ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 349 จักรพรรดิปิงเซี่ยหลิงตี้

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 349 จักรพรรดิปิงเซี่ยหลิงตี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เสี่ยวซีซี เจ้าเรียกข้าว่าคุณชายเซี่ย ข้าคิดว่านั่นดูห่างเหินมากเกินไป เรียกข้าว่าเซี่ยก็พอแล้ว” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“แม้แต่ชื่อเต็มของเจ้า เจ้ายังไม่บอกข้าเลย นี่นับว่าไม่ห่างเหินรึ ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา

“ขะ ข้า…”

“นั่นก็เป็นเพราะว่าข้าอยากให้มันมีความรู้สึกลึกลับน่าค้นหาต่างหากเล่า” เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มอย่างเขินอาย

มู่เฉียนซีไม่ได้สนใจอะไรเขา นางเดินต่อไปเรื่อย ๆ การที่เจ้าคนน่ารำคาญผู้นี้ไม่บอกชื่อเต็ม คงเพราะกลัวว่าจะเป็นการเปิดเผยตัวตนเป็นแน่  ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีพลังวิญญาณมาตั้งแต่กำเนิด ชอบกระทำตนเป็นเจ้าบ้าก่อเรื่องวุ่นวาย แต่มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าการรับมือกับเขานั้นไม่ง่ายเลย

เมื่อออกมาจากรอยแยกนี้ได้ ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็ได้กลิ่นหอมของบุปผาโชยมา

ดอกบัวสีขาวราวหิมะดอกหนึ่งบานสะพรั่งอยู่บนหิมะที่ดูบริสุทธิ์ตรงหน้านาง การมาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว นางไม่นึกเลยว่าจะเจอเข้ากับดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นที่นี่

เชียนอ้าวเซี่ยที่ยืนอยู่ด้านหลังมู่เฉียนซีเดินเข้ามาใกล้นาง “เสี่ยวซีซี ของล้ำค่าเช่นนี้ต้องมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ปกป้องอยู่แน่ ๆ เจ้าอย่าทำอะไรผลีผลามเด็ดขาด!”

“เรื่องนั้นข้ารู้ดี”

อู๋ตี้เสี่ยวหง สองสัตว์พันธสัญญากล่าวขึ้นว่า “นายท่านให้พวกเราลองลงมือดูก่อนเถอะ”

“อืม”

“อู๋ตี้ ความเร็วของเจ้าน่าเกรงกลัวยิ่งนัก ลองเข้าไปดูก่อน! หากรู้สึกถึงอันตรายก็รีบออกมาให้เร็วที่สุด” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“เข้าใจแล้วนายท่าน”

ร่างของอู๋ตี้พุ่งเข้าไปใกล้ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นนั้นอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด  ในเวลานั้นเอง กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวพัดกระโชกเข้าหามัน

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

บนพื้นเกิดการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง

ไม่! นี่ไม่ใช่พื้นธรรมดา แต่มันเป็นร่างของงูเหลือมหิมะต่างหาก  บริเวณรอบ ๆ ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นนี้มีร่างงูเหลือมหิมะสถิตอยู่

มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม นี่เป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลย

มู่เฉียนซีตะโกน “อู๋ตี้ กลับมา!”

— ฟึ่บ! —

อู๋ตี้อยากจะกลับมา แต่งูเหลือมหิมะนี้ไม่ยอมปล่อยมันไปง่าย ๆ ร่างใหญ่นั้นกำลังพัวพันอู๋ตี้อยู่

“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทาน หนึ่งเดียวในใต้หล้า มาแล้ว! เจ้าคิดว่าตัวเจ้าใหญ่แล้วเก่งมากนักรึ ข้าก็ใหญ่ได้เช่นกัน”

แมวน้อยร่างเล็กแปลงตนจนใหญ่มหึมาภายในชั่วพริบตา แต่หากเทียบกับงูเหลือมหิมะตัวนี้แล้ว อู๋ตี้ยังเล็กกว่ามันอีกหลายเท่า

— ปัง! —

อู๋ตี้เผชิญหน้าต่อสู้กับงูเหลือมหิมะตัวนี้ ทันใดนั้นเสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด

แมวน้อยตัวนี้ยากที่จะรับมือ ทำให้งูเหลือมหิมะโกรธอย่างหนัก

“โฮก!  โฮก!  โฮก!” เสียงคำรามนี้ทำให้สัตว์ใหญ่สีแดงเพลิงพุ่งออกมาจากถ้ำตรงข้าม

มู่เฉียนซีตกตะลึงเป็นอย่างมาก “นั่นงูเหลือมเพลิงรึ ?”

“นึกไม่ถึงเลยว่าทุ่งน้ำแข็งหนาวเย็นแห่งนี้จะมีงูเหลือมเพลิงอาศัยอยู่ นี่มันผิดธรรมชาติแล้ว”

เชียนอ้าวเซี่ย “บนโลกใบนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก แน่นอนว่าย่อมต้องมีสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันและส่งผลกระทบต่อกันและกัน แต่ก็ยังสามารถอยู่ร่วมกันได้”

“งูเหลือมหิมะกับงูเหลือมเพลิงมันจับคู่กัน เสี่ยวซีซีเจ้าไม่สังเกตเห็นหรอกหรือว่ามันรักกัน ?”

มู่เฉียนซีส่ายหน้า นางจะเอากะจิตกะใจที่ไหนไปสังเกตกันเล่าว่างูเหลือมหิมะกับงูเหลือมเพลิงสองตัวนี้รักใคร่จับคู่กัน  สิ่งที่นางกังวลมากที่สุดในเวลานี้คือความปลอดภัยของอู๋ตี้ต่างหาก นางตะโกน “เสี่ยวหง รีบลงมือเร็ว!”

“งูเหลือมเพลิงเจ้าจะเก่งกาจสักเพียงใดกันเชียว เรื่องเล่นเปลวเพลิงเช่นนี้ ใครหน้าไหนก็มิอาจสู้ข้าได้” หมูน้อยตัวแดงพุ่งออกไปทันใด

“ไสหัวไป!” เมื่อเห็นเสี่ยวหง งูเหลือมเพลิงก็คำรามขึ้นอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“เพลิงเผาสวรรค์!” เสี่ยวหงลงมือโจมตี มันอยากจะดูสีหน้าเย่อหยิ่งของเจ้างูนี่สักหน่อย

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

พวกมันทั้งสี่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในขณะเดียวกันนั้น ลูกสมุนของงูเหลือมหิมะและงูเหลือมเพลิงตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนก็เลื้อยเข้าไปหามู่เฉียนซีกับเชียนอ้าวเซี่ย

เชียนอ้าวเซี่ยจับแขนมู่เฉียนซีเอาไว้แน่นด้วยความตื่นตระหนกเต็มที่ “เสี่ยวซีซี เราจะทำอย่างไรกันดี ? พวกมันมาแล้ว  ข้ากลัว… ข้ากลัว!”

เหล่าบรรดางูเหลือมหิมะและงูเหลือมเพลิงตัวเล็ก ๆ นี้ ตัวที่อ่อนแอที่สุดเป็นสัตว์วิญญาณระดับห้าหรือระดับหก ส่วนตัวที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง

มู่เฉียนซีดึงเขาพลางกล่าว “จะอย่างไรก็รีบออกไปจากตรงนี้กันก่อนเถอะ ตรงนี้พื้นที่แคบเกินไป ไม่สะดวก”

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

เข็มยานับไม่ถ้วนพุ่งออกไป มู่เฉียนซีเริ่มวางยาพิษเร็วพลัน จากนั้นนางตะโกน “มังกรเพลิงสังหาร!”

“มังกรวารีพิฆาต!”

มู่เฉียนซีรับมือต่อสู้อย่างหนักแต่เพียงผู้เดียว ส่วนเชียนอ้าวเซี่ยเปรียบเสมือนบุปผาดอกเล็ก ๆ ที่สวยงาม เขาเอาแต่หลบอยู่ด้านหลังมู่เฉียนซีเพื่อให้นางปกป้องดูแล

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “เฮ้! เจ้าไม่คิดจะออกแรงช่วยกันหน่อยรึ ?”

เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างไร้เดียงสา “เสี่ยวซีซี เจ้าก็เห็นแล้วว่าร่างกายข้าไม่มีพลังวิญญาณมาตั้งแต่กำเนิด ไม่อาจฝึกฝนใด ๆ ได้ เกรงว่าข้าคงไม่อาจต่อสู้ศัตรูร่วมกับเสี่ยวซีซีได้ แต่เรื่องอื่นข้าลงมือออกแรงได้ อย่างเช่น…”

“หุบปากของเจ้าประเดี๋ยวนี้!”

เจ้าคนน่ารำคาญผู้นี้หาเรื่องก่อกวนไมรู้จักกาลเทศะเอาเสียเลย น่ารำคาญจริง!

“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะไม่มีพลังใด ๆ เลย”

“เสี่ยวซีซี มันเป็นเรื่องจริง”

มู่เฉียนซีไม่ต้องการจะกล่าววาจาไร้สาระกับเขาแล้ว นางทำได้เพียงต้านสัตว์วิญญาณเหล่านี้อย่างสุดกำลังเท่านั้น

— ปัง! —

— ตูม!  ตูม! —

พวกเขาอยู่ห่างจากเขตการต่อสู้นั้นมาไกลแล้ว แต่พลังนั้นส่งผลต่อพวกเขาอีกครั้ง ทั้งสองจึงตกลงไปในรอยแยกของกำแพงน้ำแข็งอย่างรุนแรง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้เจอกับสิ่งกีดขวางใด  กำแพงน้ำแข็งด้านหลังนั้นเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

— ตุบ! —

ทั้งสองตกเข้าไปในนั้น เคราะห์ดีที่สัตว์วิญญาณเหล่านั้นไม่ได้ตามมา

ทว่าสัตว์วิญญาณระดับสามสองตัวที่อยู่ในบริเวณนั้นโกรธเกรี้ยวอย่างมาก “สมควรตาย สมควรตายยิ่งนัก มีคนลอบเข้ามาในอาณาเขตที่พวกเราปกป้องอยู่เช่นนั้นรึ ?!”

พวกมันจะพุ่งเข้ามาแต่ถูกอู๋ตี้กับเสี่ยวหงขัดขวางเอาไว้ “กากเดนสองตัวอย่างพวกเจ้า คิดว่าจะขวางทางนายท่านของพวกข้าได้รึ ?”

“หลีกทางออกไปเดี๋ยวนี้!”

“พวกข้าไม่หลีกเจ้าจะทำไม ? จะกัดข้ารึอย่างไร ?”

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

พวกมันเริ่มต่อสู้อย่างดุเดือดอีกครั้ง มู่เฉียนซีได้ยินงูเหลือมสองตัวนี้กล่าวกันว่าที่นี่เป็นอาณาเขตที่พวกมันปกป้อง แสดงว่าต้องไม่ใช่สถานที่ธรรมดา ๆ เป็นแน่

ดูเหมือนว่าด้านในจะมีของบางอย่างอยู่

มู่เฉียนซีกล่าว “สัตว์วิญญาณเหล่านั้นไม่กล้าเข้าใกล้ตรงนี้ เชียนอ้าวเซี่ยเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะเข้าไปดูข้างในสักหน่อย”

เชียนอ้าวเซี่ยดึงแขนมู่เฉียนซีเอาไว้ “เสี่ยวซีซี ข้าเข้าไปเป็นเพื่อน”

มู่เฉียนซี “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่มีกำลังต่อสู้มิใช่รึ ? หากเกิดอันตรายขึ้นข้างใน ข้าไม่ช่วยเจ้าหรอกนะ”

“เสี่ยวซีซี ข้าอยู่คนเดียวตรงนี้ข้ากลัว… หากสัตว์พันธสัญญาสองตัวของเจ้าต้านงูเหลือมนั่นไว้ไม่ได้ ข้าก็ต้องรอความตายอยู่ตรงนี้ แม้แต่โอกาสจะมองหน้าเสี่ยวซีซีครั้งสุดท้ายก็ไม่มี เช่นนั้นข้าไม่เอาด้วย…”

เนื่องจากงูเหลือมหิมะกับงูเหลือมเพลิง ‘เป็นคู่รักกัน’ พวกมันจึงร่วมมือกันต่อสู้จนทำให้พลังของพวกมันแข็งแกร่งขึ้นมาก พลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามอย่างอู๋ตี้กับเสี่ยวหงอาจจะรับมือกับพวกมันไว้ไม่ได้

มู่เฉียนซีจ้องมองเชียนอ้าวเซี่ยอย่างละเอียดถี่ถ้วน  นางกล่าวว่า “หวังว่าการคาดเดาและความรู้สึกของข้าไม่ผิดพลาด คนอย่างเจ้าสามารถดูแลตัวเองได้”

“แต่ข้าไม่อยากดูแลตัวเอง เสี่ยวซีซีแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ต้องปกป้องข้าได้แน่นอน”

เมื่อเดินลึกเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง มู่เฉียนซีก็พบกับกำแพงน้ำแข็งที่ซ่อนอยู่ใต้ดินมานานหลายร้อยปี บนกำแพงน้ำแข็งนี้สลักลวดลายและอักษรบางอย่าง  สิ่งที่บันทึกไว้นั่นก็คือบุคคลในตำนานของเซี่ยโจว… จักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้ผู้แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิสงครามขวางอวิ๋น

มู่เฉียนอึ้งงัน “ที่แห่งนี้คงจะไม่ใช่สุสานของจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้กระมัง”

เชียนอ้าวเซี่ย “จักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้สถาปนาแคว้นเฉียนเซี่ย แต่สุสานกลับไม่ได้อยู่ในแคว้นเฉียนเซี่ย ข้าไม่นึกเลยว่าจะอยู่ในทุ่งน้ำแข็งแห่งนี้ มิน่าล่ะผู้คนมากมายที่พยายามค้นหากันมาหลายพันปีจึงหาสุสานของจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้ไม่เจอสักที”

.

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด