ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 773 กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 773 กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไร้สาระสิ้นดี ข้าว่าเจ้าคงเบื่อเกินไป! อย่าทิ้งข้าในช่วงคับขันล่ะ มิเช่นนั้นข้าจะให้สุ่ยจิงอิ๋งส่งเจ้าไปหาจิ่วเยี่ย” มู่เฉียนซีกล่าว

“ฮึ่ม! ข้าจะทิ้งเจ้ากลางทางได้อย่างไร เจ้าคิดมากเกินไปแล้วกระมัง!”

ปฏิกิริยาของปลายกระบี่ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มู่เฉียนซีเห็นไกลๆว่าอารองของตนก็มาด้วย

ด้านหน้ามีอารอง และด้านหลังมีเฟิงอวิ๋นซิว มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย “ช่างบังเอิญนัก!”

นางเพียงต้องการหาตัวกระบี่มังกรเพลิงให้พบเพียงลำพัง จากนั้นก็จากไปโดยไม่มีใครรู้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะขัดกับความปรารถนาถึงเพียงนี้

เฟิงอวิ๋นซิวรีบวิ่งไปหามู่เฉียนซีและมองไปที่หลิงอย่างระมัดระวัง

มู่เฉียนซีกล่าว “นายน้อยอวิ๋นซิว ใช้หินเทพอัคคีตรวจสอบพื้นที่นี้หน่อยสิ!”

“ได้!”

ในขณะเดียวกัน อวี้จีก็ถือหินเทพอัคคีเช่นกัน พลังวิญญาณโคจรขึ้นมา ทันใดนั้นเปลวเพลิงก็ลุกโชนขึ้น

พลังวิญญาณของเฟิงอวิ๋นซิวก็โคจรออกมาเช่นกัน เปลวเพลิงทั้งสองลูกมาบรรจบกัน

มู่เฉียนซีตะลึงงัน ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง?

ปฏิกิริยาตอบสนองของปลายกระบี่มังกรเพลิงจะผิดพลาดไปได้อย่างไร!

ในเวลาต่อมา ธาตุไฟอีกสายหนึ่งก็ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!

บึ้ม!

พลังอันทรงพลังนี้ต้านทานพลังของหินเทพอัคคีเอาไว้ได้

ดวงตาของเฟิงอวิ๋นซิวกับหลิงและพรรคพวกได้เปล่งประกายแวววาว ธาตุไฟที่ทรงพลังเช่นนี้ต้องเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อย่างแน่นอน

พวกเขาเก็บหินเทพอัคคีเอาไว้ เมื่อพลังนั้นหายไป ท่ามกลางไฟที่ลุกโชนพวกเขาเห็นกองกระดูกสีขาวที่กองเป็นเนินภูเขาอยู่เบื้องหน้าพวกเขา

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อยู่ที่นั่น

หลิงและเฟิงอวิ๋นซิวเป็นคนแรกที่พุ่งเข้าไป จากนั้นทั้งสองคนก็ถูกกำหนดให้เข่นฆ่ากันอย่างเป็นตาย จากนั้นผู้ชนะจะได้คว้ากระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไป

เงาร่างสีแดงสดพุ่งเข้ามาพร้อมเปลวเพลิงที่พลิ้วไหว อวี้จีกล่าวว่า “สาวน้อย ในที่สุดข้าก็จับเจ้าได้ วันนี้ข้าจะเผาหน้าเจ้าให้ได้”

ชิงอิ่งดึงมู่เฉียนซีหลบเปลวเพลิงของนาง พรู่! และเสื้อผ้าของเขาก็ได้ถูกเผาด้วยเปลวเพลิงของอวี้จี

“ครั้งนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่มาขวางทางเด็ดขาด!” อวี้จีมองไปที่ชิงอิ่งด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

การที่จะจัดการกับมู่เฉียนซีนั้นง่ายมาก แต่ทุกครั้งก็มักจะมีชายชุดเขียวผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นมาขัดขวาง

หลิงต่อสู้กับเฟิงอวิ๋นซิว แต่คนของอวี้จีกลับมาล้อมมู่เฉียนซีไว้

“บ้าเอ๊ย!” ในเวลานี้หลิงไม่สนใจที่จะแย่งชิงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แล้ว ความปลอดภัยของซีเอ๋อร์ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

สีหน้าของหลิงเย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เขามองไปที่อวี้จีและกล่าวว่า “อวี้จี เจ้าลงมือโดยพลการ เจ้านี่มันรนหาที่ตายแท้ๆ!”

กระบี่เล่มหนึ่งพุ่งออกไป เลือดสดๆไหลรินออกมา คนเหล่านั้นก็ล้มลงไปทีละคน

ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายนี่มันเรื่องอะไรกัน? แม้แต่ตัวเขาเองก็ถูกฆ่า

อวี้จีเบิกตากว้าง “หลิง นี่เจ้าหมายความว่ายังไงกันแน่? เจ้ากลับฆ่าคนของเจ้า เจ้า…”

“ผู้อาวุโสสูงสุดและหัวหน้าตำหนักจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ เจ้ากล้าที่จะทรยศตำหนักเป่ยหาน!”

อวี้จีคิดว่าหลิงถูกตำหนักตงจี๋ซื้อตัวไปแล้วแน่ แต่นางไม่คิดเลยว่าหลิงจะฆ่านางเพียงเพื่อปกป้องมู่เฉียนซีเท่านั้น

ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่นางไม่ควรมายุ่งกับมู่เฉียนซี

“ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้าย เจ้า…”

คนอื่นๆก็ยืนอยู่ข้างอวี้จีเช่นกัน

มู่เฉียนซีรู้สึกจนปัญญา ทำไมอารองถึงไม่อดทนไว้!

บึ้ม! ในเวลานี้ เฟิงอวิ๋นซิวได้ดึงกระบี่ยาวที่ปล่อยเปลวเพลิงเล่มนั้นออกมาจากในกองกระดูกนั่น

นี่ไม่ใช่เพียงตัวกระบี่อย่างเดียวอย่างที่มู่เฉียนซีได้คิดไว้ แต่นี่กลับเป็นกระบี่ที่สมบูรณ์เล่มหนึ่ง!

อาถิงกล่าวว่า “กระบี่เล่มนี้เป็นธาตุไฟและมีกลิ่นอายของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ แต่กลับไม่ใช่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์”

“แค่มีกลิ่นอายเล็กน้อยก็จำผิดแล้ว ปลายกระบี่นั่นไม่น่าเชื่อถือเสียจริงๆ!”

มันไม่ใช่กระบี่มังกรเพลิง เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องแย่งชิงมันแล้ว!

เฟิงอวิ๋นซิวก็ไม่เข้าใจ ตำหนักเป่ยหานเกิดความโกลาหลขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทำให้เขาสามารถคว้ากระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ได้สำเร็จ

มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย ในที่สุดก็หามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ให้นางได้แล้ว นางคงจะต้องดีใจมากเป็นแน่!

สายตาของเขาจับจ้องไปที่มู่เฉียนซี เขาทําได้เพียงขอโทษเฉียนซีเท่านั้น มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เป็นสิ่งที่นางอยากตามหาให้พบมาโดยตลอด แต่เขาไม่สามารถเอากระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ให้ใครได้

ประกายอันตรายปรากฏขึ้นในดวงตาของหลิง เขาเตรียมที่จะแย่งกระบี่กลับมา

มู่เฉียนซีดึงหลิงไว้และกระซิบข้างหูเขาว่า “ท่านอารอง นี่ไม่ใช่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ เพื่อความปลอดภัยของท่าน กําจัดคนอื่นๆเสียก่อนดีกว่า”

เฟิงอวิ๋นซิวตกตะลึง นางอยู่ใกล้หลิงมากขนาดนี้ และ…

ซวนอีกล่าว “ข้ารู้อยู่แล้วว่าสาวน้อยผู้นี้แปลกๆ นางเป็นคนของหลิง”

เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวว่า “ถ้านางเป็นคนของหลิง ตอนนี้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์คงจะไม่ได้อยู่ในมือของข้าแล้ว”

อวี้จีกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หลิง ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีสัมพันธ์กับสาวน้อยผู้นี้จริงๆ แม้แต่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ก็ยอมสละได้เพื่อนาง ข้านั้นนับถือเจ้าเสียจริงๆ! ขอแค่คนสวยไม่ต้องการแม่น้ำภูเขา ผู้พิทักษ์หลิงที่เย็นชาและไร้ความปรานีเพื่อสตรีผู้หนึ่งถึงกับสามารถทรยศตำหนักเป่ยหานของเราได้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ”

“รนหาที่ตายนัก!” หลิงโบกมือและกระบี่ยักษ์ก็พุ่งเข้าหาอวี้จีพร้อมกับลมสังหารที่กระโชกแรง

อวี้จีกล่าว “ถ้าอยากฆ่าปิดปาก ก็ต้องดูว่าเจ้าจะมีความสามารถนี้หรือไม่ หลิง!”

ชายชราผู้หนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังของอวี้จีอย่างกะทันหัน เขามีพลังระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่เจ็ด”

“หลิง ผู้อาวุโสสูงสุดได้ส่งเสริมเจ้ามาโดยตลอด แต่เจ้ากลับทรยศเพียงเพื่อสตรีผู้หนึ่ง ชั่งดีจริงๆ! วันนี้ข้าจะชำระสะสางแทนผู้อาวุโสสูงสุดเอง!”

บึ้ม! ชายชราผู้นี้แข็งแกร่งมาก หลิงทำได้เพียงฝืนต้านทานมันเท่านั้น

“สาวน้อย เจ้าคิดจริงๆหรือว่าหลิงปกป้องเจ้าแล้วเจ้าจะสามารถรอดพ้นจากความตายในวันนี้ไปได้? ฝันไปเถอะ!”

ในตอนนี้อวี้จีได้เข้ามาใกล้มู่เฉียนซีด้วยจิตใจชั่วร้ายที่ไม่เลิกรา กระบี่ของเฟิงอวิ๋นซิวได้พุ่งเข้าไป

อวี้จีหลบอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าพลางยิ้มและกล่าวว่า “น้องชายอวิ๋นซิว เจ้าก็อยากเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามเหมือนกันกับหลิงเหรอ? อย่าเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งเลย อย่างไรเสียน้องอวิ๋นซิวก็ยังเด็กมาก ”

ซวนอีกล่าว “นายน้อย ฝ่ายตรงข้ามมีระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่เจ็ด พวกเราทําภารกิจสําเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตสู้กับพวกเขา รีบไปกันเถอะ!”

“นายน้อย…”

ถ้าจะไป ก็ต้องพาเฉียนซีไปด้วย!

เนื่องจากหลิงทรยศ เวลานี้ทุกคนในตำหนักเป่ยหานจึงเชื่อฟังคำสั่งของอวี้จี

“ขวางพวกเขาเอาไว้! แย่งชิงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มาให้ได้ ส่วนสาวน้อยผู้นี้ ข้าจะจัดการเอง!”

ชิงอิ่ง เฟิงอวิ๋นซิว ซวนอีกับพรรคพวก และเสี่ยวหงได้พัวพันอยู่กับตำหนักเป่ยหาน ตอนนี้อวี้จีเป็นมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่ห้า การจะจัดการกับมู่เฉียนซีนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก!

อวี้จีเพียงยกนิ้วเรียวยาวของนางขึ้นมาเบาๆ เชือกเปลวเพลิงขนาดใหญ่เส้นหนึ่งก็พันธนาการมู่เฉียนซีเอาไว้ในทันที

อวี้จีเดินไปตรงหน้ามู่เฉียนซี เล็บคมกริบราวกับมีดตกลงบนใบหน้าของมู่เฉียนซี “ใบหน้าของน้องสาวสตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ ช่างยั่วยวนใจเสียจริง ผู้ที่สูงส่งอย่างหลิงและน้องอวิ๋นซิวของพวกเราต่างก็ปกป้องเจ้าเช่นนี้! มันทำให้ข้าอิจฉายิ่งนัก เจ้าว่าถ้าข้าทำลายใบหน้านี้ของเจ้า จะยังมีใครมาชอบเจ้าอีกหรือไม่!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด