม่ไหวอีกต่อไป แต่เธอจะหนีไปไหนได้ล่ะ?

ในตอนนั้น เธอคิดออกอยู่แค่ที่เดียว คือโลกมนุษย์ ตงฮวงไป๋ลู่คิดว่าตนเองก็หน้าตาสวยงามไม่แพ้ใคร ถึงเรื่องนี้จะเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ตงฮวงไป๋ลู่คิดว่าเธอได้พบคู่แท้ของชีวิตแล้ว

แต่ตงฮวงไป๋ลู่ก็ไม่เคยได้เจอเย่ฮัวอีกเลย แม้ว่าเธอจะเฝ้าติดตามเขา เดินไปตามตรอกซอกซอยอันมืดมิด มองเขาออกจากบ้าน เดินกลับบ้าน เฝ้าดูเขาอยู่แทบตลอดเวลา แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเย่ฮัวเลยแม้แต่น้อย

ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน เมื่อตงฮวงไป๋ลู่กลับมายังโลกของเธอพร้อมด้วยความผิดหวังและความโกรธแค้น ตงฮวงไป๋ลู่ก็พบว่าบิดาของเธอเสียชีวิตไปแล้ว

นั่นคือช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของตงฮวงไป๋ลู่ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังกลั่นแกล้งเธอ บางครั้งตงฮวงไป๋ลู่คิดอยากจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ แต่เมื่อนึกถึงลูกที่อยู่ในท้อง เธอก็จำเป็นต้องอดทนต่อไป

ลูกชายที่คลอดออกมา มีหน้าตาเหมือนเย่ฮัวมาก ทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกชาย ตงฮวงไป๋ลู่ก็จะนึกถึงคนเสเพลผู้นั้นเสมอ!

ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่น่าตลกมากเมื่อได้ยินว่าเขายอมแต่งงานกับหญิงคนหนึ่งและหญิงคนนั้นกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ไหนกันล่ะคนที่บอกว่า จะไม่มีผู้หญิงคนใดได้สัมผัสตัวเขาเป็นครั้งที่สองอีก!

ทีเธอตั้งท้องเขาไม่รับผิดชอบ แต่กลับแต่งงานกับหญิงอื่นได้หน้าตาเฉย

“หยวนเต๋อ” ตงฮวงไป๋ลู่กระซิบออกมาเสียงแผ่วเบา แต่ฟังดูน่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง

“พะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“ข้าจะรับหมั้นคนของหยูเฉิงเจ้อร์ ข้าจะแต่งงาน!” ตงฮวงไป๋ลู่พูดจบก็เดินออกไป

ผู้เฒ่าอีกเจ็ดคนในท้องพระโรงยังไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา มีเพียงแต่หยวนเต๋อผู้เดียวเท่านั้นที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุด งานของเขาก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี!

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมองค์ราชินีถึงยอมตกลงง่ายดายถึงเพียงนี้?” ซิงหานถามออกมาด้วยความสงสัย

หยวนเต๋อหัวเราะในลำคอ “พระองค์ท่านมีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ในใจ ถ้าไม่กำจัดชายคนนั้นทิ้งไปซะ ก็อย่าหวังเลยว่าท่านจะคิดแต่งงานกับชายอื่น”

เจ็ดผู้เฒ่าถึงกับตกตะลึงพูดไม่ออกและยอมรับในความฉลาดของหยวนเต๋อหมดหัวใจ นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน

“เรื่องนี้เก็บเป็นความลับมาตลอด ถ้าแพร่งพรายให้ใครรู้เข้า ภาพลักษณ์ขององค์ราชินีก็จะเสียหายหมด” หยวนเต๋อระเบิดเสียงหัวเราะ ก่อนที่จะเดินนำทุกคนออกมาจากปราสาทหลังงามในที่สุด

ตงฮวงไป๋ลู่ไม่ได้กลับเข้าห้องนอน เธอกำลังนั่งอยู่ในสวน เงยหน้าดูดาวบนท้องฟ้า นิ้วมือเรียวยาวของเธอจิกเล็บเข้ากับเนื้อจนเป็นรอยแดง แต่จะอย่างไรก็ไม่มีเลือดไหลออกมา

ผ่านไปครึ่งค่อนคืน ตงฮวงไป๋ลู่เดินตรงไปยังห้องนอนของลูกชาย ยังไม่ถึงหน้าประตูด้วยซ้ำ เธอก็ได้ยินเสียงกดคีย์บอร์ดรัวๆ ดังออกมาแต่ไกล สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวในขณะที่เปิดประตูเข้าไปภายในห้อง

ดงฮวงที่กำลังเล่นเกมอยู่ตกใจไปไม่น้อย เด็กชายรีบปิดคอมพิวเตอร์ ลุกขึ้นยืนก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไร

“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!”

“ท่านแม่!”

ดงฮวงดึงคีย์บอร์ดออกมา ก่อนที่จะคุกเข่าลงทับคีย์บอร์ดเอาไว้ รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามารดาของตนเองในวันนี้ไม่ปกติ และจำเป็นต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด

ดงฮวงไป๋ลู่เดินตรงเข้าไปที่คอมพิวเตอร์อย่างเงียบงัน ก่อนที่จะยื่นฝ่ามือออกมาข้างหน้า

ทันใดนั้น หน้าจอคอมพิวเตอร์และเคสซีพียูก็ลอยละลิ่วผ่านหน้าต่างห้องออกไปข้างนอกทันที

ดงฮวงมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ สิ่งเดียวที่เชื่อมโยงเขากับโลกภายนอก ถูกแม่ของเขาทำลายไปเสียแล้ว…

น้ำตาไหลลงมานองใบหน้าที่แสนสวยงามของตงฮวงไป๋ลู่ แต่ไม่มีเสียงสะอื้นไห้ออกมาจากปากของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด