ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 1341 แก้แค้นแทนนาง

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 1341 แก้แค้นแทนนาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มังกรเพลิงสีแดงฉานพุ่งออกไปพัวพันกับเขา

อ๊า! เสียงกรีดร้องรุนแรงดังก้องขึ้น

เมื่อเห็นศิษย์น้องได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ นักปรุงยาอีกคนก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น

“เจ้า! นี่เจ้ากล้าทำร้ายศิษย์น้องของข้า เจ้ามันรนหาที่ตายยิ่งนัก!”

หมัดสังหารหมัดหนึ่งพุ่งออกไป มู่เฉียนซีไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด แถมยังเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้อีกด้วย!

“ทักษะโยวหลัว!”

พลังทั้งสองปะทะกัน เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น และบนพื้นดินนี้ก็ปรากฏรอยแยกขึ้นแล้ว

คนผู้นั้นถอยหลังไปหลายสิบก้าว พรวด! เขากระอักเลือดคำโตออกมา

“นี่มัน…!”

พวกเขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นี่นางเป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดมิใช่รึ!

นี่มันหลอกลวงกันเกินไปแล้วกระมัง! จักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดที่ไหนจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้กันเล่า

“ศิษย์พี่ใหญ่!” คนผู้นั้นเช็ดที่เลือดมุมปากก่อนจะส่งเสียงร้องตะโกนขึ้น

ส่วนศิษย์พี่ใหญ่ผู้นั้นก็กล่าวว่า “พวกเจ้าหาทางขวางสัตว์บ้าสองตัวนั่น ส่วนสาวน้อยบ้านี่ข้าจะจัดการเอง”

สาวน้อยผู้นี้ แม้แต่มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดก็ไม่อาจรับมือกับนางได้ และในกลุ่มของพวกเขาตอนนี้ก็มีเพียงแค่เขาคนเดียวที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า

มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะต่อสู้กับนางได้และพวกเขาถึงจะมีโอกาสชนะ

ส่วนคนอื่นก็อาศัยจำนวนคนที่มากกว่าในการได้เปรียบที่จะไปพัวพันกับอู๋ตี้และเสี่ยวหง

อู๋ตี้แสยะมุมปากพลางกล่าว “พวกสารเลวโง่เขลา อย่างพวกเจ้าน่ะหรือคิดว่าจะขวางข้าผู้นี้ได้!”

เผชิญหน้ากับชายวัยกลางคนพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้นางเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็กล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “อู๋ตี้ เจ้าเล่นกับพวกเขาไปก่อนนะ!”

ตอนนี้มีเพียงผู้ที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าเท่านั้นที่นางสนใจจะต่อสู้ด้วย

ทว่า คนผู้นั้นกลับไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย จู่ ๆ ก็ลงมือลอบโจมตีมู่เฉียนซี

การโจมตีของเขายังไม่ทันได้ทำร้ายมู่เฉียนซี ร่างของมู่เฉียนซีกลับอันตรธานหายไปต่อหน้าเขาแล้ว

มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “มังกรน้ำแข็งสะท้านสวรรค์!”

“บัดซบ! ไม่นึกเลยว่าจะหลบได้!”

สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป สบถด่าขึ้นด้วยเสียงต่ำ จากนั้นก็รีบโคจรพลังวิญญาณออกมาต้านทานการโจมตีของมู่เฉียนซี

เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น เขาต้านทานมังกรน้ำแข็งนั้นไว้ได้

เขาอยู่ไกลจากมู่เฉียนซีมาก และสีหน้าก็ยิ่งแย่ลงมากเรื่อย ๆ

ระดับพลังวิญญาณของสาวน้อยผู้นี้ต่ำมาก แต่ทักษะวิญญาณของนางแต่ละอย่างช่างวิปริตยิ่งนัก

เขาโจมตีไปอย่างต่อเนื่องเพื่อหวังจะให้นางสูญเสียพลังวิญญาณไป เขาจะได้เอาชนะนางได้ง่าย ๆ

เขากระทืบเท้าลงบนพื้นดินอย่างแรง และพุ่งตัวไปที่มู่เฉียนซีราวกับดินปืนระเบิด ลงมือโจมตีมู่เฉียนซีอีกครั้ง

ร่างของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจดั่งสายฟ้า เขาโจมตีต่อ พายุอันน่าสะพรึงกลัวพัดกระโชกไปที่มู่เฉียนซี

“ฝ่ามือสังหาร!”

ตูม! พลังการโจมตีนี้รุนแรงมาก แต่กลับไม่โดนเป้าหมาย

“มังกรเพลิงสังหาร!”

หลังจากที่ต่อสู้กันไปพักใหญ่ เขาก็พบว่ามู่เฉียนซีไม่มีท่าทางที่จะสูญเสียพลังวิญญาณไปเลย แต่กลับเป็นเขาเองที่จะต้องกินยาลูกกลอนฟื้นฟูพลังวิญญาณ

เขาเป็นถึงยอดปรมาจารย์นักปรุงยา มียาลูกกลอนไม่น้อย ยาลูกกลอนแค่นี้ไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งเขาร่วงได้

ทว่า ในตอนนี้ มู่เฉียนซีกลับกล่าวว่า “ถึงเวลาต้องจบแล้วล่ะ!”

พลังธาตุอัคคีบริเวณโดยรอบพลันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเดียวบัวอัคคีดอกหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ

บัวอัคคีที่เต็มไปด้วยพลังการทำลายล้าง พุ่งโจมตีไปที่เขา

สีหน้าเขาพลันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก พลางตะโกนขึ้นว่า “ไม่!”

บัวอัคคีพุ่งกระแทกร่างเขาอย่างรุนแรง ทำลายเกราะป้องกันของเขาจนพังทลาย และร่างของเขาก็บาดเจ็บสาหัสไปทั่วทั้งตัว

พรวด! เลือดสีแดงสดถูกกระอักออกมา เขาไม่สามารถควบคุมได้จนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

ร่างนั้นล้มกระแทกลงบนพื้นจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น

ปัง ปัง ปัง!

อู๋ตี้กับเสี่ยวหงเห็นนายท่านของตัวเองจบการต่อสู้ลงแล้ว และพวกมันก็ไม่อยากเสียเวลาเล่นกับคนเหล่านั้นแล้วเช่นกัน

อู๋ตี้กับเสี่ยวหงจึงโจมตีและโยนร่างของพวกเขาไปกองอยู่ข้าง ๆ ร่างศิษย์พี่ใหญ่ผู้นั้น แต่ละคนถูกซ้อมจนร่างกายบาดเจ็บไปทุกส่วนไม่เหลือชิ้นดี!

ศิษย์พี่ใหญ่ผู้นั้นกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างยิ่ง เขามองไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “แม่นาง พวกข้าผิดเองที่ไม่รู้จักประเมินตน! เห็นแก่ที่เราเป็นนักปรุงยาเหมือนกัน ได้โปรดไว้ชีวิตพวกข้าด้วย”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “นี่พวกเจ้ากลัวว่าข้าจะฆ่าพวกเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”

พวกเขาพยักหน้าด้วยความหวาดกลัว คนผู้นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว

ต้องรู้เอาไว้เลยว่าหากตายอยู่ในดินแดนโอสถแห่งนี้ จะต้องกลายเป็นปุ๋ยของสมุนไพรวิญญาณที่นี่ และไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาถูกใครฆ่าตาย

“ในเมื่อเจ้าไม่อยากให้ข้าฆ่าเจ้า พวกเจ้าก็ต้องแสดงความจริงใจออกมาสักหน่อย”

“เจ้าต้องการสิ่งใด?” เขากล่าวถาม

มู่เฉียนซี “สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดของพวกเจ้า”

“เอ่อ…” พวกเขากล่าวขึ้นอย่างตะกุกตะกัก

พวกเขาทุ่มเทพลังไปไม่น้อยกว่าจะเก็บสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้มาได้ แถมยังมีสมุนไพรวิญญาณที่ต้องหาในการทดสอบในด่านนี้อีกด้วย

หากให้ไปหมด ก็เท่ากับพวกเขาต้องสูญเสียทุกอย่างและต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี “นี่เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่พูดง่ายอย่างนั้นเหรอ พวกเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่ งั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าสมปรารถนาเอง”

พวกเขาได้ยินเช่นนี้ก็หวาดกลัวจนตัวสั่น “พวกข้าเอายาลูกกลอนแลกกับสมุนไพรวิญญาณที่ต้องเอาไปทดสอบได้หรือไม่? พวกข้าแค่อยากเก็บสมุนไพรวิญญาณที่เอาไปทดสอบทั้งหมดเอาไว้ ส่วนยาลูกกลอนทั้งหมดกับสมุนไพรวิญญาณอื่นข้าจะให้เจ้าทั้งหมด เป็นเช่นไร?”

“ก็ไม่ยังไง ยาลูกกลอนของพวกเจ้าข้าไม่อยากได้ อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำ ข้ามีเวลาให้พวกเจ้าไม่มาก”

ครั้นแล้วพวกเขาจึงทำได้เพียงแค่เอาสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดมอบให้นางด้วยสีหน้าที่แสนจะขมขื่น ไม่ได้น้ำศักดิ์สิทธิ์แก่นไม้หมื่นปีมาทีนึงแล้ว แถมยังต้องเสียสมุนไพรวิญญาณไปจนหมดตัวอีก

สูญเสียซ้ำสองในคราเดียวจริง ๆ

มู่เฉียนซีเอาสมุนไพรวิญญาณของพวกเขามา และทันทีที่ข้อมือขยับ เข็มยาหลายเข็มก็พุ่งออกไป

พวกเขารู้สึกได้ถึงร่างกายที่เจ็บปวด เดิมทีที่บาดเจ็บก็สาหัสอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นได้

พวกเขาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความโกรธเกรี้ยว “นี่เจ้า…เจ้าวางยาพิษพวกข้า ไหนเจ้าบอกว่าจะปล่อยพวกข้าไปยังไงล่ะ?”

“พิษแค่นี้ไม่ทำให้พวกเจ้าตายหรอกน่า เพียงแค่พวกเจ้าทำอะไรได้ยากในเวลาครึ่งเดือนนี้ก็เท่านั้นเอง เวลาในการอยู่ในดินแดนโอสถของข้ามันมีค่ามาก หากพวกเจ้าไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเข้า เมื่อถึงตอนนั้นข้าไม่อยากจะเสียเวลา”

พวกเขาโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมาอีกครา ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้พวกเขาตาย แต่ก็ทำให้พวกเขากระเด็นออกจากการทดสอบในครั้งนี้แล้ว

พวกเขาเจ็บช้ำใจเป็นอย่างยิ่ง!

และไม่นานนัก ร่างของมู่เฉียนซีก็อันตรธานหายไปต่อหน้าพวกเขา

มู่เฉียนซีเก็บสมุนไพรวิญญาณพลางค้นหาใจกลางของดินแดนโอสถ

ระหว่างทางนี้นางก็ได้พบกับกฎเกณฑ์เข้าแล้ว

สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ต้องมีกฎเกณฑ์บางอย่าง หากหาในที่ที่คุณภาพสมุนไพรวิญญาณดี บางทีอาจจะหาใจกลางของดินแดนโอสถเจอก็ได้

แต่เช่นนี้มันช้าเกินไป ดินแดนโอสถกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ หากนางพลางค้นหาสมุนไพรวิญญาณพลางหาสถานที่ไปด้วยเช่นนี้ คาดว่าเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนก็คงจะไม่พอ

ในขณะที่มู่เฉียนซีเร่งเดินทางนั้น กลับเจอกับกลุ่มคนที่นางคุ้นเคยกลุ่มหนึ่ง

เห็นร่างร่างหนึ่งจากไกล ๆ ไป๋เหยียนเอ๋อร์ก็ดูออกแล้วว่าเป็นมู่เฉียนซี และน้ำเสียงของนางพลันเย็นชาขึ้นทันที

“มู่เฉียนซี!”

ไห่ฝานมองไป “นั่นมันหญิงบ้านั่นหนิ”

“ตอนแรกก็กะว่าจะหาใจกลางดินแดนโอสถเก็บสมุนไพรวิญญาณให้เสร็จซะก่อนแล้วค่อยจัดการกับหญิงสาวผู้นี้ ไม่นึกเลยว่านางจะโผล่มาซะก่อน งั้นก็จัดการนางก่อนแล้วค่อยว่ากันก็แล้วกัน”

ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า “นายน้อยไห่ เหยียนเอ๋อร์ซึ้งใจยิ่งนัก”

ไห่ฝานกล่าว “หญิงสาวผู้นี้เย่อหยิ่งจนน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าไม่นึกเลยว่านางจะรังแกเจ้า ข้าจะแก้แค้นแทนเจ้าเองเหยียนเอ๋อร์!”

“ลำบากนายน้อยไห่แล้ว”

มู่เฉียนซีเองก็เห็นพวกเขาแล้ว และนางก็รู้สึกว่าทางเส้นนี้ไปใจกลางดินแดนโอสถเป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว นางไม่มีทางเปลี่ยนเส้นทางเพียงเพราะว่ามีคนมาเกะกะขวางทางแน่นอน

ยังไม่ทันเข้าใกล้ นางก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของจิตสังหารที่พุ่งเข้ามาแล้ว มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พวกนั้นคิดจะลงมือ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด