You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! 167

Now you are reading You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! Chapter 167 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

GG:บทที่ 167 – เย่ฮัว ฉันเกลียดนาย!

ตงฮวงไป๋ลู่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียงของลูกชาย ยิ่งเห็นเด็กน้อยตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ตามแล้ว เธอก็ได้แต่คิดว่าเย่ฮัวเป็นพ่อที่ใจร้ายจริงๆ!

ดงฮวงยกมือปาดน้ำตาที่ไหลซึมออกมาและจ้องมองผู้เป็นมารดาด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาเดินเข้าไปโอบกอดผู้ให้กำเนิดพลางปลอบโยนว่า

“ไม่ต้องร้องไห้นะครับแม่ หลังจากนี้ผมจะไม่เล่นเกมอีกแล้ว ผมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนและจะตั้งใจฝึกกังฟูทุกวันเลย”

ตงฮวงไป๋ลู่กอดบุตรชายด้วยความอ่อนโยน เขาเป็นคนที่เธอรักมากที่สุดในโลก

แต่คนที่เธอเกลียดที่สุดในโลกก็คือเย่ฮัว!

มันช่างตลกเหลือเกิน ที่ผ่านมา เธอเฝ้าฝันลมๆ แล้งๆ อยู่ได้อย่างไรกัน

เย่ฮัว นายมันใจดำอำมหิต อย่ามาหาว่าฉันใจร้ายบ้างก็แล้วกัน!

บริเวณชั้นสองของคฤหาสน์

“อาหลี่ออกจากเกมไปแล้วแฮะ” ชิงหยูตงร้องเสียงดัง

เย่จีจี้พูดออกมาด้วยความดีใจว่า “ที่เจ้าเด็กแสบคนนั้นรีบกดออกจากเกมไป ก็เพราะกลัวจะถูกหนูฆ่าตายเอาน่ะสิ”

“จีจี้ รอก่อนไหม ไม่แน่อีกเดี๋ยวอาหลี่อาจจะกลับมาเล่นต่อก็ได้” ชิงหยารีบพูดออกมา

ชิงหยูตงยกมือจับคางตัวเองอย่างใช้ความคิด “แต่ฉันรู้สึกว่าเขาน่าจะโดนแม่จับได้มากกว่านะ สงสัยถูกทำโทษให้นั่งคุกเข่าบนคีย์บอร์ดแน่ๆ เลย”

“เป็นแม่ภาษาอะไรพิลึกคนจัง มีอย่างที่ไหนลงโทษให้เด็กนั่งคุกเข่าบนคีย์บอร์ด” ชิงหยาถอนหายใจออกมาด้วยความสงสาร

เย่ฮัวลุกขึ้นยืนพูดออกมาเบาๆ ว่า “ชิงหยา นี่ก็ดึกแล้วนะ เข้านอนกันได้แล้ว”

“เฮ้อ…” ชิงหยายกมือปิดปากหาว ก่อนที่จะเดินตามเย่ฮัวไปที่ห้องนอน

เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองคนเดินออกไปแล้ว ชิงหยูตงและเย่จีจี้ก็หันขวับมามองหน้ากัน

ชิงหยูตงยักคิ้วส่งสัญญาณ

เย่จีจี้เข้าใจความหมายโดยทันที

ทั้งสองคนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความเร็วไว เมื่อตอนบ่าย เย่จีจี้กดสั่งซื้อเสื้อผ้าทางอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิง เสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่นสาว เสื้อผ้าแนววับๆ แวมๆ ไม่ว่ามีเสื้อผ้าอะไรขายอยู่ เธอก็กดสั่งซื้อมาหมด และร้านค้าบางเจ้าก็จัดส่งถึงที่ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง

ตอนที่เย่ฮัวกลับมาถึงห้องนอน เขาพูดกับชิงหยาว่า “ต้องเปลี่ยนผ้าห่มกับผ้าปูเตียงแล้วนะ”

“ทำไมคะ มันไม่สะอาดเหรอ?” ชิงหยาถามด้วยความสงสัย

“ผมไม่ชอบให้มีคนอื่นมานอนด้วย” เย่ฮัวพึมพำออกมาแล้วนั่งลง

ชิงหยาไม่เข้าใจ มีใครคนอื่นนอกจากเขากับเธอมานอนบนเตียงนี้ด้วยเหรอ?

ทันใดนั้น ดูเหมือนว่าชิงหยาจะคิดออกแล้ว แต่นั่นมันก็เป็นแค่ตุ๊กตาไม่ใช่หรือไง?

“รีบเปลี่ยนเข้าสิ”

“ได้เจ้าค่ะ เปลี่ยนก็เปลี่ยน…” ชิงหยาพูดด้วยความโกรธ

เมื่อเปลี่ยนผ้าห่มและผ้าปูที่นอนใหม่เสร็จแล้ว ชิงหยาก็ถอนหายใจออกมา “นายท่านคะ พอใจหรือยังเจ้าคะ”

เย่ฮัวมองไปที่เตียงและหันมามองเธอ “ผมจะนอนก่อนก็แล้วกัน ว่าแต่ตัวคุณยังมีกลิ่นกุ้งเผาติดอยู่เลยนะ”

“กำลังจะไปอาบน้ำอยู่อยู่พอดีเลยค่า” พูดจบ ชิงหยาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก

เย่ฮัวบิดลำคอไล่ความเมื่อยขบ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดนอนและทิ้งตัวลงไปนอนแผ่หราบนเตียง โลกนี้ไม่มีอะไรสุขเท่าการได้นอนหลับเต็มอิ่มบนเตียงนอนนุ่มนิ่มอีกแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้น ชิงหยาก็เดินกลับออกมาจากห้องน้ำด้วยเนื้อตัวที่สะอาดสะอ้านผ่องใส

เธอมองเย่ฮัวที่นอนอยู่บนเตียง แล้วถามออกมาเสียงดังว่า “ไม่อาบน้ำหรือคะคุณ?”

“ตอนกลับถึงบ้านผมก็อาบไปแล้วไง”

“ไปอาบอีกรอบเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ชิงหยาดึงมือเย่ฮัว ฉุดเขาให้ลุกขึ้น

เย่ฮัวทำหน้าบูด “คุณนี่ท่าจะป่วย”

ชิงหยายกมือปิดจมูก “โห ทั้งตัวมีแต่กลิ่นกุ้งเผา รีบไปเลยนะ”

เย่ฮัวได้แต่ถอนหายใจ ผู้หญิงนี่น่ารำคาญจริงๆ

ห้านาทีต่อมา เย่ฮัวก็เดินกลับออกมาจากห้องน้ำ ชิงหยาที่กำลังนอนจองตั๋วเครื่องบินอยู่บนเตียง หันมาถามด้วยความตกใจว่า “อาบเสร็จแล้วเหรอคะ?”

เย่ฮัวไม่พูดอะไร เขานอนลงบนเตียงและหันไปกอดชิงหยา

ใบหน้าของชิงหยาแดงซ่านด้วยความเขินอาย ช่วงหลังตาคนนี้ชักจะทะลึ่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ ชิงหยาไม่ได้อยากจะอยู่ใกล้เขาเลย แต่พอมาตอนนี้ เธอกลับอยากจะอยู่กับเขาตลอด 24 ชั่วโมงเสียอย่างนั้น

ไม่มีสิ่งใดจะให้ความรู้สึกสบายใจและปลอดภัยได้เท่ากับอ้อมกอดของเย่ฮัวอีกแล้ว ถึงฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย ก็ไม่มีอะไรน่าหวาดกลัวแม้แต่น้อย

“ผ้าห่มมันสั้นไปนะ” เย่ฮัวกระซิบขึ้น

ชิงหยาที่อยู่ในอ้อมกอดเขารู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดเลยว่าคนอย่างเขาจะอ้อนเป็นเหมือนกันด้วย เห็นทีวันพรุ่งนี้พระอาทิตย์คงขึ้นทางทิศตะวันตกเป็นแน่

“คนบ้า” ชิงหยาตีแขนชายหนุ่มด้วยความเขินอาย ถึงแม้จะเป็นคู่สามีภรรยากันแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันอยู่ไม่มีผิด

เย่ฮัวไม่รู้ว่าภรรยาเป็นอะไรไป เขาพูดย้ำอีกครั้งว่า “ผ้าห่มมันสั้นเกินไป!”

“ฉันรู้แล้วค่ะ ไม่เห็นเป็นไรเลย”

เย่ฮัวไม่เข้าใจแล้วว่าชิงหยากำลังคิดอะไรอยู่ “ผมบอกว่าผ้าห่มมันสั้นเกินไป ผ้าห่มน่ะ ผ้าห่ม!”

เย่ฮัวยกเท้าที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมากระดิกดิ๊กๆ ให้เธอดูประกอบคำพูด

นั่นแหละชิงหยาถึงได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสามี เย่ฮัวไม่ได้จะอ้อนเธออย่างที่เข้าใจ ที่แท้เขาก็พูดถึงผ้าห่มจริงๆ แต่เธอกลับเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปเสียได้…

เย่ฮัวค่อยๆ ไล้มือลูบใบหน้าแดงๆ ของชิงหยา “คุณนี่คิดอะไรลามกจังเลย เพราะแบบนี้ไง เกิดชาติหน้าผมถึงได้อยากอยู่กับคุณอีก”

“ไม่มีทาง เกิดใหม่ชาติหน้าฉันก็ไม่อยากอยู่กับคุณแล้ว” ชิงหยาซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเย่ฮัวอย่างเอียงอาย

เย่ฮัวหัวเราะในลำคอและลูบไล้เส้นผมของเธอ รู้สึกว่าจะอย่างไรวันเวลาเหล่านี้ก็ไม่ได้น่าเบื่อเกินไปนัก

ผ่านไปไม่นาน ชิงหยาก็พูดขึ้นว่า “หลับหรือยังคะ?”

“มีอะไร” เย่ฮัวตอบ

“ฉันตื่นเต้นจนนอนไม่หลับน่ะ…” เมื่อคิดว่ากำลังจะได้ไปถ่ายรูปแต่งงานแล้ว จิตใจของชิงหยาก็คิดอะไรวุ่นวายไปหมด เธอทั้งห่วงว่าถ่ายรูปออกมาแล้วตนเองจะสวยไหม แล้วจะให้เย่ฮัวสวมใส่ชุดแบบไหนดี

เย่ฮัวลูบหัวไหล่ชิงหยาเบาๆ ก่อนพูดว่า “คนเราต้องสงบจิตสงบใจก่อน ถึงจะหลับได้นะ”

“เย่ฮัว มานับแกะกันเถอะ”

“ทำอะไรเป็นเด็กไปได้!”

“น่านะ เร็วเข้าสิ ฉันจะได้นอนหลับไง ฉันจะเริ่มก่อนนะ แกะตัวที่หนึ่ง” ชิงหยาพูดพร้อมกับหลับตาลง

“แกะตัวที่สอง” เย่ฮัวช่วยนับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“แกะตัวที่สาม”

“แกะตัวที่สี่”

“แกะตัวอ้วน”

“แกะเนื้อแน่น”

“เนื้อลูกแกะ…” ชิงหยาพึมพำ

“เนื้อแกะย่าง” เย่ฮัวขมวดคิ้ว

“หม้อไฟเนื้อแกะ”

“ต้มแซ่บขาแกะ”

พูดไปพูดมา สองสามีภรรยาก็ลืมตาขึ้น ชิงหยาน้ำลายสอในขณะที่ยกมือลูบท้องของตนเอง “คุณคะ ฉันหิว…”

“ผมก็หิวเหมือนกัน”

ตอนแรกเย่ฮัวก็ไม่ได้หิวหรอก แต่นับแกะไปๆ มาๆ ตอนนี้ชักจะหิวขึ้นมาแล้ว

โลกนี้จะมีอะไรสำคัญกว่าการรับประทานอีกล่ะ? ทั้งสองคนไม่เสียเวลาเปลี่ยนชุดนอน รีบเดินออกมาจากห้องทันที แต่ในจังหวะที่เปิดประตูออกมา พวกเขากลับพบนักย่องเบาสองคนอย่างไม่คาดคิด

“พวกเธอจะทำอะไร!” เย่ฮัวคำรามเสียงดัง

ชิงหยูตงและเย่จีจี้ที่กำลังก้มตัวค่อยๆ ย่องจะก้าวเดินออกไป หยุดชะงักโดยทันที ท่าทางของพวกเธอว่าแปลกแล้ว แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ ยิ่งแปลกกว่าหลายเท่า

“ทำไมถึงลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้ดึกๆ ดื่นๆ จะแอบหนีไปไหนกันฮะ?” ชิงหยาถามออกมาด้วยความสงสัย

ชิงหยูตงรีบตอบทันทีว่า “จีจี้บอกว่าเมื่อเย็นกินข้าวไปแค่หน่อยเดียวเอง ฉันก็เลยจะพาน้องออกไปหาอะไรกินข้างนอกน่ะ”

“งั้นก็พอดีเลย พวกเราไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ” ชิงหยาทำอะไรไม่ได้นอกจากส่ายหน้าด้วยความระอาใจ

ชิงหยูตงและเย่จีจี้คอตกด้วยความเศร้า ความจริงพวกเธอตั้งใจจะแอบออกไปเที่ยวผับ แต่ตอนที่กำลังจะเดินลงบันได เย่ฮัวกลับเดินมาพบเข้าเสียก่อน ช่างโชคร้ายจริงๆ

ในตอนนี้ ยังมีร้านหม้อไฟแห่งหนึ่งเปิดอยู่ไม่ห่างจากบาร์ของพวกเขาเท่าไหร่

นี่คือการผสมผสานที่แปลกประหลาดเล็กน้อย ผู้ใหญ่สองคนที่เดินนำหน้าสวมใส่ชุดนอนและรองเท้าแตะ ส่วนอีกสองคนที่เดินตามหลังแต่งตัวแบบจัดหนักจัดเต็ม และหนึ่งในนั้นเป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อย ทุกคนที่พบเห็นต่างก็ไม่เข้าใจว่าทั้งสี่คนนี้มาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด