ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 440 ขายรูปร่างหน้าตา

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 440 ขายรูปร่างหน้าตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีมีท่าทางจะปล่อยเขาไป องค์ชายใหญ่ก็กล่าวขึ้นอย่างดีอกดีใจว่า “ใช่ ๆ จะให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น” มู่เฉียนซีกล่าว “ก็ดี งั้นเจ้าเก็บกระบี่ของอวิ๋นฉีขึ้นมาสิ” องค์ชายใหญ่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดมู่เฉียนซีถึงให้เขาเก็บกระบี่คนตายขึ้นมา แต่สุดท้ายเขาก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง และเขาก็ยื่นกระบี่ชั้นดีเล่มนั้นให้กับมู่เฉียนซี “แม่นางมู่ นี่! ” ร่างชุดม่วงเคลื่อนไหว มู่เฉียนซีรับกระบี่มา จากนั้นคมปลายกระบี่ก็เสียบทะลุหัวใจขององค์ชายใหญ่ องค์ชายใหญ่เบิกตากว้างและกล่าวว่า “เจ้า ไหนเจ้าบอกว่าจะปล่อยข้าไปไง? ” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าทำ ก็คือให้เจ้าตาย เจ้าคงไม่คิดว่าการเก็บกระบี่เล่มนึงขึ้นมามันจะง่ายดายขนาดนั้นหรอก! ” “การที่เจ้าตายไป นั่นก็หมายความว่าข้าได้ปล่อยเจ้าไปแล้ว ข้าคงจะไม่สามารถสร้างความรำคาญใจให้กับคนตายได้ จริงไหมล่ะ? ” พรวดดด! ก่อนจะหมดลมหายใจสุดท้าย องค์ชายใหญ่กระอักเลือดคำโตออกมาด้วยความโกรธแค้น มู่เฉียนซีรีบเอียงหลบเพื่อไม่ให้เลือดขององค์ชายใหญ่เปื้อนอาภรณ์ของนาง ตุบ! นางโยนร่างขององค์ชายใหญ่ไปไว้ข้าง ๆ ร่างของอวิ๋นฉี จากนั้นก็เริ่มจัดฉากการสังหารในครั้งนี้ หลังจากที่ถูกมู่เฉียนซีจัดการเสร็จ การจัดฉากการสังหารในครั้งนี้ก็กลายเป็นว่า องค์ชายใหญ่กับอวิ๋นฉีได้แย่งชิงซือหม่าเจียวกัน สุดท้ายตกลงกันไม่สำเร็จ ทั้งสองฝ่ายจึงได้ลงมือต่อสู้กันจนเสียชีวิต แม้แต่ซือหม่าเจียวก็ไม่รอด มู่หรงรุ่ยเห็นฝีมือของมู่เฉียนซีก็อุทานขึ้นด้วยความตะลึงว่า “ปราดเปรื่อง! พี่ใหญ่ช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก ทำเช่นนี้ก็ไม่มีใครสืบสาวถึงเราได้ เพียงแต่ราชวงศ์หนานเถิงต้องซวยแน่แล้ว” มู่เฉียนซีตบมือก่อนจะกล่าวว่า “ราชวงศ์หนานเถิงอยากจบเห่ก็ได้จบเห่สมใจ หาเรื่องใส่ตัวเองแท้ ๆ” มู่หรงรุ่ยชื่นชมเลื่อมใสมู่เฉียนซีเป็นอย่างมาก “ถึงอย่างไรเสีย ราชวงศ์หนานเถิงก็ไม่ใช่คนดีอะไร ก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้ก็มาก ได้รับการสั่งสอนซะบ้างก็ดี” มู่เฉียนซีกล่าว “ไปเถอะ! ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำในแคว้นเฉียนเซี่ย” มู่หรงรุ่ยกล่าว “พี่ใหญ่ ข้าเข้าใจแล้ว” ในระหว่างที่มู่เฉียนซีเดินทางไปยังแคว้นเฉียนเซี่ย ทางด้านแคว้นหนานเถิงก็เกิดเรื่องใหญ่สะท้านแผ่นดินขึ้น หัวหน้าศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักตายไปแล้วก็ช่าง แต่นี่ศิษย์ผู้ที่เป็นความภาคภูมิใจของผู้อาวุโสเจ็ดโดนองค์ชายใหญ่ฆ่าตายไปอีกคน ด้วยเหตุนี้ทำให้สำนักอวิ๋นเยียนได้ออกคำสั่งให้สังหารราชวงศ์หนานเถิงทุกคน ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว และแคว้นหนานเถิงกำลังจะเปลี่ยนราชวงศ์อีกครั้ง ตลอดระยะเวลานับพันปีที่ผ่านมา สำนักนิกายระดับหนึ่งอย่างสำนักอวิ๋นเยียนได้กระทำเรื่องเปลี่ยนแปลงราชวงศ์มาหลายครั้งหลายคราแล้ว นี่แสดงให้เห็นถึงอำนาจของสำนักอวิ๋นเยียนในเซี่ยโจว ฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานเถิงตะโกนขอร้องวิงวอน “ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย! ไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้ารู้ความลับอันยิ่งใหญ่ในเซี่ยโจว หากผู้อาวุโสเก้าไม่ฆ่าข้า ข้าจะบอกความลับให้ ความลับนี้ แม้กระทั่งอวิ๋นฮวาข้าก็ไม่เคยบอกให้เขารู้เลย” คำพูดนี้ทำให้ผู้อาวุโสเก้าสนใจเล็กน้อย เขากล่าวถามว่า “ความลับที่เจ้าว่านั้น คือความลับอะไร? ” แคว้นหนานเถิงอยู่ใกล้กับเทือกเขาชีชง ดังนั้นจึงได้เปรียบกว่าผู้อื่น อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเผ่าเทพหนานอู้ ดังนั้นจึงกุมความลับอันยิ่งใหญ่ที่หลาย ๆ คนไม่รู้เหล่านั้นเอาไว้ ไม่แปลกเลย…… มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าการกระทำนี้ของตนเองจะทำให้ราชวงศ์หนานเถิงตกอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง จากนั้นก็คายความลับอันยิ่งใหญ่ของเซี่ยโจวออกมา แผ่นดินเซี่ยโจวกำลังจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น และดูเหมือนว่าจะไม่สงบอีกต่อไปแล้ว สาเหตุที่มู่เฉียนซีมาแคว้นเฉียนเซี่ย ไม่เพียงแต่จะมาตามหาข่าวของดอกเก้าพิฆาตลึกลับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมาสร้างอำนาจของตระกูลมู่ในทางตอนกลางของเซี่ยโจวอีกด้วย ทางตะวันตกของเซี่ยโจวตอนนี้ได้สงบลงแล้ว ไม่มีกองกำลังใดกล้าคุกคามต่อตระกูลมู่ได้ ต่อไปตระกูลมู่จะหยั่งรากในทางตอนกลางของเซี่ยโจว จากนั้นก็จะท้าทายกับสำนักอวิ๋นเยียน และทั้งหมดนี้ก็ต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนที่งานวันเกิดของอวิ๋นเฟิ้งจะมาถึง การสร้างอำนาจที่ท้าทายกับสำนักอวิ๋นเยียนให้ได้ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ในสายตาของคนอื่น ๆ นั้นล้วนแต่มองว่าเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันทั้งสิ้น ทว่า สำหรับมู่เฉียนซีแล้วนางมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก นางมีความมั่งคั่งทั้งในเรื่องของยาวิญญาณและทรัพย์สินเงินทอง อีกทั้งยังมีทักษะการปรุงยาที่แข็งแกร่ง นางไม่เชื่อเด็ดขาดว่าภายในเวลาสองเดือนนี้ นางจะสร้างอำนาจท้าทายสำนักอวิ๋นเยียนไม่ได้ โลกนี้ไม่มีอะไรยากเกินไปหากคนเรามีความตั้งใจ ในขณะที่มู่หรงรุ่ยได้รู้ว่ามู่เฉียนซีกำลังจะก่อตั้งหอหมอปีศาจในเมืองเซี่ยตู ร่างกายของนางก็เดือดดาลเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ก่อนหน้านี้นางใช้ชีวิตอยู่กับเหล่าผู้อาวุโสในกลุ่มพันธมิตรทุก ๆ วัน แต่ละวันก็หมกมุ่นอยู่แต่กับการปรุงยา ไม่เคยได้เจอเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อนเลย! พรสวรรค์ในการปรุงยาของมู่หรงรุ่ยนั้นไม่เลวเลย เนื่องจากสถานะของนางเป็นถึงอัจฉริยะนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งแคว้นหนานเถิงจึงทำให้นางมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของผู้คนอยู่บ้าง ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงตัดสินใจเลือกนาง “แต่เราเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีล่ะ? ” มู่หรงรุ่ยกล่าวถาม มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อย “อืมมม! ที่นี่คือเซี่ยตู เป็นเมืองหลวงของแคว้นเฉียนเซี่ย ไม่ใช่ถิ่นทุรกันดาร ก้าวแรกจะเดินยากหน่อย ตอนนี้เราก็มีเวลาจำกัด ดังนั้นต้องหาคนช่วย เจ้าอยู่รอข่าวที่โรงเตี๊ยมก็พอ” ในเมื่อมู่เฉียนซีกล่าวเช่นนี้แล้ว นางจึงทำได้เพียงแค่รอ ไม่ได้เปล่งเสียงใดใดออกมา มู่เฉียนซีวางแผนจะใช้รูปร่างหน้าตาของหมอปีศาจมู่ซีเพื่อไปหาใครบางคน นานแล้วที่ไม่ได้แปลงร่างเป็นอาถิง นางมองไปที่รูปร่างหน้าตางดงามของชายในกระจกนั้นและพึมพำขึ้นว่า “รูปร่างหน้าตาอาถิงนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ” อาถิงที่อยู่ในมิติก็ส่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจทันทีว่า “เจ้าบ้า! นี่เจ้าจะขายรูปร่างหน้าตาของข้าอีกแล้วเหรอ” มู่เฉียนซีกล่าว “หากข้าจะขายรูปร่างหน้าตาของเจ้า ข้าว่าข้าเปลื้องเสื้อผ้าบนร่างออกทั้งหมดแล้วโยนร่างของเจ้าไปนอนบนเตียงของน่าหลานก็ดีเหมือนกันนะ ข้าคิดว่าหมอปีศาจน่าจะสยบคนได้” “เจ้ากล้าเหรอ! ” อาถิงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวจนใบหน้าแดงก่ำ “เจ้านี่ไร้ยางอายจริง ๆ เลย! ” มู่เฉียนซียิ้มอย่างสุภาพอ่อนหวาน “ขอบคุณสำหรับคำชม! ” มู่เฉียนซีคลุมชุดคลุมดำอีกชั้นเพื่อบดบังใบหน้า จากนั้นนางก็ออกจากโรงเตี๊ยมไปยังบ้านประมูลอันดับหนึ่ง เมื่อมาถึงประตูบ้านประมูลอันดับหนึ่ง องครักษ์คนหนึ่งเห็นชายแปลกหน้าชุดดำคนหนึ่งก็ตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเขาถามขึ้นว่า “ไม่ทราบคุณชายมาหาใครขอรับ? ” “ข้ามาหาน่าหลานอวี้! ” มู่เฉียนซีตอบ “รอประเดี๋ยวขอรับ ข้าน้อยจะไปแจ้งเดี๋ยวนี้! ” ในขณะที่องครักษ์ผู้นั้นกำลังจะไปแจ้งให้น่าหลานอวี้ทราบเรื่อง แต่ทันใดนั้นคนผู้หนึ่งก็พรวดพราดเข้ามาและกล่าวอย่างดุดันว่า “นี่พวกเจ้าเป็นลูกน้องที่ไร้สมองกันรึไงห๊ะ! ไม่ว่าใครมาหาพี่น่าหลาน พวกเจ้าก็ไปแจ้งพี่น่าหลานทันที หากคนผู้นั้นเป็นพวกสุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์วางแผนจะมาฆ่าพี่น่าหลาน พวกเจ้าจะทำยังไง? ” เจ้าของเสียงผู้นี้สวมชุดสีแดงยาว ดวงตาราวกับไฟที่ลุกโชนจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี เพื่ออยากจะมองให้ชัดว่าภายใต้ชุดดำผู้นี้เป็นชายหรือเป็นหญิงกันแน่? เมื่อโดนคุณหนูใหญ่ตวนมู่ดุด่ากล่าวว่าเช่นนี้ องครักษ์ผู้นั้นก็ไม่รู้จะทำเช่นไรเหมือนกัน! คนตรงหน้าผู้นี้ก็มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน! มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าไปบอกน่าหลานอวี้ว่า ข้า มู่ซีมาหาเขาแล้ว” “มู่ซี……” องครักษ์ผู้นั้นกำลังจะไปแจ้งให้น่าหลานอวี้ทราบ แต่ก็โดนคุณหนูใหญ่ตวนมู่ขวางเอาไว้ก่อน “ไปบอกพี่น่าหลานไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ! ” หลังจากที่ห้ามองครักษ์ผู้นั้นได้แล้ว คุณหนูใหญ่ตวนมู่ก็ชี้นิ้วไปที่มู่เฉียนซี และกล่าวว่า “เจ้าไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ไสหัวไปให้ไกลจากบ้านประมูลอันดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นข้าจะสั่งสอนเจ้าแน่! ”

เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีมีท่าทางจะปล่อยเขาไป องค์ชายใหญ่ก็กล่าวขึ้นอย่างดีอกดีใจว่า “ใช่ ๆ จะให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

มู่เฉียนซีกล่าว “ก็ดี งั้นเจ้าเก็บกระบี่ของอวิ๋นฉีขึ้นมาสิ”

องค์ชายใหญ่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดมู่เฉียนซีถึงให้เขาเก็บกระบี่คนตายขึ้นมา แต่สุดท้ายเขาก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง และเขาก็ยื่นกระบี่ชั้นดีเล่มนั้นให้กับมู่เฉียนซี

“แม่นางมู่ นี่! ”

ร่างชุดม่วงเคลื่อนไหว มู่เฉียนซีรับกระบี่มา จากนั้นคมปลายกระบี่ก็เสียบทะลุหัวใจขององค์ชายใหญ่

องค์ชายใหญ่เบิกตากว้างและกล่าวว่า “เจ้า ไหนเจ้าบอกว่าจะปล่อยข้าไปไง? ”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าทำ ก็คือให้เจ้าตาย เจ้าคงไม่คิดว่าการเก็บกระบี่เล่มนึงขึ้นมามันจะง่ายดายขนาดนั้นหรอก! ”

“การที่เจ้าตายไป นั่นก็หมายความว่าข้าได้ปล่อยเจ้าไปแล้ว ข้าคงจะไม่สามารถสร้างความรำคาญใจให้กับคนตายได้ จริงไหมล่ะ? ”

พรวดดด!

ก่อนจะหมดลมหายใจสุดท้าย องค์ชายใหญ่กระอักเลือดคำโตออกมาด้วยความโกรธแค้น

มู่เฉียนซีรีบเอียงหลบเพื่อไม่ให้เลือดขององค์ชายใหญ่เปื้อนอาภรณ์ของนาง

ตุบ!

นางโยนร่างขององค์ชายใหญ่ไปไว้ข้าง ๆ ร่างของอวิ๋นฉี จากนั้นก็เริ่มจัดฉากการสังหารในครั้งนี้

หลังจากที่ถูกมู่เฉียนซีจัดการเสร็จ การจัดฉากการสังหารในครั้งนี้ก็กลายเป็นว่า องค์ชายใหญ่กับอวิ๋นฉีได้แย่งชิงซือหม่าเจียวกัน สุดท้ายตกลงกันไม่สำเร็จ ทั้งสองฝ่ายจึงได้ลงมือต่อสู้กันจนเสียชีวิต แม้แต่ซือหม่าเจียวก็ไม่รอด

มู่หรงรุ่ยเห็นฝีมือของมู่เฉียนซีก็อุทานขึ้นด้วยความตะลึงว่า “ปราดเปรื่อง! พี่ใหญ่ช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก ทำเช่นนี้ก็ไม่มีใครสืบสาวถึงเราได้ เพียงแต่ราชวงศ์หนานเถิงต้องซวยแน่แล้ว”

มู่เฉียนซีตบมือก่อนจะกล่าวว่า “ราชวงศ์หนานเถิงอยากจบเห่ก็ได้จบเห่สมใจ หาเรื่องใส่ตัวเองแท้ ๆ”

มู่หรงรุ่ยชื่นชมเลื่อมใสมู่เฉียนซีเป็นอย่างมาก “ถึงอย่างไรเสีย ราชวงศ์หนานเถิงก็ไม่ใช่คนดีอะไร ก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้ก็มาก ได้รับการสั่งสอนซะบ้างก็ดี”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไปเถอะ! ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำในแคว้นเฉียนเซี่ย”

มู่หรงรุ่ยกล่าว “พี่ใหญ่ ข้าเข้าใจแล้ว”

ในระหว่างที่มู่เฉียนซีเดินทางไปยังแคว้นเฉียนเซี่ย ทางด้านแคว้นหนานเถิงก็เกิดเรื่องใหญ่สะท้านแผ่นดินขึ้น หัวหน้าศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักตายไปแล้วก็ช่าง แต่นี่ศิษย์ผู้ที่เป็นความภาคภูมิใจของผู้อาวุโสเจ็ดโดนองค์ชายใหญ่ฆ่าตายไปอีกคน ด้วยเหตุนี้ทำให้สำนักอวิ๋นเยียนได้ออกคำสั่งให้สังหารราชวงศ์หนานเถิงทุกคน ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว

และแคว้นหนานเถิงกำลังจะเปลี่ยนราชวงศ์อีกครั้ง ตลอดระยะเวลานับพันปีที่ผ่านมา สำนักนิกายระดับหนึ่งอย่างสำนักอวิ๋นเยียนได้กระทำเรื่องเปลี่ยนแปลงราชวงศ์มาหลายครั้งหลายคราแล้ว นี่แสดงให้เห็นถึงอำนาจของสำนักอวิ๋นเยียนในเซี่ยโจว

ฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานเถิงตะโกนขอร้องวิงวอน “ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย! ไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้ารู้ความลับอันยิ่งใหญ่ในเซี่ยโจว หากผู้อาวุโสเก้าไม่ฆ่าข้า ข้าจะบอกความลับให้ ความลับนี้ แม้กระทั่งอวิ๋นฮวาข้าก็ไม่เคยบอกให้เขารู้เลย”

คำพูดนี้ทำให้ผู้อาวุโสเก้าสนใจเล็กน้อย เขากล่าวถามว่า “ความลับที่เจ้าว่านั้น คือความลับอะไร? ”

แคว้นหนานเถิงอยู่ใกล้กับเทือกเขาชีชง ดังนั้นจึงได้เปรียบกว่าผู้อื่น อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเผ่าเทพหนานอู้ ดังนั้นจึงกุมความลับอันยิ่งใหญ่ที่หลาย ๆ คนไม่รู้เหล่านั้นเอาไว้ ไม่แปลกเลย……

มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าการกระทำนี้ของตนเองจะทำให้ราชวงศ์หนานเถิงตกอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง จากนั้นก็คายความลับอันยิ่งใหญ่ของเซี่ยโจวออกมา

แผ่นดินเซี่ยโจวกำลังจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น และดูเหมือนว่าจะไม่สงบอีกต่อไปแล้ว

สาเหตุที่มู่เฉียนซีมาแคว้นเฉียนเซี่ย ไม่เพียงแต่จะมาตามหาข่าวของดอกเก้าพิฆาตลึกลับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมาสร้างอำนาจของตระกูลมู่ในทางตอนกลางของเซี่ยโจวอีกด้วย

ทางตะวันตกของเซี่ยโจวตอนนี้ได้สงบลงแล้ว ไม่มีกองกำลังใดกล้าคุกคามต่อตระกูลมู่ได้ ต่อไปตระกูลมู่จะหยั่งรากในทางตอนกลางของเซี่ยโจว จากนั้นก็จะท้าทายกับสำนักอวิ๋นเยียน และทั้งหมดนี้ก็ต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนที่งานวันเกิดของอวิ๋นเฟิ้งจะมาถึง

การสร้างอำนาจที่ท้าทายกับสำนักอวิ๋นเยียนให้ได้ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ในสายตาของคนอื่น ๆ นั้นล้วนแต่มองว่าเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันทั้งสิ้น

ทว่า สำหรับมู่เฉียนซีแล้วนางมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก นางมีความมั่งคั่งทั้งในเรื่องของยาวิญญาณและทรัพย์สินเงินทอง อีกทั้งยังมีทักษะการปรุงยาที่แข็งแกร่ง นางไม่เชื่อเด็ดขาดว่าภายในเวลาสองเดือนนี้ นางจะสร้างอำนาจท้าทายสำนักอวิ๋นเยียนไม่ได้

โลกนี้ไม่มีอะไรยากเกินไปหากคนเรามีความตั้งใจ ในขณะที่มู่หรงรุ่ยได้รู้ว่ามู่เฉียนซีกำลังจะก่อตั้งหอหมอปีศาจในเมืองเซี่ยตู ร่างกายของนางก็เดือดดาลเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

ก่อนหน้านี้นางใช้ชีวิตอยู่กับเหล่าผู้อาวุโสในกลุ่มพันธมิตรทุก ๆ วัน แต่ละวันก็หมกมุ่นอยู่แต่กับการปรุงยา ไม่เคยได้เจอเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อนเลย!

พรสวรรค์ในการปรุงยาของมู่หรงรุ่ยนั้นไม่เลวเลย เนื่องจากสถานะของนางเป็นถึงอัจฉริยะนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งแคว้นหนานเถิงจึงทำให้นางมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของผู้คนอยู่บ้าง ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงตัดสินใจเลือกนาง

“แต่เราเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีล่ะ? ” มู่หรงรุ่ยกล่าวถาม

มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อย “อืมมม! ที่นี่คือเซี่ยตู เป็นเมืองหลวงของแคว้นเฉียนเซี่ย ไม่ใช่ถิ่นทุรกันดาร ก้าวแรกจะเดินยากหน่อย ตอนนี้เราก็มีเวลาจำกัด ดังนั้นต้องหาคนช่วย เจ้าอยู่รอข่าวที่โรงเตี๊ยมก็พอ”

ในเมื่อมู่เฉียนซีกล่าวเช่นนี้แล้ว นางจึงทำได้เพียงแค่รอ ไม่ได้เปล่งเสียงใดใดออกมา

มู่เฉียนซีวางแผนจะใช้รูปร่างหน้าตาของหมอปีศาจมู่ซีเพื่อไปหาใครบางคน นานแล้วที่ไม่ได้แปลงร่างเป็นอาถิง นางมองไปที่รูปร่างหน้าตางดงามของชายในกระจกนั้นและพึมพำขึ้นว่า “รูปร่างหน้าตาอาถิงนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”

อาถิงที่อยู่ในมิติก็ส่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจทันทีว่า “เจ้าบ้า! นี่เจ้าจะขายรูปร่างหน้าตาของข้าอีกแล้วเหรอ”

มู่เฉียนซีกล่าว “หากข้าจะขายรูปร่างหน้าตาของเจ้า ข้าว่าข้าเปลื้องเสื้อผ้าบนร่างออกทั้งหมดแล้วโยนร่างของเจ้าไปนอนบนเตียงของน่าหลานก็ดีเหมือนกันนะ ข้าคิดว่าหมอปีศาจน่าจะสยบคนได้”

“เจ้ากล้าเหรอ! ” อาถิงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวจนใบหน้าแดงก่ำ

“เจ้านี่ไร้ยางอายจริง ๆ เลย! ”

มู่เฉียนซียิ้มอย่างสุภาพอ่อนหวาน “ขอบคุณสำหรับคำชม! ”

มู่เฉียนซีคลุมชุดคลุมดำอีกชั้นเพื่อบดบังใบหน้า จากนั้นนางก็ออกจากโรงเตี๊ยมไปยังบ้านประมูลอันดับหนึ่ง

เมื่อมาถึงประตูบ้านประมูลอันดับหนึ่ง องครักษ์คนหนึ่งเห็นชายแปลกหน้าชุดดำคนหนึ่งก็ตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเขาถามขึ้นว่า “ไม่ทราบคุณชายมาหาใครขอรับ? ”

“ข้ามาหาน่าหลานอวี้! ” มู่เฉียนซีตอบ

“รอประเดี๋ยวขอรับ ข้าน้อยจะไปแจ้งเดี๋ยวนี้! ” ในขณะที่องครักษ์ผู้นั้นกำลังจะไปแจ้งให้น่าหลานอวี้ทราบเรื่อง แต่ทันใดนั้นคนผู้หนึ่งก็พรวดพราดเข้ามาและกล่าวอย่างดุดันว่า “นี่พวกเจ้าเป็นลูกน้องที่ไร้สมองกันรึไงห๊ะ! ไม่ว่าใครมาหาพี่น่าหลาน พวกเจ้าก็ไปแจ้งพี่น่าหลานทันที หากคนผู้นั้นเป็นพวกสุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์วางแผนจะมาฆ่าพี่น่าหลาน พวกเจ้าจะทำยังไง? ”

เจ้าของเสียงผู้นี้สวมชุดสีแดงยาว ดวงตาราวกับไฟที่ลุกโชนจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี เพื่ออยากจะมองให้ชัดว่าภายใต้ชุดดำผู้นี้เป็นชายหรือเป็นหญิงกันแน่?

เมื่อโดนคุณหนูใหญ่ตวนมู่ดุด่ากล่าวว่าเช่นนี้ องครักษ์ผู้นั้นก็ไม่รู้จะทำเช่นไรเหมือนกัน!

คนตรงหน้าผู้นี้ก็มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน!

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าไปบอกน่าหลานอวี้ว่า ข้า มู่ซีมาหาเขาแล้ว”

“มู่ซี……” องครักษ์ผู้นั้นกำลังจะไปแจ้งให้น่าหลานอวี้ทราบ แต่ก็โดนคุณหนูใหญ่ตวนมู่ขวางเอาไว้ก่อน “ไปบอกพี่น่าหลานไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ! ”

หลังจากที่ห้ามองครักษ์ผู้นั้นได้แล้ว คุณหนูใหญ่ตวนมู่ก็ชี้นิ้วไปที่มู่เฉียนซี และกล่าวว่า “เจ้าไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ไสหัวไปให้ไกลจากบ้านประมูลอันดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นข้าจะสั่งสอนเจ้าแน่! ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด