ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 213 ตามหาใครบางคน

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 213 ตามหาใครบางคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซวนหยวนจือโกรธจนกระอักเลือด

“เจ้ามันก็เป็นโอรสเลวอีกคนงั้นรึ ?! คนเช่นเจ้าก็เห็นสตรีผู้นี้ดีกว่าบิดาของตัวเอง!”

ซวนหยวนชิงอวิ๋นแค่นเสียงเย็นชา “ซวนหยวนจือ ในตอนที่ท่านแม่ของข้าถูกฮองเฮาทำร้ายจนสิ้นพระชนม์ ท่านก็ไม่เคยเหลียวมอง แม้แต่ไปดูใจก็ไม่มี มาตอนนี้ท่านมีสิทธ์อะไรมาว่าข้าหรือ ?”

ซวนหยวนจือจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างโหดเหี้ยม

“เหอะ! ตระกูลมู่ของพวกเจ้าก่อเรื่องเอาไว้มากมายนัก มู่เฟิงอวิ๋นท่านพ่อของเจ้าทำให้ฮองเฮาของข้าหลงรักคะนึงหาอยู่ตลอดเวลาหลายปี และนี่ เจ้ายังทำให้โอรสชายของข้าทั้งสองปกป้องเจ้าได้ถึงเพียงนี้ เพื่อเจ้าพวกเขาถึงกับยอมวางตัวเป็นศัตรูกับข้า”

มู่เฉียนซีกล่าวติดตลก “นั่นมันไม่ใช่ว่าพวกเราเป็นคนก่อเรื่อง แต่ซวนหยวนจือ สาเหตุเป็นเพราะนิสัยแย่ ๆ ของท่านเองต่างหาก”

ซวนหยวนจือใบหน้านิ่วคิ้วขมวดมุ่น กล่าวอย่างเย็นชา “มู่เฉียนซี มาถึงขั้นนี้แล้วเจ้าก็ยังปากเก่งดื้อดึงกล้าต่อปากต่อคำ วันนี้ต่อให้มีโอรสเนรคุณสองคนคอยปกป้องเจ้าข้าก็ไม่สนใจ ใครขวางข้า ข้าจะฆ่าให้หมด!”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา “ซวนหยวนจือ ต่อให้วันนี้ข้าไม่ลงมือกับท่าน ท่านก็มิอาจฆ่าข้าได้  ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดท่านถึงทะลวงพลังระดับจักรพรรดิได้ง่าย ๆ เช่นนี้ ?”

ซวนหยวนจือผงะไปครู่หนึ่ง “เหตุผลที่ข้าทะลวงพลังระดับจักรพรรดิได้ก็เป็นเพราะว่าข้าได้ยาจักรพรรดิหวงหลัวตานมาอย่างไรเล่า ต่อให้เงินที่ใช้เป็นเงินของตระกูลมู่แล้วอย่างไร ? หลังจากที่เจ้ากับมู่อวู่ซวงตาย ทรัพย์สมบัติทุกอย่างของตระกูลมู่ก็ต้องตกเป็นของข้าผู้นี้ผู้เดียว”

ใบหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนแปลง นางยิ้มเยาะเพราะรู้สึกสมเพชฮ่องเต้หน้าเงินผู้นี้อย่างแท้จริง

“ฮ่า ๆ ซวนหยวนจือเอ๋ยซวนหยวนจือ ท่านก็รู้แค่ว่าตัวท่านได้กินยาจักรพรรดิหวงหลัวตาน แต่ท่านต้องไม่รู้เป็นแน่ว่าใครคือผู้ที่หลอมยาจักรพรรดิหวงหลัวตานนั่นขึ้นมาได้”

สีหน้าซวนหยวนจือพลันเปลี่ยนไปทันที “หรือว่า… หรือว่าจะเป็นหมอปีศาจที่หลอมมันขึ้นมา ?”

เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

มู่เฉียนซีกล่าวสบาย ๆ “ไม่ใช่หมอปีศาจหรอก แต่เป็นหัวหน้านักปรุงยาในหอหมอปีศาจต่างหาก  ข้ารู้ดีถึงกระบวนการหลอมยาจักรพรรดิหวงหลัวตาน หลังจากจบกระบวนการหลอมส่วนผสมยาตามปกติ หมอปีศาจก็ได้ใส่อะไรบางอย่างเข้าไปในนั้น แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวท่านที่กินยาเข้าไป ?”

“หึ ๆ ซวนหยวนจือ เดิมทีข้าตั้งใจจะจัดการเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยลงมือจัดการกับท่าน แต่ใครเลยจะทราบว่าจะโดนฮองเฮากับมู่หรูเหยียนเล่นงานเสียก่อน ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม ข้าก็จะเดินตามหมากเดิมที่ได้วางเอาไว้”

ซวนหยวนจือโกรธจนใบหน้าเครียดคล้ำ เขาตะคอก “มู่เฉียนซี จะ… เจ้าลอบใช้ยาจักรพรรดิหวงหลัวตานแก้แค้นข้ารึ ? จะ… เจ้า…”

มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชา “ข้าทำไมรึ ? หากไม่ใช่เพื่อให้ท่านติดกับดักข้า ยาวิญญาณระดับเจ็ดจะปรากฏขึ้นในแคว้นจื่อเยี่ยได้รึ ? ข้าจะยอมให้ท่านยืมเงินทองไปประมูลยารึ ? ทั้งยังสัญญาหมั้นหมายอะไรนั่นอีก”

ซวนหยวนจือกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “มู่เฉียนซี เจ้า… เจ้ามันเล่นสกปรก เจ้ามันน่ากลัวยิ่งนัก เจ้ามัน…”

มู่เฉียนซีหยิบกระดิ่งออกมา กล่าวอย่างเชื่องช้า “หากท่านไม่ละโมบโลภมากต่อตระกูลมู่ ตระกูลมู่กับราชวงศ์ซวนหยวนก็อาจจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ แต่นี่จิตใจของท่านมันละโมบยิ่งนัก แน่นอนอยู่แล้วว่าตระกูลมู่ไม่ปล่อยเอาไว้ให้เป็นอันตราย”

— ติ๊ง!  ติ๊ง!  ติ๊ง! —

มู่เฉียนซีสั่นกระดิ่ง ฉับพลันทันใดพิษที่อยู่ในร่างของซวนหยวนจือระเบิดออกมาทันที

ต่อมามู่เฉียนซีนางก็จะสะกดจิตซวนหยวนจือ จากนี้ไปเขาจะไม่มีความคิดต่อต้านใด ๆ อีก และเขาจะอยู่ภายใต้การควบคุมของนางอย่างสมบูรณ์

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ชิงอวิ๋น เจ้าอยากขึ้นเป็นฮ่องเต้หรือไม่ ? หากเจ้าปรารถนา ข้าก็จะให้ซวนหยวนจือสละบัลลังก์ให้เจ้า”

ซวนหยวนชิงอวิ๋นส่ายหน้า กล่าวว่า “ไม่ดีกว่า ข้าไม่ชอบพัวพันกับบัลลังก์อันแสนน่าเบื่อ”

มู่เฉียนซีคิดไปคิดมา ที่ชิงอวิ๋นว่าก็จริงแท้อยู่ ซวนหยวนชิงอวิ๋นได้เป็นถึงทายาทจักรพรรดิแห่งสงครามขวางอวิ๋น ต่อไปเส้นทางการฝึกฝนของเขายังมีอีกยาวไกล เขาไม่จำเป็นต้องหวังในตำแหน่งฮ่องเต้นี้เลย

มู่เฉียนซีหันไปมองใบหน้าซวนหยวนหลี่เทียน บุรุษผู้นี้ไม่มีความน่าเชื่อใจอะไรเลย ดังนั้นใช้ซวนหยวนจือจะดีกว่า

มู่เฉียนซีกล่าว “เอาล่ะซวนหยวนจือ ท่านยังคงเป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นจื่อเยี่ยอยู่ ทำหน้าที่เป็นฮ่องเต้ต่อไปดังเดิม…”

ซวนหยวนจือได้กลับมาครองบัลลังก์มังกรอีกครั้ง สถานการณ์ของแคว้นจื่อเยี่ยกลับมาเป็นปกติ และทุกอย่างก็กลับสู่สภาพเดิม

ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนประมุขทั้งสองครั้งของแคว้นจื่อเยี่ยที่ผ่านมานั้นเป็นเพราะกู่พิษ ราวกับแคว้นจื่อเยี่ยได้ประสบกับฝันร้ายทว่าก็เพียงเวลาไม่นานนัก

มู่เฉียนซีประกาศไปทั่วทั้งแคว้นจื่อเยี่ยและแคว้นชิง

หากผู้ใดสามารถหาสมุนไพรวิญญาณที่นางต้องการได้ นางจะมอบรางวัลอีกทั้งเงินรางวัลมากมายให้ แต่พื้นที่ที่มีสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นมันเป็นพื้นที่ที่เล็กมาก ยากที่จะมีผู้คนหาเจอได้

หลังจากที่มู่เฉียนซีได้ประกาศไปทั่ว แต่สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดพบเจอสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นที่นางต้องการ

ตราบใดที่หาสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นเจอ หรืออาจะเจอแค่ต้นเดียว ก็สามารถรักษาชีวิตของท่านอาเล็กเอาไว้ได้แล้ว

แต่หากหาสมุนไพรวิญญาณนั้นไม่เจอจริง ๆ จวบจนถึงเวลานั้นขึ้นมา ท่านอาก็ไม่อาจยับยั้งพิษนั้นเอาไว้ได้ และผลที่ตามมานั้นคงไม่ต่างอะไรกับหายนะ

ยามรัตติกาล

เยี่ยอ๋องลอบเข้ามาในห้องนอนของมู่เฉียนซีตามเคย เขากล่าวเสียงต่ำ “ซี… ไม่ต้องร้อนใจไป ข้าได้ส่งคนไปตามหาให้เจ้าแล้ว”

ไม่ต้องพูดถึงแคว้นจื่อเยี่ยกับแคว้นชิง ต่อให้เป็นทั่วทั้งเซี่ยโจว การหาสมุนไพรวิญญาณชนิดนั้นเจอมันเป็นเรื่องที่ยากมาก

มู่เฉียนซีกล่าว “รบกวนเจ้าอีกแล้ว”

แม้จะกล่าวไปเช่นนั้น แต่หากเป็นเรื่องการช่วยรักษาอาการป่วยของท่านอาเล็ก มู่เฉียนซีไม่มีความเกรงใจใด ๆ กับจิ่วเยี่ย

ในขณะที่จิ่วเยี่ยกำลังจะคว้าร่างของมู่เฉียนซีมากอด ทันใดนั้นร่างสีเขียวพลันปรากฏขึ้น ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่น่าหลงใหล

“เยี่ย!”

ถูกขัดจังหวะเช่นนี้ จิ่วเยี่ยไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งยวด เขากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกราวน้ำแข็งทันที

“ไสหัวออกไป! ”

จื่อโยวกระโดดขึ้นหน้าต่างก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงมีชัยอย่างผู้ที่เหนือกว่า “เยี่ย ได้เรื่องแล้ว เจ้าแน่ใจรึว่าจะไม่ฟังข้า ?”

จิ่วเยี่ยถอนหายใจ เขาเดินไปตรงหน้าจื่อโยว

“ว่ามา”

“ได้ข่าวเรื่องนางแล้ว น่าจะอยู่ทางทิศออกของเซี่ยโจว  เยี่ย เจ้าจะลงมือเมื่อใดรึ ?”

มุมปากจื่อโยวกระตุกเล็กน้อย เขาไม่ทันระวังว่าเวลานี้มู่เฉียนซีอยู่ด้วยก็พล่ามออกไปแล้ว

มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง

‘นาง ?  นางไหนรึ ?’

มู่เฉียนซีรู้ดีอยู่แก่ใจว่าพลังของจิ่วเยี่ยนั้นแข็งแกร่งมาก อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ลึกลับซับซ้อนเหนือผู้ใด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่มนุษย์บนโลกใบนี้

เป็นไปได้หรือไม่ว่าการที่เขามาในแผ่นดินเซี่ยโจวนี้ เขาจะตามหาใครบางคน

จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้ารู้แล้ว วันพรุ่งยามฟ้าสางจะไปทันที”

“อ๊ะ ๆ ๆ! ไม่นึกเลยว่าจะไปวันพรุ่ง ดูท่าแล้วเยี่ยคงจะทำใจห่างจากสาวน้อยคนงามผู้นี้ไม่ได้!” ขณะกล่าวออกไปเช่นนั้น มุมปากของจื่อโยวยกยิ้มขี้เล่นเล็กน้อย

มู่เฉียนซีเอาหมอนขว้างไปที่จื่อโยวพลางกล่าว “จื่อโยว หากเจ้าไม่หยุดพูดจาเหลวไหล ข้าจะฝังเจ้าด้วยยาพิษทั้งเป็นเลยคอยดู”

จื่อโยวรีบหลบ ทว่าปากก็ยังกล่าววาจาขี้เล่นไม่หยุด “ฮ่า ๆ ๆ แม่สาวน้อย อย่าเพิ่งโกรธไปเลย โอ๊ะโอ! นี่เจ้าหึงหวงใช่หรือไม่ ?”

“ข้าบอกเจ้าก็ได้ วันพรุ่ง เยี่ยกับข้าจะไปหาใครบางคน ใครคนนั้นเป็นสตรี นางทั้งเป็นสตรีที่งดงามและอ่อนโยนมากเลยเชียว”

มู่เฉียนซีสะดุ้งเล็กน้อย “จื่อโยว เจ้าจะมาบอกเรื่องนี้กับข้าเพื่ออะไร ?”

“ไสหัวกลับไปซะ!” จิ่วเยี่ยสุดจะทน เขาระเบิดพลังไล่สหายปากไม่มีหูรูดนี้ออกไป

— ปัง! —

จื่อโยวไม่ทันระวังตัว ร่างของเขาจึงตกลงมาจากหน้าต่างกระแทกลงไปกับพื้น

“ไอ้หยา! เยี่ย เจ้านี่โหดร้ายแท้ ๆ” จื่อโยวบ่น เขาประคองตน มือปัดก้นพลางยันกายลุกขึ้นด้วยความอับอายเล็กน้อย

การที่เขากล่าววาจาเช่นนั้นออกไปก็เพื่อที่จะให้สาวน้อยมู่เฉียนซีผู้นี้รู้สึกอิจฉาและหึงหวง ทำเช่นนี้เพื่อที่จะให้สาวน้อยรู้ใจตัวเองว่านางสนใจเยี่ย มีความรู้สึกพิเศษกับเยี่ย มิเช่นนั้นแล้วหากปล่อยให้เยี่ยใช้วิธีของเขาต่อไป เห็นทีจะไม่มีวันชนะใจสาวน้อยคนงามผู้นี้แน่นอน

เห็นได้ชัดว่าเวลานี้เยี่ยยังโกรธอยู่ จื่อโยวไม่อยากอยู่ใส่ไฟต่อไปอีก

จิ่วเยี่ยเดินไปตรงหน้ามู่เฉียนซี พลันคว้าร่างนางมากอดเอาไว้  กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ซี นับจากวันพรุ่งข้าจะไม่อยู่ช่วงหนึ่ง”

มู่เฉียนซีพยักหน้า กล่าวด้วยเสียงแข็ง ๆ ใส่อารมณ์โดยที่นางไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย

“อืม! ข้ารู้แล้วว่าเจ้าต้องไปตามหาใครบางคน”

.

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด