You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! 194

Now you are reading You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! Chapter 194 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 194 เงิน 2500 และมอเตอร์ไซค์ควันดำ 1 คัน

เว่ยชางยื่นมือออกไปและทันใดนั้นดาบซวนหยวนในกล่องกีต้าร์ก็ลอยขึ้นมาบนมือเขา “ดาบเล่มนี้ช่างร้อนแรง ชีวิตเจ้าก็เช่นกัน”

หลังจากที่เขาคลายมือลง ดาบซวนหยวนก็กลับลงไปในกล่องตามเดิม แต่กระนั้นเว่ยชางก็ได้พิจารณาแล้วว่าควรจะทำอะไรกับสิ่งนี้ไว้นิดหน่อย

เมื่อได้ยินเว่ยชางพูดดังนั้นพร้อมๆกับดาบที่ลอยกลับไปในกล่องเสี่ยวยี่ก็กระอักไอออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมทั้งคลานอย่างหมดหวังไปหาเว่ยชาง เขาหวังเพียงให้คนตรงหน้าช่วยภรรยาและลูกๆของเขาก็เพียงพอ

“แต่ก็นะ เจ้าน่ะยังโชคดี เพราะข้าดันชอบช่วยพวกที่มีชีวิตร้อนแรงเสียด้วยสิ”

หมอกสีดำพุ่งเข้าไปในหัวของเสียวยี่ผู้ที่สลบไปแล้ว

“เสี่ยวยี่! เสี่ยวยี่!”

“บอกสามีเจ้าด้วยล่ะ ว่าข้าน่ะ ทำได้ทั้งช่วยแล้วก็ฆ่าเขาในเวลาเดียวกันเลย!”

ชูหนานนั้นรับรู้และเข้าใจในเหตุผลนั้นก่อนจะพูดเชิงให้คำมั่นสัญญาออกไป “ในอนาคต ตระกูลเสี่ยวจะตอบแทนอย่างสาสมเลยค่ะ!”

เว่ยชางพยักหน้ารับก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปและปรากฏอีกทีที่บริเวณซอยด้านหลัง

“ถังน้อย ไปกันเถอะ” เว่ยชางพูดพร้อมกับส่งยิ้มจางๆให้

“ได้เลย~” ถังเว่ยเองก็ส่งรอยยิ้มหวานๆกลับไปเช่นกัน

สำหรับการมาชิงบาร์นั้น ชูหนานได้มอบชีวิตของเธอแก่สามีของเธอแล้ว และในท้ายสุดมันทำให้เธอผ่อนคลายมากๆ สามีของเธอค่อยๆกลับมามีชีวิตใหม่ เสียงชีพจนนั้นค่อนข้างลื่นไหลและลมหายใจที่ถี่ถ้วนกว่าก่อนหน้ามากๆ คนๆนั้นช่างแข็งแกร่งจริงๆ เขาสามารถช่วยคนจากความตายได้

ชูหนานช่วยพยุงร่างของเสี่ยวยี่ไปยังที่นั่งและรอประมาณ 10 นาที

เฮ้~

เสี่ยวยี่ฟื้นแล้ว เขาดูมึนงงนิดหน่อย

“ที่นี่…ที่ไหนน่ะ?” เขาเอ่ยถามแล้วค่อยๆยกหัวขึ้น

หัวใจของชูหนานดำดิ่งลึกลงไป เขาดูเหมือนจะจำอะไรไม่ได้เลย

“เสี่ยวยี่! มองมาทางนี้สิ!” ชูหนานเอ่ยพร้อมจับแก้มของเสี่ยวยี่ไว้ด้วยความกังวล

เขาค่อยๆยิ้มและยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆก่อนจะกอดร่างของผู้หญิงของเขาไว้ ชูหนานนั้นอ้ำอึ้งก่อนจะต่อยเขาไปเบาๆ “คนบ้า! เคยกลัวตายบ้างมั้ย!! ฉันจะฆ่านาย!!!”

เสี่ยวยี่กอดเธอผู้อยู่ในอ้อมแขนไว้แน่นและหลังจากนั้นพักใหญ่ๆจึงค่อยเอ่ยขึ้น “ชูหนาน ขอบคุณนะ”

“เสี่ยวยี่…” เมื่อได้ยินดังนั้นหัวใจเธอก็เหมือนได้รับการเติมพลัง มันเต้นอย่างรุนแรงและกลับมาอยู่ในความสงบ

“เอาล่ะ กลับกันเถอะ” เสี่ยวยี่ยืนขึ้นและหันไปมองดาบซวนหยวนบนพื้น ใบหน้าของเขาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาเก็บมันใส่กล่องตามเดิมและยกมาสะพายไว้

“เสี่ยวยี่ เราจะไปกันเลยเหรอ?” ชูหนานมองไปรอบๆและถาม

เสี่ยวยี่พยักหน้า แมลงป่องสีดำสองตัวรีบติดตามหมอกสีดำไปอย่างรวดเร็ว “ดีล่ะ พวกเรายังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำกัน ตอนนี้ฉันอยากจะเห็นแล้วว่ามีใครบ้างที่กำลังหักหลังฉัน!”

ชูหนานพักหน้ารับ การหนีออกมาครั้งนี้มันน่าอัศจรรย์มาก ถึงแม้จะดูเหมือนไม่มีอะไรแต่จริงๆแล้วมันอันตราย ทุกๆคนต่างมองมายังดาบซวนหยวนในมือของเสี่ยวยี่ เขาตั้งใจจะทำเหมือนว่าป่วยต่อไป ซึ่งมันดีสำหรับการดึงดูดให้ใครก็ตามที่คิดจะเป็นศัตรูของเขาให้เข้ามาหาเอง

วันแสนวิเศษได้ผ่านพ้นไป ตราบาปขนาดใหญ่ทั้ง 3 ของตระกูลหยิงถูกจารึกลงไปในทะเลแห่งความเจ็บปวด และทางด้านตระกูลเสี่ยวรวมไปถึงตระกูลอื่นๆ วันนี้ถือเป็นวันสำคัญ

เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าโชคเป็นสิ่งที่สำคัญขนาดไหน ไม่โกหกเลย

…โอเค จริงๆแล้วก็โกหกแหละ เพราะดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ในแผนการของเย่ฮั่วอยู่แล้ว

เช้าวันต่อมา เย่ฮั่วถูกชิงหยาดึงขึ้นมา แน่นอนว่ามันใช้เวลากว่าชั่วโมงกว่าเขาจะยอมตื่น และดูเหมือนว่าชิงหยาจะรู้เรื่องนี้ดี ใครก็ตามที่ได้ลงไปนอนเตียงแล้ว เขาคนนั้นก็จะไม่สามารถออกมาได้ออก

เย่ฮั่วผู้ที่ถูกลากขึ้นมารู้สึกหงุดหงิดมากๆ และเมื่อเทวทูตไม่มีความสุข มันก็ต้องมีใครซักคนที่จะต้องดวงซวยตกตามกันไป

ชิงยูตงและเย่จีจี้นั้นเป็นผู้ถูกเลือกในครั้งนี้

วันนี้พวกเธอไปไหนไม่ได้ นั่นก็เพราะจะลุกก็ยังไม่ไหว ก้นมันเจ็บไปหมด

อย่างไรก็ตามเมดของเจ้าสาวนั้นนับว่าไม่เลวร้ายเลย จัดว่าดีเสียด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ยืนเฉยๆพวกเธอก็ช่วยจัดการทั้งท่าทางอะไรต่างๆให้เรียบร้อย ไหนจะตากล้องที่รู้งานอีก รอบๆตัวพวกเขานั้นหากสังเกตุล่ะก็จะเห็นว่ามีคนยืนล้อมจนเป็นวงเลย เหตุผลก็ไม่ใช่อะไร นั่นก็เพราะฝ่ายชายนั้นก็หล่อ ฝ่ายหญิงเองก็สวย ไหนจะสาวๆตัวน้อยทั้งสองที่น่ารักน่าชังนั่นอีก ช่างเป็นการรวมกันที่สมบูรณ์อะไรขนาดนี้นะ

ด้านนอกห่างออกไป 2500 กิโลเมตร บางสิ่งที่เลวร้ายปรากฏขึ้นที่นั่น

“พี่ใหญ่ อยากให้เป็นแบบนี้เหรอ?” ผู้เป็นน้องชายเอ่ยถามด้วยหัวใจที่ร้อนแรง

พี่ใหญ่อย่างผมเขียวนั้นเพียงแค่หยิบบุหรี่มาจุดสูบและมองไปยังอาหลีน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมพูดด้วยเสียงขรึม “ขาย!”

“3000 คิดว่าไง?”

ใช่แล้ว พี่ผมเขียวกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับการขายรถ เจ้าอู่หลิง ฮงกวงนี่ใช้ทรัพยท์สินทั้งหมดเพื่อจะซื้อมันเลย ถึงแม้ว่าจะซื้อมาแพงกว่า 30,000 ถึงแม้จะเป็นมือสองก็ตาม ปกติแล้วใช้สำหรับขนของแต่ตอนนี้มันเอาไว้ขายแล้ว!

“พี่ใหญ่ ไปเอาเงินกันเถอะ!”

ผมเขียวปราม “เจ้าโง่! ถ้าเข้าไปเอาเงินด้วยตนเองที่อยู่ของฉันก็ถูกเปิดเผยสิฟะ!”

“ถ้างั้นแล้วเราจะเอาเงินได้เหรอ?” ผู้เป็นน้องถามกลับด้วยความสงสัย

“ให้ตายเถอะ ถ้าจะเอาเงินนั่นก็ให้ธนาคารไปจัดการซะสิ พวกมันรู้อยู่แล้วว่าต้องไปเอาเงินที่ไหน จากนั้นเราก็แค่คอยดูอยู่รอบๆ ดูเจ้าสิ่งนี้ได้ออกทีวี ทำไมแกไม่คิดให้มันเยอะๆหน่อย?”

น้องเล็กนั้นตะโกนขึ้นมาอย่างตกอกตกใจ “ใครก็ตามที่ดูทีวีอยู่ต้องอยากได้มันแน่!”

“เฮ้ พวกนายจะขายไอ้รถนี่รึยังเนี่ย!” เจ้าของร้านค้ามืดตะโกนอย่างหมดความอดทน รถคันนี้มันก็ไม่ได้แย่ เอามาขายก็ยังได้เงินอย่างน้อยๆพันนึง

ผมเขียวรีบตอบทันควัน “ขาย!”

ตงฮวงหลี่ตัวน้อยเดินเข้าไปใกล้ผมเขียวเพิ่มอีกนิดหน่อยและดึงมุมเสื้อของเขา “ลุงผมเขียว”

พี่ใหญ่รีบหันกลับไปทันควันด้วยรอยยิ้ม “ว่าไงเจ้าตัวเล็ก? เราได้เงินมาแล้ว เดี๋ยวลุงผมเขียวจะพาเราไปกินแม็คโดนัลด์นะ”

“ลุงผมเขียว…อาหลี่ไม่อยากกินแมคโดนัลด์ มันไม่ดี…” ตงฮวงหลี่วิธีเห็นชัดแจ้งว่าลุงทั้งสองของเขานั้นไม่มีเงิน เพราะงั้นถ้าขืนกินของแพงต่อไปคงไม่ดีแน่ๆ แถมไอ้สถานการณ์แบบนี้เนี่ย ช่างบีบครั้นหัวใจเสียเหลือเกินด้วย

พี่ใหญ่อุ้มตงฮวงหลี่ขึ้นมาและเอ่ยถาม “แล้วเราอยากกินอะไรล่ะ? ลุงผมเขียวจะซื้อให้เอง”

“อาหลีอยากกินขนมปัง!”

ทั้งสองอาต่างถอนหายใจขึ้นในภวังค์ ช่างเป็นเด็กที่มีเหตุผลอะไรแบบนี้

เขาลูบหัวเจ้าตัวน้อยเบาๆก่อนจะยิ้ม “ดีเลย งั้นเดี๋ยวให้ลุงแดงซื้อไส้เนื้อให้ก้อนใหญ่ๆเลย!”

มองไปยังน้องชายของเขา มันเป็นสัญญาณชัดเจนว่าให้เขารีบออกไปซื้อขนมปังมา และในตอนนี้ ผมเขียวมองไปยังจักรยานที่อยู่ด้านนอก “เฮ้ พี่ชาย มอไซค์นั่นขายเท่าไหร่?”

“1000” เจ้าของร้านตอบกลับทันควัน นี่มันปล้นกันแบบไม่ผิดกฏหมายเลยนี่หว่า

ผมเขียวนั้นไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อน แต่นี่ก็ไม่เลว แต่ของแต่ ไอ้ 1000 เนี่ยค่อนข้างแพงเลยนะ ถ้าได้ซัก 500 ก็คงดี

“500 ขายหรือเปล่า?”

“ไม่ขายโว้ย!”

“งั้นเหรอ”

“เดี๋ยวก่อนน้องชาย ราคามันคุยกันได้ ค่อยพูดค่อยจาก่อน” เมื่อเห็นว่าผมเขียวจะไปเขาก็รีบง้อกลับมาทันที มอเตอร์ไซค์คันนี้ก็อยู่นี่มาจะ 2 เดือนแล้ว เพราะงั้นนี่คงเป็นโอกาสดีที่จะปล่อยมันออกไปซักที

“800 เอาป่าว!”

“ปล่อยมันไว้งั้นแหละ”

“600 ล่ะเป็นไง!”

“ประดับหน้าร้านต่อไปเนอะ”

“งั้น 500 เอาไปเลย!” เจ้าของร้านไม่อยากจะเถียงไปมากกว่านี้และยอมปล่อยมอเตอร์ไซค์คันนี้ไป

ได้ 2500 พร้อมกับมอเตอร์ไซค์ควันดำมาคันนึง ทั้ง 3 ก็เริ่มเดินทางไปยังฟากใต้และหาที่หลบฝนไปด้วย ในคืนนั้น พวกเขาที่กำลังหาที่พักอยู่ถึงแม้ว่ามันจะน่าอึดอัดหากแต่ก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

ฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว และพี่ใหญ่อย่างผมเขียวก็เร่งรีบที่จะหาที่สำหรับหลบฝนให้ ช่างโชคดี พระเจ้ายังไม่ทอดทิ้ง แถวนั้นมีบ้านที่ทรุดตัวไปครึ่งหนึ่งอยู่หากแต่ก็ยังพอหลบได้อยู่ข้างๆถนน

ผมแดงนั้นดูท่าจะหัวร้อนมากๆกับสถานการณ์หากแต่ก็ต้องทำใจในขณะที่อาหลี่น้อยเองก็ตาเป็นประกาย

“สภาพอากาศผีเข้าผีออกของฟากใต้นี่เป็นปัญหาให้น้ำท่วมจริงๆ” น้องเล็กบ่นพร้อมถอนหายใจควบคู่ไปกับน้ำที่อยู่บนผม

ผมเขียวนั้นพบไม้แห้งส่วนหนึ่งในบ้านเก่า และมันสามารถนำมาจุดไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นได้ “อาหลี่ หิวหรือยัง?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด