ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 54 สวัสดิการของน้องชาย

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 54 สวัสดิการของน้องชาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซวนหยวนหลี่เทียนเจ็บจนหน้าเขียว ใจเย็นยะเยือกไปหมด เขากล่าว

“มู่เฉียนซี ข้ายังมีจิตคิดสงสารเจ้า แต่เจ้ากลับไร้ซึ่งจิตใจเช่นนั้นต่อข้า เจ้าไม่มีความรู้สึกอะไรสักนิดต่อข้าบ้างเลยรึ ?”

“หลี่อ๋อง ข้าเพียงแค่อยากคุยเรื่องเงินกับท่าน ไม่ได้มาคุยกับท่านเรื่องความรักพวกนี้ ต่อให้ข้าเกิดใหม่เป็นร้อยครั้ง ก็จะไม่ทำเรื่องพวกนี้” มู่เฉียนซีกล่าว ใส่น้ำเสียงเย้ยหยันเต็มสิบส่วน

ซวนหยวนหลี่เทียนเกือบกระอักเลือดอีกหน โมโหจนตัวสั่นเทิ้ม ในสายตาของนาง เขาเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเชียวหรือ ?

“ชดใช้รถม้าข้ามาหนึ่งล้านเหรียญ จ่ายเงินโดยตรงหรือว่าจ่ายเป็นตั๋วเงิน มิฉะนั้นเข็มข้านี้จะปักตรงลงคอไป”

สิ้นวาจาหญิงสาว เงาแห่งความตายครอบงำเข้ามา ซวนหยวนหลี่เทียนรู้ได้ว่ามู่เฉียนซีสตรีแข็งกร้าวนี้เอาจริง

“ตอนนี้ข้ามีมากสุดหนึ่งแสนเหรียญ”

“นำออกมา!” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงแข็ง

ซวนหยวนหลี่เทียนนำเงินออกมาหนึ่งแสนเหรียญจากแหวนมิติของเขา เวลาเดียวกันมู่เฉียนซีกวักมือเรียก “เยวี่ยเจ๋อ เก็บเงินนั่นมา”

เยวี่ยเจ๋อถือตั๋วเงินที่มีน้ำหนักก็อดลอบถอนหายใจไม่ได้ สมแล้วที่เป็นผู้มั่งคั่งอันดับหนึ่ง ทำเงินได้อย่างรวดเร็ว หนึ่งแสนเหรียญทองคำมิใช่น้อย ๆ ตระกูลเยวี่ยของพวกเขากลัวว่า… ทำเงินมาสิบปียังไม่ได้ถึงเท่านี้เสียด้วยซ้ำ

มู่เฉียนซีหันมองมู่หรูอวิ๋น กล่าวยักคิ้วหลิ่วตาปั้นหน้าเจ้าเล่ห์ “หลี่อ๋องมีแค่หนึ่งแสน ยังขาดอีกมาก ฮูหยินน้อยของท่านคงจะมีอยู่ไม่น้อย ท่านไม่ลองยืมนางมาสักหน่อยล่ะ”

สามปีที่ผ่านมา มู่หรูอวิ๋นได้เงินจากเจ้าของร่างเดิมไปไม่น้อย  ใครอย่าได้มองว่ามู่หรูอวิ๋นที่ดูช่างอบอุ่นอ่อนโยนจะโง่เขลาเบาเล่ห์กล ที่ผ่านมาปัญญานางทำให้เงินที่กำอยู่ในมือนาง มีมากกว่าซวนหยวนหลี่เทียน ท่านอ๋องคนนี้มากมาย

“อวิ๋นเอ๋อร์” ซวนหยวนหลี่เทียนหันไปมองมู่หรูอวิ๋น กล่าวเรียกอย่างไม่แน่ใจ

มู่หรูอวิ๋นแสนจะเกลียดมาก! ให้ตายเถอะมู่เชียนซี! มาทำให้นางดูหมดสภาพแบบนั้นแล้วยังไม่ยอมปล่อยนางไป นางมู่นั่นเหตุใดจึงเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้ ?

“อวิ๋นเอ๋อร์ หากเจ้ารักข้าก็จงนำเงินในแหวนมิตินั้นออกมาเถอะ มู่เฉียนซีสตรีเสียสตินี่ หากเกิดลงมือลงไม้ขึ้นมาจริง ๆ แล้วละก็ ไม่ใช่เรื่องดีเลย  เจ้าอยากให้ข้าตายหรือ ?”

ตาย!  เพียงคิดถึงคำนี้ มู่หรูอวิ๋นหวาดกลัว

ทุกวันนี้ที่นางพึ่งพาได้มีเพียงซวนหยวนหลี่เทียนเท่านั้น นอกจากซวนหยวนหลี่เทียนแล้ว ชายคนอื่นในแคว้นจื่อเยี่ยคงไม่มีใครยอมรับนางได้

หากซวนหยวนหลี่เทียนถูกมู่เฉียนซีสตรีบ้าระห่ำผู้นี้ทำให้เสียชีวิต หากเป็นเช่นนั้น… กลัวว่านางคงจะไร้ที่พึ่งแล้ว

มู่หรูอวิ๋นนำเงินของนางออกมาทั้งหมด รวมกันแล้วมีถึงสองแสนกว่าเหรียญทองคำ

แม้แต่ซวนหยวนหลี่เทียนก็ยังไม่อยากที่จะเชื่อว่า นางมีเงินมากมายถึงเพียงนี้เชียว อันที่จริงเหมือนจะมีมากกว่าเขาเสียอีก

แต่ว่าหญิงสาวที่อ่อนโยนช่างเอาใจคนนี้ กลับไม่เคยพูดบอกกับเขามาก่อน

ซวนหยวนหลี่เทียนโกรธขึ้งขึ้น เรื่องการถูกหลอกลวงนี้ทำให้เขาว้าวุ่นใจนัก

“สองแสนกว่า มีเงินเยอะมากเกินไปหรือเปล่า ?”

“เจ้าไม่รู้หรือไร ? เมื่อก่อนมู่หรูอวิ๋นคอยตามรับใช้ผู้นำตระกูลมู่ ท่านผู้นำเป็นคนใจกว้าง ให้แต่ละครั้งหลายหมื่น สองสามปีรวมกันมันก็เยอะได้ บางทีนางอาจจะแอบเก็บไว้อีกไม่น้อยเลยล่ะข้าว่า”

“เป็นคนคอยรับใช้ท่านผู้นำตระกูลมู่ได้ประโยชน์ถึงเพียงนี้เชียวรึ ?!  แต่ว่าสตรีมู่หรูอวิ๋นคนนี้ ตอนที่ท่านผู้นำตระกูลมู่กับท่านหลี่อ๋องยังไม่ยกเลิกหมั้นหมาย ก็ไปให้ท่าท่านอ๋อง มันช่างเป็นเสมือนหมาป่าตาขาวที่เลี้ยงไม่เชื่อง น่าขยะแขยง!”

เงินมากมายขนาดนี้ ทำให้สายตาของทุกคนจ้องมองมู่หรูอวิ๋นด้วยความอิจฉาริษยา  แน่นอน ปากยังเปิดเผยข่าวจำนวนมากออกมา สาดวาจาดูแคลนจนมู่หรูอวิ๋นอยากจะหาหลุมมุดเข้าไปหลบความอับอาย

เยวี่ยเจ๋อนิ่งอึ้ง คลื่นความรู้สึกอัศจรรย์ใจโถมเข้าสู่สมอง แต่เดิมพี่ใหญ่นำเม็ดยาขั้นสูงกินแทนข้าวไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เป็นน้องชายของนางซึ่งเป็นผู้มั่งคั่งอันดับหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์มากมายจริง ๆ

“ท่านพี่หลี่เทียน” มู่หรูอวิ๋นมองซวนหยวนหลี่เทียนด้วยสายตาน่าสงสาร ต้องการให้ซวนหยวนหลี่เทียนช่วยนางพูดหาความเป็นธรรม

แต่ในสายตาอันเย็นเยือกของซวนหยวนหลี่เทียน ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าสตรีนางนี้เจ้าเล่ห์น่ารังเกียจ ร้อยมารยา

มู่เฉียนซีนำกระดาษพู่กันขึ้นมาเขียนสัญญาหนี้ไว้

“โดยรวมแล้ว ซวนหยวนหลี่เทียนติดหนี้มู่เฉียนซีเจ็ดแสนเหรียญทองคำ จะต้องจ่ายให้หมดภายในหนึ่งเดือน ถ้าเกินไปแม้เพียงหนึ่งวัน ให้เพิ่มอีกหมื่นเหรียญในทุกหนึ่งวัน”

เห็นบรรทัดนี้แล้ว ซวนหยวนหลี่เทียนแทบอยากจะเป็นลมล้มพับดั่งสตรี ‘ให้ตายเถอะมู่เฉียนซี! เจ้าทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการปล้นข้าเลย’

“ลงชื่อได้แล้ว” มู่เฉียนซีสั่งเสียงกร้าว

ซวนหยวนหลี่เทียนกัดฟัน ในใจมีความไม่พอใจอัดแน่นอยู่มากมาย ท้ายที่สุดก็จำต้องลงชื่อในสัญญาหนี้นี้

มู่เฉียนซีเก็บสัญญาใบนั้นไว้ เงินค่ารถม้าคันใหม่ของนางได้รับถึงมือแล้ว  สำหรับนาง แม้ว่าตระกูลมู่จะไม่ขาดแคลนเงิน แต่มีคนมาเสนอเงินจำนวนมากให้ถึงหน้าประตู ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี อย่างไรก็ต้องรับไว้

“มู่เฉียนซี ตอนนี้เจ้าจะปล่อยข้าไปได้แล้วหรือยัง ?”

“ตอนนี้ยัง องครักษ์อารักขาวังหลวงพวกนี้แต่ละคนดุดันน่ากลัว ทำให้ข้าหวาดกลัวไปหมดแล้ว คงต้องรบกวนหลี่อ๋องส่งข้าเข้าวังเสียหน่อย” กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็จับตัวหลี่อ๋องเข้าไปในพระราชวังทั้งแบบนี้ กลุ่มคนด้านหลังก็ตามเข้าไป ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร

ชีวิตของท่านหลี่อ๋องอยู่ในกำมือของมู่เฉียนซี โอวหยางสือหลงอยากจะลงมือสั่งสอนนางเต็มแก่ แต่ก็ทำอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองดูนาง

สถานที่จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันเทศกาลจื่อหยวน จัดที่ตำหนักจื่อจีในวังหลวงจื่อเยี่ย

เหล่าขุนนางที่ถูกเชิญมา ผู้นำจากตระกูลต่าง ๆ ก็ล้วนมาถึงกันหมดแล้ว แม้แต่ฮ่องเต้ของแคว้นจื่อเยี่ย ซวนหยวนจือก็นั่งลงบนบัลลังก์แล้ว

ถึงแม้วัยเขาจะล่วงเลยมาห้าสิบกว่า แต่ดูจากรูปหน้ายังพอมองเห็นได้ว่าตอนยังหนุ่มหล่อเหลาคมคายยิ่งนัก  ยิ่งวันนี้ ชุดเสื้อคลุมมังกรสีทองทำให้เขาดูน่าเกรงขามขึ้นมาก

เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงเหล่าผู้นำตระกูลทั้งหลายที่นั่งอยู่ต่างตะลึงอึ้งมอง เอ่ยถามกัน

“เด็กพวกนั้นมัวทำอะไรกันอยู่ ? เหตุใดยังไม่เห็นมา หากช้ากว่านี้สักนิดก็สายแล้ว”

ถ้าไม่มีใครมาสักคนดูเป็นเรื่องปกติ แต่นี่ นอกจากลูกหลานตระกูลโอวหยางแล้ว คนอื่น ๆ ก็ยังไม่มีใครมา ทำให้รู้สึกไม่ใช่เรื่องปกติ

ในตอนนี้เองที่มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา ลูกหลานของแต่ละตระกูลต่างเข้าไปนั่งข้างผู้ใหญ่ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

มันไม่มีพิธีการอะไร วันนี้เกิดเรื่องที่ทำให้พวกเขาตื่นตระหนก ใจของพวกเขารับไม่ไหว ต้องการท่านพ่อและผู้ใหญ่ทั้งหลายปลอบประโลม  พวกเขาแต่ละคนทำหน้าตาแปลกประหลาดขณะมองดูกัน

“ตกลงเกิดเหตุการณ์อะไรกันขึ้น ?”

ตอนนี้ที่เงาสามคนปรากฏกายยังกลางตำหนักจื่อจี  มู่เฉียนซีกับหลี่อ๋องปรากฏตัวพร้อมกัน เดินเข้ามาพร้อม ๆ กัน

แต่ไม่น่าประหลาดใจ เพราะเมื่อก่อนมู่เฉียนซีชอบตามติดหลี่อ๋องเช่นนี้อยู่เป็นทุนเดิม …ทว่าตอนนี้ สถานการณ์มันไม่ถูกต้อง  เพราะว่ามู่เฉียนซีนำวัตถุแหลมคมที่ดูอันตรายกดไว้ที่คอของหลี่อ๋อง ข้างกายนางยังมีเยวี่ยเจ๋อที่ร่างกายแข็งแรงคอยปกป้องนางจากรอบนอก

ที่นอกตำหนักใหญ่ มีทหารองครักษ์รักษาพระราชวังสามร้อยนายยืนอยู่ พวกเขามีฐานะไม่สูง เมื่อไม่มีคำสั่งของฮ่องเต้ ก็ไม่สามารถเข้ามาในตำหนักได้

เมื่อเห็นมู่เฉียนซี ฮ่องเต้แคว้นจื่อเยี่ยนี้ สายตาก็พลันเป็นประกายฉายแววความซับซ้อน ยิ้มกล่าวขึ้นมา “เทียนเอ๋อร์ ซีเอ๋อร์ พวกเจ้าทำอะไรกัน ?”

มู่เฉียนซีขยับมือนิดหน่อย เข็มยาที่ไว้ฆ่านั้นก็ถูกนางเก็บไว้

หลังจากนั้น มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น หน้าตาไร้เดียงสามิรู้หนาวรู้ร้อน “ฝ่าบาท ข้ากับหลี่อ๋องเพียงแค่หยอกล้อกันเล่น ๆ”

กล่าวเช่นนั้นออกไป มู่เฉียนซีรีบแสดงอาการไร้เดียงสาออกมา

“แค่ก ๆ ๆ” คนในที่นี้มีจำนวนไม่น้อยที่ฟังคำพูดของมู่เฉียนซีก็เกิดอาการสำลักขึ้นมาไม่หยุด อันที่จริง พวกเขาหยุดไม่ได้ นี่มันจะเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว

พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร ท่านผู้นำตระกูลมู่ ท่านมีความสามารถในการพูดผิดให้เป็นถูกเช่นนี้ คงฝึกฝนจนถึงระดับสูงแล้ว

ซวนหยวนหลี่เทียนที่เพิ่งได้รับอิสระ ใบหน้าของเขาก็แทบจะเป็นสีเขียว หยอกล้อรึ ? เขาเกือบจะตายด้วยน้ำมือของนางที่หยอกเล่น นางยังกล้าพูดออกมาได้

มู่หรูอวิ๋นที่อยู่ข้างกายซวนหยวนหลี่เทียนไม่ยินยอมปล่อยโอกาสที่จะทำให้มู่เฉียนซีดูย่ำแย่ให้พลาดไป นางกล่าวด้วยสีหน้าท่าทางประหนึ่งปวดร้าวจิตใจเหลือแสน “ซีเอ๋อร์ เจ้าจะหลอกลวงฮ่องเต้อย่างนั้นได้อย่างไร แท้จริงแล้วเจ้า…”

“เยี่ยอ๋องเสด็จมาถึง…”

ยังไม่ทันที่มู่หรูอวิ๋นจะพูดฟ้องร้องจบ ก็มีน้ำเสียงแสบแก้วหูดังแทรกขึ้นมา

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด